ผม...พระ...และ...สาระยุคก่อน

.........
........ครบตามกติกา........
..................
..ต่อตามที่ขอ....(ผู้ขอ..STONE1....หลานเขม..porpek..กำธรน้องรัก..เฉียวฟงหลานรัก..และ..เด็กบ่อผุด...)
......................

.............ความจริงแล้ว..ในยุคโบราณนั้น..ก็คงมีลูกอม..ที่ทำโดย..วัสดุธรรมชาติ
อีกหลายอย่าง..เพียงแต่มันไม่ได้..แพร่หลาย..มีรูปแบบที่ชัดเจน..เรียกว่า..อะไรที่
จารได้..ลงอักขระได้..ก็คงนำมาใช้ได้..ถ้าหาง่าย..และ..ไม่ยุ่งยาก..ซึ่งผมจะไม่
กล่าวถึง..ในที่นี้....
....สำหรับพวก..”ลูกสะกด”..นั้น..ก็ถือว่า..อยู่ในตระกูล..ลูกอมเช่นกัน..เพียงแต่
คาถา..ที่ลงทั้งจาร..และ..ปลุกเสก..เป็นเฉพาะอย่าง..สำหรับ..ในยุคนี้..เรื่องการค้า
พาณิชย์..เป็นเรื่องสำคัญ...ก็อย่าไปสนใจ..ในชื่อ..ควรสนใจว่า..อาจารย์มาจากสายไหน
..สายนี้..เคยทำแบบนี้มาก่อนรึเปล่า..ถึงจะค่อยความสนใจ...
....วัตถุมงคลแบบ..ต่อไป..ที่ผมจะกล่าวถึง..ก็คือ...
.............................................
......มงคลแขน..และ..มงคลหัว
................................................
............อาจมีผู้อ่านหลายท่านแปลกใจ..ว่า..ทำไม..ไม่พูดถึง..ไอ้นั่น..ไอ้นี่..บ้าง..
หนึ่ง..อาจยังไม่ถึงคิว...สอง..ถ้าบางอย่างที่ว่านั้น..ผมประเมินว่า..มันเป็นของตั้งแต่
สมัยรัตนโกสินทร์ลงมา..ผมก็จะไม่พูดถึง....สาม..ผมประเมินว่าเป็นเครื่องรางชั้นต่ำ
..ออกแนวมนต์ดำ..ก็จะไม่พูดถึงเช่นกัน.....
..........สมัยโบราณ..ชาวบ้าน..ประชาชน..จะต้องเจอกัน..อยู่เรื่อย..ก็คือ..สงคราม..
..หนีไม่พ้น..ลูกหลานชายไทย..ที่แข็งแรง..ก็จะต้องถูกเกณฑ์..ไปฝีกทหาร..และ..รบ
..อย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..เพราะไม่ได้มี..รด. ..ไว้เพื่อหลีกเลี่ยง....ไม่ได้มีใบดำ..ใบแดง
...เพราะชาติ..ต้องการกำลังพล..จำนวนมาก..ที่ต้องไปต่อสู้กับ..อริราชศัตรู......
......เรียกว่า..หนุ่มๆลูกหลาน..ในหมู่บ้าน..ก็ต้องโดนกันทั้งนั้น..แน่นอน..ไม่ว่า...
ทั้งพ่อ..แม่..ปู่..ย่า..ตายาย..เมีย..ก็ต้องเป็นห่วง..เป็นทุกข์..แต่หลีกเลี่ยงไม่ได้
..สิ่งที่จะทำให้คลายกังวลไปได้บ้าง..ก็คือ..หาสิ่งศักดิ์สิทธิ์..เพื่อคุ้มครอง..ให้
ปลอดภัยกลับมา..แล้วใครจะเป็นทำให้..ก็ไม่พ้น..พระที่เขาเหล่านั้น..นับถือ..
ในแต่ละท้องที่...เรียกว่า..บางคนก็เตรียมไว้ก่อน..ส่วนนึง..ก็ต้องไปขอกันใหม่ๆ..
....ดังนั้นที่ผมบอกไว้..ก็คือ..เครื่องรางของขลัง..ยุคแรก..ที่พระในท้องถิ่น..
ต้องเรียนศึกษาวิชากันไว้คือ..เครื่องรางของขลัง..ที่เอาไว้ป้องกันภัย..อันตราย
โดยเฉพาะ..จากการรบราฆ่าฟัน..นั่นเอง...
.....ผมกล่าวถึง..ผ้ายันต์..ผ้าประเจียด..ไปแล้ว..ก็ยังมี..มงคล..สำหรับไว้สวม..
สำหรับ..ส่วนต่างๆของร่างกายอีก..อย่างมงคลแขน..และ..มงคลหัว..นั่นเอง..
(ส่วน..แหวนพิรอด..หรือ..มงคลนิ้ว..นั้นจะไปพูดถึง..ทีหลัง...)
.....เป็นวัฒนธรรมไทย..ที่ตกทอดมา..จนถึงปัจจุบัน..สำหรับ..คนบางประเภท..
เช่น..นักมวยเป็นต้น...การชกมวยก็ถือ..เป็นการทำสงครามอย่างหนึ่ง..
..เพียงแต่มันเป็น..สงครามส่วนตัวเท่านั้นเอง.....
....ชื่อของมัน..ก็บอกอยู่แล้ว..ว่า..เพื่อเป็น..มงคล..ซึ่งอย่างน้อยแค่ชื่อก็..ทำให้
จิตใจ..ดีขึ้นแล้ว..

...ต่อเมื่อขอมา..
...........................

 

ตามอ่านต่อครับพี่ modpong ทั้ง 2 เรื่องครับ ขอบคุณทุกท่านที่ post ด้วยครับ...........

 

ยิ่งอ่านยิ่งสนุกครับ
ขอบคุณคุณอา modpong และขอบคุณทุกท่านที่โพสขอ

 

มารอตามอ่านต่อครับ แล้วเครื่องรางที่เกิดขึ้นเองตามธรรมชาติ เช่น กะลาตาเดียว คนไทยเรารู้จักหรือ พบตั้งแต่ยุค อยุธยา หรือ รัตนโกสินครับ แล้วสมัยก่อนเราจะรู้ได้อย่างไรว่า ของชิ้นนี้มีอาถรรพ์ในตัวหรือเป็นของแปลกเลยเอาไปให้พระดู ถ้ารบกวนหรือขัดจังหวะก็ต้องขอโทษด้วยครับ แค่สงสัยครับ

 

รายงานตัวครับอ้าย
ลมหนาวมาแล้วเด้อครับ
รักษาสุขภาพนำเด้ออ้าย
ขอต่อทั้งสองเรื่องเลยครับผม อิอิ
กะลังมันเลย

 

มารอติดตามตอนต่อไปครับอา ขอบคุณครับ

 

ยังติดตามน้าอยู่ตลอดครับ ไม่รู้จะขออะไรดีเพราะที่น้าเขียนให้อ่านก็ครบเครื่องอยู่แล้ว อย่างตอนเครื่องยิ่งลูกหินก็หายสงสัยไปเลยว่าคนรุ่นนั้นท่านใช้อะไรเป็นเครื่องยิง หรือ ตอนหลวงพ่อแก้ว(ซึ่งน้าเคยลงเรื่องรักให้อ่าน) ก็ตรงตามที่น้าบอกเพราะ อาจารย์ปาน วัดเครือวัลย์ ซึ่งเป็นรุ่นหลังห่างจากหลวงพ่อแล้วก็หลายปีอยู่ ท่านก็ทำพระปิดตาแบบหลวงพ่อแก้ว ซึ่งคนที่บวชทัน อาจารย์ ปานแกบอกเองผงยังอยู่บล๊อกเดิมก็ยังอยู่ตอนที่อาจารย์ปานทำพระ พออ่านเรื่องรักเลยแยกแยะได้ว่า เก่าถึงหรือไม่ถึงยังไง

 

มารอติดตามขอความรู้ตอนต่อไปครับครู

 

มารออ่านต่อทั้ง 2 เรื่องครับ

 

........
...ยุคนี้..มันยุคธุรกิจ...หลวงพ่อแก้ว..พื้นฐานเป็น..คนเพชร..ผมเคยเล่าไปว่า..เพชรบุรี..กับเมืองชล..นะ..สมัยก่อนเขา..นั่งเรือใบลำเล็กๆ..ไปมาหาสู่..
..และ..ซื้อของมาขายที่เมืองเพชร..ของที่ขายก็คือ..พวกของที่มาจากเมืองจีน..เพราะของขึ้นที่นั่นเยอะ..เรียกว่า..นั่งเรือใบ..เร็วกว่า..เดิน..หรือ..นั่งเกวียน..เยอะ(..สมัยปลาย รัชกาลที่๔..ถึง..รัชกาลที่ ๕ (รถไฟสายใต้ยังไม่มี..รถยนต์ยังไม่มี)..)
....หลวงพ่อแก้ว..ไปอยู่เมืองชล..นะ..ท่านไม่ใช่พระหนุ่ม..ท่านมีวิชาอยู่แล้ว
...พระที่สนิทกัน..ที่เมืองเพชรท่านก็มีแน่นอน..อย่างน้อยที่..วัดในปากทะเล..ที่เดิม..ที่อยู่..แล้ว..อย่างในเมือง..อย่างวัดพระทรง..
....คนเพชรแท้ๆ..นั้น..เป็นคนรักถิ่นมาก..วิถี..นั้น..ต่างจาก..คนเมืองชล..อาจเป็นไปด้วย..ลักษณะของการทำมาหากินด้วย...เชื่อได้แน่ว่า..หลวงพ่อแก้ว..นั้นท่าน..
ก็..คงกลับมา..มาเยี่ยมบ้าน..เป้นครั้งเป็นคราวแน่..แม้แต่..ญาติท่าน..หรือ..พระที่สนิทกัน..ก็คง..ไปเยี่ยมท่านได้ด้วยเพราะ..สะดวก.....
.......คงแปลกใจ..ว่าผมเล่าทำไม...ก็เพราะไอ้พวกเซียนธุรกิจรุ่นเก่า..จนถึง..กลางเก่ากลางใหม่..หลายคน..ใช้..ข้อมูลแนวนี้..มาสร้างตำนาน..พระของหลวงพ่อแก้ว..
..ที่สร้าง..ในเมืองเพชร..มันเป็นเรื่องโคตร..โบราณ..ผมเล่นพระใหม่ๆเมื่อกว่า..๔๐ ปีก่อน..ไม่มีหรอกครับ..พิมพ์ประหลาด..พิมพ์โบราณอะไรนี่..ที่เมืองเพชร..
......เพราะนักเล่นพระ..สมัยก่อน..ที่เขาเล่นกันนั้น..มันต้องมีหลักฐาน..
..และ..รุ่นก่อน..เขาเป็นตัวของตัวเอง..ไม่มีหลักฐาน..หรือ..คนที่ทันเห็น..
..เขาก็ไม่เชื่อ..นักเลงพระที่เป็นเสาหลักรุ่นนั้น..มีเกียรติ..และไม่ยอมเสียชื่อ
.....ดังนั้น..พระหลวงพ่อแก้ว...จริงๆที่ยอมรับ..ก็เลยมีแค่ ไม่กี่พิมพ์...
........หลวงพ่อแก้ว..พิมพ์แปลก...หลวงพ่อแก้ว..พิมพ์ที่ออกที่เมืองเพชร..
...ก็เริ่มโผล่..เข้ามา..เมื่อซักเกือบ..๓๐ ปีที่แล้ว..เริ่มสร้างนิยายกัน...
.....ทั้งๆที่...ไม่มีหลักฐาน..ยืนยันชัดเจน..คนที่พอรู้ความเกิดทัน
...ยุคหลวงพ่อแก้ว..ก็ตายไปหมดแล้ว..ก็ไปอ้างชื่อคนแก่ๆ..ที่เขาฟังมาจาก
ปู่ย่า..เล่ามาอีกที...ถามว่า..ไอ้แบบนี้..เอาอะไรมายืนยัน...
..............ขอโทษ..ไม่มี..มี..แต่ไอ้พวกเซียนเมืองชลบางคน..เซียนภาคกลางบางคน..และ.เซียนเมืองเพชรบางคน..ร่วมกัน..เชียร์ปั้นเรื่อง..อาศัย
..สื่อ..และ..ไอ้พวกเซียนเล็กเซียนน้อย..ช่วยกันปั้นเรื่อง...
....จบยากเรื่องนี้..ไม่ต้องขอ..เดี๋ยวมาต่อเอง...

 

ขอบพระคุณครับคุณอา...มารออ่านบทความดีๆทั้งสองเรื่องครับผม

 

....
..ต่อจากเมื่อกี้.........
....ผมเคยเขียนเรื่องใน..ทำนองเดียวกันนี้มาแล้ว..ถ้าย้อนกลับไปหาก็คงเจอ...
..แต่ที่เขียนใหม่นี่..ก็คงคล้ายๆเดิม..แต่รายละเอียด..อาจแปลกแตกต่างไปบ้าง
..เพราะ..มันเป็นเรื่องที่อยู่ในหัว..แล้วแต่..อารมณ์..และ..นิ้วพาไป..เขียนอีก..
ร้อยที..ก็ไม่เหมือนเดิม....
.......สมัยก่อนนั้น..นักเลงพระเมืองเพชร..รู้จักว่า..วัดในปากทะเล..มีพระเก่ง..
อยู่ ๑ องค์..ก็คือ..หลวงพ่อปลอด ..(..ไปหาอ่านประวัติท่านใน..พระดีเมืองเพชร
ฉบับแรก..ที่เป็นพ๊อกเก๊ตบุ๊คได้..ฉบับนี้เกือบสี่สิบปีมา..แล้ว..เรื่องราวข้างใน..
..เชื่อถือได้..และ..ไม่มีธุรกิจมาเกี่ยว..)........และไม่เคย..มีประวัติการสร้าง..พระ
ปิดตา..ของหลวงพ่อแก้วแต่อย่างใด...วัดพระทรง..ที่อยู่ในเมืองนั้น..ก็มีหลวงพ่อ
เก่ง..คือ..หลวงพ่อมี(ตราภูมิ)..อันนี้แหละ..ที่คนเล่นพระเมืองเพชร..ทราบว่า...มี
การสร้าง..พระปิดตา..กันที่วัดนี้..แต่ก็เป็นของท่านเอง..และ..อาจจะไล่ไปถึง...
อาจารย์ท่าน..หลวงพ่อมีท่านเป็นพระรุ่นใกล้ๆกัน..คือ..แต่ถ้านับตามอายุท่าน..
ถือว่า..เป็นรุ่นน้องๆ..ของหลวงพ่อแก้ว...ส่วนใหญ่พระปิดตาท่านเป็นเนื้อตะกั่ว..
(ไม่เคยมีบันทึกมาก่อน..ว่า..หลวงพ่อแก้ว..มาสร้างพระ..หรือ..ร่วมสร้างพระที่นี่)
..เนื้อผง..ก็คงมี......ท่านถือว่า..เป็นพระรูปที่สอง..ที่มีการสร้างรูปหล่อขึ้น..โดย
องค์แรก..คือ..สมเด็จเจ้าแตงโม..วัดใหญ่ฯ..รูปหล่อ..ท่านหล่อ..เมื่อ ๒๔๕๑....
สมัยรัชกาลที่๕..คือเรียกว่า..ไม่มีคนนับถือจริงๆ..สมัยนั้น..ไม่มีใครกล้าทำรูปหล่อ
กัน...
....ไอ้การเชื่อมโยงกัน..ในข้อมูล..บางประการนี่แหละ...ทำให้พระเมืองเพชร..บางพิมพ์
..กลายไปเป็น..พระของหลวงพ่อแก้ว..โดยการอ้างโน่นนี่...แถม..มีการมั่วกันไปถึง..
หลวงพ่อแก้ว..สร้างพระปิดตา..ที่วัดในปากทะเล..กันอีก....เรียกว่า..นอกจาก..เอาพระ
ของหลวงพ่อหนึ่ง..ไปยัดชื่อให้เป็นอีกหลวงพ่อ...แถมยังสร้างพระปลอมขึ้นมาใหม่..
และ..ยัดวัดอีกต่างหาก....ยุคที่มั่วกันใหม่ๆ..นั้น..นักเลงพระทั่วไปที่ไม่ใช่ท้องถิ่น..เรียกว่า
น้อยมาก..ที่จะรู้จัก..หลวงพ่อมี..ของท่านนี่..เข้าไปสนามกลาง..ไม่มีใครรู้จัก..ถูกมาก..
....ก้เลยเข้าทางนักปั้นเรื่อง......ใครมีเวลาไปถามคนแก่มากๆ..แถบๆวัดในปากทะเลดูซิ..ว่า..
บ้านไหน..มี..พระปิดตาของ..วัดในปากทะเล..หรือ..เคยเห็นบ้าง..ในตอนที่แกยังเด็กๆนะ
....รับประกัน..ถ้าคนนั้นไม่ตอแหล......ไม่มีครับ..................
.....เรื่องโมเม..ของ..หลวงพ่อแก้ว..ยังมีอีก..อย่างเรื่องรูปของท่าน...สร้างกระแสกัน....
..แล้วก็เคย..มีคนเอารูปมาลง..ในเว็บบอร์ดนี้...ผมเห็นก็เคยpost..แย้งไปว่ามาน่าใช่..เพราะ
ความเก่าของรูป..และ..ร่องรอยการลบ..การเขียน..ภาษาที่ใช้..มันไม่สมเหตุสมผล..แต่ผู้เอา
มาลงก็ไม่เชื่อ....ตอนหลัง...พวกนักสะสมรูปหลวงพ่อ..ระดับสากล..ก็มาบอกออกรายการ
ทีวี..ของ..กันตนา..ว่า...ปัจจุบันถือว่า..ยังไม่มีการพบภาพถ่าย..ใดๆ..ของหลวงพ่อแก้ว..เลย
....ที่ผ่านมานะ..ตอ..ทั้งนั้น.....

 

ขอบคุณครับคุณน้า นานๆแวะมาทีแต่ได้ความรู้เสมอ เรื่องรูปหลวงพ่อแก้วนี่จะคล้ายๆกับรูปหลวงปู่โลกอุดรที่ต้นฉบับดั้งเดิมคนเอามาจากที่หนึ่งหรือเปล่าไม่ทราบนะครับ จำได้ว่าเคยอ่านมีคนพิสูจน์ว่าเป็นหลวงปู่อีกท่านหนึ่ง

ในปีที่ผ่านมาผมได้ไปกราบหลวงพ่อดับภัยที่เชียงใหม่(ตามเรื่องที่คุณน้าเล่าด้วยครับ) แล้วก็ได้ปิดทองพระผง(ที่เปราะง่าย)เคลือบด้วยยาทาเล็บ น่าจะยืดอายุพระไปได้อีกนานแสนนานทีเดียว

 

ขอบคุณครับอา

กระจ่างขึ้นเยอะ

 

สุดยอดจริงๆ นักสะสมพระรุ่นใหม่จะได้เข้าใจ เรื่องวงการค้าขายพระเครื่องกันชัดๆ

ถามพี่นิดครับ พระปิดตาของหลวงพ่อแก้ว ที่เรียกพิมพ์ปั้น ที่เป็นของวัดเครือวัลย์
มีจริงไหมครับ บางคนว่ามี เขาแยกกันที่เนื้อหาและรัก

มาขอให้พี่เขียนต่อครับ รออ่านตลอด แต่ที่ไม่ได้มาขอทุกวันคือ บางทีไม่มีเนทใช้ แหะๆ ตอนนี้มาอยู่บ้านนอกเมืองกาญจน์สงบดี ขอบคุณพี่มากครับ

 

...............................
...ไม่ได้เข้ามานานเลยนี่...ยกเว้นให้..
...รู้สึกดีนะ..ที่ทำตามคำแนะนำ......
..เรื่อง..ทายาทาเล็บนะ..ถ้าปิดสนิทละก็..ถ้าไม่แกะ
ให้ผิวยาทาเล็บลอกออก..ละก็..ไม่ใช่ยาวนาน..
...อมตะ..เลย....

 

..........................

....ถ้าตามผม..ผมยึดถือตามของเดิม..คือ...
..........ไม่มี...เพราะ..พิมพ์นอกมาตรฐานนี้..ไม่มีหลักฐานการสร้างที่น่าเชื่อถืออ้างอิงได้..ในยุคนั้น..
ยุคนี้..มาอ้างอะไร..มันก็ไม่มีหลักฐานชัดเจนอะไร..
ว่า..กันไปเรื่อยเปื่อย...เนื้ออะไร..รักอะไร..ผมไม่สน..
...สนอย่างเดียว..มีหลักฐานน่าเชื่อถืออะไร..ที่ทำให้ผมเชื่อได้..เท่านั้นแหละ..
....จบ..ไม่ต้องถามพิมพ์โน้น..พิมพ์นี้..วัดโน้น..วัดนี้อีก......

 

อ่านแล้วทำให้เห็นภาพในสมัยก่อนๆชัดขึ้นนะครับ ขอบคุณครับ จะมาตามอ่านเรื่อยๆครับ

 

สวัดดีครับ คุณลุง อ่านเรื่องที่เอามาลงแล้วต้องบอกว่าธุรกิจมันทำได้ทุกอย่างจริง ๆ

 

กระจ่าง ชัดเจนครับพี่ ชอบใจจริงๆ กับคำพูดพี่ ซึ่งอยากให้คนที่สะสมพระเครื่อง
ยึดคำพูดนี้ไว้เป็นหลักจริงๆ

"สนอย่างเดียว..มีหลักฐานน่าเชื่อถืออะไร..ที่ทำให้ผมเชื่อได้..เท่านั้นแหละ."

นับเป็นคาถา กันผี อย่างดีที่สุด มันจะทำให้เราคิดถึงเหตุผลมากขึ้น ฟังเรื่องราวอย่างมีสติ ขอบคุณครับ

ขอตอนต่อไปครับ ยิ่งอ่านยิ่งมีความสุข