วิญญาณหรือธาตุรู้นี่มันอยู่ส่วนไหนของร่างกาย

ทำไมออกจากร่างยากจัง
เข้าๆออกๆจนมึนหมดแล้ว

 

หลวงปู่สาวกโลกอุดรแสดงว่ามันอยู่ที่จุดมโนทวาร บริเวณกลางใบหน้า ระหว่างลูกนัยตาทั้งสองข้างที่จุดดั้งจมูกหัก
ท่านสอนการเพ่งฌานสมาบัติ ให้เพ่งสู้กันที่จุดนี้
ผลของฌานสมาบัติที่ท่านสอนคือดับดวงจิตหรือวิญาณนั้นเอง

 

หัวแม่เท้า..สดุดลูกหิน..เจ็ยแปล๊บเลยนิ.

 

บางที..ที่ไข่..พอที่พุ่งปรี๊ด..หร่อยฆาด..รับรู้สุดสุดนิ.

 

หลวงทวดจักรวาลทักษิณ..แหล่งไว้ว่า..ที่รู้..คือไม่ต้องรู้.จริงนิ.

 

รอฟัง

 

จิตไม่มีที่ตั้ง อย่าใช้จิตแสวงหาจิต อีกกัปล์ก็หาไม่เจอ

หลวงปู่ดูลย์ อตุโล

 

วิญญาณคือพลังงานชนิดหนึ่งเมื่อรวมกันมากๆทำให้เกิดอาการปวดหัวได้
จากการที่เคยองค์ลง ผีเข้า ทำให้รู้ถึงทุกอณูขุมขน
ทำให้เกิดสัมพันธ์กันเกิดเป็นเจ้ากรรมนายเวรขึ้น
ถ้ามันอยู่แถวหน้าผากบนดั้งจมูกจริง คงเอาออกยาก
ตายไปคงไปสิงอากาศธาตุก่อนละกัน

 

จะหากินกับอะไรดี การฝึกวิชาจริงๆแล้วคืออะไรกันแน่
ฝึกไปเพื่ออะไร ปากก็ต้องกิน งานก็ต้องทำ
จะหลุดพ้นได้มั้ยเนี่ย นับวันความรู้ยิ่งเยอะ ข้อมูลสับสน
ปวดหัวเพื่ออะไร วิญญาณมันร้อนนะครับ โลกก็ร้อน
ทำให้บ้ากันได้ง่ายๆนะเออ

 

ถ้าไปเอา หลักวิชา นิยาม เรื่อง วิญญาณ ที่ไม่ใช่ของ พระพุทธองค์ มันแน่นอน
อยู่แล้วที่จะเหนือย ยิ่งเฝ้นยิ่งซับซ้อน ปวดหัว

วิญญาณ ตามหลักพระพุทธศาสนา เป็น สิ่งที่เกิดขึ้น จากปัจจัยการ ไม่ใช่อยู่ดีๆ
มี วิญญาณล่องลอยหาที่มาที่ไปไม่ได้มาจากไหนไม่รู้

ณะ

ฐานที่เกิดวิญญาณ ฐานที่ตั้งของวิญญาณ หรือ สิ่งที่เป็น ปัจจัยให้เกิด วิญญาณ
พระพุทธองค์บอกว่า มาจาก สังขาร

สังขาร มีสามอย่าง ในพระพุทธศาสนา คือ

วจีสังขาร

กายสังขาร

แล้วก็

จิตสังขาร

******************************

เวลาคนใดคนหนึ่ง พูดไม่หยุด ตรึกในใจด้วยสิ่งคล้ายคำพูดไม่หยุด นี่ มันมี วจีสังขาร เกิดขึ้น

อาศัย วจีสังขารนั้น ทำให้เกิด วิญญาณ เกิดขึ้น ยุบยับ ไหลไปเรื่อย ยิ่งไหล ยิ่งพูด ยิ่งพูด
ยิ่งก่อให้เกิดวจสังขาร ยิ่งก่อให้เกิดวจีสังขาร วิญญาณก็เกิดไปเรื่อย

หยุดพูดหละ ....หยุดพูดปั๊บ .....วิญญาณ ดับ หมดปัญหาหรือเปล่า....

เปล่านะ

สงัขารยังเหลืออีกสอง คือ กายสังขาร และ จิตสังขาร


กายสังขาร ขยับนิ้ว กระดิกหู แล๊บลิ้น กินโน้น กินนี่ ขี้โน้น ขี้นี่ ไหลออก เช้าเย็น
นี่ มันมี กายสังขารที่ไม่ระงับ วิญญาณก็ย่อมมีปัจจัยให้เกิด ก่อตัวขึ้น

เอากายออก ตัดหู ควักตา เอาเหล็กทิ่มหู ...ฯ กายสังขารหมดไป วิญญารจะ
หยุดก่อเกิดไหม.....ไม่นะ ยังเหลือ " จิตสังขาร "

จิตสังขาร นี่ มันคืออะไร ในเบื้องต้นที่เห็นได้ง่าย มันจะคล้ายๆ อาการ " ความดันธุรัง "

ก่อนจะพูด ก่อนจะขยับกาย จะต้อง มี แรงดันจากกลางอก ยิ๊บๆ แย๊บๆ ให้ ความคิด
และ กายกรรม ทนไม่ได้ ต้องเคลื่อนไปตาม แรงดัน การส่งออก นั้นๆ

การที่จะเอา ความดัน การไหว การกระเพื่อม การส่งแรงปราถนา แรงทยานอยาก ออก
นั้นมี วิธีไหม ........


ถ้า ไม่ศึกษาธรรมของพระพุทธองค์ ในเรื่อง ที่ตั้ง การเกิดขึ้นของ วิญญาณให้ถูกแต่เบื้องตน
ก็คงจะ พลัดหลง งงงวย สับสน ซับซ้อน ปวดหัวไปอีกนานแสนนาน

แต่ถ้า เอาวิญญาณ ตามนิยามของพระพุทธองค์ มากล่าวบ่อยๆ ....วิธีการทำให้ สังขาร สงบ รำงับ มีแน่นอน

 

ชักเบื่อวิญญาณของคนรุ่นเก่าๆเหลือเกิน
ทำให้กลัวนู่นนี่ไปหมด
คิดเองกันไม่เป็นรึไง
แล้วโลกมันจะพัฒนาได้ไงเนี่ย
ผีชักเยอะ มั่วไปหมดแล้ว

 

วิญญาณคนดีๆ เก่งๆ ก็หายากเหลือเกิน
ต้องสู้และปลดปล่อยวิญญาณคนรุ่นเก่าไปถึงไหนเนี่ย
ตัวเองยังเอาตัวแทบจะะไม่รอด เหนื่อย สงสารระบบวัฎสงสารจริงๆ

 

จะชวนกันลงนรกไปไหน เกิดมาจน แล้วเดินทางสายพระนี่
เป็นอะไรที่เหนื่อยมากๆ ร่างกายก็เหนื่อยแล้ว ต้องเจอเรื่องแปลกๆเยอะอีก
ชักท้อใจ เหนื่อยใจ

 

ตายแล้วไม่รู้ว่าตายแล้วไปไหนนี่เหมือนเสียชาติเกิดจริงๆ

 

ไม่มีที่ระบาย เก็บกด มนุษย์เพศหญิงนี่เหมือนที่ระบายเหลือเกินยุคนี้
แต่ความเป็นพระเอกของผมบอกมันไม่ใช่ ต้องปกป้องสิถ้าน่าปกป้องนะ

 

ฝืนคำทำนายมากไป จะกระอักเลือดแล้ว นี่จะให้ผมสู้อยู่คนเดียวรึไงเนี่ย

 

ฝึกวิชามาแทบตายเจอน้ำเมาไปทีเดียวกวาดล้างหมดเลย
โลกคั่นกลางช่างไกลเหลือเกิน
เมื่อไหร่จะถึงเป้าหมายซะทีนะ

 

คิดๆไปโลกยุคหลังๆนี่มีแต่ต้องต่อสู้แย่งชิงกัน
ผู้หญิงล่อตาล่อใจก็เยอะ ตกต่ำกับชีวิตมามาก
ไม่อยากแพ้อีกแล้ว ทำไมแพ้แล้วต้องเป็นพระ
ชนะต้องเป็นมารด้วย

 

บ่นเยอะเกินไปแล้วนะ ที่คุณถาม อยากเอาคำตอบจริงหรือ จะเอาคำตอบหรือไม่ ก็ตามใจนะ จะตอบกองเอาไว้ตรงนี้แหล่ะนะ ว่า วิญญาณคืออุปทานจากอวิชชา ส่วนธาตุรู้มันคืออันเดียวกันกับกายใจเกิดมาพร้อมกันแยกกันออกไม่ได้ มันก็ดับพร้อมกัน

ทีนี้วิญญาณ มันก็อาศัยกายใจนั่นแหล่ะ เป็นที่อยู่อาศัย ก็ละมันไปสิวิญญาณน่ะ

ส่วนวิญญาณทั้งหลายที่ตกค้างเยอะแยะมากมาย ก็ปลดปล่อยหรือยกระดับให้พวกมันเหล่านั้นได้พ้นๆจากภูมิเดิมเข้าสู่ภูมิใหม่ด้วย ปัญญาสิ

จิตวิญญาณมันต้องโต ยกระดับเป็นไปตามสเต็ปน่ะ (ตามกรรม)

 

ความละเอียด ความมีลีลาชั้นเชิง ก็ย่อมชำระสะสางยากกว่า ความหยาบความไม่ล้ำลึกดิ มันเป็นไปตามสะเต็ป ตามเลเวลไง ก็นี่มันเข้าสู่ด่านยาก แล้วไง