เมื่อมองไปดูคนรอบข้าง แล้วท้อใจ

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย KomAon11, 20 มกราคม 2008.

  1. นิมิตรธัญญา

    นิมิตรธัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    ต่อมา

    (eek) (eek) (eek) ต่อไม่มา.. มีแต่งู เอาว่ะตายก็ตาย ขออุทศชีวิตนี้เป็นพุทธบูชา ไม่ยึดมั่นถือมั่นในร่างกายนี้แล้ว มีแต่ทุกข์ไม่มีที่สิ้นสุด เราตายมาแล้วไม่รู้กี่ครั้งต่อกี่ครั้ง เกิดมาแล้วไม่รู้เท่าไหร่ ตายอีกทีก็ช่างมันเถอะ หากเรามีเวรต่อกัน ก็เอาเถอะ ยอม
    ขออโหสิกรรมให้ ...พอคิดได้ยังงี้ อื้อฮือ.. ใจมันโล่งอย่างบอกไม่ถูก รู้สึกสบาย ความกลัวหายไป สงบ...งูก็นอนเฝ้าอยู่นั่นแหละไม่ไปไหน ก็แผ่เมตตาให้ ทีนี้ไปแฮะ ....

    ได้ข้อคิดอีกแล้ว ทุกข์อยู่ที่ไหน ทุกข์อยู่ที่ใจ ใจเรามัวยึดไว้ มันจึงได้เป็นทุกข์ ไอ้สุขนี่มันก็อยู่ที่ใจเช่นกัน เมื่อเราละวางมันได้แล้ว มันก็สบายอย่างนี้นี่เอง เห็นความเกิด-ดับแล้ว
    เห็นขั้นตอนของจิตแล้วว่า เมื่อตาสัมผัสรูป ก็เกิดเวทนาทุกข์-สุข
    เกิดสัญญาจำได้หมายรู้ในทุกข์-สุขนั้น
    เกิดสังขารคิดปรุงแต่งว่าดี-ไม่ดี
    เกิดวิญญาณรับรู้ทุกข์-สุขนั้น
    หากได้ยินเสียง ก็เกิดเวทนา สัญญา สังขาร วิญฯ ต่อกันไป
    จมูก-กลิ่น ลิ้น-รส กาย-ตัวสัมผัส ใจ-ธรรมมารมณ์ ก็เกิดอย่างนี้เหมือนกัน

    หากว่าตาหูจมูกลิ้นกายใจ ผัสสะ รูปเสียงกลิ่นรสธรรมมารมณ์ ก็ให้มันสักแต่ว่าเกิด ให้มันเกิดเวทนาเฉยๆ วางอุเบกขาเป็นพอ มันเกิดเวทนาก็เป็นเวทนาเฉยๆ
    สัญญา สังขาร วิญญาณ ก็เฉยๆ มันเฉยไปโม้ด
    ไม่ยึดถืออะไร มาให้เป็นทุกข์แก่ตน....เออ ...ดี

    มาเล่าสู่พระด้วยกันฟัง เกี่ยวกับการปฏิบัติ แต่เขาไม่เคยปฏิบัติ เขาหาว่าเรา..บ้า มันจะเป็นไปได้ยังไง โกหกหรือเปล่า อ้าว... เป็นซะงั้น ขนาดพระนะเนี่ย
    พอเล่าให้พระครูฟัง ท่านชมว่าดี ทำต่อไป ทีนี้ขยันกว่าเดิม
    (deejai) (deejai) (deejai)
    เล่าสู่กันฟัง ไอ้ที่มันสนุกกว่านี้ยังมีอีก ... เพียบ แต่ .. ช่างมันเถอะ
    อดีตมันก็ผ่านไปแล้ว อนาคตมันก็มาไม่ถึง ทำวันนี้ให้ดีแล้วกัน

    ได้ฌานแล้ว ก็เข้าฌานซะ พอสมควรแล้ว ก็มาพิจารณา อย่าไปติดมันมากมายนักไอ้ฌาณ ฌานมันก็เป็นทุกข์อย่างนึง ใช่ไหม...ตรองดุ ฌาน1-3 มันทุกข์นะ อย่าไปสำคัญว่ามันสุข มันเกิดขึ้นตั้งอยู่แล้วเสื่อมไปได้ พอไอ้ฌาน4มันละ
    ทุกข์สุข มีแต่เฉย อุเบกขาอย่างเดียว มันตัดกิเลสไม่ได้ แค่ข่มไว้เฉยๆ
    แต่ฌานมันดีใช้ประโยชน์ได้เยอะ มีอภินิหาร เป็นฐานของปัญญา รักษาไว้ให้ดี

    พิจารณาไอ้นี่แหละ ตาหูจมูกลิ้นกายใจ ผัสสะ รูปเสียงกลิ่ยรสสัมผัสธรรมารมณ์
    แล้วเกิดเวทนาฯวิญาณ. พิจารณาให้เห็น แล้วละวางมัน.คนฉลาดทำได้อยู่แล้ว
    (good) (good) (good)
     
  2. นิมิตรธัญญา

    นิมิตรธัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    ต่อไปแล้ว อดีตล่วงเลยไปแล้ว

    (eek) (eek) (eek) สักแต่ว่าเป็นที่รู้ สักแต่ว่าเป็นที่อาศัยระลึก
    เมื่อยังมีกิเลสตัณหา อยากได้อยากมีอยากเป็นอยู่ ก็ปฏิบัติสนองกิเลสมันซะ เอาให้หนำใจ อ้าว...เขามีแต่จะตัดกิเลส แกดันจะสนองกิเลส...

    ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย
    ทางนี้เป็นที่ไปอันเอก
    เพื่อความหมดจดวิเศษของสัตว์ทั้งหลาย
    เพื่อความก้าวล่วงซึ่งความโศกและความรำไร
    เพื่อความอัสดงดับไปแห่งทุกข์และโทมนัส
    เพื่อบรรลุญายธรรม เพื่อกระทำพระนิพพานให้แจ้ง
    ทางนี้คือสติปัฏฐาน4อย่าง

    ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายเนืองๆอยู่อย่างไรเล่า
    ภิกษุย่อมดำรงสติเฉพาะหน้า ย่อมมีสติ หายใจเข้า ย่อมมีสติ หายใจออก

    ภิกษุในธรรมวินัยนี้ สงัดจากกาม สงัดจากอกุศลธรรม
    บรรลุปฐมฌาณ มีวิตก มีวิจาร มีปิติและสุขเกิดแต่วิเวกอยู่

    ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย เป็นภายในบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย เป็นภายนอกบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นกายในกาย ทั้งภายในภายนอกบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดา คือ ความเกิดขึ้นในกายบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดา คือ ความเสื่อมไปในกายบ้าง
    ย่อมพิจารณาเห็นธรรมดา คือ ทั้งความเกิดขึ้น ทั้งความเสื่อมไปในกายบ้าง
    ก็หรือสติของเธอที่ตั้งมั่นอยู่ว่ากายมีอยู่
    แต่เพียงสักว่าเป็นที่รู้ แต่เพียงสักว่าเป็นที่อาศัยระลึก
    เธอเป็นผู้อันตัณหาแลทิฏฐิไม่อาศัยอยู่ด้วย
    ย่อมไม่ถือมั่นอะไรๆในโลกด้วย

    ภิกษุย่อมพิจารณาเห็นกายในกายเนืองๆอยู่อย่างนี้
    (deejai) (deejai) (deejai)
    ฟังมามากแล้ว อ่านมามากแล้ว ก็ยังสงสัยอยู่ดี ทำเอาเอง สนองกิเลสซะ
    ทำเองแจ่มเอง สิบปากว่าไม่เท่าตาเห็น คนฉลาดทำได้ แม้แต่เด็กๆเค้ายังทำได้
     
  3. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    สาธุ ขอบคุณครับ

    ตอนนี้ไม่ค่อยท้อมากๆแบบเดิมแล้ว เพราะว่า ท้อไปก็เท่านั้น .. ก็เป็นแบบนั้นอยู่เหมือนเดิม ต้องยอมรับความจริง หึหึ
     
  4. Bhuddha3210

    Bhuddha3210 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 เมษายน 2006
    โพสต์:
    54
    ค่าพลัง:
    +312
    ท้อได้ครับ แต่อย่าถอย ถ้าถอยละเสร็จมารแน่ขอรับ

    ทั้งกิเลสมาร เทวบุตรมาร จ้องเล่นงานทุกขณะจิต

    เมื่อหมดกำลังใจ หรือจิตตก น่าจะฟังเสียงหลวงพ่อฤาษีฯนะขอรับ

    ท่านช่วยเราได้มากจริงๆ กระผมทำประจำนะขอรับ

    ใจฟูขึ้นเลย ปีติขึ้นมาเลยขอรับ

    สู้ต่อไป ซุนวูเอาใจช่วยขอรับ ...
     
  5. นโมโพธิสัตโต

    นโมโพธิสัตโต ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ผู้ดูแลเว็บบอร์ด สมาชิก Premium

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    1,166
    กระทู้เรื่องเด่น:
    25
    ค่าพลัง:
    +29,754
    วันหนึ่ง อันธพาลผู้ชายตัวโตห้าหกคนล้อมกรอบผู้หญิงอยู่บังคับให้จ่ายดอกเงินกู้รายวัน

    คนเห็นเหตุการณ์โทรแจ้ง 191

    ตำรวจ 191 มากันสองคน แล้วก็หน้าซีดๆพูดว่า...

    " เรื่องเงินกู้ เป็นคดีแพ่ง ยังไม่ได้ทำร้ายร่างกาย ผมจับเขาไม่ได้ครับ


    แล้วมันสองคนในเครื่องแบบก็เอาตัวรอดไป......"



    มีคนๆหนึ่งทนไม่ได้.....เอารถยนต์เข้าไปจอดใกล้ๆ บอกให้พวกผู้ชาย หน้าตัวเมียชอบรังแกเพศแม่มารับเงิน พวกมันกลับไม่กล้ามารับเงินที่รถ

    (กลัวตายเป็นเหมือนกัน)

    มันใช้ให้ผู้หญิงมาเอาเงินไปให้มัน



    แล้วมันก็จากไป ด้วยความห้าวหาญ ....


    ..............................ฯลฯ.........................................


    นี่คือเรื่องจริงที่เพิ่งเกิดไม่กี่วันนี้ ในตัวเมือง ใกล้โรงพัก

    ย่านธุรกิจด้วย อยากให้บอกไหมว่าโรงพักไหน จังหวัดอะไร
     
  6. นิมิตรธัญญา

    นิมิตรธัญญา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    66
    ค่าพลัง:
    +199
    มาฝึกดูกัน

    สมาธิ คือ ความตั้งใจมั่น
    ขณิกสมาธิ คือ ตั้งใจมั่นได้เล็กน้อย คือวิตกนึกมั่นในลมและภาวนา วิจารกำหนดพิจารณาใคร่ครวญรู้ในลมและภาวนา หายใจเข้า หายใจออก ไม่นาน แล้วก็หลุดออกไปคิดฟุ้งซ่านภายนอก
    อุปจารสมาธิ สมาธิมั่นใกล้ฌาน มีวิตก มีวิจาร ปิติ สุข
    ปิติ คือ ความชุ่มชื่นเบิกบานอิ่มอกอิมใจ เช่น ขนลุก ซู่ซ่า นำตาไหล ตัวโยกโคลง ตัวสั่น ตัวลอย ตัวขยายใหญ่ เห็นแสงสว่าง เห็นรูป
    สุข ความสุขชื่นบาน
    ฌาน คือ ความเพ่ง มีวิตก วิจาร ปิติ สุข เอกคัตตา
    เอกคตา คือ มีอารมณ์เป็นหนึ่งในวิตกวิจารปิติสุข
    ปฐมฌานคือ ฌาน1 ต้องเกิดอารมณ์ครบพร้อมกัน คือ นึกคิดลมภาวนา ใคร่ครวญลมและภาวนา มีความชุ่มชื่นเบิกบาน มีความสุข สงบมั่น

    อ้าว...ตูรู้มาหมดแล้วนี่หว่า...
    แต่ตรูยังทรงได้ไม่นาน ไม่มั่นคง ไม่ชำนาญพอ (ก็ขยันทำไปดิ)
    ตรูอยากได้ อยากมี อยากเป็น อยากเห็น แต่ตรูก็ไม่ได้ มันหลุดทุกที

    (eek) (eek) (eek)

    จะเห็นอย่างไร ฯ
    เมื่อมาถึงอุปจารสมาธิ ตอนที่สุขเกิดนั่นแหละ มีความสงบมั่นคงอยู่ มีแสงสว่าง
    อยู่ สบายๆ มันก็เกิดเห็นรูป ได้ยินเสียงต่างๆเอง แต่เห็นได้ไม่นาน จะเกิดนิวรณ์5 เช่น อยาก... ฟุ้งซาน ตกใจ ลังเลสงสัย ฯ ก็หลุดออกมา

    ให้ วางเฉยในส่งที่รู้เห็นนั้น สักแต่ว่ารู้ สักแต่ว่าเห็น ทำใจสบายๆ
    อย่าเพ่งเกินไป อย่าดีใจมาก อย่ากลัว อย่าคิดมาก

    (good) (good) (good)
     
  7. ฟู่อิง

    ฟู่อิง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    120
    ค่าพลัง:
    +128
    เราไม่แปลกหรอกครับ แต่เขาสิแปลก
    ......................................................
    อโศก
     
  8. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    ความคิด ความรู้สึกที่เกิดขึ้นนี้เป็นนิวรณ์นะครับเป็นถีนมิทธะ เป็นถีนะคือความหดหู่ท้อถอย ซึ่ง
    นิวรณ์ หมายถึง เครื่องห้าม หรือ เครื่องกั้น ในที่นี้หมายถึง เครื่องกั้นจิต มิให้บรรลุถึงธรรม ที่สูงขึ้นไป อธิบายว่า ตามปรกติ คนเรา มักมีความรู้สึกที่เรียกว่า นิวรณ์ อยู่ด้วยกันทุกคน ไม่อย่างใด ก็อย่างหนึ่ง ตามวิสัยของ ปุถุชน เพราะฉะนั้น จึงเป็นอันว่า จิตของ ปุถุชน ถูกนิวรณ์ เหล่านี้ กีดกันไว้ จากการ บรรลุธรรมะ ที่สูงขึ้นไป อยู่ทุกครั้ง ที่ กิเลสชั้นละเอียด ถูกปรุง ฟุ้งป่วน ขึ้น เป็นความกลัดกลุ้ม วุ่นวาย ไม่สงบ รำงับ ในภายใน ผู้ที่สามารถทำจิตให้ว่าง จากนิวรณ์ ได้ตาม ความต้องการ ของตน นับว่า เป็นปุถุชนพิเศษ หรือ กัลยาณปุถุชน ได้แก่ ผู้มีปัญญา ในการที่จะเปลื้องนิวรณ์ เหล่านี้ ออกไป เสียจากจิต โดยการยกจิต ขึ้นมาสู่ สมาธิได้สำเร็จ ตามวิธีใด วิธีหนึ่ง เป็นต้น
    เราเพียงมองเขาด้วยพหมวิหารธรรมก็ได้ อย่าเอานิวรณ์นั้นเป็นอารมณ์ ก้าวข้ามนิวรณ์ข้อนี้ได้ก็ก้าวไปอีกขั้นหนึ่งนะครับ
     
  9. stratus

    stratus Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 มกราคม 2007
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +84
    เราทำดีทำไปเลยครับ สบายใจเรา ส่วนเรื่องที่คนอื่นมองว่าเราเป็นคนแปลกๆนั้น มันก็เรื่องของคนอื่น ส่วนใหญ่แล้วผมมองว่าการที่คนอื่นจะมองเราว่าเราแปลก (หรือเพี้ยน) นั้นมักมาจากวิธีปฎิบัติที่เราปฎิบัติต่อเค้าต่างหาก เป็นต้นว่า
    เวลาคุยเราก็คุยแต่เรื่องที่เค้าไม่รู้เรื่อง หรือจ้องแต่จะซักนำเค้ามาปฎิบัติด้วย ซึ่งจริงๆแล้วดี แต่บังทีเข้าไม่ถูกทาง พูดไม่ถูกจังหวะ เพื่อนๆอาจมองว่าเราแปลกๆได้ครับ
    ผมชักชวนเพื่อนพ้องที่ใกล้ชิดผมให้มาฝึกปฎิบัติเหมือนกัน แต่ก็ค่อยเป็นค่อยไป ชักนำเค้าในแบบจริตที่เค้าชอบ (เพื่อนเรานี่เรารู้ใจ) ส่วนกับคนอื่นๆผมก็วางตัวกับเค้าเป็นปกติ ถ้ามีคุยเรื่องธรรมะหรือการปฎิบัติผมก็จะคุยในแบบที่เค้าพอจะรู้เรื่อง (ผมก็ไม่มีความรู้มากเท่าไร) คุยกะลิงก็ต้องใช้ภาษาลิงอ่ะครับ คุยกะคนก็ภาษาคน
    ประเด็นเรื่องแปลกไม่แปลกอยู่ที่การปฎิบัติตัวของเราต่อพวกเค้ามากกว่า ผมเองแม้ปฎิบัติ เวลาคุยกะเพื่อนบางคนที่สนใจธรรมะเหมือนกัน ผมยังรู้สึกว่าเค้าแปลกๆเลย แต่ใครจะแปลก หรือใครจะว่าเราแปลกก็เรื่องของเค้า เราก็สนใจแต่เรื่องของเราดีกว่า
    ตอนผมเล่าประสบการณ์เกี่ยวกับสมถะกรรฐานให้เพื่อนฟังครั้งแรก ทุกคนประมาณว่าผมบ้า หรือเริ่มเพี้ยน ผมเองก็จับความรู้สึกเพื่อนๆได้ ก็เลยหยุด แล้วค่อยๆแทรกซึมเอาทีละนิด อิอิ ตอนนี้บางคนในกลุ่มเริ่มหันมาปฎิบัติธรรมกะผมแล้ว ถ้าใครได้เจโตฯคงง่ายหน่องมังครับ...
    อย่าซีเรียสครับเราลุยของเราต่อ กำลังใจขึ้นๆลงๆเป็นเรื่องธรรมดา ผมเอาใจช่วยครับ (แต่เก่งแล้วมาสอนกันมั่งนะ...)
     
  10. lmagine

    lmagine เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 กุมภาพันธ์ 2005
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +359
    พยายามเข้าครับ ทุกคนเจอเหมือนๆกันหมด คนรอบข้างบอกว่าแปลกหรือบ้า

    ทีหลังให้บอกไปว่า ถ้าผมแปลก พระสงฆ์ไม่มากกว่าผมอีกเหรอ ท่านปฏิบัติมากกว่าเราๆ เพราะเราแค่เดินตามพระสงฆ์ ตามพระพุทธองค์

    ให้อุปมาเหมือน เมื่อ50ปีก่อนใครบอกว่าจะไปเหยียบดวงจันทร์คนอื่นเค้าก็หาว่าบ้า เพ้อเจ้อ

    พระพุทธเจ้าเป็นกษัตริย์อยู่ดีๆมีทุกสิ่งทุกอย่าง ก็ทิ้งทุกอย่างไปบำเพ็ญเพียร

    ลองคิดดูครับว่าในประเทศของท่าน ในตระกูล ในพระราชวัง ในบ้านเมือง จะคิดเห็นกันยังไง อาจจะว่า บ้าหรือเพี้ยน แต่สุดท้ายแล้วท่านก็อุบัติเป็นสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้ครับ

    และเป็นเพียงผู้เดียวที่เทวดา มนุษย์ สัตว์โลก สัตว์ที่อยู่ในนรก สรรเสริญบูชา
     
  11. ธนานุวัตร

    ธนานุวัตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2007
    โพสต์:
    224
    ค่าพลัง:
    +968
    ถึงผมจะเริ่มเข้ามาสนใจธรรมะเริ่มปฏิบัติได้ไม่นาน แต่ผมก็ปล่อยวางกับคนที่มองเราแปลกๆแบบนี้ เขาจะคิดยังไงกับผมในเรื่องนี้ผมไม่สนใจเลยผมก็จะสนจะปฏิบัติของผมต่อไปอย่างนี้ ถึงบางทีเราจะพูดกับเขาคนละเรื่องแต่ผมวกมาเรื่องแบบนี้เมื่อไร เขาเหล่านั้นจะหัวเราะล้อเลียนยังไงผมก็ไม่ได้เก็บมาใส่ใจผมเลย
     
  12. koymoo

    koymoo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2004
    โพสต์:
    2,066
    ค่าพลัง:
    +7,067
    เมื่อก่อนก้อยก็คิดมากเหมือนกันกับคนพวกนี้ ก็เพราะคนเหล่านั้นเป็นมนุษย์ปุถุชนที่ยังมีความไม่รู้ ไม่ได้เป็นพระอรหันต์ตั้งแต่เกิด เมื่อมาเจอแบบนี้ เราควรสงสารและให้ธรรมทานแก่พวกเขา ...
    อย่าคิดมากเลยนะคะ สมัยของพระพุทธเจ้าก็ไม่ใช่ว่าจะมีคนดีไปซะหมด ให้เรามองเขาเหล่านั้นอย่างอุเบกขาและสงสารเถอะค่ะ
     
  13. paramitra

    paramitra เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กรกฎาคม 2005
    โพสต์:
    65
    ค่าพลัง:
    +180
    ผมดันกลับกันครับ ผมจะรู้สึกดีเมื่อมองดูคนรอบข้าง แล้วจะรู้สึกแย่มากเมื่อมองดูตัวเอง


    ปัจจุบัน เหล้าก็ยังกิน ญาณสมาธิก็ไม่ได้ซักอย่าง
     
  14. แท้จริง

    แท้จริง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มกราคม 2008
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +989
    เป็นกำลังใจให้เด้อ

    เคยผ่านความรู้สึกนี้เหมือนกันครับ
    เหมือนคนแปลกหน้า ใจมันก็โหว่งๆพิกล
    คิดอีกทีก็เหมือนกับทำให้เรายิ่งเข้มแข็งนะ ยิ่งทวนกระแสก็ยิ่งเข้มแข็ง

    เหมือนกับหลวงพ่อจรัญ ท่านว่า "อยู่กับคนต้องอดทนตลอดไป"
    หลวงพี่เล็กท่านให้เปลี่ยนมุมมองครับ ท่านว่า เนี๊ยะ
    พวกนี้พระอรหันต์ในอนาคตทั้งนั้น เพราะทุกชีวิต ต่อไปก็ต้องวิวัฒนาการ
    จนถึงที่สุดคือพระอรหันต์จนได้แหละ เพียงแต่ใครจะใช้เวลาเท่าไหร่
    แหะแหะ เนื้อหาตรงนี้ที่ผมเล่าอาจจะฟุ้งไปซะหน่อย
    แต่ใจความไม่ผิดหรอกครับ
    เป็นกำลังใจให้กัลยาณมิตรทุกท่านครับ (deejai)

     
  15. จิตอิสระ

    จิตอิสระ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    8
    ค่าพลัง:
    +21
    คนรอบข้าง เป็นเหมือนกันเลยค่ะ

    คนจะทำดี ทำไมต้องหลบๆซ่อนๆก็ไม่รู้

    แต่ก็จะทำดีต่อไปค่ะ
     
  16. คนมีกำกึด

    คนมีกำกึด เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    137
    ค่าพลัง:
    +278
    เราแปลกเพราะการกระทำของเราไม่เหมือนคนอื่น คนอื่นแปลกเพราะการกระทำของเขาไม่เหมือนกับเรา บางอย่างก็ต้องอุเบกขาครับ คนบางคนพูดไปก็ไร้ค่าไม่พูดเรื่องที่เค้าหัวเราะเย้ยหยันเราดีกว่าเพราะพูดไปมันไม่มีประโยชน์ และถ้าเราห่างพวกนี้ได้ก็ห่างไว้ครับ คบบัณฑิตดีกว่า
     
  17. เอก999

    เอก999 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 กันยายน 2007
    โพสต์:
    147
    ค่าพลัง:
    +143

    ใครจะว่าเราแปลกก็ช่างครับ เราจะแปลกหรือไม่ อยู่ที่ตัวเรา ไม่ใช่เพราะคำพูดของคนอื่น
     
  18. สุรีย์บุตร

    สุรีย์บุตร https://youtu.be/8qf8khXqUjU

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,559
    ค่าพลัง:
    +2,122
    ถูกมองแบบนี้ทุกศาสนาหละมั้งครับ เคยอ่านเรื่องของโนอาในศาสนาคริส
    ก็ถูกคนมองว่า บ้าเหมือนกัน
    ผมเลิกสนใจแล้วครับ
    แต่บางคนถ้าเราอธิบายดีๆ ถูกจังหวะเวลา คือเวลาที่เขามีปัญหาที่เข้าได้กับเรื่องที่เราแนะนำเขาได้ อย่างแฟนผมก็ดีขึ้นแยะแล้วครับ
     
  19. KomAon11

    KomAon11 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    4,802
    ค่าพลัง:
    +18,984
    สาธุครับ

    ...อย่างน้อยก็มีคนร่วมหัวจมท้ายในกระทู้นี้อยู่หละ เหอๆ
     
  20. phutsa

    phutsa เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    261
    ค่าพลัง:
    +852
    มา ๆ สวดมนต์จักพรรดิ์ด้วยกัน เพื่อเสริมกำลัง เถอะพี่อ้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...