ปิดประมูลพระแกะจากหินธาตุกายสิทธิ์หลายรายการ หน้า ๒๐ ค่ะ

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย Numsai, 21 สิงหาคม 2014.

  1. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ในนามกองบุญพระพุทธวิปัสสีโภคมหาบพิตร ขอเชิญท่านร่วมเป็นเจ้าภาพร่วมเป็นเจ้าภาพสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ โดยการร่วมบุชา หรือประมูลดวงแก้วมณีรัตนะ ธาตุกายสิทธิ์สายนพเก้าไตรกาล หรือเพชรพญานาคสัณฐานต่าง ๆ ปัจจัยการบูชาร่วมบุญ ๑๐๐% โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ

    การนำดวงแก้วมณีรัตนะ หรือธาตุกายสิทธิ์อื่น ๆ มาเพื่อให้บูชา หรือประมูลในการกระทู้นี้ จุดประสงค์ในการนำปัจจัยสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ ปางมารวิชัย หน้าตัก ๔ ศอก

    ดวงแก้วมณีรัตนะ และธาตุกายสิทธิ์สายนพเก้าไตรกาล มณีรัตนกาล เช่น จักรแก้ว กริซ พระขรรค์ องค์พระนั้น เกิดจากการอธิษฐานของพระฤาษีแต่กาลก่อนนานมาแล้ว มีประวัติยาวนานกว่าเพชรพญานาค ถูกเก็บรักษาไว้โดยพญานาคราชแห่งเมืองสัตตรัตนะ มีอาณาจักรอยู่ทางตะวันออกเฉียงใต้ของแม่น้ำโขง

    เดิมปกครองโดยท่านพญาโภคนาคราช ปัจจุบันได้เคลื่อนภพอยู่ชั้นดุสิต ต่อมาท่านพญาอัสดรนาคราช และสหธรรมิกอีก ๔๘ ตนเป็นผู้ดูแลคลังดวงแก้วจนถึงปัจจุบัน

    สถานที่.jpg

    สำหรับสถานที่อัญเชิญนั้น เดิมทีเมื่อประมาณปี ๒๕๕๑ เคยไปอัญเชิญด้วยตนเองหลายครั้ง และพิสูจน์ว่า ธาตุกายสิทธิ์สายพญานาคนี้มีของจริง แต่ด้วยปัจจุบันมีเริ่มมีอายุมากขึ้น และไม่สะดวกในการเดินทางไปด้วยตนเอง และมีท่านที่มีหน้าที่ในการอัญเชิญมาส่งมอบต่อในการสร้างบุญในพระศาสนา

    ทุกปีจะมีการตั้งเครื่องบวงสรวง ท่านผู้ดูแลดวงแก้วมณีรัตนะ และธาตุกายสิทธิ์สายพญานาคเป็นประเพณีทุกปี และมีการบวงสรวงย่อยอีกหลายครั้ง ซึ่งบริเวณที่ขึ้นของดวงแก้วมณี และธาตุกายสิทธิ์จะมีหลายแห่ง ไม่ใช่เฉพาะถ้ำแกลบ เขตอ.สอยดาวเพียงแห่งเดียว มีขอบเขตบริเวณกว้างครอบคลุม จังหวัดสกลนคร จนถึงเขตอ.วาริชภูมิ


    ในปัจจุบันมีหลายวัดที่ได้นำดวงแก้วมณีรัตนะ และธาตุกายสิทธิ์จากเทือกเขาภูพาน เพื่อการบำรุงพระศาสนา บางแห่งได้ตั้งสำนักรอรับดวงแก้ว และธาตุกายสิทธิ์ใกล้สถานที่อัญเชิญก็มี

    การสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชตินี้ เจตนาสร้างเพื่อชำระหนี้สงฆ์ที่มีมาแต่กาลก่อน และมีผลแก่ทุกท่านที่ร่วมบุญครั้งนี้ เกิดจากความศรัทธาในครูบาอาจารย์ที่ทรงขันธ์มายาวนาน เพื่อช่วยเหลือศิษย์ให้พ้นจากอบายภูมิ โดยการสร้างพระพุทธวิปัสสีฯ เป็นที่ตั้ง


    หากท่านใดปราศจากความลังเลสงสัยแล้ว ขอเชิญร่วมบุญในการบูชา หรือประมูลดวงแก้วมณีรัตนะ หรือธาตุกายสิทธิ์ เพื่อสร้างพระชำระหนี้สงฆ์กันด้วยจิตใส ๆ ทั้งก่อนทำ ระหว่างทำ และหลังทำ เพื่อให้อานิสงส์แห่งบุญสมบูรณ์ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
    ุญ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 30 ตุลาคม 2014
  2. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    อ่านประวัติแก้วพระปัจเจกฯ ชุด ๓๑ ดวง หน้า ๑,ประวัติดวงแก้วยุคพระพุทธวิปัสสี หน้า ๕ ค่ะ

    ดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้าชุดนี้ มี ๓๑ ดวง อัญเชิญเทือกถ้ำในเทือกเขาภูพาน เป็นดวงแก้วที่เกิดจากการอธิษฐานจิตของพระฤาษีแต่กาลก่อน เรียกว่าวิชามณีรัตนกาล โดยพระฤาษีกลุ่มนี้มีทั้งสิ้น ๕๐๐ องค์ ภายหลังท่านทั้งหลายได้สำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า

    ดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้าทุกชุด ไม่เคยเข้าพิธีพุทธาภิเษกแต่อย่างใด หากท่านที่บูชาไปแล้วต้องการจะเข้าเข้าพิธี ควรตั้งจิตขอขมาบอกกล่าวเทวดาผู้รักษาดวงแก้วพระปัจเจกฯนี้เสียก่อน เพื่อป้องกันการปรามาสต่อท่านผู้ตั้งจิตอธิษฐาน และผู้ดูแลดวงแก้วในปัจจุบันค่ะ

    20140820_074055.jpg
    ปัจจัยบูชาทั้งหมด ๑๐๐ % เพื่อร่วมสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ ๑๐๐% โดยไม่หักค่าใช้จ่ายใด ๆ
    20140820_074105.jpg
    เปิดให้บูชาดวงละ ๑,๑๙๙ บาท


    กติกาในการบูชา
    ๑. เริ่มวันที่ ๒๑ สิงหาคม ๒๕๕๗ เวลา ๐๗.๔๘ น. ฤกษ์ ตรงกับวันแรม ๑๑ ค่ำ เดือน ๙ ปีมะเมีย ไปจนกว่าของจะหมด
    ๒. ขอสงวนสิทธิ์ เพื่อบูชาส่วนตัว ท่านละ ๒ ดวง และถวายวัดไม่เกินท่านละ ๒ ดวง
    ๓. หลังจากปิดการประมูล โอนปัจจัยภายใน ๒ วันหลังจากโอนปัจจัยแล้ว กรุณาแจ้งชื่อ-ที่อยู่ใน PM-Numsai ค่ะ


    กรุณาโอนปัจจัยไปที่......

    ชื่อบัญชี พุทธารา โรจนฤทธิกร
    เลขที่ 214-4-06458-7
    ธนาคารกรุงเทพ
    สาขาถนนสายลวด
    ประเภทออมทรัพย์-สะสมทรัพย์


    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 17 กันยายน 2014
  3. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ..การสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ..

    [​IMG]

    สร้างเพื่อถวายในงานมหากฐิน วัดป่าดอนธาตุ อ.หนองหาน จ.อุดรธานี

    [​IMG][/CENTER]

    พระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติ ปางมารวิชัย หน้าตัก ๔ ศอก แกะด้วยแกนกลางของหินทรายขาวอุณาโลมเป็นเพชรพญานาคสีฟ้า ล้อมเพทายสีฟ้าอ่อน
    จุดประสงค์สร้างเพื่อชำระหนี้สงฆ์ที่มีมาตั้งแต่ต้นชาติจนถึงปัจจุบัน

    ผู้ดำริให้สร้างพระชำระหนี้สงฆ์นี้คือ ท่านพญาโภคนาคราช ผู้ดูแลคลังมณีรัตนะแห่งนาคพิภพ ได้บอกให้สร้างพระชำระหนี้สงฆ์ก่อนจะละโลกชาตินี้ โดยท่านมาบอก เมื่อประมาณปลายปี ๒๕๕๓ ว่า...

    “การสร้างพระพุทธรูปนี้ จะต้องสร้างด้วยหินธรรมชาติสีขาว ปางมารวิชัย เกตุเปลวเพลิง มีพระพักตร์แย้มโอษฐ์เล็กน้อย อุณาโลมประดับด้วยเพชรพญานาคสีน้ำเงิน หรือสีฟ้า ถึงเวลาสร้างจะปรากฏเพชรพญานาคสีฟ้าขึ้นมา

    อันเป็นสัญลักษณ์ว่า จะต้องสร้างพระชำระหนี้สงฆ์ อันเป็นตัวแทนของสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า เป็นพระพุทธเจ้าที่พ่อเคารพ การทรงขันธ์ของพ่อนั้นยาวนานถึงยุคสมัยของสมเด็จพระสมณโคดมศากยมุนีนั้น

    อันเนื่องจากสมัยพระองค์เสวยพระชาติเป็นพญาภุชงค์นาคราช จอมกษัตริย์แห่งกษัตริย์ ๗ เมืองใหญ่ ๑ ใน ๗ เมืองใหญ่นั้นเป็นเมืองสัตตรัตนนคร ทุกวัน ๑๕ ค่ำ จะมีการประชุมใหญ่ โดยมีท่านท้าววิรูปักษ์เป็นประธาน

    กาลเมื่อพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้าอุบัติขึ้น พวกเราได้เคยถวายภัตตาหาร ๗ วันแก่พระพุทธเจ้า พญาภุชงค์นาคราชได้รับพุทธพยากรณ์ว่าจะเป็นพระพุทธเจ้าในอนาคตกาล พร้อมกันนั้นได้มีผู้ได้รับพยากรณ์อีกจำนวนมาก


    พวกเราต่างปลื้มปิติใจ พ่อจึงเรียนวิชาการทรงอิทธิบาท ๔ จากพระเกษรีฤาษีได้ต่ออายุขัยกัปต่อกัป เพื่อทำหน้าที่จนบัดนี้ล่วงเลยมาถึง ๙๑ กัป

    หลังจากชาตินี้ก็ไปรออยู่ดุสิต เพื่อลงมาเกิดในชาติสุดท้ายในสมัยที่พระเกษรีฤาษีบรรลุพระสัมมาสัมโพธิญาณ การสร้างพระชำระหนี้สงฆ์จะทำเป็นกิจสุดท้าย”

    นับจากนั้นได้เฝ้ารอการขึ้นมาของเพชรพญานาคสีฟ้า เวลาผ่านไปหลายปี

    เมื่อต้นปี ๒๕๕๗ เพชรพญานาคสีฟ้าได้ปรากฏขึ้น จึงนำไปประดับเพทายสีฟ้า โดยคุณ phuya เป็นเจ้าภาพในการสร้างอุณาโลม และคุณNamfonBaanfa เป็นผู้จัดหา และร่วมบุญเป็นปัจจัยจำนวนหนึ่ง ขออนุโมทนาบุญกับทั้งสองท่านมา ณ.ที่นี้ด้วยค่ะ

    ต่อมาครูบาอาจารย์ท่านสั่งให้ทำพิธีบวงสรวงตามหลักวิชาสายธาตุนพเก้าไตรกาล จึงได้จัดบวงสรวงเมื่อต้นเดือนสิงหาคมที่ผ่านมา โดยได้เริ่มแกะพระตามเวลาบวงสรวงดังกล่าว

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่ร่วมบุญในการบูชา หรือประมูลดวงแก้ว ธาตุกายสิทธิ์ต่าง ๆ เพื่อการสร้างองค์พระชำระหนี้สงฆ์ครั้งนี้ด้วยค่ะ

    สำหรับงบประมาณในการสร้างพระพุทธวิปัสสีฯ เป็นจำนวนเงินทั้งสิ้น ๒๘๐๐๐๐ บาท และค่าขนส่งประมาณ ๕๐๐๐๐ กว่าบาทโขึ้นอยู่กับระยะทางการขนส่ง

    หากได้ปัจจัยจากการบูชา หรือประมูลเกินจำนวนดังกล่าว จะนำปัจจัยนี้ถวายแด่วัดดอนธาตุ จ.อุดรธานี เพื่อบำรุงสงฆ์ และชำระหนี้สงฆ์ต่อไป

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    ________________________________________________________________________

    ยอดปัจจัยร่วมสร้างพระพุทธวิปัสสี
    ณ. ๒๓ กันยายน ๒๕๕๗

    [​IMG]
    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 23 กันยายน 2014
  4. วง

    วง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    339
    ค่าพลัง:
    +437
    ร่วมบุญดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า 2 ลูกครับ
     
  5. ลุงจิ๋ว

    ลุงจิ๋ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มกราคม 2008
    โพสต์:
    897
    ค่าพลัง:
    +990
    ขอร่วมบุญบูชา 1 ดวงครับ
     
  6. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    จอง ๒ ดวง
     
  7. เติบโต

    เติบโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    819
    ค่าพลัง:
    +5,298
    ขอร่วมบูชา ในนามชื่อผม เติบโต 2 ลูก ผมจะบูชาให้ ภรรยาและลูกสาวครับ
    ไม่ทราบว่า หากมีผู้สนใจบูชา แต่ไม่ได้อยู่ในเว็บ ผมจะสามารถจองแทนเขาได้ไหมครับ
    หากได้ขอบูชา แทนเขา 1 ลูก รวมเป็น 3 ลูกนะครับ
    ขอบคุณ
     
  8. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติหลวงปู่เกษรีฤาษี และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ ดวง ตอน ๑

    ย้อนหลังไประหว่างสมัยของพระพุทธมหาปุสสะพุทธเจ้า และสมัยพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า เป็นช่วงปราศจากการอุบัติของพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามีเพียงพระปัจเจกพุทธเจ้ามาโปรดเท่านั้น มีพรหมองค์หนึ่งจุติจากพรหมชั้น ๑๑ ในตระกูลพราหมณ์ที่มั่งคั่งมาก นามว่า “เกษรีพราหมณ์”

    บิดาของท่านได้สร้างปราสาทประกอบด้วยรัตนะทั้ง ๗ มีความเป็นอยู่อย่างราชา เกษรีกุมาร เป็นผู้มีปัญญามาก ได้สำเร็จไตรเภทตั้งแต่เยาว์วัย

    เมื่อโตเป็นหนุ่ม หลังจากสำเร็จวิชาต่าง ๆ แล้ว บิดาท่านปรารถนาจะให้มีคู่ครอง ส่วนท่านมิได้ปรารถนาจะครองเรือน จึงตัดสินได้เก็บเสื้อผ้าเครื่องใช้และเสบียงที่จำเป็น แอบหนีออกจากบ้าน ทิ้งไว้เพียงจดหมาย ๑ ฉบับได้ขออภัยต่อบิดาของท่าน จากนั้นออกเดินทางไปทิศตะวันตกของเมือง

    จนกระทั่งถึงป่าแห่งหนึ่ง ท่านได้พบกับพระฤาษี ๕ ตน ผู้ได้สำเร็จอภิญญา ๕ จึงเข้าไปกราบ และขอบวชเป็นศิษย์ เพื่อรับใช้พระฤาษีเหล่านั้น โดยการตักน้ำดื่มน้ำใช้ และออกหาผลไม้เตรียมไว้ให้ผู้เป็นอาจารย์ พระฤาษีทั้ง ๕ เห็นแก่ความเพียรของเกษรีพราหมณ์ จึงได้ให้ถือพรตเป็นพระฤาษี และได้สอนวิชาต่าง ๆ ของตนจนหมดสิ้น ด้วยความมีปัญญาของเกษรีฤาษีสามารถสำเร็จวิชาต่าง ๆ ของพระฤาษีทั้ง ๕ ได้ภายใน ๓ เดือน

    พระญาณชาตะฤาษีผู้เป็นหัวหน้าได้สอนวิชาการทรงอิทธิบาท ๔ ท่านได้กล่าวว่า อีกไม่นานเราทั้ง ๕ จะละสังขาร หลังจากเราละสังขารแล้ว เจ้าจงออกเดินทางไปทางทิศตะวันออก เจ้าจะได้พบสมณะผู้ทรงศีลบริสุทธิ์ให้เจ้าอยู่อุปัฏฐากท่านผู้นั้น แล้วเจ้าจะได้พบหนทางสว่าง พวกเรามีบุญน้อยขออวยพรให้เจ้าจงโชคดี

    ต่อมาอีก ๓ เดือนพระฤาษีทั้ง ๕ ก็ละสังขาร โดยใช้เตโชธาตุเผากายเป็ยผุยผง เมื่อพระฤาษีทั้ง ๕ ผู้เป็นอาจารย์ละสังขารแล้ว เกษรีฤาษีจึงออกเดินทางไปทางทิศตะวันออกของเมืองตามที่พระฤาษีผู้เป็นอาจารย์บอกไว้

    (พระฤาษีทั้ง ๕ องค์นั้น คือ สมเด็จพระกกุสันโธ สมเด็จพระโกนาคมน สมเด็จพระกัสสป สมเด็จพระสมณโคดม และพระศรีอารียเมตไตรยนั่นเอง)

    __________________________________

    ประวัติหลวงปู่เกษรีฤาษี และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ ดวง

    ตอน ๒ พบพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า

    ต่อมาได้พบกับสมณะผู้ทรงศีล ท่านปฏิบัติธรรมจนบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้านามว่า พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า ท่านได้เหาะพาท่านเกษรีฤาษีไปยังที่พำนักของพระปัจเจกพุทธเจ้าอีก ๙๙๙ องค์ ซึ่งบรรลุธรรมแล้วเช่นกัน

    จากนั้นท่านเกษรีฤาษีจึงได้อยู่อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าเป็นเวลานาน ในระหว่างนั้นพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้าได้พาไปท่องเที่ยวยังนาคพิภพ จนกระทั่งได้รู้จักกับพญาโภคนาคราช ซึ่งเป็นผู้ครองเมืองสัตตรัตนนครในเวลานั้น


    ท่านโภคนาคราชนั้น มีพญาอัคคีตาปะเป็นพระโอรสองค์โต ในยุคนั้นมนุษย์กับนาคไปมาหาสู่กันเป็นปกติ ด้วยมนุษย์ยุคนั้นมีศีล ๕ บริสุทธิ์ มีศีลธรรม
    พญาอัคคีตาปะนั้น มีสหายเป็นมนุษย์นามว่า “โชติกะมานพ” เป็นบุตรเศรษฐี ได้เดินทางทางค้าขายระหว่างเมือง ได้พบกันถูกอัธยาศัย จึงได้พาโชติกะมานพ ไปเที่ยวนาคพิภพ พญาอัคคีตาปะเห็นว่าเป็นผู้ที่ไม่มีความโลภ จึงมอบทองคำ และทรัพย์สมบัติจำนวนหนึ่ง พร้อมดวงแก้วมณีมอบให้แก่นายโชติกะ

    โชติกะเกิดความปิติใจที่ได้รับทองคำเหล่านั้น จึงมอบผ้ากำพลแดงที่ตนนำมาค้าขาย จำนวน ๑๐๐๐ ผืน เป็นการตอบแทน


    เมื่อได้พบพระปัจเจกพุทธเจ้า พญาอัคคีตาปะจึงได้ถวายผ้ากำพลแดงแก่พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๙๙๙ องค์ เพื่อให้โชติกะเศรษฐีรับบุญครั้งนี้ด้วย


    พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ องค์รับผ้ากำผลแดงแล้ว พระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า ทรงได้ตรัสแก่เจ้าชายอัคคีตาปะว่า นับจากนี้อีก ๓๐๐๐๐ ปี พระกนิษฐาของท่าน จะลงมาจุติเป็นมนุษย์ ขอให้ท่านจงตามหานาง พานางกลับไปยังนาคพิภพ ผู้ที่เป็นคู่บารมีของนางจะมาจุติในนาคพิภพ ขอให้ท่านรับเป็นธุระให้ด้วย เป็นหน้าที่ครั้งสุดท้ายก่อนจะเราจะเข้าปรินิพพาน


    เจ้าชายอัคคีตาปะนั้นได้รับคำ จากนั้น พระปัจเจกพุทธเจ้าทุกพระองค์ ต่างเข้าฌาณสมาบัติและเข้าพระนิพพานอย่างสงบ

    ท่านเกษรีฤาษีจึงให้เจ้าชายอัคคีตาปะ และบริวารดูแลพระสังขารของพระปัจเจกพุทธเจ้า ส่วนท่านได้เหาะไปยังเมืองไชยเมตตนคร เพื่อแจ้งข่าวแก่พระเจ้าสัตยารัตน์ ผู้ครองนคร ซึ่งเป็นผู้อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าเช่นกัน

    เมื่อพระเจ้าสัตยารัตน์ได้ทรงทราบทรงเสียพระทัย แม้รู้ว่าความตายเป็นเรื่องธรรมดาแต่ก็อดเสียพระทัยไม่ได้ สั่งให้จัดขบวนไปยังสถานที่พระปัจเจกพุทธเจ้าดับขันธ์ปรินิพพานทันที


    หลังจากทำความเคารพพระศพแล้ว ท่านเกษรีฤาษี พร้อมเหล่าพญานาคผู้มีฤทธิ์ได้ใช้เตโชกสินเผาพระสังขารของพระปัจเจกพุทธเจ้าตามธรรมเนียมปฏิบัติ

    ปรากฏว่า พระสารีริกธาตุของพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ องค์ ได้ลอยหายไปในอากาศ เหลือเพียงผ้ากำพลแดงบางส่วนยังคงอยู่ โดยมีรอยไหม้ติดอยู่ ท่านเกษรีฤาษีจึงได้เก็บไว้ เพื่อเป็นเครื่องระลึกถึงครูบาอาจารย์

    จากนั้นจึงได้แบ่งผ้ากำพลแดง แก่ผู้อุปัฏฐากพระปัจเจกพุทธเจ้าในครั้งนั้น และต่างแยกย้ายกลับยังเมืองของตน ยกเว้นเจ้าชายอัคคีตาปะนาคราช และเจ้าชายสีหราช ได้ขออยู่ เพื่ออุปัฏฐากท่านเกษรีต่อไป

    ________________________________________
    ประวัติหลวงปู่เกษรีฤาษี และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ ดวง
    ตอน ๓ กำเนิดดวงแก้วสหัสสบดินทร์ไตรภพ


    ต่อมาหลังพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑,๐๐๐ องค์ ได้เข้าปรินิพพานได้ไม่นาน ท่านเกษรีฤาษีมีดำริว่า....
    “หากเก็บรักษาผ้ากำพลแดงของพระปัจเจกพุทธเจ้าไว้เช่นนี้ อาจจะต้องเสื่อมไปตามกาลเวลา เราจะเก็บรักษาไว้อย่างไรดี”
    ท่านจึงเข้าสมาธิจึงทราบว่า...

    เราจะอธิษฐานดวงแก้วมณี เพื่อห่อหุ้มดวงแก้วนี้ไว้ เพื่อรักษาผ้ากำพลแดงของพระองค์ เพื่อให้ชนรุ่นหลังได้สักการะกราบไหว้”

    จากนั้นท่านจึงเรียกเจ้าชายอัคคีตาปะนาคราช และเจ้าชายสีหราชมาเพื่อบอกกล่าวให้ทราบว่า ท่านจะอธิษฐานดวงแก้ว เพื่อห่อหุ้มผ้ากำพลแดงของพระมังคละปัจเจกพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าทั้งหลาย โดยจะเข้าสมาบัติเป็นเวลา ๑๐,๐๐๐ ปี

    เจ้าชายอัคคีตาปะนาคราชได้อาสาเป็นผู้ดูแลกายหยาบของท่านเกษรีฤาษี ส่วนเจ้าชายสีหราชนั้น ได้คอยหาอาหาร น้ำดื่มน้ำใช้ให้แก่ผู้อาจารย์

    การอุปัฏฐากพระฤาษีครั้งนั้น ทำให้เจ้าชายทั้งสองมีความสนิทสนมกันมาก เจ้าชายอัคคีตาปะนาคราชนั้น ได้เรียนรู้และเข้าใจวิถีของมนุษย์ และท่านได้สอนวิชาแก่เจ้าชายสีหราชไปด้วย ส่วนพระเจ้าสัตยารัตน์นั้น นาน ๆ จะมาเยี่ยมพระโอรสสักครั้ง เมื่อทราบว่า ท่านเกษรีฤาษีได้อธิษฐานจิตห่อหุ้มผ้ากำพลแดง จึงได้ฝากผ้ากำพลแดงจากเมืองของตนไว้กับเจ้าชายสีหราช เพื่อให้พระฤาษีได้อธิษฐานดวงแก้วมณีห่อหุ้มไว้เช่นกัน

    ครั้นครบเวลา ๑๐,๐๐๐ ปี ท่านเกษรีฤาษีได้ออกจากสมาบัติ พบศิษย์ทั้งสอง จึงได้ให้นำผ้ากำพลแดงของพระเจ้าสัตยาราช และส่วนของพญาโภคนาคราช มาพร้อมกัน จากนั้นจึงอธิษฐานดวงแก้ว ๓ ดวงห่อหุ้มผ้ากำพลแดงไว้ โดยตั้งชื่อดวงแก้วทั้งสามว่า “อัครมหิศร” “เทพอมรภาคิน” “สหัสสดินทร์ไตรภพ”

    แล้วมอบดวงแก้วเทพอมรภาคินแก่เจ้าชายสีหราชไปยังเมืองไชยเมตตนคร ส่วนเจ้าชายอัคคีตาปะนาคราชนั้นได้นำดวงแก้วมณีกลับไปยังเมืองสัตตรัตนนคร สร้างความปลื้มปิติใจแก่พญาโภคนาคราช พระมเหสี และชาวเมืองเป็นอย่างมาก ได้นำดวงแก้วมณีประดิษฐานในท้องพระโรง เพื่อสักการบูชา

    หลังจากท่านเกษรีฤาษีได้อธิษฐานดวงแก้วทั้ง ๓ แล้ว ในกาลต่อมาท่านก็ได้เข้าสมาบัติเป็นเวลานับหมื่นปี ผู้ที่เคยเกิดเป็นมนุษย์ต่างละโลกแล้วไปเกิดตามบุญบารมี บางท่านไปเกิดในนาคพิภพ เพื่อได้พบผู้ที่เคยเนื่องกันมา บางท่านไปเกิดเป็นมนุษย์ ในยุคสมเด็จพระพุทธวิปัสสีพุทธเจ้า (ขออนุญาตไม่นำมากล่าวในที่นี้)

    แต่สำหรับชาวนาคพิภพที่เคยร่วมบุญในครั้งนั้นหาได้เคลื่อนภพไม่ ยังคงทรงอิทธิบาท ๔ เพื่อทำหน้าที่รักษาดวงแก้วสหัสสไตรภพ จนเวลาผ่านไปนานนับ ๙๑ กัป
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2014
  9. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ประวัติหลวงปู่เกษรีฤาษี และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ ดวง

    ตอน ๔ พระฤาษีทั้ง ๕๐๐

    จนถึงกระทั่งถึงเวลา ก่อนพุทธสมัยพระพุทธสมณโคดม ๑๓๕๐๐ ปี ผู้ที่เคยได้ร่วมบุญบูชาพระปัจเจกพุทธเจ้าในยุคนั้น ต่างก็เวียนว่ายตายเกิด และได้มาเกิดเป็นมนุษย์ในยุคนี้อีกครั้ง ต่างมีความปรารถนาที่จะได้ถวายทานแก่พระปัจเจกพุทธเจ้าในอนาคตกาล

    กล่าวถึงพระฤาษีกลุ่มหนึ่ง มีทั้งสิ้น ๕๐๐ องค์ ท่านเกิดเป็นสหชาติกันในเมืองเดียวกัน แต่ต่างฐานะ ผู้ที่เป็นหัวหน้าพระฤาษีนั้น เดิมเคยเป็นเชื้อพระวงศ์(พระท่านบอกว่า ขอไม่บอกโดยละเอียด เนื่องจากเป็นอดีตไปแล้ว) เกิดความศรัทธาออกบวช ทำให้มีบุตรของเสนาอำมาตย์ บุตรเศรษฐี และบุตรชาวบ้านธรรมดาต่างก็ปรารถนาจะออกบวชตามท่านมา อีก ๔๙๙ คน นับรวมตัวท่านเป็น ๕๐๐ ตน

    เหล่าพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ตนนี้ต่างออกเดินทางมาพร้อมกัน ท่านทั้งหลายเป็นผู้ที่มีลาภมากมาแต่กาลก่อน ไม่ว่าเดินทางไปที่ใด ท่านเหล่านี้จะมีไม่ความอดอยาก อันเนื่องมาจากทานบารมีที่เคยถวายแต่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๑๐๐๐ องค์ในกาลก่อนนั่นเอง

    พระฤาษีทุกตนต่างคิดว่าจะแสวงหาหนทางดับทุกข์ เมื่อเดินทางมาถึงภูเขาสูงลูกหนึ่งขึ้นไปบนเขามีต้นไม้ใหญ่ร่มรื่น มีถ้ำเล็กถ้ำน้อย สามารถเป็นที่หลบแดดฝนได้ และมีลานกว้าง ท่านฤาษีผู้เป็นหัวหน้าเห็นว่า มีสัปปายะดี จึงได้พากันพักอยู่บนเขาแห่งนี้ และนัดกันว่า ทุกวันขึ้น ๑๕ ค่ำ พวกเราจะมาบนกันบริเวณลานกว้างแห่งนี้ เพื่อแลกเปลี่ยนประสบการณ์การปฏิบัติ ผู้ใดรู้ธรรมก่อน ก็ให้นำมาสนทนากัน จากนั้นทุกตนต่างก็แยกย้ายกันไป

    _________________________________

    ประวัติหลวงปู่เกษรีฤาษี และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ ดวง

    ตอน ๕ พญาอัสดรนาคราช


    สำหรับพระฤาษีผู้เป็นหัวหน้าได้เลือกถ้ำแห่งหนึ่ง ด้านในมีธารน้ำไหล ท่านมักพอใจในการเพ่งน้ำเป็นอารมณ์ เมื่อมึความสุขมักแผ่ขยายความสุขนั้นไปยังบรรดาสรรพสัตว์ทั้งหลาย ให้มีความเมตตา เอื้ออารีย์ต่อกัน ท่านทำอย่างนี้เป็นประจำ ความเมตตานี้แผ่ขยายกว้างขึ้น จนไปกระทบจิตของพญานาคตนหนึ่ง ซึ่งได้อาศัยอยู่ในภพบาดาล มีทางเข้า-ออกใต้ธารน้ำแห่งนั้น ลึกไปประมาณ ๑ โยชน์(๑๖ กม.)
    ทำให้พญานาคตนนี้ออกจากสมาบัติ ดำดินขึ้นจากใต้พิภพ ปรากฏต่อหน้าพระฤาษีตนนั้น และกล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า ด้วยกลิ่นของศีล และกระแสความเมตตาของท่าน ส่งกระทบจิตของกระผม ทำให้ต้องออกจากสมาบัติมากราบพระคุณเจ้าขอรับ”ท่านหัวหน้าพระฤาษีได้กล่าวถามด้วยความเมตตาว่า ..

    “ท่านเป็นใครกันหรือ”พญานาคราชตอบว่า

    “กระผมมีนามว่า อัศดรนาคราชขอรับ เป็นชาวนาคพิภพ ลงไปใต้ธารน้ำแห่งนี้ จะมีถ้ำใต้น้ำที่สามารถเชื่อมต่อไปยังนาคพิภพได้ขอรับ พวกกระผมมีทั้งหมด ๔๙ ตนที่ได้ปวารณาดูแลสมบัติแผ่นดิน จำพวกพระพุทธรูปต่าง ๆ มานานกว่า ๙๑ กัปปแล้วขอรับ ตั้งใจจะทำหน้าที่นี้ และขอพบพระพุทธเจ้า ๔๙ พระองค์ขอรับ”ท่านหัวหน้าพระฤาษีกล่าวว่า

    “อย่างนั้นหรอกหรือ เธอเห็นสิ่งใดในตัวเราหรือ”พญาอัศดรนาคราชกล่าวว่า

    “กระผมเห็นความเมตตาในจิตของพระคุณเจ้า ผู้มีกระแสจิตเย็นเช่นนี้มีแต่พระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าเพียงเท่านั้นขอรับ”ท่านหัวหน้าพระฤาษีกล่าวว่า

    “เธอเคยพบพระพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าหรอกหรือ”พญาอัสดรนาคราชกล่าวว่า “ขอรับ กระผมเคยอุปัฏฐากทั้งพระสัมมาสัมพุทธเจ้า และพระปัจเจกพุทธเจ้าขอรับ กระแสจิตนั้นเย็นมาก กระแสของพระคุณเจ้า แม้ยังไม่เทียบเท่า แต่คล้ายกันมากขอรับ”

    ท่านหัวหน้าพระฤาษีตอบว่า “ เราเองไม่รู้หรอกนะ พวกเรามี ๕๐๐ ตน ปรารถนาอย่างเดียวกันคือ ปรารถนาจะรู้ธรรมะด้วยตนเอง ทุกวันพระขึ้น ๑๔-๑๕ ค่ำพวกเราจะออกไปยังลานกว้างหน้าถ้ำใหญ่แห่งนั้น เพื่อแลกเปลี่ยนความรู้กัน”

    พญาอัสดรนาคราชนั้น รู้สึกปิติใจยิ่งนัก จึงกราบอาราธนาว่า “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า ในวันขึ้น ๑๔ ค่ำที่จะถึงนี้ กระผมขออาราธนาพระคุณเจ้าไปโปรดชาวนาคพิภพด้วยเถิดขอรับ”
    ท่านหัวหน้าพระฤาษี จึงพิจารณาว่า “ชาวนาคพิภพ แม้เป็นสัตว์เดรัจฉาน แต่มีความศรัทธาเพียงนี้ เราควรจะสงเคราะห์เท่าที่ทำได้”
    จึงได้นิ่งเป็นการรับอาราธนา ทั้ง ๆ ที่ได้ทราบว่า การไปนาคพิภพนั้น อาจจะได้รับอันตรายจากพิษนาคก็เป็นได้ ด้วยความเมตตา
    พญาอัสดรนาคราชได้รับรู้ถึงวารจิตของท่านจึงกล่าวว่า “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า การไปคราวนี้ พระคุณเจ้าทั้งหลาย จะไม่ได้รับอันตรายจากพิษนาค เนื่องจากในยุคของสมเด็จพระพุทธวิปัสสี พระองค์ทรงประทานพรให้พวกเราว่า..
    “หากในอนาคตกาล ที่มีผู้ทรงศีล หรือมนุษย์ที่มีคุณธรรม มีความเมตตา คิดสงเคราะห์ชาวนาคพิภพ ขอพิษนาคจงอย่าได้ทำร้ายผู้ทรงศีล หรือมนุษย์ผู้นั้นได้”


    ท่านหัวหน้าฤาษีจึงกล่าวว่า “ถ้าเป็นเช่นนั้น ขอท่านจงทำตามความประสงค์เถิด”

    จากนั้นพญาอัสดรนาคราช จึงได้ลากลับนาคพิภพตามเดิม

    ครั้นถึงวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือน ๓ ปีมะเส็ง เหล่าพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ตนได้มาประชุมรวมกัน ท่านห้วหน้าพระฤาษีได้เล่าเรื่องราวของพญาอัสดรนาคราชได้เหล่าพระฤาษีฟัง เมื่อกล่าวจบแล้ว ปรากฏร่างพญาอัสดรนาคราชในร่างมานพหนุ่ม ปรากฏขึ้น พร้อมพญาอัคคีตาปะในร่างมานพหนุ่ม พร้อมทหารและราชรถอีก ๕๐๐ คัน

    พญาอัคคีตาปะนาคราชได้ก้มกราบพระฤาษีทั้งหลายและกล่าวว่า ..

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้าทั้งหลาย ข้าฯมีนามว่า พญาอัคคีตาปะนาคราช เป็นโอรสองค์โตของพญาโภคนาคราช ผู้ครองเมืองสัตตรัตนนคร ซึ่งเป็นพระสหายแห่งพญาอัสดรนาคราช ขอนิมนต์พระคุณเจ้าทุกรูปไปยังนาคพิภพของเรา เพื่อให้พวกเราได้มีโอกาสทำบุญให้ถูกเนื้อนาบุญด้วยเถิดขอรับ”
    ท่านหัวหน้าพระฤาษีได้พยักหน้าเล็กน้อยเป็นเชิงตอบรับ ก้าวขึ้นราชรถ อันมีความละเอียดปราณีตเทียบเท่ากับราชรถจากสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ด้วยบรรดานาคราชผู้มีฤทธิ์ทั้งหลายได้อธิษฐานราชรถแห่งตนมารับพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ตน

    ความรวดเร็วประดุจลมพัดไปในอากาศ เหล่าพระฤาษีได้มาปรากฏยังลานทรายแก้วมีสภาพความเป็นทิพย์มีดอกไม้สีขาวส่งกลิ่นหอมมากอ่อน ๆ เหล่านาคกัลยาได้นำดอกไม้นานาพันธุ์มาโปรยระหว่างพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ดำเนินไป สร้างความปิติเบิกบานใจ


    พญาสุนันโทนาคราช พญาโภคนาคราช พญาศรีสรรเพ็ญนาคราช พญานาคราชเมืองอื่นๆ รวม ๗ เมืองใหญ่ ต่างเสด็จมาต้อนรับเหล่าพระฤาษีด้วยความเคารพ

    พญาโภคนาคราชได้นำน้ำอมฤตที่ได้รับการแบ่งปันจากท้าวสักกเทวราช รดเท้าของพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ พญาอัคคีตาปะ พญาอัครนาคราช และบรรดาพระโอรสกษัตริย์เมืองต่าง ๆ ใช้ผ้าทิพย์เช็ดเท้าของพระฤาษีทั้งหลาย จากนั้นได้ก้าวขึ้นยังที่ประทับเป็นอาสนะที่ถักทอด้วยใยผ้าชนิดพิเศษ

    พญาศรีสรรเพ็ชรได้อาราธนาพระฤาษีผู้เป็นหัวหน้าประทับบนอาสนะแก้ว ประดับด้วยรัตนะทั้ง ๗ จากนั้นพญาสุนันโทนาคราช ผู้เป็นใหญ่ในบรรดากษัตริย์ทั้ง ๗ ได้กล่าวว่า..

    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ มาบัดนี้เราชาวนาคพิภพได้มีโอกาสประสบบุญใหญ่ ได้อาราธนาพระคุณเจ้าทั้งหลายเสวยอาหาร อันเป็นทิพย์ที่พวกเราได้เตรียมไว้แล้ว อาหารทิพย์เหล่านี้ส่วนใหญ่มาจากชาวนาคพิภพเราได้นำถวาย ส่วนอาหารที่มีถาดทองตั้งอยู่นั้น เป็นอาหารจากชาวสวรรค์ชั้นดาวดึงส์ได้มาร่วมบุญในครั้งนี้ด้วยขอรับ”


    เมื่อพญาสุนันโทนาคราชกล่าวจบ ก็ปรากฏท้าวสักกเทวราช เทพบุตร เทพธิดา ลอยอยู่เหนือชาวนาคพิภพ แต่ไม่สูงกว่าพระฤาษีทั้งหลาย

    ท้าวสักกเทวราชทรงตรัสว่า “ข้าฯแต่พระคุณเจ้าผู้เจริญ พวกเราได้มีโอกาสอันดีได้มาอุปัฏฐากพระคุณเจ้าทั้ง ๕๐๐ เป็นมหากุศลอย่าวยิ่ง”

    จากนั้นเหล่าเทพธิดาทั้งหลายต่างโปรยดอกไม้แก้วลงมา จากนั้นท่านหัวหน้าฤาษีได้สั่งสอนเหล่าเทวดาและชาวนาคพิภพทั้งหลายให้ยึดมั่นในศีล จากนั้นท้าวสักกเทวราช เทพบุตรเทพธิดากลับยังสวรรค์ชั้นดาวดึงส์

    พระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ตนได้รับอาราธนาจากพญาสุนันโทนาคราชได้อยู่สั่งสอนชาวนาคพิภพเป็นเวลา ๗ วัน ในสถานที่นั้นมีดวงแก้วมณีดวงหนึ่งมีลักษณะพิเศษเป็นดวงแก้วมณีภายในเป็นสีแดง ระหว่างนั้นมีแสงเปล่งออกจากดวงแก้วมณี

    _____________________________________

    ประวัติหลวงปู่เกษรีฤาษี และดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ ดวง
    ตอนจบ อธิษฐานดวงแก้วมณี

    เหล่าพระฤาษีต่างสงสัย แต่ด้วยมารยาทไม่กล้าถาม พญาอัสดรนาคราชเป็นผู้รู้วารจิต จึงได้กล่าวว่า..
    “พระคุณเจ้าสงสัยเรื่องดวงแก้วหรือขอรับ”

    พญาอัสดรนาคราชได้กล่าวว่า.. “ดวงแก้วมณีนี้เป็นดวงแก้วที่อธิษฐานโดยพระฤาษี ผู้เป็นพระอาจารย์ของกระผมนามว่า “พระเกษรีฤาษี” ได้นำผ้ากำพลแดง อันเป็นเครื่องนุ่งห่มของพระปัจเจกพุทธเจ้าในอดีต ๑๐๐๐ องค์ มีพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า เป็นประธาน

    ภายในนอกจากจะมีผ้ากำพลแดงแล้ว ยังมีขั้วพระหทัยของพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้าประดิษฐาน และมีแร่ทองคำอันเกิดจากวิชาเล่นแร่แปรธาตุที่ฝังอยู่ในกายพระปัจเจกพุทธเจ้าบางพระองค์ ก่อนที่พระองค์จะบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า ทรงบวชเป็นพระฤาษีเช่นเดียวกับพระคุณเจ้าทั้งหลาย


    บางองค์ชำนาญวิชาเล่นแร่แปรธาตุ สุดท้ายทุกพระองค์ต่างบรรลุเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้า”
    เมื่อได้ฟังพญาอัสดรนาคราชเล่าเรื่องราว พระฤาษีทั้งหลายต่างปลื้มปิติ น้อมสักการะพระสารีริกธาตุในส่วนขั้วพระหทัยของพระมังคลปัจเจกพุทธเจ้า ก้มกราบขอขมา พร้อมอธิษฐานว่า
    “ธรรมใดอันพระองค์ทั้งหลายได้บรรลุแล้ว ขอพวกเราทั้งหลายได้บรรลุธรรมเช่นพระองค์ด้วยเถิดเจ้าข้าฯ”
    จากนั้นพระฤาษีผู้เป็นหัวหน้าได้กล่าวว่า..
    “เราอยากรู้วิชาเล่นแร่แปรธาตุ เป็นดวงแก้วมณี ท่านจะพอแนะนำได้หรือไม่”
    พญาอัสดรนาคราชได้กล่าวว่า...
    “ข้าฯแต่พระคุณเจ้า ขณะนี้ท่านเกษรีฤาษี ผู้เป็นพระอาจารย์ของข้าพเจ้าได้เข้าสมาบัติอยู่ แต่มีศิษย์ผู้น้องของท่านนามว่า “ท่านสีหบดินทร์ฤาษี” และท่านอินทร์ปัตต์ฤาษีเป็นผู้ถ่ายทอดวิชาต่าง ๆ ให้แก่พวกเรา ท่านสีหบดินทร์ฤาษีนั้น ได้อยู่ปากทางเข้านาคพิภพนี้เอง หากพระคุณเจ้าประสงค์จะสนทนาธรรม หลังจากนี้กระผมจะพาไปหาท่านสีหบดินทร์ขอรับ”
    หลังจาก ๗ วันแล้ว พญาอัสดรนาคราชได้พาพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ไปยังปากทางขึ้นยังโลกมนุษย์ ได้พบกับท่านสีหบดินทร์ฤาษี ท่านสีหบดินทร์ฤาษีนั้นได้ทราบเรื่องต่าง ๆ ด้วยญาณทัสสนะจึงได้ตกลงสอนวิชาต่าง ๆ ให้จนพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ สำเร็จอภิญญาสมาบัติ ตลอดทั้งวิชาเล่นแร่แปรธาตุ

    ท่านสีหบดินทร์ฤาษีนั้นจึงได้ให้พระฤาษีทั้ง ๕๐๐ เข้าสมาบัติเป็นเวลา ๑๐๐๐ ปี เมื่อครบกำหนดได้อธิษฐานดวงแก้วคนละดวง พระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ได้กราบลาท่านสีหบดินทร์ฤาษี จากนั้นได้นำดวงแก้วทั้ง ๕๐๐ ดวงไปประดิษฐาน เพื่อเป็นบริวารดวงแก้วหุ้มผ้ากำพลแดง


    ต่อมาพญาอัสดรนาคราช ได้ส่งพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ กลับยังที่พำนักเดิม พระฤาษีทั้ง ๕๐๐ ต่างตระหนักดี ว่า สิ่งที่เกิดขึ้นต่าง ๆ ที่ไม่คาดฝันนั้นเกิดจากการประพฤติธรรมปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ การรักษาศีลอันบริสุทธิ์ ทำให้พระฤาษีทั้งหลาย ต่างเร่งบำเพ็ญเพียรภาวนา ต่างสำเร็จเป็นพระปัจเจกพุทธเจ้าในกาลต่อมา
    กล่าวถึงในนาคพิภพ พญาโภคนาคราช ผู้มีหน้าที่ดูแลดวงแก้วมณีทั้งปวง เห็นดวงแก้วมณีของพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ เปล่งแสงออกมา จึงได้ฉุกคิดได้ว่า..

    “พระอาจารย์สีหบดินทร์บอกว่า “วันใดดวงแก้วมณีของเหล่าพระฤาษีทั้ง ๕๐๐ เปล่งแสง วันหนึ่งคือวันที่ท่านเหล่านั้นต่างบรรลุพระปัจเจกพุทธเจ้า ขอเธอจงนำดวงแก้วมณีนี้ไปถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าเถิด”

    พญาโภคนาคราช พร้อมพระโอรส คือพญาอัคคีตาปะ พญาอัครนาคราช และนาคราชอื่น ๆ ได้นำดวงแก้วมณีทั้ง ๕๐๐ ดวงไปถวายแด่พระปัจเจกพุทธเจ้าทั้ง ๕๐๐ ดวง

    นอกจากนี้ยังได้ถวายดวงแก้วมณีขนาดใหญ่กว่า ๑ คู่ นามว่า “อัครมงคลธรรม –อภิธรรมสิริโชติ” ถวายแด่หัวหน้าพระปัจเจกพุทธเจ้า เพื่อเป็นพุทธบูชา จากนั้นก็ได้ลากลับนาคพิภพ

    ส่วนพระปัจเจกพุทธเจ้าได้นำดวงแก้วมณีนั้นมอบแด่ผู้ที่อุปัฏฐากพระองค์ในช่วงหลังจากบรรลุธรรมไม่นาน ดวงแก้วนี้ประดุจดวงแก้วบรมจักรพรรดิ โดยท้าวสักกเทวราชในยุคนั้นได้มอบหมายให้เทวดารักษาดวงแก้ว ซึ่งส่วนใหญ่ทรงอารมณ์พระอริยเจ้า บางดวงเป็นพระโพธิสัตว์ เพื่อสงเคราะห์ผู้สร้างความดีในพระพุทธศาสนา

    หลังจากยุคนั้น เกิดน้ำท่วมใหญ่ พญาโภคนาคราชได้สั่งนาคราชทั้งหลายได้เก็บดวงแก้วทั้งหมด ไว้บูชาดวงแก้วสหัสสบดินทร์ไตรภพตามเดิม รอวาระที่จะมาช่วยผู้เป็นเจ้าของเดิมยามยุคเข็ญ

    จบประวัติดวงแก้วพระปัจเจกพุทธเจ้า ๕๐๐ ดวงแต่เพียงเท่านี้ค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญกับทุก ๆ ท่านที่เป็นเจ้าของดวงแก้วทุก ๆ ดวงค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2014
  10. Chanchalerm

    Chanchalerm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มกราคม 2014
    โพสต์:
    285
    ค่าพลัง:
    +757
    ร่วมบูชา 1 ลูกครับ
     
  11. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,641
    ค่าพลัง:
    +55,532
    ขอร่วมบุญบูชา 2 ดวงครับ
     
  12. เติบโต

    เติบโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    819
    ค่าพลัง:
    +5,298
    ขอบคุณพี่น้ำใส มากครับ ที่ได้บอกบุญนี้ ผมได้บอกบุญลูกน้อง เขาสนใจ เลยแจ้งบูชา ในนาม เติบโต 2 ดวง จะให้ลูกและภรรยาร่วมบุญ อีก 1 ดวงเป็นของลูกน้อง ครับ ให้ลูกน้องเข้าไปสมัครสมาชิกแต่อย่างไงก็ไม่ได้ ไม่ผ่าน เลยเปิดเข้ามาดูอีกที ลูกน้องเลยสบายใจ ขอบคุณที่ให้ร่วมบุญครั้งนี้ครับ
    สรุปรวมทั้งหมด 3 ดวง นะครับ
    ขอให้พี่น้ำใส เจริญในทางโลก และทางธรรม สำเร็จในทางธรรม และได้เผยแพร่ แนะนำสิ่งที่เป็นกุศล ต่อไปนะครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 21 สิงหาคม 2014
  13. เติบโต

    เติบโต เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    819
    ค่าพลัง:
    +5,298
    ผมอ้างอิงแต่ มาออกหน้านี้ งง ครับ ขออภัยด้วยนะครับ ที่ข้อความปรากฎไม่ตรงกัน
     
  14. Numsai

    Numsai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    5,778
    ค่าพลัง:
    +87,677
    ขออนุโมทนาบุญกับคุณวง และคุณลุงจิ๋วที่ได้ร่วมสร้างพระพุทธวิปัสสีโภครัศมีโชติด้วยกันค่ะ

    พระพุทธรูปนี้ได้แกะองค์พระแล้ว โดยตั้งใจจะถวายในงานกฐินวัดดอนธาตุ อ.หนองหาน จ.อุดรธานีค่ะ ซึ่งทั้งสองท่านจะได้อานิสงส์แห่งกฐินทานด้วยค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ
    Numsai


    สามารถจองแทนได้ค่ะ เนื่องจากเปิดโอกาสได้สร้างพระด้วยกันค่ะ หากได้ปัจจัยเกินจะนำไปร่วมบุญกฐินวัดดอนธาตุด้วยค่ะ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai



    ไม่เป็นไรหรอกค่ะ ถือว่าเข้าใจกันตามนี้ อ้างอิงเรื่องของพระวิษณุกรรม เป็นเรื่องที่เป็นมงคลค่ะ

    ท่านเป็นหนึ่งในผู้รับรองคุณมาเกิด อิอิ

    ขออนุโมทนาบุญด้วยค่ะ

    Numsai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 26 สิงหาคม 2014
  15. Noinea

    Noinea เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    172
    ค่าพลัง:
    +1,902
    จองร่วมบุญ 1 ดวงค่ะ
     
  16. bealm

    bealm เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤษภาคม 2013
    โพสต์:
    158
    ค่าพลัง:
    +2,379
    จองร่วมบุญ 1 ดวงครับ
     
  17. เพชร2545

    เพชร2545 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    454
    ค่าพลัง:
    +4,248
    ขอบูชา 2 ดวงในนามคุณพ่อ และพี่สาวค่ะ อนุโมทนาบุญทุกท่านค่ะ
     
  18. Giant 1

    Giant 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กรกฎาคม 2011
    โพสต์:
    1,014
    ค่าพลัง:
    +9,211
    ขอร่วมบุญบูชา 2 ดวงครับ

    ขอน้อมถวายท่านจิตโตครับ
     
  19. widya

    widya เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    1,095
    ค่าพลัง:
    +13,214
    คุณ Lee_bangkok จอง ๑ ดวงในเว็บประมูลดวงแก้ว
     
  20. suwat.su

    suwat.su เป็นที่รู้จักกันดี สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    7,641
    ค่าพลัง:
    +55,532
    ขอร่วมบุญบูชาเพิ่ม 2 ดวงครับ

    ขอน้อมถวายท่านจิตโตครับ
     

แชร์หน้านี้

Loading...