อัลบั้มพระ ประวัติ และวัตถุมงคล

ในห้อง 'ประสบการณ์ เรื่องเล่า' ตั้งกระทู้โดย ปู ท่าพระ, 26 ธันวาคม 2013.

  1. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124

    พระปิดตาเนื้อหามวลสารดูดีครับ....สายป่าร่วมปลุกเสกเยอะมาก...ได้สนทนากับหลายๆรูปแล้วน่าติดตามครับ....การเดินธุดงค์ทุกๆรูปจะมีเรื่องเล่าที่แตกต่างกันน่าชวนติดตามยิ่งนัก....
     
  2. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124

    ว่าจะไปกราบหลวงปู่มีชัยอีกใช่หมัย..?
     
  3. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    มีโอกาสก็อยากไปอีกครับ.....
     
  4. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]

    [​IMG]


     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กันยายน 2014
  5. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    [​IMG]

    [​IMG]
     
  6. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508

    [​IMG]

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 6 กันยายน 2014
  7. nitikoon kongkhaw

    nitikoon kongkhaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,314
    ค่าพลัง:
    +53,508
    ตาจะปิดแล้ว ขอพักผ่อนก่อนครับ...........sleeping_rbsleeping_rbsleeping_rb
     
  8. jumbo_a44

    jumbo_a44 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2012
    โพสต์:
    6,518
    ค่าพลัง:
    +68,124

    เชิญคุณกูนพักผ่อนครับ...
     
  9. อีกยาวนาน

    อีกยาวนาน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    746
    ค่าพลัง:
    +3,940
    ขอดัน ให้คุณ tee ขี้อวด มาอ่าน และเอา เช็คเงินแสนมาโชว์ อีกนะครับ:cool:
     
  10. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    หลวงพ่อสงเคราะห์ทุกอย่าง

    สมศรี ตั้งศิริพร


    ข้าพเจ้าเป็นลูก (ศิษย์) ของหลวงพ่อพระราชพรหมยาน วัดท่าซุง ได้พยายามปฏิบัติตามคำสั่ง และคำสอนขององค์สมเด็จพระบรมครู ซึ่งหลวงพ่อได้เมตตานำมาสั่งสอน จนกระทั่งได้มาพบสิ่งอัศจรรย์ต่างๆ มากมายหลังจากเป็นลูกศิษย์หลวงพ่อ จึงอยากเล่าให้ท่านอื่นๆ ฟัง ซึ่งถ้าเป็นลูก (ศิษย์) ของหลวงพ่อและปฏิบัติธรรมแล้ว จะไม่สงสัย เพราะจะได้ประสบเอง แต่สำหรับท่านที่กำลังจะปฏิบัติ หรือเริ่มปฏิบัติก็ขอให้อ่านไว้เป็นความรู้ ส่วนท่านที่ไม่เชื่อก็ขอให้อ่านเล่นเป็นนิทานก็แล้วกัน

    ๑. เข้าเฝ้าองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้า

    ประมาณปี พ.ศ.2533 เช้าวันหนึ่งข้าพเจ้าสวดมนต์เช้าที่บ้าน หลวงพ่อท่านสอนว่า ผู้ที่ได้มโนมยิทธิทุกครั้งที่สวดมนต์ไหว้พระ ให้เอาจิตขึ้นไปกราบพระพุทธเจ้าที่วิมานของท่านที่พระนิพพานทุกครั้ง ข้าพเจ้าก็พยายามทำตาม ถึงแม้จะเห็นบ้างไม่เห็นบ้าง ชัดบ้างไม่ชัดบ้างก็ตาม วันนั้น รู้สึกอารมณ์ผ่องใสเป็นพิเศษ (ไม่เกาะในโลกนี้ รวมทั้งสวรรค์ และพรหมโลก)

    มีความรู้สึกว่าได้กราบแทบพระบาทขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระองค์ทรงมีพระเมตตาต่อข้าพเจ้าอย่างเหลือจะพรรณนา ข้าพเจ้ารู้ว่า ที่ตนเองเคยคิดว่ารักหลวงพ่อที่สุด ไม่มีใครที่จะรักไปมากกว่าหลวงพ่อนั้น ผิดถนัด เพราะความจริงแล้ว จิตของข้าพเจ้ารักองค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (องค์ปัจจุบัน) มากที่สุด ต่อให้กองสมบัติมีค่าใดๆ ต่อหน้า

    ข้าพเจ้าก็ไม่ปรารถนา ข้าพเจ้าเกิดปีติอย่างมาก (มากที่สุดในชีวิต) น้ำตาไหลตลอดเวลา ร้องไห้สะอึกสะอื้นเป็นเวลานาน แต่จิตเป็นสุขมากที่สุด เพราะข้าพเจ้าได้พบแล้ว ดวงประทีปส่องทางชีวิตของข้าพเจ้ามาหลายแสนชาติ ซึ่งเป็นที่รักและเคารพที่สุดของข้าพเจ้า

    ๒. สัมผัสพระธรรมคำสั่งสอนขององค์สมเด็จพระบรมครู

    ข้าพเจ้าเป็นคนชอบอยากรู้ด้วยตนเอง เมื่อหลวงพ่อท่านสอนว่า เวลาไหว้พระ ถ้านึกถึงพระธรรม ให้นึกถึงดอกมะลิแก้วไหลออกจากพระโอษฐ์ของพระพุทธเจ้า รดศีรษะของเรา ข้าพเจ้าก็นึกเช่นนั้นทุกครั้ง มีอยู่วันหนึ่ง ก็มีความรู้สึกอยากสัมผัสพระธรรมเจ้าเป็นอย่างไร ในขณะที่ไหว้พระสวดมนต์เช้านั้นเอง (ข้าพเจ้าสวดมนต์ทุกเช้าก่อนออกไปทำงาน) ข้าพเจ้าก็พบว่าตนเองกำลังกราบองค์สมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าอยู่แทบพระบาท

    มีดอกมะลิแก้วไหลออกจากพระโอษฐ์ ตกลงมาบนศีรษะของข้าพเจ้า ข้าพเจ้ารู้สึกว่า เย็นสบายมาก เพราะพระธรรมได้ไหลซึมเข้าไปในศีรษะ มีความเย็นซาบซ่านในหัวมาก ถึงแม้ว่าจะเลิกไหว้พระแล้วเดินออกจากห้องพระแล้วก็ตาม ความเย็นซาบซ่านยังมีอยู่ ส่วนความสุขใจนั้น สุขมากที่สุดเกินจะพรรณนา

    ๓. ได้พบพระอริยสงฆ์หลายองค์

    องค์แรกคือ หลวงปู่แหวน ครั้งแรกคุณป้าชอ ท่านเป็นครูสอนมโนมยิทธิให้ ท่านบอกว่า หลวงปู่แหวนคอยช่วยข้าพเจ้าเวลาเจริญสมาธิ ข้าพเจ้าก็มองไม่เห็นท่านมาได้เห็นท่านคราวหลัง จึงกราบท่านทุกครั้งก่อนเจริญพระกรรมฐาน (ข้าพเจ้าไม่เคยไปกราบ หรือทำบุญกับหลวงปู่แหวนเลยในขณะที่ท่านมีชีวิตอยู่ แต่ก็เคารพนับถือในความดีของท่าน)

    องค์ที่สองคือ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง เมื่อหลายปีมาแล้ว ข้าพเจ้าได้อ่านหนังสือโลกทิพย์ ได้พบรูป หลวงปู่บุญตา วิสุทธสีโล วัดคลองเกตุ ต.โคกสำโรง จ.ลพบุรีก็รู้สึกชักเคารพศรัทธาในหลวงปู่บุญตามาก จึงเขียนจดหมายไปเพื่อถวายพัดลมติดเพดาน เพื่อติดศาลาการเปรียญหลังใหญ่ของวัดทั้งหมด ต่อมาข้าพเจ้าจึงได้รู้ว่า ท่านเคยเป็นพ่อในอดีตชาติ จึงทำให้ข้าพเจ้ารักท่านมาก

    ต่อมา ท่านจะทำบุญใหญ่เพื่อฉลองการเลื่อนสมณศักดิ์ ท่านจัดให้มีการปลุกเสกเครื่องรางของขลัง โดยได้นิมนต์หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง เป็นประธาน ที่ร้านของข้าพเจ้า พนักงาน และน้องชายชอบเล่นพระก็นับถือหลวงพ่อแพอยู่ ข้าพเจ้าก็พาสามีและลูกสาวทั้งสองคนไปทำบุญที่วัดคลองเกตุ วันนั้นปรากฏว่าไม่ได้พบหลวงพ่อแพเพราะท่านป่วย เส้นเลือดในสมองแตก

    กำลังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาลพระมงกุฎฯ ข้าพเจ้าก็กลับบ้านด้วยความเป็นห่วงหลวงพ่อแพ ตอนกลางคืนจึงไหว้พระสวดมนต์ ขอให้ท่านหายจากอาพาธโดยเร็ววัน ต่อมา 2 วัน ตอนเช้ามืด ข้าพเจ้าก็ได้ฝันว่าหลวงพ่อวัดท่าซุง ท่านพาเหาะขึ้นไปบนท้องฟ้า ได้พบพระสงฆ์องค์หนึ่งนั่งบนแท่นแก้วลอยอยู่บนท้องฟ้า หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านได้แนะนำว่าท่านเป็นพระดี

    พระองค์ที่นั่งนั้นก็คือ หลวงพ่อแพ วัดพิกุลทอง นั่นเอง ข้าพเจ้าได้ไปกราบเท้าท่าน และท่านก็ได้สอนธรรมะอย่างย่อๆ 1 ประโยคให้ข้าพเจ้าด้วย ข้าพเจ้าฟังแล้วรู้สึกเข้าใจมาก แต่น่าเสียดาย ตื่นมาได้สักครู่ก็ลืมธรรมะนั้น ข้าพเจ้าสังเกตว่า พระอริยสงฆ์, พระอรหันต์ แม้แต่พระปัจเจกพุทธเจ้า เมื่อท่านสอนธรรมะแก่ข้าพเจ้า ท่านจะสอนแค่ประโยคสั้นๆ ฟังเข้าใจง่ายแต่ซาบซึ้งมาก (ท่านสอนในความฝัน)

    ต่อมา ข้าพเจ้าก็ได้พบพระอริยเจ้าทางความฝัน บางครั้งฝันว่าได้ขึ้นไปเที่ยวข้างบนได้พบเณร (พระอรหันต์) เล่นฤทธิ์กันใหญ่ พบพระมีฤทธิ์ต่างๆ มากมายหลายครั้ง มีอยู่ครั้งหนึ่งข้าพเจ้าได้ไปเที่ยว จ.สุโขทัย กับครอบครัว ตอนกลางวันได้ไปเที่ยวเมืองเก่ากัน ข้าพเจ้ามีความรู้สึกว่าเคยอยู่สถานที่นี้มาก่อน ได้ไปกราบไหว้พระหลายองค์ รู้สึกมีความสุขมาก ตอนกลางคืน เวลาประมาณตี 3 กว่า

    ก็ได้ฝันว่า (ข้าพเจ้ามองเห็นด้วยตาของตนเอง) มีเทวดาองค์หนึ่งทรงเครื่องทรงของกษัตริย์ บนพระเศียรเกล้าเป็นมวย 3 ชั้น มีพระเกี้ยวปักอยู่ สังวาลของท่านเป็นพลอย 3 เม็ดใหญ่ 3 สี เสื้อเป็นทองคำปักดิ้นทองฝังเพชรพลอย นั่งอยู่บนตั่งทองคำประดับเพชรพลอย ตั่งนี้ (แท่น) ตั้งบนเมฆบนท้องฟ้า ที่พระบาทมีผู้หญิงคนหนึ่งนุ่งห่มสไบเฉียง แต่งตัวแบบไทยโบราณกราบอยู่ ข้าพเจ้านึกรู้ว่า

    นั่นคือตัวของเราเอง เทวดาองค์นั้น ท่านมีเมตตาต่อข้าพเจ้ามาก ท่านบอกว่า ท่านเคยเป็นปู่ในอดีตชาติ ท่านบอกให้ข้าพเจ้าตั้งใจทำความดีต่อไป อย่าท้อถอย ท่านจะช่วยเหลือข้าพเจ้า ท่านบอกว่า ความดีที่ข้าพเจ้าพยายามทำอยู่นั้น ดีแล้ว ท่านก็รู้ว่าข้าพเจ้าลำบาก ท่านจึงมาให้กำลังใจ ข้าพเจ้าก็ถามว่า ท่านเป็นพระอรหันต์แล้วหรือ? ท่านไม่ตอบ แต่ใจของข้าพเจ้ารู้ว่าท่านตอบว่า ยัง

    ท่านเป็นพรหม ทันใดนั้น ผมของท่านหายไป มีชฎามาสวมแทน ท่านสวยงามมาก แล้วท่านก็หายไป ข้าพเจ้าตกใจตื่นขึ้นมาตี 3 เศษ ข้าพเจ้ารู้สึกปลื้มปีติมาก เพราะที่หลวงพ่อท่านเมตตาสอนให้ทำความดีอยู่เสมอ ละความชั่วตลอดนั้น ถึงแม้คนอื่นจะเห็นหรือไม่ก็ตาม แต่พระท่านรู้ เทวดา, พรหมท่านรู้ เพราะท่านมีกายเป็นทิพย์

    มีจิตเป็นทิพย์ ย่อมรู้วาระจิตของคนทุกคนนั้น เป็นจริง พิสูจน์ได้จากการพบจากประสบการณ์ของข้าพเจ้า นับตั้งแต่ได้พบหลวงพ่อพระราชพรหมยาน (วัดท่าซุง) ได้ทำบุญกับท่าน ได้ปฏิบัติตามที่ท่านสอนตลอดมา นอกจากนี้หลวงพ่อท่านยังเมตตาช่วยลูกหลานอยู่เสมอ ข้าพเจ้าจะยกเหตุการณ์ให้อ่านสัก 2 – 3 เรื่องดังนี้

    ๑. หลวงพ่อช่วยทำพิธีบวงสรวง

    ข้าพเจ้าทำการค้าธุรกิจส่วนตัว แถวเยาวราช ซึ่งเป็นร้านเช่าไม่ได้เป็นของตนเอง ต้องต่อสัญญาเช่าทุก 3 ปี ก่อนต่อสัญญาครั้งสุดท้ายนี้ เจ้าของบ้านบอกว่า จะไม่ต่อสัญญาให้ ข้าพเจ้าจึงต้องขวนขวายหาที่ทำการค้าใหม่ไว้เผื่อสำรอง ในขณะเดียวกันก็บนหลวงพ่อ 4 พระองค์ที่วัดท่าซุงไว้ ขอให้ท่านช่วยให้เจ้าของบ้านต่อสัญญาเช่าให้ด้วย และได้แก้บนไปแล้วปี 2534 นี้เอง

    (ได้ต่อสัญญาเช่าเรียบร้อยแล้ว อีก 3 ปีจึงจะไปบนใหม่อีก!) ข้าพเจ้าได้ที่ใหม่ อยู่สี่แยกท่าพระ และกำลังจะเริ่มทำการตกแต่ง และก่อสร้างปลายปี 2533 วันอาทิตย์ที่ 24 ธันวาคม ข้าพเจ้าและสามี ก็ได้ทำพิธีบวงสรวงท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 และเทวดา พรหมทั้งหมด ข้าพเจ้าไม่เคยทำมาก่อน ครั้งนี้เป็นครั้งแรกในชีวิต ข้าพเจ้าอ่านจากหนังสือตอบปัญหาธรรมของหลวงพ่อ

    ซึ่งอธิบายถึงเครื่องบวงสรวง และได้อ่านหนังสือธัมมวิโมกข์เกี่ยวกับบายศรี รวมทั้งหนังสือบันทึกของชาโดว์ จึงจัดเตรียมสิ่งของบวงสรวงได้เรียบร้อย กลางคืนวันเสาร์ที่ 23 ธันวาคม 2533 ข้าพเจ้าได้จุดธูป 3 ดอก อาราธนาหลวงปู่ปานและหลวงพ่อ ให้ท่านช่วยเป็นประธานในการทำพิธีในวันรุ่งขึ้น พอวันรุ่งขึ้น ข้าพเจ้าและบริวารก็ช่วยกันจัดตั้งโต๊ะ ปูผ้าขาว เอาสิ่งของใส่พานโดยมีกระดาษสีแดงรอง

    เสร็จแล้วก็เปิดเทปสมาทานพระกรรมฐาน (ซื้อได้ที่วัดท่าซุง และซอยสายลม ในราคาม้วนละ 25 บาท เท่านั้น) จุดธูป 3 ดอก อาราธนาพระบารมีของพระพุทธ, พระธรรม, และพระอริยสงฆ์ มีหลวงปู่ปาน วัดบางนมโค และหลวงพ่อวัดท่าซุง เป็นที่สุด อาราธนาท่านท้าวมหาราชทั้ง 4 องค์ และเทวดา พรหมทั้งปวง ตลอดจนเทวดาที่คุ้มครองสถานที่แห่งนี้ (ร้านใหม่ที่สี่แยกท่าพระ ฝั่งธนบุรี)

    ให้ท่านมารับของเครื่องสักการะ และขอพรทุกท่านให้ช่วยเมตตา ปกปักรักษาข้าพเจ้า พร้อมครอบครัวและบริวาร ตลอดจนบริษัทของข้าพเจ้าให้แคล้วคลาดปลอดภัย และมีความคล่องตัว ในขณะที่เริ่มเปิดเทปสมาทานพระกรรมฐานนั้น ข้าพเจ้าเห็นหลวงปู่ปานท่านเหาะมาลงยืนด้านซ้ายมือ ข้างโต๊ะบวงสรวง และเห็นหลวงพ่อท่านเหาะมาลงด้านขวาของโต๊ะ

    หลวงปู่ปานท่านมาสักครู่ท่านก็กลับ แต่หลวงพ่อท่านยืนอยู่ตลอดเวลา ที่ข้าพเจ้าสวดมนต์, ภาวนา, และท่องคาถาเงินล้าน 9 จบ จนข้าพเจ้าเลิกพิธีจึงไม่เห็นท่านอีก ข้าพเจ้าปลื้มใจมาก ไม่รู้สึกว่าร้อนทั้งๆ ที่แดดเปรี้ยง แต่มีความรู้สึกเย็นสบายดี มีลมเย็นพัดผ่านศีรษะ และมีเมฆบังแสงอาทิตย์ให้ด้วย ข้าพเจ้ายังได้เห็นสัมภเวสีมากินของบวงสรวงด้วย

    เป็นผู้ชายแต่งตัวดี ใส่เสื้อแขนยาวสีฟ้าอ่อน มีบาดแผลแตกเลือดไหลที่ศีรษะ รูปร่างสันทัด อายุประมาณ 30 กว่า รู้สึกว่าเขาหิวมาก มือหนึ่งถือของกินเข้าปากเคี้ยว อีกมือก็ยังถือของกินด้วย ข้าพเจ้าได้แผ่บุญให้เขาไปด้วย (สงสัยอาจจะโดนรถชนตายอยู่แถวนั้น)

    ๒. หลวงพ่อช่วยไม่ให้ไฟไหม้ร้าน

    ก่อนเปิดร้านใหม่ที่ท่าพระ 2 วัน พนักงานในร้านออกไปแจกใบปลิวกันหมด เหลืออยู่ในร้าน 3 คน (ข้าพเจ้าและลูกน้องอีก 2 คน) กับญาติของพนักงานมาเที่ยวอีก 3 – 4 คน เด็กได้มาบอกว่า ไฟไหม้ติดกับร้านของเรา ข้าพเจ้าตกใจมาก เพราะในร้านมีสต๊อกสินค้ามาก ข้าพเจ้าได้โทรเรียกรถดับเพลิงแล้วรีบมาไหว้พระ กำหนดจิตให้เป็นสมาธิ อาราธนาพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์

    มีหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นที่สุด ตลอดจนเทวดา พรหมทั้งหมด ขอให้ท่านช่วยให้แคล้วคลาดปลอดภัย ทันใดนั้น ข้าพเจ้าเห็นหลวงพ่อท่านเหาะมาให้ห้อง ดูท่านมีอำนาจมาก ท่านมาพร้อมไม้เท้า พอมาถึง ลมก็พัดไปทางตรงข้าม (ข้าพเจ้าดูจากควันไฟ) จากนั้นไม่นาน เขาก็ดับไฟได้ ข้าพเจ้ารู้สึกสำนึกใพระคุณของหลวงพ่อท่านยิ่งนัก และยิ่งเชื่อมั่นในพระรัตนตรัยยิ่งขึ้น

    ๓. หลวงพ่อรักลูกทุกคน

    เมื่อประมาณกลางปี 2533 ข้าพเจ้าฟังเทปธรรมะที่หลวงพ่อท่านเทศน์สอน ท่านมักจะกล่าวถึง ชื่อลูกหลานที่นั่งอยู่ข้างหน้า เช่น คุณขวัญ, คุณสุวิทย์ ฯลฯ (ขออภัยท่านที่ถูกกล่าวนามด้วย) ข้าพเจ้าฟังแล้วก็มีความรู้สึกอิจฉาท่านเหล่านั้น แต่ก็ปลอบใจตนเองว่า หลวงพ่อท่านรักลูกหลานทุกคน แก้ไขความชั่วในจิตตนเองได้ชั่วคราว เดี๋ยวก็เกิดอีก ในใจก็คิดว่า

    หลวงพ่อท่านรักลูกทุกคนที่ท่านเรียกมากกว่าตัวเรา เป็นเช่นนี้อยู่ 1 เดือน วันหนึ่งตอนเช้ามืด ข้าพเจ้าก็ฝันว่ากำลังนั่งคุยกับเพื่อนผู้หญิง ประมาณเกือบ 10 คน (7 – 8 คน) ในห้องฝากระดาน ไม่มีเฟอร์นิเจอร์ พวกเรารู้จักสนิทสนมกันนานมาก นั่งบนพื้นห้องที่ปูพรมไว้ ตามความฝันรู้สึกว่าเป็นกุฏิของหลวงพ่อที่วัด ในขณะนั้นก็มีเพื่อนผู้หญิงมาเรียก บอกว่าหลวงพ่อท่านให้ไปพบ 3 คน

    พร้อมกับเอ่ยชื่อ (ไม่มีชื่อปัจจุบันของข้าพเจ้า แต่ข้าพเจ้าก็รู้ว่านั่นเป็นชื่อของเราเอง) พวกเราทั้ง 3 ก็รีบไปหาหลวงพ่อท่าน ห้องของท่านเป็นฝาไม้กระดาน ไม่มีเฟอร์นิเจอร์เช่นกัน ท่านนั่งอยู่บนพรมสีแดง พวกเราคลานเข้าไปหาก่อนทีละคน ข้าพเจ้าเป็นคนสุดท้าย ท่านมองหน้าข้าพเจ้าด้วยความเมตตาอย่างยิ่ง แล้วท่านกล่าวว่า “จำไว้นะลูก พ่อรักลูกทุกคนเท่ากันหมด” ท่านบอกข้าพเจ้าถึง 2 ครั้ง

    และท่านก็แนะนำการปฏิบัติของข้าพเจ้าอย่างสั้นๆ พร้อมกับเปิดหนังสือธรรมะและบอกให้ข้าพเจ้าอ่าน “อ่านหนังสือเสียลูก” ท่านบอกแล้วข้าพเจ้าก็ตื่นขึ้นมา เป็นเวลาตี 5 ครึ่งเกือบ 6 โมงเช้าแล้ว ข้าพเจ้ามานั่งคิดว่าท่านสั่งให้อ่านหนังสือ หมายความว่าอย่างไร ก็มีความเข้าใจว่า ข้าพเจ้าต้องอ่านหนังสือธรรมะทุกวัน จึงจะมีความเจริญก้าวหน้าทางโลกุตรธรรม

    ซึ่งคำสั่งนี้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านได้สั่งไว้เมื่อปี 2531 ข้าพเจ้ามาไตร่ตรองดูจึงเข้าใจ เพราะเมื่ออ่านหนังสือธรรมะ จิตของข้าพเจ้าจะเข้าถึงอุปจารสมาธิได้ง่าย อ่านถึงเหตุการณ์ใดจะเห็นเหตุการณ์นั้นได้ เหมือนดูด้วยตา องค์สมเด็จพระบรมครู และหลวงพ่อท่านรู้จริตของลูกหลาน และท่านแนะนำการปฏิบัติให้ตรงทาง เพื่อจะได้ก้าวหน้าได้เร็วโดยแท้จริง

    ๔. หลวงพ่อมาเตือน เมื่อลูกทำความชั่ว

    คนทุกคนที่เกิดมาในโลกนี้ ย่อมหนีโลกธรรม 8 ประการไม่พ้น มีลาภก็เสื่อมลาภ มียศก็เสื่อมยศ มีสุขก็มีทุกข์ มีสรรเสริญก็มีนินทา รู้ทั้งที่รู้ เนื่องจากการฟัง การอ่าน แต่ก็ไม่สามารถจะอดทนหรือทนอดได้ ข้าพเจ้าก็เช่นเดียวกับปุถุชนคนอื่นที่ไม่ยอมละวางการถือตัวถือตน ที่ไม่ยอมคิดว่า มันเป็นเรื่องธรรมดา เมื่อกระทบโลกธรรมทั้ง 8 ประการ ข้าพเจ้าโกรธที่แม่และญาติพี่น้องรุมด่าว่า

    ประณามทั้งที่ไม่ได้ทำผิด ทั้งๆ เสียสละทุกอย่าง เพื่อท่านจะได้มีความสุข ไม่เคยนึกถึงตนเองก่อน แต่นึกถึงท่านผู้มีคุณก่อนเสมอ ข้าพเจ้าพยายามตัดใจ ไม่คิดชั่ว แต่ก็ทำได้บ้างไม่ได้บ้าง คราวหลังๆ รู้สึกว่าหนักมาก ข้าพเจ้ารู้สึกเสียใจมากและโกรธมาก ถ้าทำผิดจะไม่โกรธ แต่นี่ไม่ผิด จึงทั้งโกรธทั้งเสียใจ ข้าพเจ้าจึงตั้งใจจะตัดแม่ตัดลูกกับแม่ (ท่านตัดเราก่อน แต่ข้าพเจ้าไม่เคยกล่าวคำหยาบด่าว่าท่าน)

    ในตอนกลางคืนก่อนสว่าง ข้าพเจ้าฝันเห็นหลวงพ่อท่านเข้ามาในห้องนอน ท่านหน้าบึ้ง ไม่ยิ้มเลย ซึ่งปกติท่านจะมีเมตตากับลูกหลานเสมอ ท่านไม่พูดอะไรเลย มาถึง ท่านยืนนิ่ง ข้าพเจ้ารู้ตัวว่า ตนเองได้ทำความผิดอย่างมหันต์ คือเป็นคนอกตัญญูต่อแม่ท่านผู้มีคุณใหญ่ ข้าพเจ้าเสียใจมากที่ทำผิดทำชั่ว

    ข้าพเจ้าร้องไห้แล้วคลานเข้าไปกราบแทบเท้าหลวงพ่อ กล่าวขอขมาต่อท่านว่า “ต่อไปลูกจะไม่ทำชั่ว ไม่คิดชั่วอีกแล้วเจ้าค่ะ” หลวงพ่อท่านจึงหายหน้าบึ้ง แล้วข้าพเจ้าก็ตกใจตื่นขึ้น ในเดือนนั้น หลวงพ่อท่านสอนธรรมะเรื่องการกตัญญูต่อผู้มีคุณ การทำบาป 5 อย่าง ที่ต้องตกนรกทันที บุญใดๆ ก็ช่วยไม่ได้ นั่นคือ

    ๑. ฆ่าพ่อ
    ๒. ฆ่าแม่
    ๓. ฆ่าพระอรหันต์
    ๔. ทำพระพุทธเจ้าให้ห้อพระโลหิต
    ๕. ทำสงฆ์ให้แตกร้าวกัน

    สิ่งต่างๆ เหล่านี้เป็นเครื่องยืนยันได้ว่า หลวงพ่อท่านรักลูกหลานเพียงใด ท่านช่วยทุกอย่าง ทุกทาง ทั้งทางโลก และทางธรรม ถ้าไม่ได้ท่านช่วย ป่านนี้ ข้าพเจ้าคงจะลำบาก ทั้งในโลกนี้ และโลกหน้าเมื่อตายไป ลูกขอกราบขอบพระคุณหลวงพ่อเจ้าค่ะ ลูกขอสัญญาจะปฏิบัติตามคำสั่งและคำสอนทุกอย่างที่หลวงพ่อเมตตาสอน ตลอดไปจนกว่าจะหมดลมหายใจอีกครั้ง

    (ข้าพเจ้าเคยตายมาแล้วหนึ่งครั้งเมื่อวันที่ 16 ก.พ. 2534 ซึ่งได้เคยเขียนลงหนังสือธัมมวิโมกข์แล้วฉบับเดือนมิถุนายน’34) ขอคุณความดีทั้งปวง ที่ลูกได้ปฏิบัติมาตั้งแต่ต้น จนกว่าจะเข้าพระนิพพาน ขอถวายหลวงพ่อทั้งหมด ขอให้หลวงพ่อของลูกมีขันธ์ 5 ที่แคล่วคล่อง เพื่อจะยังคุณประโยชน์ และเป็นที่พึ่งแก่ลูกหลานและประเทศชาติและพระพุทธศาสนาสืบไป

    อานุภาพน้ำมนต์ชาตรี

    เมื่องานทอดกฐินที่วัดท่าซุง วันที่ 10 พฤศจิกายน 2534 ข้าพเจ้าได้ไปร่วมงานและได้ซื้อน้ำมนต์ชาตรี ซึ่งหลวงพ่อปลุกเสกกลับบ้าน 6 ขวด (ขวดเล็ก ขวดละ 5 บาท) ส่วนขวดใหญ่ไม่ได้ซื้อ เพราะหนักมากหิ้วไม่ไหว คนก็เยอะ แล้วข้าพเจ้ายังได้ถวายสังฆทาน มีพระพุทธรูปพร้อมผ้าไตรและของที่จำเป็นบริวาร นอกจากนี้ ยังได้เช่าผ้าไตรถวายอีก 5 ผืน ทำให้ไม่สามารถซื้อมาได้อีก

    วันนั้นทำบุญอิ่มใจจริงๆ เมื่อกลับมากรุงเทพฯ ข้าพเจ้าได้ให้น้ำมนต์หนึ่งขวดแก่ลูกน้องชื่อ นก (สุวรรณี ปรมีศณาภรณ์) เพื่อให้เขาไปให้ลูกทั้ง 2 คนซึ่งไม่ค่อยสบายดื่ม และเอาไปให้คุณแม่ซึ่งป่วย คุณแม่ของนก อาการไม่ค่อยดี เป็นลมไม่รู้สึกตัว ต้องนำส่งโรงพยาบาลหลายครั้ง หมอตรวจพบว่า เป็นถุงลมโป่งพองในถุงน้ำดี และเป็นนิ่วก้อนโตในไต หมอจึงได้ให้ยา และนัดทำการผ่าตัดวันศุกร์ที่ 13 ธันวาคม 2534

    นกรู้สึกเป็นทุกข์มากเพราะไม่มีคนอยู่บ้านเลี้ยงลูก 2 คน และยังมียายซึ่งป่วยเป็นอัมพาต ช่วยตนเองไม่ได้อีกหนึ่งคน จึงได้ตัดสินใจว่า ถ้าแม่ต้องผ่าตัดและพักฟื้น จะให้แม่และลูกสาวคนเล็ก ไปอยู่บ้านพี่สาว ส่วนยายที่ป่วยเป็นอัมพาต ต้องส่งไปให้น้าสาวช่วยดูให้ ส่วนลูกชายคนโตตอนเช้าเอาไปส่งโรงเรียน ตอนเย็นต้องไปรับมาอยู่ที่บริษัทก่อน ค่อยกลับบ้านพร้อมตนเองเมื่อเลิกงาน ส่วนสามีนก

    ก็บ่นคิดถึงลูกสาวคนเล็กเพราะไม่ได้เห็นหน้าเป็นเดือน ข้าพเจ้าบอกให้นกเทน้ำใส่แล้ว แล้วตั้งใจอธิษฐานของพระบารมีของพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ทั้งปวง ครูบาอาจารย์ทั้งหลายมีหลวงพ่อปานวัดบางนมโค และหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นที่สุด ตลอดจนอาราธนาเทวดาและพรหมทั้งหมด ขอให้ท่านมาช่วยให้หายจากโรคภัยไข้เจ็บทั้งปวง แล้วก็เทน้ำมนต์ลงในแก้วน้ำ และให้แม่ดื่ม

    ส่วนน้ำมนต์ถ้าจะทำเตรียมไว้หลายๆ ขวดก็ได้ ให้เอาขวดของหลวงพ่อเป็นหัวเชื้อก็แล้วกัน เมื่อถึงวันนัด แม่ก็ไม่อยากผ่าตัด ลูกๆ ก็เป็นห่วง เมื่อไปถึงโรงเพยาบาล หมอก็ได้ทำการเอ็กซเรย์ก่อนผ่าตัด หมอรู้สึกแปลกใจมาก เมื่อพบว่า ถุงลมในถุงน้ำดีก็เล็กลงมาก จนไม่เป็นอันตราย (เกือบหายหมด) ส่วนนิ่วในไตก็เล็กลงมาจนขนาดเล็กกว่าเมล็ดข้าวสาร จึงไม่ต้องทำการผ่าตัดหรือกินยา

    เพียงแต่ดื่มน้ำมากๆ และกระโดดให้นิ่วมันหลุดออกมาเองก็ได้ ส่วนแม่ก็รู้สึกสบายดีขึ้นมากและดีใจที่ไม่ต้องผ่าตัด ส่วนลูกๆ และหลานๆ ก็ดีใจกันทุกคน เพราะไม่ต้องพลัดพรากจากกันหรือได้รับความลำบากเมื่อแม่หรือยายไม่อยู่บ้าน แม่ของนกจึงต้องรีบไปเล่าให้เพื่อนบ้านฟัง ถึงอานุภาพของน้ำมนต์ของหลวงพ่อวัดท่าซุง ซึ่งแม่นับถือมากและจำต้องถวายสังฆทานทำบุญกับหลวงพ่อเมื่อท่านมาบ้านสายลมเดือนมกราคม 2535

    ส่วนข้าพเจ้า ก็ได้รับผลดีจากอานุภาพของน้ำมนต์ของหลวงพ่อ ที่หน้าพระประธานของบ้านซอยสายลมเช่นกัน คือเมื่อข้าพเจ้าป่วยหนัก เดือนกุมภาพันธ์ 2534 จนตายไปเมื่อวันที่ 16 กุมภาพันธ์นั้น เมื่อฟื้นขึ้นมา ก็ยังป่วยหนักอยู่ สามีจึงได้ไปอธิษฐานขอน้ำมนต์มาผสมน้ำ ให้ดื่มพร้อมยา ซึ่งทำให้ข้าพเจ้าหายป่วยเร็วขึ้นมาก และมีสุขภาพดีในที่สุด ซึ่งน้ำมนต์นี้หลวงพ่อท่านเคยกล่าวว่า เป็นน้ำมนต์ของหลวงพ่อปาน วัดบางนมโค ข้าพเจ้าขอรับรองว่า เรื่องนี้เป็นความจริงทุกประการ

    อานุภาพพระมหาลาภ

    นับตั้งแต่ข้าพเจ้าได้รับพระมหาลาภ ทั้งคำข้าวและหางหมาก จากหลวงพ่อและจากการเช่าที่บ้านซอยสายลม ข้าพเจ้าก็ได้นำมาบูชาและแจกแก่ผู้ที่รู้จักซึ่งมีความเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม และพระอริยสงฆ์ บางคนก็มีความขัดข้องด้านการเงินหรือการงาน ผลก็ปรากฏแก่หลายท่านซึ่งนำมาเล่าให้ฟัง ข้าพเจ้าจำนำมาเล่าให้ฟังบางท่านดังนี้

    ๑. ท่านแรกเป็นเซลส์แมนขายพัดลม ซึ่งมีชนิดสินค้าน้อย และราคาค่อนข้างสูง ทำให้ขายยาก เงินเดือนและค่าคอมมิชชั่นไม่พอเลี้ยงครอบครัว ข้าพเจ้าเห็นว่าเป็นคนดีและชอบทำบุญ ก็ให้พระมหาลาภไปหนึ่งองค์ บอกวิธีอาราธนา และอานุภาพไปเสร็จสรรพ อีกเดือนกว่า ก็มารายงานว่าได้ผลดีจริงๆ ปัจจุบันรายได้เดือนละเกือบ 2 หมื่นบาท โดยทำงานบริษัทตอนกลางวัน

    ตอนค่ำไปขายสินค้าส่วนตัวจนดึก รายได้ดีพอเลี้ยงตนเองและครอบครัว (ภรรยา 1 และบุตรสาวอีก 1 คน) นอกจากนี้เซลส์อ้วน (คุณสมชาย) ยังได้ไปซื้อตึกแถว 1 ห้องกับของแม่และพี่น้องอีก 2 ห้องเป็น 3 ห้อง ส่วนเพื่อนก็ได้ไปซื้อตึกแถวหลายห้องเพื่อไว้ขายเก็งกำไร ปรากฏว่าเจ้าของโครงการได้จัดให้มีการจับสลากแก่ผู้ที่ซื้อตึกแถว 1 ห้องมีสิทธิ์จับได้ 1 ครั้ง มีรางวัลอยู่ประมาณ 15 รางวัล

    จากจำนวนตึกแถว 70 ห้อง ปรากฏว่าเซลส์อ้วนออกไปจับ 3 ครั้งได้มา 3 รางวัล เป็นโทรทัศน์สี 14 นิ้วหนึ่งรางวัล และเครื่องซักผ้าอีก 2 รางวัล ส่วนเพื่อนไม่ได้สักรางวัล ผลครั้งนี้ ทำให้เซลส์อ้วนมีความศรัทธาในหลวงพ่อพระมหาลาภยิ่งนัก เรื่องนี้เกิดขึ้นปลายปี 2533

    ๒. รายที่สอง ก็เป็นเซลส์แมนขายเครื่องใช้ไฟฟ้าเช่นกัน คนนี้เป็นเด็กขายใหม่ชื่อรณวัตร เดิมค่อนข้างเกเร แต่ตอนนี้ดีแล้ว ข้าพเจ้าสงสารที่ขายของไม่ค่อยได้ แถมยังโดนผู้จัดการดุว่าอีก และเห็นว่าเป็นเด็กดี นับถือพระเจ้า ก็เลยให้พระมหาลาภไปองค์หนึ่ง บอกให้เขาไหว้เช้าหรือเย็นก็ได้ และให้ใส่บาตรวันละ 1 บาททุกวัน เขายังเอาเงินมาฝากทำบุญกับหลวงพ่อหลายครั้ง ต่อมาก็มารายงานว่า

    ขายของได้ง่ายขึ้น ความเป็นอยู่มีความคล่องตัว เมื่อมีความจำเป็นต้องใช้เงิน ก็จะได้เงินมาสำหรับใช้จ่ายเสมอ ผู้จัดการก็ขึ้นเงินเดือนและค่าน้ำมันรถให้อีกด้วย นอกจากนี้ เมื่อปีใหม่ 2534 ที่บริษัทมีการจับสลากให้รางวัลแก่พนักงาน เขาก็จับสลากได้วีดีโออีกหนึ่งเครื่องด้วย

    เขาบอกว่า เกิดมาไม่เคยมีลาภลอยอย่างนี้มาก่อน แต่ก็ไหว้ภาวนาในใจ ขอให้หลวงพ่อพระมหาลาภช่วยลูกด้วย ที่บ้านลูกยังไม่มีใช้และคุณแม่ก็อยากได้ แต่ลูกยังไม่มีเงินซื้อเลย ปรากฏว่าปีใหม่ 2534 ได้ดีใจกันทั้งบ้าน เพราะได้วีดีโอมาดูฟรีๆ

    ๓. เมื่อต้นปี 2534 ข้าพเจ้าต้องเข้าโรงพยาบาลกรุงเทพเพื่อทำกายภาพบำบัดทุกวัน ก็ได้ให้พระมหาลาภแก่พยาบาลที่แผนก บางคนก็ศรัทธาก็บูชาและได้ผล มีอยู่คนหนึ่งชื่อจิ๋ม ได้ไปบูชาและมารายงานว่า ถูกหวยเกือบทุกงวด ครั้งละเกือบพันถึง 2 – 3 พันก็มี

    ๔. เมื่อเดือนสิงหาคม 2534 หลังจากข้าพเจ้าเปิดร้านแห่งใหม่ที่ท่าพระได้ไม่ถึงเดือน ก็รู้จักเซลส์แมนของบริษัทขายเสาอากาศคนหนึ่ง คนนี้ตั้งแต่เกิดมา ไม่เคยห้อยพระที่คอเลย เป็นคนไม่ค่อยได้มาทางธรรม แต่พอพูดคุยกับข้าพเจ้าก็รู้สึกชอบพระที่ห้อยคออยู่ (หลวงพ่อพระมหาลาภคำข้าวปิดทองอย่างหนาทั้งองค์ เลี่ยมทองคำอย่างดี) เขาถาม ข้าพเจ้าก็เลยได้บรรยายสรรพคุณของพระมหาลาภ

    รวมทั้งยกตัวอย่างที่หลวงพ่อท่านเล่าบ้าง ที่ลงหนังสือธัมมวิโมกข์บ้าง ตอนจะกลับ เขาก็ขอพระมหาลาภไปหนึ่งองค์ ข้าพเจ้าก็ได้ให้เลือกไปเองหนึ่งองค์ (ตอนเปิดร้านใหม่ ข้าพเจ้าสั่งทำกล่องบรรจุพระมหาลาภไว้แจก เป็นของขวัญแก่ทุกท่านที่มาร่วมงาน มีบางคนมาขอซ้ำแล้วซ้ำอีกหลายองค์) เขาบอกว่า นี่เป็นพระองค์แรกที่จะเลี่ยมห้อยคอ อีกหนึ่งเดือนต่อมา เขาก็มาหาอีก คราวนี้ข้าพเจ้ากำลังยุ่งอยู่

    เขาก็ขอเวลานอก 2 – 3 นาที เขาเล่าเรื่องให้ฟังว่า พอได้พระ ก็รีบไปเลี่ยมมาห้อยคอทันที พร้อมทั้งโชว์ให้ดูอีกด้วย พอห้อยพระไปได้ 2 – 3 วันก็เกิดเรื่อง คือเขาขี่มอเตอร์ไซค์ไปถนนวิภาวดีรังสิต ถึงหน้าโรงเรียนตำรวจสอนสุนัข ก็มีรถเก๋งโตโยต้าขับตัดหน้า ตนเองต้องหักหลบรถคว่ำไปหลายตลบ ตนเองลอยละลิ่วไถลไปบนพื้นถนน กางเกงขาดหมด ผู้คนหวีดร้องลั่นไปหมด เขาคิดว่าไม่รอดแน่ๆ

    ไม่หัวโหม่งพื้นก็ต้องถูกรถแล่นทับตายแน่ๆ ปรากฏว่ารถเก๋งวอลโว่เบรกตัวโก่งเพราะวิ่งมาด้วยความเร็วสูง มาจอดตรงหน้า โดยกันชนรถห่างหน้าเขาแค่คืบเดียวเท่านั้น เขาบอกว่า รอดตายคราวนี้ เพราะหลวงพ่อสมเด็จพระมหาลาภคำข้าวแท้ๆ ส่วนแผลที่ขาเมื่อซื้อยามาทาไม่กี่วันก็หาย อุบัติเหตุคราวนี้ได้เงินมา 300 บาท จากคนขับรถวอลโว่ เพราะเขาก็ไม่มีสตางค์เป็นแค่ลูกจ้าง

    (คนขับรถเท่านั้น) อีก 200 บาทต้องเอาไปจ่ายค่าปรับ เนื่องจากจอดรถผิดในที่ห้ามจอดของโรงพัก (ตนเองเจ็บ รถก็ไม่ค่อยสมบูรณ์จากอุบัติเหตุ) เหลืออีก 100 บาท คนขับรถวอลโว่บอกให้ไปซื้อยามาทาบาดแผลก็แล้วกัน แต่ร้อยเวรบอกว่า อย่าเลยเอาไปซื้อสังฆทานถวายพระเพื่อสะเดาะเคราะห์ดีกว่า เพราะคุณน่ะมีเคราะห์ร้ายจริงๆ!

    ส่วนคนอื่นๆ ก็มีอีกมาก บางคนก็คล้ายๆ กับบุคคลอื่นที่เคยลงหนังสือธัมมวิโมกข์แล้ว สำหรับตัวข้าพเจ้าเองมีผลมากมาย จากร้านเดิมที่เยาวราชก็ขยายมาเปิดสาขาใหม่ที่ท่าพระ ทั้งๆ ไม่มีทุน แต่ได้รับความช่วยเหลือจากบุคคลต่างๆ และเป็นผู้ใหญ่ในธนาคาร เมื่อมีปัญหาการเงินหลวงพ่อท่านก็ช่วยให้รอดพ้นทุกครั้ง มีปัญหาเรื่องบุคลากร หรือคนอื่นที่เกี่ยวข้องกับการงาน ก็ผ่านไปด้วยดีทุกอย่าง


    ปัจจุบันข้าพเจ้ามีความสุขจากการได้ทำบุญกับหลวงพ่อทุกเดือน ข้าพเจ้าและครอบครัวใส่บาตรวิระทะโยทุกวัน ชีวิตทั้งทางโลกและทางธรรมดีขึ้นมาก ทุกคนในครอบครัวมีความสุข ความเจริญ เนื่องจากพระพุทธบารมี พระธรรมบารมี และพระอริยสงฆ์บารมี เทวดา พรหมทั้งปวง มีหลวงพ่อวัดท่าซุงเป็นที่สุด

    (จากหนังสือลูกศิษย์บันทึกเล่ม 3 หน้า 568-576)

    www.watthasung.com/wat/viewthread.php?tid=1545#123



    [​IMG]
    [​IMG]
    [​IMG]

    26 กรกฏาคม 2534 เป็นอาสาฬหบูชาและเป็นวันพิธีพุทธาภิเษกน้ำมันชาตรี น้ำมนต์ชาตรี มีมีดหมอชาตรีและชานหมากเข้าในพิธีด้วย จุดจำหน่ายน้ำมนต์ชาตรีปัจจุบันอยู่ที่วิหารแก้ว 100 เมตร น้ำมนต์ชาตรีกรอกจากแท้งค์ในวิหาร 100 เมตรใส่ขวดแล้วจำหน่ายเลยไม่ได้นำเข้าพิธีพุทธาภิเษกอีก เข้าใจว่าเติมต่อๆมาจากน้ำมนต์ชาตรีเดิมที่ปลุกเสกไว้แต่สมัยหลวงพ่อครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2014
  11. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]
     
  12. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    สวัสดียามดึกครับคุณปู คุณโญ พี่ตี๋ใหญ่ พี่อ้วน คุณเอ๊ะ คุณกันต์ คุณวุฒิ คุณแจม คุณบอย คุณกูน คุณชาญ คุณตุ้ม คุณเอ็ม น้องเอ๋ น้องกานต์ คุณนาย คุณเคี้ยว คุณโอ๊ต คุณอีกยาวนาน และทุกๆท่านครับ

    [​IMG]
    (Frozen Air Bubbles in Abraham Lake , Canada)
     
  13. Wannachai001

    Wannachai001 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ตุลาคม 2011
    โพสต์:
    8,810
    กระทู้เรื่องเด่น:
    80
    ค่าพลัง:
    +225,528
    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    (จากจุลสาร "สารธรรม" ฉบับที่ 1)
     
  14. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326


    น้อมกราบครูบาวงศ์ -/\-
    เชียงใหม่-ลำพูน ภาค2 เร็วๆนี้
     
  15. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    สวัสดียามเช้าคร๊าบบ พี่วรรณ
     
  16. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    สวัสดียามเช้าครับพี่วรรณ พี่เอ๊ะ พี่กูน พี่ตี๋ พี่โญ พี่ชาญ พี่รัก พี่ช้าง พี่รุ่ง พี่อ้วน คุณบอย น้องโอ๊ต น้องเอ็ม น้องเขี้ยว คุณหนุ่ม น้องเอ๋ คุณวุฒิ น้องนิก คุณกันตปัญโญ คุณsellcat คุณjamitcom น้องกานต์ คุณpp2 น้องแพน น้องนาย คุณผักหวาน5 คุณคนกลางสวน และพี่ๆน้องทุกท่าน ขอบคุณทุกภาพสวยๆและเรื่องราวดีๆจากทุกท่านครับ
     
  17. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    หลวงปู่เคยสอนลูกศิษย์ว่า ถ้าทำงานเหนื่อยอย่าบ่น ถ้าบ่นครูบาอาจารย์จะถอยทันที เมื่อเหนื่อยให้หยุดพักหายเหนื่อยแล้วก็ทำงานต่อ

    เครดิตในภาพคร๊าบบ
     
  18. ปู ท่าพระ

    ปู ท่าพระ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    5,822
    ค่าพลัง:
    +60,326
    [​IMG]


    ไม้ครูหลวงพ่ออุตตมะ

    เชือกสีเหลืองนั้นนำมาพันเองไว้ เดิมๆไม่มีเชือก พอดีไปเจอบทความในพลังจิตเรา จึงนำมาลงไว้เป็นรายละเอียดการสร้างคร๊าบบ

    สร้างขึ้นเพื่อบูชาแทนองค์หลวงปู่ด้วย "ไม้มหาพรหม" ซึ่งเป็นพญาไม้มงคลที่พบบนยอดเขาสูงใน จ.กาญจนบุรี มีด้วยกัน ๒ ขนาด คือขนาดเล็กยาว ๕ นิ้ว (วัดจากหัวไม้จนถึงปลายไม้) จำนวน ๙๖ ด้าม ขนาดใหญ่ ๖ นิ้ว จำนวน ๑๘ ด้าม

    ด้านหัวไม้ภายในบรรจุ
    *ตะกรุดมหาอำนาจเนื้อเงิน ลงจารโดยหลวงปู่อุตตมะ ,
    *หนังค่าง (มีอานุภาพทางด้านแก้อาถรรพ์-เสนียดจัญไร) ,หนังหน้าผากเสือ (มีอานุภาพทางด้านตบะเดชะ และเป็นมหาอำนาจ) โดยหนังค่างและหนังเสือ ได้จากเศียรบรมครูมหาฤษีใหญ่ อายุกว่า ๑๐๐ ปี

    ด้านปลายไม้บรรจุ
    *ตะกรุดเมตตาเนื้อเงิน ลงจารโดยพระอาจารย์หอม ศิษย์รับใช้ใกล้ชิดของหลวงปู่,
    *สีผึ้ง ๗ จันทร์ (๑.หลวงปู่บุญ วัดกลางบางแก้ว ๒.หลวงพ่อเดิม วัดหนองโพ ๓.หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ๔.หลวงพ่อทาบ วัดกระบกขึ้นผึ้ง ๕.หลวงปู่ทิม วัดละหารไร่ ๖.หลวงปู่โป๊ะ วัดบ้านปึง และ ๗.หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเฌอ),
    *ผง ๑๒ นักษัตร ของหลวงปู่เทียน วัดโบสถ์ และหลวงปู่เริ่ม วัดจุกกระเฌอ,
    *ผงมหาจักรพรรดิของหลวงปู่อุตตมะ,
    *ผงนะปัดตลอดของหลวงปู่โต๊ะ วัดประดู่ฉิมพลี
    *ผงพระขุนแผนเสด็จกลับ ของ อ.ชุม ไชยคีรี


    credit: คุณ Ultrachai
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 7 กันยายน 2014
  19. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,624
    สวัสดีครับพี่ๆทุกท่าน^^
    วันนี้มีเรื่องราวดีๆมาเล่าสู่กันฟังครับ
    ผมตั้งใจจะไปไหว้หลวงพ่อโอภาสีตั้งแต่เมื่อวานแต่ดันโดนพิษไข้จากละอองฝนเล่นงาน
    ก่อนนอนก็รู้สึกหนาวๆร้อนๆแทบจะนอนไม่ได้เลยสวดคาถาหลวงพ่อโอภาสีและบอกล่าวปู่พระพิราพพร้อมทั้งตั้งจิตอธิษฐานว่าลูกอยากจะไปไหว้หลวงพ่อแต่ดันเป็นไข้ถ้าหายลูกจะไปกราบหลวงพ่อฯ
    วันนี้เลยตื่นเช้ากว่าทุกวันและไข้ก็หายแล้วโดยที่ผมไม่ได้กินยาลดไข้เลย

    ตอนนี้ที่คอผมห้อยก็มี พระพิราพหลวงปู่กาหลง(แรงตั้งแต่วันแรกที่มา)ชานหมากหลวงปู่ทิมจากพี่โย หลวงพ่อโสธรหลังนาคปรก พระพุทธชินราช วัดพุทธบูชา(เป็นพระที่พระนเรศวรเข้าฝันบอกให้ห้อยคอเมื่อตอนไปเขาชนไก่)
     
  20. PraKhoonPhan

    PraKhoonPhan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กันยายน 2010
    โพสต์:
    881
    ค่าพลัง:
    +6,624

    อยากได้ประคำหลวงพ่ออุตมะจังครับอิอิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...