เมืองบาดาลสวรรค์ & เรื่องดีดี..มีไว้แบ่งปัน

ในห้อง 'จักรวาลคู่ขนาน' ตั้งกระทู้โดย เกล็ดดาว, 30 พฤษภาคม 2015.

  1. เกล็ดดาว

    เกล็ดดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +1,452
    หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่เทพโลกอุดร



    หลวงปู่ใหญ่ หลวงปู่เทพโลกอุดร
    Posted By webmaster On Thursday, 20 September 2007
    (ขออนุญาตนำเสนอข้อมูลท่านหลวงปู่ใหญ่ พระครูเทพโลกอุดรค่ะ)

    หลวงปู่ใหญ่พระครูเทพโลกอุดร ตามหลักฐานบันทึกในหนังสือมหาวงค์
    พงศาวดารลังกา (คำบรรยายของหลวงบริบาลบุรีภัณฑ์
    อดีตภัณฑารักษ์เอก กรมศิลปากร ) พ.ศ. ๓๐๓ และตามหลักฐาน
    ของวัดเพชรพลี (วัดพริบพรีเดิม บันทึกอักษรเทวนาคี ขุดค้นพบ
    ณ ซากศิลาวัดบัวคูบัว ต.คูบัว จ.ราชบุรี ) กล่าวว่า พระพุทธศาสนา
    ได้เริ่มแพร่เข้าสู่แคว้นสุวรรณภูมิ ใน พ.ศ. ๒๓๕ ( ซึ่งระยะต่างกัน ๖๘ ปี พ.ศ. ๓๐๓-๒๓๕ )
    พระเจ้าอโศกมหาราชได้ทรงกระทำตติยสังคายนาพระไตรปิฎก
    คือ ทำการชำระพระไตรปิฎกขึ้นเป็นครั้งที่ ๓ แล้วจึงอาราธนา
    พระโมคคลีบุตรติสสเถระ องค์อรหันต์เป็นประธานคัดเลือก
    บรรดาพระอรหันตเถระ ออกทำการเผยแพร่พระพุทธศาสนา
    ยังนานาประเทศ โดยแบ่งเป็น ๙ คณะ คณะที่ ๘
    ไปยังสุวรรณภูมิประเทศ ( พม่า มอญ เขมร ลาว รามัญ ญวน
    ไปจรดแหลมมลายู หรือที่เรียกว่าอินโดจีน เป็นสุวรรณภูมิทั้งสิ้น )
    คณะธรรมฑูตประกอบด้วย

    ๑. พระโสณเถระ
    ๒. พระอุตระเถระ
    ๓. พระฌานียะ
    ๔. พระภูริยะ
    ๕. พระมูนียะ
     
  2. เกล็ดดาว

    เกล็ดดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +1,452
    สามเณรอิสิจน์ สามเณรคุณะ สามเณรนิตตย เขมกะอุบาสก อนีฆาอุบาสก อดุลลยอำมาตย์
    และคุณหญิงอดุลยา พราหมณ์และนางพราหมณี ผู้คนอีก ๓๘ คน ได้มาพักที่วัดช้างค่อม ( นครศรีธรรมราช )
    เมื่อวันขึ้น ๑๔ ค่ำ เดือนอ้าย พ.ศ. ๒๓๕ ออกบิณฑบาตวันขึ้น ๑๕ ค่ำ แล้วเทศนาพรหมชาลสูตร
    และได้วางวิธีอุปสมบทญัตติจถกรรมวาจา โดยใช้อุทกเขปเสมาหรือเสมาน้ำและได้วางเพศชีสยาม
    โดยถือแบบเหล่าพระสากิยานีซึ่งเป็นต้นของพระภิกษณี โดยบวชหรือบรรพชาไม่มีเรือน
    ( อาคารสมา อนคาริย ปพพชชา )
    ได้วางวิธีสวดปาติโมกข์ หรืออุโบสถกรรม ปวารณากรรม
    เมื่อพระเจ้าโลกละว้า (เจ้าผู้ครองแคว้น สุวรรณภูมิ ) รับสั่งให้
    มนขอมพิสณุขอมเฉย ขอมสอน ขอมเมือง สร้างวัดมหาธาตุ
    ท่านได้วางวิธีกำหนดนิมิตผูกขันธสีมา พ.ศ. ๒๓๘ เดือน ๕ ขึ้น ๑๕ ค่ำ
     
  3. เกล็ดดาว

    เกล็ดดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +1,452
    ขณะอยู่ระหว่างการก่อสร้าง ท่านได้สอนพระบวชใหม่ให้ท่องพระไตรปิฎก
    จบหลายองค์ แล้วจึงวางจึงวิธีสวด สาธยายโดยฝึกซ้อมให้คล่อง
    เมื่อคล่องแล้วจึงจะสัชฌากันจริง ๆ ท่านให้มนขอมปั้นพระพุทธรูป
    ด้วยปูนขาวเป็นพระประธานในโรงพิธี เมื่อเรียบร้อยแล้วท่านวางวิธีกราบ
    สวดมนต์ ไหว้พระ เห็นดีแล้วจึงให้สร้างพระพุทธรูปประจำพระอุโบสถ
    จึงเป็นธรรมเนียมสืบต่อมาท่านได้วางวิธีกฐิน และธุดงค์ คือเที่ยวจารึกไปในเมืองต่าง ๆ
    การสร้างพระพุทธรูปในสมัยดังกล่าวนี้ก็ล้วนเป็นสิ่งสมมติ พระพุทธรูปเป็นองค์สมมติ
    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า พระสงฆ์ก็เป็นเพียงสมมติสงฆ์ สาวกของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ส่วนพระธรรมคำสั่งสอนของพระสัมมาสัมพุทธเจ้า ท่านใช้วงล้อเกวียนประดิษฐ์
    เป็นพระธรรมจักรแทนพระธรรม กับทีทิค ( มิ-คะ) คือสัตว์ประเภทกวาง ฟาน
    หรือเก้ง เป็นเครื่องหมายในสมัยสุวรรณภูมิ
     
  4. เกล็ดดาว

    เกล็ดดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +1,452
    ต่อมาในปี พ.ศ. ๒๓๙ พระโสณเถระกับพระเจ้าโลกละว้าราชา ได้ส่งพระภิกษุสยาม
    ๑๐ รูป มีพระญาณจรณะ (ทองดี) เป็นหัวหน้า พร้อมด้วยสามเณร ๓ รูป
    อุบาสก อุบาสิกา ได้เรียนและศึกษา ณ กรุงปาตลีบุตร แคว้นมคธ นับเป็นเวลา ๕ ปี
    ลุปี พ.ศ. ๒๔๕ พระเจ้าโลกละว้าสิ้นพระชนม์ ตะวันทับฟ้า ราชบุตรขึ้นครองราชย์
    ทรงพระนามว่า ตะวันอธิราชเจ้า พระโสณเถระอยู่ ณ แดนสุวรรณภูมิ
    วางรากฐานพระธรรมวินัยในพระบวรพระพุทธศาสนา เป็นระยะเวลา ๒๙ ปี
    และนิพพานในปี พ.ศ. ๒๖๔
    ตามหลักฐานบันทึกนี้จะเห็นได้ว่า กล่าวเพียงพระโสณเถระ ไม่ได้กล่าวถึง
    พระอุตรเถระ เป็นปัญหาว่า บรมครูพระเทพโลกอุดรเป็นองค์ใดกันแน่
    เพราะในสมัยปัจจุบันกล่าวถึงบรมครูพระเทพโลกอุดร ไม่มีใครรู้จักพระอุตรเถระ
    เรื่องราวเกี่ยวกับบรมครูพระเทพโลกอุดรมีมาช้านานแล้ว เริ่มตั้งแต่ยุคสมัยสุวรรณภูมิ
    หริภุญไชย สุโขทัย อยุทยา และรัตนโกสินทร์ หลักฐานที่ปรากฏชัดเจนแต่ขาดการ
    ค้นคว้าอย่างจริงจัง รู้อยู่ในหมู่คนกลุ่มน้อย รู้ทางเจโตปริญาณบ้าง เช่น พระอริยคุณาธาร (ปุสโสเส็ง )
    และหลวงปู่คำคะนิง ต่างเห็นพ้องต้องกันว่า “
    บรมครูพระเทพโลกอุดร คือพระอุตรเถระ” ผู้ที่เคยได้พบท่านได้ถาม
    ท่านว่า “ บรมครูพระเทพโลกอุดรท่านคือพระอุตรเถระใช่ไหม” ท่านไม่ปฎิเสธ
     
  5. เกล็ดดาว

    เกล็ดดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +1,452
    ถ้าเป็นอย่างนั้นจริง ท่านมีอายุ ๒,๐๐๐ กว่าปีแล้วท่านอยู่ได้อย่างไรกัน
    จึงมีความเชื่อแบ่งออกเป็น ๒ ฝ่าย ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าท่านนิพพานไปนานแล้ว
    อีกฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าท่านยังไม่นิพพาน เพราะยังมีผู้พบเห็นท่านอยู่เสมอ แม้กระทั่ง
    ทุกวันนี้
    บรมครูพระเทพโลกอุดร เป็นพระภิกษุลี้ลับ เร้นลับ และมหัศจรรย์อเนกประการ
    ลี้ลับ เร้นลับไปหมดทุกอย่าง เริ่มตั้งแต่ชื่อของท่าน ที่อยู่อาศัยของท่าน
    และที่มาที่ไปของท่าน และที่มหัศจรรย์ก็คือ เรื่องราวของท่านทั้งหมด
    บรมครูพระเทพโลกอุดรคือใคร เป็นคำถามที่หาคำตอบที่สมบูรณ์ยังไม่ได้
    เพราะ
    ท่านจะสอนลูกศิษย์เสมอว่า อดีต เป็นเรื่องที่ผ่านพ้นไปแล้ว ไม่ต้องนำมาคิด
    อนาคต เป็นเรื่องที่ยังมาไม่ถึง ไม่ควรไปสนใจให้เสียเวลา ปัจจุบัน
    สำคัญที่สุดให้เร่งศึกษา เริ่งปฎิบัติ
    เมื่อถามถึงชื่อท่าน ท่านก็จะไม่ตอบ แต่จะบอกว่าอย่ามัวไปเสียเวลากับชื่อ
    ให้เร่งปฎิบัติ เป็นการตอกย้ำว่า ช่วงเวลาของชีวิตนี้น้อยนักไม่เพียงพอ
    แก่การปฎิบัติอยู่แล้วอย่ามัวไปเสียเวลากับการไม่ปฎิบัติอยู่เลย
    ชื่อที่เรียกท่านอยู่ทุกวันนี้ จึงเป็นชื่อสมมุติที่ท่านวังหน้า หรือสมเด็จวังหน้า
    กรมพระราชวังบวรมหาสุรสิงหนาท (บุญมา) พระอนุชาในสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าฯ
    รัชกาลที่ ๑ แห่งปฐมบรมจักรีวงศ์ เป็นผู้เรียกท่าน
     
  6. เกล็ดดาว

    เกล็ดดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +1,452
    บางท่านบอกว่า บรมครูพระเทพโลกอุดรคือพระมหาโพธิศรีอุดม
    ซึ่งชื่อนี้พระมหากัสสปะ เป็นผู้ตั้งให้ บิดาท่านเป็นชาวเนปาล
    มารดาท่านเป็นชาวทิเบต บางท่านบอกว่า ท่านคือ ครูบาบุญทา จันทวังโส
    เกิดเมื่อเดือน ๗ เหนือปี พ.ศ. ๑๘๓๔ บิดาชื่อ คำฝั้น เป็นคนศรีสัชนาลัย
    จังหวัดสุโขทัย มารดาชื่อ คำขยาย เป็นคนจังหวัดลำพูน มรณภาพเมื่อปี
    พ.ศ. ๑๙๒๐ อายุ ๘๖ ปี อัฐิของท่านเก็บไว้ที่พระธาตุ (เจดีย์) วัดสันป่ายางหลวง
    อ. เมือง จ. ลำพูน บางท่านบอกว่าท่านคือ หลวงปู่คำแพง คำภาวนาถึงท่าน
    ใช้คำว่า “ โอทาตัง”บางท่านบอกว่าท่านคือ หลวงปู่เดินหน คำภาวนาถึงท่านใช้คำว่า
    “อิเกสาโร อกาวิติ นโมพุทธายะ” เป็นคน อ. เดิมบางนางบวช จ. สุพรรณบุรี
    บิดาเป็นคนจีน มารดาเป็นคนไทย ท่านได้มรณภาพไปแล้ว เมื่อ ๖๐ กว่าปี
    ก่อน สังขารของท่านอยู่ที่ถ่ำละว้า จ. กาญจนบุรี ในท่านั่งสมาธิ
    ฝ่ายหนึ่งเชื่อว่าท่านได้มรณภาพไปแล้ว เพราะไม่เชื่อว่าพระจะมีอายุยืนยาว
    หลายร้อยปี
    แม้แต่พระสัมมาสัมพุทธเจ้า สุดยอดแห่งพระภิกษุในโลกนี้ยังมรณภาพ
    เคยมีลูกศิษย์ของท่านถามท่านว่า ท่านอายุเท่าไรแล้ว ท่านได้กรุณาบอกลูกศิษย์ว่า
    ไม่ได้จำ จำได้แต่ว่า เมื่อตอนสร้างประปรางค์ลพบุรีนั้น ท่านได้มายืนดูเขา
    สร้างอยู่ ประกอบกับเหตุผลดังกล่าวข้างต้น จึงมีผู้เชื่อว่าท่านมรณภาพแล้ว
    มีการเชิญดวงวิญญาณท่านประทับทรง ซึ่งมีหลายสำนักทรงอยู่ มีทั้งทรงจริง
    ทรงไม่จริง เป็นเรื่องของศรัทธา ท่านผู้อ่านต้องพิสูจน์เอาเอง เห็นจริงแล้วจึงค่อยเชื่อ
    อันเป็นหลักธรรมคำสอนของพระพุทธศาสนา
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    • lp_yai.jpg
      lp_yai.jpg
      ขนาดไฟล์:
      3.5 KB
      เปิดดู:
      127
  7. เกล็ดดาว

    เกล็ดดาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 สิงหาคม 2014
    โพสต์:
    972
    ค่าพลัง:
    +1,452
    เรื่องราวของ “หลวงปู่เทพโลกอุดร” มีบุคคลหลายวงการให้ความสนใจและพิสูจน์
    เมื่อครั้งที่ท่านมาปรากฏตัวและแสดงฤทธิ์ให้เป็นที่ประจักษ์ที่วัดโนนชาด
    อ.คำตะกร้า จ.สกลนคร
    http://www.kroobannok.com/7046

    กราบสาธุเจ้าค่ะ
     
  8. แหมบศรี

    แหมบศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,067
    กราบสาธุเจ้าคะ

    ขอบพระคุณคร้าพี่เสือ ที่นำความรู้และข้อมูลดีดีมาให้อ่านคร้า
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 8 มิถุนายน 2015
  9. แหมบศรี

    แหมบศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,067
    มีเรื่องมาเล่าให้ฟังคะ อิอิ เป็นเรื่องราวตอนเด็กๆ คะ

    ตัวข้าน้อยเองเกิดในดินแดนที่เรียกว่าภูพาน หลังบ้านก็เป็นภูเขา อิอิ
    ตอนเด็กๆชอบเล่นซนมาก แอบขึ้นไปเล่นบนเขากับเพื่อนรุ่นเดียวกันบ่อยๆ
    ทั้งที่พ่อแม่และคนเฒ่าคนแก่ห้ามว่า อย่าขึ้นไปเล่นบนเขานะมันน่ากลัว ผีเยอะ!!!
    ด้วยความสงกะสัยและไม่เชื่อ บวกกะความอยากรู้อยากลอง ก็เลย ตัดสินใจแอบหนีไปเที่ยว กับเพื่อน บนเขา
     
  10. แหมบศรี

    แหมบศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,067
    พอขึ้นไปบนเขา ตั้งใจจะเดินไปที่ถ้ำ สมัยก่อนยังไม่มีบันไดขึ้นไป
    ต้องเดินลัดเลาะไปตามธารน้ำขึ้นไปเรื่อยๆ

    พอขึ้นไปเกือบจะถึงถ้ำ ข้อน้อยก็เหลือบมองเห็น พระ รูปนึงเดินเข้าไปในถ้ำ
    หันไปถามเพื่อนว่าเห็นพระไหม ท่านเดินเข้าไปในถ้ำ เพื่อนตอบว่า ไม่มี ไม่เห็น !!!
     
  11. แหมบศรี

    แหมบศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,067
    ด้วยความอยากพิสูจน์ รีบวิ่งขึ้นไปบนถ้ำ หลังว่า จะได้พบเจอ พระรูปนั้น
    พอไปถึง เพื่อนบอกว่า ไม่เห็นมีใครเลย เห็นแต่ถ้ำเปล่าๆ และสายน้ำที่ไหล ลงมากลางถ้ำ
    ข้าน้อยเลยนั้งขัดสมาธิลงบนก้อนหินใหญ่ แล้วตั้งจิตอธิฐาน ถึงพระรูปนั้นว่าท่านมีจริงหรือไม่
    จากนั้นก็มีภาพปรากฏเบื้องหน้าเป็นภิกษุรูปนึง ข้าน้อยได้ก้มกราบท่าน
    แล้วเพื่อนของข้าน้อยบอกว่า ข้าน้อยเป็นบ้า ก้มกราบก้อนหิน ๕๕๕
    ข้าน้อยก็ยืนยันจริงๆว่า ข้าน้อยเห็นพระท่านจริงๆ
    แล้วจู่ๆ ก็มีเสียงเหมือนฟ้าร้อง ดังครึกโครมมา ข้าน้อยและเพื่อนรีบวิ่งออกจากถ้ำ
    แล้วเพื่อนของข้าน้อยคนนึงจู่ๆก็ กรี๊ดดังลั่น แล้วพูดว่า ผีๆๆๆ ผีเยอะมากๆ พูดพร้อมร้องไห้

    หลังจากเหตุการณ์นั้นข้าน้อยและเพื่อนก็ไม่กล้าขึ้นไปถ้ำนั้นอีกเลย
     
  12. แหมบศรี

    แหมบศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,067
    จากคำบอกเล่าของผู้เฒ่าผู้แก่ บอกว่าที่ถ้ำแห่งนี้ ตอนกลาคืนจะมีแสงไฟ
    ลอยออกจากถ้ำ ทุกๆวันพระ แล้วจะลอยไปยังถ้ำซึ่งอยู่อีกเขาลูกนึง เป็นประจำๆ
    จะลอยกลับไปกลับมาเป็นประจำ
     
  13. แหมบศรี

    แหมบศรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 เมษายน 2012
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,067
    แต่ ณ ปัจจุบัน นี้ ได้มีพระท่านที่ธุดงค์มา จำพรรษา อยู่ที่ถ้ำนี้
    และชาวบ้านได้ร่วมแรงร่วมใจ สร้างบันไดขึ้นไปถ้ำ แล้วคะ
     
  14. huten

    huten เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    2,808
    ค่าพลัง:
    +15,229
    มาติดตามอ่าน เรื่องราวค่ะมีสาระชวนติดตาม โดยเฉพาะ

    มี คุณ นันทะชัยดี มาเสริมด้วย ดีมากเลยค่ะ..
     
  15. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    เทือกเขาภูพานมีสารพัดภพภูมิอาศัยอยู่เลยต้องเจาะลึกไปทีละภพภูมิครับ ขอเป็นพญานาคก่อนแล้วกันครับ
     
  16. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    ปากทางเข้าเมืองบาดาลอยู่ที่ถ้ำมืดครับ ที่ชื่ออย่างนั้นคือ ถ้ำนั้นมืดสนิทครับ จะมีน้ำไหลตลอดเวลา พญานาคที่นี้ถือว่าเป็นพญานาคบนสวรรค์ชั้นหนึ่งครับ เท่าที่สัมผัสได้มีกายทิพย์เป็นรัศมีแสงสว่างเหมือนเทวดาครับ
     
  17. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    เท่าที่เล่าตอนต้นๆว่า เมื่อเดินผ่านซอกเขาขาดจะสัมผัสถึงความเย็นจากบาดาล แสดงว่ามีการกั้นเขตแดนตรงนั้ครับ เมืองบาดาลที่นี้เหมือนถูกผู้มีอำนาจกักขังไว้ โดยมีรูปสักการะเป็นพญานาคหงอนสีแดงครับ
     
  18. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    เมื่อคืนเจอฤษีสามตนนั้นด้วยเลยพิจารณาดู สอบถามดูได้ใจความว่า ในอดีตฤษีทั้งสามคือ นักพรตผู้ปฏิบัติเพียร หาความสงบ แต่ในความสงบนั้นกลับติดเรื่องฤทธิ์ เรื่องอำนาจ โดยเมื่อคิดว่าตนเองมีฤทธิ์แล้วก็จะใช้ฤทธิ์บันดาลทุกสิ่ง แต่พอธาตุขันต์นั้นเจ็บป่วยเปลี่ยนสภาพไป ก็ต้องแตกสลายไปตามธรรมชาติ จิตก็เกาะติดอยู่กับฤทธิ์ของตนเองอยู่อย่างนั้น โดยแสดงให้เห็นเป็นอานุภาพของทนสิทธิ์ที่ชื่อว่า เหล็กไหล
     
  19. อนัตตา

    อนัตตา เล่นกับเงา

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2015
    โพสต์:
    1,833
    ค่าพลัง:
    +1,822
    ขอเข้ามาตามอ่านด้วยคนนะคะ เรื่องราวแปลกๆ น่าสนใจดีค่ะ
     
  20. นันทะชัยดี

    นันทะชัยดี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มิถุนายน 2014
    โพสต์:
    251
    ค่าพลัง:
    +378
    เมื่อติดอยู่ในฤทธิ์ ก็มักจะแสดงอำนาจของตนเองให้คนอื่นๆได้ประจักษ์ใน อำนาจฤทธิ์ของตนเอง จึงไม่แปลกใจ ที่นันทะชัยดีจะสัมผัสได้ในคราวแรกที่เจริญสมาธิในครั้งนั้น
     

แชร์หน้านี้

Loading...