มีผู้หญิงประเภทเดียวที่บารมีสูงขนาดไหนก็ต้องเกิดเป็นหญิงเนื้อคู่ของพระโพธิสัตว์

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Saber, 15 สิงหาคม 2014.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    จะมีผู้หญิงประเภทเดียวที่บารมีสูงขนาดไหนก็ต้องเกิดเป็นผู้หญิง

    ถาม : ทำไมหนูไม่ได้เกิดเป็นผู้ชาย ?
    ตอบ : หยิบอะไหล่มาผิด ถ้าหยิบอะไหล่ถูกชุด ก็เป็นผู้ชายไปแล้ว ต่อไปอย่ารีบร้อน..นี่พูดเล่นนะจ๊ะ

    เกิดเป็นผู้ชายไม่ใช่เรื่องดีนะ โดยเฉพาะในส่วนของการปฏิบัติธรรม เปรียบเทียบง่าย ๆ ว่า ถ้าใครได้มโนมยิทธิแล้วขึ้นสวรรค์ไปสักชั้นหนึ่ง จะเห็นนางฟ้าท่วมสวรรค์เลย ส่วนเทวดามีไม่เท่าไร เพราะตามหลักความเป็นจริงแล้ว ผู้ชายคือผู้ที่ สร้างบารมีมามากกว่า ความเข้มแข็งของกำลังใจมีมากกว่า ก็เลยทำให้ค่อนข้างที่จะเชื่ออะไรยาก ในเมื่อเชื่อยาก กว่าจะยอมปฏิบัติธรรมก็ยาก คือ จะเป็นไปตามกำลังใจตัวเอง

    คนประเภทแข็งแรงมากก็ต้องแบกงานหนักหน่อย กลายเป็นว่าผู้หญิงมีโอกาสบรรลุธรรมมากกว่า ความจริงเราเลือกอะไหล่ถูกชุดแล้ว ถ้าเป็นผู้ชายอาจจะลำบาก กว่าจะบรรลุก็อีกหลายชาติ

    ถาม : โดนบังคับให้เลือก
    ตอบ : เขาบอกว่าพวกโดนบังคับ ชาติก่อนเป็นคนเจ้าชู้มาก ต้องมาเกิดเป็นผู้หญิงเสียให้เข็ด

    จะมีผู้หญิงประเภทเดียวที่บารมีสูงขนาดไหนก็ต้องเกิด เป็นผู้หญิง ก็คือ ท่านที่อธิษฐานมาเป็นพุทธมารดาหรือเป็นเนื้อคู่ของพระโพธิสัตว์ ดูอย่างพระนางสิริมหามายา พอ ขึ้นไปอยู่ข้างบนก็เป็นเทพบุตรอยู่ชั้นดุสิต พระพุทธเจ้าขึ้นไปโปรด ถามพระอินทร์ว่าทำไมไม่เห็นพุทธมารดา ? พระอินทร์บอกว่า อยู่ชั้นดุสิต จึงให้คนไปเชิญมา

    บาลีเขาบอกว่า มาตะรัง ปะมุขขัง กัตตะวา ตัสสา ปัญญายะ เตชะสา ผู้เป็นพุทธมารดาอยู่ในฐานะประมุขของเทวดา ในการฟังธรรมของพระพุทธเจ้าในวาระที่เสด็จขึ้นไปโปรด

    แต่ท่านได้แค่พระโสดาบัน ทั้ง ๆ ที่พระพุทธเจ้าเสด็จขึ้นไปโปรดโดยเฉพาะ จริง ๆ แล้วน่าจะเป็นพระอรหันต์ แต่ท่านเป็นไม่ได้ เพราะท่านอธิษฐานจะลงมาเป็นพุทธมารดาของพระศรีอาริยเมตไตรยอีกหนึ่งรอบ ถ้าได้เกินพระโสดาบันเดี๋ยวจะไม่ได้เกิด


    หลวงพี่เล็ก สุธมฺมปญฺโญ
    �纵��ҡ��ҹ͹�������� - ��дҹʹ����Ѵ��Ң�ع
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2014
  2. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    พระพุทธเจ้าท่านทรงรอบรู้กว่าพรหม กว่าเทวดา
    ในการไปโปรดพุทธมารดา
    มีหรือท่านจะไม่รู้อยู่ไหน
    ต้องถามจากพระอินทร์ด้วยเหรอ ?
    งงงงงงง แฮะ

    นี้เรา บังอาจสงสัย จะตกนรกอเวจี มั๊ยเนี่ยยยยย !!!!
     
  3. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    สงสัยเฉยๆจะตกเรอะ ต้องประชดประชัน ปรามาสคิดดูหมิ่น ถึงจะตก มิใช่รึคุณพี่ อิอิอิ

    เออ ใครเป็นคนเริ่มเรื่องสงสัยแล้วตกนรกเนี่ยพี่ การสงสัยกับการปรามาสคนละอย่างนะ
     
  4. เตหิณรัตน์

    เตหิณรัตน์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 กุมภาพันธ์ 2008
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +476
    พระพุทธเจ้าทราบครับว่า ว่าพระพุทธมารดาอยู่ชั้นไหน แต่ถามเพื่อที่จะให้เป็นเรื่องราวให้ปรากฏในพระไตรปิฏกนี้เหตุนึง เพราะตอนนั้นพระพุทธมารดาไม่ได้ทรงประทับอยู่ ณ ที่นั้น ก็เมื่อเป็นปกติเป็นเช่นนั้นคือไม่ได้ประทับอยู่ ณ ที่นั้น ก็ควรถามออกไปเป็นปกติเช่นนั้นเช่นกัน ว่าพระพุทธมารดาอยุู่ที่ไหน ถ้าหากท่านบอกในสิ่งที่ท่านทราบเสียเลย ปกติของสัตว์โลกก็ไม่มีใครรู้ได้เท่าพระพุทธเจ้านะ เรื่องหลายเรื่องในพระไตรปิฏกถ้าอ่านมากๆจะเข้าใจว่า มีทุกเรื่องที่พระพุทธเจ้าท่านทราบรายละเอียดทั้งหมดอยู่ก่อนแล้วว่าเรื่องนั้นๆเป็นเช่นไรอย่างไร แต่เวลาท่านคุยกับใครท่านก็จะถามเป็นปกติ ว่าอยู่ไหน? เป็นเช่นไร? ใช่หรือไม่ใช่? พวกเธอกำลังสนทนากันด้วยเรื่องอะไรหรือ? ถามเพื่อจะให้ผู้อื่นได้ทราบตามถึงเหตุเเห่งที่มาที่ไปด้วยว่าเป็นเช่นไร ก็เพื่อประสงค์จะให้ผู้อื่นทราบเหตุนั้นด้วยตั้งแต่ต้นจนจบเรื่อง การรู้ของพระพุทธเจ้าไม่มีใครรู้ได้เท่าท่านนะ ฉะนั้นเวลาจะสอนจะกล่าวอะไร ท่านจะไม่รวบรัดในสิ่งที่ท่านรู้ เพราะบางเรื่องเมื่อรวบรัดตัดบทในบางอย่างไปเสียเเล้ว คนอื่นที่ไม่ใช่สัพพัญญูก็จะไม่อาจจะเข้าใจได้ตามว่าที่มาที่ไปนั้นเป็นเช่นไร? อย่างไร? เรื่องอะไรที่ท่านกล่าวกันอยู่ขณะนี้? อีกอย่างนี้ก็เป็นปกติของพระอรหันต์ คือท่านจะมีความสำรวมมาก ไม่มีมานะ ไม่ถือตัว ไม่เที่ยวเเสดงตัวเหนือปกติว่าตนรู้ทุกอย่าง คือโลกเป็นเช่นไรในปกติวิสัยธรรมดา ท่านก็จะเเสดงและอยู่ด้วยความเป็นปกติเช่นนั้นด้วย เป็นการเเสดงถึงความสำรวมไม่โอ้อวดในวิสัยอย่างยิ่ง พระอรหันต์นี้ท่านรู้เรื่องอะไร แต่บางทีทำเหมือนไม่รู้ไปเสีย เคยได้ยินไหมครับ “ผู้พูด (ย่อม) ไม่รู้. ผู้รู้ (ย่อม) ไม่พูด” ทำนองนั้นแหละครับคล้ายๆกัน เป็นจริยาที่ไม่อวดเบ่ง ไม่ยกตน เป็นจริยาที่น่าเลื่อมใสอย่างยิ่งนะครับ ยกตัวอย่างตอนที่ท่านไปโปรด ชฎิล 3 พี่น้อง ท่านไปพักในคืนเเรกๆ ฟ้าฝ่าน่ากลัวฝนตกหนัก ชฎิล ถามท่านว่าท่านได้ยินไหมเสียงฟ้าฝ่าเมื่อคืนดังสนั่นเมื่อคืนนี้ พระพุทธเจ้าตอบว่าท่านไม่ได้ยินท่านทรงณานอยู่ ชฎิล ก็เลื่อมใสว่าสมณะนี้สำรวมมากจริงๆขนาดเสียง ฟ้าฝ่าดังขนาดนี้กลับไม่ได้ยินเป็นผู้อยู่ด้วยอำนาจแห่งสมาธิน่าเลื่อมใส ถึง...พระพุทธเจ้าท่านไม่ได้ยินก็จริง แต่ท่านทราบทั้งหมดนะว่าเกิดอะไรบ้าง ลองไปหาอ่านดูนะครับ ที่อธิบายผ่านมาก็คงพอเข้าใจนะครับ
    ปล. วัฎสงสารมันเป็นอจินไตย(ไม่มีที่สิ้นสุด) ดังนั้น ความรู้ของพระพุทธเจ้าจึงรู้แบบอจินไตยเช่นกัน ท่านเลยได้ชื่อว่า "สัพพพัญญู" ซึ่งแปลว่า "ผู้รู้ทุกสิ่ง"
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2014
  5. หัวมัน

    หัวมัน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2013
    โพสต์:
    2,191
    ค่าพลัง:
    +6,946
    ขอบคุณท่านเตหิณรัตน์นาคราช
    ชัดเจนมากเลยค่ะ
     
  6. White Sage

    White Sage เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    282
    ค่าพลัง:
    +1,743

    ถ้าอ่านแล้วเกิดความสงสัย+มีคำถามก็ไม่แปลกค่ะคุณหัวมัน เพราะนั่นแสดงให้เห็นถึงการอ่านแล้วคิดตามจนเกิดเป็นคำถาม/ข้อสงสัยนั่นเอง :)

    อย่างที่คุณหกว่ามา การสงสัย กับ การปรามาสนั้นแตกต่างกัน การสงสัยมันเป็นเรื่องของการไม่เข้าใจอะไรบางอย่าง แต่การปรามาสนั้นมันเป็นการล่วงเกิน เช่น สมมติ นาย ก. อ่านเรื่องการโปรดพระพุทธมารดาแล้วสงสัยว่าทำไมพระพุทธเจ้าต้องถามถึงพระพุทธมารดาจากพระอินทร์ ทั้งๆที่พระพุทธองค์ทรงเป็นสัพพัญญุรอบรู้ทุกสิ่งทุกอย่าง อันนี้เราสงสัยได้และก็หาคำตอบได้ แต่ถ้าเกิดเราคิดว่าพระพุทธองค์ทรงโกหกว่ารอบรู้และทรงรอบรู้ไม่จริง อันนี้แหละปรามาสแหงๆ

    ส่วนคำถามที่คุณหัวมันว่ามา ต้องบอกว่าสถานการณ์ตอนนั้นคือพระพุทธองค์ทรงเสด็จสวรรค์ชั้นดาวดึงส์เพื่อโปรดพระพุทธมารดา(ไม่ใช่ชั้นดุสิต) ดังนั้นจึงทรงถามพระอินทร์ถึงพระพุทธมารดาว่าทำไมไม่เห็นพุทธมารดาในที่นั้น(ซึ่งก็คือสวรรค์ชั้นดาวดึงส์)ค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 15 สิงหาคม 2014
  7. NAMOBUDDHAYA

    NAMOBUDDHAYA ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,441
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,022
    ค่าพลัง:
    +70,064

    ลีลาการแสดงธรรมโปรดสรรพชีวิตของพระบรมศาสดา พลิกแพลงไปตามสถานการณ์เพื่อประโยชน์สูงสุดแก่สรรพสัตว์
     
  8. mngo

    mngo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 เมษายน 2010
    โพสต์:
    605
    ค่าพลัง:
    +1,335
    โอ้โห พี่เป็นฮีโร่เลย กระจ่างแจ้ง นี่มาช่วยชีวิตผม 2 ครา แล้วนะเนี่ย อิอิอิ
     
  9. singpootorn

    singpootorn สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2011
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +9
    ถ้าอธิษฐานขอเป็นคู่บารมีพระโพธิสัตว์ในชาตินี้ จะนานแค่ไหนคะถึงจะสำเร็จตามความปรารถนา
     
  10. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    หลวงพ่อเคยบอกไว้ ผมอ่านผ่านๆ ไม่ได้เก็บไว้ เอาไว้ว่างๆ ถ้าหาเจอ จะเอามาลงอัฟเดทเพิ่มให้นะคับ

    คร่าวๆ ก็ประมานว่า ถ้า นางแก้วคนไหนยังไม่มีคู่นี่ รู้สึกว่าต้องหาคู่อย่างไร ไว้หาเจอจะเอามาลงให้นะคับ

    .
     

แชร์หน้านี้

Loading...