ตลิ่งจะพัง แผ่นดินถิ่นอธรรมจะถล่มเป็นทะเล

ในห้อง 'ภัยพิบัติและการเตรียมการ' ตั้งกระทู้โดย เกษม, 13 กุมภาพันธ์ 2011.

  1. หมึกย่าง

    หมึกย่าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +155
    เข้ามาเจอตะคลิปซะส่วนใหญ่ ไอ้ความรู้ต่างๆที่คุณเกษมเอามาแปะ มันก็ดีอยู่หรอกนะ
    แต่ผมละอยากรู้จริงๆว่ามีคนกดดูรึป่าว ถ้าช่วงนี้มันเงียบเหงาจากข่าวภัยพิบัติ ลองดรอบไว้ก่อนก็ได้มั๊ยครับ หรือตั้งกระทู้ใหม่รวมๆคลิปความรู้ไรงั้น
     
  2. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    ถ้าคุณหมึกย่างเห็นว่ากระทู้นี้ไม่มีสาระ ก็ไม่ต้องเสียเวลาเข้ามาอ่านก็ได้นะครับ เพราะในห้องนี้ยังมีกระทู้ดีๆ อีกหลายกระทู้ให้คุณหมึกย่างเข้าไปเยี่ยมชมได้ตลอดเวลา ส่วนคนที่เข้ามาดูคลิปในกระทู้นี้ ผมก็ตรวจเช็คอยู่ทุกวัน เห็นว่ามีไม่ต่ำกว่า 600 - 700 คนต่อวัน ซึ่งนับว่ามากพอสมควร

    คลิปต่างๆ ที่ผมได้รวบรวมทำมาเผยแพร่ในกระทู้นี้ ล้วนเป็นคลิปที่เกี่ยวข้องกับภัยพิบัติทั้งสิ้น โดยเฉพาะเรื่องอาหารการกิน ซึ่งคุณหมึกย่างอาจจะเห็นว่าเป็นเรื่องที่มีอยู่ทั่วไปในอินเตอร์เน็ต ไม่เห็นจะมีประโยชน์อะไรเลย แต่ผมอยากจะบอกให้รู้ว่า เรื่องการอดอยากขาดแคลนอาหารนี้ จะเป็นเรื่องใหญ่ที่จะเกิดขึ้นในอนาคตอันใกล้นี้ เพราะความแปรปรวนของสภาพดินฟ้าอากาศ จะเป็นสาเหตุสำคัญ ที่จะทำให้ไม่สามารถเพาะปลูกพืชพรรณธัญญาหารต่างๆ ได้เพียงพอกับความต้องการของคนในโลกนี้

    เมื่อคนเราไม่สามารถหาอาหารได้เพียงพอ ก็จะเกิดสงครามแย่งชิงอาหาร เกิดการจลาจล ปล้นจี้ เข่นฆ่าประหัตประหารกันไปทั่วโลก โดยเฉพาตามหัวเมืองใหญ่ๆ ก็จะประสพกับปัญหาเหล่านี้มากกว่าคนที่อยู่ตามชนบท เมื่อเวลานั้นมาถึง คนในเมืองก็จะต้องอพยพหนีภัยอันตรายเหล่านี้ ไปอยู่ตามชนบทที่ห่างไกลจากตัวเมืองเพื่อเอาชีวิตรอด

    เมื่อคนในเมืองอพยพไปอยู่ในชนบท ก็จะไม่สามารถหาอาหารได้ง่ายๆ ตามซุปเปอร์มาเก็ต และห้างสะดวกซื้อต่างๆ เหมือนเมื่อก่อนอีกต่อไป จึงต้องพึ่งพาอาหารที่หาได้จากชนบท ซึ่งก็คือพืชพรรณพื้นเมืองต่างๆ ที่คนในเมืองไม่รู้จัก เช่น หัวเผือก หัวมัน หน่อไม้จากต้นไผ่ ผักบุ้ง ผักกระเฉด ผักตบชวา ผักหวานป่า ฯลฯ และคนในชนบทก็จะเป็นพี่เลี้ยง คอยสอนวิธีประกอบอาหารจากพืชพรรณธัญญาหารพื้นบ้านเหล่านี้ ให้คนในเมืองที่อพยพไปอยู่ด้วยนั่นเอง

    แต่ถ้าคนในเมืองได้ดูคลิป ที่ผมนำมาโพสต์เอาไว้ในกระทู้นี้ ก็จะสามารถปรับตัวให้มีชีวิตอยู่รอดได้ในชนบทอย่างไม่ยากเย็นนัก เพราะรู้แล้วว่ายังมีอาหารอีกมากมายที่อยู่ในชนบทที่ห่างไกล และอาหารในป่าเขาลำเนาไพร ที่สามารถนำมารับประทานได้ อีกทั้งยังมีคุณค่าทางอาหารที่เป็นประโยชน์กับร่างกาย มากกว่าอาหารที่คนในเมือง รับประทานกันอยู่ทุกวันนี้เสียอีกครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2015
  3. ธีรยุทธ

    ธีรยุทธ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    110
    ค่าพลัง:
    +750
    คุณเกษม ลงในแบบฉบับของคุณเกษมเลยครับ ผมติดตามมาตลอด
    ความรู้ที่สามารถนำมาประยุกต์ใช้ในชีวิตประจำวันได้ หรือสามารถนำมาปรับใช้ในยามเกิดภัยพิบัติได้ครับ
    เมื่อก่อนพอมีเวลาผมก็จะนำข่าวหรือเหตุการณ์ต่างๆมาโพสเหมือนกัน แต่ช่วงหลังงานมันเยอะเลยติดตามแต่คุณเกษมอย่างเดียว เป็นกำลังใจให้ครับ

    ธีรยุทธ
     
  4. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กินอยู่คือ - กะเหรี่ยง ป่า อาหาร



    เผยแพร่เมื่อ 4 มิ.ย. 2012​
     
  5. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กินอยู่คือ แบบอีสาน





    เผยแพร่เมื่อ 16 พ.ค. 2012​
     
  6. ปิยนาถ

    ปิยนาถ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    204
    ค่าพลัง:
    +298
    ขอบคุณสาระดีๆที่นำมาให้นะจ๊ะ ดิฉันติดตามเว็บพลังจิตเกือบทุกวันตลอดมา เกือบๆ 11ปีแล้วมั้งจ๊ะ ติดตามดูอยู่ตลอดแต่ไม่ได้เข้ามาในนามสมาชิก แต่มาในนามเป็นบุคคลภายนอก ต้องการเพียงรับฟังและอ่านอย่างเดียว ไม่เน้นการวิจารณ์หรือตอบโต้เพราะไม่อยากสร้างกรรมทางวจี แต่มาตอบในคราวนี้ เพื่อเป็นกำลังใจให้แก่สมาชิกทุกท่านที่นำสาระดี ๆมาฝากซึ่งมีประโยนช์ตามกำลังสติปัญญาของแต่ล่ะบุคคลจะนำไปปฏิบัติ อนุโมทนาบุญด้วยจ้า ระยะทางพิสูจน์ม้ากาลเวลาพิสูจน์คน ไม่ต้องรีบอยากให้เกิดภัยพิบัติเร็วนักหรอก ช้าๆแหล่ะดี ปฏิบัติธรรม ทาน ศีล ภาวนากันหรือยัง จะเข้าทำนองที่ว่าเห็นโลงศพไม่หลั่งนำ้ตา เนี้ยะแหล่ะเขาเรียกว่าคน ประเสริฐ เกิดมาทั้งทีอย่าเสียชาติเกิด ในนรกภูมิมันไม่สนุกนะจ๊ะ คนทำดีขออนุโมทนาบุญด้วย มาตอบคราวนี้เพื่อให้กำลังใจ และจะนั่งให้กำลังใจอยู่ด้านนอกสำหรับผู้ทำดี โชคดีจ๊ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2015
  7. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    วัดดังจัดประเพณี “ใส่ข้าวโบสถ์ เดือน 3 หลามเหนียว"

    [​IMG]

    [​IMG]

    [​IMG]

    วัดทอนหงส์ เมืองคอนกำหนดจัดงานประเพณี “ใส่ข้าวโบสถ์ เดือนสามหลามเหนียว” ที่ยาวที่สุดในโลก เน้นรูปแบบย้อนยุค เน้นความสามัคคี สนุกสนาน

    เมื่อวันที่ 8 ก.พ. พระอธิการชนัสถ์นันท์ สิริจันฺโท เจ้าอาวาสวัดทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช เปิดเผยว่า วัดทอนหงส์ อ.พรหมคีรี จ.นครศรีธรรมราช ได้ร่วมกับพุทธศาสนิกชนกำหนดจัดงานประเพณี “ใส่ข้าวโบสถ์ เดือน 3 หลามเหนียว”จาก 9 ชุมชน ๆ ละ 100 กระบอก รวม 900 กระบอก ยาวกว่า 100 เมตร ซึ่งถือเป็นมหกรรม การเผาข้าวหลามที่ยาวที่สุดในโลก โดยชาวบ้านจากทุกชุมชนจะเริ่มเผาตั้งแต่ช่วงบ่าย วันที่ 10 ก.พ. คาดว่าจะแล้วเสร็จในเวลา 18.30 น. ของวันเดียวกัน ก่อนจะเข้าสู่พิธีเปิดงานประเพณีอย่างเป็นทางการโดยมีนายเกรียงศักดิ์ รักษ์ศรีทอง นายอำเภอพรหมคีรี เป็นประธาน รูปแบบการจัดงานเน้นแบบย้อนยุค ความสามัคคี สนุกสนาน และ มีการจัดแข่งขันปอกข้าวหลาม กินข้าวหลาม และสร้างสีสันในพิธีเปิดงานสำหรับปีนี้ โดยชาวบ้านจะแต่งกายย้อนยุคมาร่วมงาน และจะมีเซอร์ไพร จากชุมชนดอนคาชาวบ้านจะแต่งกายย้อนยุคด้วยชุด “ บางระจัน” มาร่วมกิจกรรมในช่วงพิธีเปิดงานด้วย

    วัตถุประสงค์ของการจัดงาน เพื่ออนุรักษ์ ฟื้นฟูประเพณีเก่าแก่ตามความเชื่อในทางพระพุทธศาสนา สร้างความรัก ความสาสามัคคี กระตุ้นจิตสำนึกของคนในรุ่นปัจจุบัน ได้เห็นความสำคัญของวิถีชีวิตของคนรุ่นก่อนนำมาปรับประยุกต์ใช้ให้เกิดประโยชน์ในการดำรงชีวิตในสังคมปัจจุบัน ส่วนประวัติความเป็นมาของประเพณี “ใส่ข้าวโบสถ์ เดือนสามหลามเหนียว”เป็นประเพณีของชาวบ้านตำบลทอนหงส์และชุมชนใกล้เคียงที่มีมาแต่สมัยโบราณ โดยในช่วงวันแรม 5-6 ค่ำเดือน 3 ของทุกปี ชาวบ้านทอนหงส์และชุมชนใกล้เคียงจะมีการเตรียมการตัดไม้ไผ่ หาฟืน หามะพร้าว เตรียมข้าวเหนียว เพื่อเตรียมไว้สำหรับทำข้าวหลาม

    เจ้าอาวาสวัดทอนหงส์ เปิดเผยอีกว่า ในช่วงบ่ายวันแรม 7 ค่ำ สมาชิกของแต่ละครัวเรือน ที่เตรียมวัสดุสำหรับทำข้าวหลามไว้พร้อมสรรพแล้วก็ช่วยกันเผาข้าวหลาม บรรยากาศ เป็นไปอย่างคึกคัก เพราะเป็นการรวมตัวกันของสมาชิกที่แยกย้ายกันไปมีครอบครัวนอกถิ่นฐานจะชวนกันกลับมาร่วมงานประเพณี และจะช่วยกันปอกมะพร้าว ขูดมะพร้าว คั้นกะทิ กรอกข้าวเหนียว ลงในกระบอกไม้ไผ่ เฝ้าระวังไฟในการเผาหลามข้าวหลาม มีการพูดคุย สอบถามสารทุกข์สุขดิบ กันอย่างออกรสชาติ เป็นบรรยากาศที่ยังหาดูได้ยากในปัจจุบันนี้ เนื่องจากสภาพความเปลี่ยนแปลงของโครงสร้างสังคมทำให้คนสนใจและศึกษาความเป็นมาอดีตของตนเองหรือของแต่ละชุมชนน้อยลง.

    วันอาทิตย์ 8 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 13:54 น.

    ชาวสองแควร่วมใจสร้างฝายชะลอน้ำ

    [​IMG]

    [​IMG]

    แม่ทัพภาค 3 เปิดโครงการก่อสร้างฝายชะลอน้ำ 1 พันแห่งทั่วเมืองพิษณุโลก น้อมนำแนวพระราชดำริในหลวง เป็นแนวทางแก้ไขปัญหาขาดแคลนน้ำ

    เมื่อวันที่ 10 ก.พ. พล.ท.สาธิต พิธรัตน์ แม่ทัพภาคที่ 3 เป็นประธานในพิธีเปิดโครงการก่อสร้างฝาย (Check Dam) เสริมระบบนิเทศ 2558 และโครงการส่งเสริมและอนุรักษ์ฟื้นฟูสภาพป่าตามแนวพระราชดำริในพื้นที่ หมู่ 13 บ้านตอเรือ ต.วังนกแอ่น อ.วังทอง จ.พิษณุโลก โดยมี นายจักริน เปลี่ยนวงษ์ ผวจ.พิษณุโลก พร้อมด้วยหัวหน้าส่วนราชการทหาร ตำรวจ พลเรือน ผู้นำท้องที่ ผู้นำชุมชน และชาวบ้านในพื้นที่เข้าร่วมกิจกรรมเป็นจำนวนมาก

    ทั้งนี้การจัดทำโครงการดังกล่าว เพื่อดำเนินการก่อสร้างฝายในพื้นที่รวม 1,000 แห่ง ประกอบด้วย ฝายแบบผสมผสาน 980 แห่ง ฝายกึ่งถาวร 20 แห่ง ครอบคลุมพื้นที่ 5 อำเภอ ได้แก่ อ.วังทอง ชาติตระการ นครไทย วัดโบสถ์ และ เนินมะปราง โดยได้น้อมนำแนวพระราชดำริของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ เป็นแนวทางในการดำเนินการแก้ไขปัญหาการขาดแคลนน้ำเพื่ออุปโภค บริโภคและน้ำเพื่อการเกษตรของประชาชนในพื้นที่ จ.พิษณุโลก ในปีงบประมาณ 2558 โดยมอบให้สำนักงานทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมจ.พิษณุโลกเป็นหน่วยงานหลักร่วมกับทุกภาคส่วนในพื้นที่

    เดลินิวส์ วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 19:46 น.

    สุดซึ้งแม่ประกาศขายไตหาเงินช่วยลูก

    [​IMG]

    เมียอดีตตำรวจวัย 61 ประกาศขายไตหาเงินรักษาลูกชายพิการ วอนคนช่วยซื้อก่อนตัวเองเป็นอะไรไป เผยขายขนมได้แค่วันละ 100 บาท ไม่พอซื้อยา ข้าวของเครื่องใช้ รวมทั้งรถเข็นคนพิการขายหมดจนไม่เหลืออะไรแล้ว

    เมื่อวันที่ 10 ก.พ. ผู้สื่อข่าวได้รับแจ้งว่าที่บ้านเลขที่ 385 หมู่ที่ 17 ต.บ่อแฮ้ว อ.เมือง จ.ลำปาง มีผู้ประกาศขายไตตัวเอง เพื่อนำเงินไปช่วยรักษาลูกที่พิการ จึงเดินทางไปบ้านหลังดังกล่าว ซึ่งเจ้าของบ้าน คือ นางโสภิญ กาวีอ้าย อายุ 61 ปี ได้ออกมาต้อนรับพร้อมกล่าวว่า เป็นความจริงพร้อมกับเล่าว่า ตนเองเคยมีสามีเป็นตำรวจ แต่ได้เสียชีวิตลงไปประมาณ 20 กว่าปีแล้ว ซึ่งต่อมาก็อาศัยอยู่กับลูก 3 คน ทุกวันนี้ประกอบอาชีพรับจ้างทั่วไป ชีวิตก็พออยู่ได้ โดยมีลูกชายคนเล็กเป็นหัวแรงในการช่วยครอบครัว จนกระทั่งเมื่อวันที่ 28 ก.ย. 55 นายอนุชา บุตรชายที่ช่วยเหลือครอบครัวได้เกิดอุบัติเหตุ ถูกรถกระบะชนได้รับบาดเจ็บจนพิการทางสมอง ไม่สามารถรับรู้อะไรได้ทั้งสิ้นภาระทั้งหมดจึงตกสู่ครอบครัว ลูกสาวต้องลาออกจากงานมาดูแล นายอนุชา ครอบครัวย่ำแย่ลงคู่กรณีก็ไม่ดูแลให้เงินมาแค่ 9 พันบาทเท่านั้น ถึงแม้ว่าขณะนี้ในทางคดีจะชนะ คู่กรณีศาลตัดสินให้ติดคุก แต่ก็ไม่ได้มาช่วยเหลือเลย ตนเองไม่ต้องการให้ติดคุก แต่ต้องการให้มาช่วยเหลือมากกว่า แถมคู่กรณีซึ่งเป็นคนมีฐานะร่ำรวย ก็ยังท้าให้ไปฟ้องทางแพ่งเอาเอง ตนเองจะเอาเงินที่ใหนไปฟ้องร้องสู้คดีได้ แค่อาหารและยาให้ลูกทุกวันนี้ยังแทบไม่มีให้

    "ปัจจุบันมีรายได้จากการขายขนมวันละ 100 กว่าบาท ไหนต้องมารักษาลูกชายข้าวของเครื่องใช้ในบ้านเอาไปจำนำหมด แม้กระทั่งรถเข็นคนพิการที่ทาง รพ.ศูนย์ลำปางมอบให้มา ก็ต้องเอาไปจำนำเพื่อเอาเงินมาดูแลลูกจนไม่เหลืออะไรแล้ว จึงตัดสินใจที่จะขายไตสักข้างหนึ่ง เพื่อได้เงินมาสักก้อนไว้เพราะตนเองก็แก่แล้ว สุขภาพก็แย่เป็นเบาหวานและความดันไม่รู้ว่าจะมีชีวิตอยู่ได้อีกนานแค่ใหน จึงขอให้นักข่าวช่วยเหลือไปยังผู้ที่ต้องการไต สามารถติดต่อตนเองมาได้ทางเบอร์โทร. 085-712-4294 สำหรับราคานั้นแล้วแต่จะช่วยเหลือมา" นางโสภิญ กล่าว

    เดลินิวส์ วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 17:45 น.

    รอยำโจรถีบสาวท้อง 9 เดือนชิงทอง

    [​IMG]

    [​IMG]

    ตามรวบแล้วอีก 1 โจรใช้เท้าถีบรถ จยย. สาวท้อง 9 เดือนล้ม ชิงสร้อยทองหนัก 1 บาท หลบหนี ขณะที่ผู้เสียหายคลอดลูกชายแข็งแรงสมบูรณ์ปลอดภัย ส่วนเฟซบุ๊กคนเกาะสมุยรุมประณามยับ พร้อมเร่ง จนท. คุมตัวทำแผนจะไปรอยำ

    จากกรณีสาวท้อง 9 เดือน ถูก 2 โจรใช้เท้าถีบรถ จยย.ล้มศีรษะกระแทกพื้นได้รับบาดเจ็บสาหัส ก่อนชิงสร้อยคอทองคำหนัก 1 บาท หลบหนี แต่ไปได้ไม่ไกล รถ จยย. เสียหลักล้ม จนถูกเจ้าหน้าที่ตามจับได้ 1 ราย อีกคนหนีไปได้ เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายของวันที่ 9 ก.พ. ที่ผ่านมา บริเวณหน้าร้านสะดวกซื้อติดกับมหาวิทยาลัยราชภัฎสุราษฎร์ธานี วิทยาลัยนานาชาติการท่องเที่ยวเกาะสมุย หมู่ 2 ต.บ่อผุด อ.เกาะสมุย

    ความคืบหน้าเมื่อเวลา 10.00 น. วันที่ 10 ก.พ. พ.ต.ท.เด่นดวง ทองศรีสุข รอง.ผกก.ป. สภ.บ่อผุด เปิดเผยว่า ขณะนี้สามารถตามจับผู้ต้องหาอีกรายได้แล้ว ทราบชื่อ นายสันติพงศ์ หรือบอยปานพรม อายุ 21 ปี พร้อมด้วยของกลางรถ จยย. ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นเวฟ 100 สีเทา ทะเบียน ขมม-626 สุราษฎร์ธานี รับสารภาพว่าได้ร่วมกันก่อเหตุจริง ส่วนสร้อยคอทองคำหายไประหว่างรถ จยย. ล้ม ส่วนสาเหตุที่ทำลงไปเพราะตกงาน ทั้งนี้ จะมีการนำตัวผู้ต้องหาไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพต่อไป ส่วน น.ส.มณีรัตน์ กลางประพันธ์ อายุ 23 ปี ผู้เสียหายที่ได้รับบาดเจ็บ และนอนพักรักษาตัวอยู่นั้น แพทย์ได้ทำคลอดแล้ว เป็นเด็กผู้ชายสุขภาพแข็งแรงสมบูรณ์

    ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในสังคมโซเชียลได้เข้าไปแสดงความคิดเห็นบนเฟซบุ๊กชื่อ "ค รวมพลคนเกาะสมุย" โดยมีการประณามการก่อเหตุของกลุ่มผู้ต้องหาที่ไม่คำนึกถึงความปลอดภัยของเหยื่อที่เป็นหญิงสาวท้องแก่ใกล้คลอด พร้อมโพสต์ให้เจ้าหน้าที่เร่งนำตัวไปทำแผนประกอบคำรับสารภาพในที่เกิดเหตุ จะไปรุมประณามด่า และอาจมีการรุมประชาทัณฑ์เนื่องจากผู้ต้องหาที่ก่อเหตุเป็คนเกาะสมุย ไม่คำนึงถึงภาพลักษณ์การท่องเที่ยวและเชื่อว่าคนร้ายน่าก่อเหตุมาแล้วนับครั้งไม่ถ้วน โดยเฉพาะกับนักท่องเที่ยว

    เดลินิวส์ วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 14:20 น.

    เตือนอ่าวไทยตอนล่างมีคลื่นสูง 2 เมตร

    [​IMG]

    กรมอุตุนิยมวิทยาเตือนอ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง ส่วนประเทศไทยตอนบนอากาศยังคงหนาวเย็น

    เมื่อวันที่ 10 ก.พ. กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์ลักษณะอากาศทั่วไป ว่า บริเวณความกดอากาศสูงกำลังค่อนข้างแรงจากประเทศจีนที่แผ่ลงมาปกคลุมประเทศไทยตอนบนและทะเลจีนใต้เริ่มมีกำลังอ่อนลง แต่ยังคงทำให้บริเวณดังกล่าวมีอากาศหนาวเย็น โดยอุณหภูมิจะสูงขึ้น ขอให้ประชาชนดูแลรักษาสุขภาพเนื่องจากสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงในระยะนี้ไว้ด้วย สำหรับมรสุมตะวันออกเฉียงเหนือที่พัดปกคลุมภาคใต้และอ่าวไทยมีกำลังอ่อนลง ทำให้อ่าวไทยตอนล่างตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง

    พยากรณ์อากาศสำหรับประเทศไทยตั้งแต่เวลา 06:00 วันนี้ ถึง 06:00 วันพรุ่งนี้

    ภาคเหนือ มีหมอกในตอนเช้า และมีหมอกหนาในบางพื้นที่ โดยอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิต่ำสุด 15-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-33 องศาเซลเซียส บริเวณยอดดอยอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 6-10 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 10-25 กม./ชม.

    ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ อากาศเย็นถึงหนาว อุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 13-17 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 29-32 องศาเซลเซียส บริเวณยอดภูอากาศหนาวถึงหนาวจัด อุณหภูมิต่ำสุด 7-11 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม.

    ภาคกลาง อากาศเย็นในตอนเช้า และอุณหภูมิจะเปลี่ยแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18-19 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    ภาคตะวันออก อากาศเย็นในตอนเช้า กับมีลมแรง และอุณหภูมิจะลดลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 18-22 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) อากาศเย็นในตอนเช้า และมีฝนบางแห่ง ร้อยละ 10 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 20-25 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 30-32 องศาเซลเซียส ตั้งแต่จังหวัดสุราษฎร์ธานีขึ้นมา: ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ตั้งแต่จังหวัดนครศรีธรรมราชลงไป: ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีเมฆบางส่วน อุณหภูมิต่ำสุด 21-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 32-35 องศาเซลเซียส ลมตะวันออก ความเร็ว 20-35 กม./ชม. ทะเลมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ห่างฝั่งคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร

    กรุงเทพมหานครและปริมณฑล อากาศเย็น และอุณหภูมิจะเปลี่ยนแปลงเล็กน้อย อุณหภูมิต่ำสุด 20-23 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 33-34 องศาเซลเซียส ลมตะวันออกเฉียงเหนือ ความเร็ว 15-30 กม./ชม.

    เดลินิวส์ วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 08:17 น.

    ที่มา http://www.dailynews.co.th/
     
  8. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    พายุหิมะถล่มตะวันออกสหรัฐ หนักสุดในรอบ 37 ปี

    [​IMG]

    พายุหิมะพัดถล่มซ้ำอีกระลอกในแถบินวอิงแลนด์ หรือภาคตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ตั้งแต่วันอาทิตย์และคาดว่าจะต่อเนื่องไปทั้งสัปดาห์ โดยเมืองบอสตันมีปริมาณหิมะสะสมสูงกว่า 1 เมตรครึ่ง มากสุดในรอบ 37 ปี ขณะเดียวกันเกิดพายุฝุ่นปริศนาพัดปกคลุมอีกฟากฝั่งของประเทศ

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงวอชิงตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่า พื้นที่ทางตะวันออกเฉียงเหนือของสหรัฐ ถูกพายุหิมะกระหน่ำซ้ำอีกรอบตั้งแต่วันอาทิตย์ที่ผ่านมา หลายเมืองในรัฐแมสซาชูเซตส์ ทั้งเวย์เมานท์ ชารอน และนอร์เวลล์ มีปริมาณหิมะสูงกว่า 60 เซนติเมตร ขณะที่สถานการณ์ในเมืองบอสตันรุนแรงสุด มีปริมาณหิมะสะสมสูงถึง 156.5 เซนติเมตร ทำสถิติสูงสุดในรอบ 37 ปี หรือนับตั้งแต่เดือน ก.พ. 2521 ส่วนในรัฐคอนเนตทิคัต นิวยอร์ก และเมน มีปริมาณหิมะอยู่ที่ 15 - 30 เซนติเมตร ขณะที่พายุเริ่มอ่อนกำลังลงในวันอังคาร

    สภาพอากาศเลวร้ายดังกล่าวส่งผลให้เที่ยวบินนับร้อยเที่ยวถูกยกเลิก รถรางและรถไฟต้องระงับการให้บริการตั้งแต่เวลา 19.00 น. วันจันทร์ ตามเวลาท้องถิ่น เหลือเพียงรถประจำทางบางส่วนที่ยังคงวิ่งอยู่ การขนส่งรัฐแมสซาชูเซตส์เร่งเข้าเคลียร์หิมะและน้ำแข็งที่ก่อตัวปกคลุมตามระบบราง พร้อมตรวจสอบความเสียหายที่เกิดขึ้น ส่วนหนึ่งเป็นผลจากสภาพที่ทรุดโทรมตามอายุการใช้งานของโครงสร้างดังกล่าว โดยเมื่อวันจันทร์ เจ้าหน้าที่ต้องเข้าช่วยเหลือผู้โดยสาร 50 คน ออกจากรถไฟที่ไม่สามารถวิ่งต่อไปได้และติดค้างอยู่ระหว่างสถานีในเมืองควินซีย์ ซึ่งมีรายงานเหตุหลังคาพังถล่มจากน้ำหนักของหิมะแต่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ เช่นเดียวกับในเมืองร็อคแลนด์ และบริดจ์วอเตอร์ ทั้งนี้ พยากรณ์อากาศระบุว่า พายุจะยังคงโจมตีต่อเนื่องไปจนถึงสุดสัปดาห์นี้ ขณะที่ศูนย์จัดการภัยพิบัติแมสซาชูเซตส์คาดการณ์ว่าอุณหภูมิจะลดต่ำมากหลังพายุสงบลง

    ด้านฝั่งตะวันตกของสหรัฐในสัปดาห์ที่แล้ว เกิดพายุฝุ่นปริศนาปกคลุมในหลายพื้นที่ของรัฐออริกอนและรัฐวอชิงตัน แม้ยังไม่มีการพิสูจน์ยืนยันถึงที่มา แต่ผู้เชี่ยวตั้งข้อสันนิษฐานไว้ 2 ทาง ประการแรกคือ กระแสลมแรงที่พัดต่อเนื่องมาจากพื้นที่ทะเลทรายอย่างรัฐเนวาดา ส่วนอีกกระแสหนึ่งเสนอว่า อาจเป็นกระแสลมในระดับสูงที่หอบเอาฝุ่นเถ้าภูเขาไฟ ข้ามมหาสมุทรแปซิฟิกมาจากเกาะภูเขาไฟซากุระจิมะ ที่อยู่ทางตอนใต้ของญี่ปุ่น อย่างไรก็ตาม หลายฝ่ายเรียกร้องให้หน่วยงานที่เกี่ยวเข้าเร่งเข้าตรวจสอบและวิเคราะห์ฝุ่น เพื่ออธิบายปรากฏการณ์ที่เกิดขึ้น.

    เดลินิวส์ วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 16:20 น.

    สหรัฐอวดอาวุธล้ำยุค

    [​IMG]

    [​IMG]

    กองทัพสหรัฐเผยกำลังทดสอบอาวุธไฮเทคคือ ปืนเลเซอร์บนเรือรบลำหนึ่งในอ่าวเปอร์เซีย ส่วนปืนแม่เหล็กไฟฟ้า ที่มีอานุภาพยิงไกลเกือบ 200 กิโลเมตร จะทดสอบในปีหน้า

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงแคนเบอร์ราประเทศออสเตรเลีย เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ว่า พลเรือเอกโจนาธานกรีนเนิร์ตแห่งกองทัพเรือสหรัฐ เปิดเผยในระหว่างการปาฐกถาที่มหาวิทยาลัยแห่งหนึ่งในออสเตรเลียว่า เลเซอร์ที่ยิงโดรนเครื่องบินไร้คนขับจนร่วงอย่างแม่นยำ และปืนแม่เหล็กไฟฟ้าที่ยิงได้ไกลกว่า 100 กิโลเมตร เป็นส่วนหนึ่งของสงครามทางทะเลในอนาคต

    พลเรือเอกกรีนเนิร์ต ซึ่งเป็นหัวหน้าฝ่ายปฏิบัติการของกองทัพเรือสหรัฐกล่าวต่อไปว่า การทดลองปืนเลเซอร์และปืนแม่เหล็กไฟฟ้า เป็นการสลัดตัวเองครั้งสำคัญออกจากปืนที่ใช้ดินปืนแบบเก่าและราคาไม่แพง สำหรับปืนเลเซอร์นี้รู้จักกันคือเลเซอร์ เวบพอน ซิสเต็มกำลังอยู่ในระหว่างการทดสอบบนเรือรบลำหนึ่งในอ่าวเปอร์เซีย ส่วนปืนอิเล็กโทรแมกเนติกเรลกัน (Electromagnetic Railgun) ใช้สนามแม่เหล็กที่สร้างด้วยกระแสไฟฟ้า ในการทดลองยิงระยะทางไกลกว่า 184 กิโลเมตร และมีกำหนดทดลองในทะเลปีหน้า

    เดลินิวส์ วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 19:04 น.

    ทัพเมียนมาร์ปะทะเดือดกบฎรัฐชาน

    [​IMG]

    ทหารรัฐบาลเมียนมาร์สู้รบกบฏรัฐชาน ในเขตโกก้างอย่างดุเดือด ส่งผลให้ประชาชนอพยพหนีตายข้ามพรมแดนเข้าไปในจีน

    สำนักข่าวต่างประเทศ รายงานจากกรุงปักกิ่งประเทศจีน เมื่อวันที่ 10 ก.พ.ว่า จีนแสดงความวิตกเกี่ยวกับการสู้รบระลอกใหม่ ระหว่างทหารรัฐบาลเมียนมาร์ กับกลุ่มกบฎกองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาร์(เอ็มเอ็นดีเอเอ) ในเขตโกก้างของรัฐชานทางตะวันออกเฉียงเหนือของเมียนมาร์ ทำให้พลเรือนจำนวนหนึ่ง ข้ามพรมแดนเข้าไปลี้ภัยในจีนแล้ว นางฮัว ชุนหยิงโฆษกกระทรวงต่างประเทศจีน แถลงเมื่อวันอังคารว่าตั้งแต่วันจันทร์จนถึงวันอังคาร กลุ่มชาวเมียนมาร์ได้อพยพเข้ามาลี้ภัยในจีน โดยไม่ได้เปิดเผยตัวเลขของกลุ่มผู้อพยพ

    นางฮัวกล่าวต่อไปว่าจีนติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสนับสนุนสันติภาพกับเสถียรภาพบริเวณชายแดน เมียนมาร์-จีน พร้อมกับเชื่อว่าฝ่ายเมียนมาร์จะทำงานอย่างหนักในเรื่องนี้ รวมทั้งหวังว่าทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องในเมียนมาร์ จะสามารถแก้ไขความแตกต่างผ่านการเจรจาและป้องกัน ไม่ให้เกิดการสู้รบจนส่งผลกระทบต่อความมั่นคงบริเวณชายแดน

    กลุ่มกบฎดังกล่าว เคยเป็นส่วนหนึ่งของพรรคคอมมิวนิสต์แห่งพม่า (ซีพีบี) ซึ่งเป็นกองโจรที่ฝักใฝ่จีนและทำสงครามกับรัฐบาลเมียนมาร์ จนกระทั่งกลุ่มแตกแยกเมื่อปี 2532 อย่างไรก็ตาม กองทัพพันธมิตรประชาธิปไตยแห่งชาติเมียนมาร์ เคยลงนามหยุดยิงกับรัฐบาลเมียนมาร์ในปี 2532 แม้ทำข้อตกลงหยุดยิงต่อกัน แต่ก็ยังมีการปะทะหลายครั้ง

    ด้านหนังสือพิมพ์โกลบอล นิวไลท์ออฟ เมียนมาร์ รายงานว่าการสู้รบเริ่มขึ้นเมื่อวันจันทร์ ระหว่างทหารเมียนมาร์กับกลุ่มกบฎโกก้าง ซึ่งยึดฐานปฏิบัติการของตำรวจ ทำให้มีการสูญเสียชีวิตของสองฝ่าย ก่อนหน้านี้ เมื่อเดือน ธ.ค.ปีที่แล้ว สื่อของรัฐบาลเมียนมาร์กล่าวหากบฎโกก้าง ฆ่าทหาร 7 ศพ บาดเจ็บ 20 ราย อีกทั้งการสู้รบระหว่างสองฝ่ายเมื่อปี 2552 ผลักดันประชาชนหลายหมื่นคน อพยพเข้าไปอยู่ในภาคตะวันตกเฉียงใต้ของจีน จนสร้างความไม่พอใจให้แก่รัฐบาลปักกิ่งมาแล้ว

    เดลินิวส์ วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 18:48 น.

    ชี้เหยื่อฮอนด้าถุงลมฯระเบิด แผ่นโลหะพุ่งปาดคอดับ

    [​IMG]

    ผลการชันสูตรหนุ่มอเมริกันในรัฐเทกซัส ที่เสียชีวิตในอุบัติเหตุรถฮอนด้าแอคคอร์ดเมื่อเดือนที่แล้ว ถูกแผ่นโลหะพุ่งปาดคอจากแรงดันของระบบสูบลมถุงลมนิรภัย

    สำนักข่าวต่างประเทศรายงานจากเมืองฮิวสตัน ประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 10 ม.ค. ว่า สถาบันนิติวิทยาศาสตร์แฮร์ริสเคาน์ตีในรัฐเทกซัส รายงานผลการชันสูตรศพ นายคาร์ลอส โซลิส วัย 35 ปี เหยื่อจากอุบัติเหตุถุงลมนิรภัยระเบิดเมื่อวันที่ 18 ม.ค. ระบุว่า เป็นผลมาจากบาดแผลฉีกขาดจากของไม่มีคม บริเวณลำคอใกล้หัวไหล่ด้านขวา ซึ่งส่งผลให้เส้นเลือดแดง และเส้นเลือดดำเกิดความเสียหายรุนแรง โดย นายโซลิสนับเป็นผู้เสียชีวิตรายที่ 6 จากกรณีอื้อฉาวดังกล่าว ที่ทำให้ผู้ผลิตต้องเรียกคืนรถยนต์ 19 ล้านคันทั่วโลก และถูกสอบสวนโดยเจ้าหน้าที่ด้านความปลอดภัยของกระทรวงยุติธรรมสหรัฐ

    รถยนต์ของ นายโซลิสเป็นรถยี่ห้อฮอนด้า แอคคอร์ด รุ่นปี 2545 ที่ซื้อต่อมาจากนายหน้าอิสระเมื่อเดือน เม.ย. ปีที่แล้ว ในวันเกิดเหตุ รถของ นายโซลิสประสบอุบัติเหตุในเขตสปริงส์ชานเมืองฮิวสตัน ส่งผลให้ถุงลมนิรภัยที่ผลิตโดยบริษัท ทาคาตะ ประเทศญี่ปุ่น ทำงาน แต่ด้วยความผิดพลาดของระบบสูบลม ซึ่งมีแรงดันสูง ทำให้ชิ้นส่วนแผ่นโลหะสีขาวขนาดเส้นผ่านศูนย์กลาง 2 3/4 นิ้ว น้ำหนัก 367 กรัม กระเด็นออกพุ่งเข้าหาผู้ขับขี่อย่างแรง

    ทั้งนี้ ฮอนด้าและทาคาตะได้แสดงความเสียใจไปยังครอบครัวของผู้เสียชีวิต และเรียกร้องให้เจ้าของรถที่ได้รับจดหมายแจ้งการเรียกคืน จากปัญหาถุงลมนิรภัย เร่งนำรถส่งเข้าศูนย์โดยเร็ว พร้อมเผยว่า ได้แจ้งเรียกคืนรถยนต์ของ นายโซลิสเพื่อเข้ารับการซ่อมแซมแก้ไขตั้งแต่ปี 2554 แต่เจ้าของรถ 2 คนก่อนหน้า และนายหน้าที่ขายรถให้กับ นายโซลิสเพิกเฉยต่อหมายแจ้งดังกล่าว และไม่ได้ชี้แจงเรื่องนี้กับ นายโซลิส ซึ่งครอบครัวของผู้ตายได้ยื่นเรื่องฟ้องร้องต่อบริษัทฮอนด้า ทาคาตะ และนายหน้าขายรถแล้ว

    เดลินิวส์ วันอังคาร 10 กุมภาพันธ์ 2558 เวลา 19:37 น.

    ที่มา http://www.dailynews.co.th/
     
  9. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รอบรู้เรื่องสมุนไพรไทย





     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 10 กุมภาพันธ์ 2015
  10. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รอบรู้เรื่องสมุนไพรไทย



    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=BuZhC6h5lPg]YouTube[/ame]


     
  11. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รอบรู้เรื่องสมุนไพรไทย

    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=IXuWmtksgIA]YouTube[/ame]



     
  12. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รอบรู้เรื่องสมุนไพรไทย





     
  13. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    รอบรู้เรื่องสมุนไพรไทย





    [ame=http://www.youtube.com/watch?v=TIIqL4fkV9E]อบเชย2 - YouTube[/ame]
     
  14. k_isara 1

    k_isara 1 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    521
    ค่าพลัง:
    +7,059
    11 ก.พ. 58

    เพศภัย หาใช่ ไม่ใกล้
    รู้ไว้ ไม่เสีย เงินตรา
    เมื่อมา ได้เตรียม ข้าวปลา
    หุงหา ได้กิน อิ่มตัว

    มหาประชาบดี ๙๗
     
  15. หมึกย่าง

    หมึกย่าง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    57
    ค่าพลัง:
    +155
    อย่าเพิ่งร้อนตัวครับ ผมไม่ได้ขวางโลกขนาดนั้น ทุกคลิปมีสาระครับ อันนี้ผมรู้และทุกคนรู้ แค่วิธีการในการรับสื่อชนิดนี้คือมันต้องมากดเปิดคลิปละนั่งดู ไม่ใช่บทความย่อที่แค่อ่านละได้ความรู้เลย ผมคนนึงที่เห็นคลิปแล้วผ่านไปเลย ก็ไปอ่านข่าวอย่างอื่นที่คุณเกษมเอามาลง หลายคนที่เข้ามาดูหรือมากล่าวให้กำลังใจคุณเกษมเพราะเข้าใจว่าผมเข้ามาป่วน ผมรบกวนถามหน่อยว่าได้ดูทุกคลิปที่คุณเกษมลงมั๊ยครับ ไอ้ประเภทพูดจาไรไม่ถูกหูก็ไล่ไปอ่านกระทู้อื่นขอเถอะครับ อย่าทำเลย
     
  16. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    อ. เฉลิมชัย โต้ข่าวไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าวัดร่องขุ่น หลังสร้างวีรกรรมเด็ดดวง


    [​IMG]

    [​IMG]

    อาจารย์เฉลิมชัย โต้ข่าวการปิดวัดร่องขุ่น ไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเข้า หลังทำสุขาทองสกปรก เผยแค่กำชับให้ไกด์ดูแลนักท่องเที่ยวชาวจีนของตนอย่างใกล้ชิดเท่านั้น

    หลังจากที่ CCTV สื่อของประเทศจีน ได้นำเสนอข่าวที่วัดร่องขุ่น จ.เชียงราย ติดป้ายประกาศไม่ให้นักท่องเที่ยวชาวจีนเข้าชมวัดตลอดครึ่งเช้าของวันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2558 ที่ผ่านมา หลังพบว่าทัวร์จีนได้ทิ้งกระดาษชำระใช้แล้วในถังน้ำของสุขาสีทองและทำห้องน้ำสกปรกนั้น

    ล่าสุด (9 กุมภาพันธ์ 2558) รายการเรื่องเด่นเย็นนี้ ทางช่อง 3 รายงานว่า อาจารย์เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์ เจ้าของวัดร่องขุน ได้ออกมาเปิดถึงกรณีนี้ว่า ตนไม่เคยห้ามให้นักท่องเที่ยวชาวจีน เข้ามาภายเยี่ยมชมในวัดร่องขุ่น แม้นักท่องเที่ยวชาวจีนจะมีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมและทำห้องน้ำสีทองสกปรกก็ตาม เพียงแต่กำชับกับเจ้าหน้าที่ที่ดูแลวัดว่า หากมีนักท่องเที่ยวชาวจีนที่เป็นกรุ๊ปทัวร์เข้ามา จะบอกให้เจ้าหน้าที่ไปกำชับกับไกด์ที่ดูแลนักท่องเที่ยวว่า ให้ดูแลนักท่องเที่ยวของตนเองอย่างใกล้ชิด โดยเฉพาะมารยาทการในใช้ห้องน้ำ รวมถึงดูแลความสะอาด แต่ถ้าหากนักท่องเที่ยวกลุ่มไหนทำสกปรก จะให้ไกด์เป็นคนทำความสะอาดเอง ส่วนกรณีที่นักท่องเที่ยวที่เดินทางมาแบบส่วนตัว ก็จะให้เจ้าหน้าที่แนะนำข้อปฏิบัติก่อนเข้าชม

    เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม ขอขอบคุณภาพประกอบจาก รายการครอบครัวข่าว และ เฟซบุ๊ก อ.เฉลิมชัย โฆษิตพิพัฒน์

    ที่มา อ. เฉลิมชัย โต้ข่าวไม่ให้นักท่องเที่ยวจีนเข้าวัดร่องขุ่น หลังสร้างวีรกรรมเด็ดดวง
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 11 กุมภาพันธ์ 2015
  17. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กินอยู่คือ - วิถีแห่งชนเผ่า ไทดำ


    เผยแพร่เมื่อ 12 พ.ค. 2013​
     
  18. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กินอยู่คือ - ป่าต้นน้ำ


    เผยแพร่เมื่อ 13 ส.ค. 2012​
     
  19. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กินอยู่คือ - กะเหรี่ยงบางกระม่า


    เผยแพร่เมื่อ 30 มิ.ย. 2012​
     
  20. เกษม

    เกษม ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    24,696
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +77,192
    กินอยู่คือ - คน ป่า เมี่ยง ขุนเขา


    เผยแพร่เมื่อ 31 ธ.ค. 2012​
     

แชร์หน้านี้

Loading...