ประสบการณ์บ้านเช่า..เมื่อบ้านเช่าหลังล่าสุดมีเสาตกน้ำมัน

ในห้อง 'เรื่องผี' ตั้งกระทู้โดย aunshana, 28 สิงหาคม 2014.

  1. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    ประสบการณ์เกี่ยวกับสิ่งลี้ลับแบบบ้าน ๆ ตั้งแต่เด็กจนโตค่ะ

    ก่อนอื่นบอกก่อนว่า ดิฉันย้ายบ้านมาตลอดชีวิตนับรวมแล้ว 20 ครั้งเนื่องจากปัญหาทางครอบครัว

    จนกระทั่งอายุ 23 ก็ไม่เคยย้ายอีกจนกระทั่งแต่งงานย้ายเข้าบ้านสามี ส่วนพ่อกับแม่ก็อยู่บ้านเช่าหลังสุดท้ายที่ดิฉันเป็นคนหาเช่าให้และจ่ายค่าเช่าให้จนปัจจุบันและอนาคตคาดว่าจะย้ายมาอยู่ใกล้ ๆ กันในละแวกบ้านสามีซึ่งอยู่คนละจังหวัดกัน

    ดิฉันเกิดวันพุธตีห้าปีจอ (เผื่อใครอยากดูดวงให้ฟรีก็เชิญนะคะ อิอิ)

    ไม่เคยเจอจัง ๆ ดังนั้นท่านใดชอบอ่านแบบเห็นจะ ๆ กับตาคงผิดหวังไม่ต้องเลื่อนอ่านต่อก็ได้นะคะ

    เรื่องทั้งหมดออกแนวโดนอำได้ยินเสียง และเห็นแว๊บไปมาเท่านั้นค่ะ โปรดใช้วิจารณญาณในการอ่านนะคะ

    ..........................................

    เรื่องแรก บ้านร้างให้หวย

    ก่อนเข้าอนุบาล ยายเคยเล่าให้ฟังว่า บ้านที่เช่าอยู่ตอนนั้นจะอยู่ใกล้วัดและบ้านร้างหลังนึงในป่าไผ่ หน้าบ้านทางเดินเข้าจะมีตะเคียนต้นใหญ่ขวางอยู่ ยายบอกดิฉันตอนนั้นชอบไปเล่นในบ้านร้างกับเด็กอื่นบ่อย ๆ บางทีไปคนเดียว ซึ่งปกติผู้ใหญ่แค่เดินผ่านยังไม่เดิน เพราะสมัยก่อนเคยมีคนหามศพจะไปวัด แล้วไม่รู้หามยังไง ลื่นพลัดตกลงไปในคูน้ำข้างบ้านนั้นทั้งคนหามและศพ แต่งมเท่าไรก็หาไม่เจอ แต่ก็ไม่รู้ว่าสุดท้ายเจอมั้ยเพราะยายลืม ฮาๆๆๆ แต่หลังจากนั้นคนอยู่บ้านนั้นเจอดีบ่อย ๆ จนต้องย้ายหนีไปเอง

    พอหกโมงเย็นรู้ว่าแม่จะกลับจากทำงานก็จะแจ้นวิ่งกลับบ้านก่อนแม่มา มีวันนึง เย็นมากแล้วดิฉันยังไม่กลับ วันนั้นดิฉันจำได้ลาง ๆ ว่าในบ้านร้างมีแต่ความว่างเปล่าและลังน้ำอัดลมเก่าฝุ่นเขรอะลังนึงทิ้งไว้ และดิฉันชอบเล่นในบ้านไม่รู้ทำไม ชอบไปเล่นตรงร่องพื้น ใต้ถุนเป็นดินกอง มีตัวกินมดทำรังแล้วดิฉันเป่าเล่นให้มันทำรูใหม่ รู้สึกสนุกดี แล้วอยู่ดี ๆ ก็มีเลขขึ้นที่ดินที่ตัวกินมดทำรู ตอนนั้นดิฉันรู้จักเลขไม่กี่ตัว จำได้แค่นี้ แล้วยายบอกว่า ดิฉันวิ่งแจ้นมาหน้าตื่น ยายก็กำลังจะไปตามด้วยความโมโหเพราะเลยเวลา มาถึงดิฉันบอกเลขยาย 00 สองตัว ยายโมโหด่ากลับ 00 ...อเมิงจิ!!! กี่โมงแล้ว@%%*&^%#$ ยาวจนจำไม่ได้ไปอีกนาน วันรุ่งขึ้นตรงกับหวยออก เลขนี้มันออกจริง ๆ ยายก็บ่นอุบว่าไม่เล่น ถามดิฉันว่าไปเอาเลขมาจากไหน ดิฉันชี้ไปทางบ้านร้าง หลังจากนั้นก็มีคนไปขอบ่อย ๆ และก็ถูกกันเยอะ หลังจากนั้นก็ไม่ได้ไปเล่นอีก กลัวยายด่าไม่ซ้ำคำอีกมั้งคะ

    ..............................................

    2.ประสบการณ์เฉียดตาย หลวงปู่ทวดช่วยชีวิต

    บ้านหลังเดิมก่อนเข้าอนุบาลเช่นเคย (อันนี้เกือบตาย) บ้านดิฉันเช่าอยู่ในสวนกระท้อน น้ำไฟตอนนั้นไม่มีใช้ แม่กับยายต้องลงไปตักน้ำในร่องสวนมาใช้ ยายไปเที่ยวใต้บ่อย ๆ กลับมาก็เช่าหลวงปู่ทวดเหยียบน้ำทะเลจืดมาให้ดิฉันห้อยคอ เอาไว้คุ้มครองเพราะดิฉันซนมากตอนเด็ก ๆ ชอบไปเล่นไกลบ้านกับเพื่อนเด็กด้วยกัน จึงกลัวดิฉันจะตกน้ำตายซักวันเพราะแถวนั้นเป็นสวนร่องสวนและติดคลอง วันนึงแม่ลงไปตักน้ำในคูในสวน สะพานเป็นสะพานไม้กระดานเล็ก ๆ ถ้าเดินตามกัน ไม้จะดีดคนที่สองตกน้ำได้ถ้าไม่ระวัง น้ำในคูลึกและมีแหนกับผักกระเฉดเต็มไปหมด เวลาจะตักแม่ต้องเอากระป๋องไล่แหนก่อน วันนั้นดิฉันเดินตามแม่ไปโดยแม่ไม่เห็นเพราะเดินตามหลังแม่ ตอนแม่หย่อนตัวลงตักน้ำ ดิฉันที่เดินตามโดนไม้ดีดตกป๋อมลงไปในคู ภาพตอนนั้นจำได้แม่น ใต้น้ำมันมืดมีแต่สาหร่ายและลึก หายใจเอาน้ำเข้าไปแสบไปถึงสมองแล้วก็จำอะไรไม่ได้อีก แม่ดิฉันว่ายน้ำไม่เป็นและตัวเตี้ย ทำได้อย่างมากก็เอาไม้คานที่หาบกระป๋องน้ำมาควานหาให้ดิฉันจับ แม่บอกตอนนั้นไม่เห็นตัวแล้ว ดิฉันจมดิ่ง แม่ร้องให้คนมาช่วยแต่ในสวนมันห่างจากบ้านคน ยายก็ไม่อยู่ตาก็ไม่อยู่ แม่บอกว่าอยู่ดี ๆ ก็เห็นสร้อยสแตนเลสที่ห้อยเหรียญหลวงปู่ทวดลอยขึ้นมาตรงมือที่แม่วักไล่แหนใกล้ ๆ กับสะพานไม้ แม่นึกถึงหลวงปู่ให้ช่วยสลับกับร้องไห้เรียกดิฉัน แล้วอยู่ดี ๆ ดิฉันก็ทะลึ่งพรวดขึ้นมาตรงสร้อยที่ลอยอยู่ เหมือนโดนดึง แม่เห็นก็คว้าคอเสื้อไว้ไม่ให้จม แล้วร้องเรียกคนมาช่วยดึงเพราะดิฉันตอนเด็กอ้วนมาก แล้วก็มีผู้ชายบ้านใกล้ ๆ มาช่วยกันลากขึ้น แม่บอกในปากดิฉันมีแต่แหน ลุงผู้ชายอุ้มไปช่วยกันทำให้สำลักน้ำออกมา ตกน้ำหายไปแค่เกือบนาที แต่ที่แม่แปลกใจคือสร้อยลอยขึ้นมาได้ยังไง ทั้งที่เป็นสแตนเลส และจมหายไปในคูน้ำนั้นหลังจากดิฉันขึ้นมาแล้ว ทุกวันนี้ดิฉันเชื่อเสมอว่าหลวงปู่ทวดมีอิทธิฤทธิ์จริง ๆ ค่ะ ตอนนั้นเด็กมากแค่แสบสมองตอนสูดน้ำเข้าไป ที่เหลือแม่เล่าหมดเลย แหะ ๆ

    .................................................

    3.ไม่ได้ฝัน ครั้งแรกครั้งเดียวที่เห็นกับตา

    บ้านหลังเดิม ยังไม่เข้าอนุบาลเช่นเคยค่ะ ตอนนั้นพ่อนั่งกินเบียร์อยู่ เปิดเพลงฝรั่งเก่า ๆ ฟัง ทุกวันนี้ยังจำได้เลยว่าเพลงอะไร วันนั้นฝนเพิ่งหยุดตก เป็นตอนมืด ประตูบ้านดิฉันเป็นไม้เก่า ๆ เปิดช่องระบายลมหัวกับท้าย ทำให้มองเห็นความมืดข้างนอกตรงช่องว่างสองช่องของประตูนั่น พ่อเมาได้ที่โม้เสียงดังให้แม่ฟัง ดิฉันจำได้แม่น ฉากนั้นดิฉันเกาะอยู่หลังพ่อ มองไปตรงช่องประตู เห็นหัวผู้ชายผมฟูสีดำหยิกหยอย ผิวหน้าเหลืองอ๋อย แต่จำลักษณะหน้าตาไม่ได้ค่ะ ยืนจ้องดิฉันนัยนต์ตาแดงก่ำ เห็นเล็บแดงแป๊ดเกาะอยู่ตรงช่องลมด้านบน ดิฉันนึกว่าสัตว์ประหลาด เรียกพ่อดู พ่อก็เมา เม้าท์แตกไม่สนใจ ดิฉันก็พยายามสะกิด พ่อ ๆ ตอนนั้นบอกตรง ๆ ค่ะ รู้สึกตัวเองไม่ได้ดังใจจะพูดอะไรทำไมพูดไม่ออก อ้อแอ้ อยากให้พ่อหันดูไอ่ตัวเนี้ย ได้แต่สะกิดเรียกพ่อ ๆ ๆ ดูซิ ๆ พ่อก็ไม่ดู ดิฉันเหลือบมองที่ช่องลมล่างเห็นเท้าสีเหลืองอ๋อยเล็บแดงแป๊ดเช่นเดิม เงยไปก็จ้องมองอยู่ แล้วอยู่ดี ๆ เค้าก็เอามือทะละฝาบ้านเล็บยาวแดงมาตรงหน้าดิฉันเหมือนจะแกล้งให้ดู ดิฉันก็เรียกพ่อๆๆๆ พ่อก็มาว รู้แต่ว่าตอนนั้นจด ๆ จ้อง ๆ กันอยู่สองคนกับผีตัวเหลืองนั้น ปรากฎว่าอยู่ดี ๆ เค้าก็หายไปเอง นี่เป็นครั้งแรกที่เห็นชัดมาก ภาพยังจำจนวันนี้เลยค่ะ ไม่รู้ตัวอะไรกันแน่ ท่านใดรู้บอกทีนะคะ อันนี้เห็นจริง ๆ และชัดมาก ๆ แม้จะจำไม่ได้ละเอียดมาก แต่ยังติดตาอยู่ทุกครังที่นึกถึงค่ะ

    ..........................................................

    พรุ่งนี้ว่าง ๆ จะมาต่อเรื่องต่อไปนะคะ วันนี้ง่วงมากขอนอนก่อนค่ะ
    ใครชอบก็ขออนุโมทนาบุญ ใครไม่ชอบก็อโหสิกรรมด้วยนะคะ
     
  2. ดาวพุธ

    ดาวพุธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    160
    ค่าพลัง:
    +483
    ชอบครับ...รอฟังต่อด้วยคนนะครับ :cool:
     
  3. phataravudh

    phataravudh เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 สิงหาคม 2012
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +2,440
    ผีตองเหลืองหรือเปล่าครับ 5555 หรือเป็นป๊อปเล็บแดง
     
  4. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    ไม่รู้ผีอะไรค่ะ ไม่มาตามปกติทั่วไป เหลืองอ๋อยมาเลย ตอนนั้นจำได้ว่าไม่กลัวเท่าไรค่ะ แค่สงสัย มันตัวอะไร เลยสะกิดเรียกพ่อให้หันไปดู แต่พ่อก็มาว เง้อ
     
  5. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    555555 ผีตองเหลือง 55555 ขำง้ะ !!
     
  6. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    เรื่องต่อมานะคะ

    4.ว่านนางคุ้ม(ผู้เฒ่าเฝ้าบ้าน)

    บ้านหลังเดิม เรื่องนี้หากใครเชื่อเรื่องว่านนางคุ้ม นกคุ้ม จะพอทราบคุณของว่านในทางนี้
    ยายกับตาดิฉันชอบไปเที่ยวใต้ ไม่ก็ไปทอดผ้าป่าไกล ๆ หลายครั้งที่ปิดบ้านนานเกิน 7 วัน
    ยายดิฉันมีพระเครื่องดี ๆ หลายองค์ที่เก็บรักษามาตั้งแต่รุ่นทวดเทียด จนตอนนี้ตกทอดมาถึงดิฉันบางส่วนแต่ไม่รู้เลยว่าพระอะไรบ้าง ได้แต่บูชาบนหิ้งพระ แม่ก็แปลกใจทำไมถึงกล้าทิ้งบ้านไปนาน ๆ ไม่ห่วงพระเครื่องจะถูกขึ้นบ้านขโมยหรือ ยายบอกแม่ว่า ไม่ห่วงหรอก บอกเค้าไว้แล้วว่าถ้าไม่อยู่ช่วยดูแลให้ด้วย แม่ก็ไม่เข้าใจกระทั่ง 3 วันผ่านไปแม่ไปให้ข้าวหมาที่บ้านยายกับดิฉัน มีป้าขายข้าวแกงที่ต้องออกไปซื้อของตอนตีสองขับรถเครื่องผ่านมาบ้านยายดิฉัน บอกแม่ว่า "บ้านนี้ไม่หลับไม่นอนตีสองตีสามจุดเทียนนั่งจั่วไพ่กันเรอะ สองสามวันมานี่ คนเต็มบ้านทุกวันเลยนะ" แม่ดิฉันก็นิ่งไปสักพักได้แต่หัวเราะแล้วก็พูดแค่ "แบบนี้แหล่ะป้า ประจำ" พอวันที่ยายกลับมาแม่ก็มาเล่าให้ฟัง ยายบอกแวะไปตลาดป้าคนนั้นยังถามอยู่เลยเมื่อคืนเปิดหน้าต่างเล่นไพ่เสียงดังกันทั้งคืนไม่กลัวตำรวจบ้างเหรอ ยายก็บอกว่า ป่าว ไม่ได้เล่นไพ่ นอนไม่หลับนั่งคุยกันเฉย ๆ แล้วแม่ก็ถามว่าคืออะไร ยายบอกว่า ว่านนางคุ้มน่ะ ที่ยายปลูกไว้ ตอนนั้นเยอะมาก ทุกกระถางยายผูกผ้าแพรสามสีหมด ยายเชื่อว่าว่านนางคุ้มหากเราไม่อยู่บ้านเค้าจะให้คุณทำให้คนนอกเห็นว่ามีคนอยู่ในบ้าน ขโมยจะไม่อยากขึ้น เพราะบางทีอยู่เต็มบ้านดึกดืนไม่นอน ซึ่งอันนี้แล้วแต่ความเชื่อนะคะ หลังจากนั้นป้ากับลุงมาเที่ยวบ้านยาย ไม่เชื่อเรื่องนี้ นอนเล่นนอกชานบ้านเห็นใบว่านนางคุ้มสวยดีเอาเทียนไปลนใบเล่นจนใหม้ไปครึ่งนึง ยายก็ด่าแต่ไม่ได้บอกว่าเพราะอะไรแค่ด่าว่าต้นไม้ปลูกดี ๆ มาเผาเล่นทำไม ป้าเป็นคนจุดเทียนเผา คืนนั้นทั้งคืนแกนอนไม่ได้ลุงบอกสะดุ้งร้องทั้งคืน เพราะจะหลับ ๆ ก็เห็นผู้หญิงใส่ชุดไทยผมประบ่าทะลึ่งพรวดเอาหน้ามาประชิดหน้าป้าแล้วถลึงตา ที่สำคัญหน้าผู้หญิงคนนั้นไหม้ไปซีกนึงค่ะ ทั้งคืนป้านอนไม่ได้จนต้องให้ลุงรีบพากลับตอนตีสี่ แบบ งง ๆ ตอนหลังยายถึงบอกลุงว่าอาจเป็นเพราะว่านนางคุ้มที่ไปทำใบเค้าใหม้ก็ได้น่ะค่ะ

    ตอนนี้ดิฉันก็ปลูกนะคะ แต่ก็ไม่รู้ว่ามีอะไร แค่มีครั้งนึงเมื่อปีก่อน ขุดหัวว่านแยกมาปลูกที่บ้านสามี สองกระถาง จากมีแต่หัว รดน้ำใส่ปุ๋ยจนได้ใบ อยู่ดี ๆ ว่านให้ใบแล้วออกดอกเลย คงเพราะอดมาก่อนพอบำรุงเลยได้ดอกตามปกติของต้นไม้ ส่วนอีกกระถางออกใบมาคู่เลย ก็ปกติ คิดเล่น ๆ เอาไปตีเป็นเลขดู จึงเอาจำนวนใบกระถางแรกและกระถางสองมาบวกกันแล้วไปซื้อ ปรากฎถูกค่ะ พออีกงวดเค้าไม่แตกใบก็ไม่ได้เล่นอะไร แต่ข้ามมาอีกงวดเค้าแตกใบก็นับไปอีก ก็ถูกอีกค่ะ เป็นแบบนี้อยู่ 3 งวด แล้วก็มาได้โชคจากบ้านเสาตกน้ำมันต่อ



    .......................................
     
  7. parichatkreepat

    parichatkreepat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    463
    ค่าพลัง:
    +538
    อ๊ากกก !!! มารอลุ้นต่อ ชอบๆ ว่านนี้เคยได้ยินผ่านๆหูเหมือนกัน แต่จำไม่ได้ ^^
    catt7
     
  8. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    5.บ้านเช่าทรงไทยริมคลอง ตอนนั้นดิฉันอายุ 13 มีบ้านเช่าหลังนึงในสวนริมคลอง ลือกันว่าผีดุ ใครพายเรือผ่านคิดจะมาตกปลาใกล้ ๆ หรือทำอะไรไม่ดีเจอทุกราย ตอนนั้นดิฉันไม่รู้ ย้ายมาก็งงว่าทำไมเรือนไทยถึงปิดและทำห้องปูนติดกัน ให้คนเช่า ความรู้สึกตอนนั้นคือ กลัวบ้านทรงไทย แม่เช่าราคาเต็มแต่ไม่ได้ขึ้นไปบนเรือน อยู่ห้องปูนข้างล่าง แม่ชอบให้ดิฉันไปตากผ้าบนชานหน้าประตูบนบ้านทรงไทย ถ้าเป็นตอนนี้ดิฉันจะบอกแม่เลยว่า ลงมาตากข้างล่างเถอะค่ะ มันไม่งามเลยไปตากทำไมบนนั้น ทุกครั้งตอนไปเก็บไปตากผ้า ประตูบ้านทรงไทยจะแง้มนิด ๆ และรู้สึกว่ามีคนมองออกมาด้วยความรู้สึกที่ไม่ดีเอามาก ๆ คนที่มองเป็นคนแก่สองคน(อันนี้อาจคิดไปเองแต่มันรู้สึกแบบนั้น) ดิฉันรู้สึกกลัวมากยังจำได้เลย อยู่บ้านคนเดียวได้แต่ไม่ยอมไปบนเรือนไทยเด็ดขาด แล้วมีวันนึงดิฉันเล่นกับลูกพี่ลูกน้อง ปีนขึ้นต้นมะม่วงหน้าบ้านทรงไทย อยากดูวิวริมคลองไกล ๆ แบบพาโนรามา ขึ้นไปจนเกือบกิ่งยอดสุดที่เด็กจะปีนได้ เหมือนโดนผลักค่ะหงายหลังตกต้นมะม่วงเหมือนลูกมะม่วงตกเลย ผลักจากข้างหน้าเลยค่ะ พ่อก็อยู่ตอนนั้นนึกว่าจะไม่รอดแล้ว โชคดีมากคือ ดินใต้โคนต้นเป็นดินเหนียวชุ่มน้ำ ตกลงมาก้นจ้ำเบ้าดินเป็นรอยบุ๋มลงไปเลยค่ะ พ่อเห็นตกใจนึกว่าจะกระดูกหัก ดิฉันลุกมาหัวเราะแก้เก้อ ความรู้สึกคือเหมือนตกมากระแทกที่นอนสปริงเด้งดึ๋ง นุ่มนิ่มสบาย แต่อายน้อง ๆ ที่หัวเราะกันอยู่ริมคลอง ตอนหลังมีเรื่องให้ต้องย้าย แม่บอกว่าหลายคืนมากฝันว่ามีผู้หญิงมายืนใต้ต้นมะม่วงใส่ชุดแดง เค้าบอกเค้าผูกคอตายที่นี่ เค้าจะไปก็ต่อเมื่อต้นโค่นถึงราก แม่บอกฝันบ่อยจนกลัวเลยต้องย้าย แล้ววันย้าย พายุเข้าค่ะ ต้นมะม่วงต้นนั้นโค่นยกรากขึ้นมาให้เห็น ๆ เลย แม่เลยยิ่งกลัวใหญ่ เลยย้าย และไม่ถึงเดือนแม่แวะผ่านไปหาเพื่อนที่อยู่ละแวกนั้น เค้าบอกว่า ย้ายไปไม่กี่วันมีพ่อลูกสองคนไปช๊อตปลาตรงคลองฝั่งที่ติดกับห้องน้ำของบ้านทรงไทย ตอนเช้า คนลูกพลัดตกลงน้ำ ขณะที่พ่อช๊อตปลาอยู่บนฝั่ง พ่อตกใจยื่นมือจะช่วย ถูกช๊อตตายทั้งคู่ ศพลอยอืดอยู่กับปลาที่ช๊อต แล้วจากนั้นบ้านหลังนั้นก็ยิ่งไม่มีใครกล้าเข้าใกล้อีกเลย

    ........................................................

    6.บ้านเช่าที่นนทบุรี ต่อจากทรงไทย บ้านเป็นทาวเฮ้าส์ชั้นเดียวติด ๆ กัน ดูก็ไม่น่ามีอะไร แต่....เป็นบ้านที่ทำให้เวลาปิดเทอมดิฉันนอนกลางวันไม่ได้สักวัน กลางคืนก็ฝันเห็นกุมาร...บ้านหลังนี้ ไม่มีประวัติอะไร แต่เท่าที่รู้สึกคือ ไม่มีอะไรคุ้มครองเราเลย บ้านเล็ก ๆ นี้ ดิฉันโดนผีอำกลางวันแสก ๆ ถี่มาก ใครเคยถูกผีอำหรือที่ทางวิทยาศาสตร์เรียกว่าสมองเป็นอัมพาตชั่วคราวก็คงเข้าใจดี

    ปิดเทอมเทอมแรกที่มาอยู่ที่นี่แล้วนอนกลางวันก็เจอเลย

    ตอนนอนกลางวันจะปิดห้องล๊อค ทุกครั้งจะตื่นเพราะได้ยินเสียงคนเปิดทีวี ได้ยินเสียงทีวีเปิด และเรารู้ตัวพยายามจะลุกไปดูแต่ลุกไม่ได้ แล้วเสียงในหูจะดัง วี๊........ยาวมาก แรก ๆ ไม่รู้คืออะไร แต่ปัจจุบัน รู้แล้วว่า ถ้าเสียงวี๊ดังแบบนี้ กำลังจะมีอะไรมาใกล้ตัว

    เสียงหลังจากเสียงวี๊...หายไปคือ เสียงลูกบิดประตูโดนบิดแบบแรงมาก เหมือนอยากจะเข้าห้องให้ได้ เหมือนแกล้งกัน เป็นแบบนี้ทุกครั้งที่นอนกลางวันที่บ้านนี้ จนมีครั้งนึง พยายามจะลุก ก็ลุกได้ ลุกกระเด็นออกมาเหมือนหนังสะติ๊กดีดลูกแก้วออกไปแรง ๆ ลุกพรวดมาได้หันหลังมองไป เห็นตัวเองยังนอนอยู่ท่าชันเข่าหน้าหันข้าง ได้แว๊บเดียวก็วูบลงไปแล้วก็ตื่น จนกลัว บอกแม่ แม่บอกให้ไหว้พระ หัดสวดมนต์ หัดสวดชินบัญชรซะบ้าง แล้วก็ห้อยพระเครื่อง จากนั้นก็ไม่อยากนอนกลางวัน แต่ก็ไม่วายง่วงก็นอนก็เผลอหลับ คราวนี้ บิดลูกประตูเข้ามาได้ เห็นเลยค่ะ เป็นกลุ่มเงาดำ ๆ เดินเข้ามาตรงมาที่เตียงดิฉัน สายตาน่ะมองเห็นแต่ตัวอ่ะขยับไม่ได้เลย ดิฉันนอนตะแคงอยู่เค้าก็มานอนข้างหลังเหมือนจะลวนลาม ที่สำคัญคือดิฉันพยายามจะลุก กลั้นหายใจให้ทนไม่ได้แล้วจะได้สูดลมเข้าไปแรง ๆ เผื่อจะลุกตื่นก็ทำไม่ได้ เลยนึกคำแม่ว่าสวดมนต์ ตอนนั้นท่องชินบัญชรไม่เป็น สวดนะโมตัสสะ ขุดเท่าที่จำได้สวดมาหมด อยู่ดี ๆ เสียงเงาดำที่นอนอยู่ด้านหลังก็พูด เป็นเสียงผู้ชาย พูดว่า"สวดมนต์หรอ อี...ี้ย คิดว่าจะช่วยได้เหรอ ใส่พระหรอ อี...ี้ย จะลองกับ กุหรอ" ดิฉันตอนนั้นไม่กลัวเลยค่ะ โกรธมากที่มาทำแบบนี้เลิกสวดมนต์แล้วสาปแช่งแทนเลยค่ะ โมโหมาก มาทุกวัน แกล้งทุกทีที่หลับ คราวนี้เกินไปแล้ว บอกไปว่า ทำแบบนี้ไม่ต้องไปผุดไปเกิดแล้ว ก็ขอให้ตกนรกหมกไหม้ต่อไปและต่อ ๆ ไปเถอะ แล้วเค้าก็หายไปเลยค่ะ ไม่เจออีกเลย หลังจากนั้นไม่โดนผีอำที่บ้านนี้อีกเลยค่ะ แต่ฝันแทน ฝันซ้ำ ๆ อยู่หลายคืน ฝันเห็นกุมาร เด็กผู้ชายร้องไห้โยเยมาจับมือดิฉัน อยู่บ้านหลังนี้มา 4 ปี อายุ 20 พอดี ทุกครั้งที่ฝัน จะฝันเห็นเด็กผู้ชายใส่ชุดแบบกุมารทองเลยค่ะ สีทอง มาจับมือร้องไห้โยเยเหมือนเด็กโดนตีมา มาขอเป็นน้อง บอกว่า โดนตีมาเจ็บ ไม่อยากเป็นแบบนี้แล้ว ขอมาอยู่กับพี่ได้มั้ย พออีกคืนก็มาอีก ร้องไห้มาอีก บอกว่าขอเป็นน้องพี่ได้มั้ยอยู่ด้วยได้มั้ย ดิฉันไม่เคยตอบเลยค่ะได้แต่โอ๋ ด้วยความสงสาร จนกระทั่ง คืนนึง เค้าก็พูดแบบเดิม คราวนี้ดิฉันรับปากค่ะว่า ได้ มาสิ พาเค้าขึ้นขี่หลังวิ่งเล่นด้วย แล้วก็เลิกฝันถึงไปเลย แต่สองเดือนให้หลัง แม่เป็นลมที่ทำงาน ไปหาหมอ แม่ดิฉันตั้งท้องน้อง ตอนดิฉัน 20 ค่ะ มีแต่คนสงสัยว่าชายหรือหญิงส่วนใหญ่จะบอกว่าหญิงเพราะแม่ผิวสวยเปล่งปลั่ง แต่ดิฉันยืนยันเลยว่าชาย ไม่ได้บอกใครว่าทำไมกลัวเค้าหาว่างมงาย ตอนนั้น ใคร ๆ ก็ไม่เชื่อว่าชาย บอกว่าดิฉันไม่เชื่อผู้ใหญ่ น้องแกอ่ะผู้หญิ๊งงงงง คลอดออกมา....ชัดเจนชายทั้งแท่งค่ะ ตอนนี้อายุ 12 แล้ว ดื้อดีค่ะแต่ก็ขี้แยเหมือนในฝันเลย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 สิงหาคม 2014
  9. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    7.บ้านเช่าในสวน ชานเมือง หลังจากย้ายจากนนทบุรีด้วยปัญหาของผู้ใหญ่ มาอยู่บ้านไม้เล็ก ๆ หลังนึง บ้านนี้มีประวัติค่ะ คนยิงกันตาย แต่ดิฉันมารู้หลังจากย้ายออกมาแล้ว ตอนอยู่ไม่เจออะไร แต่มีครั้งนึงชัดเจนมากจนเป็นที่ฮือฮาของแม่ค้าในตลาดที่ดิฉันทำงานเก็บเงินอยู่ มีคืนนึง ก่อนหวยออกแค่วันเดียว สมัยนั้นดิฉันเป็นคนไม่เล่นหวยค่ะ คืนนั้นนอนแล้วฝันเห็นเพดานมีเลขขึ้นอยู่ 56 ชัดมาก เขียนอยู่บนเพดาน แล้วดิฉันต้องตื่นไปทำงานตอนตีสี่ เก็บเงินแม่ค้าตอนตีห้าครึ่ง ก็ไปบอกป้าแม่ค้าขาหวยทั้งหลายงวดนี้ 56 เมื่อคืนฝันเห็น แม่ค้าก็เอออออ๋อเหรอกันบางคนก็เล่นตามบางก็ก็ผ่านไป แต่ที่แปลกคืนวันหวยออก ก่อนตีสี่ดิฉันสลึมสะลือ เห็นที่เพดานเป็นเลขเดิม คราวนี้เลข 6 มันเป็นกลิตเตอร์เลยค่ะเหมือนอนิเมชั่นเลย เลข 6 มันกลับหัวเป็น 9 กลายเป็น 59 ดิฉันหายสะลึมสะลือขยี้ตาดู ก็หายไปแล้ว เลยไปบอกแม่ค้าอีกครั้งว่า ไม่ได้ฝันแต่เห็นเลย 59 เลข 6 มันกลับ แม่ค้าเริ่มฉงน มันมีเนื้อเรื่องเพิ่ม ทุกคนที่ดิฉันบอก เล่นตามกันหมดเลย พอหวยออก เหมือนดิฉันเป็นต้นไทรต้นโพธิ์หรืออะไรที่ขูดหาเลขได้แล้วทำให้ถูก อาหารผลไม้ขนม ถือกันขึ้นมาให้เพียบเลยค่ะ เค้าถูกกันหมดเลยที่ดิฉันไปบอก ถูกหนักด้วยเพราะป้า ๆ แม่ค้าเล่นกันทีตัวไม่ต่ำกว่า 500 แต่กฎของที่ทำงานคือห้ามรับของจากแม่ค้าฟรีก็เลยต้องให้เอากลับไป หรือไปทำบุญกันแทน พองวดต่อไปแม่ค้ามาถามเลยค่ะ แต่ดิฉันไม่เห็นอะไรแล้ว เลยตอบไปตรง ๆ แต่ก่อนหวยออกครึ่งวันเช้า เดินเก็บค่าเช่าแผงร้านข้าวมันไก่ ป้าถามแหย่เล่นหวังจะได้เลข เขียนบิลอยู่ดี ๆ ตอบป้าไปทันควันงวดนี้ 40....แบบตัวเองก็งง ตอบอะไรไป ป้าก็ถาม จริงนะ 40 ดิฉันก็ สงสัยจะอย่างนั้น อย่าเชื่อมากนะคะป้า เดาเอาแหละ

    ปรากฎ คราวนี้ ไม่มีใครเอาขึ้นไปให้ค่ะ แต่เดินผ่านตอนเช้าอีกวัน ถามจะหมูมั้ย ไก่มั้ย ซื้อนู่นนี่มั้ย เอาไปกินไม่คิดเงิน เดินไปร้านปลาก็ปลาสักโลมั้ยอีหนูได้เงินจ่ายค่าแผงยันสิ้นเดือนเลยงวดนี้ แล้ว บังเอิญอยากทอดหมูให้น้องชายกับแม่กินเลยบอกป้าหมูโลนึง แกตัดมาเกินโล ให้....บอกว่า ถูกมา 2 รอบ ไม่ได้ให้อะไรเลย 56 กับ 40 ไม่พอ ในตลาดเค้ามีเล่นหวยปิงปองกัน คืออะไรไม่ค่อยเข้าใจหรอกค่ะ พอถึงเวลาวิ่งเอาเลขมาให้จับ ไม่ก็ถามเลขตัวเดียว บอกทีไรถูกทุกที ร้านหมูอีกตามเคย เดินผ่านทีไรทีนี้มีแต่คนมาถามหลัง ๆ ไม่อยากบอก เพราะมีของมาเส้นไม่รู้ที่มา คืนไม่ได้ด้วย โดนนายเพ่งเล็งหาว่ารับสินบน จากนั้นก็ไม่ได้บอกใครจนลาออกจากที่นั่นค่ะ

    ................................................................
     
  10. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    8.บ้านเช่าหลังสุดท้าย.......เสาตกน้ำมัน

    บ้านนี้ ดิฉันเป็นคนหาเช่าให้พ่อแม่และน้อง ๆ เองเลยค่ะ เพราะไม่อยากย้ายแล้ว หาบ้านสักหลังที่คิดว่าจะอยู่ได้นานกว่า 5 ปี ให้ดิฉันได้ทำงานเป็นหลักแหล่งไม่ต้องย้ายบ้านบ่อย แล้วเพื่อนก็แนะนำบ้านนี้ค่ะ เพราะบ้านอยู่ติดเพื่อนเลย ถามว่ามีประวัติอะไรมั้ยเพราะเจอมาเยอะ แค่อำ หรืออะไรแปลก ๆ ดิฉันก็กลัวแล้วค่ะ เพื่อนบอกไม่รู้ซิ เคยมีคนมาเช่าแล้วอยู่ดี ๆ ก็หนีออกไปกลางดึกเฟอร์นิเจอร์อะไรก็ไม่เอาไป เรียกว่า เผ่น เลยดีกว่า (เพื่อนบอกซะน่าอยู่เลย) แล้วก็ทิ้งท้ายด้วย แต่คนที่เผ่นน่ะ เค้าทำไม่ดี สกปรกมาก ไม่รู้เจออะไรนะ แต่แม่ฉันบอกว่า อย่ารู้เลย.......อ่ะ ดิฉันนี่.....เงิบเลยค่ะ

    แต่ตอนนั้นอยากย้ายเลยตัดสินใจขอเข้าไปดูบ้าน ภายในก็มีเฟอร์นิเจอร์อยู่จริง แว่บแรกที่เข้าไป รู้สึกได้เลยว่าชั้นสองห้องบนซ้ายมีบางอย่าง แต่ไม่แน่ใจว่าอะไร เข้าไปดูบ้านกับเจ้าของบ้าน 2 คน แต่เหมือนมีเจ้าของบ้านเพิ่ม มองอีกแง่ว่า คิด ไป เอง.... ในนึงตอนนั้นกลัว อีกใจนึงรู้สึกดี แล้วเจ้าของบ้านก็พูดเอง ห้องบนซ้ายมีเสาตกน้ำมันนะน้อง แต่เราเอาไม้ปิดทับไว้หมดทุกเสา ที่ตกน้ำมันอยู่ในห้องซ้าย คนเก่าอยู่ทำสกปรกมาก ฉี่มั่วไปทั่ว เปิดเพลงเสียงดัง กินเหล้า ฯลฯ อยู่ดี ๆ จ่ายค่าเช่าพี่ไม่กี่วันก็หนีออกจากบ้านทิ้งของไว้เต็มเลย พี่ละงง แต่ถ้าน้องอยู่ดี ๆ พี่ว่าก็ไม่มีอะไรนะ ดิฉันฟังแว่บแรกตกใจ กลับมาบอกแม่ว่า ขอไม่นอนห้องที่เสาตกน้ำมัน แม่จะนอนก็ได้นะ(สุด ๆ อ่ะลูกยอดกตัญญูค่าาา)

    แล้วก็ตัดสินใจเช่า........

    วันแรกที่ย้ายของเข้าก็จุดธูปขอขมาแจ้งกล่าวตามความเชื่อตอนขึ้นไปจัดห้องนอน ที่จะนอนห้องขวา ไม่นอนห้องตกน้ำมัน อยู่ดี ๆ ก็รู้สึกไม่ดีเอามาก ๆ กับห้องขวา จนทุกวันนี้ก็รู้สึกค่ะ แต่กับห้องซ้ายที่มีเสา กลับรู้สึกปลอดภัยอบอุ่น เลยบอกแม่ เปลี่ยนใจขอไปอยู่ห้องซ้ายแทน แม่ก็งง แม่ก็นอนห้องขวาแทน คืนแรกดิฉันไม่เจออะไรเลย แต่แม่ฝันคนแรกเลยค่ะ ฝันว่ามีเด็กสาววัยรุ่นนอนตายหันหน้ามา อืดอยู่ข้าง ๆ แม่ตกใจจนรุ่งเช้าต้องไปทำบุญ หลังจากนั้นดิฉันก็นอนที่นอนหันหัวติดกับเสาตกน้ำมันโดยปกติสุขไม่มีอะไรมารบกวนเลยค่ะ

    แต่.......ทุกครั้งที่นอนนอกห้องนี้ เจอ ตลอด ๆ ๆ หลังจากไม่ถูกผีอำมาหลายปี กลับมาอีกแล้วค่ะ เสียง วี๊...............

    ........................................................แล้วจะมาเล่าต่อนะคะ บ้านนี้เยอะค่ะ ตอนนี้ง่วงแล้วอ่ะค่ะ
     
  11. Highlander

    Highlander เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +325
    อ่านแล้วสนุกดีค่ะ ไม่เคยเจออะไรแบบนี้
     
  12. บุรุษไร้เงา

    บุรุษไร้เงา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2007
    โพสต์:
    8,424
    ค่าพลัง:
    +35,040
    โห้..ประสบการณ์เยอะดีครับ..สามารถจำเรื่องราวในอดีตได้ตั้งแต่
    ก่อนเข้าอนุบาลด้วย.ดูเหมือนธรรมดาที่ไม่ธรรมดานะเนี่ย
    ..:cool:
     
  13. โนรี

    โนรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มีนาคม 2013
    โพสต์:
    30
    ค่าพลัง:
    +175
    เรื่องนี้น่ากลัวค่ะ คล้ายๆที่โนรีเคยเจอ คือมาบิดลูกบิดประตูแกล้ง
    แต่ของคุณaunshana หลอนกว่าเพราะแสดงตัวตนมาให้เห็นเลยแถมยังปากดีอีก

    เจอผีปากดีแบบนี้ต้องฟันศอกค่ะ :d
     
  14. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    คิดว่าหลายท่านคงมีบ้างที่จำได้

    ถ้าเรื่องจำได้นี่ ตั้งแต่อายุประมาณ 2 เดือนค่ะ


    สมัยเรียนประถม ย้ายบ้าน(อีกตามเคย) แล้วมาอยู่บ้านย่า เดินผ่านโรงเรียนแห่งหนึ่งเข้า อยู่ดี ๆ ก็นึกอะไรขึ้นได้เลยถามแม่ว่า แม่เคยอุ้มพาหนูพาดบ่า หนีอะไรสักอย่างกลางฝนตกหนัก พื้นมีแต่น้ำขี้โคลนจากดินลูกรัง เดินผ่านโรงเรียนนี้ แต่ตอนนั้นมีต้นหูกวางอยู่ข้างโรงเรียน(ตอนนี้ไม่มี) แล้วรอรถเมล์กลางฝนก่อนจะวิ่งขึ้นรถเมล์ ตอนนั้นแม่ร้องไห้ตลอดทางที่อุ้มไป เคยมั้ยแม่.....

    คำตอบคือ เคย จำได้ไง เราแค่ 2 เดือนเองนะตอนนั้น แล้วก็เล่าว่ามีปัญหากับทางบ้านย่าทะเลาะกันตบตีบลา ๆ ย่าจะไม่ให้ดิฉันไปด้วย เลยรีบอุ้มหนีไปบ้านยาย ตอนนั้นฝนตกหนักมาก ต้นหูกวางน่ะมี แต่เค้าตัดออกไปนานแล้ว ......

    นี่คือที่จำได้แม่นเลยค่ะ ไม่รู้ทำไมจำได้ทั้งที่พูดยังไม่ได้ แต่จำเรื่องที่เกิดขึ้นในบ้านย่าไม่ได้เลย ตอนนั้นไม่รู้สึกอะไรนอกจากหนาว และได้ยินเสียงแม่ร้องไห้ แค่นั้นเอง...

    อีกเรื่องก่อนตกน้ำในคู

    ตอนนั้น 2 ขวบ พ่อเช่าบ้านหลังนึงแถววงเวียนเล็กในกรุงเทพฯ มีครั้งนึงดิฉันซนมากชอบเล่นน้ำในแก้วที่แม่จะล้าง แม่ก็ดุ จำไม่ได้ดุว่าอะไร จนกระทั่งเล่นแล้วแก้วตกแตก แม่โมโห บ้านมีโอ่งยักษ์ใบนึงไม่มีน้ำในนั้น แม่อุ้มดิฉันใส่โอ่ง คือตอนนั้นร้องไห้ลั่น ไม่ได้กลัวโอ่ง แต่เสียงในโอ่งมันสะท้อนฟังแล้วแปลกดีเลยร้องจนแม่เก็บแก้วแตก ทำความสะอาดเสร็จแม่ก็มาอุ้มออก

    ละก็ที่บ้านหลังเดิม ราว ๆ 3-4 ขวบ พูดได้ เดินได้แล้ว ไปเล่นกับเพื่อนลูกของเพื่อนพ่อเป็นรุ่นพี่ดิฉันเป็นเด็กประถมกันหมด บ้านเพื่อนมีชิงช้า ที่นั่งทำจากลูกรักบี้ ดิฉันนั่งชิงช้าไปร้องเพลงไปสมัยก่อนนี่ นกแลดังมากร้องอยู่ท่อนเดียว ร้องเพลงเพลินหล่นจากชิงช้า กลับมาแม่ให้กินขนมโตโร่สมัยก่อนถุงใหญ่ กับโปเต้ จำได้ว่า กินเข้าไปมาก ตกกลางคืนพ่อกลับมา พ่อเมามาอ้วกตรงหน้าประตูบ้าน ดิฉันอยู่ในมุ้ง ก็อ้วกตามออกมาเป็นโปเต้เลย เพราะกินเข้าไปแบบไม่บันยัง ยังจำหน้าตาโปเต้ที่อ่อกออกมาได้จนทุกวันนี้เลยค่ะ แหะ ๆ


    ก่อนอนุบาลไม่มีใครกล้าเล่นด้วย สมัยนั้นเรื่องตุ๊กตาผีดังมาก นี่จำเพลงได้ร้องเพลงได้ทั้งเพลงเลยค่ะ พ่อคงอยากให้ลูกอินเทรนด์ ซื้อเหมือนเดี๊ยะมาให้แต่เป็นตัวน่ารักนะคะ ดิฉันนี่ลากไปไหนมาไหนยังกับน้องอีกคน พาซ้อนจักรยาน3ล้อเด็ก พวกเด็ก ๆ แถวบ้านที่เคยเล่นด้วยกัน หนีหมดเลยค่ะ ไม่มีใครเล่นกับดิฉันเลยช่วงนั้น พอเข้าอนุบาล ตุ๊กตาที่กรำฝนกรำแดดมาปีกว่า หน้าตาน่ากลัวหนักกว่าเดิม ผมเผ้าเป็นสังกะตัง หน้าโดนเขียนด้วยจิตวิญญาณศิลปินของดิฉัน เขียนมันทุกที่ที่เขียนได้บนตัวตุ๊กตา ชั๊กกี้นี่เรียกลูกพี่เลยค่ะ แต่ดิฉันก็ยังเล่นอยู่ มีครั้งนึงฝนตก เลยพาน้องไปนั่งซ้อนจักรยานไม่ได้ข้างนอก เลยขี่ในบ้านค่ะ บ้านใต้ถุนสูงประมาณ 2 เมตร ฝนตกหนัก ขี่ไปขี่มา ไถลตกบันไดทั้งรถทั้งคนและน้องตุ๊กตา หัวเขกพื้น ตอนนั้นจำได้ว่า ลุกมาหัวเราะ แม่กับยายนี่แทบช๊อคเพราะหัวลงแรงมาก แต่หัวเราะได้ไม่ถึงนาที ปวดเจ้าค่ะ ปวดมาก มากจนต้องแงออกมา ยายล้อใหญ่เลย ตลกดีตอนนั้น ตุ๊กตาตัวนั้นอยู่กับดิฉันจนบ้านนนทบุรีเลยค่ะ เพื่อนมาบ้านไม่กล้าเข้าห้องนอน เพราะตุ๊กตานั่งอยู่หัวเตียง คือชั๊กกี้นี่ยังงามกว่าเลยค่ะ ตอนหลังย้ายบ้านจำใจต้องทิ้ง เสียดายมาก คิดถึง

    อนุบาล 1 จำได้เพราะเหตุพาไป ถือว่าดีหรือร้ายไม่แน่ชัด เหตุการณ์นี้เป็นคดีอาญาเมื่อ 27 ปีก่อน ดิฉันมีเพื่อนคนนึงชื่อ จาวิณี นามสกุลขอสงวนค่ะ จำได้ถึงวันนี้ แม่จาวิณีจะขี่จักรยานมารับทุกเย็น โดยมีดิฉันนั่งเล่นชิงช้ารอเป็นเพื่อนทุกวัน ส่วนใหญ่แม่ดิฉันจะมารับก่อน แล้วจะรอแม่จาวิณีมาถึงจะกลับพร้อมกัน ตอนนั้นจาวิณีใส่ตุ้มหูทองแบบตุ้งติ้ง ดิฉันจำได้ดีเพราะสำหรับเด็กคนนึง มันสวยแวววาวตาดี ซึ่งถ้าเป็นตอนนี้ดิฉันจะไม่มีวันให้ลูกหรือเด็กใส่ของมีค่ากับตัวเด็ดขาด ดิฉันกับจาวิณีเล่นด้วยกันทุกวัน ก่อนกลับบ้านจะท่อง กอไก่ถึงฮอนกฮูกตามคุณครูสำรวย(ครูประจำชั้น)บอกให้เด็ก ๆ ท่องเวลาว่าง แล้ววันนั้น จาวิณีนั่งอยู่ชิงช้าข้าง ๆ ร้องเพลงกันอยู่ อยู่ดี ๆ ดิฉันเหลือบไปเห็นผู้ชายคนนึงผมรองทรงตัวผอม ๆ สูง ๆ มาด้อม ๆ มอง ๆ ที่ริมกำแพงโรงเรียน มองมาทางเราสองคน ตอนนั้นคุณครูคงไม่อยู่หรืออะไรอันนี้จำไม่ได้ค่ะ ผู้ชายคนนั้นอยู่ดี ๆ ก็เดินมาตรงหน้าชิงช้า มองหน้าดิฉัน แล้วก็มองจาวิณี ฉันจำหน้าเค้าได้แบบลาง ๆ แต่จำลักษณะท่าทางได้ดี เค้าบอกจาวิณีว่า "แม่ไม่สบายให้น้ามารับ" จำได้เท่านี้ จาวิณีก็เดินไปกับเค้าแบบงง ๆ หันมามองดิฉันมือก็จูงไปกับผู้ชายคนนั้น ดิฉันก็ งง ๆ ไม่รู้เลยว่านั่นเป็นครั้งสุดท้ายที่จะได้เจอเพื่อน

    แล้วแม่ดิฉันก็มา แม่ถามถึงจาวิณี ดิฉันบอกน้ามารับ เรื่องหลังจากนี้แม่เล่าให้ฟังค่ะ แม่บอกว่า หลังจากแม่มา แม่จาวิณีก็มา ขี่จักรยานมาตามปกติ ถามหาลูก แม่บอกว่าลูกสาวเห็นน้ามารับไปแล้ว แม่จาวิณีหน้าซีดเลย ร้องไห้โฮ ถามครูว่าเห็นคนที่เอาไปมั้ย จำได้ลาง ๆ ว่าครูสำรวยมาถามดิฉันว่าเห็นหน้าคนนั้นมั้ย ถามว่าไปยังไง ดิฉันก็ได้แต่ตอบไปตามที่เห็น แม่บอกว่าแม่จาวิณีเป็นลมเลยค่ะ จากนั้นก็ไปโรงพัก ฯลฯ นี่คือที่จำได้ค่ะ หลังจากนั้นดิฉันก็ไม่มีเพื่อนเล่นชิงช้าอีก โรงเรียนไม่ปล่อยเด็กอนุบาลมาจนกว่าผู้ปกครองมารับ เค้าให้พ่อแม่ผู้ปกครองยื่นบัตรประชาชนก่อนรับเด็กเลยค่ะ ดิฉันโตมาถึงรู้สึกเสียใจแทนแม่จาวิณี จนดิฉันขึ้น ป.6 ยังเห็นประกาศหาเด็กหายอยู่ในหน้าหนังสือพิมพ์เป็นชื่อเค้าอยู่เลยค่ะ แม่บอกสงสารแม่เค้ามาก ลูกสาวคนเดียว ดิฉันตอนนี้ก็ได้แต่ภาวนาขอให้เพื่อนเอาตัวรอดได้ในทุกสถานการณ์ไม่ว่าจะอยู่แห่งหนไหนในโลกใบนี้


    และอีกหลาย ๆ เรื่องที่จำได้ แต่ไม่เกี่ยวกับเรื่องผี เล่ามากเดี๋ยวจะเบื่อกันซะก่อนค่ะ

    เล่าให้สามีฟัง สามีก็พูดเหมือนคุณ noppakan ประมาณว่า จำได้ยังไงเยอะขนาดนี้ เค้ายังจำไม่ได้เลย ก็แปลกดี แต่ตอนนี้คงอัลไซเมอร์อ่อน ๆ จำเก่า ๆ ได้แม่น ใหม่ ๆ นี่แป๊บเดียวลืม ชีวิตมนุษย์ก็เท่านี้จริง ๆ เกิด แก่ เจ็บ ตาย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 29 สิงหาคม 2014
  15. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    บ้านนี้เจอบิดลูกบิดกับเปิดทีวีค่ะ นอนห้องหลังบ้านไม่เป็น แต่ห้องหน้าบ้านนี่ทุกครั้งเลย แต่บ้านเสาตกน้ำมันนี่หนักกว่าค่ะ เรียกว่านอน คนเดียว กลางวัน ถ้าไม่อุดหู นอนไม่ได้
     
  16. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    มาต่อกันที่เรื่องบ้านเสาตกน้ำมันค่ะ

    เรื่องแรกเลยที่เจอกับตัวเอง เรื่อง พรของแม่

    ดิฉันตัดสินใจออกจากงานที่ตลาดเพราะไปทำแต่เช้ามืดไม่ไหวบ้าน ก็ขอพรพ่อแม่ก่อนเลยจะไปหางาน
    ยายเคยสอนว่า ขอพรจากอะไรในโลกไม่ศักสิทธิ์เห็นผลจริงเท่าพรจากปากแม่เอ็ง ก็เลยบอกแม่และขอให้แม่อวยพร
    เพราะถ้าตกงาน ดิฉันเป็นหัวเรี่ยวหัวแรงของบ้านช่วยพ่อ ถ้าไม่ได้งาน อาจไม่มีเงินค่าเช่าบ้าน
    แม่ก็ให้พรว่าให้โชคดีได้งานดี ๆ มีเพื่อนร่วมงานดี ๆ และใกล้บ้าน แม่จะได้ไม่ห่วง
    ก็สาธุ ๆ ๆ แล้วก็เตะฝุ่นเดินหางานใหม่ เดินจริง ๆ ค่ะ เดินข้ามเขตเป็นกิโล ๆ ส่งใบสมัครแบบดื้อ ๆ เลย
    โชคดีที่ได้เดิน เพราะขากลับเดินผ่านบริษัทฯนึง เห็นเขียนป้ายรับพนักงาน เข้าไปสมัคร
    สอบสัมภาษณ์ 3 คนรับคนเดียว ดิฉันได้งานค่ะ ทั้งที่คะแนนสอบไอคิวน้อยกว่าสองคนนั้น
    ตอบคำถามก็งั้น ๆ แม้จะพิมพ์เร็วก็ตาม แต่ใคร ๆ ก็ทำได้ พี่คนสัมภาษณ์เป็นหัวหน้างานสายตรง
    เธอบอกเลือกดิฉันเพราะอะไรไม่รู้ ความรู้สึกว่าอยากได้มาร่วมงานเลยเลือกดิฉัน
    นี่คงเรียกว่า พรของแม่ ช่างศักดิ์สิทธิ์นัก ที่ทำงานห่างบ้านแค่ 2 ป้ายรถเมล์ ทำให้3ปีที่ทำงานอยู่
    เดินไปกลับสบาย ๆ จนพ่อค้าแม่ค้าห้างร้านริมถนนที่เดินกลับจำหน้าได้เลยทีเดียว
    และเพราะพรของแม่ ประจวบกับอะไรที่มองไม่เห็นด้วยมั้งคะ

    ทำงานที่นี่ ดิฉันขายรถได้ทีเดียว 45 คัน 4 วัน ตอนลูกค้ามาติดต่อก็บอกแม่อีก แม่อวยพรหน่อยวันนี้ลูกค้าจะให้พาไปดูรถ
    ให้หนูขายได้เงินมานะแม่นะ แม่ก็ร่ายพรยาวเลย ขายได้ ๆ เฮง ๆ รวย ๆ ลูกค้าชอบใจ ๆ เดินออกมานอกประตูแม่ยังอวยไม่หยุดเลย

    ปรากฎ พอพาเดินดูรถช่วงเช้าเสร็จ ตกเย็นโทรมา จะซื้อ 50 คัน ให้ดิฉันเลือกให้เลย (ที่ซื้อ45เพราะอีก5มันเสียกลางทาง)
    ตอนนั้นงงจนบอกไม่ถูกเลยค่ะ ทำยอดทะลุเป้าอยู่คนเดียวทั้งบริษัทฯ เพราะลูกค้าเค้าบอกว่าชอบดิฉันด้วยอะไรก็ไม่รู้
    ไม่ยอมไปซื้อกับคนอื่น บอกว่าถ้าไม่ใช่ดิฉัน ก็ไม่อยากซื้อ เค้าซื้อไปขายต่อน่ะค่ะเพราะเป็นรถมือสอง
    มองแง่เหตุผลคงเพราะดิฉันไม่ชอบโกหกมั้งคะ รถไหนเสียโมมาใหม่ก็บอกเค้า คันไหนประวัติซ่อมบ่อยก็บอกเค้าตรง ๆ คันไหนดีก็ว่าดี
    ไม่ปิดบัง สุดท้ายเค้าให้ดิฉันเลือกให้เองเลย (แต่ดันงอแง5คันซะได้ แหม) แต่บริษัทฯคงไม่แฮปปี้เท่าไร เพราะบริษัทตั้งค่าคอมไว้ทีแรกเพราะไม่คิดว่าจะมีใครขายได้ขนาดนี้ราคานึง
    แต่พอดิฉันขายได้ตูมเดียว ก็ลดค่าคอมแบบหักเหลี่ยมโหดมาก แต่ไม่เป็นไรค่ะเราทำดีที่สุดแล้วและ
    ดิฉันถือว่าประสบความสำเร็จในชีวิตแล้วล่ะค่ะ และหลังจากนั้นลูกค้าก็ติดต่อจะซื้ออีกล๊อตนึงค่ะ จำนวนเดิมเป็นรถเก๋ง
    หัวหน้างานอีกสายงาน ก็ทาบทามจะเอาลูกค้าคนนี้จากดิฉันไปให้ลูกน้องเค้าขายบ้าง แต่เค้าก็ไม่เอาค่ะ บอกว่าติดต่อดิฉันแล้ว
    จนหัวหน้างานคนนั้นเล่นวิธีข่มเขาโคขืนให้กลืนหญ้าด้วยการ ใช้ความรู้จักที่ตนมีกับหัวหน้างานของลูกค้าอีกที บอกให้หัวหน้าของลูกค้า
    บอกลูกค้าดิฉันให้ซื้อกับเค้าแทน ซึ่งถ้าลูกค้าดิฉันขัดคำสั่ง ก็คงเดือดร้อน เค้าเลยต้องไปซื้อกับทางนั้น แล้วดิฉันก็ออกจากงานด้วยเหตุไปแต่งงานค่ะ
    ตอนหลังเค้าก็จะมาซื้อกับดิฉันอีก แต่ออกมาแล้วเลยยกให้เพื่อนแทน เพื่อนบอกว่า หัวหน้างานคนนั้นเค้าก็เอาไปอีก

    มนุษย์นี่ช่างเข้าใจยากจริง ๆ เพื่อผลประโยชน์เข้าตัวแล้ว สามารถทำได้ทุกอย่างโดยลืมไปว่าการกระทำที่ทำอยู่มันทำให้วันนึงไม่ต้องไปหาคำตอบว่าทำไม
    ลูกน้องใต้บังคับบัญชาจึงไม่เคารพนับถือและหาความจริงใจเข้าหาด้วยได้ยาก.....
     
  17. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    บ้านเสาตกน้ำมันเรื่องต่อมา.....ตีสอง

    ทำงานใหม่ ๆ เริ่มเก็บเงินได้ก็ซื้อคอมฯ ต่อสายเน็ต ติดตั้งโทรศัพท์ ความเจริญในชีวิตค่อย ๆ มา
    พร้อมกับทำให้รู้ว่า ห้องนอนเราไม่ได้นอนคนเดียวนะ!!!

    ในห้องนอนมีเสาตกน้ำมันอยู่มุมซ้ายของห้อง
    ที่นอนดิฉันอยู่มุมซ้ายติดเสาตกน้ำมัน
    คอมพิวเตอร์วางอยู่ข้างขวาของที่นอนเยื้องเสา

    พอมีคอมพิวเตอร์ก็เล่นคอมยันดึก มองดูเวลาจะตีสอง
    ก็เล่นเกมส์ต่อคิดว่า เดี๋ยวจะนอนแล้ว อยู่ดี ๆ
    ก็มีเงาสีขาว ๆ แว่บผ่านจากขวามือดิฉันไปทางซ้ายมือ
    ตรงเสาตกน้ำมัน ครั้งแรกนี่ชัดเจนมาก จนมองตามเห็นเป็นเงาจาง ๆ สีขาวผ่านไปแบบเร็ว ๆ
    กลอกตากลับมา คิดหาเหตุผล จึงเป็นไปได้ว่า สายตาเราล้าจ้องคอมนาน
    แสงจ้าจากคอมทำให้ม่านตามีแสงผิดปกติ
    ก็ได้นะ คิดมาก ก็ลงนอนปกติ ไม่มีอะไร

    คืนถัดมา เล่นคอมอีกที่เดิมจุดเดิม คราวนี้แว๊บมาอีกสีขาวเหมือนเดิม ไปทางเดิมแต่ เร็วกว่าเดิม
    แว๊บไปอีกตามเคย ดิฉันเงยหน้ามองนาฬิกา ตีสองแล้ว ฉุกคิด วันก่อนก็ตีสอง
    หรือร่างกายเรารวนตอนนี้นะ เลยลงนอน

    จนวันนึง แว๊บมาอีก เวลาเดิม จนชักมั่นใจว่า อะไรบางอย่างแล้วล่ะ เพราะครั้งสุดท้ายที่เห็น
    ก็สะดุ้งเหมือนกัน ถ้าคิดแง่ไสยศาสตร์ คงกลับที่เวลานี้เราดันไปเห็นเอง

    นี่คือเรื่องแรกที่เห็นชัดและบ่อยมาก แต่หลังจากนั้นก็ไม่นอนดึกอีก เล่าให้แม่ฟังแม่บอก

    ท่านอาจมาดี มาเตือนให้นอนเพราะดิฉนชอบเล่นคอมดึก แม่กลัวทำงานไม่ไหว

    พูดเรื่องเตือน อยู่ที่ไหนไม่เหมือนที่นี่ ตรงเสาตกน้ำมัน ปกติถ้ามีโอกาสดิฉันก็จะเอามาลัยเอาผ้าแพรให้
    และ ทุกครั้งที่โทรศัพท์ปลุกไปทำงานดัง แล้วดิฉันไม่ยอมตื่นมัวแต่ เดี๋ยวก่อน อีกนิด นะ ๆ
    จะมีเสียงจิ้งจกทักดังมาก ดังลั่นห้อง ดิฉันหลับอยู่ยังตื่นเลยค่ะ ทีแรกนึกว่า จิ้งจกทักเอ๊ง มันคงหิว
    ก็ตื่นเพราะเสียงนั่นแหล่ะ แต่ทีนี้ไม่แบบนั้น ทุกเช้าดิฉันจะชอบกดปลุกออกเพื่อขอนอนต่อ
    แต่ จิ้งจก ทักอีกแล้ว ดังลั่นจนต้องตื่น จนทุกวันนี้ก็ยังทักอยู่ถ้าดิฉันไม่ยอมลุกตั้งแต่นาฬิกาปลุกครั้งแรก

    พรุ่งนี้มาต่อกันนะคะ วันนี้ตาจะปิดอีกตามเคย
     
  18. kungzaza88

    kungzaza88 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    413
    ค่าพลัง:
    +536
    มาอ่านด้ใยคนนะครับตื่นเต้นดีครับ
     
  19. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    มาเล่าต่อค่ะ

    เรื่อง....ขี้เซาจนได้เรื่อง

    บ้านนี้ ปัจจุบันนับรวมแล้วอยู่มานานกว่าบ้านหลังอื่น แปลกดีทั้งที่มีเสาตกน้ำมัน อายจังถ้าจะบอกว่าอยู่มากี่ปี ประมาณ 8 ปีกว่ามั้งคะ คลาดเคลื่อนขออภัย

    จิ้งจกนี่ เดือนก่อนกลับบ้านไปยังทักปลุกอยู่เลยค่ะ เสียงมันดังก้องอยู่ในห้องจนสะดุ้งตื่น เหตุเพราะ ตอนกลางคืนปกติถ้ากลับบ้าน ดิฉันจะจุดเทียนสวดมนต์ไหว้พระบนหิ้ง ถ้าไม่ง่วงเกินไปจะนั่งสมาธิแล้วแผ่เมตตา ถ้ามีเงินดิฉันจะกลับไปพร้อมถังสังฆทาน เพื่อทำสังฆทานที่วัดใกล้บ้าน ซึ่งทุกครั้งจะบอกกล่าวเจ้าที่ และสิ่งที่มองไม่เห็นให้อนุโมทนาบุญร่วมกัน

    มีวันนึงอันนี้ ชัดเจนมากค่ะ ไม่ได้เห็นตรง ๆ แต่มายืนรายล้อมค่ะ

    บังเอิญวันก่อนจะไปทำบุญดิฉันกลับบ้านค่ำนอนดึก ไหว้พระบอกกล่าวเสร็จก็นอนตอนก่อนตีสองเพราะไม่ค่อยอยากเห็นอะไรบางอย่าง บอกกล่าวไว้ว่า พรุ่งนี้จะไปทำสังฆทาน ถังนี่ซื้อมาทำเองตั้งใจมาก 3 ถัง บอกว่าจะไปก่อน 11 โมงเช้าไปกับแม่กับน้อง ให้อนุโมทนากัน ปรากฎว่า ตื่นไม่ไหวค่ะฝนตกอากาศดีจัด ขี้เซาขอนอนต่อ จิ้งจกทักค่ะแต่ไม่อยากลุก แล้วในห้องนอนดันร้อน นอนไม่ได้ซะอย่างนั้น เลยลากผ้าห่มหมอนมานอนหน้าห้อง ตอนลากผ้าห่มมองเวลา 8 โมงเช้าค่ะ แล้วหลับไปตื่นมาอีกที 10 โมง...สายแล้ว แต่ก็ขอหลับอีก ไม่ทันได้หลับค่ะ กำลังเคลิ้ม นอนหันหน้าไปทางห้องซ้าย (ห้องขวากับซ้ายติดกันค่ะ)

    ตื่นเพราะรู้สึกได้เลยว่ามีคนเดินไปมาจนบ้านโยก แต่...ลืมตาไม่ขึ้นค่ะ ขยับไม่ได้ คนเดินผ่านดิฉันไปมา ทีแรกนึกว่าแม่ เพราะแม่นั่งดูทีวีทำนู่นนี่อยู่ชั้นล่าง จะพูดถามกี่โมง ก็พูดไม่ได้ แล้วเสียง วี๊...............ก็มาอีกค่ะ ทีนี้รู้เลย ไม่ใช่แม่แล้วล่ะ ที่ชัดคือลืมตาได้ครึ่งเดียวเห็นจะ ๆ เลยค่ะ ขาคนไม่ใส่รองเท้า มีสามคู่ ขาขาว ขาดำ และขาผิวปกติ ของคนสามคนยืนอยู่ตรงข้างลำตัวดิฉัน แล้วพูดว่า "ตื่นได้แล้ว พระจะฉันท์เพลแล้ว" เป็นเสียงผู้หญิงค่ะ ดิฉันก็โล่ง แม่แน่ ๆ เสียงผู้หญิงแบบนี้ แล้วก็มีเสียงอีกเสียงแทรก "ไหนบอกจะไปให้ทันก่อน 11 โมง" เสียงนี้ผู้หญิงอีก แต่คนละคน ไม่ใช่แม่แล้วค่ะ ดิฉันเหงื่อแตกเลย เพราะยังขยับไม่ได้อยู่ดี จนกระทั่งสามีโทรเข้าโทรศัพท์ดัง เลยลุกพรวดได้ ไม่มีใครเลยค่ะตรงนั้น ว่างเปล่า เคว้งเลยทีนี้ ดิฉันนี่เผ่นไม่ทันเลย หยิบได้แต่โทรศัพท์ลงมาคุยกับสามีข้างล่างยังไม่กล้าเล่าเลยค่ะ สามีบ่นว่าสายแล้วยังไม่ไปเลยบอก "ตะกี้ก็โดนบ่น เดี๋ยวเล่าให้ฟัง" ลงมาถามแม่ เมื่อกี้แม่ขึ้นไปปลุกหนูหรอ แม่ตอบ...."เปล่า ตั้งแต่เช้าไม่ได้ขึ้นไปเลย นั่งดูทีวีเพลินลืมไปปลุกเลย" ดิฉันก็ ออ อืม เดี๋ยวเล่าให้ฟัง

    เรื่องนี้ชัดเจนมากค่ะ ตอนเล่าให้สามีฟังยังขนลุกไม่หายเลย เห็นขา 3 คู่ยืนอยู่ข้างลำตัวชัดมาก ปกติในห้องนอนจะไม่โดนอำแบบนี้ ออกนอกห้องเมื่อไร ได้เรื่องทุกครั้งค่ะ แล้วก็ไปทำสังฆทาน หลังจากนั้นมีเรื่องอีกค่ะ

    ............................................

    เรื่อง.......ขี้เซาไม่เฝ้าบ้านดีนัก

    ดิฉันเวลากลับบ้าน จะชอบนอนกลางวัน แต่บนห้องกลางวันร้อนแดด เลยต้องลงมานอนข้างล่าง มีครั้งนึง แม่ออกไปนอกบ้านตอนเช้า ล๊อคประตูไว้ไม่ได้ปลุกดิฉัน นอนต่อไม่รู้เรื่อง ตื่นขึ้นมาเพราะเสียง วี๊..............คราวนี้วี๊แรงมากค่ะ จนตื่นเลย แต่ตื่นแบบอัมพาตที่สมองอีกตามเคย ลุกไม่ได้ ตาลืมได้ครึ่งเดียว

    มาเลยค่ะ ถือถุงข้าวของพะรุงพะรังมาหาดิฉันตรงปลายเท้า แต่ไม่พูดอะไร ดิฉันเห็นเป็นเงาดำ ๆ ผู้หญิงตัวเล็ก ๆ เลยคิดว่าแม่ ส่วนถุงนั้นคิดว่าถุงใส่ดอกไม้ธุปเทียนพานทอง เพราะแม่ชอบไปปากคลองตลาดไปซื้อมาทำพานไหว้ครูให้โรงเรียนน้อง

    ดิฉันก็วางใจว่าแม่มา เลยจะลุกไปดูว่าจะทำอะไร ลุกไม่ได้ค่ะ ได้ยินเสียงคุยกันกับผู้หญิง กระนุ้งกระนิ้งลั่นบ้าน เฮฮา เล่านู่นนี่กัน คุยกันเรื่องพับดอกไม้ใบตอง ฯลฯ ดิฉันได้ยินถึงขนาดนินทาดิฉันเลยว่า นอนขี้เซา....อายจนจะลุก ลุกไม่ได้ แล้วตาที่ลืมได้ครึ่งเดียวเหลือบไปเห็นบันได (ดิฉันนอนชั้นล่าง เยื้องบันได) มีคนลงมาสมทบค่ะ แต่เห็นไม่ชัดเพราะตามันลืมได้นิดเดียว นึก แม่พาใครมาบ้านเต็มเลย.........??? ยังปักใจว่าเป็นแม่

    สักพักรำคาญตัวเองขยับไม่ได้ซะทีไอ้สมองเป็นอัมพาตนี่ทำไมนานนักเลยกลั้นใจให้หายใจไม่ออก จนกว่าจะทนไม่ได้ค่อยฮึดเข้าไปทีเดียวให้ตื่น คราวนี้สำเร็จค่ะ ลุกพรวดจากที่นอนมาเรียก "แม่" คำแรกเลย สิ่งที่ตอบกลับมา................เงียบกริ๊บค่ะ บ้านปิดหมดล๊อคบ้านหมด ปิดไฟมืด พบแต่ความมืดและความเงียบสงัด..........ก็อึ้งกิมกี่ไปตามระเบียบค่ะ ตื่นมาได้เลยไปไหว้เจ้าที่แล้วเอาน้ำไปถวายพระบนหิ้งกับเสาตกน้ำมัน บอกกล่าวตามความเชื่อส่วนตัวน่ะนะคะ ว่าขอบคุณที่มาเตือนกัน เพราะตอนตื่นมา มีผู้ชายจากตึกข้าง ๆ เป็นชาวกัมพูชามายืนคุยโทรศัพท์ด้อม ๆ มอง ๆ อยู่ริมรั้ว หมามันไม่เห่าเพราะมันเองก็ขี้เซาไม่แพ้เจ้าของ :'( ดิฉันเลยรีบเปิดทีวี ออกไปทำรดน้ำต้นไม้ยืนมองหน้ากัมพูชาคนนั้นกลับไปจนเค้าเดินหนีไปทางอื่นเลยวางใจค่ะ

    นี่เป็นอีกเรื่องที่ เสียงวี๊....ทำให้เห็นว่า สมาชิกในบ้านอาจไม่ได้มีแค่ดิฉันคนเดียวในตอนนั้น แล้วก็ยังมีอีกค่ะ ขอพักนิ้วก่อนนะคะ พิมพ์มันส์มากเลย
     
  20. aunshana

    aunshana เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2012
    โพสต์:
    99
    ค่าพลัง:
    +457
    ต่อมา นอกเรื่องออกจากบ้านไปนิดนะคะ...บวชเนกขัมมะ 8 วัน

    เรื่องนี้ เป็นเรื่องตอนไปบวชเนกขัมมะถือศีล 8 อยู่ 8 วันค่ะ เนื่องจากจะแต่งงาน ตัวเป็นหญิงเลยอยากบวชให้แม่กับพ่อก่อนแต่ บวชชีก็ยังดี เลยไปบวช ตอนจะไปก็บอกกล่าวที่บ้านอีกตามเคยให้อนุโมทนาบุญกัน กลับมาจะได้เอาบุญมาฝาก

    แต่ไม่รู้ที่เจอ 2 ท่านที่วัดนั้น ใช่ตามมาจากที่บ้านหรือ ที่วัดมาช่วย แต่มีท่านนึงในสองท่าน คล้ายกับที่มาเจอที่บ้านในตอนหลัง แล้วจะเล่าในเรื่องต่อไปนะคะ

    ตอนไปบวช ได้อะไรเยอะมากค่ะ ได้กรรมฐานเจริญสติ ได้เห็นถึงความไม่เที่ยงของหลาย ๆ อย่าง ไป 3 วันแรก ปัญญายังไม่เกิดเท่าไร อยากมีเพื่อนไปไหนมาไหนด้วยระหว่างบวช กลัวเหงากลัวหลงกลัวต่าง ๆ นา ๆ ไม่มั่นใจ แต่เพื่อนส่วนใหญ่บวชกัน 3 วันก็จากไป วันที่ 4 ก็มีเพื่อนมาอีก แต่ก็ไม่ใช่แนวเดียวกัน เค้าบวชแก้บน ศีล 8 ถือไม่ครบโดยเฉพาะข้อที่ไม่ให้ใช้เครื่องหอม ประทินโฉม คือ...จัดเต็มน้ำหอมฉีดจนฉุน โบ๊ะหน้าขาว ระหว่างทำวัตรก็ไม่สำรวม ดิฉันเลยออกห่างมาตัวคนเดียว แล้วทำให้รู้ว่า การอยู่คนเดียวบางทีก็สงบกว่ามีเพื่อน เย็นใจกว่าเป็นไหน ๆ แต่สามวันแรก นั่งสมาธิก็ปวดขาแทบจะขาด ง่วงนอนสวดมนต์ทำวัตรเช้าตอนตีสี่ไปสัปหงกไป พอเดินจงกรมก็เข้าทรุด ยืนสมาธิที่ทรมานสุด แต่...พอเข้าวันที่ 4 อาการเหล่านี้หายไปหมดคงเพราะชิน และตอนยืนสมาธิที่เคยว่าทรมานสุด มันกลับเป็นอริยาบถที่ทำให้ใจสงบมีสมาธิที่สุด เย็นใจขณะที่พระท่านก็เทศน์สอนไป อยู่ ๆ น้ำตาไหลออกมาเองแบบไม่รู้ตัว

    ระหว่างยืนสมาธิ เหมือนมีอะไรมาทดสอบ ส่วนใหญ่ยืนสมาธิจะเป็นหลังทานอาหารแล้ว เป็นตอนบ่าย ๆ แน่ละว่า ร่างกายงอแง ทำให้ง่วงอยู่ช่วงนึงแล้วพยายามดึงจิตกลับมาจนได้ หายง่วง มีแว๊บนึงเห็นภาพลานที่ยืน เป็นป่ารก ด้านหลังตัวเองเป็นเพิงพักไม้มุงจาก คือถ้าดิฉันเมื่อยจะนั่งก็นั่งได้เลยอะไรประมาณนี้ แต่ถ้าตอนนั้นไม่มีสติ เผลอนั่งละก็ ล้มไม่เป็นท่าแน่นอน เพราะข้างหลังไม่มีอะไรเลย ก็ได้แต่แผ่เมตตาตามฉบับของทางวัดที่สอนให้แผ่เวลาเจออะไรแปลก ๆ

    พอมาอีกวัน เดินจงกรมค่ะ มีภาพแว่บมาอีก จังหวะเดินอยู่ท้ายป่าติดป่าช้า ลืมตานะคะไม่ได้หลับตา เห็นแว๊บเดียว ประมาณ 2 วินาที เป็นบ้านทรงไทยหลังใหญ่สวยมาก มีบันไดทางขึ้นมาทางเท้าดิฉัน แล้วมีผู้หญิงสวยห่มสไบมายืนยิ้มให้เหมือนต้อนรับ แล้วหายไป
    ตรงนี้จะเล่าต่อเรื่องหน้าค่ะเพราะเกี่ยวกับที่บ้าน

    วันที่ 5-6 นี่ใจสงบมาก มียายคนนึงขาแข้งไม่ดี แกเป็นตาบอดตาใสมองอะไรไม่ค่อยเห็น อ่านหนังสือก็ไม่ออก ยายน่ารักมาก ถามว่ายายไม่เมื่อยเหรอนั่งสมาธิ 1 ชั่วโมงไม่ขยับขาเลย แต่เวลาเดินแกขากะเผลก ดิฉันนี่ยุกยิกแอบขยับตลอดเพราะทนสังขารไม่ไหว ยายไม่มีที่รองนั่งนิ่ม ๆ เหมือนคนอื่น แต่ยายกลับนิ่งกว่าใคร ๆ ยายบอกว่า ยายชินแล้ว ยายมาจากอุดร เดินทางหาที่บวชเนกขัมมะมาเรื่อย ๆ ตายายมองไม่ค่อยเห็นหรอก แต่ใจยายน่ะเย็นจนไม่ห่วงอะไรแล้ว รอวันไปจากโลกนี้ก็เท่านั้น มาฝึกใจให้ยอมรับสังขารเวลาเจ็บเวลาตายยายจะได้ไม่ทุกข์ทรมานจนเกินไป เห็นนัยน์ตายายเป็นสีขาวเหมือนเม็ดลำไย ถามได้ความว่า ยายเป็นตาบอดแบบตาใส (ยังไงอันนี้ไม่แน่ใจ) เดินพอมองเห็นทาง แต่มองไม่เห็นหน้าคนแล้ว ถามยายว่า แล้วอ่านบทสวดได้ยังไง ยายบอกยายไม่ได้อ่าน ยายจำได้ จำจากที่พระท่านสวด บทไหนยายจำไม่ได้ยายก็ตั้งสมาธิให้แน่วแน่เอา คือดิฉันเล่าเพราะนับถือยายที่มุ่งมั่นในพระศาสนาจริง ๆ ค่ะ

    จากนั้นก็วันสุดท้ายของดิฉัน มีกัลยาณมิตรท่านนึงยกที่นั่งนิ่ม ๆ ให้ดิฉัน ก็เลยนึกถึงยายเพราะยายชอบนั่งสมาธิบ่อย ๆ เลยยกให้แก ตอนยกให้ รู้สึกในใจมันเฟื่องฟูพองโตบอกไม่ถูก เหมือนได้ทำบุญใหญ่อะไรสักอย่าง ยายขอบคุณและอวยพร บอกว่าวันนี้เป็นคืนสุดท้าย ตรงกับวันพระ จะมีเนสัชชิก(นั่งสมาธิปักกลดกลางป่า) แม่เคยบอกว่าอยากให้ดิฉันลองนั่งดู ก็เลยตามคำแม่

    .............................

    คืนที่นั่งเนสัชชิก ทำให้ดิฉันเชื่อเรื่องลี้ลับว่ามีอยู่จริง จากเชื่อว่ามี 50/50 (ขนาดโดนอำ และเจอเรื่องแปลก ๆ มาไม่น้อย) แต่คืนนั้น เพิ่มมาเป็น 99 เต็มร้อยค่ะ ไปทำกับข้าวก่อนนะคะจะมาเล่าต่อ
     

แชร์หน้านี้

Loading...