คนพลังจิตกับการรับมือภัยพิบัติ "อีโบล่า"

เทียบกับสัตว์อื่นๆ มนุษย์เราอ่อนแอมากๆ ลองนึกดูตั้งแต่เกิดเลย ถ้าพ่อแม่ไม่เลี้ยงดูอย่างดีคงไม่รอดแน่ แต่การเลี้ยงดูที่ดีจนเกินไป ก็เป็นสาเหตุทำให้ภูมิคุ้มกันของลูกต่ำได้ และมีแนวโน้มว่าในอนาคตวิวัฒนาการของภูมิคุ้มกันอาจลดต่ำลงเรื่อยๆ บางคนเท้าแทบไม่เคยแตะดินเลย อยู่แต่ในสถานที่ที่สะอาด พอไปเจออะไรนิดหน่อยก็แพ้มั๊ง ไม่สบายมั๊ง ความอดทนก็ต่ำ นี่คือวิวัฒนาการด้านลบของมนุษย์

.

 

องค์การอนามัยโลก ประกาศให้การระบาดของอีโบลาเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ



เมื่อวันที่ 8 สิงหาคม 2557 สำนักข่าวบีบีซี รายงานว่า องค์การอนามัยโลกประกาศให้การระบาดของเชื้ออีโบลาในแอฟริกาตะวันตก เป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ หลังมีผู้เสียชีวิตพุ่งสูงถึงเกือบ 1,000 คน และยังไม่มีหนทางที่จะยับยั้งการระบาดได้

โดยองค์การอนามัยโลก หรือ WHO ได้เปิดเผยว่า การประกาศให้การระบาดของเชื้ออีโบลาเป็นภาวะฉุกเฉินด้านสาธารณสุขระหว่างประเทศ เป็นสถานการณ์พิเศษ และเป็นเรื่องจำเป็นที่นานาชาติจะต้องร่วมมือกันยุติและยับยั้งการระบาดของเชื้ออีโบลาเท่าที่จะทำได้ เพราะตอนนี้สถานการณ์การระบาดของเชื้ออีโบลาน่าเป็นห่วงจริง ๆ อีโบลาคร่าชีวิตประชาชนในแถบแอฟริกาตะวันตกไปแล้วไม่ต่ำกว่า 930 ราย ขณะที่ตัวเลขผู้ติดเชื้อก็มีมากกว่า 1,700 ราย และมีความเสี่ยงที่จะระบาดไปยังประเทศอื่น ๆ นอกเหนือจากไลบีเรีย กินี เซียร์ราลีโอน และไนจีเรีย ได้

อย่างไรก็ดี แม้ว่าจะมีการกล่าวว่า สถานการณ์อีโบลาระบาดนั้น อยู่ในขั้นที่ไม่สามารถควบคุมได้แล้ว แต่ทางด้านนายเคจิ ฟุกุดะ ผู้อำนวยการความปลอดภัยด้านสาธารณสุขขององค์การสหประชาชาติ ได้เปิดเผยว่า เรายังคงสามารถยุติการระบาดของอีโบลาได้อยู่ เชื้อโรคนี้ไม่ใช่เชื้อไวรัสปริศนา เป็นเชื้อไวรัสที่สามารถควบคุมการระบาดได้ เนื่องจากไม่ได้ระบาดผ่านทางอากาศหายใจนั่นเอง

 

ไทยเฝ้าระวังนักท่องเที่ยวจากแอฟริกาตะวันตกกว่า 21 ราย หวั่นพาเชื้ออีโบลามาระบาดในไทย


แดง = มีผู้เสียชีวิตจากโรคแล้ว
ส้ม = มีผู้ป่วยที่กำลังรับการรักษา
เหลือง = เฝ้าระวัง
(via : WHO)

เมื่อวันที่ 6 สิงหาคม 2557 เว็บไซต์อินเทอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส ไทมส์ รายงานว่า กระทรวงสาธารณสุขไทยกำลังเฝ้าระวังนักท่องเที่ยว 21 ราย ที่เดินทางจากแอฟริกาตะวันตกเข้าไทย ด้วยความกังวลว่าอาจจะพาเชื้ออีโบลามาระบาดในไทยได้ แต่ไม่มีรายงานแน่ชัดว่า นักท่องเที่ยว 21 รายนี้ แสดงอาการบ่งชี้ว่าติดเชื้ออีโบลาหรือไม่

อินเทอร์เนชั่นแนล บิสซิเนส ไทมส์ ได้เปิดเผยอ้างคำพูดของนายแพทย์โสภณ เมฆธน อธิบดีกรมควบคุมโรค ที่ให้สัมภาษณ์กับหนังสือพิมพ์บางกอกโพสต์ ว่า นับตั้งแต่วันที่ 8 มิถุนายน ที่ผ่านมา กระทรวงสาธารณสุขได้เฝ้าระวังนักท่องเที่ยวจากแอฟริกาตะวันตก รวมแล้วกว่า 300 คนแล้ว เนื่องจากเกรงว่านักท่องเที่ยวที่เดินทางมาจากแอฟริกาตะวันตกกลุ่มนี้ จะมีเชื้อไวรัสอีโบลา ที่ระบาดใน 4 ประเทศตอนนี้ ได้แก่ เซียร์ราลีโอน กินี ไลบีเรีย และไนจีเรีย คร่าชีวิตผู้คนไปแล้วเกือบ 1,000 ราย

อย่างไรก็ดี นายแพทย์โสภณ เมฆธน ได้เปิดเผยว่า แม้ว่าความเสี่ยงอีโบลาระบาดในไทยจะอยู่ในระดับต่ำ แต่ก็ควรที่จะให้ความสำคัญในการระมัดระวังนักท่องเที่ยวที่เดินทางเข้ามาในในไทย ซึ่งตอนนี้ สายการบินต่าง ๆ รวมถึงทางสนามบินสำคัญ 5 แห่งทั่วประเทศ ก็ไม่ได้นิ่งเฉย มีการตรวจสอบนักท่องเที่ยวที่เดินทางจากประเทศเสี่ยงเป็นอย่างดี

 

The Weather Lover Club
5 ชม. ·
status ขั้นพื้นฐานโดยกรมควบคุมโรคคือ อย่าเข้าไปในที่ชุมชนแออัด ถ้าจำเป็นควรใส่หน้ากากอนามัย และรักษาความสะอาดครับ โดยประเทศไทยอยู่เขตพื้นที่สีเหลือง หมายถึง เฝ้าระวัง แต่ผู้โดยสาร 21 คนนั้นเป็นหรือไม่เป็นก็ตาม แต่ไม่ควร ( ประมาท ) นะครับ

 

...อยากร้องเพลง..."ฝากเอาไว้ ในกายเธอ"...

 

ถ้าผู้โดยสารอันตราย 21คนติดเชื้ออีโบลาแค่เพียงคนเดียว
คนทั้งลำจะรอดจากการติดเชื้อได้อย่างไรล่ะเนี่ย ??คงติดต่อกันทั้งลำนั่นแหละ
หายใจถ่ายเชื้อ กันไปมา (ไม่ได้เรียนแพทย์)ใช้แค่มโน
ยกเว้นคนที่นั่งกลั้นใจมาตั้งแต่ขึ้นเครื่อง
จนเข้ามาจอดที่สุวรรณภูมิ

 

อีโบล่าไม่ได้ติดต่อกันผ่านทางเดินหายใจหรือทางอากาศ แต่ติดต่อผ่านสารคัดหลั่ง
สรุปวิธีป้องกันแบบให้เข้าใจกันง่ายๆก็คือ คุณปฏิบัติตัวเหมือนกับคุณปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงโรคเอดส์ เพราะโรคเอดส์ติดต่อผ่านสารคัดหลั่งเช่นกัน

ที่มันระบาดที่แอฟริกาจนควบคุมไม่ได้เพราะแถบนั้นขาดน้ำสะอาด เวลามีการฝังศพก็ใช้มือเปล่าๆฝัง ผู้คนก็ขาดความรู้ เวลามีคนในครอบครัวติดโรคและร่างกายมีบาดแผลแม้เพียงเล็กน้อยอาจไปสัมผัสโดนเลือด,น้ำหนองก็ติดกันได้แล้ว หรือมีคนติดเชื้อแต่ไม่แสดงอาการมากนักเช่นวันแรกๆแล้วไปมีเพศสัมพันธ์โดยไม่สวมถุงยางอนามัย อย่างนี้ก็ติดกันได้เช่นกัน

ย้ำอีกครั้ง สรุปวิธีป้องกันแบบให้เข้าใจกันง่ายๆก็คือ คุณปฏิบัติตัวเหมือนกับคุณปฏิบัติตัวเพื่อหลีกเลี่ยงโรคเอดส์ เพราะโรคเอดส์ติดต่อผ่านสารคัดหลั่งเช่นเดียวกัน

 

เอามาจากเว็บขององค์การอนามัยโลกครับ
WHO | Ebola virus disease

Transmission

Ebola is introduced into the human population through close contact with the blood, secretions, organs or other bodily fluids of infected animals. In Africa, infection has been documented through the handling of infected chimpanzees, gorillas, fruit bats, monkeys, forest antelope and porcupines found ill or dead or in the rainforest.

Ebola then spreads in the community through human-to-human transmission, with infection resulting from direct contact (through broken skin or mucous membranes) with the blood, secretions, organs or other bodily fluids of infected people, and indirect contact with environments contaminated with such fluids. Burial ceremonies in which mourners have direct contact with the body of the deceased person can also play a role in the transmission of Ebola. Men who have recovered from the disease can still transmit the virus through their semen for up to 7 weeks after recovery from illness.

Health-care workers have frequently been infected while treating patients with suspected or confirmed EVD. This has occurred through close contact with patients when infection control precautions are not strictly practiced.

 

อันนี้เพิ่งมีการประชุมเมื่อวาน Keiji Fukuda, WHO’s head of health securityย้ำกันชัดๆว่ามันไม่ได้แพร่ทางอากาศ

http://rt.com/news/178884-ebola-africa-who-emergency/

The spread of Ebola could be stopped if infected people are dealt with properly, Keiji Fukuda, WHO’s head of health security, said.

"This is not a mysterious disease. This is an infectious disease that can be contained," he stressed. "It is not a virus that is spread through the air."

ปล.ที่เห็นใส่ชุดแบบนักบินอวกาศเพราะมันเป็นเหมือนยูนิฟอร์มของเขาเวลาต้องทำงานในพื้นที่ๆมีโรคติดต่อระดับร้ายแรง, เสี่ยงต่ออาวุธชีวภาพ, อยู่ในห้องแล็ปและทำงานเกี่ยวกับเชื้อโรค

องค์การอนามัยโลกจัดให้อีโบล่าเป็นเรื่องร้ายแรงเพราะมันยังไม่มียารักษา

 

ลองช่วยกันหาข้อมูลครับ
ผมไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่นักว่า
ไวรัสที่ปลิวมาตอนคนติดเชื้อจาม
จะไม่เป็นอันตรายต่อคนที่รับมันเข้าไป
ส่วนตัว เห็นว่าพฤติกรรมอย่างนี้แหละ
ที่จะเร่งการแพร่ระบาดให้กว้างขวางกว่าเดิม

ไม่งั้นพวกหมอคงไม่ตายกันเบืออย่างนี้
เห็นใส่ชุดปานมนุษย์อวกาศ
สงสัยกลัวจริงๆ นั่นแหละ
:boo:

 

สถานการณ์ตอนนี้
องค์การอนามัยโลกเปิดเผยยอดผู้เสียชีวิตจากไวรัสอีโบลา
ล่าสุดอยู่ที่ 961 คน และติดเชื้ออีก 1,779 คน
โดยสัปดาห์นี้มีผู้ติดเชื้อรายใหม่เพิ่มขึ้นถึง 68 คนและเสียชีวิต 29 คน

ที่ติดเชื้อแล้วยังไม่ตายอีก 800 กว่าคนนั้นไม่ต้องห่วง
คงจะทยอยตายไปเรื่อยจนหมดนั่นแหละ ( อันนี้ผมว่าเอง)


มีข่าวว่ามีคนตายเพราะเชื้อนี้ในซาอุดิอาราเบียด้วย
WHO เลยปรับให้เป็นพื้นที่สีแดง(มีคนตายจากไวรัส)
ประเทศนี้คนไทยไปขายแรงงานเยอะอยู่พอสมควร

ผมตั้งโจทก์ให้คิดเห็นเล่นๆ
ถ้าในชุมชนที่ท่านพักอยู่มีการแพร่ระบาดของไวรัสตัวนี้
ท่านจะทำตัวอย่างไรเพื่อเอาตัวรอดจากสถานการณ์ที่ว่านี้
เออ ลองคิดกันดู :'(

 

สถานการณ์การแพร่ระบาดในประเทศกินี


คลิป ที่มา>>คลิปสลด! หนุ่มชาวกินี ถูกทิ้งกลางถนน คนไม่กล้าช่วยเพราะกลัวติดอีโบลา

เกิดภาพเหตุการณ์ที่สร้างความหดหู่ขึ้นที่กินี เมื่อชายคนหนึ่ง ล้มลงกลางถนนโดยไม่ทราบสาเหตุ และนอนกลิ้งไป-มาอยู่อย่างนั้น โดยที่ผู้คนจำนวนมากที่ผ่านไป-มา ได้แต่มองดู แต่ไม่มีใครกล้าเข้าไปช่วยเหลือ เนื่องจากหวาดกลัวว่าชายคนดังกล่าวจะติดเชื้อไวรัสมรณะ"อีโบลา"

อย่างไรก็ดี มีช่างซ่อมรถคนหนึ่ง ได้เข้าไปดูชายคนป่วย พร้อมโทรศัพท์แจ้งหน่วยแพทย์ฉุกเฉินของกินี ซึ่งเวลาล่วงเลยนานร่วม 5 ชั่วโมง ที่ทีมแพทย์ฉุกเฉินเพิ่งเดินทางมาตรวจสอบและไม่ได้พาชายคนป่วยไปโรงพยาบาลแต่อย่างใด ซึ่งในท้ายที่สุดแล้วมีรายงานว่าครอบครัวของผู้ป่วยมานำตัวไปเอง

หลังข่าวนี้แพร่ออกไป รัฐบาลกินีเตรียมเรียกทีมแพทย์ฉุกเฉินชุดดังกล่าวไปสอบสวนแล้ว สื่อท้องถิ่นเผยว่า ปรากฎการณ์ที่เกิดขึ้น เป็นผลพวงมาจากการแพร่ระบาดของเชื้อไวรัส"อีโบลา" ที่ทางการกินี เซียร์ราลีโอน และไลบีเรีย ยังไม่มีทีท่าว่าจะควบคุมได้ จนทำให้มีผู้ติดเชื้อและเสียชีวิตลงทุกวัน ยอดผู้ติดเชื้อยังคงเพิ่มสูงขึ้นทุกขณะ และมีรายงานผู้ติดเชื้อในไนจีเรียและซาอุดีอาระเบียเพิ่ม

ดูเอาไว้เป็นอุทาหรณ์ว่าถ้าเป็นแบบนี้ที่บ้านเราจะทำกันอย่างไร

 

ขอบคุณ จขกท และ ทุกท่านที่แชร์ข้อมูลครับ
สำหรับเรื่องนี้ก็มีหลายๆท่านกำลังติดตามกันอย่างใกล้ชิด ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าเป็นห่วงมากสำหรับประเทศไทย
ที่ยังไม่มีมาตราการใดๆอย่างจริงจังจากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเลยครับ แม้แต่สื่อเองมีน้อยมากที่ให้ความสนใจในเรื่องนี้ถ้าเทียบกับต่างประเทศ
ซึ่งผมเองปกติจะไม่ค่อยตืนเต้นกับข่าวประเภทนี้เท่าไหร่แต่จากลางสังหรณ์ส่วนตัวพบว่าถ้ามันระบาดหนักจริงอาจจะมีความน่ากลัวไม่แพ้ตอน
น้ำท่วมทีเดียวเพราะท่าทีของผู้มีอำนาจที่เกี่ยวข้องแสดงพฤติกรรมออกมาแบบเดียวกับสมัยน้ำท่วมใหญ่ครับคือ "ประมาท!!"

ก่อนอื่นขออนุญาตเอาข่าวมาแปะให้อ่านก่อน

ตอนนี้ไทยเป็นประเทศเดียวในอาเซียนที่โดนประกาศเป็นพื้นที่เฝ้าระวังในการแพร่เชื้อเรียบร้อยไปแล้วครับ
ไทยอย่าชะล่าใจ! เข้าข่ายเฝ้าระวังอีโบลา ชาติเดียวในอาเซียน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

ก่อนหน้านี้ท่านที่ติดตามเรื่องนี้คงยังจำกันได้แพทยืนักวิจัยด้านไวรัสวิทยาออกมาเตือนให้รีบจัดหาอุปกรณ์ Bio Sefty level 4 เนื่องจากอีโบล่าเป็นไวรัสที่อยู่ในระดับ BSL 4
ซึ่งในไทยยังไม่มีทั้งชุดและแลปที่ใช้ในการตรวจสอบโรคได้เลยนะครับ
นักวิทย์ฯไทยผวา ! ไร้ชุดป้องกันอีโบล่า ขอ "งบฉุกเฉิน" คสช.ด่วน ! ..

http://www.oknation.net/blog/print.php?id=929982

ซึ่งไทยเรามี BSL สูงสุดแค่ระดับ 3 เท่านั้น
http://www.tm.mahidol.ac.th/jitmm-2010/download/JITMM-3-12-2010-C10-Prasert-Auewarakul-Biosafety.pdf

แต่แพทย์จุฬาท่านเก่งมากกลับออกข่าวโต้ทันที
จุฬาฯ ชี้ “อีโบลา” ติดยากกว่าไข้หวัด ย้ำเสี่ยงแพร่ระบาดในไทยน้อย
http://www.manager.co.th/Qol/ViewNews.aspx?NewsID=9570000087323
อยากรบกวนใครที่มี facebook ท่านช่วยฝากโพสต์ข้อความให้ท่านไปทำการตรวจเชื้อในผู้ต้องสงสัยโดยใช้ BSL 3 ให้หน่อยครับเพราะท่านบอกโอกาสติดเชื้อได้ยาก

ส่วน สธ. ไทยทั้งๆที่มีผู้เชี่ยวชาญด้านไวรัสวิทยาหรือแพทย์ที่วิจัยด้านนี้ออกมาให้เตรียมความพร้อมตั้งแต่สองสามอาทิตย์ที่แล้วแต่ผลคือ...

"กระทรวงสาธารณสุขเตรียมประกาศยกระดับโรคอีโบลาเป็นโรคติดต่ออันตรายในอีก 1 เดือนข้างหน้า เพื่อเพิ่มอำนาจเจ้าหน้าที่สามารถกักตัวผู้ต้องสงสัยหรือเข้าข่ายว่าติดเชื้อ "
สธ.ยกระดับ"อีโบลา"โรคติดต่ออันตราย ประกาศอีก1เดือนข้างหน้า/เพิ่มอำนาจ"กักตัว"ผู้เข้าข่าย�

อีก 1 เดือนถึงจะทำอะไรได้!!?!
แปลว่าทุกวันนี้ทำอะไรไม่ได้สินะครับหากมีผู้ต้องสงสัยนำเชื้อเข้ามา

แต่เจอ WHO ประกาศเป็นโซนสีเหลืองเข้าไปเป็นยังไงครับ สรุป แพทย์จุฬาและสธ. เงิบกันเป็นแถวครับเหอๆ
ไทยอย่าชะล่าใจ! เข้าข่ายเฝ้าระวังอีโบลา ชาติเดียวในอาเซียน - ข่าวไทยรัฐออนไลน์

 

ขออนุญาตแชร์ข้อมูลจาก ดร.สมเกียรติ โอสถสภา
https://www.facebook.com/somkiat.osotsapa
มีข้อมูลหลายเรื่องเกี่ยวกับอีโบล่า ที่เป็นประโยชน์มากสำหรับผู้ที่จับตาไวรัสตัวนี้อยู่

ขออนุญาตแปะข้อความให้อ่านนะครับมีหลายประเด็นน่าสนใจ
การระบาดของอีโบล่า วันนี้ วันศุกร์

วันนี้พบผู้ป่วยอีโบล่าในประเทศเบนิน ข่าวนี้น่ากลัว เพราะเบนินอยู่ห่างจากกิเนียจุดเริ่มต้น เซียราลีออง และไลบีเรียประเทศที่มีชายแดนติดต่อกับกีเนีย เอาว่ามีประเทศอื่นขวางกั้นอยู่หลายประเทศ
-
ก่อนหน้านี้ พบผู้ป่วยที่ไนจีเรีย ศูนย์กลางการบินแห่งหนื่งของอาฟริกา คนป่วยเดินทางมาจากสามประเทศแรก น่าจะมาจากกิเนีย ไนจีเรียห่างจากกิเนียราวสองพันกิโลเมตร มีประเทศคั่นกลางอยู่ห้าหกประเทศ

แล้วยังพบผู้ป่วยที่ซาอุดิอารเบียในตะวันออกกลาง เหนือขื้นไป

สถานการณ์ปั่นป่วนมาก คนกลัว ศพคนตายถูกทิ้งกลางถนน เกิดการกักตุนอาหารสินค้ากันแล้ว เพราะเกรงว่าการขนส่งจะเป็นอัมพาต

อันตรายสูงสุดของโรคระบาด คือ ความกลัว ที่อันตรายมาก คือเมื่อคนอพยพหนีจากถิ่นที่มีการระบาดไปเมืองอื่น หรืออพยพข้ามประเทศ การระบาดจะยิ่งรุนแรงจนถืงขั้นลามทั่วโรค เรียกว่า pandemic

ตอนนี้องค์การอนามัยโลกยกระดับอีโบล่าขื้นสู่จุดสูงสุดนั้นแล้ว

ยุโรปเฝ้าระวังเต็มที่ จุดสำคัญคือปารีส ลอนดอน และบรัสเซล ปารีสมีการติดต่อกับอาฟริกามาก มีชาวอาฟริกันในประเทศมาก เครื่องส่วนใหญ่ที่เข้ายุโรปมาลงที่นี่

ฮ่องกงตื่นตัวเต็มที่เพราะเป็นศูนย์การบินเหมือนกัน เกาหลีก็ผวา

@
การระบาดครั้งนี้น่ากลัว เพราะ


หนื่ง เข้าไประบาดในเมืองหลวงของประเทศต่างๆ ลากอสเมืองหลวงของไนจีเรียเป็นเมืองที่คนอยู่กันหนาแน่นเป็นอันดับสี่ของโลก มีคน 21 ล้านคนอยู่ที่นั่น ระบบสาธารณูปโภคในอาฟริกาแย่สุดๆ

สอง พื้นที่ในอาฟริกา ถนนยังไม่พัฒนา รัฐเข้าถืงพื้นที่ลำบาก เข้าถืงคนลำบาก ชายแดนติดต่อกันยาวมาก การควบคุมการเคลื่อนย้าย คือควบคุมโรคจืงลำบาก

สาม มีปัญหาการสื่อสาร ปัญหาภาษา เพราะมีคนหลายๆเผ่ามาก

สี่ ความรุนแรงของโรคทำให้คนที่เข้าใกล้ดูแลผู้ป่วย เช่นหมอ พยาบาลติดโรค โรคที่ทำลายหมอ พยาบาล บุคลากรการแพทย์อันตรายที่สุด เพราะหน่วยรบที่มีจำกัดถูกทำลาย เหมือนกับหวัดสเปนเมื่อร้อยปีก่อน ตายไปร่วมห้าสิบล้าน เข้ามาไทยด้วย ตายไปหลายหมื่น

ห้า โรงพยาบาลกลายเป็นหลุมฝังศพ เพราะไม่มีเซรุ่มรักษา แบบงูกัด ฉีดเซรุ่มเข้าไปก็หาย คนป่วยที่มาก็ตาย คนจืงหนีโรงพยาบาล

อาฟริกาทั้งทวีปมีผู้นับถืออิสลามร่วม 581 ล้านคน เกินครื่งของประชากร มีวัฒนธรรมที่ดูแลพยาบาลผู้ป่วยอย่างใกล้ชิด ตามหลักศาสนา และมีพิธีทำศพที่ละเอียดด้วย คนจืงรักษาที่บ้าน แต่เมื่อผู้ป่วยเกิดอาการ คนดูแลทั้งครอบครัวติดเชื้อตามไปด้วย


หก การผลิตวัคซีนเพื่อสร้างภูมิคุ้มกันโรค ต้องใช้เวลาอย่างน้อยสามปี ตั้งแต่กระบวนการผลิต ทดลองในมนุษย์จำนวนมาก ได้รับคำรับรองจากองค์การอาหารและยา จนผลิตเพื่อการพาณิชย์ ส่วนการผลิตเซรุ่มที่ระงับโรคได้ทันที ต้องเพาะในใบข้าวโพดที่ปลูกขื้น จะได้ปริมาณมหาศาลต้องใช้เวลาสองสามปี

เซรุ่มที่ผลิตขื้นโดยไม่มีการทดสอบอันตรายมากๆ จะเอาออกขายบริษัทยาโดนปรับ คนตายโดนฟ้อง ผมนืกด่าคนที่ไปขุดเชื้อนี้ขื้นมา

การระบาดจืงจะต่อเนื่องอีกนาน เมื่อประเทศหนื่งผลิตขื้นได้ จะเก็บไว้ให้พลเมืองของตนเองก่อน บริษัทยารวยมาก

โรคระบาดมีผลต่อตลาดหุ้นและ gdp แต่อาฟริกา เศรษฐกิจเล็ก คงไม่เท่าไร ถ้าระบาดทั่วโลก gdp ลดได้ถืง 5% ทั่วโลก

ประเทศไทย

แนวรบแรกคือ ประเทศที่เกิดระบาดสามประเทศ
แนวรบที่สอง ทวีปอาฟริกา โดยเฉพาะประเทศกลุมมุสลิม
แนวรบที่สาม ตะวันออกกลาง ซาอุ ลิเบีย ตูนิเซีย อิรัก อิหร่าน ซีเรีย
แนวรบที่สี่ ยุโรป ปารีส ลอนดอน บรัสเซล
แนวรบที่ห้า แนวรบประเทศไทย ผมเชื่อว่าเราเอาอยู่ คนไทยช่วยเป็นหูเป็นตา ควบคุมผู้มือาการคนแรกได้ก็เอาอยู่ ประสบการณ์โรคซาร์ โรคไข้หวัดถือเป็นการซ้อมรบ มีแผน pandemic เรียบร้ย น่าจะจัดพิมพ์ใหม่ด่วนเลย ย้ายตำแหน่งกันไป ระวังแผนหาย

คุณนพนันท์บอกว่า ชาวไนจีเรียที่เข้ามาไทยมาซื้อผ้าจากโบ๊เบ๊ไปขาย แล้วมาไม่มาก ติดตามดูแลได้ทั่วถืง

รอฟังคำแถลงจากองค์การอนามัยโลกสองสามวันนี้ ว่าจะสั่งควบคุมการบิน การตรวจสอบผู้โดยสารอย่างไร

ตอนนี้องค์การอนามัยโลกหมดปัญญา ขอให้หมอ นักวิทยาศาสตร์ผู้มีความรู้ปล่อยข้อมูลออกมาช่วยคน มันแย่มากตรงนี้แหละ

ไนจีเรียและอีกสามประเทศประกาศภาวะฉุกเฉินแล้ว ทหารเข้าคุมสถานการณ์
ปี
นี้ดาวอังคารมาแรงนะครับ ช่วงโรคระบาดอย่าเลือกตั้งจืงจะดี คนพลุกพล่าน โรคกระจาย

ผมดูแล้วมาไม่ถืงเมืองไทยครับ
นี่คือ แผนที่อาฟริกา มองทางซ้ายจะเจอไลบีเรีย กิเนีย เซียร่าลีออง ทางล่างๆเป็นเบนิน ทางขวานิดนืง ไนจีเรีย ขื้นไปก็ตะวันออกกลาง


Political Map of Northern Africa and the Middle East - Nations Online Project


ประเทศมุสลิมในอาฟริกา




Muslim Population in Africa

 

มามองด้านบวกกันบ้าง ถึงจะเป็นไวรัสที่มีความรุนแรงมากแต่โชคยังดีที่มีนักวิจัยที่เห็นความสำคัญในเรื่องนี้ได้ดำเนินการวิจัยเพื่อหายามาใช้ในการรักษาไปบ้างแล้ว โดยที่ทราบตามในข่าวกันมี 3 ตัวแต่ที่เราพอจะทราบกันทั่วๆไปจากข่าวคือ Zmapp และ Favipiravir

Zmapp
ใช้แอนติบอดีพืชรักษาคน!! “กองทัพสหรัฐฯ” อยู่เบื้องหลัง “เซรุม ZMapp” ทำให้คนไข้อีโบลามะกันอาการดีขึ้น
http://www.manager.co.th/around/ViewNews.aspx?NewsID=9570000089431

Favipiravir
บริษัทญี่ปุ่นยื่นขอทดลองใช้ยารักษาอีโบลาในมนุษย์แล้ว
http://health.kapook.com/view95453.html
ตัวนี้มีความน่าสนใจตรงที่เป็นยาเม็ด ซึ่งสะดวกมากในการใช้รักษาในท้องที่ทุรกันดาร และเป็นยาที่ใช้รักษาโรคไข้หวัดใหญ่มาแล้ว โดยมีชื่อในทางการค้าว่า AVIGAN
โดยเป็นยาที่พัฒนาโดยบริษัท Fujifilm (ใช่แล้วเจ้าเดียวกันกับที่ทำกล้องนั่นแหละครับ) ร่วมกับบริษัทยาในอเมริกา ซึ่งยาตัวนี้ผลิตมาเพื่อใช้ในการรักษาไข้หวัดใหญ่แต่บังเอิญเกิดการระบาดอีโบล่าก่อนเขาจึงนำไปทดลองกับลิง ปรากฏว่าได้ผลดีพอสมควร เลยกำลังขอ WHO ทดลองในคนที่ติดไวรัสชนิดนี้ดูเพื่อดูความปลอดภัยต่อไปซึ่งถ้าผลออกมาดีน่าจะเป็นยาชนิดแรกในการต่อสู้กับไวรัสชนิดนี้อย่างเป็นทางการครับ
http://www.firstwordpharma.com/node/1197906#axzz39tFX3uQs

 

ขอบคุณท่านปวีรัศ์ชา มากครับที่แจ้งข่าว ถ้ามีการระบาดที่อินเดียจะมีนัยยะสำคัญต่อการระบาดในไทยและเอเซียมากๆครับ เพราะอินเดียระบบสาธารณสุขโดยรวมถือว่าแย่มากที่สุดในแถบนี้ และด้วยประชากรที่มีจำนวนมาก น่าจะดูแลได้ไม่ทั่วถึง จะทำให้เกิดการแพร่ระบาดได้ง่ายมาก ถ้ามีการระบาดในอินเดียไทยเราก็ยิ่งน่าเป็นห่วงครับเพราะอยู่ไม่ไกลกันแถมประเทศเรายังมีการทำธุรกรรมการค้ากับอินเดียเยอะมากพอสมควร

ที่น่าเศร้าคือมื่อมีการระบาดรัฐบาลประเทศนั้นมักจะมีการปิดข่าวเพื่อป้องกันภาพลักษณ์ที่ไม่ดี และป้องกันความวุ่นวาย ซึ่งอย่างหลังนี่ผมเข้าใจว่าทำไมต้องปิด แต่อย่างน้อยควรจะประกาศความคืบหน้านโยบายในการป้องกันและดูแลออกมาบ้างครับไม่ใช่ให้แพทย์ที่ทำวิจัยหาทางกันเอาเอง ทั้งๆที่ WHO ตอนนี้ถึงขั้นจนปัญญากันแล้วนะครับไม่ใช่เรื่องเล่นๆแล้ว

 

วิธีฆ่าเชื้อไวรัสอีโบล่าภายนอก

ไวรัสถูกทำลายได้ด้วยสารละลายไขมัน
แสงอัลตราไวโอเลต
รังสี แกมม่า
ฟอร์มาลีน 1%
เบต้า-โปรปิโอแลคโตน
กรดอะซีติค 3%
ยาฆ่าเชื้อพวกสารประกอบ phenolic
น้ำยาไฮโปคลอไรด์

ในอุณหภูมิห้อง เชื้อไวรัสสามารถก่อการติดเชื้อได้หลายวัน แต่จะถูก
ทำลายที่อุณหภูมิ 60 ซ. ในเวลา 30 นาที

http://www.thailabonline.com/sec8ebola.htm

 

ใกล้เข้ามาเรื่อยๆ แล้วละครับ

ที่ฟิลิปปินส์เห็นว่ามีคนงาน 2 คนกลับจากเซียร่าลีโอนแล้วโดนกักตัวไว้
กักเพื่อสังเกตอาการให้ครบ 30 วัน จะติดเชื้อหรือไม่ ยังไม่ยืนยัน แต่ที่แน่แน่
ภายในวันสองวันนี้ ฟิลิปปินส์จะต้องกลายเป็นพื้นที่สีเหลือง คือพื้นทีเฝ้าระวัง
เช่นเดียวกับไทย

ที่อินเดีย ตามที่เพื่อนสมาชิกบอกคือมีคนติดเชื้อ 3 ราย
อันนี้ก็ต้องยกระดับเป็นพื้นที่สีส้ม คือพื้นที่มีคนติดเชื้อรับการรักษาอยู่
แต่ถ้ามีคนติดเชื้อแล้วตายก็ต้องกลายเป็นพื้นที่สีแดง
ข้อกังวลก็เป็นไปตามที่เพื่อนสมาชิกคอมเมนต์นั่นแหละ
อินเดียก็คืออินเดีย คนหลายพันล้าน มีตั้งแต่อภิมหาจน
จนถึงรวยล้นฟ้า คนรวยไม่ห่วง ห่วงคนจนนั่นแหละ
ถ้าระบาดในอินเดียละก็ ดูไม่จืดแน่นอน ผมว่าแอฟริกาอายก็แล้วกัน

มีข่าวที่น่ายินดีบ้างเกี่ยวกับการค้นพบวัคซีคหรือยาที่รักษาโรคนี้ได้แล้ว
โดยญี่ปุ่นและอเมริกา แต่ก็มีข่าวที่น่าเศร้าตามมาด้วยก็คือ โอกาสในการ
เข้าถึงยาหรือวัคซีนของผู้ติดเชื้อในประเทศยากจนเป็นไปได้น้อยมาก
เชื่อขนมกินได้เลย มันมีเรืองของธุระกิจเข้ามาเกี่ยวข้อง มนุษยธรรมจึง
ต้องกลายเป็นเรื่องรองลงไป

ประเทศเราเองก็เช่นเดียวกัน หากมีการแพร่ระบาด(ด้วยเหตุผลใดก็ตาม)
โอกาสในการเข้าถึงยารักษาของคนไทย ก็ริบหรี่หรือแทบไม่มีเลยเช่นเดียวกับ
ประเทศในอาฟริกาในขณะนี้

ด้วยเหตุผลทั้งหลายเหล่านี้ ผมจึงได้ตั้งกระทู้นี้ขึ้นมา
เพื่อให้พวกเราได้เข้าถึงข้อมูล รวมถึงการเตรียมการรับมือ
ในกรณีที่ Out break จริงๆ

ผมเชื่อของผมลึกๆ เกี่ยวกับภัยพิบัติแล้วคนในเวปพลังจิต
ไม่ใช่คนที่งอมืองอเท้ารอความช่วยเหลือจากรัฐ หรือจากใครหน้าไหน
พวกเราจะลงมือเตรียมการรับมือในส่วนของพวกเราก่อนใคร
ตามแนวทางที่เราเห็นว่าเป็นไปได้ และลงมือทำได้ด้วยตัวเราเองทันที

ก็คาดหวังไว้ว่าจะได้เห็นแนวทางของเพื่อนสมาชิกในการเตรียมการรับมือ
เรื่องนี้อย่างจริงๆ เตรียมการอย่างไรก็แชร์มาบอกกับบ้างนะครับ

:boo:

 

Has Ebola Virus Reached India? Health Officials Monitor Ghana Returnee

By Mugdha Variyar
August 8, 2014 10:54 IST

There was a major scare of the Ebola virus reaching the Capital after a Delhi resident returned from Ghana on 19 July on a flight with a passenger who tested positive for the deadly virus that has ravaged three West African countries in the last few months.

Health officials are now closely watching the Delhi resident, who lives in Dwarka since 21 July, following an alert by the World Health Organisation.

"We were alerted by the WHO about him being exposed to the disease. His co-passenger on the flight had tested positive for Ebola. Our surveillance units tracked him down and also examined people living with him," a health ministry official told Hindustan Times.

The man reportedly went from Accra, Ghana's capital, to Ethiopia before returning to Delhi. While there have been no cases of Ebola reported in the two African nations, the man's proximity to the affected passenger on board is a major cause of concern.
The health officials are monitoring not only the Ghana-returned resident but his two housemates as well.

However, much to the officials' relief, none of them have shown any symptoms of the disease so far.

"Since none of them have shown any symptoms so far, we didn't get them tested. We have asked them to watch out for any symptoms," said the official.

The symptoms of the Ebola virus include vomiting, high fever, bleeding, diarrhoea and leads to damage of the central nervous system, and there is said to be no vaccine to cure the disease once it strikes.

What is more debilitating about the disease is its ability to spread wildly through bodily contact, as it usually spreads through body fluids of the affected person.

The incubation period for Ebola is between two and 21 days.

What is further worrying for India and its exposure to the disease is the lax screening procedures at international airports. This, despite the Indian authorities making it mandatory for passengers returning from affected countries to self-report their itinerary and report symptoms at designated rooms at airports.

Hospitals, however, have kept themselves ready to identify and isolate patients.

"Since many visitors come to India for health treatment, private hospitals in the city have been issued strict guidelines to identify cases and keep an isolation ward ready," Dr VK Thapar, district surveillance officer, Integrated Disease Surveillance Program, told HT.

The disease that broke out in West Africa has claimed more than 900 lives even as efforts are on to contain the epidemic

Has Ebola Virus Reached India? Health Officials Monitor Ghana Returnee

 

ลุงแมวชอบข่าวใต้ดินจากอินเดีย
แบบแอบถามเพื่อน แล้วมาบอกต่ออ่ะ
จะติดตาม....