หลวงปู่พิศดู วัดเทพธารทอง และพระคณาจารย์สายต่างๆ (ข้อมูลวัตถุมงคล หน้า 1-8)....

รายนามพระอาจารย์และอาจารย์ ที่มาในพิธีนี้ จากซ้ายไปขวาครับ
แถวบน.. (นับจากองค์ที่ 2 เป็นต้นไป)
1. หลวงพ่อบัวลอย วัดน้อยอินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
2. อาจารย์ประจวบ คงเหลือ สำนักเขาอ้อ จ.พัทลุง
3. ครูบากฤษดา วัดสันพระเจ้าแดง จ.ลำพูน
4. หลวงศาล(ศิษย์พ่อท่านอิ้น) วัดทับใหม่พัฒนา จ.สุราษฎร์ธานี
5. พระครูไฟโรจน์พัฒนกิจ วัดถ้ำสนุก จ.ชุมพร
แถวล่าง..
6. พ่อท่านตุด วัดธรรมถาวร จ.ชุมพร
7. หลวงพ่อล้าน วัดขนาย จ.สุราษฎร์ธานี
8. พระราชพิศาลสุธี วัดโพธิการาม จ.ชุมพร (เจ้าคณะจังหวัด)
9. พ่อท่านคลาย วัดจันทราวาส จ.สุราษฎร์ธานี

 

โมทนาทั้งมวลด้วยครับ

 

น้อมกราบนมัสการบูชาพระคุณ องค์หลวงปู่พิศดู ครับผม

อนุโมทนามิ สาธุ ครับผม
พี่เอ็กซ์ , พี่อั๋น , พี่โจ้ และทุก ๆ ท่านท่ด้วยนะครับผม

ผมไม่ได้เข้ามาซะนานเลย กลั​

​

​

 

อยากได้มัจฉานุ!!! มีให้บูชาเมื่อไหร่คราฟพี่...

 

ตอบให้ทาง pm แล้วครับ

 

มีผู้สอบถามมาหลายท่านมากครับ ถึงข้อมูลมัจฉานุที่คณะศิษย์หลวงปู่ท่อนจัดสร้างในครั้งนี้ ซึ่งโดยรายละเอียดนั้น เยอะมากๆครับ โดยเฉพาะข้อมูลเรื่องชนวน มวลสารที่นำมาจัดสร้าง บอกได้เลยว่าเป็นมวลสารชุดพิเศษจริงๆ แต่จะขอยกเอาไว้ก่อน เนื่องจากผมยังรวบรวมข้อมูลได้ไม่ครบถ้วน
มัจฉานุที่จัดสร้างนี้เป็นดำหริของศิษย์สายหลวงปู่ท่อน ที่ปรารถนาจะหาปัจจัยสร้างรูปหล่อพระมหาอุปคุตปางออกจากนิโรธสมาบัติโปรดสัตว์ องค์ใหญ่สูง 2 เมตรกว่า เพื่อถวายวัดเทพธารทอง เพื่อประดิษฐานไว้ในพระมหาเจดีย์ ธัมมะจารีสุขังเสติ เพื่อใช้เป็นองค์พระประธานในพิธีตักบาตรพระมหาอุปคุตประจำปี ที่ทางวัดจะได้จัดงานเพื่อฟื้นฟูประเภณีตักบาตรกลางคืนที่องค์หลวงปู่พิศดูเคยจัดมาให้กลับมาอีกครั้งหนึ่ง...
จึงได้นำเรื่องนี้เข้ามาปรึกษากับคณะศิษย์หลวงปู่พิศดู ถึงงานบุญดังกล่าว ซึ่งก็ได้เห็นดีด้วย และเป็นเรื่องที่น่ายินดีในเรื่องชนวนมวลสารทั้งที่ทางคณะศิษย์หลวงปู่ท่อนมีอยู่ และชนวนมวลสารของทางสายหลวงปู่พิศดูก็มีจำนวนมากเป็นทุนเดิมอยู่แล้ว ซึ่งก็ได้นำชนวนมวลสารนั้นมาต่อยอดรวมกัน แถมทางคณะศิษย์ของหลวงปู่ท่อนยังได้รับมอบมวลสารพิเศษที่เกี่ยวกับสายพรายกุมารแท้ๆของหลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ มาจากลูกศิษย์ของหลวงปู่ทิม และหลานของหลวงปู่แก้ว เกสาโร ซึ่งมวลสารพิเศษดังกล่าวมีที่มาที่ไปดีมากแบบเชื่อถือได้ 100% และไม่ใช่ว่าจะได้มาเพียงเล็กน้อย แต่กลับได้มาในจำนวนมากพอที่จะจัดสร้างของได้แบบใช้มวลสารเข้มข้นเลยทีเดียว มวลสารระดับตำนานแบบนี้ใช่ว่าจะหากันได้ง่ายๆในปัจจุบัน หากไม่ใช่อาศัยจิตใจ และเจตนาอันบริสุทธิ์ของผู้จัดสร้างโดยแท้จริง ไม่มีทางได้มาง่ายๆเลยครับ

​

มัจฉานุนี้ ได้มีพิธีเททองหล่อไปเมื่อวันที่ 8 มิถุนายน 2557 ในพิธีเททองหล่อพระพุทธรูปทรงเครื่องมหาจักพรรดิ์ 4 ปาง ณ สำนักสงฆ์เขาน้ำซับ โดยพระเกจิผู้ทรงวิทยาคุณนับสิบรูปนั่งปรกอธิษฐานจิต และพระสวดเจริญพระพุทธมนต์อีกรวมเกือบร้อยรูป ซึ่งในพิธีดังกล่าวนั้น เป็นการหล่อขึ้นรูปมัจฉานุ สำเร็จเป็นรูปกาย และอาการ 32 อันสมบูรณ์แบบ โดยมีหลวงพ่อสิริ สิริวัฒโน เป็นผู้อธิษฐานจิต ชักยันต์กลางอากาศครอบมณฑลพิธี และเสกน้ำมนต์ประพรมไปยังเบ้าพระที่หล่อ และเบ้ามัจฉานุที่ละเบ้า ไปจนครบทุกเบ้า..

​

จากนั้นจึงนำมัจฉานุไปตกแต่งเป็นที่เรียบร้อยแล้ว จึงได้นำมาเข้าพิธีฉลองพระเจดีย์ ที่วัดถ้ำสนุก จ.ชุมพร โดยพระเกจิครูบาอาจารย์จากสายเหนือ กลาง ใต้ และสายพุทธาคมเขาอ้อ..

​

ทำพิธีบวงสรวงโดยท่านอาจารย์ประจวบ คงเหลือ อาจารย์ฆราวาสหนึ่งเดียวผู้เป็นศูนย์รวมแห่งสรรพวิชาของสำนักเขาอ้อไว้มากที่สุดในปัจจุบัน ซึ่งในระหว่างที่ทำพิธีบวงสรวงนั้น ก็ได้เกิดพระอาทิตย์ทรงกรดเป็นวงกว้างอยู่ตลอดเวลา จนกระทั่งเสริจพิธีบวงสรวงจบลง ก็ได้มีลมพายุพัดโหมกระหน่ำเข้ามาในปรัมพิธีวูบใหญ่ จนผู้ที่ร่วมในพิธีต่างรู้สึกได้ถึงความศักดิ์สิทธิ์แห่งพิธีกรรมนี้


ทางคณะเราได้อาสานำวัตถุมงคลต่างๆ รวมถึงมัจฉานุมาร่วมเสกในพิธีนี้ด้วย เนื่องจากไม่อยากพลาดพิธีดีๆแบบนี้ และนับเป็นโอกาสที่พิเศษที่องค์ท่านครูบากฤษดาได้รับนิมนต์เดินทางมาร่วมเป็นองค์นั่งปรกในพิธีนี้ด้วยความเมตตายิ่ง..

​

ซึ่งองค์มัจฉานุที่นำมาเข้าพิธีนี้ ก็ได้มีการนำมาใส่ถังแช่น้ำมนต์เอาไว้ และลอยด้วยดอกบัวที่ใช้บูชาพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช จำนวน 4 ดอก โดยใจกลางดอกบัวได้จารึกด้วยอักขระหัวใจธาตุทั้ง 4 ไว้ด้วยคือ " นะ(ธาตุน้ำ) มะ(ธาตุดิน) พะ(ธาตุไฟ) ทะ(ธาตุลม) " เพื่อเป็นการเสริมกำลังธาตุให้หนุนเนื่องกันยิ่งๆขึ้นไป อันส่งผลต่อความศักดิ์สิทธิ์ของวัตถุมงคล อีกประการหนึ่ง มัจฉานุนั้นมีอาวุธประจำกายคือดอกบัววิเศษ ซึ่งนอกจากจะเป็นอาวุธประจำกายแล้ว ยังใช้เป็นการใช้บูชาสักการะต่อพระผู้เป็นเจ้าอีกด้วย และการนำมัจฉานุมาแช่น้ำมนต์ในการเข้าพิธีเสกเป็นปฐมฤกษ์นั้น ก็ถือเป็นการจำลองการกำเนิดของพญาวานรครึ่งปลา นามว่า " มัจฉานุ " ซึ่งเกิดจากมารดา คือนางสุพรรณมัจฉา ซึ่งเป็นนางเงือกได้ให้กำเนิดมัจฉานุในน้ำนั่นเอง เพราะฉะนั้นการเข้าพิธีเสกเป็นปฐมฤกษ์นั้นนับว่าสำคัญยิ่งนัก ถือได้ว่าเป็นการตั้งธาตุ หนุนธาตุ ให้วัตถุมงคลนั้นเสมือนหนึ่งมีชีวิตขึ้นมา อันเป็นเคล็ดลับของคณะจารย์แต่โบราณ ท่านได้กล่าวเอาไว้ว่า " ของจะขลังมากหรือน้อย ส่วนหนึ่งก็อยู่ที่เคล็ดเหล่านี้แล.."

​

และนับว่าเหมือนเป็นความบังเอิญหรืออย่างไรไม่ทราบได้ ในขณะที่คณะของเราได้แวะเวียนไปกราบนมัสการพระบรมธาตุนครศรีธรรมราชนั้น ก็บังเอิญไปพบรูปวาดมัจฉานุถือดอกบัว ที่ต้นเสาตรงส่วนที่เป็นระเบียงคด ตรงจุดที่ให้ผู้คนวางดอกไม้ธูปเทียน ซึ่งก็เป็นความประสงค์หลักของคณะเราในการจะพลีดอกบัวที่เขาใช้บูชาพระบรมธาตุมาเพื่อใช้ประกอบพิธีกรรมดังได้กล่าวมา ซึ่งคณะของเราก็มิได้ทราบความเรื่องรูปวาดของมัจฉานุรูปนี้มาก่อนเลย เพราะเป็นการไปครั้งแรก จึงได้ตั้งจิตอธิษฐานต่อองค์พระบรมธาตุ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย ณ สถานที่แห่งนั้น โดยใช้รูปวาดองค์มัจฉานุเป็นสื่อแสดงความประสงค์ในการนี้ จึงได้พลีดอกบัวตรงนั้นมา 4 ดอก ให้เท่ากับจำนวนของธาตุทั้ง 4 นั่นเอง..

​

รายละเอียดยังมีอีกมากนะครับ ไว้ผมจะนำมาเขียนให้ศึกษากันเรื่อยๆนะครับ..

 

น้อมกราบนมัสการบูชาพระคุณ พระอุปคุตมหาเถระ ครับผม

พี่เอ็กซ์ครับงานหล่อ พระอุปคุตเถระเจ้า ในปีหน้า
ผมตั้งใจจะไปร่วมบุญให้ได้เลยครับผม
ได้ทราบเจตนาการจัดสร้าง และได้เห็นการจัดส้ร้าง
ตลอดจนความทุ่มเท และความตั้งใจจริง ในการสร้าง
" มัจฉานุ " ของคณะศิษย์ หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน
แล้วรู้สึกอิ่มบุญไปด้วยจริง ๆ ครับ ต่อไปคงจะเล่าขาน
เป็นตำนานไปอีกยาวนาน อนุโมทนามิ สาธุ ครับผม

 

ดอกบัวบูชาพระบรมธาตุนครศรีธรรมราช ที่นำมาลอยในถังน้ำมนต์ที่ใช้แช่มัจฉานุนั้น หลังจากทำพิธีเสร็จก็ได้นำมาตากแดด เพื่อจะบดเป็นผงไว้ผสมในมวลสารที่ใช้บรรจุใต้ฐานมัจฉานุต่อไป... และยังได้เก็บรวบรวมดอกบัวในพิธีมงคลต่างๆมาอีกหลายพิธี รวมถึงดอกบัวบูชาพระที่เสกอธิษฐานจิตโดยหลวงปู่ท่อน สุดยอดพระอริยสงฆ์แห่งอีสาน ท่านเมตตาเสกให้ทีละดอกแบบเน้นๆ เพื่อใช้เป็นมวลสารการจัดสร้างในครั้งนี้โดยเฉพาะ เนื่องด้วยมัจฉานุมีอาวุธประจำกายเป็นดอกบัววิเศษนั่นเอง การนำดอกบัวที่เป็นมงคลต่างๆมาใช้เป็นมวลสารบรรจุในองค์มัจฉานุด้วยนั้น นับว่าตรงสายเป็นที่สุด เป็นการเสริมฤทธิ์ให้กับองค์มัจฉานุด้วยอีกทางหนึ่งครับ..

 

สาธุๆ

 

สาธุ..ครับน้องพงศ์ งานนี้เขาตั้งใจกันเต็มที่ครับ ของดีกำลังเกิดขึ้นในแผ่นดินอีกรุ่นหนึ่งแล้ว ผมทราบข้อมูลยังตื่นเต้นแทนเลย จึงไม่อยากจะให้ความตั้งใจของทางผู้สร้างสูญไปตามกาลเวลา เลยอยากจะช่วยทางพี่ๆเขาบันทึก และประกาศข้อมูลรายละเอียดต่างๆเอาไว้ในหน้ากระดานแห่งนี้ด้วย ลูกศิษย์สายหลวงปู่พิศดู กับลูกศิษย์สายหลวงปู่ท่อนก็เหมือนพี่น้องกัน ต่างคนก็ต่างเคารพนับถือในพ่อแม่ครูบาอาจารย์ของกันและกันเป็นล้นพ้น ที่ผ่านมาหลายปีนี้มีงานบุญอะไรก็ช่วยเหลือกันมาโดยตลอดครับ ทุกอย่างที่ทำประจักษ์ชัดในผลงาน และมีประสบการณ์ต่างๆกันมากมาย พวกเราทำงานปิดทองหลังพระมานานแล้ว ผู้หลักผู้ใหญ่ก็รับรู้ และสนับสนุนมาโดยตลอดครับ.. สาธุ

 

ล็อกเก็ตรุ่น9จำนวนการสร้าง50องค์ ไม่เห็นหมุนเวียนนานแล้ว ท่านใดมีเก็บไว้นำมาโชว์กันบ้างครับ

<a href="http://image.ohozaa.com/view2/xMSzUMaxdoeNICS5" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/472/bTGpTT.JPG" /></a><a href="http://image.ohozaa.com/view2/xMSzZ1UIChZnkav5" target="_blank"><img border="0" src="http://image.ohozaa.com/i/f61/VQ4GYY.JPG" /></a>​

 

ล็อกเก็ตรุ่น 9 หลวงปู่พิศดู(หน้าหนุ่ม 2)
- ล็อกเก็ตรุ่นนี้จริงๆแล้วสร้างต่อจากล็อกเก็ต รุ่น7หน้าหนุ่ม ในปี พ.ศ.2552 โดยคณะศิษย์ชุดอุปัฏฐาก โดยใช้ภาพหลวงปู่หน้าหนุ่มภาพเดียวกันกับล็อกเก็ตรุ่น 7 เพียงไม่ได้ใส่ข้อความ หรือชื่อที่ด้านล่างและลดขนาดลงกว่าเดิม 1 ไซด์ และฝากให้หลวงปู่อธิษฐานจิตพร้อมกันกับล็อกเก็ตรุ่น 7 เรื่อยไป... จนถึงเวลาที่ล็อกเก็ต รุ่น10 ออกมาจึงนำมาอุดผงมวลสารในคราวเดียวกัน โดยนำมวลสารเนื้อเดียวกัน และนำพระกลีบบัว สมเด็จองค์ปฐมรุ่นแรก พระธาตุ เกศา จีวร ตะกรุด พลอยเสก บรรจุไว้ด้านหลังทุกองค์ สร้างจำนวนทั้งหมด 50 องค์ ครับ

 

​

ภาพหาดูยากอีกภาพหนึ่งครับ..

เป็นภาพที่หลวงปู่ครองจีวรผ้าแพรแบบเงางามครับ ซึ่งจะมีอยู่ช่วงระยะเวลาเพียงไม่กี่เดือนเท่านั้นที่หลวงปู่ฉลองชุดจีวรผ้าแพรนี้ เพื่อให้บุญญาติโยมผู้ที่นำมาถวาย(เป็นกรณีพิเศษ หลวงปู่ท่านคงมีเหตุผลของท่าน) แต่ว่าแท้จริงแล้วหลวงปู่ไม่ได้ติดจีวรที่ปราณีตหรอกนะครับ เพียงแต่ท่านอาจจะแสดงให้เราทราบว่า หลวงปู่ท่านเหนือสมมุติ ไม่ได้ยึดติดในทำเนียมอะไรทั้งสิ้น ไม่ว่าจีวรเก่า ใหม่ ท่านก็ครองได้หมดครับ
ต่อมาหลวงปู่ได้มอบจีวรชุดนี้ให้ลูกศิษย์นำไปบชาต่อ พร้อมทั้งบอกด้วยว่า " จีวรนี้กันฟ้าผ่าได้นะ ถ้าเอาติดตัวไว้เดินตากฝนฟ้าจะไม่ผ่า ถึงผ่าก็ผ่าไม่ถูก จะทำให้แคล้วคลาด มั่นใจได้เลย.." หลวงปู่ท่านรับรองถึงขนาดนั้นเลยนะครับ สาธุ...

 

น้อมกราบนมัสการบูชาพระคุณ พระอุปคุต ครับผม

น้อมกราบนมัสการบูชาพระคุณ
องค์หลวงปู่พิศดู ครับผม

 

อนุโมทนาครับ...

 

น้อมกราบมนัสการหลวงปู่พิศดู​

​

 

มัจฉานุบูชาได้ทางไหนบ้างคับ

 

น้อมกราบหลวงปู่พิศดูเหนือเศียรเกล้าครับ

 

หัวใจพรหมหรือที่เรียกกันว่า พรหมวิหารธรรม คือ หลักธรรมของผู้ใหญ่ ประกอบด้วยหลักธรรมสำคัญ 4 ประการ คือ

- เม ตตา = ความรัก ความเอื้ออารีย์
- ก รุณา = ความสงสาร เห็นอกเห็นใจกัน
- มุ ทิตา = ความพลอยยินดี ที่เห็นผู้อื่นได้ดี
- อุ เบกขา = ความวางภาระ วางเฉย

ครูบาอาจารย์จึงถอดเป็นหัวใจของพระพรหม หรือ หัวใจพรหมวิหารธรรม ได้เป็น เม กะ มุ อุ ครับ

จริงๆแล้ววิชาหัวใจพรหมนี้ ไม่ใช่แค่เขียนหัวใจ เม กะ มุ อุ เป็นก็จะสำเร็จเพียงแค่นั้นไม่นะครับ หากว่าด้วยเรื่องวิชานี้แล้ว เท่าที่ทราบมา อันดับแรกคณาจารย์ผู้ทำต้องเป็นผู้ทรงไว้ด้วยพรหมวิหารธรรมเสียก่อน คือประกอบไปด้วยจิตที่มี เมตตา กรุณา มุทิตา อุเบกขาเป็นเครื่องเจริญใจ และต้องเป็นผู้เข้าถึงความเป็นพรหม หรือเข้าถึงพระพรหมจริงๆเป็นอย่างน้อย และเวลาทำวิชานี้นั้น ต้องสามารถอัญเชิญเทพพรหมลงมาได้จริงๆ และต้องเห็นท่านด้วย เพื่อให้ท่านมาแผ่บารมี อำนวยอวยพร และร่วมอนุโมทนา... จากนั้นจึงกำหนดจิต ลงอักขระหัวใจพรหมลงไป ให้เป็นที่สถิตแห่งนาม รูป เพื่อให้เทพพรหมเหล่านั้นช่วยปกปักรักษาของที่ทำ และรักษาช่วยเหลือผู้ที่ครอบครองบูชาซึ่งของที่ทำนั้นด้วยครับ.. ในเรื่อง " จิต " ของพระอริยะที่เดินวิชานั้นเป็นอะไรที่ซับซ้อนเหลือจะกล่าว ผู้ที่ยังไม่เข้าถึงก็เพียงแต่บอกได้แค่คร่าวๆเท่านี้ ของจริงนั้นมีอะไรที่ละเอียดกว่านี้มากนักครับ..

วิชาพรหมนี้ เป็นวิชาชั้นสูง จึงหาผู้สำเร็จจริงๆได้ยากนิ่งนัก แต่เท่าที่ทราบมาคณาจารย์ผู้ที่สำเร็จวิชาสายนี้ ที่เป็นสายตรงก็เห็นจะมี..
-หลวงปู่ดู่ -หลวงปู่สีห์ -ท่านอาจารย์เฮง ไพรวัลย์ วัดสะแก
-ญาท่านสีทัต -หลวงปู่สนธิ์ วัดท่าดอกแก้ว
-หลวงพ่อกวย วัดโฆสิตาราม
-ท่านอาจารย์เณรวิรัช ลุปต์ซ่า วัดดอนยานนาวา
-หลวงพ่อผินะ วัดสนมลาว
-หลวงปู่หงษ์ พรหมปัญโญ
และ -หลวงปู่พิศดู ธัมมะจารี
- ... ฯลฯ

​

 

ของหายากครับ สมเด็จ150ปี เจ้าคุณอุบาลีผงอังคารธาตุ วัดบรมนิวาส ฝังตะกรุดทองคำและตะกรุด3กษัตริย์ วันที่ทำพิธีเทพระกริ่งในพิธีก็มีคนบูชาหมดแล้ว สร้างน้อยมากไม่แน่ใจว่า99องค์หรือ150องค์ครับ

​

สร้างจากผงใบลานชำรุด
ที่เก็บรักษาไว้ในพระเจดีย์องค์ใหญ่ ของวัดบรมนิวาสราชวรวิหาร กทม.
เป็นใบลานที่เชื่อกันว่า
เป็นใบลานที่พระเดชพระคุณท่านเจ้าคุณพระอุบาลีคุณูปมาจารย์
หลวงปู่จันทร์ สิริจนฺโท อดีตเจ้าอาวาสวัดบรมนิวาส
พระมหาเถระผู้มีคูณูปการณ์มากมาย โดยเฉพาะในการอุปถัมป์
พระธุดงคกรรมฐานสายหลวงปู่เสาร์ หลวงปู่มั่น ให้มั่นคงจนมาถึงปัจจุบัน
เป็นผู้จารขึ้น บวกกับมวลสารสำคัญอีกมากมายที่จะได้นำเสนอต่อไป


**มวลสารที่ใช้ได้แก่
1.ผงจากพระพิชิตมาร พระประธานบนศาลาอุรุพงษ์ วัดบรมนิวาส
2.ผงใบลาน ลายมือของท่านเจ้าคุณอุปาลีคุณูปรามาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)
3.ผงกระเบื้องหลังคาศาลาอุรุพงษ์ วัดบรมฯ
4.ไม้กุฏิของหลวงปู่เสาร์ กันตสีโล จากวัดดอนธาตุ
5.ไม้กุของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ที่มาจากวัดป่าหนองผือ,วัดป่าบ้านโคก,วัดป่ากลางโนนกู่
6.ผงอิทธิเจ
7.ผงพระธาตุพระสิวลี
8.แป้งเสกหลวงปู่บุดดา ถาวโร
9.แป้งเสกหลวงปู่ชอบ ฐานสโม
10.แป้งเจิมหลวงปู่หลอด ปโมทิโต
11.แป้งเจิมหลวงปู่โส กัสสโป
12.ผงบางขุนพรหม
13.มวลสารวัตถุมงคลของ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ
14..มวลสารวัตถุมงคลของ หลวงปู่หลอด ปโมทิโต
15..มวลสารวัตถุมงคลของ หลวงปู่โส กัสสโป
16..มวลสารวัตถุมงคล รุ่น 9 มงคล ของหลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
17.มวลสารวัตถุมงคลของหลวงปู่ฝั้น อาจาโร
18.ผงเสกของ ครูบาธรรมชัย
19.ผง 300 อาจารย์
20.ผงจากพระกรุ
21.ดินสังเวชนียสถาน ประเทศอินเดีย
22.ผงว่านเสกของ หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ
23.ผงจากดอกบัวบูชา พระแก้วมรกต
24.ผงตะไบพระกริ่งสิทธัตโถปี 2508

**และมวลสารจากอัฐิ,เกศา,และอังคารธาตุ 105 คณาจารย์ อันได้แก่
1.อัฐิ สมเด็จพระมหามุนีวงศ์ วัดนรนาถฯ กรุงเทพฯ
2.อัฐิ พระหรหมมุนี วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
3.อัฐิ หลวงปู่ทิม วัดระหารไร่ ระยอง
4.อัฐิ ครูบาพรหมจักร วัดพระพุทธบาทตากผ้า ลำพูน
5.อัฐิ หลวงปู่ประยุทธ์ ธัมยุตโต
6.อัฐิ หลวงปู่สิม วัดถ้ำผาปล่อง เชียงใหม่
7.อัฐิ หลวงปู่คำพอง กุสลธโร วัดป่านิโคธาราม อุดรฯ
8.อัฐิ หลวงปู่ทองฤทธิ์ อุตตโม
9.อัฐิ หลวงพ่อสนั่น รกฺขิตสีโล สกลนคร
10.อัฐิ อาจารย์สิงห์ทอง ธัมวโร สกลนคร
11.เกศา สมเด็พระอริยวงศาคตญาณ (อยู่) วัดสะเกศ กรุงเทพฯ
12.เกศา สมเด็จพระญาณสังวร (เจริญ พระสังฆราชองค์ปัจจุบัน) วัดบวรฯ กรุงเทพฯ
13.เกศา สมเด็จพระพุทธปาพจนบดี (ทองเจือ) วัดราชบพิธ กรุงเทพฯ
14.เกศา สมเด็จพระมหาวีรวงศ์ (อ้วน ติสโส) วัดบรมฯ กรุงเทพฯ
15.เกศา พระอุปาลีคุณูปรามาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท) วัดบรมฯ กรุงเทพฯ
16.เกศา พระธรรมเจดีย์ (จูม) วัดโพธิสมภรณ์ อุดรฯ
17.เกศา - อังคาร อาจารย์พรหม จิรปุญโญ
18.เกศา - อังคาร อาจารย์มั่น ภูริทัตโต
19.เกศา ท่านพ่อลี ธัมมธโร
20.เกศา หลวงปู่ขาว อนาลโย
21.เกศา - ชานหมาก อาจารย์ฝั้น อาจาโร
22.เกศา หลวงปู่แหวน สุจิณโณ
23.เกศา หลวงปู่แว่น ธนปาโร
24.เกศา หลวงปู่เหรียญ วรลาโภ
25.เกศา - ชานหมาก หลวงตามหาบัว ญาณสัมปัณโณ
26.เกศา หลวงปู่ลือ ปุญโญ
27.เกศา หลวงปู่ลี ฐิตธัมโม
28.เกศา หลวงปู่สุวัจน์ สุวโจ
29.เกศา หลวงพ่อพุธ ฐานิโย
30.เกศา อาจารย์วัน อุตตโม
31.เกศา - อังคาร หลวงปู่ตื้อ อจลธัมโม
32.เกศา - อังคาร หลวงปู่พวง สุวีโร
33.เกศา หลวงพ่อสมชาย ฐิตวิริโย
34.เกศา หลวงปู่บุดดา ถาวโร
35.เกศา หลวงปู่ดู่ พรหมปัญโญ
36.เกศา หลวงปู่จันทร์แรม เขมสิริ
37.เกศา อาจารย์แบน ธนกาโร
38.เกศา หลวงพ่อจวน วัดหนองสุ่ม
39.เกศา หลวงพ่อเกษม เขมโก
40.เกศา หลวงพ่อโชติ โชติปาโล
41.เกศา หลวงปู่จันทร์ศรี วัดโพธิสมภรณ์
42.เกศา หลวงปู่หลอด ปาโมทิโต
43.เกศา หลวงปู่จันทร์โสม กิตติกาโร
44.เกศา หลวงตาแตงอ่อน กลญาณธัมโม
45.เกศา หลวงปู่บุญมี ปริปุณโณ
46.เกศา หลวงปู่เพียร วิริโย
47.เกศา หลวงปู่รอด วัดทุ่ศรีเมือง
48.เกศา หลวงปู่มา ญาณวโร
49.เกศา หลวงตาพวง สุขินทริโย
50.เกศา หลวงปู่ต้น สุทธิกาโย
51.เกศา หลวงปู่ท่อน ญาณธโร
52.เกศา หลวงปู่โส กัสสโป
53.เกศา หลวงปู่ลี กุสลธัมโม
54.เกศา หลวงปู่จันทรา ถาวโร
55.เกศา หลวงปู่คำพันธ์ โฆสปัญโญ
56.เกศา หลวงพ่อทองพูล สิริกาโม
57.เกศา หลวงปู่บุญพิน กตปุณโณ
58.เกศา หลวงปู่คำพันธ์ จันทูปโม
59.เกศา หลวงปู่ขาน ฐานวโร
60.เกศา อาจารย์อุทัย สิรินธโร
61.เกศา หลวงปู่กว้าน เขมโก
62.เกศา - อังคาร ครูบากรองคำ วัดพระธาตุดอยเปา
63.เกศา สมเด็จพระญาวโรดม วัดเทพศิรินทร์
64.เกศา หลวงพ่อคูณ สุเมโธ
65.เกศา หลวงปู่เรือง วัดเขาสามร้อยยอด
66.เกศา หลวงตาพันธ์ อาจาโร
67.เกศา หลวงปู่เจิม ปัญญาพโล
68.เกศา หลวงปู่ปราโมทย์ ปาโมธโร
69.เกศา หลวงปู่นิล มหันตปัญโญ
70.เกศา หลวงปู่ศรีจันทร์ วัดเลยหลง
71.เกศา หลวงปู่แสง ญาณวโร
72.เกศา ครูบาศรีวิชัย
73.เกศา อาจารย์จันทร์เรียน คุณวโร
74.เกศา หลวงปู่เริ่ม วัดจุกเฌอ
75.เกศา เจ้าคุณนรฯ
76.เกศา หลวงปู่บุญจันทร์ กมโล
77.เกศา หลวงปู่กลั่น วัดพระญาติ
78.เกศา หลวงปู่พร สุมโน
79.เกศา หลวงปู่เจือ วัดกลางบางแก้ว
80.เกศา หลวงปู่บุญเพ็ง กัปปโก
81.เกศา หลวงปู่ทิม วัดพระขาว
82.เกศา หลวงพ่อแนม วัดเขาหน่อ
83.เกศา หลวงปู่บุญหนา ธัมมทินโน
84.เกศา พระพุทธพจน์วราภรณ์ วัดเจดีย์หลวง
85.เกศา หลวงพ่อแช่ม วัดดอนยายหอม
86.เกศา หลวงปู่ชื้น วัดญาณเสน
87.เกศา หลวงปู่ทา วัดถ้ำซับมืด
88.เกศา หลวงปู่คร่ำ วัดวังหว้า
89.เกศา ครูบาผัด วัดศรีดอนมูล
90.เกศา หลวงปู่ชม วัดนางใน
91.เกศา - อังคาร หลวงปู่บุญ ชินวังโส
92.เกศา ครูบาน้อย วัดบ้านปง
93.เกศา อาจารย์สิงห์ ขันตยาคโม
94.เกศา อาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป
95.เกศา หลวงปู่คำดี ปภาโส
96.เกศา หลวงปู่บัว สิริปุญโญ
97.เกศา ครูบาบุญบั๋น วัดร้องคุ้ม
98.เกศา - อังคาร อาจารย์จวน กุลเชฏโฐ
99.เกศา หลวงปู่โง่น โสรโย
100.เกศา หลวงปู่เพ็ง พุทธสโร
101.เกศา ครูบาอิน วัดฟ้าหลั่ง
102.เกศา หลวงปู่เย็น วัดสระเปรียญ
103.เกศา อาจารย์คำบ่อ ฐิตปัญโญ
104.เกศา หลวงปู่สาย เขมธัมโม
105.เกศา หลวงปู่กิ ธัมมุตตโม
106.เกศา หลวงพ่อคูณ ปริสุทโธ
107.เกศา หลวงปู่ผ่าน ปัญญาปทีโป
108.เกศา หลวงปู่อ่อน ญาณสิริ
109.เกศา หลวงปู่บุญฤทธิ์ ปัญฑิโต
110.เกศา หลวงปู่สังข์ สงฺกิจโจ
111.อังคาร หลวงปู่เสาร์ กันตสีโร
112.อังคาร หลวงปู่สาม อกิญจโณ
113.อังคาร หลวงปู่เขียน ฐิตสีโล
114.อังคาร หลวงปู่บัวพา ปัญญาภาโส
115.อังคาร- เกศา หลวงปู่คำพอง ติสโล
116.อังคาร - เกศา หลวงปู่หลวง กตปุญโญ
117.อังคาร- เกศา หลวงปู่อุ่น ชาคโร
118.อังคาร - เกศา หลวงปู่ชอบ ฐานสโม
119.อังคาร - เกศา หลวงปู่เทศก์ เทศรังสี
120.อังคาร หลวงปู่หลุย จันทสาโร
121.อังคาร หลวงพ่อผาง จิตฺตคุตุโต
122.อังคาร หลวงปู่เปลื้อง ปัญญวนโต
123.อังคาร หลวงปู่ถิร ถิรธัมโม
124.อังคาร หลวงปู่คำตัน ฐิตธัมโม
125.อังคาร หลวงปู่เจี๊ยะ จุนโท
126.อังคาร หลวงปู่หล้า เขมปัตโต
127.อังคาร หลวงปู่บุญจันทร์ จันทวโร
128.อังคาร หลวงปู่อุ่น กลฺญาณะมโม
129.อังคาร หลวงปู่ผาง ปริปุณโณ
130.อังคาร หลวงปู่ทองอินทร์ กุสลจิตโต
131.อังคาร หลวงปู่สีทน สีลธโน
132.อังคาร อาจารย์ทองเฒ่า วัดเขาอ้อ
133.อังคาร หลวงปู่สอน ถาวโร
134.อังคาร หลวงปู่กรอง วัดสระมณฑ,
135.อังคาร หลวงพ่อชา สุภัทโท
136.อังคาร หลวงปู่สีลา อิสฺสโร
137.อังคาร หลวงปู่เมตตาหลวง กตปุญโญ
138.อังคาร พระราชภาวนาวิสุทธิเถระ (กำพล) วัดเทพศิรินทร์
139.อังคาร หลวงปู่มหาบุญมี สิรินทโร
140.อังคาร อาจารย์บุญมา ฐิตเปโม
141.อังคาร อาจารย์กู่ ธัมมทินโน
142.อังคาร หลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
143.อังคาร หลวงพ่อไปล่ วัดกำแพง
144.อังคาร หลวงปู่จันทร์ เขมปัตโต
145.อังคาร พระธรรมไตรโลกาจารย์ วัดศรีเมือง
146.อังคาร หลวงปู่อุ่น อุตตโม
147.อังคาร หลวงปู่คำ ยสกุลปุตโต
148.อังคาร หลวงปู่จำปี วัดป่าสาละวัน
149.อังคาร หลวงปู่คำฟอง เขมจาโร
150.อังคาร ครูบาคำแสน วัดสวนดอก

ในกาลครั้งนี้ทางคณะศูนย์อบรมภาวนา สิริจันโท วัดบรมนิวาส
ได้กราบอราธนาพระกรรมฐาน และพระเกจิเรืองวิทยาคมแห่งยุคนี้
มาพิธีพุทธาภิเษกวัตถุมงคลที่จัดสร้างงาน 150 ปี
ท่านเจ้าคุณอุปาลีคุณูปรามาจารย์ (จันทร์ สิริจันโท)
เพื่ออธิฐานจิตให้...รายนามดังนี้

1.สมเด็จญาณวโรดม วัดเทพศิรินทร์ กรุงเทพฯ
2.พระพรหมมุนี วัดบวรนิเวส กรุงเทพฯ ประธานจุดเทียนชัย (ปัจจุบัน สมเด็จพระรัตน์)
3.หลวงปู่บุญฤทธิ์ ที่พักสงฆ์สวนทิพย์ นนทบุรี
4.หลวงปู่จันทร์แรม วัดเกาะแก้วธุดงคสถาน บุรีรัมย์
5.หลวงตาพวง วัดศรีธรรมาราม ยโสธร ประธานดับเทียนชัย
6.หลวงปู่บุญเพ็ง วัดป่าวิเวกธรรม ขอนแก่น
7.หลวงปู่ท่อน วัดป่าศรีอภัยวัน เลย
8.พระราชวรคุณ วัดบูรพาราม สุรินทร์
9.หลวงพ่อคำบ่อ วัดป่าบ้านตาล สกลนคร
10.หลวงพ่อคูณ วัดป่าภูทอง อุดรธานี
11.พระวิมลศีลาจาร วัดบรมนิวาส กรุงเทพฯ
12.หลวงปู่ทิม วัดพระขาว อยุธยา
13.หลวงพ่อรวย วัดตะโก อยุธยา
14.หลวงพ่อทอง วัดรังสีสุทธาวาส ชลบุรี
15.หลวงพ่อจ้อย วัดหนองน้ำเขียว ชลบุรี
16.หลวงปู่กาหลง วัดเขาแหลม สระแก้ว
17.หลวงพ่ออั้น วัดโรงโค อุทัยธานี
18.หลวงพ่อเจือ วัดกลางบางแก้ว นครปฐม
19.หลวงพ่อสาคร วัดหนองกรับ ระยอง
20.พระอาจารย์วิชัย วัดถ้ำผาจม เชียงราย