ผมรู้สึกบาปมากไม่อยากทำผมควรทำยังไงครับ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย monkeyswilf, 19 กันยายน 2014.

  1. LovePig

    LovePig เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +283
    อย่างที่พี่ เค้ากล่าวครับ อย่าคิดมากจนเศร้าหมอง หดหู่จนเกิดกรรม
    ทำไมเราไม่คิดในแง่บวกครับ

    - ถ้าขึ้นมาถึงเตียง อาจจะกัด รึทำร้ายเด็กๆ ได้
    - ถ้าโตขึ้นอาจจะเป็นอันตราย
    ที่บ้านก็มีงู เข้ามาเหมือนกัน คณแม่ เอาไม้กวาดมาไล่ มันก็ไปนะครับ ผมบอกว่าวันหลังอย่าทำอย่างนั้น อันตราย งูมันมีพิษ ลูกงูจงอาง มาตั้งหลายตัว ต้องฆ่าครับคงไล่ไม่ได้
    ถ้ามันรอดไป ก็คงอยู่บริเวณบ้านนั้นแหละ เกิด ฉกกัด คนที่เรารัก , สัตว์เลี้ยงที่เราเลี้ยงคงเสียใจแน่
     
  2. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    แม่คุณทำถูกแล้วครับ
    ดีแล้วอย่าไปฆ่ามันเลย ต่อให้มีพิษ ไล่แล้วไปก็โอเคแล้ว แสดงว่ามันไม่ได้อยากทำร้ายเรา
    สัตว์มันก็มีชีวิต ไม่ใช่ว่ามีพิษแล้ว มันจะอยากมากัดคนนั้น คนนี้
    อันนั้นเป็นเรื่องที่เราคิดขึ้นมาเอง กลัวไปเอง
    จริง ๆ มันอาจจะไม่ได้เป็นแบบนั้นก็ได้
    ส่วนใหญ่ มันก็จะอยู่ของมัน
    สันว์มันก็กลัวตาย พอ ๆ กับที่เรากลัวจะถูกมันกัด นั้นแหละ

    แก้ปัญหาด้วยการฆ่า แบบนี้มันไม่ถูก
    เพราะพระพุทธเจ้าก็บอกไว้แล้วว่า
    อย่าทำบาป ทำกรรม เพียงเพราความรัก ความชอบ (ฉันทาคติ)
    อย่าทำบาป ทำกรรม เพียงเพราะความชัง ความโกรธ (โทสะคติ)
    อย่าทำบาป ทำกรรม เพียงเพราะความไม่รู้หลุ่มหลง มัวเมา เชื่อคนนั้น คนนี้ (โมหะคติ)
    อย่าทำบาป ทำกรรม เพียงเพราะความกลัว (ภยาคติ)

     
  3. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ไม่ใช่จะวิจารณ์อะไรนะครับ
    อันเพราะผมเคยตั้งจิตอธิษฐานไว้แล้วว่า จะถือศีล 5 ไปตลอดชีวิต
    แม้กระนั้น ก็ยังมีเรื่องยากในการตัดสินใจอยู่ดี
    ดังเรื่องที่จะขอเล่า ดังต่อไปนี้

    คุณจำช่วงที่มีข่าว ตื่นตูม เรื่องมีแมงมุม มีพิษกัดคนตาย ได้ไหมครับ?
    เป็นข่าวใหญ่
    แน่นอนบ้านผมก็ดูข่าว ก็รับทราบเหมือนกัน
    ข่าวมันใหญ่มากจน บางทีเราก็หลอนไปด้วย
    คือเริ่มกลัวว่า แมงมุมในหลืบ ในบ้านเราจะมีแบบนั้นบ้างไหม
    คืออยู่มา 20-30 ปี ไม่เคยจะคิดกลัวเรื่องพวกนี้
    ข่าวออกมาแบบนี้ เริ่มมีความกังวล
    (เริ่มเกิดโมหะคติแล้วนะครับ)

    แล้วมันเป็นช่วงหน้าฝน สงสัยฤดูผสมพันธุ์ละมั้ง
    ไม่รู้แมงมุมยักษ์มาจากไหน ยั้วเยี้ยะ ๆ ไปหมด
    แล้วผมเป็นคนที่กลัวแมงมุมยักษ์มาก
    เป็นมาแต่เด็ก
    คือให้ไปจับ ผมไม่สามารถจริง ๆ

    แล้วอิแมงมุม ก็ขอไปอยู่ในห้องน้ำผม
    แล้วคุณคิดดูว่า ผมต้องอาบน้ำทุกวัน จ้องหน้ามันทุกวัน
    ผมไม่อยากเห็นหน้ามัน เห็นแล้วรู้สึกไม่ดี ผมก็จะหาอะไรยาว ๆ
    มาไล่มันให้มันไปอยู่ในหลืบ ในซอก ในมุม สะ
    อย่างน้อยไม่ต้องโผล่หน้ามาให้เห็น

    และมันก็หายไปช่วงหนึ่ง คือมันก็ไม่โผล่มาให้ผมเห็น
    ปรากฎว่า สักพักมันก็โผล่มาใหม่ ที่สำคัญคาบไข่มาด้วย!
    โอ้ แม่เจ้า นี้ผมเจอแมงมุมแค่ตัวเดียวไม่พอ
    อนาคตผมต้องรับมือกับลูกมันอีกเป็นร้อยหรือนี่
    แต่ผมก็พยายามจะไม่คิดอะไร ไม่อยากคิดเลอะเทอะไปไกล
    ถ้าคิดว่าจะมีแมงมุมร้อยกว่าตัววิ่งในห้องน้ำผม ผมต้องแย่แน่ ๆ
    ก็ปล่อยมันไว้แบบนั้น

    พอนาน ๆ เข้า ผมก็สังเกตว่า เวลาผมเปิดประตูห้องน้ำเข้ามา
    มันมีอะไรขาว ๆ เล็ก ๆ เคลื่อนไหวไปมา แหะ
    ก็ลองดูใกล้ ๆ ปรากฎว่าลูกมันคลอดแล้วตั้งหลายตัว!
    ผมก็เคลียดขึ้นมาอีกนิดหนึ่ง จริง ๆ ผมสามารถจะไล่บีบมันทีละตัวได้
    ถ้าฆ่ามันแต่เด็กก่อนมันจะโต มันก็จะไม่มีปัญหาเรื่อง
    แมงมุมวิ่งเป็น 100 ในห้องน้ำผม
    แต่ผมก็ไม่ทำ ผมก็ปล่อยมันไว้อย่างนั้น

    แต่ขอสารภาพว่า มีอยู่ตัวหนึ่ง มันไปอยู่ตรงอ่างล่างหน้า
    แล้วคุณคิดดูว่าตัวมันเล็กมาก ๆ
    คือนึกภาพว่าเล็กขนาดเกิดมามีตัวสีขาว ใส ๆ
    แล้วตัวอื่น ๆ มันวิ่งหนีกันหมดเวลาผมไล่
    แต่ตัวนี้มันไม่ยอมไป ทำท่าจะสู้ด้วย!
    แล้วผมจะใช้อ่าง....
    อินี้ ขวาง...
    ผมก็ไม่สนใจ เปิดน้ำล้างมือเลย
    น้ำก็พัดมันก็หล่นลงท่อเลย
    ผมก็ไม่รู้นะว่ามันจะรอดหรือไม่รอดนะ
    แต่ผมถือว่าถ้าผมจะใช้อะไรสักอย่าง แล้วมีสัตว์ตัวเล็ก ๆ มาขวาง
    ผมจะให้เวลามันหนีไปที่อื่นแปปหนึ่ง เช่นตั้งไว้ว่า
    เอาละ จะไล่นะ ให้เวลาหนี 5 นาที
    ถ้ามันยังไม่ไป ผมก็จะใช้เลย ไม่สนใจแล้ว เพราะให้เวลาแล้ว

    กลับมาที่ลูกแมงมุมที่โดนน้ำพัดตัวนั้น
    ผมคิดว่า แม่มันเห็นนะ
    มีความรู้สึกเลยว่า เหมือนทุกคนรับรู้ แมงมุมทุกตัวรับรู้
    เคยมีความรู้สึกแบบนี้ไหมครับ?
    ทำอะไรสักอย่างกับสัตว์ตัวเล็ก ๆ
    แล้วมีความรู้สึกว่าเหมือนโดนมอง โดยสัตว์ตัวเล็ก ๆ ตัวอื่น
    อันนี้ เหมือนทุกคนรับรู้เหตุการณ์นั้นหมด

    ต่อมาผมพบว่า แม่มันพยายามจะออกจากห้องน้ำ
    ซึ่งเป็นเรื่องใหญ่!
    เพราะถ้ามันออกไปข้างนอก นั้นหมายความว่า
    ในบ้านผมจะมีแมงมุมเป็น 100 แน่นอน
    คืออย่างน้อยแค่มันอยู่ในห้องน้ำ ก็เป็นการจำกัดพื้นที่ว่า
    มันอยู่แค่บริเวณนี้ ผมก็โล่งใจคือเจอแค่ตอนอาบน้ำ เราอาบน้ำวันละไม่กี่ครั้ง
    แบบนี้ก็พอรับได้
    แต่อันนี้จะออกไปข้างนอก แปลว่า จะไม่ใช่แค่ตอนอาบน้ำอย่างเดียวแล้ว
    แบบนี้ไม่ไหวนะ

    ผมก็กีดกันมัน ไม่ให้มันออกไป โดยไล่มันกลับไปที่ซอก หลืบเหมือนเดิม
    คือมันก็ยังคาบไข่อยู่ ลูกมันยังคลอดไม่หมด มันค่อย ๆ ทยอยคลอด
    แล้วผมก็เปิดหน้าต่างในห้องน้ำ อยู่บน ๆ หน่อยทิ้งไว้
    คิดสะว่า ขอให้มันออกไปเอง
    คือเราจะไล่มันออกหน้าต่าง มันก็ไม่เคยจะวิ่งไปในทิิศที่เราต้องการ
    ไม่สามารถคาดหวังอะไรจากตัวมันได้เลย

    แล้วอยู่มาวันนึ่ง มันก็หายไป
    คิดว่ามันคงอาศัยตอนเราเผลอ แอบออกไปตอนไหนไม่รู้
    คือมันจะออกทางหน้าต่างไปนอกบ้าน หรือไปทางประตู เข้าไปอยู่ในบ้าน ผมก็ไม่รู้
     
  4. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    ยังไม่จบนะครับ
    แค่แมงมุม เล่าได้ตั้งนาน :p
    แต่ผมจะพยายามเล่าแบบสรุป ๆ เร็ว ๆ ละ

    ต่อนะครับ (แมงมุมตอนที่ 2)

    หลังจากนั้น แม่ผมก็ไปเจอ อีกตัว ในบ้าน
    ดูมันตัวใหญ่ ๆ หน่อย อ้วน ๆ หน่อย
    น่ากลัวมาก ดูเหมือนในทีวีเลย (เริ่มคิดเอาเอง)
    แม่บอกว่าต้องฆ่าเสีย มันอันตราย
    แล้วก็เอะอะ โววยวายมาก แบบคนที่กำลังตกใจ และตื่นกลัว
    (ตรงข้ามกับคนข้างบนผมเน๊าะครับ อันนั้นลูกอยากฆ่า
    อันนี้ แม่อยากฆ่า)

    แต่ด้วยสถานการณ์ตอนนั้น มันเลี่ยงไม่ได้แล้ว
    ขอให้นึกภาพ อารมณ์ประมาณว่า วุ่นวาย แตกตื่น ไม่เป็นปกติ
    แม่ก็เร่งผมอยู่นั้นแหละ
    สุดท้ายผมก็ลังเลไปนานมาก หลายนาที
    ถึงแกจะมีพิษ ฉันก็ไม่อยากจะฆ่าแกนะ

    จนในที่สุดก็ต้องไปหยิบไม้พลองยาว ๆ มา
    แล้วผมก็อธิษฐานในใจว่า อย่าโกรธกันนะ
    เลี่ยงไม่ได้แล้ว
    ผมก็ฟาดไปที่ตัวมันสุดแรงเกิน คือกะเอาให้ทีเดียวตาย จะได้ไม่ทรมาน

    เปรี้ยงงงงงงงงงงง



    ปรากฎว่า...
    ไม่โดนครับ
    ฟาดไปครั้งที่ 2
    ไม่โดน
    ครั้งที่ 3
    ก็ไม่โดน
    4 5 6 ฟาดไปรัว ๆ
    ไม่โดนสักครั้งเลยครับ
    สุดท้ายมันวิ่งเข้าไปใต้ตู้เองครับ
    และผมก็ยืนงง ๆ สตันเล็กน้อย พร้อมไปกับโล่งใจที่มันไม่ตาย
    ดีใจแบบลึก ๆ ไปด้วยในขณะนั้น



     
  5. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974
    เรื่องของแมงมุม 3 (ตอนจบ)

    เอาละ มาถึงตอนนี้ หลาย ๆ คนอาจจะอยากรู้ว่ามันจะลงเอยยังไง
    คือมันหนีเข้าไปแล้วก็ยังไม่จบนะ!

    เพราะมีอยู่ครั้งหนึีง ตอนที่ผมกำลังกินข้าวกันอยู่
    ผมสังเกตเห็นว่า ไอ่เจ้าตัวเดิมนั้นแหละ มันโผล่ออกมาตรงพื้น
    ค่อย ๆ เดินออกมา คาบไข่มาด้วย!! (อีกแล้วเหรอ - -)

    ผมก็มองมัน เอ้า ดูสิ จะทำอะไรต่อไป
    มันเดินแบบ ค่อย ๆ เดิน ช้า ๆ ก้าวทีละขา ๆ
    เคยเห็นแมงมุมเดินแบบก้าวทีละขาไหมครับ?
    ทุกทีมันจะวิ่งเร็วมากเลยใช่ไหม
    อันนี้มันก้าวเดินทีละขา

    แล้วมันก็วางไข่ไว้กับพื้น
    แล้วมันก็ค่อย ๆ เดินอีก แล้วมันก็หยุด.

    ????

    ทำอะไรของมัน
    ผมคิดในใจ เอ ความเป็นแม่ ของสัตว์ทั้งหลาย ย่อมต้องรักและหวงลูกอันเป็นสุดที่รักของมัน
    มันไม่น่าจะทิ้งไข่ไว้ ทำไมถึงอยู่ดี ๆ ก็ทิ้งไข่??
    แปลกมาก ๆ เลย ผมก็เริ่มสนใจ พร้อมกับสงสัย
    เลยยิ่งดูไปที่มัน แบบคนจ้องตาไม่กระพริบ ทีวง ทีวี ไม่สนใจแล้ว
    ละครเรื่องผัวชั่วคราว เสียงสวรรค์ ก็ไม่สามารถเรียกเรทติ้งผมได้ในขณะนั้นแล้ว

    ปรากฎว่า เป็นภาพที่น่าตกใจมาก
    อยู่ดี ๆ ก็มีจิ้งจก วิ่งออกมาจากมุมมืด ที่ ๆ แมงมุมออกมาตอนแรกนั้นแหละ
    วิ่งหยุด วิ่งหยุด แล้วก็พุ่งเข้าจิกที่แมงมุมตัวนั้นอย่างแรง
    แมงมุมตัวนั้น ถึงกับหงายท้องคว่ำกับพื้นเลย
    แล้วมันก็พยายามลุก
    แล้วจิ้งจกมันคงเหผ้นผมหรือเปล่าก็ไม่รู้
    มันก็วิ่งหายเข้าไปในมุมมืด

    มาถึงตอนนี้ ผมก็ถึงบางอ้อละว่า อ๋อ ทำไมผมไล่มันเข้ามุมมืด มันไม่ค่อยอยากจะไป
    เพราะว่าเข้าไปในมุมมืด ก็เจอนักล่าตัวอื่น ทั้งจิ้งจก ตุ๊กแก
    ออกมาข้างนอกก็เจอผม
    หนีเสือก็ปะจระเข้ มันก็คงไม่รู้จะทำไง
    แต่โผล่ให้ผมเห็น มันก็คงจะมีโอกาสรอดมากกว่า
    มันก็เลยเลือกแบบนั้น
    ไม่น่าเชื่อว่าแมงมุม ก็มีการตัดสินใจในการเลือกด้วย!!

    แล้วที่มันค่อย ๆ เดิน แบบก้าวทีละขา
    คงเพราะรู้ว่าผมเห็นมัน
    เดินออกมาแบบกล้า ๆ กลัว ๆ ลังเล
    เพราะผมเคยจะเอาชีวิตมันทีหนึ่ง
    ผมเชื่อว่ามันต้องจำได้

    ทันใดนั้นผมก็รู้สึกสงสารมันขึ้นมาทันที
    แต่เนื่องจากผมไม่กล้าจะจับมัน
    ผมเลยไปเรียกแม่บ้าน ให้มาจับให้หน่อย (ให้ผู้หญิงจับแมงมุมให้ แมนไหม 555)
    สุดท้ายก็เอาไปปล่อยนอกบ้าน ไกล ๆ หน่อย ใต้ต้นไม้
    แล้วก็เอาไข่ของมันไปวางใกล้ ๆ ด้วย เพราะผมคิดว่าคงเป็นของสำคัญ
    แต่ปรากฎว่า พอผมลองกลับไปดูหลาย ๆ ครั้ง
    มันก็ไม่เคยมาเอาไข่กลับไปอีกเลย ไข่ก็วางอยู่อย่างนั้น


    จึงทำให้ภาพที่ผมเคยมองมาเมื่อก่อนเปลี่ยนไป
    จากที่ผมเคยนึกว่า ความเป็นแม่ จะทำทุกสิ่งทุกอย่างเพื่อปกป้องลูกตัวเอง
    แต่สุดท้ายแล้ว "ชีวิตตัวเอง เป็นสิ่งที่ทุกคนรักที่สุด"

    เพราะฉะนั้นแล้ว การพรากสิ่งที่รักที่สุดของคนอื่น
    จึงเป็นเรื่องไม่ควร
    เพราะทุกคนก็รักชีวิตตัวเองมากที่สุด นั้นเอง...

    จบเรื่องนี้ ผมจะเอาเรื่องนี้ไปแชรที่อื่นด้วย

     
  6. monkeyswilf

    monkeyswilf เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤษภาคม 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +122
    ขอบคุณคับ
     
  7. wutthik

    wutthik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +493
    ธรรมชาติของสัตว์ทุกชนิดถ้าเราไม่ไปเหยียบมัน มันก็ไม่กัดหรอกครับที่มันกัดเพราะมันเจ็บมันก็กัดเพื่อป้องกันตัวเองเท่านั้นเองครับไม่มีอะไร ตามสัญชาติญาณของสัตว์จะกัดมีอยู่ 2 อาการเท่านั้นครับคือ 1.กัดเพื่อหาอาหาร 2.กัดเพราะโดนรังแก(ป้องกันตัว) ถ้ารู้จักธรรมชาติของมันเราก็พ้นภัยจากมันและอยู่กับมันด้วยดี
     
  8. LovePig

    LovePig เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 มกราคม 2009
    โพสต์:
    149
    ค่าพลัง:
    +283
    ธรรมชาติของสัตว์ กัดเพื่อหาอาหารเข้าใจครับ แต่โดนรังแก นี่ซิ ว่ามันมีขีดจำกัดความว่าโดนรังแก อย่างไร เราถ้าไม่ฆ่ามัน และมันอาศัยในบริเวณบ้าน ในบ้าน
    - ถ้าเรากวาดบ้าน จัดบริเวณบ้านให้สะอาดไม่ต้องไปเดินเหยี่ยบมัน
    - เวลาเดินคอยระมัดระวัง ไม่ให้ไปสะกิดมัน
    - เวลาตากผ้า เก็บผ้า ให้ดูดีๆ ว่าจะมีมันอาศัยอยู่รึป่าว
    - เวลานั่งห้องน้ำ ค่อยสังเกตุมัน ว่ามันแอบที่ชักโครก ป่าว
    - เวลานอนต้องคอยดู เวลาตื่น ต้องระวัง เผลอๆ มันก็จะมานอนด้วยเพราะอุ่นดี
    ให้มันเลื่อยไปเลื่อยมา ถ้าเราเผลอไปเหยียบมัน ไม่ได้รังแกมันนะ แต่คนแก่หูตาไม่ค่อยดี เด็กรู้ไม่ถึงการณ์ไปจับเล่น ไม่แย่รึครับ ต้องไล่มัน ให้มันไปออกจากบ้านเรา ถ้ามันไม่ไป ก็ต้องฆ่าล่ะครับ รึแจ้งให้มูลนิธิมาจับไปฆ่าดีกว่าไม่ต้องบาป ตัวใหญ่เลื่อยช้าแจ้งได้ ลูกงูจงอางไม่ไหวแจ้งครับ เพราะมันจะแอบตามซอก ตามร่อง เจอต้องฆ่า รึว่าพี่ๆ มีวิธีการช่วยแนะทีครับ เพราะฆ่าไปหลายตัวล่ะ เดี๋ยวฤดูวางไข่มันจะมาอีกรอบ
     
  9. wutthik

    wutthik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    347
    ค่าพลัง:
    +493
    ต้องใช้สติและปัญญามาแก้ปัญหาครับ และผมก็ไม่รู้ว่าบริเวณบ้านหรือรอบๆบ้านของท่านเป็นอย่างไร จึงไม่สามารถแนะนำได้ถูกต้อง ถ้าเป็นป่าก็ต้องถางหญ้าที่ขึ้นสูงๆให้เตี้ยลงมากๆทำบริเวณให้โล่งๆไม่รกหรือปลูกต้นมะกรูดตรงที่งูชอบมาอยู่งูไม่ชอบกลิ่นฉุนรุนแรงก็หนีไป ถ้ามีรูเข้าบ้านได้ก็ต้องอุดไม่ให้งูหรือสัตว์มีพิษอื่นๆเข้ามาได้ หรือเลี้ยงสุนัขก็ป้องกันงูได้ แต่ที่แน่ๆตั้งแต่โบราณมานะครับบริเวณบ้านคนสมัยโบราณเขาจะเลี้ยงห่านกันประมาณ 3-4 ตัว เพราะห่านสามารถป้องกัน(กำจัดงูหรือสัตว์มีพิษต่างๆได้เด็ดขาดมาก)และยังเป็นยามเฝ้าบ้านชั้นดีอีกด้วย(ใครมาเข้ามาบริเวณบ้านมันก็ร้องและร้องไม่หยุดด้วยห้ามหรือดุก็ไม่ฟัง ร้องอย่างเดียว) แต่ต้องมีบริเวณบ้านให้มันพอสมควรนะครับ
     
  10. lovepyou

    lovepyou เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 กันยายน 2008
    โพสต์:
    540
    ค่าพลัง:
    +974

    1. ทำบ้านให้สะอาดที่สุด พยายามอย่าให้มีมุมต่าง ๆ ที่งูจะเข้าไปได้
    2. เลี้ยงหมา ช่วยได้
    3. เคยแผ่เมตตาให้งูและสัตว์มีพิษน้อยใหญ่หรือยังครับ?

    ผมขอเพิ่ม เรื่องแมงมุมที่ผมเล่า ผมลืมบอกไปว่าระหว่างที่ผมเจอมันบ่อย ๆ
    ผมแผ่เมตตาให้มันทุกคืนนะ คือแผ่ให้เฉพาะเลย
    แล้วเชื่อไหม ลูกแมงมุมืี่ผมกลัวว่ามันจะมีเป็น 100 เดี๋ยวนี้มันหายหมด
    แล้วตัวอื่นก็หายไปหมดเลย ไม่มีสักตัวเลยตอนนี้
    โดยที่ผมไม่ได้ฆ่า ไม่ได้อะไรเลย แค่เอาไปปล่อยไกล ๆ ตัวเดียวเอง

    เหมือนว่าสุดท้ายมันก็ไปของมันเอง

    ถ้าคุณฆ่ามันนะ ตอนนี้คุณไม่จำ เด่ววันหนึ่งคุณจะนึกขึ้นมาได้
    แล้ววันหนึ่งที่คุณนึกขึ้นได้ คือวันที่กรรมมันจะแสดงผล
    ผมไม่รู้เหมือนกันว่าผลกรรมจากการฆ่างูมันจะเป็นยังไง
    แต่มีผลกับร่างกายคุณแน่นอน

    ดังเรื่องที่ผมจะเล่าดังต่อไปนี้
    สมัยเด็ก ผมเคยสนมาก และด้วยความไม่รู้
    ผมเคยจับมดส้มมาเผาด้วยไฟแช๊ค บางทีก็เอากระป๋องสีพ่นใส่มัน
    การกระทำครั้งนั้น ทำให้มันตายเยอะมาก
    และผมก็ไม่ได้สนใจ จนผมโตขึ้นมา

    มีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมกำลังซ่อมประตูเลท่อน ที่มันหล่นจากราง ในบ้านผมเอง
    ปรากฎว่า ด้วยความอะไรไม่รู้ ผมก็เอามือปาดเหงื่อแบบปกติ
    แต่การปาดเหงื่อครั้งนั้น ทำให้ผมพบว่า
    คิ้วผมเกือบๆ จะถึงตา เกิดการแพ้ขึ้นมา
    ผมไม่รู้ ผมก็เลยเกา พอยิ่งเกา มันยิ่งลาม
    หลังจากนั้น มันก็ลามทั้งตัว จนตกใจ และทรมานมาก
    ทั้งร้อน ทั้งแสบ จนต้องไปหาหมอ
    ใช้เวลาหลายวันมากกว่าจะดีขึ้น
    เรื่องก็จบไป

    วันหนึ่งผมก็นึกขึ้นได้ถึงการกระทำครั้งนั้น
    อยู่ดี ๆ ก็นึกขึ้นมาเอง
    แต่ก็ไม่มีอะไร เวลาก็ผ่านไป

    จนมีอยู่ครั้งหนึ่ง ผมไปกระทำพลาดบางอย่าง
    จนทำให้ ผมกลายเป็นโรคที่มีผลทางผิวหนังขึ้นมา
    ซึ่งมันทรมานมากกกกก ทั้งเป็นไข้ ทั้งอะไร
    ไปหาหมอครั้งแรกก็ไม่หาย ไปหลาย ๆ ครั้งถึงจะดีขึ้น
    ขอย้ำอีกครั้งว่า ทรมานมากกกกกกกกกกก

    หลังจากนั้น ผมเริ่มพิจารณาเหตุการณ์ทั้งหลาย
    จึงสรุปได้ว่า "คงเป็นเพราะผลกรรมจากการ ปานาติบาต ครั้งสมัยวัยเด็กนั้นแหละ"
    และผมก็เริ่มทำบุญ แผ่เมตตา ไปเรื่อย ๆ
    ทุกวันนี้ แม้แต่มด ผมยังไม่อยากจะฆ่าเลย
    ยกเว้น เช่น
    เวลามันมารวมตัวที่จานอาหาร อาจจะเป่า ๆ มันไปก่อน แล้วถ้ามันไม่ไป
    ค่อยนำไปล้าง มันจะรอดไม่รอดก็เรื่องของมันละกัน เพราะเราไล่แล้ว
    อีกอย่างเราไม่ได้มีจิตจะฆ่า เราจะล้างจาน

    สรุปคือคุณต้องไปทางวิธีการอะไรก็ได้ ให้การฆ่าเป็นทางเลือกสุดท้าย
    ก็อย่างที่ถามว่า คุณเคยแผ่เมตตาให้พวกงูเหล่านั้นบางหรือยัง?
    ถ้าคุณแผ่เมตตาให้มันแล้วอธิฐาน ขออย่าให้มันมา ทำทุกวัน มันอาจจะไม่มาก็ได้นะ
    แต่คุณก็ต้องปรับบริเวณบ้านด้วยเช่นกัน คือบางทีต้องทำอะไรหลาย ๆ อย่างไปพร้อมกัน

     

แชร์หน้านี้

Loading...