พระวังหน้า ที่หลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรเสก ถ้าต้องการที่จะได้.....

ความจริงอยากให้สั่งจองทาง pm มากกว่า กลัวคุณเพชรจะย้ายบ้านหนีนะครับ(deejai)

 

บ้านผมรกมากกกกก ไม่มีที่นั่ง ไม่มีน้ำดื่ม อิอิ..

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ ตั้งจิต
ความจริงอยากให้สั่งจองทาง pm มากกว่า กลัวคุณเพชรจะย้ายบ้านหนีนะครับ(deejai)
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ไม่เป็นไรครับ ผมจะนำเก้าอี้และน้ำไปเองนะครับคุณเพชร

.

 

เฮง เฮง รวย รวย ทุกท่านครับ

​

 

"ธรรมะ"เจ็บๆ แห่ง"พุทธวงศ์" 1

"ศีลนี้ ทำให้คนเราสูงกว่าสัตว์ ดีกว่าสัตว์.... แต่ถ้าหากเราผิดศีลข้อหนึ่ง ก็เท่ากับว่า เราใกล้ความเป็นสัตว์เข้าไป 20 เปอร์เซ็นต์แล้ว...หากผิดสองข้อ ก็ใกล้ความเป็นสัตว์เข้าไปถึง 40 เปอร์เซ็นต์....ผิดสามข้อ ก็ยิ่งเป็นสัตว์เข้าไป 60 เปอร์เซ็นต์....ที่สุด หากผิดศีลหมดทั้ง 5 ข้อ ก็ไม่เหลือความเป็นคนอะไรอีกแล้ว มีแต่ความเป็นสัตว์สิ่งเดียรัจฉานเต็มตัวหมดเท่านั้นแหละ....!!!!!!"

(หลวงปู่สิม พุทฺธาจาโร สำนักสงฆ์ถ้ำผาปล่อง จ.เชียงใหม่)

 

ได้รับพระพิมพ์และหนังสือจากคุณเพชรแล้วครับขอบคุณมากครับ เลยขออัญเชิญถ่ายรูปในหมู่พระลำพูนด้วยกันครับ
2องค์พระรอดบนซ้าย ว่ากันว่าเป็นยุคพระยาสรรพสิทธิ พศ.1300+-ครับ
จริงๆกะจะถ่ายกับพระรอดดอยแต (พศ.900 )แต่เก็บกรุไปแล้วครับ

 

จัดแสงน้อยไปหน่อยครับ คุณน้องนู๋ สงสัยในไม่ช้าจะครบทั้ง ๑๔-๑๕ พิมพ์นะครับ...

 

เหตุที่เกิดกับสิ่งที่เป็น ถามว่าเกิดจากเหตุที่ตรงไหน

จงพิจารณาและวิเคราะห์ถ้าเดินสายนี้แล้วยังมาทำเป็นผู้สำเร็จและมาทำมาโกรธและโทโสกันอยู่แล้วพวกเราจะเป็นศิษย์พระคถาคตได้อย่างไรสิ่งที่เกิดถ้าไม่มีเรามันก็ไม่เกิด แต่สิ่งทีเกิดมันก็เพราะเรากันทั้งนั้น อยากรู้อยากเห็นอยากเป็นผู้วิเศษและมันก็ทำกันไม่ได้สักคน อาจารย์สรุปว่าที่ทำกันอยู่นี้ท่านทำถูกแล้วหรือ ( แม้แต่คำพูดยังใช้กันมั่วเลย ) เอาคำพูดของพระมาใช่กับคน มันมั่วกันไปใหญ่แล้ว พยามยามใช้สติกันให้มาก ๆ พยายามอย่าพูดให้มากเพราะความรู้ของคนบางคนมิใช่ความรู้อย่างแท้จริง( ไม่มีความรู้เลย) แต่พยายามคัดลอกมาให้รู้กัน แล้วก็มาใช้คำที่ไม่เหมาะสมลงในเว็ปพระพุทธศาสนา เว็ปนี้อาจารย์ว่าเขาทำเพื่อเผยแพร่ให้รู้ในสิ่งที่ใครไม่รู้( สิ่งที่คนเขาไม่เชื่อ) ก็เรื่องของเขา เอาความศรัทธาและความเชื่อมั่นเป็นที่ตั้ง ผมว่าถ้าจริง ๆ แล้วถ้ารู้เรื่องพระปู่ใหญ่อย่างจริง ๆ แล้ว ผมว่าพวกท่านปวดกระบาลยิ่งกว่านี้อีกจะบอกให้
หมายเหตุ เพียงบอกกับมิตรธรรมทุกท่านว่า(หลวงปู่พระครูธรรมเทพโลกอุดรนั้นมีจริงแน่ ๆ ) แต่ทีผมได้เห็นแล้วได้กราบท่านผมเห็นองค์เดียวครับ
ที่จังหวัดนครปฐม ( ที่วัดลำพญา ครับท่านสูงใหญ่สมคำว่าปู่ใหญ่ จริง ๆ ครับ สาธุ ( นะ โม พุท ธัส สะ ) คาถานี้เป็นพระคาถาของหลวงปู่โสณะเป็นพระคาถา ที่ท่านให้บิดาของท่านได้ภาวนาก่อนสิ้นใจ แล้วไปเกิดในแดนนิพพาน) พระคาถานี้ผมได้นำไปใช้อธิฐานจิตกับวัตถุมงคลต่าง ได้ผลดีอย่างมากมาย ท้ายนี้ขอฝากไว้อย่าใจร้อน ตั้งจิตให้มั่นนะครับ คุณหนุ่ม โชคดี

 

ขอบคุณอ.จเรมากครับ

 

http://palungjit.org/showthread.php?p=952534&posted=1#post952534

<TABLE class=tborder id=post952534 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center border=0><TBODY><TR><TD class=thead id=currentPost style="BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid">1-2-2551, 09:54 AM <!-- / status icon and date --></TD><TD class=thead style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid" align=right>#14368 </TD></TR></TBODY></TABLE>

ขอเชิญร่วมมหากุศลเป็นเจ้าภาพผ้าป่าสามัคคี
​

 

คุณสิทธิพงษ์ครับ

ขอร่วมทำบุญ จองชุดล็อคเก็ต 1 ชุดครับ
โอนเข้าบัญชีแล้ว จะแจ้งไปครับ

 

โมทนาสาธุครับ

.

 

"ดร.สุเมธ" ให้สติคนไทย อย่าให้พระเสโธ "ในหลวง" หลั่ง

สุเมธ เตือนสติคนไทย
โดย Post Digital 20 มกราคม 2551 16:05 น.
http://www.posttoday.com/breakingnews.php?sec=breaking&id=215778

ดร.สุเมธ ตันติเวชกุล เลขาธิการมูลนิธิชัยพัฒนา กล่าวปาฐกถาให้กับคนไทย ที่รัฐดูไบ ประเทศสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ ในโอกาสบริษัท การบินไทย จำกัด (มหาชน) จัดแสดงปาฐกถาในหัวข้อ "พรจากฟ้า พรพอเพียง เฉลิมพระเกียรติ เนื่องในวโรกาสมหามงคล 80 พรรษา" ว่า ประชาชนคนไทยทุกคนล้วนประทับใจและต้องรับรู้เรื่องราวของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ โดยเฉพาะในยามที่อยู่ไกลบ้านเมืองของตนเอง ซึ่งส่วนใหญ่คนไทยชอบเห็นพระองค์ท่าน แต่มักจะละเลยหรือมองข้ามสิ่งที่พระองค์ทรงสอนเรามาตลอด 60 ปีที่ครองราชย์ เพราะฉะนั้นขอให้เราตั้งใจมองและตั้งใจฟังสิ่งที่พระองค์ท่านทรงแสดงให้เห็น
ดร.สุเมธ กล่าวด้วยว่า ไม่ว่ากี่ปีที่ล่วงเลยผ่านมา พระเสโทของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวฯ หลั่งไหลเพื่อประชาชนชาวไทยทุกคน แต่คนไทยจะให้พระเสโทของพระองค์ท่านไหลไปอีกนานแค่ไหน

 

อ้างอิง:
<TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ kaicp
คุณสิทธิพงษ์ครับ

ขอร่วมทำบุญ จองชุดล็อคเก็ต 1 ชุดครับ
โอนเข้าบัญชีแล้ว จะแจ้งไปครับ
</TD></TR></TBODY></TABLE>

ชุดล็อกเก็ตจัดสร้างเป็น ๒ ขนาด คือเล็กสำหรับคุณผู้หญิง และขนาดใหญ่สำหรับคุณผู้ชาย จำนวนจำกัดมากเพียงชนิดละเกินร้อยมานิดเดียวเท่านั้น เรียกว่าจัดสร้างเพราะเป็นการรวมคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรทั้งคณะครูผู้ฝึกอีก ๒ องค์ และอัญเชิญพระพุทธสมณโคดมพระสัมมาสัมพุทธเจ้ามาประดิษฐานเนื่องจากคณะหลวงปู่บรมครูเทพโลกอุดรได้เผยแผ่พระพุทธศาสนาของพระพุทธองค์นั่นเอง มวลสารที่ใช้ในการบรรจุไว้ที่ด้านหลังล็อกเก็ตนี้ก็ไม่ธรรมดาล้วนแล้วแต่เป็นของทำยาก และหายากทั้งนั้น(บอกไปแล้วอาจจะไม่พอจอง) อีกทั้งผู้ลงมือลง"รัก"ก็ไม่ใช่ใครอื่น ท่านก็คือบุตรชายของอาจารย์ปู่ประถมนั่นเอง อีกทั้ง"องค์พระ"ที่ปิดด้านหลังก็มีอย่างละไม่มากแตกต่างกัน บางท่านได้หลวงปู่ม่น บางท่านได้สมเด็จปัญจสิริจิ๋ว ขนาด ๑ ซ.ม. เท่าที่ผมลองประมวลดูการสร้างล็อกเก็ตครูบาอาจารย์แล้ว มักจะนิยมจัดสร้างและเผยแพร่กันในหมู่ศิษย์ที่ใกล้ชิดเท่านั้น ถือเป็นวัตถุมงคลเฉพาะคน คนที่มีต่างก็หวงแหน บ้างบรรจุอัฐิธาตุครูอาจารย์ บ้างบรรจุเส้นเกศา...

บางท่านมองว่า เป็นล็อกเก็ตที่เพิ่งจะจัดสร้างใหม่ ราคาสูง ไม่น่าสนใจ ผมอยากบอกว่าท่านคิดผิดแล้วครับ ต้องให้หมดก่อนถึงจะคิดได้ ก็สายไปแล้ว...(cry)

 

ล็อคเก็ตที่นำมามอบให้ท่านที่ร่วมทำบุญ พี่แอ๊วแจ้งว่าเป็นล็อคเก็ตขนาดใหญ่ จำนวน 10 องค์ ด้านหลังติดพระนาคปรกหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก

เป็นสิ่งที่หาได้ยาก มีการจัดสร้างขึ้น ขนาดใหญ่(ผู้ชาย) จำนวน 108 องค์ และขนาดเล็ก(ผู้หญิง) จำนวน 188 องค์ ซึ่งด้านหลังบางองค์จะเป็นพระปิดตาหลวงปู่ม่น วัดเนินตามาก มีประมาณ 113 องค์ ,บางองค์จะเป็นพระสมเด็จปัญจสิริ(จิ๋ว) ประมาณ 70องค์ ,บางองค์จะเป็นหลวงพ่อเงิน วัดบางคลาน มีจำนวน 5 องค์

ส่วนมวลสารซึ่งคลุกรัก มีหลายๆประการ ซึ่งหาได้ยากยิ่งในปัจจุบันครับ

ซึ่งนำเข้าพิธีพุทธาภิเษกในชุดพิเศษ 3 ครับ

.

 

ตะเกียบ 3,000 ปี มีกำเนิดในเมืองจีน
http://matichon.co.th/matichon/matichon_detail.php?s_tag=01pra03070251&day=2008-02-07&sectionid=0131

คอลัมน์ สยามประเทศไทย

โดย สุจิตต์ วงษ์เทศ

วันที่ 07 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2551 ปีที่ 31 ฉบับที่ 10925


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#f8b8cb><TD>
ตะเกียบ มีกำเนิดอย่างตำนานจริงหรือไม่? ไม่สำคัญ แต่ฟังแล้วสนุก ช่วนให้กินอร่อย กินดี แค่นี้ก็พอแล้ว


</TD></TR></TBODY></TABLE>
ตำนานตะเกียบ บอกว่าตะเกียบในวัฒนธรรมจีน มีกำเนิดในเมืองจีนสมัยราชวงศ์ฌาง มากกว่า 3,000 ปีมาแล้ว (ร่วมสมัยวัฒนธรรมบ้านเชียงในประเทศไทย)

ศูนย์ภาษาและวัฒนธรรมจีนสิรินธร มหาวิทยาลัยแม่ฟ้าหลวง เผยแพร่ตำนานตะเกียบไว้ในคอลัมน์เรียนไทยได้จีน (มติชน ฉบับวันพุธที่ 6 มกราคม 2551 หน้า 7) มีใจความสำคัญดังนี้

ประเพณีการรับประทานอาหารด้วยตะเกียบเริ่มตั้งแต่สมัยราชวงศ์ฌาง

ในสมัยนั้นมีผู้เฒ่าคนหนึ่งชื่อเจียงจื่อหยา ก่อนที่เขาจะกลายเป็นขุนนางของราชวงศ์โจว และช่วยจักรพรรดิของราชวงศ์โจวสถาปนาอาณาจักรโจวขึ้นนั้น เขาแค่เป็นผู้เฒ่าธรรมดาคนหนึ่ง ทุกๆ วันมัวแต่ตกปลาอย่างเดียว ไม่ทำนาและก็ไม่ทำการค้าขาย แล้วไม่มีวันไหนที่ได้ปลากลับบ้านสักตัว จึงทำให้ชีวิตความเป็นอยู่ของครอบครัวเขาลำบากมาก

ภรรยาของเขาโกรธมาก คิดจะฆ่าเขาให้ตายแล้วไปแต่งงานใหม่

วันหนึ่ง เจียงจื่อหยาตกปลากลับมาโดยสองมือว่างเปล่าตามเคย ภรรยาเขาต้อนรับเขาอย่างดีใจ แล้วเอาเนื้อหมูตุ๋นมาให้เขารับประทาน เจียงจื่อหยาหิวมาก จึงไม่ได้ไปล้างมือ รีบหยิบเนื้อขึ้นมารับประทาน

ขณะนั้นมีนกตัวหนึ่งบินเข้ามา แล้วจิกมือของเจียงจื่อหยาที่จับเนื้ออยู่ เจียงจื่อหยาเจ็บมือมากจึงทิ้งเนื้อชิ้นนั้นลง แล้วพยายามไล่นกตัวนั้นออกไป

พอไล่นกออกไปแล้ว เจียงจื่อหยากลับมาจะรับประทานเนื้อหมูใหม่ เขาเพิ่งหยิบเนื้อชิ้นใหม่ขึ้นมา นกตัวนั้นบินเข้ามาจิกมือเขาอีก ทำให้เขาต้องปล่อยชิ้นเนื้อลงอีก

ครั้งที่สาม เจียงจื่อหยาปิดประตูไว้กันไม่ให้นกตัวนั้น เข้ามาอีก

พอเขาแน่ใจว่านกตัวนั้นจะกลับมาไม่ได้อีกแล้ว จึงกลับไปรับประทานเนื้อหมูอย่างวางใจ

ตอนที่เขาหยิบเนื้อหมูชิ้นที่สามขึ้นมาอย่างดีใจ นกตัวนั้นก็บินเข้ามาอีก เจียงจื่อหยาตกใจมาก จึงออกจากบ้านไล่ตามนกตัวนั้นไป พอไล่ถึงภูเขาที่ไม่มีคน นกตัวนั้นก็ลงเกาะบนไม่ไผ่ต้นหนึ่ง แล้วร้องเพลงว่า "เจียงจื่อหยา อ้าเจียงจื่อหยา อยากกินเนื้อหมูอย่าหยิบด้วยมือ เครื่องมือที่ช่วยเธอกินเนื้อหมูนั้นอยู่ใต้เท้าฉัน"

เจียงจื่อหยาฟังแล้วก็รู้ทันทีว่า นกตัวนี้เป็นนกที่เทพเจ้าส่งมาช่วยเขา เขาจึงทำตามที่นกตัวนั้นบอก หักเอาไม้ไผ่สองท่อนกลับบ้านไป

เมื่อเขากลับถึงบ้าน ภรรยาเขาก็เร่งรัดให้เขารีบๆ รับประทานเนื้อหมูตุ๋น

เจียงจื่อหยาก็ยืดไม้ไผ่สองท่อนนั้นเข้าไปคีบเนื้อหมูในจาน พลันก็เห็นควันสีเขียวออกมาจากไม้ไผ่สองท่อนนั้น เขาจึงรู้ว่าภรรยาของเขาใส่ยาพิษเข้าไป ภรรยาของเขาเห็นแล้วกลัวมาก รู้ว่ามีเทวดาเฝ้าดูแลเจียงจื่อหยาอยู่ จึงไม่กล้าทำร้ายเขาอีก

คนในสมัยราชวงศ์ฌางเมื่อรู้เรื่องนี้แล้ว ต่างก็ทำตามเจียงจื่อหยา คือหักไม้ไผ่สองท่อนมารับประทานข้าว พวกเขาเชื่อว่า การทำเช่นนี้จะป้องกันตนเองได้

เพราะเหตุนี้คนจีนจึงเริ่มใช้ตะเกียบรับประทานอาหารตั้งแต่สมัยนั้นเป็นต้นมา การใช้ตะเกียบจึงกลายเป็นวัฒนธรรมการกินที่สำคัญอย่างหนึ่งของประเทศจีน

ขอกราบขอบพระคุณผู้ดำเนินการจัดทำคอลัมน์เรียนไทยได้จีน เพราะช่วยให้ได้รู้กว้างออกไป แล้วยังได้จินตนาการอาหารอร่อยๆ ปลายตะเกียบ

ขึ้นชื่อว่า "ตำนาน" ย่อมอยู่ในกลุ่มเดียวกับ "นิทาน" คือเป็นคำบอกเล่าตกทอดสืบต่อมายาวนานมาก นับเป็นมรดกทางวัฒนธรรมสำคัญมากๆ ที่สะท้อนความคิด, ความเชื่อ, ความสัมพันธ์เชื่อมโยงสิ่งต่างๆ ฯลฯ ตั้งแต่อดีตจนปัจจุบัน

ตำนานหรือนิทานไม่ใช่ความจริงทั้งหมด แต่มีความจริงซ่อนอยู่ในตำนานหรือนิทาน สุดแต่ใครจะฉวยได้จากใจความบอกเล่าที่ปนกันทั้งแก่นและกระพี้ ฉะนั้น แต่ละคนต้องเลือกสรรเอง

สังคมไทยดูแคลนตำนานและนิทานของตัวเอง เลยไม่ยกมาเล่าสู่กันฟังในการเรียนการสอนภาษาและวรรณคดี แล้วไม่เผยแพร่สู่สังคม เช่น พญาคันคาก (คางคก), พระรถ-เมรี, เจ้าชายสายน้ำผึ้ง, พระร่วง ลูกนางนาค, ฯลฯ

แต่ความเป็นมนุษย์ต้องการตำนานและนิทาน คนไทยเลยต้องพึ่งพาตำนานและนิทานฝรั่งอย่าง แฮรี่ พอตเตอร์, เดอะ ลอร์ด ออฟ เดอะ ริง, ฯลฯ

 

ขอร่วมอนุโมทนาด้วยครับ

ผมขอฝากพระของหลวงพ่อ สิริ สิริวัฒโน เพื่อร่วมไปแจกในงานบุญผ้าป่าที่จังหวัดชัยภูมิ ด้วย จำนวน 227 องค์ เพื่อแจกกับผู้ร่วมไปทำบุญในงานนี้มวลสารพระสมเด็จชุดนี้เป็นมวลสารเดียวกับ หลวงปู่ทวด สิริ ทองดีแต่เพิ่มด้วยผงของหลวงปู่ทิมวัดระหารไร่ครับพร้อมกับ สร้างจำนวน 90,000 องค์
ขอให้ผู้ได้รับพระองค์ที่นำไปแจกจงเก็บรักษาไว้ให้ดีบอกได้เลยว่าเหมือนท่านมีสมเด็จดีมาก ๆ 1 องค์แล้วต่อไปจะหาค่ามิได้ จึงขออนุโมทนาไปกับคุณหนุ่มด้วย ส่วนพระเหลือก็มอบให้กับวัดไปเลยเพราะผมจะให้ไปต่างหากในนามของผมอีจำนวน 111 องค์ ( 111 ตอบได้เช่นไรมีรางวัลไว้เป็นพระกริ่งเนื้อผงปวเรศ 1 องค์ ) สำหรับผู้ตอบปัญหา 111 ได้ถูกต้องครับ ( เกี่ยวกับตัวเราครับ ) บอกใบ้ สาธุ นะ โม พุท ทัส สะ

 

ขอบคุณครับ

ไว้ผมไปรับนะครับ ผมจะโทร.ไปหา อ.จเรก่อนครับ

โมทนาสาธุครับ

.

 

111 คืออะไร มีความหมายอะไร รีบตอบมานะครับ
เดี๋ยวผมถ่ายรูปมาให้ชม