นานาจิตตัง กับพระเกจิขลังผู้มากวิชา

มีค่ะ ดอกละ 800 บาท

 

รูปหล่อปั๊มหลวงปู่ดาขี่ปลัดขิก

 

เรื่องราวประสบการณ์ปลัดขิกหลวงปู่ดา ยังไม่หมดนะคะ

 

ประวัติหลวงปู่ดา สุวณฺโณ
พระครูพิทักษ์บุญญาทร(ดา) ฉายา สุวณฺโณ อายุ ๙๒ พรรษา ๖๙ เจ้าอาวาสวัดอุทมพร เดิมชื่อ ดา นามสกุล เถกิงผล เกิดวันเสาร์ แรม ๖ ค่ำ เดือน ๖ ปี กุน วันที่ ๑๕ เดือน พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๖๕ บิดา ชื่อ นายนิน มารดาชื่อ นางบัวทอง นามสกุล เถกิงผล บ้านเมืองลีง หมู่ ๑ ตำบลเมืองลีง อำเภอจอมพระ จังหวัด สุรินทร์ สำเร็จการศึกษาวิชาสามัญชั้น ประถมปีที่ ๔ จากโรงเรียนบ้านเมืองลีง ตำบลเมืองลีง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ บรรพชาและอุปสมบทเมื่อวันพฤหัสบดีขึ้น ๑๕ ค่ำ เดือน ๖ ปี ระกา วันที่ ๑๘ เดือนพฤษภาคม พ.ศ.๒๔๘๘ วัดอุทุมพร ตำบลเมืองลีง อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ โดยมี เจ้าอธิการทิน ฉายา ธมฺมปญฺญาวิสุทโธ วัดประทุมทอง ตำบลกระหาด อำเภอจอมพระ จังหวัดสุรินทร์ เป็นพระอุปัชฌาย์ พระอธิการมอญ ปญฺญาทีโป วัดกาเกาะบุรี ตำบลกาเกาะ อำเภอเมือง จังหวัดสุรินทร์เป็นพระอนุสาวนาจารย์ สอบได้นักธรรมชั้นเอก วัดหนองบัวเจ้าป่า ตำบลเมืองแก อำเภอสตึก จังหวัดบุรีรัมย์ สามารถเขียน อ่านภาษาขอม และพูดภาษาพื้นเมืองเขมร ส่วย ลาว ได้ มีความเชี่ยวชาญในวิปัสสนากรรมฐานและเวทมนต์คาถา รวมถึงการรักษาโรคด้วยสมุนไพร

 

ด้วยว่าหลวงปู่ท่านเป็นชาวส่วย(กูย)ที่มีบรรพบุรุษมาจากเมืองอัตปือแสนแป แคว้นจำปาศักดิ์ เติบโตขึ้นมาในสังคมของหมู่บ้านที่เต็มไปด้วยหมอช้าง ทำให้ได้ซึมซับและเรียนรู้วิชาอาคมมาอย่างไม่รู้ตัว เมื่อเติบโตเป็นวัยรุ่นแล้วจึงเกิดความชอบในการใฝ่หาพุทธาคมไปทั่ว จนกระทั่งได้อุปสมบทแล้วจึงได้อยู่เรียนกรรมฐานและพุทธาคมกับพระอาจารย์แดงและพระอาจารย์ญา ที่วัดอุทุมพรซึ่งท่านจำพรรษาอยู่ อีกทั้งยังได้ไปเรียนวิชากับพระอาจารย์ทิน วัดประทุมทอง อ.จอมพระ ผู้เป็นพระอุปัชฌาย์ จากนั้นได้ไปกราบเรียนกรรมฐานและวิชาอาคมกับหลวงปู่เขียน วัดจอมพระ อ.จอมพระ เมื่อเรียนสำเร็จแล้วก็เดินทางไปเรียนวิชาสายสำเร็จลุนกับหลวงพ่อมุม วัดประสารทเยอร์เหนือ อ.ขุขันธ์ จ.ศรีสะเกษ ซึ่งเป็นชาวกูยเผ่าเยอร์มาจากเมืองอัตปือแสนแปในนครจำปาศักดิ์เช่นกัน โดยไปๆมาๆเรียนอยู่หลายปีจึงสำเร็จหมดสามารถเดินบนน้ำได้เช่นเดียวกับครูบาอาจารย์ ทำให้หลวงปู่ธรรมรังสี วัดพระพุทธบาทเขาพนมดิน อ.ท่าตูม จ.สุรินทร์ และหลวงปู่เจียม วัดหนองยาว อ.สังขะ จ.สุรินทร์ ซึ่งเป็นชาวกัมพูชาจากเมืองพระตะบองทั้ง ๒ รูปให้การยกย่อง แม้ว่าหลวงปู่ดาจะเป็นพระเกจิอาจารย์ที่มีอายุน้อยกว่าก็ตาม

 

พระอาจารย์ทิน

 

หลวงปู่ดาได้จัดสร้างวัตถุมงคลครั้งแรกในปีพ.ศ.๒๕๑๘ เป็นเหรียญรูปเหมือนของท่านและตะกรุดจำนวนหลักร้อย ปัจจุบันได้หมดไปนานแล้ว เนื่องจากเกิดประสบการณ์มากมายตั้งแต่ขณะปลุกเสก หลังจากนั้นหลวงปู่ก็ไม่ค่อยได้สร้างอะไรเป็นรุ่นเป็นคราวมากนัก มีแต่ลูกศิษย์ลูกหาไปเหลาปลัดขิกมาให้ท่านเสก มาจนถึงต้นปลายปีที่แล้วหลวงปู่ดาจึงยอมปล่อยวิชา เริ่มสร้างปลัดขิกไม้พยุงลายและคชกุศ(ขอสับช้าง) ซึ่งหมดลงแล้ว

 

ปลัดขิกไม้พยุงลาย รุ่นแรก

 

ประสบการณ์ความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่ดา
เมื่อหลานของท่านขับรถคว่ำ : ในวันหนึ่งขณะที่หลวงปู่ดาไปนั่งเป็นพระอุปัชฌาย์บวชพระอยู่หลายรูป เสร็จแล้วก็ต้องรีบกลับมาวัดอุทุมพรเพื่อจะมามาติกา ในวันนั้นเวลาจวนเจียนมาก หลานชายของท่านที่ เป็นคนขับรถให้ ดูเวลาแล้วก็กลัวว่าหลวงปู่จะกลับไปงานที่วัดไม่ทัน จึงขับกลับมาอย่างเร็ว กระทั่งถึงทางโค้งก่อนเข้าวัด ดันลืมชะลอความเร็ว เป็นเหตุให้รถหลวงปู่แหกโค้งพลิกคว่ำ ในใจของคนขับตอนนั้นสติแตกแล้วเพราะคิดว่าตนเองต้องตายแน่นอน แต่พอได้สติกลับคืนมา ก็พบว่าตนเองไม่เป็นอะไร ส่วนหลวงปู่ดาก็ออกไปนั่งอยู่ข้างนอกรถได้อย่างไรก็ไม่รู้ สรุปแล้วไม่มีใครเป็นอะไรเลย แผลถลอกสักนิดก็ไม่มี ทุกคนที่มาเห็นถึงกับนั่งยกมือสาธุในความศักดิ์สิทธิ์ของหลวงปู่
เหรียญรุ่นแรกยิงไม่เข้า : ชาวบ้านเมืองลีงห้อยเหรียญรุ่นแรกของหลวงปู่ไปรับจ้างเก็บกาแฟที่จังหวัดชุมพร ถูกยิงแต่ไม่เข้า
ตะกรุดช่วยให้รอดตาย : เด็กวัยรุ่นแถวเมืองลีงที่แขวนตะกรุดของท่านขับรถมอเตอร์ไซต์แหกโค้งแต่ไม่เป็นไร
หลวงปู่ดาคุ้มครองให้ปลอดภัย : นายประสบ สาระเดช ชาวบ้านเมืองลีงเล่าว่า แต่ก่อนเขาทำงานเป็นพนักงานขับรถอยู่ที่กรุงเทพ ขับรถเอาเครื่องทอผ้าไปส่งที่โรงงานในจังหวัดราชบุรี โดยขับตามกันไปเป็นขบวนหลายคัน พอส่งเสร็จพวกคนงานของโรงงานทอผ้าซึ่งกำลังตั้งวงดื่มเหล้าอยู่ก็ชวนพวกที่มาส่งเครื่องนั่งดื่มด้วย ซึ่งนายประสบกับเพื่อนที่ไปด้วยกันก็ไม่อยากขัดศรัทธา พอดื่มกันจนได้เวลาแล้วก็แยกย้ายกันกลับ โดยในคืนนั้นนายประสบรู้ตัวว่าเมา เลยขอให้เพื่อนขับตามหลัง เพราะหากเกิดอุบัติเหตุขึ้น เพื่อนจะได้จอดรถช่วยทัน ซึ่งเพื่อนก็รับปากจะขับตามดูให้ พอรถเคลื่อนออกมาสักพักนายประสบก็เกิดหลับในจนรถแหกโค้งแฉลบตกถนนไปแต่รถไม่เป็นอะไรมาก เพื่อนๆที่ขับตามกันมาจึงเอารถของพวกเขาช่วยดึงรถของนายประสบกลับขึ้นมาบนถนน แล้วขบวนรถทั้งหมดรวมทั้งรถของนายประสบก็เริ่มขับเข้ากรุงเทพต่อไป แต่ขับมาได้อีกไม่นานนัก นายประสบก็หลับในอีก คราวนี้รถของเขาได้พุ่งเข้าชนท้ายรถเทเลอร์ที่จอดอยู่ข้างทางเสียงกัมปนาทหวั่นไหว ปรากฏว่ารถของนายประสบเละจนต้องขายเป็นซากทีเดียว แต่นายประสบกลับไม่เป็นอะไรเลย นี่คืออภินิหารเหรียญของหลวงปู่ดาแท้ๆ แต่เท่านั้นยังไม่พอเหรียญรุ่นนี้ยังมีเมตตามหานิยมสูงอีกด้วย เพราะตอนกลับมาแทนที่เถ้าแก่เจ้าของรถรู้เรื่องแล้วจะโกรธ จนไล่นายประสบออกจากงาน กลับถามนายประสบว่ารอดมาได้ยังไง ห้อยพระอะไร เอามาออกเช่าต่อหน่อย
หลวงปู่ดาช่วยให้คงกระพัน : คืนวันหนึ่ง หลังจากเลิกงานแล้ว นายประสบได้มายืนรอรถเมล์อยู่ที่ป้ายหน้าห้างอิมพิเรียลสำโรง เพื่อจะต่อรถเข้าบ้าน อยู่ๆก็มีรถปิคอัพขับมาจอดตรงหน้า จากนั้นก็มีกลุ่มวัยรุ่นนับสิบคนกรูกันลงมาถามคุณประสบว่า มึงเอาอีดาบไว้ไหน คุณประสบก็งง ถามกลับไปว่า อีดาบอะไร ไม่มี ไม่รู้เรื่อง แต่กลุ่มวัยรุ่นฟังแล้วไม่เชื่อ จึงช่วยกันอุ้มคุณประสบขึ้นรถไปรุมซ้อมในตลาด ร้าง โดยตีวงโอบล้อมไว้ แล้วรุมตีทั้งมีดและไม้จนคุณประสบสลบไป แต่พอฟื้นขึ้นมากลับไม่มีแผลแตกเลือดตกยางออกเลย แสดงว่าเหรียญของหลวงปู่ดามีความคงกระพันสูง

 

ปลัดผม เงียบครับ หรือเจอของเสริม แต่ดูแล้วของจริงนะครับ ศรัทธาจนวินาทีสุดท้าย ลองเหมือนพระขุนแผนหลวงปู่ทิม หากยังเงียบผมจะเก็บไม่พกอีก วันนั้นทั้งวันสาวมองตรึม มีมาขอถ่ายรูปด้วย แต่ปลัด ผมคงไม่มีวาสนากับท่าน ไม่กล้าเอาไปแตะตัวผู้หญิง 5555

ถือว่าช่วยทำบุญกับหลวงปู่แล้วกัน

 

รอดูจร้า...

 

ปลัดขิดไม้พยุงลาย

 

ปลัดขิกวาวกะมอล

 

สวัสดีค่ะ หายหน้าหายตาไปนาน ตอนนี้กลับมาแล้ว มาคุยกันต่อดีกว่า

 

ช่วงนี้แจ้งข่าวก่อนนะ ใครที่จองเหรียญรุ่นแรกหลวงปู่เท เนื้อตะกั่วหลังจาร ที่เสกยาวนานข้ามปี ข้ามไตรมาส จนกระทั่งเพิ่งออกให้บูชากันเมื่อสิ้นเดือนที่ผ่านมา ติดต่อรับของได้นะคะ ส่วนท่านใดที่ยังไม่ได้จอง ก็ทักมานะคะ

 

ซึ่งก็มีแค่ 3-4 เหรียญเท่านั้น

 

ส่วนกระทู้ นานาจิตตัง กับพระเกจิขลังผู้มากวิชา องค์ต่อจะพูดกล่าวถึงไปนี้ ก็ต้องขอบอกว่า ปัจจุบันท่านจะครบอายุ 101 ปี อีกไม่กี่เดือนนี้ นั่นก็คือ หลวงปู่นาค สุกฺกธมฺโม แห่งวัดหนองพันเรือ อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี

 

หลวงปู่นาค ท่านเป็นพระเกจิอาจารย์อีกองค์หนึ่งของจังหวัดสระบุรีค่ะ เป็นพระที่ไม่มีชื่อเสียงด่างพร้อย อยู่อย่างเงียบ เรียบง่าย

 

วันอาทิตย์ที่ 8 มีนาคมนี้ ขอเชิญศิษยานุศิษย์หลวงปู่นาค สุกฺกธมฺโม ร่วมงานทำบุญอายุ 101 ปี ณ วัดหนองพันเรือ ต.ไผ่ขวาง อ.บ้านหมอ จ.สระบุรี