สวัสดี java108 ชาวดาวแอสทร้า..

ทำไมต้องคิดด้วยเหรอ?
ผมก็ทำหน้าที่ของผมไป


เท่านี้เอง ง่ายๆ

 

​

ปัดขาตัวเอง เว้ยเห้ย..!!

java ช่วยล่วย...ช่วยล่วย java..!!

 

เราไม่ได้เลือกตัวตนให้เขา
แต่ "เขาเลือกที่จะเป็นเอง"

 

ถ้าตามอ่านๆมาตั้งแต่แรกพวกนี้เขาก็เป็นอย่างนี้มาตั้งแต่แรกๆแล้วครับ ไปๆมาๆจะสะดุดขัดๆกันเอง :boo:

 

ทุกข์ต่างหากที่ควรพิจารณาให้เป็น ..

เพราะ ความทุกข์เป็นสัจธรรมที่ทุกคนจะต้องประสบ
และการพ้นและดับทุกข์อย่างสิ้นเชิงจึงเป็นเป้าหมายของพระอริยเจ้า

กิเลส ตัณหา ซึ่งเป็นเหตุของทุกข์อย่างหนึ่ง ไม่ใช่ของดี
แต่หากจะดับทุกข์ถาวร ต้องดับสิ่งเหล่านี้ด้วย
ซึ่งไม่ใช่การนำไปใช้

 

คุณใช้คำหยาบปรามาสดูหมิ่นผู้อื่นก่อนและดูหมิ่นความเป็นคน ดูหมิ่นในทำนองว่า หลงงมงาย การฝังชิพไม่มีจริง
พอผมท้าให้คุณพิสูจน์ในสิ่งที่คุณปรามาส คุณกลับหลบเลี่ยงด้วยการอ้างธรรมะในพระพุทธศาสนา เรื่องการละสมมุติ และเรื่องสัมภเวสี

ผมยังเป็นปุถุชนคนธรรมดา ยังไม่เก่ง ยังมีภูมิธรรมน้อย ยังไม่คิดไกลไปถึงขั้นการละสมมุตเพื่อเข้าสู่วิมุตหรอก
แต่ก็พอรู้เล็ก ๆ น้อย ๆ ว่า สมมุตคืออะไร และเพราะเหตุใดจึงต้องมีสมมุต
พอรู้ว่า จักรวาลทั้งหมดก็เป็นของสมมุต
พอรู้ว่า ของสมมุตคือของไม่จริง เพราะของจริง (แท้) ต้องไม่เสื่อมและสูญ

ผมไม่ได้ให้ความสำคัญใด ๆ กับจิตวิญญาณเหล่านั้น
เพียงแต่ต้องการเตือนสติให้คุณรู้จักระมัดระวังการใช้ถ้อยคำในการแสดงความคิดเห็นต่อผู้อื่นในที่สาธารณะ
การใช้ถ้อยคำของคุณมันสวนทางกับธรรมะที่คุณแสดงออก
ศีลหลักร้อยยังไม่ต้องพูดถึง ศีลหลักห้ารักษาให้ได้ครบเสียก่อน

เรียนธรรม, รู้ธรรม, เห็นธรรม, เป็นธรรม
คุณล่ะอยู่ขั้นไหน ?

ประเด็นสำคัญคือห้องนี้เป็นห้องวิทยาศาสตร์ทางจิต-ลึกลับ ไม่ใช่ห้องพระพุทธศาสนา
คุณควรเข้าให้ถูกห้อง หากคุณต้องการเน้นเรื่องพระพุทธศาสนาล้วน

 

"555+ อย่าลืมบอกพวกที่มาช่วยนะ พากลับดาวด้วย เหมือนจะพากันหลงไปไกล"
"ขอบคุณครับ แต่ผมขอเดินตามคำสั่งสอน ของพระพุทธองค์ และ พระสาวก พ่อแม่ครูบาอาจารย์ใหญ่ ดีกว่าครับ"

Screamo_off
คนที่เดินตามคำสั่งสอนของพระพุทธองค์และพระสาวกคงไม่ปรามาสคนอื่นง่าย ๆ แบบนี้

 

ลองยกตัวอย่างคนที่ถูกฝังชิพ ได้หรือไม่ ว่ามีลักษณะอาการอย่างไร

ว่ามา ผมจะรับฟัง

และที่สำคัญห้องนี้ ไม่ใช่เฉพาะห้องวิทยาศาสตร์ลึกลับ ต่างดาว

อย่าลืมนะมีคำว่า "ศาสนาและปรัชญา" พ่วงท้ายรวมอยู่ด้วย

หรือจะมีเรื่องการเมืองโผล่มานิดหน่อย คงไม่ใช่ปัญหา

เมื่อวานอ่านข่าว "เผยโฉม ครม. ชุดใหม่" รู้สึกดีมั๊กๆ ต้องอย่างนั้นเท่านั้น

และที่บอกว่า "ยังมีภูมิธรรมน้อย" ก็น่าจะจริง เพราะในสิ่งที่โพสมาต่างๆ
ปุถุชนเต็มขั้น ดูไม่มีภูมิอะไรเลย

เท่าที่ลองสนทนา frozen flower ดูจะยังมีภูมิดีกว่า แม้จะสะดุดขาตนเองไปบ้าง

แต่สิ่งที่แนะนำมา เขากะลาอะไรนั้น
ถ้าเข้าใจไม่ผิดคุณคงเป็นเครือข่าย มอบแล้วคลาน ช่วงส่งท้ายปี2012

เอาน่า หากอายุก็มากแล้ว เมื่อเข้าใจว่าตนเอง เป็นปุถุชนคนธรรมดา

มันไม่สายไป สำหรับการจะละสิ่งที่เห็นผิด

แต่ให้เข้าใจไว้เถิดว่า เมื่อตนเองยังเป็นปุถุชน
การเดินตามคำสอน เพราะเมื่อกำลังหัดเดิน มันย่อมมีสิ่งผิดพลาดอยู่บ้าง ล้มลุกคลุกคลาน
ซึ่งเป็นเรื่องธรรมดา จะใสปริ๊ง มันเป็นไปไม่ได้อย่างแน่นอน

อย่าให้เสียป่าว...ในความเป็นมนุษย์ ลุง

 

OK เข้าใจๆ

เพ่งพลังมาก ระวัง แตกเต็มกางเกง ผมไม่รู้สึกด้วย นะเว้ยเห้ย

 

ทุกข์เกิดแล้วก็ดับไป
เรื่องของมัน


จะต้องตั้งไปเป้าหมายดับทุกข์ เพื่ออะไร?

 

เป้าหมายของพระอริยเจ้าไม่ใช่การดับทุกข์หรอก
เป้าหมายของคนถูกหลอกให้เป็นอริยเจ้า มีเรื่องดับทุกข์ได้


เป้าหมายที่ตั้งอยู่บนสิ่งที่ไม่เที่ยงอยู่แล้ว ก็โง่ดิ?

 

เก่งนะเนี่ย รู้ว่าปิดกระทู้การเมืองหนี กล่าวหาได้ทุกเรื่อง
..กระทู้ทิพย์มาลาใช่เปล่า? จะไปปิดกระทู้เขาได้ไงล่ะ คราวก่อนก็หาว่าเจ๊เป็นทิพย์มาลาซะงั้น
..เจ๊ว่าเจโตของพวกมะนาวนี่ห่วยพอๆกะการสื่อสารอะนะ
เรื่องการเมืองไม่เคยหนีใคร ..นั่นแค่เพิ่งออกของด้วยซ้ำ ใครมาปิดไม่รู้เนอะ

แต่กระทู้นี้ ของเจ๊เอง ไม่รู้ใครเนอะ ทั้ง pm ทั้งบอกในกระทู้นี้ และกระทู้อื่น ให้ปิด แต่เจ๊ไม่ปิด..อิอิ.. แบบว่า อยากหน้าแตกมากๆอะนะ

แต่จาวา ถอนชิพให้พวกถูกพลังงานแฝงยังไงเนี่ย.. ไม่เห็นมีใครเปลี่ยนแปลง..
ใครแถ ใครไม่แถ ดูง่ายจะตาย..

 

อริยเจ้า, อรหันต์, บรรลุธรรม อะไร
ก็เป็นแค่ "กุศโลบาย" หลอกเด็กให้
ปฏิบัติธรรม เท่านั้นเอง


ไม่ใช่ตัวตนแท้เที่ยงอันใดให้ยึดถือเลย

 

ไม่มีไร อยากใช้ภาพเนี๊ยะ..

 

เป้าหมายในการปฏิบัติทางจิตนั้น แท้แล้วเป็นเพียงกุศโลบายหลอกล่อ หาใช่เป้าหมายที่แท้จริงไม่ เพราะการปฏิบัติทางจิตที่ยังยึดติดเป้าหมายอยู่ คือ ทำอะไรเพื่อให้ได้ผลอะไร ย่อมยึดอยู่ในวังวนแห่งเหตุและผล และไม่อาจยกระดับจิตขึ้นสู่ระดับเหนือเหตุพ้นผลได้ ดังนั้น การปฏิบัติจิตอย่างมีเป้าหมาย จึงกลายเป็นการสร้างผลลัพธ์ด้วยการก่อเหตุใดเหตุหนึ่งเรื่อยไป ไม่ใช่การหลุดพ้นจากทั้งเหตุและผล ทว่า เพราะปุถุชนมีจิตคุ้นเคยกับการกระทำที่เนื่องด้วยการมุ่งหวังผลลัพธ์ จึงต้องมีกุศโลบายหลอกล่อให้หวังผล ไปสู่เป้าหมายใดเป้าหมายหนึ่ง เท่านั้นเอง

In fact, a goal of spiritual practice is just a trick, it's not the real target. Because the mental practice which holding the goal, is to get something done. It should be only secured in a whirlpool of cause and effect. And it may not elevate the spirit and not be above the cause and effect. So, to transcendent spiritual practices by targeting, is only to create a formation of some effect from some cause. It's not to break away from the cause and effect. But a normal man familiar with it because he always used to look forward to the results. Therefore, there'll be the goal just only as the trick to get something from the spiritual practice.


https://www.facebook.com/enlighten555

 

​

 

โห.. ทำไปได้

บ้องตื้นสุดๆ

Java ช่วยดูแลพวกตัวเองด้วยนะ

 

5555 .. เค้าถึงว่า ความคิดและคำกล่าวส่อแสดงสติปัญญา

 

ความเคยชินของจิตปุถุชนที่ทำอะไรเพื่อให้ได้อะไร
เป็นเงื่อนไขซ้ำๆ ทำให้พวกเขาคิดว่าต้องก่อกรรมทำ
อะไร เพื่อให้ได้ผลอะไร ถ้าไม่ได้ผลอะไร ไม่มีเป้า
หมายอะไร ก็ไม่ทำ ย่อมไม่ต่างอะไรกับสุนัขที่น้ำลาย
ไหล ยามเมื่อได้ยินเสียงกระดิ่งเรียก ย่อมมีพฤติกรรม
อันไปเป็นตาม "เงื่อนไข" ของสิ่งเร้า สิ่งกระตุ้นเท่านั้น


ด้วยเหตุนี้ พวกเขาจึงตกเป็นทาสของระบบเงื่อนไข
ที่มี "เหตุและผล" เป็นตัวชักจูง ตัวกระตุ้น อยู่เรื่อยไป
จิตปุถุชนนั้นจึงไม่มีอิสรเสรีแท้จริง แต่เป็นเพียงทาสของ
เงื่อนไขในการก่อเหตุเพื่อหวังผล เท่านั้นเอง เมื่อพวกเขา
มาฝึกจิต พัฒนาจิตวิญญาณ ก็ยังคงเอาความเคยชินและ
ความยึดถือเดิมๆ นั้น มาด้วย เหตุนี้ กุศโลบายจึงมีเพียง
เพื่อหลอกล่อเด็กๆ ให้ปฏิบัติเท่านั้นเอง

 

เอาจริงดิ .. ไอ้เปลี่ยนชงเปลี่ยนชิป นี่

เดี๋ยวบั๊ด ตัดหัวเปลี่ยนให้ซะเลย