ทำอย่างไรถึงจะเข้า ฌาน 3ได้ครับ

ผมติดอยู่ที่ฌาน2 มาเป็นปีๆแล้ว แต่ไม่รู้วิธีไปต่อจริงๆครับ
คือลักษณะฌาน2ของผม มันจะไม่มีนิมิต(ที่เขาว่ากันเป็นดวงแก้ว)
แต่ไปไหนมาไหน จะเข้าได้ง่ายมาก เข้าได้ตลอดเวลา ไม่ต้องภาวนาก็เข้าได้ นั่งๆ เดินๆอยู่บางทีก็เข้าฌานสองได้เฉยเลย (บางครั้งจะเหมือนคนบ้า คือนั่งๆอยู่ในที่สาธารณะตัวก็โยก ต้องรีบออกฌาน)
1.อยากได้คำแนะนำการเข้าฌาน3
2.อยากได้คำแนะนำการทำให้มีนิมิต
ขอเป็นธรรมทานด้วยนะครับ

 

ตัวโยกนี่เป็นฌานแล้วหรือครับ

 

อาจจะนะคะ อาจจะเป็นปีติอะค่ะ


ปล. รอผู้รู้ค่ะ context clues น้อยไปนิดนะคะ

 

คือ อ้างจากตำราเลยอะครับ คือจะ มีความสุข สดชื่น มีปิติ(ผมจะตัวโยกหัวโยก ถ้าเริ่มเข้าฌานจะเริ่มโยกเลยครับ ถ้าถอยอารมฌ์ออกก็จะหยุด) และก็อารมณ์จะดิ่งลึก สงบ

(ตอนที่เข้าถึงขั้นนี้ครั้งแรก ปิติ จะรุณแรงมาก รู้สึกได้ทันทีว่าตลอดชีวิตเหมือนจิตมันไม่เคยเจอมาก่อน แต่หลังๆปิติจะเบาลง เหมือนกับว่าเริ่มเคยชิน)

 

ปฏิบัติแบบใดครับ

 

คือ อ้างจากตำราเลยอะครับ คือจะ มีความสุข สดชื่น มีปิติ(ผมจะตัวโยกหัวโยก ถ้าเริ่มเข้าฌานจะเริ่มโยกเลยครับ ถ้าถอยอารมฌ์ออกก็จะหยุด) และก็อารมณ์จะดิ่งลึก สงบ

(ตอนที่เข้าถึงขั้นนี้ครั้งแรก ปิติ จะรุณแรงมาก รู้สึกได้ทันทีว่าตลอดชีวิตเหมือนจิตมันไม่เคยเจอมาก่อน แต่หลังๆปิติจะเบาลง เหมือนกับว่าเริ่มเคยชิน)

 

ได้ 2 แล้ว 3 จะไปยากอะไร ทำได้ สู้ๆๆ

 

ขออนุญาตแสดงความคิดเห็นนะครับ ส่วนตัวผมก็ตัวโยกเองครับ พอนิ่ง ๆ นั่งสมาธิ หรือ ไม่ทำสมาธิแต่อยู่เฉย ๆ ตัวนิ่ง ๆ ตัวก็จะโยกเองเล็กน้อยตลอดเวลา แต่ความเห็นส่วนตัวผมคิดว่าไม่ใช่การเข้าฌานนะครับ หรืออาจจะคิดผิดก็เป็นได้ครับ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน

 

ว่าทางฌานนี้หากมาถึง2 ก็ทำอย่างเดิมก็ไป 3 และ 4 ได้
แต่จะให้เลยกว่านี้ก็ต้องดูว่าทำมาอย่างไร

 

1.จับคำภาวนา นะมะ พะทะ (ส่วนใหญ่)
2.จับลมหายใจครับ

 

ไปเรียนของ ลพ.วิริยังค์ เลย ของจริง ไม่ต้องถามใคร ไม่ต้องหลงทางเสียเวลา

 

ได้ครบทุกฌาน

 

มีโอกาสผมจะไปให้ได้ครับผม แต่ผมทำงานต่างประเทศนะครับ แปดเดือน จะได้กลับไทยที กลับไปก็ทำเอกสาร อบรม วุ่นวายไปหมด ว่างนิดๆหน่อยๆก็ไปปฏิบัติที่สวนเวฬุวัณบ้าง บ้านสายลมบ้าง ไปเที่ยวบ้าง เป็นงั้นไปนะครับ

 

ให้จับที่จุดใดจุดหนึ่งที่ลมสัมผัสชัดที่สุด ที่ปลายจมูกหรือริมฝีปาก ปฏิบัติอย่างนี้ฌานจะไปเร็วครับ

 

ยังไม่มีสมาชิกท่านใดตอบเจ้าของกระทู้ที่ถามในข้อ ๒ นะครับว่าอยากจะได้คำแนะนำในเรื่องการทำให้มีนิมิต ก็ขอเพิ่มเติมจากสมาชิกท่านอื่นนะครับ โดยปกติแล้ว ถ้าต้องการให้มีนิมิตประกอบการปฏิบัติกรรมฐาน ก็ต้องฝึกปฏิบัติในข้อกรรมฐานที่เกี่ยวข้องกับนิมิตโดยตรง

ในกรณีของเจ้าของกระทู้ หากใช้วิธีการจับลมหายใจและจับคำภาวนา ก็จะไม่เกิดนิมิตเป็นเรื่องปกติ เพราะกรรมฐานแบบนี้ ท่านไม่ให้เพ่งนิมิตเป็นอารมณ์ หากพบว่ามีนิมิตสิ่งใดแทรกเข้ามา ท่านให้เพิกเสีย นั่นเอง

ดังนั้น หากจะฝึกกรรมฐานที่เกี่ยวข้องกับนิมิต ก็เห็นควรว่าจะต้องปรับเปลี่ยนแนวทางไปศึกษาในกรรมฐานกองที่ว่าด้วยกสิณแทน ซึ่งจะเกี่ยวข้องกับการทำให้เกิดมีนิมิตและเพ่งนิมิตเป็นอารมณ์โดยตรง จะเข้ากับความต้องการของเจ้าของกระทู้มากกว่า

ในเว็บไซด์แห่งนี้ มีคำสอนของครูบาอาจารย์ที่สอนเรื่องการฝึกกสิณอย่างละเอียดมาลงไว้แล้ว ลองหาอ่านดูและดาวน์โหลดเอาไว้ศึกษา จากนั้นนำไปปฏิบัติตามได้ทันทีครับ อย่ามัวเสียเวลามาสอบถามตามหน้ากระทู้อยู่เลยครับ

 

เอาเป็นว่าตอบแบ่งเป็น ๒ ข้อแล้วกันนะครับ ดีหน่อยที่คุณบอกว่าฝึกรรมฐานแบบอานาฯ ก็พอดีมีตำราคู่มือการฝึกจากครูบาอาจารย์ด้วยตัวเองไว้สอบอารมณ์การปฏิบัติในส่วนนี้ขอยกเนื้อความเลยแล้วกันนะครับ.....

ในส่วนข้อที่ ๒ แนะนำวิธีการสร้างนิมิตเพื่อการเจริญกรรมฐาน​

ขอความทั้งหมดที่นำมา คัดบางส่วนมาจากหนังสือ วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ โดย พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อวัดท่าซุง) วัดท่าซุง . ครับ.....ทั้งนี้ผมจะให้ข้อมูลเว็บลิ้งค์ไว้ เพื่อให้คุณไว้ใช้ศึกษาและตรวงสอบผลของการปฏิบัติ แนะนำว่าลองอ่านให้ละเอียดสักรอบ(เนื้อความไม่ยาวนัก) เนื้อความในหนังสือค่อนข้างละเอียด สามารถเป็นคู่มือสำหรับผู้ปฏิบัติด้วยตนเองได้อย่างสบายครับ...​

​

วิธีฝึกกรรมฐานด้วยตนเองแบบง่ายๆ โดย พระราชพรหมยาน (หลวงพ่อวัดท่าซุง) วัดท่าซุง ​

 

ถ้ามีโอกาศไปบ้านสายลมอีกครั้งแนะนำซื้อเก็บไว้สักเล่มก็ได้ครับ เล่มเล็กๆ ๑๐ บาท ...เนื้อความในหนังสือจริงจะมากกว่าที่ลงในเว็บครับ จะมีในส่วนบุคคลตัวอย่างจากพระสูตร ที่ทางเว็บไม่ได้นำมาลงไว้....แนะนำหนังสือเพิ่มเติมอีก ๒ เล่ม คือ คู่มือปฏิบัติคู่วัดท่าซุง เล่ม ๑ และ ๒...ผมคิดว่าถ้ามีสามเล่มนี้ คงเพียงพอที่คุณจะสามารถนำติดตัว เพื่อการปฏิบัติธรรมด้วยตนเอง ในกรณีอยู่ต่างประเทศ โดยไม่มีครูบาอาจารย์คอยกำกับ ครับ.....

 

จับภาพพระพุทธรูป ผมก็ฝึกอยู่พักนึงครับ แต่รู้สึกว่ายากมาก ภาพเปลี่ยนตลอดเลยยกเลิกความตั้งใจไป เดี๋ยวจะลองกลับไปฝึกใหม่วันละเล็กละน้อย ค่อยๆสะสมไปเรื่อยๆ ครับผม

 

คงเข้าใจบางอย่างไม่สมบูรณ์

อันฌาน 2 นั้น เป็นเพียงสมมุติให้พอเข้าใจคร่าวๆ

เราสมมุติว่าท่านแบ่งสภาพฌานแบบนี้ (วิตกวิจารณ์) (ปิติ) (สุข) (เอกอัคคตา)
ในฌานระดับต่ำ ไม่มีอะไร โดดเดี่ยว เพียงอันเดียว แต่มันจะไล่ดับ ทีละตัว จาก ล่าง ขึ้น บน

ดังนั้น คำว่า ฌาน2 โดดโดด จึงไม่เป็นสถานะพึงมีได้

เราคิดว่า ท่านกำลังอยู่ใน ปฐมฌาน ทีมีองค์ 5 อยู่
ใน ทุติยฌาน วิตกวิจารณ์ดับไปแล้ว เหลือเพียง ปิติ สุข เอกอัคคตา
ซึ่งยังคงมีอารมภ์ปนเปกันไป

ทุกสิ่ง มันจะดับเอง ตามธรรมชาติของมัน
หน้าที่ท่าน คือ ละความสนใจใดๆ ที่เกิดขึ้น
มันก็จะไล่ดับ จาก ล่าง ขึ้น บน จนไม่เหลืออะไร
ถ้าไม่เหลืออะไร มันก็จะว่างเปล่า ( ฌาน4 มีอารมภ์ว่างเปล่าเพียงอารมภ์เดียว)

แต่ถ้าท่านไม่ละ ความสนใจ มันก็จะ แหงก อยู่ตรงนั้นแหละ นี่เป็นสาเหตุที่ท่านก้าวล่วง ไปต่อไม่ได้ (ดับ สิ่งต่างๆ ที่ผ่านเข้ามา โดยธรรมชาติของมันเอง)

 

...แค่รู้ (ว่าอาการปิติเป็นอย่างไร อารมณ์ฌานแต่ละฌานเป็นอย่างไร)
...อย่าใส่ใจ จับอารมณ์สงบอย่างเดียว เต็มที่ของอารมณ์คือฌานสี่ ถึงเอง

ได้แล้ว ครั้งต่อไป มันใช้งานได้ ฉลาดเอง