อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    [​IMG]


    ไม่ใช่ครับ คนคล้องผ้าข้าวม้าครับ เข้ากันดีออก เคี้ยวหมากคล้องผ้าข้าวม้า catt3
     
  2. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480


    ฟ้างามดีแท้น้อครับ
     
  3. อีกยาวนาน

    อีกยาวนาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    746
    ค่าพลัง:
    +3,940
    พี่ปู พงษ์สิทธ์ :cool:
     
  4. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125

    สวัสดีครับพี่ตี๋...รับพรครับ...
     
  5. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    หล่อม๊ะ
     
  6. อีกยาวนาน

    อีกยาวนาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    746
    ค่าพลัง:
    +3,940
    มากครับ(k)
     
  7. ช้างป่า

    ช้างป่า เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    511
    ค่าพลัง:
    +16,480



    น้อมกราบหลวงปู่มีชัยครับผม


    พุทธัง โลกัง ยัสสะ สิกขัง

    เมตตา ลาโภ นะโส วิยะ อาหะ พุทโธ

    ขอพรหลวงปู่ขอให้ลูก มีโชค มีชัย ชัยยะ ชัยยะ ไชโย
     
  8. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125

    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  9. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448
    มีพระขุนแผนให้ชมบ้างไหมครับคุณ "อีกยาวนาน"
     
  10. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]


    [​IMG]
     
  11. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    เนื่องด้วยหลวงปู่ท่านมีเมตตาแก่ศิษย์ทางไกลที่ไปกราบหลวงปู่และท่านจะมอบวัตถุมงคลให้ทุกๆคน...โดยวัตถุมงคลนั้นก็จะมีศิษย์หลายๆท่านสร้างมาถวายหลวงปู่เพื่อให้หลวงปู่ไว้แจก...ทีมแก็งอัลบั้มพระก็ทำขึ้นมาบ้างเล็กน้อยเพื่อให้หลวงปู่ไว้แจกซึ่งเป็นเหรียญปั๊มพิมพ์พระสมเด็จหลังตอก"อ57"จำนวน108เหรียญ
    ปล.อยู่กับแก็งอัลบั้มพระเพียง5เหรียญเฉพาะผู้ที่ไปกราบหลวงปู่คนละเหรียญเท่านั้นครับ...
     
  12. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    [​IMG]


    [​IMG]
     
  13. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,125
    [​IMG]
    ขุนแผนครูบาชัยมงคล แพร่​
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กันยายน 2014
  14. watchdog

    watchdog เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    22
    ค่าพลัง:
    +35,870
    **************************


    <embed src="http://www.goodlightscraps.com/content/smiley/54.swf" type="application/x-shockwave-flash">

     
  15. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    สวัสดีครับทุกๆท่าน ร้อนมากๆครับวันนี้
     
  16. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448


    ผ้ายันต์รับจากหลวงปู่โทน หลำแพร (ถ้าจำไม่ผิด)
    ลูกศิษย์ฆราวาสอีกท่านหนึ่งที่ได้รับการสอนจากหลวงปู่เทพโลกอุดร

    [​IMG]

    ปู่โทน หลำแพร เป็นชาวบ้านโพธิ์ไทร อ.อินทร์บุรี จ.สิงห์บุรี
    ขณะที่ท่านมีอายุได้ ๓๐ ปี ได้แสวงหาสถานที่วิเวกเพื่อบำเพ็ญธรรม
    จนได้ไปพบ ถ้ำพระ หลังเขาช่องแค อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์
    จนคืนหนึ่งท่านนั่งสมาธิก็เห็นภิกษุรูปหนึ่งในนิมิต คือหลวงปู่เทพโลกอุดร
    หลังจากได้รับการสั่งสอนชี้แนะอยู่นานพอสมควร วันหนึ่งหลวงปู่เทพโลกอุดรก็ให้ปู่โทนถอนจิตออกจากสมาธิ
    ทำให้ปู่โทนได้พบได้เห็นหลวงปู่เทพโลกอุดรด้วยตาเนื้อจริง ๆ
    ครั้งที่ปู่โทนประทับใจคือ หลวงปู่เทพโลกอุดรพาท่านไปเที่ยวป่าหิมพานต์
    โดยนัดวันให้ท่านแต่งกายนุ่งขาวห่มขาว หลวงปู่เทพโลกอุดรนำผ้าสีดำปิดตาปู่โทนจากนั้นก็ให้ปู่โทนเกาะหลังท่านไป

    เมื่อปู่โทนลืมตาขึ้นก็พบว่าท่านอยู่ในป่าหิมพานต์แล้ว....
    ช่วงวัยชราของหลวงปู่โทน ตั้งบ้านเรือนอยู่ที่ อ.ตาคลี จ.นครสวรรค์ เป็นหมอแผนโบราณ เป็นหมอดูที่ชาวบ้านเคารพนับถือกันมาก
    และยังได้สอนวิปัสสนากรรมฐานมีลูกศิษย์ทั้งพระและฆราวาสจำนวนมาก


     
  17. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866
    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี วัดถ้ำคูหาสวรรค์ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

    หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี เป็นชาวบ้านคำม่วน ตำบลคำม่วน ประเทศลาว เกิดปี พ.ศ. 2437 บวชเป็นพระฤาษี พ.ศ.2471 อุปสมบทเป็นพระภิกษุ พ.ศ.2492 มรณภาพเมื่อเดือน เมษายน พ.ศ. 2527 สิริอายุ 91 ปี
    ก่อนที่จะบวชเป็นพระฤาษี ก็ถือศีลปฏิบัติธรรมเคร่งครัด ศึกษาวิชาจากพระอาจารย์ผู้ทีชื่อเสียงมาตลอด ครั้นถึงเวลาบวชเป็นพระฤาษีก็มุ่งเดินธุดงค์แสวงหาความเร้นลับ ศึกษาเวทย์วิทยาคมจากจากพระอาจารย์ที่โด่งดัง จากฆราวาสผู้มีวิชาเกรียงไกร ทั้งจากประเทศลาว ประเทศกัมพูชา และประเทศไทย เป็นสหธรรมิกกับหลวงพ่อปาน วัดบางนมโคจังหวัดพระนครศรีอยุทธยา หลวงปู่ได้พระคัมภีร์จากหลวงปู่รูปหนึ่งที่ภูเขาอีด่าง ในตำรานั้นประมวลพระคาถา สามารถย่นระยะทางได้ เดินบนผิวน้ำได้ เหาะเหินเดินอากาศได้ บันดาลฝนให้มีลมพายุแรงได้ ทำตัวให้หนักสามารถจมเรือลำใหญ่ๆได้ แต่คัมภีร์นี้แปลกมหัศจรรย์ที่สุดคือ ใครมีคัมภีร์ไว้ในครอบครอง เพียงแค่นึกคิดให้เกิดอะไรก็จะบังเกิดขึ้นในฉับพลันทันใดโดยไม่ต้องท่องพระคัมภีร์ หากใครคิดจะสวดพระคัมภีร์จะบังเกิดเหตุพายุฝน ฟ้าผ่าทันที ถือเป็นอัศจรรย์ยิ่ง
    พระมหากษัตริย์ลาวทรงอุปสมบทให้ ถือเป็นนาคหลวง
    เมื่อหลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ไดพระคัมภีร์ศักดิ์สิทธิ์แล้ว ก็ได้เดินธุดงค์เดินมาทางใต้เขตนครจำปาสัก โดยมาจำพรรษที่เขาภูด่าง ความเลื่อมใสศรัทธาของคนในประเทศลาว ได้แผ่ขยายออกไปอย่างกว้างขวางรวดเร็วมากจากหมู่บ้านรู้เข้าถึงตำบล จากตำบลก็รู้ถึงอำเภอ จากอำเภอก็รู้ถึงแขวง และแผ่ขยายไปทั่วประเทศลาว ประชาชนประเทศลาวจากทั่วทุกสารทิศต่างก็เดินทางมุ่งหน้าสู่ นครจำปาสัก
    ความได้ทราบถึง พระเจ้าศรีสว่างวัฒนา ซึ่งเป็นเจ้าเหนือชีวิตของประเทศลาว รวมทั้งพระญาติทั้งฝ่ายเหนือและฝ่ายใต้ ได้เสด็จมาที่เมืองปากเซ บนภูเขาอีด่างแขวงจำปาสัก เมื่อพระเจ้าศรีสว่างวัฒนา ได้พบกับหลวงปู่คำคะนิง จึงกล่าวถามว่า “ท่านเก่งมีอิทธิฤทธิ์มากหรือไร” หลวงปู่คำคะนิงตอบว่า “ไม่” เจ้าเหนือแห่งลาวก็ถามอีกว่า “ถ้าไม่เก่งแล้วทำไมคนถึงล่ำลือเลื่อมใสกันไปทั่วประเทศ” หลวงปู่ก็ตอบว่า “ใครเป็นคนพูด” เจ้าเหนือหัวก็ตอบว่า “ก็ประชาชนทั้งประเทศน่ะซิ” หลวงปู่จึงตอบเจ้าเหนือหัวว่า “นั่นคนอื่นพูด แต่ตัวท่านไม่หลวงปู่ไม่ได้เป็นคนพูด”
    ผลสุดท้าย เจ้าเหนือชีวิตของประเทศลาว ก็เกิดความเลื่อมใส กล่าวขอขมาที่ล่วงเกินแล้วเอ่ยปากขอหลวงปู่สักอย่างหนึ่งจากหลวงปู่จะได้ไหม หลวงปู่จึงตอบว่า ได้ เจ้าเหนือชีวิตของประเทศลาวบอกว่า “ขอปลงผมซึ่งยาวจนถึงเอวออกจะได้ไหม?” หลวงปู่คำคะนิงจึงตอบว่า “ได้ แต่ต้องบวชเป็นพระก่อน” ในที่สุดก็ได้กำหนดวันอุปสมบท
    ในที่สุดเมื่อถึงวันอุปสมบท ซึ่งทางสำนักพระราชวังได้จัดขึ้นโดยมีพระบรมวงศานุวงศ์ฝ่ายเหนือ ฝ่ายใต้ พร้อมด้วยข้าราชการ ประชาชนแห่กันไปที่วัดหอเก่า นครจำปาสัก ในระหว่างที่จะปลงผมหลวงปู่นั้นได้เกิดฟ้าฝนพายุอย่างหนัก ฟ้าร้องสนั่นหวั่นไหว แต่ภายในบริเวณวัดหอเก่า ไม่มีเหตุร้ายใดเกิดขึ้นเลย มีแต่ท้องฟ้าที่สว่างไสวงดงาม พระอาทิตย์ทรงกลด น่าอัศจรรย์ยิ่งนัก ทุกคนได้เห็นความมหัศจรรย์ทั่วกัน ข้าราชการและประชาชนต่างนำผ้าไหม แพรทองมาปูรองรับเส้นผมของหลวงปู่กันเนืองแน่นไปทั่วบริเวณวัดและนอกวัด
    ครั้นเมื่อถึงเวลาอุปสมบทก็มีพระสงฆ์ราชาคณะ พร้อมทั้งพระสังฆราชเสด็จมาเป็นองค์ประธานฝ่ายสงฆ์และพระเถรานุเถระผู้อาวุโส รวมทั้งสิ้น 28 รูป เมื่ออุปสมบทแล้วหลวงปู่ได้จำพรรษาที่ภูอีด่างอีกระยะหนึ่ง หลังจากนั้นได้หนีออกมาโดยที่ไม่มีใครรู้ว่าหลวงปู่ไปอยู่ที่ไหน
    จากนั้นท่านได้ธุดงค์บุกเมืองพญานาค พบพญานาคแสดงอิทธิฤทธิ์ เห็นพญานาคต่อสู้กับพญานาค เรียกว่าฤทธิ์ปราบฤทธิ์ ไปเจอถ้ำมือของชาวบังบด ค้นหาด้วยฌาน พบคำสอนของพุทธองค์ว่า “ธรรมย่อมรักษา” ศึกษาเรื่องคำว่า “พุทโธคุ้มตัว” นอกจากนั้นยังได้ลงอุโมงค์ใต้แม่น้ำโขง เห็นสิ่งอัศจรรย์ในเมืองใต้ภิภพ พบกับมนุษย์นาคราช ขึ้นจากบาดาลพบดาบสฤาษี ธุดงควัตรไปแก่งหลี่ผี พบเหล็กไหล แต่ไม่เอาเพราะไม่ทำให้ท่านหลุดพ้น เผชิญกับเสือร้าย สัตว์ป่านานชนิด ทั้งหมดก็ยอมสยบให้หลวงปู่หมด โดยไม่เคยถูกทำร้าย เห็นเงาจิตใน ทิพภูมิ พบศาลาพันห้องในจิตวิญญาณเป็นศาลาแห่งโลกวิญญาณ มีถนนใหญ่กว้าง 8,000 วา มุ่งตรงสู่ศาลากว่า 8 สาย ไปพบสระอันเป็นขุมนรกของผู้กระทำบาปหนัก ชมนรกในสมาธิ
    ขณะสิริอายุย่าง 91 ปี หลวงปู่คำคะนิง จุลมณี ได้สนธนาให้ธรรมะแด่ศิษย์ 2 รูปที่ใกล้ชิด คือ พระอาจารย์ทองสา คำแฝง และพระสุธี ธาตุเหล็ก ให้ดำเนินจัดสร้างวัตถุมงคลขึ้นในต้นปี พ.ศ. 2527 โดยบอกเป็นนัยว่า “จะได้มีอนุสติเพื่อระลึกถึงพระเดชพระคุณหลวงปู่ในยามจากไป” ลูกศิษย์เอกทั้ง 2 จึงได้จัดสร้างเหรียญ และพระผงขึ้นเป็นรุ่น 1 ครั้นวันที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2527 หลวงปู่คำคะนิงก็ละสังขารอย่างสงบ สรีะร่างของหลวงปู่คำคะนิงได้รับการอัญเชิญอยู่บนแท่นอันสมควร ณ ถ้ำคูหาสวรรค์ อำเภอโขงเจียม จังหวัดอุบลราชธานี

    ข้อมูล buddha-amulet.com
     
  18. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    หลวงปู่สาม อกิญฺจโน วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์

    ๏ อัตโนประวัติ

    “หลวงปู่สาม อกิญฺจโน” อดีตเจ้าอาวาสวัดป่าไตรวิเวก ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ พระป่าปฏิบัติศิษย์สายหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต, หลวงปู่ดูลย์ อตุโล และหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม

    หลวงปู่สาม มีนามเดิมว่า สาม เกษแก้วสี เกิดเมื่อวันอาทิตย์ เดือน 10 ตรงกับเดือนกันยายน พ.ศ.2443 ณ บ้านนาสาม ต.นาบัว อ.เมือง จ.สุรินทร์ โยมบิดา-โยมมารดาชื่อ นายปวม และนางถึง เกษแก้วสี มีพี่น้องร่วมบิดามารดาเดียวกันทั้งหมด 11 คน ท่านเป็นบุตรคนโต (หัวปี)

    ๏ การบรรพชาและอุปสมบท

    ชีวิตในวัยเด็กนั้นสุดแสนยากลำบาก เพราะท่านต้องทำงานทุกอย่าง ลักษณะคล้ายผู้หญิงด้วยว่า น้องๆ ของท่านเป็นผู้ชายเสียหมด ไม่มีผู้หญิงเลย เมื่ออายุ 19 ปี ได้บรรพชาเป็นสามเณร สายมหานิกาย ณ วัดบ้านนาสาม อันเป็นวัดใกล้บ้านเกิดของท่าน

    จนกระทั่งอายุครบ 20 ปีบริบูรณ์ ได้เข้าพิธีอุปสมบทเป็นพระภิกษุ โดยมีพระครูวิมลศีลพรต เป็นพระอุปัชฌาย์

    ๏ พระป่าศิษย์สาย “หลวงปู่มั่น”

    ภายหลังอุปสมบท ท่านได้มุ่งมั่นศึกษาพระธรรมวินัย ต่อมาใน พ.ศ.2467 เมื่อทราบข่าวและกิตติศัพท์ของหลวงปู่ดูลย์ อตุโล ว่าได้กลับจากธุดงค์และจำพรรษาที่วัดป่าหนองเสม็ด ต.เฉนียง อ.เมือง จ.สุรินทร์ จึงได้ไปกราบขอฝากตัวเป็นศิษย์เพื่อฝึกวิปัสสนากัมมัฏฐาน

    หลวงปู่ดูลย์ เห็นถึงความตั้งใจและความพากเพียรที่จะเอาดีทางด้านประพฤติปฏิบัติของศิษย์ จึงแนะนำให้ไปศึกษาธรรมกับหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ซึ่งขณะนั้นอยู่ที่จังหวัดสกลนคร

    ท่านจึงกราบลาออกเดินธุดงค์รอนแรมไปท่ามกลางป่าเขาเป็นเวลาหลายเดือน กว่าจะได้เข้านมัสการหลวงปู่มั่น แล้วท่านก็ได้พักปฏิบัติธรรมอยู่กับหลวงปู่มั่น 3 เดือน ภายหลังจากสามเดือนผ่านไป หลวงปู่มั่นได้แนะนำให้หลวงปู่สาม ไปพบกับหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม เพื่อเป็นพระผู้ฝึกฝนอบรมสั่งสอนต่อไป

    ในปีที่มาอยู่ปฏิบัติธรรมกับหลวงปู่สิงห์นั้น ท่านได้ทุ่มเทชีวิตจิตใจอยู่กับการปฏิบัติจนต้องล้มป่วยอย่างหนักเกือบเสีย ชีวิต แต่ด้วยจิตใจเข้มแข็งแรงกล้าในธรรมะของพระศาสดาเจ้า พร้อมกับได้เห็นความจริงที่เกิดขึ้นภายในใจ ท่านไม่ยอมละลดต่อสู้กับโรคภัยนั้น ชนิดผอมหนังหุ้มกระดูก ต้องอาศัยกำลังใจ และไม้เท้ายันตัวเดิน

    ท่านเคยเล่าไว้ตอนหนึ่งว่า “เรานักต่อสู้ลูกพระพุทธเจ้า ถ้ามันยังไม่ตายยังหายใจอยู่ แม้ขาเดินไม่ได้เอาไม้เท่าเดินก็ต้องยอมตายกับความดีงามนะพวกเธอ”

    ครั้นได้พบหลวงปู่มั่นและหลวงปู่สิงห์ และหลวงปู่ทั้งสองได้รับตัวท่านไว้เป็นศิษย์ ให้การอบรมสั่งสอนแล้ว ท่านจึงกราบลาไปจำพรรษาที่จังหวัดสุรินทร์

    ๏ ญัตติเป็นธรรมยุต

    หลวงปู่สาม แต่เดิมท่านบวชพระเป็นฝ่ายมหานิกาย เพราะในจังหวัดสุรินทร์สมัยนั้นยังไม่มีพระฝ่ายธรรมยุตเลย ต่อมา หลวงปู่สามได้ย้อนกลับไปพบหลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม เพื่อญัตติเป็นสายธรรมยุต ณ วัดป่าสาลวัน ต.ในเมือง อ.เมือง จ.นครราชสีมา โดยมีพระครูจิตวิโส เป็นพระอุปัชฌาย์, หลวงปู่สิงห์ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระอาจารย์มหามึน เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “อกิญฺจโน”

    ๏ ออกเดินธุดงค์เพื่อมุ่งปฏิบัติภาวนา

    หลวงปู่สาม เป็นพระผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบ ท่านไม่ค่อยยอมอยู่กับที่ จะอยู่ก็เพียงเข้าพรรษา หรือขออุบายธรรมจากครูบาอาจารย์ชั่วครู่ชั่วคราวเท่านั้น ท่านก็จะเดินธุดงค์ต่อไปตั้งแต่เหนือจดใต้จากภาคกลางจดภาคตะวันออก ภาคอีสานทั้งหมด ท่านเป็นพระนักธุดงค์กรรมฐานที่มีความมานะอดทนเป็นพิเศษ

    ท่านถือคติที่ว่า “ท่านเป็นศิษย์ของพระตถาคต แม้ยังมีลมหายใจอยู่ ก็ต้องสู้กันให้ถึงที่สุด”

    หลวงปู่สิงห์ได้ชี้แนะให้ท่านไปธุดงค์ฝึกจิตกัมมัฏฐาน เทศนาสั่งสอนญาติโยม ร่วมกับพระอาจารย์ลี ธัมมธโร ในพื้นที่ จ.อุบลราชธานี

    เมื่อถึงช่วงออกพรรษา หลวงปู่สาม จะเสาะหาสถานที่วิเวกตามป่าเขา เพื่อประกอบความเพียร เมื่อเดินทางกลับทุกครั้ง หลวงปู่สามจะไปพบหลวงปู่ดูลย์ ที่วัดบูรพาราม จ.สุรินทร์ เพื่อช่วยบูรณะสร้างอุโบสถ และได้ไปธุดงค์ในภาคตะวันออก เช่น จันทบุรี ระยอง เป็นต้น

    ตั้งแต่สมัยเป็นพระภิกษุหนุ่มจนเข้าสู่วัยชรา ท่านได้ต่อสู้ชีวิตทุ่มเทกับการปฏิบัติมาอย่างโชกโชน ท่านเพ่งเพียรภาวนาอยู่เป็นนิจ ครั้นมาปรารภกับตนเองว่า “บัดนี้กำลังกายของเราก็อ่อนแอลงไปมากแล้ว น่าจะกลับมาอยู่ถิ่นเดิม คือในจังหวัดสุรินทร์

    นอกจากนี้แล้วก็ยังจะได้อยู่ใกล้ครูบาอาจารย์ คือหลวงปู่ดูลย์ อีกทั้งมารดาของท่านก็ได้ชราภาพมากแล้ว เป็นโอกาสอันดีที่จะได้นำธรรมะที่ท่านได้รับมาทั้งหมดเผยแผ่แก่บรรดาสาธุชน ต่อไปอีกด้วย” หลวงปู่สาม จึงได้เดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์ตั้งแต่บัดนั้น

    ท่านเคยเล่าเหตุการณ์ของพระธุดงค์สมัยก่อนนั้นว่า “สมัยโน้นพระธุดงค์ก็ลำบาก ชาวบ้านก็ลำบาก เพราะไม่เจริญอย่างปัจจุบันนี้นะ แต่มีความเพียรแรงกล้า มุ่งอรรถมุ่งธรรมกันจริงๆ มาสมัยนี้หละหลวมไม่เอาดีเลย สอนแล้วก็ลืม…ลืมปฏิบัติกัน !”

    ผลแห่งความเพียรปฏิบัติธรรม ท่านได้ฝึกจิตให้แกร่งกล้า ถึงขั้นฌานสมาบัติ อันเป็นรูปฌาน 4 และอรูปฌาน 4

    ต่อมา พระอาจารย์ลี ธัมมธโร แจ้งให้ทราบว่า หลวงปู่มั่นจำพรรษาที่จังหวัดสกลนคร จึงพากันเดินทางไปขอคำปรึกษาข้อปฏิบัติธรรมที่ติดขัด หลวงปู่มั่นแนะให้ไปฝึกกับหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ที่วัดหินหมากเป้ง ต.พระพุทธบาท อ.ศรีเชียงใหม่ จ.หนองคาย

    เมื่อทราบว่า หลวงปู่มั่น ภูริทัตโต ได้ถึงแก่มรณภาพลงที่จังหวัดสกลนคร หลวงปู่เทสก์, หลวงปู่ดูลย์, หลวงปู่แหวน, หลวงปู่ฝั้น, หลวงปู่สาม, พระอาจารย์ลี, พระอาจารย์อ่อน, พระอาจารย์วัน และพระอาจารย์จวน ไปร่วมจัดงานบุญให้หลวงปู่มั่น

    ข้อมูล prakammatan.com
     
  19. Kenny17

    Kenny17 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มกราคม 2011
    โพสต์:
    2,979
    ค่าพลัง:
    +10,866

    [​IMG]

    [​IMG]
    หลวงปู่สาม อกิญฺจโน วัดป่าไตรวิเวก จ.สุรินทร์

    ๏ เผยแผ่แนวทางกัมมัฏฐานในภาคใต้
    วันหนึ่ง หลวงปู่สามได้รับจดหมายจากหลวงปู่เทสก์ เทสรังสี ส่งจากมาจากจังหวัดภูเก็ต ให้ไปช่วยเผยแผ่แนวทางกัมมัฏฐานให้พระภิกษุ-สามเณร ในภาคใต้

    หลวงปู่สาม ท่านจึงเป็นกำลังใน “กองทัพธรรม” ที่สำคัญองค์หนึ่ง กล่าวคือ ท่านเดินทางร่วมไปปูพื้นฐานทางธรรมกับหลวงปู่เทสก์ และคณาจารย์อีกหลายสิบองค์ทางภาคใต้ การเผยแผ่ในครั้งนั้น แม้จะมีอุปสรรคอย่างมากมาย แต่ด้วยกำลังใจอันแน่วแน่มั่นคงของพระธุดงค์กรรมฐาน จึงสามารถฟันฝ่าอุปสรรคนั้นๆ ได้สำเร็จผลอย่างงดงาม เป็นที่ยอมรับในหมู่ชนชาวภาคใต้เป็นอันมาก

    คติธรรมที่หลวงปู่เทสก์ปรารภแก่คณะผู้ออกเผยแผ่ธรรมยึดมั่นในจิตใจ คือ “เปียกได้…ไหม้เสีย” หลวงปู่สาม ได้นำมาสอนอบรมบรรดาศิษย์ในกาลต่อมา เป็นกำลังใจแก่ผู้ปฏิบัติธรรม ควรน้อมเข้ามาพิจารณาคำนี้ให้จงหนัก หลวงปู่สามท่านเป็นพระภิกษุสงฆ์ผู้ปฏิบัติดีปฏิบัติชอบนำธรรมะออกเผยแผ่สู่ ประชาชนด้วยเมตตาธรรม

    หลวงปู่สาม เผยแผ่ธรรมที่ภาคใต้ เป็นเวลา 5 ปี จึงเดินทางกลับจังหวัดสุรินทร์

    ก่อนย้อนกลับไปที่จังหวัดภูเก็ต และที่ภาคตะวันออก รวมระยะเวลา 20 ปี ในการแสวงบุญธุดงค์ทำให้หลวงปู่สาม บังเกิดความเพียร ลดละกิเลส คือ ความอยาก ความรัก และความชัง หากปล่อยวางได้จนหมดสิ้นแล้ว

    ภายหลังได้ทราบข่าวว่า หลวงปู่สิงห์ ขันตยาคโม ได้มรณภาพลง ณ วัดป่าสาลวัน จ.นครราชสีมา จึงไปช่วยงานบุญพระราชทานเพลิงศพ

    ก่อนเดินทางไปธุดงค์ที่จังหวัดพิษณุโลก พ.ศ.2510 ได้มีญาติโยมนิมนต์หลวงปู่สาม ไปพำนักจำพรรษาที่บ้านขนาดปริ่ง ต.เชื้อเพลิง อ.ปราสาท จ.สุรินทร์ แต่ได้มีหน่วยงานราชการ ชี้แจงว่า บริเวณสำนักสงฆ์เป็นพื้นที่ป่าทำเลเลี้ยงสัตว์

    พ.ศ.2512 หลวงปู่สาม ได้ย้ายไปอยู่ในป่าละเมาะ บ้านตระงอน กิโลเมตรที่ 11 ถนนสุรินทร์-ปราสาท ต.นาบัว ไม่วายโดนร้องอีก

    แต่ถึงจะเป็นผู้บริสุทธิ์แล้ว ก็ยังถูกลอบทำร้ายจากมนุษย์ใจบาป ในเรื่องนี้ท่านกล่าวว่า “ลูกเอ๋ย..มันเป็นกรรมนะต้องใช้กรรมเวร ยุติธรรมดีแล้ว แม้พระพุทธเจ้าของเราลูกเห็นไหม ? พระองค์ยังต้องประสบในเรื่องเช่นนี้นะ ฉะนั้น จงปล่อยไปตามกรรมที่ทำไว้แต่หนหลัง ปัจจุบันทำจิตใจของตนเองให้บริสุทธิ์ก็พอแล้ว ทำอย่างไรหนอ จึงจะพ้นทุกข์นี้ไปได้เท่านั้น”

    ๏ สร้างวัดป่าไตรวิเวก

    เวลาไม่นาน ได้มีคณะญาติโยมมีจิตศรัทธาถวายที่ดิน กิโลเมตรที่ 12 สร้างเป็นสำนักสงฆ์เล็กๆ เพื่อพำนักปฏิบัติธรรม กลายเป็นที่มาของการจัดตั้งวัดป่าไตรวิเวก

    ๏ การสร้างวัตถุมงคล

    ด้านวัตถุมงคล พ.ศ.2512 อนุญาตให้ศิษยานุศิษย์จัดสร้างวัตถุมงคลเป็นเหรียญรูปเหมือน รุ่น 1 และอีกหลายรุ่นในปีถัดมา เช่น กริ่งรูปเหมือน พระผงสมเด็จ พระผงรูปเหมือน เป็นต้น วัตถุมงคลทุกรุ่นได้รับความนิยมสูง ทำให้พัฒนาถาวรวัตถุภายในวัดเจริญรุ่งเรืองตามลำดับ

    ๏ ปฏิปทา

    “ปฏิปทาของหลวงปู่สาม อกิญฺจโน นั้น สาธุชนที่เคยเดินทางไปกราบนมัสการคงจะตระหนักดีว่า มีความคล้ายคลึงกับหลวงปู่ดูลย์ อตุโล มากทีเดียว ท่านมากไปด้วยขันติ โสรัจจะ อดทน สงบเงียบ เยือกเย็น ชีวิตเพศแห่งสมณะหลวงปู่ไม่เคยว่างเว้นในการเดินธุดงค์ไปตามป่าเขาและใน จังหวัดต่างๆ จิตของท่านเต็มไปด้วยเมตตา ไม่เคยขัดศรัทธาคณะศรัทธาญาติโยมใครๆ เลย”

    ๏ การมรณภาพ

    หลวงปู่สาม อกิญฺจโน ท่านเป็นพระนักปฏิบัติที่เคร่งครัดในพระธรรมวินัย บ่อยครั้งเกิดอาการอาพาธ ต้องเข้า-ออกรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล จนกระทั่งวันที่ 2 กุมภาพันธ์ พ.ศ.2534 หลวงปู่สามได้มรณภาพลงอย่างสงบ สิริอายุรวม 91 พรรษา 71 ท่ามกลางความเศร้าสลดของคณะศิษยานุศิษย์และพุทธศาสนิกชนทั่วไปเป็นยิ่งนัก

    ข้อมูล prakammatan.com
     
  20. MrCHAN

    MrCHAN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กันยายน 2012
    โพสต์:
    5,812
    ค่าพลัง:
    +97,448

    [​IMG]


    [​IMG]

    หลังบรรจุอัฐิธาตุหลวงปู่ดู่ ที่ อ.ศุภรัตน์ได้อธิษฐานขออัฐิธาตุของลป.ดู่ให้เสด็จมา

     

แชร์หน้านี้

Loading...