พระกราบแม่ ถ้าพระรูปใดทำอย่างนั้นแปลว่าส่งแม่ลงอเวจีไปเรียบร้อยแล้ว

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย Saber, 13 สิงหาคม 2015.

  1. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    พระอาจารย์กล่าวว่า "มีโยมถามว่า พระกราบแม่ ล้างเท้าให้แม่ได้หรือไม่ ? ก็ต้องบอกว่า ถ้าพระรูปใดทำอย่างนั้นแปลว่าส่งแม่ลงอเวจีไปเรียบร้อยแล้ว ขอแสดงความยินดีด้วย..!

    อันดับแรก...พระถือศีล ๒๒๗ ข้อ จัดเป็นอุดมเพศ แม้แต่สามเณรที่ถือศีล ๑๐ พระยังไม่สามารถที่จะรับไหว้ได้ แล้วนี่เราไปกราบแม่ ก็สร้างโทษให้เกิดกับแม่หนักมาก

    ลำดับต่อไป ก็คือ การล้างเท้าให้แม่ แม่เป็นผู้หญิง จัดเป็นวัตถุอนามาส ภิกษุจับต้องกายหญิงแล้วเกิดจิตกำหนัดขึ้นมา ต้องอาบัติสังฆาทิเสส ขาดจากความเป็นพระ ต้องโดนลงโทษด้วยการอยู่ปริวาสจนกว่าจะครบตามกำหนด แล้วให้คณะสงฆ์อย่างน้อย ๒๐ รูป สวดคืนความเป็นพระให้ ถึงกลับเป็นพระอีกครั้งหนึ่ง ถ้าไม่มีจิตกำหนัด ร่างกายของผู้หญิง สิ่งของที่เนื่องด้วยกายหญิง อย่างเช่น เส้นผม หรือเสื้อผ้า ก็จัดเป็นวัตถุอนามาส จับแล้วโดนอาบัติทุกกฏ จะไปคิดว่าเป็นแม่ตัวเองไม่ได้ ก็แปลว่าแม้แต่ตัวพระเองก็เสี่ยงกับอาบัติหนักมาก

    ลำดับต่อไปก็คือ เกิดโทษหนักกับตัวเองในลักษณะของอัญญสัตถุทเทส เพราะว่าไปกราบไหว้ผู้อื่นที่ไม่ใช่ศาสดา ถ้าวัดน้ำหนักกันแล้ว เขาให้น้ำหนักเท่าอนันตริยกรรมเลย ก็แปลว่าพระเองก็เกิดโทษหนักมาก โอกาสที่จะได้มรรคได้ผล ก็กลายเป็นไม่มีไปเลย

    ลำดับต่อไป ก็คือ ไปปิดมรรคผลของบุคคลที่เป็นแม่ด้วย เนื่อง จากว่าผู้เป็นแม่แทนที่จะเคารพพระรัตนตรัย กลายเป็นว่าจะรอให้ลูกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัยมาทำความเคารพ ไม่เช่นนั้นก็จะมานั่งคิดว่า ปีที่แล้วลูกยังทำแบบนี้ แล้วปีนี้ทำไมลูกไม่มาทำ ทำให้แม่ขาดจากพระรัตนตรัย ปิดมรรคปิดผลไปเลย ชาตินี้ไม่ต้องคิดกัน

    ดังนั้น...เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะได้ยินว่าบุคคลที่ทำมีชื่อเสียง ซึ่งจะทำให้บรรดาท่านที่สิ้นสติเลียนแบบกันเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอนในปี หน้า"


    "เรื่องพวกนี้จะว่าไปแล้ว อย่างที่หลวงพ่อวัดท่าซุงท่านเคยว่าไว้ก็คือ “เป็นพระ จะไม่รู้ไม่ได้” เพราะว่าพระนั้นศีลจะขาดก็ต่อเมื่อ

    ๑. ต้องโดยไม่รู้ (อ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ บวชเข้าไปแปลว่าต้องรู้ว่าพระมีศีลอะไรบ้าง เขาถึงให้ไปเป็นนาคก่อน)
    ๒. ต้องโดยไม่ละอาย (นี่ก็คือรู้แล้วแต่ฝ่าฝืนไปทำ เรียกว่าพวกหน้าด้าน)
    ๓.
    ต้องโดยสงสัยแล้วขืนทำ (ไม่แน่ใจแล้วไปทำ ต่อให้ทำถูกก็โดนปรับอาบัติ ศีลขาด)
    ๔. ต้องโดยสำคัญว่าควรในของที่ไม่ควร
    ๕. ต้องโดยสำคัญว่าไม่ควรในของที่ควร
    ๖.
    ต้องโดยลืมสติ

    เรื่องของพระเราโอกาสที่จะแก้ตัวก็นั้นไม่มี จะอ้างว่าไม่รู้ก็ไม่ได้ อ้างว่าขาดสติก็ไม่ได้ อ้างว่าเข้าใจผิดก็ไม่ได้ เพราะว่าพระพุทธเจ้าท่านปรับไว้ทุกรูปแบบ จำเป็นที่จะต้องศึกษาให้ชัดเจนก่อนแล้วถึงบวช ไม่อย่างนั้นบวชเข้าไปพระอุปัชฌาย์อาจารย์ต้องรีบชี้แจงให้ชัดเจนก่อน

    อย่างของวัดท่าขนุน จะมีการชี้แจงในเรื่องของอาบัติที่โทษหนักและล่อแหลมคือ ปาราชิก ๔ และสังฆาทิเสส ๑๓ ไว้ ชัดเจนมาก ถึงเวลาแล้วศีล ๑๗ ข้อนี้คุณต้องรู้ อ้างว่าไม่รู้ไม่ได้ อาบัติอื่นสามารถแก้ไขแสดงคืนต่อหน้าคณะสงฆ์ได้ แต่อาบัติสองอย่างนี้ ปาราชิก ๔ ข้อ ถ้าโดนแล้วขาดจากความเป็นพระไปเลย แก้ไขไม่ได้ ส่วนสังฆาทิเสส โดนแล้วขาดความเป็นพระชั่วคราว จนกว่าจะได้รับโทษตามที่กำหนดไว้ แล้วให้คณะสงฆ์อย่างน้อย ๒๐ รูปสวดคืนความเป็นพระให้ ถึงจะกลับเป็นพระอีกครั้งหนึ่ง"


    "ย้อนกลับไปเรื่องเดิม นิดหนึ่งว่า บุคคลทั่วไปสมควรที่จะกราบเท้าแม่ ล้างเท้าแม่ แต่เป็นพระไม่สมควรด้วยประการทั้งปวง เพราะก่อให้เกิดโทษหนักทั้งตนเองและแม่ของตน ที่น่าเสียดายที่สุดก็คือ ถ้าแม่มีโอกาสจะได้มรรคได้ผล ก็เท่ากับไปปิดมรรคปิดผลของแม่ไปเลย

    ถ้าแม่ไปปลื้มว่าลูกมากราบเท้า ดีเหลือเกิน แล้วตั้งหน้าตั้งตารออีกก็เฮง แม่พระสารีบุตรนั้น จนวินาทีสุดท้ายถึงยอมกราบลูก"


    เก็บตกจากบ้านวิริยบารมี ต้นเดือนกันยายน ๒๕๕๗

    ที่มา : เว็บวัดท่าขนุนดอทคอม
    www.watthakhanun.com/webboard/showthread.php?t=4133&page=5
     
  2. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    พระอาจารย์เล็กเมตตาแนะนำว่า "ตอนเป็นฆราวาสให้รีบทำเสียก่อน อย่ามารอตอนเป็นพระ"


    พระอาจารย์เล็กเมตตาแนะนำต่อว่า "หากพระรูปใดกราบแม่แล้ว ให้พระรูปนั้นกราบขอขมาพระรัตนตรัย และบอกให้แม่กราบขอขมาพระรัตนตรัยด้วย"

    ที่มา : พระอาจารย์เล็กตอบคำถามผู้สมัครบวชพระวัดท่าขนุน

    หมายเหตุ : หากท่านใดคัดลอกคำสอนในเรื่องนี้ กรุณาคัดลอกไปทั้งหมด เพื่อความครบถ้วนของเนื้อหานะครับ
     
  3. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    เรื่อง พวกนี้ถ้าเราไม่ทำให้ชัดเจน ไม่ชี้แจงให้ชัดเจน ต่อไปพอญาติโยมเห็นว่าพระไปกราบเท้าแม่ ล้างเท้าแม่ แล้วไปชื่นชม ก็เท่ากับว่าโมทนาสิ่งที่ไม่ดี ก็จะเกิดโทษกับตัวเองด้วย ดังนั้น..เรื่องทั้งหลายเหล่านี้เราต้องระมัดระวังเอาไว้ เพราะว่าแค่กึ่งพุทธกาล นี่แค่ ๒๕๕๗ ปีเท่านั้น ถ้าเราจะนับตั้งแต่องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้าตรัสรู้ ก็เพิ่งจะ ๒๖๐๒ ปีเท่านั้น การประพฤติปฏิบัติก็ยังนอกลู่นอกทางถึงขนาดนี้แล้ว ยิ่งนานไป ถ้าไม่มีใครทำให้ชัดเจน ก็จะยิ่งเละเทะหนักขึ้นไปอีก"
     
  4. alkuwaiti

    alkuwaiti เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 มิถุนายน 2013
    โพสต์:
    372
    ค่าพลัง:
    +1,257
    กระทู้นี้น่าจะมีรูปภาพประกอบด้วย จะทำให้ดูน่าสนใจยิ่งขึ้น

    เข้าใจด้วยเหมือนกันครับ พระกราบแม่ไม่ได้ แม่ก็จะได้บาปติดตัวไปด้วย เมื่อเป็นพระต้องรู้ว่าอะไรที่ตนเองทำได้หรือทำไม่ได้ ไม่ใช่สักแต่ว่านึกอยากทำอะไรก็ทำไปเรื่อย ตอนเป็นฆราวาสเคยทำยังไง พอมาเป็นพระก็ทำเหมือนเดิม มันไม่ได้ อะไรคือของสูง อะไรคือของต่ำ อะไรมีค่ามากกว่ากัน ทั้งพระและฆราวาสจำเป็นต้องเรียนรู้และเข้าใจเพื่อที่จะได้ไม่ทำผิดพลาด
     
  5. ddman

    ddman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    2,046
    ค่าพลัง:
    +11,941
    http://palungjit.org/threads/%E0%B8%84%E0%B8%A7%E0%B8%A3%E0%B8%AB%E0%B8%A3%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B9%84%E0%B8%A1%E0%B9%88%E0%B8%84%E0%B8%A3%E0%B8%B1%E0%B8%9A-%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B8%97%E0%B8%B5%E0%B9%88%E0%B8%9E%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%A5%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B8%87%E0%B9%80%E0%B8%97%E0%B9%89%E0%B8%B2%E0%B9%81%E0%B8%A1%E0%B9%88.384763/

    เห็นผิดคนเดียว พาคนอื่นไปอเวจีด้วยอีกมาก ...สังสารวัฏนี้มีภัยอย่างยิ่ง....:':)'(

    ...ชาว บ้านเช่นเราๆนั้น สมควรทราบข้อวินัยไว้บ้างเพื่อช่วยกันรักษาพระศาสนาไว้ให้ตนเอง ว่าหากตายไปแล้วได้มีบุญให้เกิดมาในประเทศถิ่นนี้จะได้พบพระศาสนาที่ยังถูก ต้องไม่บิดเบี้ยวเหยเกแทบจะเซล้มไปกลายเป็นลัทธิทำอะไรก็ได้ตามใจข้าพเจ้า แต่ก็ดูท่าว่าอีกไม่นานพระศาสนานี้ก็จะไร้ร่องรอยไปแล้ว ..พยายามสั่งสมอุปนิสสัยในการเห็นด้วยกับพระพุทธเจ้าให้มากในทุกเรื่องเถิด ครับ ย่อมได้ปัจจัยให้ได้พบแต่ของจริงตามที่ทรงตรัสสอนไว้..
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 14 สิงหาคม 2015
  6. ร้อนแรง

    ร้อนแรง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 สิงหาคม 2009
    โพสต์:
    212
    ค่าพลัง:
    +716
    กระผมขออนุญาตท่านพระอาจารย์เล็ก ขออนุญาตก๊อปปี้เอาไปโพสใน เฟสบูกครับผม เพื่อคนทั้งหลายที่ยังไม่เข้า และได้ศึกษามา ได้อ่านได้ศึกษา และเอาไปใช้เพื่อประโยชน์แก่ตนเอง และผู้อื่นภในกาลณ์ต่อไป
     
  7. naitiw

    naitiw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 มกราคม 2006
    โพสต์:
    1,611
    ค่าพลัง:
    +2,882
    [​IMG]

    จริง อ่านเรื่องนี้มานานแล้ว พระท่านไม่ได้อยู่ในตำแหน่งจะมาไหว้ฆราวาส

    แม่จะมีบาปติดตัวทันที ต้องระวังให้มาก

    แล้วแม่ไหว้ในความดีงามของพระ ไม่ได้ไหว้ลูกตัวเอง อย่าสับสน
     
  8. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    แต่ผมก็มีข้อสงสัยอยู่นะ?

    ทางพุทธศาสนา เราจะเน้นว่ากรรมขึ้นกับ ผู้กระทำ
    ดังนั้น ในกรณีพระลูกกราบแม่ . ผมไม่ได้เข้าใจไปว่าแม่บังคับพระลูกให้กราบเสียหน่อย
    แต่ผมเข้าใจว่าพระลูกต่างหากที่ตัดสินใจกราบแม่!

    และดังนั้นผู้กระทำกรรมไม่ว่าจะถูกหรือผิด ไม่ใช่ฝ่ายพระลูกหรือ ที่จะต้องเป็นฝ่ายได้ผลแห่งการกระทำนี้
    แล้วเหตุไฉนจึงกล่าวว่าแม่จะเป็นฝ่ายรับโทษกรรมนี้ไปได้?

    อีกทั้งยังจะกล่าวว่าจะตกนรกอเวจีเลยทีเดียว
    ซึ่งถ้ากรณีผู้เป็นแม่ต้องลงอเวจีแล้วไซ้ พระลูกซึ่งเป็นผู้ก่อเหตุ
    ย่อมสมควรได้รับโทษหนักกว่านั้นเช่นกันจึงจะนับว่าเป็นธรรมได้
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 สิงหาคม 2015
  9. noawarat pakdee

    noawarat pakdee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    242
    ค่าพลัง:
    +682
    ตามความเข้าใจ ที่ว่าแม่เป็นฝ่ายผิดนั้นก็คือ เมื่อเห็นการกระทำของพระลูก
    ไม่รีบแจ้งหรือกล่าวห้าม(ในกรณีที่รู้ว่า พระภิกษุไม่สามารถไหว้ฆาราวาสได้ถึงแม้จะเป็นแม่ก็ตาม) ไม่ให้พระลูกกระทำเช่นนี้ เท่ากับเห็นดีเห็นงามหรือกำลังเคลิ้มปิติ ย่อมถึงโทษหนักเอาการล่ะท่าน..
    อืม!! ว่าแต่ว่า จนปานนี้ พระลูก กับแม่ เขาสองท่านรู้หรือยังหนอ..
     
  10. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    คนที่เห็นคนทำผิดแล้วไม่ทันได้ห้ามปราม ก็คงต้องรับผิดแทนสินะ?
     
  11. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ลำดับต่อไป ก็คือ ไปปิดมรรคผลของบุคคลที่เป็นแม่ด้วย เนื่อง จากว่าผู้เป็นแม่แทนที่จะเคารพพระรัตนตรัย กลายเป็นว่าจะรอให้ลูกซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของพระรัตนตรัยมาทำความเคารพ ไม่เช่นนั้นก็จะมานั่งคิดว่า ปีที่แล้วลูกยังทำแบบนี้ แล้วปีนี้ทำไมลูกไม่มาทำ ทำให้แม่ขาดจากพระรัตนตรัย ปิดมรรคปิดผลไปเลย ชาตินี้ไม่ต้องคิดกัน

    ดังนั้น...เรื่องนี้เป็นเรื่องที่อันตรายมาก เพราะได้ยินว่าบุคคลที่ทำมีชื่อเสียง ซึ่งจะทำให้บรรดาท่านที่สิ้นสติเลียนแบบกันเป็นจำนวนมากอย่างแน่นอนในปี หน้า"
     
  12. Snow

    Snow เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 พฤศจิกายน 2005
    โพสต์:
    704
    ค่าพลัง:
    +2,381
    อนุโมทนากับจขกท.ด้วยค่ะสำหรับความรู้ในครั้งนี้
     
  13. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    สุเมโธ ภิกขุ พระวินัยปิฎก จุลวรรค เล่ม ๗ ภาค ๒ หน้าที่ ๑๓๖
    บุคคลที่ไม่ควรไหว้ ๑๐ จำพวก[๒๖๔] ดูก่อนภิกษุทั้งหลาย บุคคล ๑ จำพวกนี้ อันภิกษุไม่ควรไหว้ คืออันภิกษุผู้อุปสมบทก่อนไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อุปสมบทภายหลัง ๑
    ไม่ควรไหว้ อนุปสัมบัน ๑
    ไม่ควรไหว้ภิกษุนานาสังวาสผู้แก่กว่า แต่ไม่ใช่ธรรมวาที ๑
    ไม่ควรไหว้มาตุคาม ๑
    ไม่ควรไหว้บัณเฑาะก์ ๑
    ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้อยู่ปริวาส ๑
    ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรชักเข้าหาอาบัติเดิม ๑
    ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรมานัต ๑
    ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ประพฤติมานัต ๑
    ไม่ควรไหว้ภิกษุผู้ควรอัพภาน ๑
     
  14. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
  15. โมทนาman

    โมทนาman เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    5,665
    ค่าพลัง:
    +6,165
    สาวกฝรั่ง?
     
  16. TheVisionMind

    TheVisionMind เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2014
    โพสต์:
    1,827
    ค่าพลัง:
    +2,227
    โอ้ลุง.. ไม่ได้เข้าใจความหมายและการสื่อสารสินะ
    อย่าเห็นแต่ผิวสิลุง!
     
  17. tjs

    tjs ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต ผู้สนับสนุนพิเศษ

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 เมษายน 2012
    โพสต์:
    3,650
    ค่าพลัง:
    +20,326
    อิฉันอยู่ของฉันดีๆ แล้วพระลูกชายมาขอกราบอิฉัน แล้วอิฉันต้องตกนรกหรอ ทำไมเป็นอย่างนั้นละ อิฉันไม่ได้มีเจตนาอะไรที่ไม่ดีนิ ท่านพระลูกชายมาขอกราบ อิฉันอยู่เฉยๆ แล้วอิฉัน ต้องตกนรกอเวจีขนาดนั้นเลยหรือ อิฉันอยู่เฉยๆมีแต่ความรักเมตตา ต่อพระลูกชายเท่านี้ อิฉันทำบาปกรรมตรงไหน ถึงต้องตกนรกอเวจี

    ตามกฏแห่งกรรม กรรมเกิดจากการกระทำ ทั้งกาย วาจา จิต การกระทำ ออกจากผู้ใด ผู้นั้นย่อมต้องรับผลแห่งกรรมนั้น เมื่อพระลูกชายทำผิดวินัยสงฆ์ว่าด้วยการกราบไหว้บุคคลที่ไม่สมควรแก่การกราบไหว้ ตามพระวินัย นั่นย่อมหมายความว่า พระสงฆ์รูปนั้น ทำผิดวินัยด้วยการกราบไหว้มารดา เช่นนี้ถือว่า
    1 ผิดวินัย และเป็นบาปกรรม ดังนั้นกรรมส่วนนี้ย่อมตกเป็นของตน ไม่เกี่ยวกับผู้อื่น ใครทำคนนั้นก็ต้องรับผล
    2และถามว่าผิดวินัยมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องมาดูว่า วินัยดังกล่าวบัญญัติไว้ในหมวดหมู่ใด ใช่ปราชิกหรือเปล่า ถ้าปราชิก4อันนี้กรรมหนักมาก ถ้าสังฆาทิเสฏ อันนี้รองลงมา หรือถ้าแค่อาบัติ ก็รองลงมาอีก สรุปเมื่อดูแล้วก็คือผิดอาบัติปาจิตตี อย่างนี้ก็ให้ปลงอาบัติเมื่อเข้าอุโบสถ์เสีย ก็จบไป

    ส่วนคุณโยมมารดา โยมแม่ ไม่ได้เกี่ยวข้องอะไรด้วยก็ไม่มีบาปกรรมอะไร เพราะตนไม่ได้ทำอะไร กรรมส่วนใดจึงไม่เกิดมีกับตน ก็จบเท่านั้น แต่ถ้าโยมแม่เกิดยินดีพอใจว่าฉันมีพระลูกชายมากราบ อันนี้ก็เป็นบาปกรรม เพราะพระลูกชายมีศีลมากกว่าสูงกว่า เพราะลูกชายอยู่ในเพศบรรชิต อย่างนี้ มีกรรมหนักตกนรกแน่นอนอันตราย ดังนั้น โยมแม่ที่รู้เข้าใจเรื่องนี้ก็ต้องบอกพระลูกชายให้ทราบและไม่ยินยอมให้พระลูกชายกราบไหว้ตน แต่ถ้าโยมแม่ไม่ทราบอะไรเลย ก็ไม่รู้ก็ไม่ผิดไม่บาป ครับ

    ดังนั้นเรื่องกรรม ต้องเข้าใจกฏแห่งกรรม บาปกรรมคือ ต้องประกอบด้วยเจตนาทำ และเกิดการกระทำขึ้นทั้งกายวาจาใจ เมื่อนั้นบาปกรรมจึงเกิดครับ สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 28 กันยายน 2015
  18. แสงอุ่น

    แสงอุ่น เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    612
    ค่าพลัง:
    +1,036
    ในความคิดเห็นส่วนตัว เราเห็นว่าการกระทำที่แสดงถึงความรักและเคารพของพระลูกนั้น บริสุท และมีเจตนาที่ดีต่อมารดาผู้ที่โอบอุ้มพระลูกมาจนโต จึงได้มาบวชเรียนได้ เราขอสรุปส่วนตัวว่าไม่ผิด แต่ว่าไม่ควร เท่านั้น
     
  19. Saber

    Saber เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 มิถุนายน 2010
    โพสต์:
    5,941
    กระทู้เรื่องเด่น:
    19
    ค่าพลัง:
    +11,819
    ความคิดเห็นส่วนตัวทางโลกๆ

    กับผลของ กฏแห่งกรรม ตามความเป็นจริง

    จะได้บุญ หรือ ได้ บาป ก็พิจารณาดูได้ด้วยตัวเองตามภูมิธรรมของตัวเอง ^^

    .
     
  20. VERAJAK

    VERAJAK เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 พฤษภาคม 2009
    โพสต์:
    998
    ค่าพลัง:
    +1,579
    พระพุทธเจ้ายังกราบพระบิดา. ยังเสด็จดาวดึงห์โปรดพุทธมารดา. พระมีศีล227ข้อ. คำถามคือพระรูปนั้นรักษาศีลได้ครบรึเปล่าทั้ง227ข้อ ถ้าครบท่านคือพระอริยสงฆ์เจ้าท่านย่อมรู้สิ่งไหนควรสิ่งไหนมิควร โดยมิต้องมีใครบอกกล่าว. แต่ถ้าพระรูปนั้นรักษาศีลไม่ครบ227ข้อละ แค่ศีล5ก็ไม่ครบท่านว่าพระรูปนั้นมีศีลต่างจากปุถุชนตรงไหน. แค่แต่งกายเท่านั้นคือนุ่งเหลืองห่มเหลือง ใช่รึไม่ครับ? ทีนี้มาดูที่คำว่ากตัญญู พระพุทธเจ้าทรงสั่งสอนเรื่องความกตัญญูรู้คุณบิดามารดาและให้ความสำคัญในเรื่องนี้มากที่สุด. ท่านลองคิดตามนะครับ
    ในขณะที่แบเบาะท่านไม่สามารถหยิบขวดนมมาดูดกินเองได้ใครทำให้ มิใช่บิดามารดารึครับที่อดนอนเมื่อลูกหิวต่อให้ง่วงแค่ไหนก็ต้องลุกขึ้นมาชงนมให้ลูกกินจริงใหมครับ?ท่านจึงมีสังขารเติบโตมาเพื่อบวชเรียนทำทุกข์ให้แจ้งได้จริงใหมครับ. ถ้าไม่มีบิดามารดาท่านจะมีสังขารเติบโตจนทุกวันนี้รึครับ สมัยพุทธกาลพระสงฆ์ที่มีบิดามารดาป่วยไข้ไม่มีคนดูแลพระพุทธองค์ก็ทรงอนุญาตให้สาวกท่านไปปรนนิบัติมารดาที่ป่วยไข้ และเมื่อท่านสิ้นชีวิตเหลือแต่สังขารพระก็ก้มลงกราบเท้ามารดาเป็นการขอขมาครั้งสุดท้าย แต่มารดายังมีชีวิตยังหายใจกลับกราบไม่ได้ พระวินัยทรงบัญญัติไว้ว่าไม่สมควรกราบสามัญชนเพราะศีลน้อยกว่าแต่ไม่มีบทไหนห้ามกราบบิดามารดาเลย. ถ้าจะตีความว่าบิดามารดามิได้บวชก็ค่อสามัญชนนั้นสำหรับคนอื่นๆใช่แต่สำหรับลูกแล้วท่านว่าใช่รึเปล่าครับลองคิดดูนะครับเมื่อจุติก็อาศัยท้องมารดาเป็นที่ฟุมฝักจนค่อยๆเติบใหญ่จนสามารถออกมาจากครรณ์ตอนอยู่ในท้องแม่แม่จะทานอะไรที่มีรสชาดจัดๆก็มิได้จะมีผลต่อลูกน้อยได้ ตัวไม่สบายก็กินยามิได้เพราะจะมีผลอาจทำให้ลูกพิการได้ต้องไปพบหมออย่างเดียวจริงใหมครับ เมื่อออกมาก็ช่วยตัวเองมิได้ต้องให้มารดาเอาอาหารให้ทานตลอดทุกมื้อจนเติบใหญ่พอช่วยตนเองได้ แลัวมารดาคือปุถุชนของลูกรึครับ ถามจิตตัวเองให้ดีนะครับก่อนตอบ ถ้ามารดาไม่ทำลูกจะมีชีวิตรอดมาบวชได้ไหมครับ?นี่แค่นิดหน่อยยังมีอีกมากที่มารดาทำให้บุตรผมคงสาธยายไม่หมดครับ
    ทีนี้่านก็มาคิดต่อด้วยสติด้วยปัญญาว่าบิดามารดานั้นท่านมีคุณต่อเรามากแค่ไหนท่านว่าท่านชดใช้ให้หมดไหม? ทีนี้พระสมมุติสงฆ์ที่ออกบวชเพื่อทำทุกข์ให้แจ้งเมื่อท่านทำได้สำเร็จแล้วสิ่งหนึ่งที่พระอริยสงฆ์เจ้าทุกๆพระองค์จะทำคือต้องโปรดบิดามารดาให้รู้แจ้งเห็นจริงตามสติปัญญาของท่านจริงใหมครับ?นี่คือสิ่งที่สำคัญมากๆ พระอริยสงฆ์เจ้าทุกๆพระองค์จะต้องทำทันทีที่ท่านสามารถนำตนให้รู้แจ้งในทุกข์แล้ว. แต่พระสมมุติสงฆ์บางองค์ยังทำไม่สำเร็จในเร็ววัน แต่ก็พยายามทดแทนพระคุณบิดามารดาเท่าที่จะทำได้นั้นก็เป็นสิ่งดีจริงใหมครับรึท่านว่าไม่ดีครับ. เพราะฉะนั้น. สาธุชนทั้งหลายจงใช้สติและปัญญาในการพิจารณาว่าความกตัญญูที่พระพุทธเจ้าทรงสอนนั้นดีรึไม่และพระสมมุติสงฆ์ควรทำอย่างใด?ในการตอบแทนพระคุณอันล้นพ้นของบิดามารดา. สาธุ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 สิงหาคม 2015

แชร์หน้านี้

Loading...