***หลวงพ่อธรรมดาๆ องค์หนึ่ง แต่เป็นผู้ที่สำคัญที่สุดในชีวิตผม***

อ่านเรื่องราวของท่านแล้วน่าเลื่อมใสมากค่ะ อนุโมธนาบุญที่เจ้าของกระทู้ได้มาให้ข้อมูลพระสุปฏิปฏิปัณโณ รูปนี้ด้วยค่ะ

 

รูปของท่านครับ

 

"เห็นทุกสิ่งเป็นเพียง ปรากฏการณ์"

ดูกันเดี๋ยวนี้เลย ดูซิ ศึกษาเดี๋ยวนี้ดีกว่า ดูปัจจุบัน เห็นในปัจจุบัน อันนี้ของจริง ดูปัจจุบันเดี๋ยวนี้ ไม่มีอะไร.ก็รู้ว่าไม่มีอะไร มีอะไร.ก็รู้ว่ามีอะไร และยังเห็นอีกด้วยว่าสิ่งนั้นๆ ก็เป็นเพียงปรากฏการณ์ ไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา ถ้าเรารู้จักดูให้ออกจริงๆ แยกให้ออกว่าไม่ใช่ตัวเรา ไม่ใช่ของเรา มันก็เป็นอนิจจัง ทุกขัง อนัตตา สัพเพ สังขารา อนิจจา สัพเพ สังขารา ทุกขา สัพเพ ธัมมา อนัตตา ต้องให้เห็นสิ่งเหล่านี้ มันไม่เที่ยง บางครั้งเราอาจเผลอปรุง ก็ให้เป็นเรื่องของมัน เราก็เฉย อยู่เหนือความรู้สึก เดี๋ยวมันก็ดับไปเอง แต่ส่วนมากจะเป็นเรารู้สึก มีความเป็นเราเข้าไปแล้ว นั่นแหละเกิดแล้ว ภพ ชาติ ความยึดมั่นถือมั่นได้เกิดแล้ว

ขณะที่ไม่เห็นความรู้สึกนั่นแหละ เรียกว่าเผลอแล้ว เรียกว่าลืมตัวแล้ว ต้องให้เห็นตัวเองอยู่ตลอดเวลา ต้องฝึก จะพ้นทุกข์ได้หรือไม่ ก็อยู่ตรงที่ฝึกมากหรือน้อย ถ้าเห็นตัวเองอยู่ตลอดเวลาไม่เผลอเลย ก็ไม่ทุกข์เลย ทุกข์จะเกิดไม่ได้ ขอให้รู้ความรู้สึกจริงๆ หรือขณะนี้จะสัมผัสดูก็ได้ พอรู้ตัว..ก็ไม่มีความทุกข์เลย เกลี้ยง ไม่มีอะไร ไม่มีความยินดียินร้าย หายใจเข้ายาวๆเราจะเห็นชัด หายใจเข้ายาวๆ นี่ตรงนี้คือวิธีทบทวนให้รู้ปัจจุบัน..

 

ดูความรู้สึกจะเห็นหมดเลย นั่งอยู่อย่างไรก็รู้ได้ สบาย ไม่สบาย ขยับเนื้อขยับตัว ขยับแข้งขยับขาให้มันสบาย รู้ได้ ลองขยับดู เห็นมั้ย สบายขึ้นมั้ย เห็นความสบายเนี่ย อย่างนี้เรียกว่า รู้ตัว รู้ตัวหรือรู้ความรู้สึก อันเดียวกัน รู้ตัวหรือตัวอันนี้ หรือกาย-ใจนี่แหละ
ดูตามความเป็นจริงอย่างนี้ ดูให้ต่อเนื่องสิ จะมีทุกข์ที่ไหน มันไม่ต้องไปทำอะไร ดูให้เห็นตรงนี้ก่อน ฟังให้ดีๆนะ! หลวงพ่อจะชี้ให้เห็นตรงนี้ก่อน เพื่อจะให้ชินนั่นเอง แล้วค่อยมาสร้างจังหวะ.เห็นความรู้สึกอยู่ เคลื่อนไหว.ก็ยังเห็นความรู้สึกอยู่ เคลื่อนไปที.ก็ยังเห็นความรู้สึกอยู่ "สร้างจังหวะเพื่อจะตอกย้ำไม่ให้ลืมความรู้สึก เรียกว่า เจริญสติ"
ถ้าเห็นอย่างนี้แล้วก็ จำไว้ให้ดี อ๋อ..ความไม่มีทุกข์มันเป็นอย่างนี้ จำภาวะอย่างนี้ไว้ ยืนเดินนั่งนอน ทำความเพียรให้ชินกับอันนี้ ธรรมดาคนเราเคยเห็นที่ไหน เคยดูความรู้สึกที่ไหน เป็นว่าเรารู้สึกๆ รู้สึกสบาย รู้สึกไม่สบาย รู้สึกสงบ รู้สึกไม่สงบ แต่..ไม่เห็นความรู้สึก ฟังให้ดีๆ! ไม่เห็นความรู้สึก...แต่รู้ความรู้สึก รู้..รู้สึกยังไงก็รู้ได้ แต่..ไม่เห็นความรู้สึก มันก็ออกจากทุกข์ไม่ได้

การมาปฏิบัติ หรือมารู้จักความรู้สึก หรือมาทำความรู้สึกให้มันสบาย มันก็สบาย แต่ทีนี้"มันจะไม่เที่ยง" (ถ้า)เป็น"เรารู้สึก" มันจะแปรปรวนอยู่เรื่อยๆ (แต่)ถ้ามาเห็นความรู้สึก.มันจะหยุดเลย เราก็ต้องเห็นความรู้สึก"หยุด" ถ้าเราเห็นความรู้สึก.มันจะหยุด! มันหยุด มันว่าง มันปล่อย มันวาง มันไม่ติดไม่ยึด เนี่ย! ต้องรู้จักอันนี้ แล้วเราไปอยู่กับอะไรๆก็ได้ มันจะไม่ยึดติด มาเห็นจิตใจของเรา...

 

ขอบคุณมากครับ ตอยนานมากจนลืมไปแล้วนะครับเนี้ย
ผมช่วงนี้งานเยอะมากครับ ลุกจากเก้าอี้ยังไม่ค่อยได้เลย

ที่ผ่านมาผมเสพสื่อออนไลย์มาเยอะจนกลายเป็นรพวกเศร้าหมอง
พอมาดูคิลปพระแท้ ทำให้สบายใจขึ้นมากเลยครับ
อยากเป็นคนแบบใหนก็ไปอยู่สังคมแบบนั้น เกี่ยวมากเลยนะครับ
ขอบคุณที่ตอบกลับนะครับ

 

"จับจุดจากชีวิตจริง"

การเก็บอารมณ์โดยการไม่พบไม่พูดกับใคร ไม่ใช่เรื่องจำเป็น ให้เราดูจิตตอนที่กำลังพูดคุยนั่นแหละ "ให้สังเกตเปรียบเทียบดู เวลาที่เราเห็นจิตตลอดเวลาโดยไม่มีความคิดเห็น เราจะเห็นจิตที่สงบอยู่...แต่เวลาที่เผลอไป จิตมันเป็นอย่างไรก็ต้องให้เห็นความแตกต่าง จับจุดตรงที่ถ้าเผลอมันจะเกิดกิเลสมีความผิดปกติ และความไม่สงบก็จะตามมา"

ถึงแม้ว่าการพูดคุย จะมีโอกาสหลุดและพลาดมากกว่าที่จะเก็บอารมณ์อยู่คนเดียว แต่การฝึกกับของจริงจะดีกว่า ที่ผมปฏิบัติมาก็ไม่เคยเก็บอารมณ์และไม่เคยสอนแนะให้ใครให้เก็บอารมณ์ด้วย ผมจะให้ดูของจริง เพื่อให้เราอยู่กับทุกสิ่งทุกอย่างในชีวิตจริง ให้มันตื่นเนื้อตื่นตัวแข็งแรงไว้ ให้มันคล่องแคล่วว่องไว ตื่นจิตตื่นใจ เข้าถึงความรู้ความตื่น กิเลสอะไรก็เข้าไม่ได้ เมื่อเราพลิกจิตตื่นโพลงรู้ตัว อะไรจะเข้าได้ พอเราดูจิตมากๆเข้า อารมณ์อะไรเข้ามา มันจะผลักออก

หลวงพ่อสมบูรณ์

 

สอนดีมาก ทำให้ย้อนไปดูที่ความรู้สึก แล้วก็ว่างลงทันที

ขอบคุณGluayNewman ที่นำคำสอนของพระสุปฎิปันโนมาเผยแผ่ด้วยครับ

 

"เริ่มต้น รู้อย่างไร ปฏิบัติอย่างไร"
(หลวงพ่อสมบูรณ์ ฉตฺตสุวณฺโณ)
หลวงพ่อไม่ใช่พูดให้ฟัง แต่จะชี้ให้ดู เราต้องดูไปด้วย ส่วนมากเราไม่ค่อยได้ดูกาย-ดูใจตัวเอง ดูแต่ข้างนอก ไม่หันมาดูตัวเองเลย หลวงพ่อจะชี้ให้รู้จัก ก็ให้รู้จักตัวเอง ดูกาย-ดูใจ ถ้ากายดี-ใจดี อะไรๆก็ดีไปหมด มาเน้นเรื่อง “สติ” หรือ รู้สึกตัว ดูความรู้สึก เห็นความรู้สึก..
คำว่า “รู้อย่างไร” “ปฏิบัติอย่างไร”
นั่งอยู่อย่างไร ตอนนี้ รู้มั้ย นั่งอย่างไร....จึงสบาย นี่ก็เริ่มรู้ธรรมะแล้วนะ นั่งถนัดมั้ย เกร็งเนื้อเกร็งตัวมั้ย ปวดเมื่อยมั้ย นั่งตามสบายเลย นั่งอย่างไร ถนัดดี นั่งอย่างไร ไม่ปวดเมื่อยง่าย นั่งตัวตรงๆ ขยับแข้งขยับขาให้มันสบาย...รู้ได้! นี่ เรียกว่า รู้กาย รู้สึกทางกาย เลือดลมเดินสะดวก เป็นการบำบัดโรคไปในตัว....
ทางใจ ก็มาดูความรู้สึก...หายใจเข้า-ออก....อัดอั้นมั้ย มีกลั้นมั้ย เป็นไปเพื่อไม่อั้น ไม่กลั้น หายใจเข้า-ออกยาวๆ ปล่อยความรู้สึก ปลอดโปร่ง โล่ง เบา หายใจอย่างไร จึงจะปลอดโปร่ง
หายใจอย่างไร โล่งอกโล่งใจดี
หายใจอย่างไร จึงจะเบาเนื้อเบาตัวดี
หายใจอย่างไร มีชีวิตชีวาดี
หายใจอย่างไร ตื่นเนื้อตื่นตัวดี
รู้จักคลี่คลาย ผ่อนคลาย ดูให้ต่อเนื่อง ดูให้มันอยู่ตัว ตรวจสอบทางกาย ก็ไม่เกร็งเนื้อเกร็งตัว จิตใจก็ไม่อั้นไม่กลั้น มีให้เราดูเยอะเลย เป็นไปเพื่อสบาย เป็นไปเพื่อสงบ ตื่นเนื้อ ตื่นตัว ไม่อั้นไม่กลั้น มันอิ่ม มันเต็ม เบิกบานแจ่มใส กระปรี้กระเปร่า ร่าเริง คล่องแคล่ว มีชีวิตชีวา สว่าง สะอาด สงบ

 

หลวงพ่อสมบูรณ์จะมาพำนักที่วัดสนามใน วันที่ 13 - 15 มิถุนายนนี้
เชิญผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรม เข้าพบท่านเพื่อให้ท่านชี้แนะตามเวลาดังนี้ครับ
ช่วงเช้า 9 :00 - 10 : 30 น.
ช่วงบ่าย 13 : 00 - 15 : 00 น.
ท่านจะชี้แนะให้เรารู้ และเห็นถึงสภาวะธรรมในจิตใจ
พร้อมทั้งนำพาให้เราปฏิบัติในเวลานั้นเลยครับ

รายละเอียดการเดินทางไปวัดสนามใน
วัดสนามใน WATSANAMNAI.COM: การเดินทาง

 

"พอเรารู้เท่านั้น มันจะสิ้นไป"
(หลวงพ่อสมบูรณ์ ฉตฺตสุวณฺโณ)

ดูให้ต่อเนื่อง ดูให้มันอยู่ตัว แล้วก็เคลื่อนไหวไป พลิกมือขึ้นช้าๆ ยังเห็นอยู่
เอาขึ้นมาอย่างนี้ ก็ยังเห็น ไม่มีอะไร ทำช้าๆ ไม่ต้องไปดูมือนะ ดูความรู้สึก ก็ยังไม่มีอะไร หายใจก็โปร่งเบา ไม่อั้นไม่กลั้น ถ้าอั้นกลั้น มันยึดแล้ว รู้ได้ทั้งตัวเลย รู้ได้ นี่แหละพุทธะ รับรองไม่มีทางเป็นอะไรๆ มันไม่เป็นอะไรทั้งนั้น เข้าถึงธรรมชาติล้วนๆ หรือ ธรรมชาติบริสุทธิ์ หรือจิตที่ผ่องแผ้ว ไม่มีทุกข์-ไม่มีสุข นั่นแหละ ยิ่งกว่าสุข พ้นทุกข์พ้นภาระ จิตใจไม่มีภาระ มันหมดปัญหา หมดสงสัย แล้วก็เป็นธรรมดาๆ คนเราเวลาปฏิบัติธรรม มักจะมุ่งให้มันได้อะไรๆ แต่..ไม่เห็นธรรมดาๆอย่างนี้ คือ(คิดว่า)ต้องมีสิ่งที่วิเศษกว่านี้ (แต่)มันไม่มีอะไรดีกว่านี้ มีแค่นี้แหละ..!
คอยประคับประคอง เบาๆ มันคอยจะแว๊บออกไป ถ้าไม่รู้มันก็เกิด ถ้ารู้มันก็ดับ คอยรู้ไว้ รู้ปุ๊บ-ดับปั๊บ ทำให้ต่อเนื่อง ดูไปเรื่อยๆ ตอนนี้ที่ดูนี่ ไม่มีทุกข์ ไม่มีภาระ ก็พอใจตรงนี้ มันจะไม่คิดที่จะแสวงหาอะไรอีก ไม่มีไปไม่มีมา ดูให้ต่อเนื่องเรื่อยๆ หลวงพ่ออยากจะชี้ให้ดูตรงนี้ ให้รู้จักตรงนี้ รู้ได้ ไม่ใช่เราต้องรู้ มันเป็นภาระแล้ว มันจะหนัก มันจะยึด (ถ้า)ไม่เกร็ง มันจะเบา จะรู้สึกสบาย จะมีความสุข ความรู้สึกโปร่ง โล่ง เบา กายก็เบา ใจก็เบา...
พอเราเผลอไปต้องกลับมาทบทวนตรงนี้ ถ้าไม่รู้อย่างนี้แสดงว่า ผิดแล้ว พอมันเผลอจะเกิดหงุดหงิด ร้อนอก-ร้อนใจ เราจะเห็นมันเกิด ถ้าสติต่อเนื่องจริงๆ เราจะเห็นก่อนเกิด เหมือนน้ำในโอ่งมันมีตะกอน ถ้าเราเอาขันไปจ้วงแรงๆ ตะกอนมันจะขึ้นมาด้วย ต้องเบาๆ เราจะเห็นตะกอนมันค่อยๆฟุ้งขึ้นมา เหมือนจิตของเรา อารมณ์มันเกิดขึ้นมาอย่างไร พอเรารู้เท่านั้น มันจะสิ้นไป นี่แหละญาณ..!

 

หลวงพ่อสมบูรณ์จะมาพำนักที่วัดสนามใน วันที่ศุกร์ที่ 19 - วันอาทิตย์ที่ 21 ธัวาคมนี้
เชิญผู้ที่สนใจปฏิบัติธรรม เข้าพบท่านเพื่อให้ท่านชี้แนะตามเวลาดังนี้ครับ
ช่วงเช้า 9 :00 - 10 : 30 น.
ช่วงบ่าย 13 : 00 - 15 : 00 น.
ท่านจะชี้แนะให้เรารู้ และเห็นถึงสภาวะธรรมในจิตใจ
พร้อมทั้งนำพาให้เราปฏิบัติในเวลานั้นเลยครับ

รายละเอียดการเดินทางไปวัดสนามใน
วัดสนามใน http://watsanamnai.info/%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%94%E0%B8%B4%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B8%B2%E0%B8%87/

 

หลวงพ่อสมบูรณ์

 

ิblog ของสำนักปฏิบัติธรรมท่าน

ถ้ำเขาพระ

สำนักสงฆ์ ถ้ำเขาพระ

 

เปิดเผยความลับเรื่องการใช้ปัจจัยของหลวงพ่อสมบูรณ์

เรื่องนี้ จริงๆ ผมไม่อยากนำมาเล่า เพราะผู้อ่านบางท่านที่เคร่งพระวินัย อาจเกิดความรู้สึกไม่ดีต่อหลวงพ่อ
แต่เป็นรื่องที่ทำให้เรารู้จริยวัตรของพระผู้ที่สันโดษ ที่อาศัยอยู่บนพื้นฐานของความจริงของโลกปัจจุบัน ว่าท่านทำอย่างไร
----------------------------------

เรื่องเงิน...หลวงพ่อท่านบอกว่า คนเราสมัยนี้ ต้องมีเงิน เป็นฆราวาสหรือเป็นพระ ก็ต้องมีเงิน
แต่รู้จักมัน อย่าเป็นทาสของมัน.......เราใช้เงิน ไม่ใช่เงินใช้เรา

"เวลาขึ้นรถ เขาก็เก็บตังค์พระ ไม่ได้ขึ้นฟรี"
"ไปซื้อของ เราไปขอเขาฟรีๆ มันก็ไม่ได้" หลวงพ่อกล่าว
"ถ้าเราเคร่ง ไม่จับเงิน เวลาไปไหน ก็ต้องมีฆราวาสถือเงินไปด้วย แบบนี้หลวงพ่อว่า มันก็เดือดร้อนเขา
เราไปของเราเองมันสะดวกกว่า"

----------------------------------

ท่านกล่าวแบบนี้ ไม่ใช่ว่าท่านจะเป็นพระที่สะสมเงินทองมากมาย
ใครที่ใกล้ชิดกับท่านจะทราบว่า เวลาถวายเงินท่าน บางทีท่านก็คืนมาบ่อยๆ
ถวายท่านไป แล้วท่านคืนครับ
"มีตังค์ใช้หรือเปล่าล่ะ"... "เก็บไว้บ้างนะ อย่าเอามาทำบุญมาก หลวงพ่อมีใช้" นี่คือคำพูดของท่าน
ใครขอเบอร์บัญชีท่านเพื่อจะทำบุญ ท่านก็ไม่ให้ครับ

แม้แต่ขนม อาหาร น้ำหวานต่างๆ ท่านรับมาแล้ว เกินความจำเป็น ท่านก็แบ่งๆ ให้ญาติโยมเอาไปทานกัน
ผมล่ะบ่อยเลย ไปหาท่านทีไร ท่านก็ให้ผลไม้ น้ำหวาน ฯลฯ กลับมาทุกครั้ง

----------------------------------

เวลาท่านต้องการอะไรที่ท่านหาซื้อเองไม่ได้ ท่านโทรหาผม ท่านบอกว่า "ฝากซื้อ" นะครับ
ไม่ใช่ขอบริจาค หรือ ขอบิณฑบาตร

ถ้าไปอยู่กับท่านจะทราบเลยว่า เงินทุกบาททุกสตางค์ ท่านใช้อย่างคุ้มค่าสุดๆ
สำนักสงฆ์ของท่าน เวลาก่อสร้างอะไร ...อะไรที่ทำเองได้ ท่านทำเองหมด ไม่ยอมเสียค่าจ้าง
ปีนขึ้นซ่อมหลังคากุฎิ ถมดิน ซ่อมพัดลม ท่อน้ำ...ฯลฯ ...(อย่าลืมว่าท่านอายุ 80 กว่าแล้วนะครับ)
งานที่เสี่ยงๆ บางอย่าง เช่นปีนขึ้นที่สูง ท่านจะทำเอง ...เราก็เป็นห่วง บอกจะช่วย
ท่านบอกไม่ต้องๆ ท่านทำเองปลอดภัยกว่า.....แน่ะ ดูซิครับ คนอายุ 80 กว่าบอกแบบนี้

----------------------------------

ผมบวชอยู่กับท่าน ไม่มีกิจนิมนต์เลย ท่านไม่รับกิจนิมนต์ครับ
ท่านให้ปฏิบัติอยู่ที่สำนักอย่างเดียว ไม่จำเป็นไม่ให้ออกไปไหน

ก็พอจะมีญาติโยมมาถวายเงินบ้าง
ผมนับแล้ว บวช 9 เดือน รวมๆ แล้วประมาณ 5,000 บาท
เฉลี่ยเดือนละ 500 บาท แค่พอค่ารถเดินทางไปกลับ กับซื้อของใช้นิดหน่อย
จะกลับบ้าน ท่านก็ถามครับ ว่ามีตังค์หรือเปล่า ...ถ้าไม่พอท่านก็ให้
อยู่กับท่าน อยู่อย่างเรียบง่ายจริงๆ

----------------------------------

เงินทั้งหมดที่ท่านมี ท่านจะมาประกาศบอกญาติโยมเรื่อยๆ ว่า ขณะนี้มีเท่าไหร่
ท่านมีประมาณ 2-3 แสนครับ ทั้งวัดมีเงินแค่นี้ ท่านพยายามไม่ให้มากไปกว่านี้
บางทีท่านถึงกับประกาศไม่รับบริจาคเงินเลยครับ

ที่ผ่านมาท่านสร้างสำนักท่าน ท่านไม่เคยออกปากบอกบุญเลย ท่านบอกว่า "มีก็ทำ ไม่มีก็ไม่ทำ"
แต่ก็แปลกครับ เวลาท่านสร้าอะไร ท่านบอกว่า เงินก็มาเรื่อยๆ สร้างอะไร ไม่นานก็เสร็จ

ใครเคยไปสำนักท่าน จะเห็นว่า มีแต่งสิ่งปลูกสร้างที่จำเป็นจริงๆ
ไม่มีวิหาร เจดีย์อะไรสวยๆ ประดับประดาเลย ...ทุกอย่างไว้ใช้งานแบบพอดีๆ ไม่สบายเกินไป แต่ก็ไม่ถึงกับลำบาก

----------------------------------

เรื่องการใช้ปัจจัยของหลวงพ่อ ใครจะคิดอย่างไรผมไม่ทราบ
ผมคิดว่า ท่านเป็นพระที่อยู่บนพื้นฐานความเป็นจริงที่สุด เป็นตัวอย่างที่ดี ไม่ติดเรื่องเงินทองเลย

...เราใช้เงิน อย่าให้เงินใช้เรา...
ความลับที่ผมไม่อยากให้สูญหายไปจากโลกนี้

----------------------------------

อัลบัมภาพที่ สำนักปฏิบัติธรรมถ้ำเขาพระ คลิ๊กที่นี่ครับ >>
https://www.facebook.com/profile.php?id=100003045785418&sk=photos&collection_token=100003045785418%3A2305272732%3A69&set=a.252915741486617.47801.100003045785418&type=3

 

หลวงพ่อสมบูรณ์จะมาพำนักที่วัดสนามใน
วันที่ 13 - 15 มีค. นี้
ขอเชิญกัลยาณมิตรเข้าร่วมปฏิบัติธรรมกับท่านได้ที่ศาลาเอนกประสงค์
ตามเวลาดังนี้

เช้า 9.00 - 10.30 น.
บ่าย 13.00 - 15.00 น.

ขอให้มาตรงตามเวลาดังกล่าว เพื่อปฏิบัติไปพร้อมๆ กันนะครับ
ใครมีข้อสงสัยอะไร สามารถสอบถามท่านได้หลัง 15.00 น. แล้วครับ

รายละเอียดการเดินทางครับ

 

สาธุครับ

 

ขอบคุณค่ะที่แนะนำพระดี ๆ เมื่อกี้ให้แฟนโทรไปหาท่านแล้วค่ะ ใจดีมากค่ะ หากมีจังหวะว่าง ๆ จะได้แวะไปกราบท่านที่วัดค่ะ
อนุโมทนาค่ะ