เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    จิตวิญญาณปรารถนาอะไร?

    (f) ขอต้อนรับคุณ easymz3 สู่ห้องวิทย์ค่ะ (f)

    คุณ easymz3 บอกว่าไม่นึกอยากจะรับประทานอะไร และไม่ใส่ใจในสาวหุ่นงามที่เดินผ่านไป อยากแต่จะอ่านหนังสือกับกระทู้

    ก่อนอื่นต้องขอบอกว่า อาการไม่น่าเป็นห่วงค่ะ แต่ก่อนที่พี่นักเขียนจะตอบคำถาม อยากจะให้คุณ easymz3 ตอบตนเองก่อนว่า คุณ easymz3 พบอะไรในหนังสือและกระทู้ ที่ทำให้อารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดเปลี่ยนไป ความอยากเปลี่ยนไป มุมมองหรือทัศนคติเปลี่่ยนไป เพราะหากคุณ easymz3 หาคำตอบเหล่านี้ได้พบ คำตอบของพี่นักเขียนจึงจะมีความหมาย มิฉะนั้นแล้วคำตอบของพี่นักเขียนจะกลายเป็นเพียงคำตอบจากมุมมองและความเชื่อส่วนบุคคลของพี่นักเขียนเท่านั้น และอาจไม่ใช่ความเป็นจริงสำหรับ คุณ easymz3 ณ วันเวลานี้

    รับประทานลม-ชมวิวก่อน ได้คำตอบของตนเองก่อนแล้วค่อยอ่านคำตอบของพี่นักเขียนท่อนล่างค่ะ
    [​IMG]

    ธรรมชาติของจิตวิญญาณคือ กระหายความรู้ ในที่นี้ไม่ได้หมายความว่า จิตวิญญาณขาดความรู้ ในทางตรงกันข้าม แก่นแท้ของจิตวิญญาณคือ ข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ซึ่งถ่ายทอดได้ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด จิตวิญญาณจึงเต็มเปี่ยมไปด้วยความรู้ที่เสมอเหมือนกับต้นกำเนิด

    หากแต่ว่าจิตวิญญาณที่มาถือกำเนิดเป็นร่างกายเนื้อหนังอย่างเรา-ท่านทั้งหลาย ล้วนมีอารมณ์ - จินตนาการ และความรู้สึกนึกคิดที่คล้อยตามความเชื่อ อันเกิดจากมุมมองและทัศนคติที่เราสะสมจากการเผชิญกับประสบการณ์ต่างๆ มุมมองและทัศนคติเหล่านั้นทำให้เรารู้เห็นทุกสิ่งทุกอย่างผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้าซึ่งคล้อยตามความเชื่อ ซึ่งบิดเบือนไปจากความเป็นจริง สิ่งต่างๆที่ปรากฏภายนอกตัวตนของเราในโลกทางกายภาพ เป็นไปภายใต้กรอบ ข้อบังคับ และขีดจำกัดที่มนุษย์สร้างขึ้น ไม่ว่ากรอบ ข้อบังคับหรือขีดจำกัดเหล่านั้นจะเป็นระบบการศึกษา ศาสนา สังคม การเมือง หรือวัฒนธรรมก็ตาม ล้วนเป็นกรอบที่เกิดขึ้นจากความเชื่อทั้งสิ้น แต่หากเราไม่ได้ตรวจสอบมัน เรามักจะรับเอาโดยปริยายว่า มันคือธรรมชาติความเป็นจริง

    จิตวิญญาณของเราล้วนกระหายที่จะกลับคืนสู่สภาวะต้นกำเนิด ซึ่งเต็มไปด้วยข้อมูลความรู้และความทรงจำข้ามชาติภพ ซึ่งถ่ายทอดได้ด้วยอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิดที่เป็นไปตามความเป็นจริง ไม่ใช่คล้อยตามความเชื่อซึ่งเกิดจากการรับรู้ผ่านประสาทสัมผัสทั้งห้า ภายใต้กรอบ ข้อบังคับ และขีดจำกัดที่มนุษย์สร้างขึ้นตามกรอบของความเชื่อเหล่านั้น เมื่อใดที่จิตวิญญาณได้รับรู้ความเป็นจริงบางส่วน มันจะกระหายที่จะเติมเต็มด้วยความเป็นจริงส่วนอื่นๆให้ได้มากที่สุดที่จะมากได้ เพื่อกลับคืนสู่สภาวะต้นกำเนิด อันเป็นภาวะที่เป็นอิิิสระจากความปรารถนาทั้งปวง

    ความปรารถนาสูงสุดของจิตวิญญาณ คือ การปรารถนาความรู้ที่เป็นของกลางของจักรวาล อันปราศจากเจ้าของ ปราศจากเงื่อนไขที่ทำให้เป็นไปไม่ได้ ความปรารถนาของจิตวิญญาณจึงเป็นความปรารถนาที่เหนือชั้น ลุ่มลึก และมั่นคงกว่าความปรารถนาอื่นใด ของอร่อยและสาวสวยจึงปราศจากความหมาย เมื่อเทียบกับความรู้ที่จิตวิญญาณโหยหา

    พวกเราชาวห้องวิทย์ฯร่วมกันศึกษาหาความรู้ เพื่อดับกระหายและเติมเต็มจิตวิญญาณซึ่งกันและกัน เสมือนญาติมิตรทางจิตวิญญาณที่มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน เราต่างก็เดินทางไกล จากกันไปคนละทิศละทางมายาวนานหลายชาติภพ ในที่สุดก็กลับมารวมญาติ ต่างคนต่างนำความรู้อันโอชะจากแดนไกลมาแบ่งกันให้ได้ชิมลิ้มรสสิ่งแปลกใหม่ เพื่อเติมเต็มช่องว่างแห่งประสบการณ์และคุณค่าชีวิตให้แก่ักนและกัน และขยายความรู้และประสบการณ์ให้กว้างไกล ก่อนที่จะพากันกลับบ้านอย่างอิ่มหนำสำราญกันทั่วหน้า(rose)
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2008
  2. ณ.

    ณ. เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2006
    โพสต์:
    3,387
    ค่าพลัง:
    +9,080
    พี่นักเขียนให้การบ้านอีกข้อแล้ว แง...ภาพสุดท้าย ณ.ยังไม่มีโอกาสได้วาดเลย ออกจากบ้านก้อตีห้า กว่าจะกลับถึงบ้านก็สองทุ่มไปแล้วตลอด กว่าจะทำอะไรเสร็จ สวดมนต์ นั่งสมาธิ ก็หมดเวลา แถมตอนนี้ช่วงวันหยุดก็ออกไปหาประสบการณ์ความรู้เพิ่มอีก ก็ได้ความรู้หลากหลายดีค่ะ วันพรุ่งนี้ก็ว่าจะเตลิดไปลพบุรี ไปหาอะไรสักอย่าง หวังว่าคงจะเจอ เอาไว้จะพยายามหาเวลาทำการบ้านวาดรูปข้อสุดท้ายให้สำเร็จแล้วจะตอบคำถามพี่นักเขียนนะคะ ตอนนี้ได้แต่อ่านๆ อย่างเดียวเลย...อิอิ
     
  3. MOUNTAIN

    MOUNTAIN เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    15,035
    ค่าพลัง:
    +132,081
    ขอต้อนรับคุณ easymz3<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_951999", true); </SCRIPT> สุ่ห้องเรียนวิทย์ครับ
    [​IMG]
    [​IMG]
     
  4. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    สวัสดีครับ

    สวัสดีครับ คุณ easymz3 ยินดีต้อนรับสู่ห้องสนทนาทางจิตวิญญาณที่กำลังออกรสมากที่สุดแห่งหนึ่งครับ
    ไม่ต้องแอบแล้วนะครับ ที่นี่อบอุ่นและเปิดกว้างสำหรับทุกคนครับ
     
  5. soul2006

    soul2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +5,169
    ยินดีต้อนรับน้องใหม่กว่าด้วยค่ะ (deejai)
     
  6. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    เชิญเข้ามาร่วมผจญภัยและค้นหาคำตอบกันนะครับ คุณeasymz3<SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_951999", true); </SCRIPT>
    -:ก้าวขึ้นเครื่องบินเลยครับ :-

    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 กุมภาพันธ์ 2008
  7. Year of the Cat

    Year of the Cat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +236
    ได้อ่านแล้วค่ะ CWG 1 และ 2 ดีจริงสมคำล่ำลือ (good)
    เป็นหนังสือประจำตัวไปซะแล้ว อ่านทีไรก็ อืม....สัจธรรมมันต้องเป็นอะไรประมาณนี้แหละ....ยกเครดิตให้กับคุณ Veggie ค่ะ สำหรับผู้ที่ยังหาหนังสือไม่เจอ เอารูปมาฝากค่ะ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • cwg1.jpg
      cwg1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      110.8 KB
      เปิดดู:
      54
    • cwg2.jpg
      cwg2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      38.1 KB
      เปิดดู:
      57
    • nealesstory1.jpg
      nealesstory1.jpg
      ขนาดไฟล์:
      6.9 KB
      เปิดดู:
      275
    • neale.jpg
      neale.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.6 KB
      เปิดดู:
      270
  8. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    เครื่องบินคุณ Mead ดูผาดโผนและน่าหวาดเสียวจังเลยนะครับ
    สงสัยบริษัทประกันจะไม่กล้ารับนะครับนี่ อิอิอิ
     
  9. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ไม่เอานะคะ คราวหลังอย่าคิดว่าเราไม่มีพลังนะคะหัวหน้า เดี๋ยวถูกคุณครูตีตายเลย ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ในหนังสือเกือบทุกเล่มว่าจิตวิญญาณของเรามีพลังอำนาจเสมอเหมือนต้นกำเนิด เช่น..

    อิสระแห่งปรารถนา บทที่ 2 สัญญาระหว่างจิตวิญญาณ
    หน้า 8 ก่อนที่เธอจะมาถือกำเนิดในโลกมนุษย์ จิตวิญญาณของเธอตระหนักดีว่า เธอคือพลังอำนาจอันเป็นหนึ่งเดียวกับต้นกำเนิด เธอเพียงแต่เลือกที่จะมาแสวงหาประสบการณ์ด้วยการจดจ่อในร่างกายเนื้อหนังในโลกมนุษย์ แม้เธอจะมาอาศัยร่างกายเนื้อหนังเพื่อดำรงวิถีแห่งจิตวิญญาณในโลกทางกายภาพ แต่เธอก็ตระหนักดีว่าตัวตนที่แท้จริงของเธอไม่มีวันแตกแยกไปจากพลังอำนาจแห่งต้นกำเนิดที่เธอจากมา เธอรู้ซึ้งถึงการใช้พลังอำนาจของจิตวิญญาณอันเป็นอนันต์

    เธอได้บอกกับฉันว่า เธอจะรักที่จะมีชีวิตอยู่ในร่างกายเนื้อหนัง ที่จะดำเนินชีวิตไปภายใต้กฏเกณฑ์ของช่องว่าง - ระยะทางและกาลเวลา เพราะมันจะทำให้เธอจดจ่อกับพลังอำนาจของเธอในภาวะทางกายภาพที่จำเพาะและท้าทายยิ่งและในภาวะนี้ เธอจะใช้พลังอำนาจตามธรรมชาติของจิตวิญญาณอย่างพึงพอใจและก้าวหน้า

    นี่ก็น่าสนใจเหมือนกันค่ะคุณ Mead จิตวิญญาณประสานกาย บทที่ 14 การเริ่มต้นใหม่หมดด้วยความมุ่งมั่นที่จะมีชีวิตอยู่ต่อไป หน้า 229

    เธอแต่ละคนเป็นคนดีและเป็นส่วนหนึ่งของพลังจักรวาล
    เธอแต่ละคนมาถือกำเนิดในโลกมนุษย์
    เพื่อแสดงออกซึ่งคุณสมบัติและความสามารถส่วนตัว
    ชีวิตหมายถึงพลังงาน
    พลังอำนาจและการแสดงออก

    แต่อีกหน่อยคุณ Mead ก็คงจะเป็นอุลตร้าแมนแล้วล่ะค่ะ เอ.. ไม่ใช่สิอุลตร้าแมนนี่เค้าใช้เรียกมนุษย์ที่มีพลังนี่นา แล้วมะนาวต่างดุดที่มีพลังนี่เค้าจะเรียกอะไรเอ่ย?:boo:
     
  10. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ถ้าคุณ Veggie สนใจอ่านหนังสือเกี่ยวกับ God ลองอ่านของ อ.ปริญญาดูค่ะ เล่มจดหมายถึงโลก อ่านแล้วนี่คงไม่แค่อารมณ์เตลิดเปิดเปิงแน่ค่ะ รับรองว่าเซลล์สมองของคุณ Veggie จะร้องกรี๊ดกร๊าดกระดี๊กระด้าแล้วลุกขึ้นมาเต้นกันจนไฟแล๊ปแปล๊บ ๆ เลยล่ะค่ะ ไม่เชื่อลองอ่านดู.. อิอิ..
    (good) (good) (good)
     
  11. Chalhoei

    Chalhoei เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    289
    ค่าพลัง:
    +3,166
    ได้เพื่อนอีกแล้ว เย้!!!!!!!
    ยินดีตัอนรับครับ(f)(f)(f)
     
  12. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    เหอๆ

    ขอบคุณขจรวรรณที่แนะนำครับ
    แต่หนังสือเล่มดังกล่าวผมได้อ่านเมื่อ 6-7 ปีที่ผ่านมาแล้วครับ
    ตอนนั้นตื่นเต้นจริงๆ ครับ โทรหาเพื่อนคนนั้นคนนี้
    ก็นับว่าเป็นจุดเริ่มต้นของการอ่านหนังสือธรรมะ ที่ฉีกจากแนวพุทธแบบเดิมๆ
    และก็ได้ติดตามเรื่องอื่นๆ ต่อมาอีกหลายเล่ม แต่จากการอ่านหลายๆ เล่ม ของอาจารย์ปริญญา ก็พบว่าบางทีข้อมูลของอาจารย์เปลี่ยนไปเรื่อยๆ โดยเฉพาะเรื่องของตัวเลข แต่ก็ยอมรับว่าได้รับแรงบันดาลใจอย่างมากจากงานของอาจารย์ เคยไปฟังบรรยายด้วย ก็รู้สึกว่าอาจารย์ก็มีดีจริงๆ และน่ารักครับ
     
  13. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    นานๆ จะมีคนใหม่ๆ โผล่มาทีใช่มั้ยครับ คุณเฉลย 555
     
  14. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    ยินดีต้อนรับคุณ easymz3 เข้าสู่ห้องวิทย์ค่ะ ค่อย ๆ อ่านมาเรื่อย ๆ นะคะ เดี๋ยวเจอกันค่ะ (f)

    อ่านข้อความของพี่นักเขียนแล้วซี้งจังค่ะ พวกเราชาวห้องวิทยฯ เป็นเสมือนญาติมิตรทางจิตวิญญาณที่มาจากต้นกำเนิดเดียวกัน เราต่างก็เดินทางไกลมาจากคนละทิศละทางเพื่อหาประสบการณ์แล้วมาเล่าสู่กันฟังอย่างสนุกสนาน และพากันเตรียมตัวเดินทางกลับบ้านเกิดเมืองนอนทางจิตวิญญาณของเราพร้อม ๆ กันอย่างมีความสุข.. เย้.. ดีจัยจัง..
    (good) (good) (good)
     
  15. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    หนังสือของ Neale Donald Walsch มีหลายเล่มมากเลยนะครับ แต่ที่แปลไทยมามีแค่ 2 เล่มเอง

    • Conversations with God: An Uncommon Dialogue (Book 1) (October 1, 1996)
    • Conversations with God: An Uncommon Dialogue (Book 2) (May 1, 1997)
    • Meditations from Conversations With God, Book 2: A Personal Journal (December 1, 1997)
    • The Little Soul and the Sun: A Children's Parable Adapted from Conversations With God (April 1, 1998)
    • Conversations with God: An Uncommon Dialogue (Book 3) (October 1, 1998)
    • Neale Donald Walsch on Relationships (September 30, 1999)
    • Neale Donald Walsch on Holistic Living (September 30, 1999)
    • Neale Donald Walsch on Abundance and Right Livelihood (October 1, 1999)
    • Friendship with God: An Uncommon Dialogue (October 1, 1999)
    • Questions and Answers on Conversations With God (October 1, 1999)
    • The Wedding Vows from Conversations With God (April 1, 2000)
    • Recreating Your Self (June 1, 2000)
    • Signals: An Inspiring Story of Life After Life (April 9, 2001) (by Joel Rothschild, foreword by Neale Donald Walsh)
    • Moments of Grace (July 2001)
    • Conversations With God for Teens (November 1, 2001)
    • The New Revelations: A Conversation with God (September 30, 2002)
    • Communion With God (October 1, 2002)
    • Tomorrow's God: Our Greatest Spiritual Challenge (March 2, 2004)
    • What God Wants: A Compelling Answer to Humanity's Biggest Question (March 22, 2005)
    • The Little Soul And The Earth: A Children's Parable Adapted From Conversations With God (August 1, 2005) (with Frank Riccio)
    • The Complete Conversations with God (October 20, 2005)
    • Home with God: In a Life That Never Ends (March 29, 2006)

    http://en.wikipedia.org/wiki/Neale_Donald_Walsch

    พี่นักเขียนอยู่อเมริการคงหาอ่านได้ ที่ไทยอาจจะมีร้านหนังสือต่างประเทศบางร้านรับสั่งซื้อตาม order ลูกค้าก็ได้

    แต่เรื่อง The Little Soul and the Sun เคยเอามาลงให้อ่านกันแล้วนะครับ ลงต่อจากนิทานเรื่องเมล็ดข้าวของพี่นักเขียน
     
  16. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Welcome

    (f)ขอต้อนรับคุณkratium สู่ห้องวิทย์ฯค่ะ(f)
    [​IMG]
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2008
  17. nova_analai

    nova_analai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    809
    ค่าพลัง:
    +7,489
    Mind Over Matters

    เหตุใดเราจึงสามารถเผชิญกับเหตุการณ์ในความฝัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวพันกับประสบการณ์ยามตื่น แต่ได้รับผลทางร่างกายจากเหตุการณ์ในความฝัน เช่น ตื่นขึ้นมาแล้วเจ็บ ปวด มีบาดแผล มีผดผื่น หรือมีหลักฐานทางกายภาพอื่นๆ

    พี่นักเขียนจะขอพยายามตอบคำถามนี้ ด้วยการเล่าเรื่องให้พวกเราฟัง

    หลายปีมาแล้วพี่นักเขียนไปตัวเพื่อเขียนหนังสือที่เมืองเล็กๆทางตอนเหนือของ North Yorkshire ประเทศอังกฤษเป็นเวลาหลายเดือน และไปแวะร้านหนังสือเพื่อหาซื้อหนังสือเกี่ยวกับจิตวิทยา/จิตวิญญาณ เพราะทราบดีว่านักวิชาการของอังกฤษและเยอรมัน ทำวิจัยเกี่ยวกับเรื่องเหล่านี้ไว้มากมาย หนังสือประเภทนี้มีมากมายตามร้านหนังสือใหญ่ๆทั่วไป

    วันหนึ่งในขณะที่กำลังค้นหาหนังสืออยู่ในร้าน หยิบเล่มโน้นเล่มนี้ยังไม่เจอข้อมูลถูกใจ ที่ดูเหมือนจะถูกใจก็อยู่สูงจนเอื้อมไม่ถึง บันไดเล็กๆที่เขามีให้ก็มีลูกค้าคนอื่นใช้อยู่ พอดีก็ชายสูงอายุชาวอังกฤษท่านหนึ่งแต่งตัว smart ทักทายแล้วถามว่าว่าช่วยไหม พี่นักเขียนก็ชี้เล่มที่อยากได้ เขาก็ช่วยหยิบให้ เขาอัธยาศัยดีและถามต่อว่าพี่นักเขียนชอบอ่านหนังสือประเภทไหน ก็บอกเขาไปตามตรงว่า ชอบเกี่ยวกับจิตวิทยาในเชิงจิตวิญญาณ หรือเกี่ยวกับพลังจิต ปรากฏว่า jackpot ค่ะชายผู้นี้เป็น Professor สอน parapsychology อยู่ที่มหาวิทยาแห่งหนึ่งใน North Yorkshire เขาแนะนำหนังสือดีๆให้พี่นักเขียนหลายเล่ม คุยติดลมนาน เรื่อง Mind Over Matters และเขาก็เล่าเรื่องต่อไปนี้ให้พี่นักเขียนฟัง

    นักจิตวิทยาชาวอังกฤษต้องการทำการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานที่ว่า Mind Over Matters หรือพลังจิตมีอำนาจเหนือวัตถุธาตุ กลุ่มนักวิจัยได้รับอนุมัติจากเรือนจำ ให้นำนักโทษประหาร 3 คนไปใช้เป็นหนูทดลอง พวกเขาได้คิดการทดลองเพื่อพิสูจน์สมมุติฐานที่ว่า จิตก่อเกิดวัตถุธาตุหรือปรากฏการณ์ทางกายภาพทั้งหมด

    พวกเขาได้นำขวานขนาดใหญ่ ที่มีใบมีดคมกริบไปให้นักโทษดูหนึ่งด้าม และบอกกับนักโทษว่า เพชรฆาตจะนำผ้าคลุมมาคลุมศีรษะนักโทษจนมืดมิด จากนั้นจะใช้ขวานด้ามนั้น สับลงบนต้นคอของนักโทษ และปล่อยให้เลือดไหลออกจากร่างกายจนกว่าจะถึงแก่ความตาย

    จากนั้นพวกเขาได้นำนักโทษประหารไปสู่ห้องประหาร ซึ่งมีนักวิทยาศาสตร์กลุ่มหนึ่ง ประกอบด้วยแพทย์หลายสาขาและนักจิตวิทยา เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องกับการประหารได้หยิบขวานเล่มนั้นให้นักโทษดูอีกครั้ง ก่อนที่จะนำผ้าไปคลุมศีรษะนักโทษจนมืดมิด จากนั้นนักจิตวิทยาก็ทำหน้าที่บรรยายให้นักโทษฟัง โดยกล่าวว่า

    "ขณะนี้เพชรฆาตได้หยิบขวานด้ามนั้นขึ้นแล้ว ขอให้นักโทษเตรียมกายเตรียมใจ"
    และบรรยายต่อว่า "ขณะนี้เพชรฆาตได้เหวี่ยงขวานขึ้น และพร้อมที่จะสับลงบนต้นคอของนักโทษ" เมื่อกล่าวเช่นนั้น พวกเขาได้ให้เพชรฆาตใช้ขวานนั้นสับลงบนตอไม้ที่พวกเขานำมาใช้ในห้องทดลอง โดยไม่ให้นักโทษรู้เห็น
    ขณะที่ขวานสับลงบนตอไม้เสียงดังสนั่น เจ้าหน้าที่อีกคนหนึ่งก็ใช้ไม้บรรทัดธรรมดาๆที่ทำด้วยพลาสติกฟาดลงบนต้นคอของนักโทษประหาร


    นักโทษประหารสะดุ้งสุดตัวและมีอาการกระตุกอย่างแรง นักจิตวิทยาได้บรรยายต่อไปว่า
    "ใบมีดได้สับลงไปบนต้นคอของ Mr........ มีความลึกถึง 3 น้ิว" จากนั้นเจ้าหน้าที่ก็นำถังใส่น้ำอุ่น มาเทราดลงบนต้นคอของนักโทษ นักจิตวิทยาก็ทำการบรรยาต่อไป
    "โลหิตของนักโทษกำลังไหลออกจากร่างกายเป็นปริมาณมาก ไหลอาบไปทั่วแผ่นหลัง" แพทย์ได้เข้าไปจับชีพจรและบรรยายว่า ขณะนี้ชีพจรของนักโทษได้ลดความเร็วลงจาก 80 ครั้งต่อนาที เป็น 65.....54.....32..... ระหว่างนั้นเจ้าหน้าที่ก็ชะโลมน้ำอุ่นบนแผ่นหลังของนักโทษต่อไปโดยเทราดจากต้นคอลงไปเรื่อยๆ แพทย์ก็รายงานชีพจรต่อไปว่า ....20....13.....9....4.....

    เมื่อจบการบรรยาย ปรากฏว่านักโทษถึงแก่ความตายจริงๆโดยหัวใจหยุดเต้น พร้อมๆกับการนับของแพทย์ และหลังจากการทดลองไม่นาน สภาพศพก็ปรากฏมีบาดแผลตรงต้นคออย่างฉกรรจ์ การทดลองเป็นไปเช่นนี้ 3 ครั้ง กับนักโทษประหาร 3 คน และผลปรากฏว่า นักโทษถึงแก่ความตายในลักษณะคล้ายคลึงกัน คือหัวใจหยุดเต้นพร้อมกับการนับของแพทย์ และเกิดบาดแผลฉกรรจ์ขึ้นบนต้นคอหลังจากนั้นไม่นาน ซึ่งเข้าใจว่าไม่เกินสามชั่วโมง หรือก่อนที่ร่างกายจะแข็งทื่อ

    เรื่องนี้ทำให้พี่นักเขียนเชื่อว่า คำกล่าวของท่านอาจารย์อนาลัยที่ว่า
    จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด
    จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นภาวะนั้นๆ
    พร้อมรูปกายที่คล้องจองกับภาวะนั้น

    เป็นคำอธิบายที่คลอบคลุมคำถามและคำตอบทั้งหมด

    เหตุใดเราจึงสามารถเผชิญกับเหตุการณ์ในความฝัน ซึ่งไม่ได้เกี่ยวพันกับประสบการณ์ยามตื่น และได้รับผลทางร่างกายจากเหตุการณ์ในความฝันได้ เช่น ฝันว่าประสพอุบัติเหตุแล้วตื่นมามีอาการเจ็บปวดรุนแรง ณ จุดใดๆในร่างกายที่ประสพกับเหตุการณ์ในความฝัน บางคนปรากฏมากกว่าเพียงแค่อาการ แต่มีบาดแผล มีรอยเลือด หรือมีหลักฐานปรากฏบนร่างกายชัดเจนราวกับว่า ร่างกายของเขาได้ไปเผชิญกับเหตุการณ์ในความฝันมาแล้วจริงๆ เช่น ฝันว่าถูกทำร้ายในความฝันแล้วตื่นมามีบาดแผล หรือ มีรอยเลือดบนผิวหนังหรือบนเสื้อผ้า บางคนก็พบกับหลักฐานในสภาพแวดล้อม เช่นมีรอยเลือดบนพื้นห้อง เป็นต้น

    ความฝันเป็นโลกอีกโลกหนึ่ง หรืออีกมิติหนึ่งที่จิตวิญญาณของเรา เปลี่ยนวิถีการจดจ่อด้วยสติสัมปชัญญะไปสู่ทุกคืนวัน เราเผชิญกับประสบการณ์หรือเหตุการณ์ในความฝัน ที่ตัวตนในความฝันรับเอาว่า เป็นโลกแห่งความเป็นจริงในขณะจิตนั้นๆ ไม่ต่างไปจากที่เรากำลังรับเอาว่า โลกยามตื่น ณ วินาทีนี้คือโลกแห่งความเป็นจริง

    การเผชิญกับประสบการณ์ใดๆในความฝัน ล้วนส่งผลกระทบต่อโลกยามตื่นของเราเสมอ เพราะโลกทุกโลก ทุกมิติ ประสานกันเป็นระบบเครือข่าย แต่ละโลกส่งผลกระทบไปสู่โลกอื่นๆเสมอ ท่านอาจารย์อนาลัยกล่าวไว้ว่าความฝันเป็นแบบพิมพ์เขียวของโลกยามตื่น และท่านก็กล่าวไว้ว่า ตัวตนในฝัน-เรียกตัวตนของเราว่า-ตัวตนในความฝันของเขา เรียกโลกยามตื่นของเราว่า โลกแห่งความฝันของเขา

    กล่าวได้ว่า โลกทุกโลก ไม่ว่าจะเป็นโลกที่เราเรียกว่าโลกยามตื่นหรือยามฝัน ล้วนเป็นโลกแห่งความเป็นจริงที่ไม่ได้จริงน้อยไปกว่ากันเลย วันนี้หากเราทำกับข้าวแล้วโดนมีดบาด เมื่อเราเข้านอน เรามีความฝัน และฝันเห็นตัวตนในความฝันมีนิ้วมือที่เจ็บ มีบาดแผล เราก็คงจะติื่นขึ้นด้วยความรู้สึกที่ไม่ประหลาดใจ เพราะเรารู้อยู่แก่ใจว่าเราโดนมีดบาด

    แต่เราเคยพบไหมว่า ตัวตนในความฝันจะประหลาดใจที่นิ้วมือเจ็บ หรือมีบาดแผลโดยไม่ได้ถูกมีดบาด เราเคยพบว่า เรามีบาดแผลโดยไม่รู้ว่ามาจากไหน หรือเกิดจากอะไรบ้างไหม?
    เช่นมีรอยบาด มีรอยฟกช้ำดำเขียว มีผดผื่นที่เกิดขึ้นโดยไม่มีที่มา มีอาการเจ็บ ปวดเมื่อย หรือเหนื่อยโดยไม่ได้ออกแรงไม่ได้ทำงานหนักที่ไหนมา แต่กลับรู้สึกเหนื่อยเมื่อตื่นนอนขึ้นมา

    ความสัมพันธ์ของการเป็นบุคคลตัวตนในต่างชาติภพ ต่างโลก ต่างมิติ ปรากฏให้เราเห็นทุกระดับ
    1. ระดับกายภาพ เช่น การมีบาดแผลหรืออาการต่างๆของร่างกาย ความเจ็บไข้ได้ป่วย และความผิดปกติที่เหมือนไม่มีสาเหตุ เช่น บวม ช้ำ ฯลฯ
    2.ระดับอารมณ์-จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด เช่น เห็นหน้าคนแปลกหน้าเป็นครั้งแรกในชีวิต ก็ชอบพอเขาหรือรู้สึกสนิทสนมกับเขาได้ทันที หรือในทางตรงกันข้าม ไม่ชอบได้ทันทีราวกับเป็นศัตรูกันมาก่อน เป็นต้น
    3. ระดับจิตวิญญาณ เช่น การมีความรู้ ความสามารถ ที่เกิดขึ้นโดยไม่ได้ร่ำเรียนมาจากโลกยามตื่น หรือการมีตัวรู้ มีความรู้ มีคำตอบ ซึ่งไม่ทราบว่าผุดขึ้นมาจากไหน

    การติดต่อสื่อสารและถ่ายทอดในระดับจิตวิญญาณ
    เป็นรากฐานของการถ่ายทอดทั้งหมดในระดับกายภาพและจินตภาพ


    จิตวิญญาณจดจ่อกับภาวะใด
    จิตวิญญาณมีชีวิตอยู่-เป็นอยู่-ดำเนินไปเป็นภาวะนั้นๆ
    พร้อมรูปกายที่คล้องจองกับภาวะนั้น
    (rose)
     
  18. Year of the Cat

    Year of the Cat เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    24
    ค่าพลัง:
    +236
    ตัวอย่างที่เป็นความประทับใจเล็กๆ ในการเล่นคำ ของคำว่า Present ที่แฝงไปด้วยอารมณ์ขัน และความรัก
    ...............................................................................

    จำไว้ว่า วิญญาณเป็นตัวสร้าง จิตใจเป็นตัวสนองตอบ

    วิญญาณรู้ด้วยปัญญาของมันเองว่า ประสบการณ์ที่เกิดกับเธอ ณ ห้วงขณะตรงหน้า คือสิ่งที่ ถูกส่งมา (pre - sent = ส่งมาล่วงหน้า)จากพระเจ้ามายังเธอก่อนที่เธอจะสำนึกรู้ถึงประสบการณ์นั้นเสียอีก นี่คือความหมายของคำว่า ประสบการณ์ ณ ปัจจุบันขณะ (present = ปัจจุบัน)

    มันเดินทางมาหาเธอแม้ในขณะที่เธอกำลังเสาะหาอยู่ด้วยซ้ำ เพราะก่อนที่เธอจะร้องขอ ฉันก็ได้ให้ไปแล้ว ทุกปัจจุบันขณะ คือ ของขวัญยิ่งใหญ่จากพระผู้เป็นเจ้า นั่นคือเหตุผลว่าทำไมจึงถูกเรียกว่า ของขวัญ (present = ของขวัญ)



    จงเป็นตัวอย่างที่มีชีวิตของสัจธรรมสูงล้ำที่ดำรงอยู่ภายในเธอ
    ...
    ...
    ทำชีวิตตัวเองให้เป็นดั่งของขวัญ จงจำไว้เสมอว่า ตัวเธอนั่นละคือของขวัญ!
    จงเป็นของขวัญแด่ทุกคนที่ผ่านเข้ามาในชีวิตและทุกคนที่เธอเข้าไปในชีวิตเขา จงระวังอย่าเข้าสู่ชีวิตใครถ้าไม่อาจทำตัวเองให้เป็นของขวัญแก่คนนั้นได้

    เมื่อมีใครผ่านเข้ามาในชีวิตเธอโดยไม่คาดหมาย จงมองหาว่าเขาคนนั้นมาเพื่อรับของขวัญใดจากเธอ
    ...
    เธอคิดว่ามีเหตุผลอื่นอีกหรือที่ใครสักคนจะเข้าสู่ชีวิตเธอน่ะ
    ฉันจะบอกอะไรเธอให้ ทุกคนที่เคยเข้าสู่ชีวิตเธอนั้น ...มาเพื่อรับของขวัญจากเธอด้วยกันทั้งหมด ด้วยเหตุนี้เขาจึงมีของขวัญมาให้เธอด้วย เป็นของขวัญเพื่อให้เธอมีประสบการณ์และบรรลุตัวตนที่แท้จริง

    เมื่อแลเห็นและเข้าใจสัจจะเรียบง่ายนี้ เธอจะได้เห็นสัจธรรมสูงสุดแห่งกาลนั่นคือ..

    ฉันไม่ได้ส่งใครไปให้เธอเลยนอกจากทูตสวรรค์


    CWG 2
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • images.jpg
      images.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.6 KB
      เปิดดู:
      218
    • gift3.jpg
      gift3.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2 KB
      เปิดดู:
      217
    • gift4.jpg
      gift4.jpg
      ขนาดไฟล์:
      4.5 KB
      เปิดดู:
      226
    • gift2.jpg
      gift2.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.9 KB
      เปิดดู:
      208
    • gift7.jpg
      gift7.jpg
      ขนาดไฟล์:
      2.2 KB
      เปิดดู:
      218
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2008
  19. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    สวัสดีครับ

    การทดลองที่พี่นักเขียนเขียนมา มันคล้ายๆ กับการทดลองการสะกดจิตในสมัยก่อนที่เคยอ่านเลย คือเค้าก็ทดลองคล้ายๆ อย่างนี้เหมือนกัน เอานักโทษประหารมา ปิดตา แล้วบอกนักโทษว่าจะเอาเข็มแทงที่นิ้วมือ แต่จำไม่ได้ว่าเค้าแทงจริงหรือว่าแทงหลอก แล้วก็เปิดก็อกน้ำให้น้ำหยดลงมาเรื่อยๆ แล้วก็บอกว่าเลือดของนักโทษกำลังไหลออกมาเรื่อยๆ เรื่อยๆ จนหมดตัว ที่สุดแล้วนักโทษก็ตายลงจริงๆ

    เรื่องราวการสะกดจิตอย่างนี้ เราคงนึกว่าในโลกที่เราเจออยู่ทุกวันคงไม่ได้เจอเท่าไหร่ แต่ที่จริงแล้ว เราก็เคยสัมผัสมันมาบ้าง เช่นเวลาคนพูดถึงรสชาติของอาหาร เช่นรสเปรี้ยว บางทีบางครั้งเราก็จะเหมือนว่ารู้สึกได้

    โลกแห่งความจริงหลากมิติที่พี่นักเขียนพูดถึงอยู่เสมอ เคยลองเอามาคิด สิ่งที่เราบอกว่าเป็นเรื่องที่หลอนประสาทไปเองเช่นเห็นภาพหลอน หรือภาพนิมิตที่เป็นนิมิตหลอก หรือภาพที่คิดไปเอง

    อันนั้นจะมองว่าจะเป็นความจริงที่เกิดในอีกมิตินึงได้มั๊ย เพราะถึงแม้ว่าตาจะไม่ได้เห็นภาพนั้นจริงๆ แต่สมองก็เห็นภาพนั้น อาจจะด้วยการทำงานของระบบประสาทในสมอง ซึ่งก็เท่ากับว่าในสมองเรานั้นก็ได้มีสัญญาณประสาททำงานในสมองจริงๆ เพียงแต่ว่าสาเหตุของภาพเราก็ต้องมาพิจารณาอีกทีว่าเกิดจากอะไร บางครั้งมันอาจจะเกิดจากสิ่งที่อยู่ในใจหรือในจิตใต้สำนึกก็ได้ ถ้าเป็นอย่างนั้น ภาพที่เราบอกว่าไม่ต้องไปใส่ใจนั้นเพราะมันไม่จริง แต่อันที่จริงแล้ว มันก็เป็นภาพที่สะท้อนสิ่งที่เราเก็บไว้ในใจลึกๆ แน่นอนว่าภาพเหล่านั้นอาจจะสะท้อนในสิ่งที่ไม่จริงก็ได้ อันเนื่องจากความเชื่อผิดๆ ที่เราเก็บไว้ในใจลึกๆ และบางทีก็อาจจะเป็นภาพการสื่อที่ต้องตีความอีกทีเพราะว่าเป็นภาษาสัญลักษณ์ ถ้าเอาไปคิดตรงๆ ตามภาพจะทำให้เข้าใจผิดไป

    โพสของคุณปีแมว เอามาจาก CWG เล่ม 2 มีเล่มนี้เหมือนกันแต่ยังอ่านไม่ถึงเลย
    คงจะเป็นการดีไม่น้อยที่เราแต่จะคนคิดว่าสิ่งที่เราทำนั้นเป็นเหมือนของขวัญที่เรามอบให้แก่ผู้อื่น คงจะมีแต่คนทำสิ่งดีๆ มอบให้แก่กันแน่เลย

    นักเรียนของพี่นักเขียนคนนั้น อ่านแล้วดู amazing จังเลย แค่ได้ฟังเพลงที่นักเขียนแต่งขึ้น ก็เหมือนกับว่าเค้าได้รับข้อความ ได้รับสาระจากพี่นักเขียนเข้าไปจนเต็มแน่นเลย โดยที่ไม่ได้อ่านหนังสือของพี่นักเขียนเลย

    สำหรับภาพที่วาดนั้น ต้องขอขอบคุณโปรแกรม ArtRage ด้วย ที่ทำให้สร้างภาพได้ขนาดนั้น เพราะโปรแกรมนี้สามารถจำลองสีที่เกิดจากพู่กันได้ดีเลย เวลาที่เราวาดภาพสีจากพู่กันจะไปผสมกับสีในภาพด้วย สีที่ออกจึงดูเนียนๆ เหมือนวาดภาพด้วยพู่กันจริงๆ

    อีกเรื่องนึง เรื่องกสิณที่ว่าเป็นเรื่องในการเราเพ่งไปยังสิ่งๆ นึงแล้วจิตวิญญาณเราเหมือนว่าจะแปลงเป็นสิ่งๆ นั้น ก็เคยคิดว่าถ้าเราใช้สิ่งอื่นๆ ที่ไม่ได้มีกำหนดไว้ในกองกรรมฐาน มันจะเป็นยังไง? เช่นเอาภาพโลกมาเป็นภาพกสิณ จะเป็นเรื่องที่อุตริไปมั๊ยเนี่ย
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 2 กุมภาพันธ์ 2008
  20. axzon47

    axzon47 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    737
    ค่าพลัง:
    +3,155
    วันนี้แวะมาเยี่ยมชาวห้องวิทย์ สงสัยความฝันจะเป็นจริงแล้วครับ ที่เคยโพสไปว่า ฝันว่าค้างส่งการบ้านงานศิลปะ3-4 งาน ตอนนี้axon ส่งการบ้านแค่ชิ้นแรกเอง ที่พี่นักเขียนให้วาดรูปตัวเองครั้งแรกน่ะ หลังๆไม่มีอารมอยากวาดรูปเลย มีเรื่องเครียดๆกับงาน แต่เดี่ยวจะหายเครียดแล้ว กะลังจะออกจากงานอ่ะ ทีนี้จะว่างมาอ่านหนังสือของ อาจารย์อนาลัยมากขึ้น หลังจากที่หยุดอ่านไป 1 เดือนเต็ม

    หลายวันก่อนฝันว่า มีคนมาบอก(เป็นเสียงที่พูดชัดเจน และพูดซ้ำหลายครั้ง) ว่าให้ไปในวันที่ 9 มิถุนายน ค.ศ. 1925 (ในฝันเข้าใจว่า ให้ไปในมิติของเหตการณ์ที่เกิดในวันนั้น โดยเดินเข้าในช่องว่าง คล้ายๆ ชานชาลาจากแฮรีพอตเตอร์) แต่ยังไม่ทันได้ไปก็ตื่นเสียก่อน ต่อมาอีกหลายวันก้ฝันว่าตัวเองเป็นผู้หญิงแต่งตัวแบบชาวยุโรปสมัยก่อนที่ใส่กระโปรงแบบสุ่ม เดินอยู่ในห้องสมุดใหญ่ของอาคาร เข้าใจว่าเป็นของบ้านขุนนาง มีงานประชุม คนเดินไปมาหลายคน

    ตอนนี้กำลังไปค้นข้อมูลจากgoogle ว่า 9 June 1925 มีอะไรที่ตัวเอง สนใจบ้าง ปรากฎว่าไปเจอ Diary ของสตรีท่านหนึ่งที่ชอบทำ Gardenning เราเองก็ชอบจัดสวนเสยด้วยสิ
     

แชร์หน้านี้

Loading...