อาเทสนาปาฏิหาริย์ และอนุสาสนีปาฏิหาริย์. พระบรมศาสดา และเหล่าผู้พระสาวก

ในห้อง 'อภิญญา - สมาธิ' ตั้งกระทู้โดย นโมพุทธายะ๕, 11 ตุลาคม 2014.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  2. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  3. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]

    ข้อสำคัญซึ่งเป็นสิ่งที่พระองค์ต้องการจะให้มีในพุทธบริษัทนั้นคือ ให้เป็นผู้องอาจต่อความตาย แต่ไม่ใช่ให้อยากตายจนถึงต้องประหารตัวเอง คำที่ว่าให้มีความองอาจต่อความตายนั้น หมายความว่าให้รู้ คือรู้ว่าเราเป็นคนตายอยู่เสมอๆ แล้วจะต้องมานั่งหวั่นไหวอะไรกับความตาย

    ...หลวงปู่จันทร์ สิริจนฺโท...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  4. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]


    ...โลก เป็นของกว้างขวาง และหมุนอยู่เสมอ ยากที่จะมองเห็นได้ง่าย ท่านจึงสอนให้เราหยุดหมุนตามโลก ให้มองแต่ตัวของเราอย่างเดียว แล้วเราก็จะมองเห็นโลกได้...

    ... ท่านพ่อลี ธัมมธโร ...
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  5. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]


    สมเด็จองค์ปฐม ทรงตรัสสอนธรรมไว้ มีความสำคัญดังนี้

    จงอย่ามีเวร-มีภัยกับใคร ทำใจให้สงบตั้งมั่น คิดเอาทุกอย่างที่เข้ามากระทบเป็นครู ทำกำลังใจไว้ให้ดี จงมั่นใจในผลของการปฏิบัติ รักษาอารมณ์จิตไม่ให้เร่าร้อนมีความเยือกเย็นอยู่เสมอ อย่าหุนหันพลันแล่น และจงมองคนในแง่ดีเอาไว้เสมอ รักษาอารมณ์ ไม่ปรุงแต่งเข้าไว้ ใครจักดีหรือชั่ว เป็นคนพาลหรือเป็นบัณฑิต ก็เรื่องของเขาไม่จำเป็นที่จักต้องนำพฤติการณ์ของใครมาคิด ทุกคนมีกรรมเป็นของตนเอง เขาก็เป็นปกติธรรมของเขาอยู่อย่างนั้นเอง จงเห็นธรรมเหล่านี้เข้าไว้ และยอมรับนับถือ ไม่นำมาปรุงแต่งให้เกิดความพอใจ หรือไม่พอใจ กระทบธรรมแล้วให้รักษาอารมณ์ ให้เป็นอารมณ์อุเบกขาเข้าไว้ จิตจักได้ไม่เป็นกิเลส จิตสงบ-จิตเป็นสุข เป็นจิตที่ทำให้เกิดปัญญาชนะกิเลสได้ทั้งปวง

    จากหนังสือ ธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น เล่มที่ ๑๕ รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน คัดลอกโดย ด.ญ. ปุณยนุช ขจรนิธิพร (ลูกหลาน หลวงพ่อพระราชพรหมยานสนับสนุนเครื่องคอมฯในการโพสต์ธรรมทานนี้)
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  6. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  7. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    ..อริยมรรคมีองค์แปด ไม่มีข้อไหนเลย ที่ให้สั่งสอนชี้แนะด้วยการใช้วาจากระแทกแดกดัน ส่อเสียด

    แม้นมีญาณหยั่งรู้เงือนไขกิเลส อาสวะ อนุสัย สันดานของเค้า ที่ทำให้เค้าติดอยู่ในโลก แต่หากพูดไปแล้วไม่ทำให้เกิดผลต่อการพ้นจากอกุศลธรรมนั้น แต่ทำให้อกุศลธรรมใหม่เกิดขึ้นมาอีก บ่วงกรรมใหม่ที่ไม่ดีเกิดขึ้นเพิ่มมาอีก

    .... ก็จงทรงพรหมวิหารสี่ไว้ ....

    รอสภาวะธรรมที่สมควรต่อการกระทำต่อไป



    คำครู
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 8 กันยายน 2015
  8. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]



    "....จงทราบว่า ขณะที่ภาวนาอยู่ ถ้าจิตไม่เข้าถึงฌานสมาบัติจะหลับไม่ได้เลย ถ้าภาวนาไปๆนานเกินไปมันหลับไม่ลงก็เลิก ปล่อยจิตคิดไปตามอารมณ์ ช่างมัน มันจะไปไหนก็ช่างมัน เดี๋ยวมันก็หลับ

    ....ถ้าเผอิญเราภาวนาไป เราก็คิดว่าจะภาวนาสัก ๑๐ - ๒๐ - ๓๐ หรือ ๑๐๘ ก็ตาม ถ้าภาวนาไปครั้งสองครั้งสามครั้ง มันจะหลับต้องปล่อยเลย จงทราบว่า ถ้าเริ่มภาวนาพอจิตจะเคลิ้มหลับ

    ...ตอนที่จิตจะเคลิ้มหลับ เป็นอุปจารสมาธิ ถ้าอุปจารสมาธิละเอียด ถ้าจิตเข้าถึงปฐมฌานจะตัดหลับทันที ถ้าเป็นได้อย่างนี้ก็ควรจะภูมิใจมาก

    ....สมมุติว่า ถ้าภาวนา พุทโธ หรือ นะ มะ พะ ธะ พอนึกว่า พุท ไม่ทัน โธ หลับ นะ ไม่ทันพะ หลับ เอ ชักยุ่งแล้ว แต่ความจริงควรจะภูมิใจว่า ดี นี่แหละจิตเข้าถึงฌานเร็ว เพราะการฝึกสมาธิ เราต้องการให้จิตเข้าถึงฌานให้เร็วที่สุดเท่าที่จะเร็วได้ อย่าไปนึกว่าขี้เกียจเสียแล้ว นะ คงไม่เป็นเรื่อง ไม่ใช่อย่างนั้นนะมันเป็นผลดี..

    ....คือ พุท ไม่ทัน โธ หลับ แสดงว่าพอ พุท จิตเข้าถึงปฐมฌานก็ตัดหลับ นี่พระพุทธเจ้าต้องการแบบนี้ ถ้า นะ ไม่ทัน พะ หลับ อันนี้จิตเข้าถึงฌาน อย่างนี้ต้องการมาก

    ....และขณะที่กำลังหลับเพราะฌานสมาบัติ อย่างนี้ต้องทราบเลยว่า หลับเพราะสมาบัติ ขณะที่หลับอยู่ ท่านถือว่าเป็นการทรงฌานตลอดเวลา จนกว่าจะตื่น ถ้าขณะที่ท่านภาวนาแล้วหลับ โดยจิตท่านไม่ตั้งอยู่ที่นิพพาน ถ้าตายเวลาหลับไปพรหมโลกทันที เพราะคนที่ตายขณะทรงฌานอยู่ไปพรหมโลก..."

    "..... ถ้าจะถามว่า หลับในสมาธิต่ำกว่าฌานมีไหม ก็ต้องตอบว่าเวลาจะหลับ อย่างต่ำที่สุดจิตจะต้องเข้าถึงปฐมฌาน

    ...ถ้าภาวนาไปจนหลับ ต้องสังเกตเวลาตื่น ถ้าเราตื่นมารู้สึกตัวเต็มที่ ตื่นแล้วไม่ต้องรีบลุก ถ้าภาวนาจนหลับ ถ้าตื่นขึ้นอย่าลุกขึ้นมาภาวนา นอนอยู่อย่างนั้น ภาวนาต่อไป ถ้าลุกขึ้นมาจิตเคลื่อน สมาธิมันก็เคลื่อน นอนอยู่แบบนั้น ภาวนาต่อไปเลย ถ้าหากเราตื่นเต็มที่ รู้สึกตัวเต็มที่ ไม่ภาวนาเอง เราต้องบังคับให้ภาวนา นี่แสดงว่าขณะหลับ เราเข้าถึงปฐมฌานหยาบ ปฐมฌานหยาบนี้เป็นพรหมชั้นที่ ๑ ได้ มีสิทธิ์เป็นพระโสดาบันได้ ...

    .....ถ้าหากว่า เวลาตื่นขึ้นมา รู้สึกตัวเต็มอัตราแล้ว มันเกิดภาวนาขึ้นมาเองในขณะนั้น ก็เป็นเครื่องสังเกตว่า ขณะที่หลับเราเข้าถึงปฐมฌานชั้นกลาง

    ...ปฐมฌานนี้มี ๓ อย่าง คือ หยาบ กลาง ละเอียด

    ....และอีกอันหนึ่ง ถ้าตื่นขึ้นมารู้สึกตัวครึ่งหลับครึ่งตื่น ไม่ทันจะตื่นเต็มที่ รู้สึกตัวว่าภาวนาอยู่แล้ว เวลาจะหลับเข้าถึงปฐมฌาละเอียด จุดนี้ ถ้าตายจากความเป็นคนก็เป็นพรหมชั้นที่ ๓

    ..ปฐมฌานอย่างกลาง เป็นพรหมชั้นที่ ๒

    ..ปฐมฌานอย่างหยาบ เป็นพรหมชั้นที่ ๑ ..."

    .
    .
    ☆หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดจันทาราม(ท่าซุง)อุทัยธานี☆

    -----------------------------------
    ที่มาจาก...หนังสือโวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๒ หน้า ๔๔ - ๔๕
    โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน .วัดจันทาราม(ท่าซุง) ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี..,จัดพิมพ์โดย..ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย..
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  9. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]



    พระธรรมคำสอนสมเด็จองค์ปฐม

    อารมณ์ปัจจุบัน คือตัวจริงของการปฏิบัติ
    ให้เห็นธรรมดาในสรรพวัตถุธาตุ คน-สัตว์
    วัตถุธาตุทุกสิ่งทุกอย่างในโลกว่า ไม่เที่ยง
    เป็นทุกข์-เป็นอนัตตาอยู่เสมอ

    อย่าไปมีอารมณ์เจือไปด้วยกิเลสกับสิ่งเหล่านี้
    ซึ่งหาความเป็นแก่นสาร-สาระอะไรไม่ได้
    จงอย่าคิดโง่ๆ ที่จักไปแก้ไขภายนอก เพราะ
    แก้ไขอาการของโลกไม่ได้หรอก ที่สุดก็มีแต่
    ต้องปล่อยวางไป จงตระหนักให้มากว่า
    อารมณ์ใดที่เจือไปด้วยกิเลส อารมณ์นั้นๆ
    แหละที่พาจิตของเราต้องจุติไป
    อย่างหาที่สิ้นสุดมิได้

    ดังนั้นถ้าหากปรารถนาพระนิพพานในชาติปัจจุบัน
    ก็จงเพียรปฏิบัติให้มาก และจงทำเดี๋ยวนี้ เพราะ
    อารมณ์ปัจจุบันนั่นแหละ คือตัวจริงของการปฏิบัติ
    จงอย่าไปมุ่งหมายว่าพรุ่งนี้แล้วจึงจักทำ

    จงจำไว้ว่าตัวปฏิบัติไม่มีอดีต-ไม่มีอนาคต-มีแต่ปัจจุบัน
    จงทำเดี๋ยวนี้ให้ดี ระวังอารมณ์กิเลสในขณะจิตนี้ให้ดี
    อย่าไปพอใจหรือไม่พอใจกับอะไรในโลกทั้งหมด
    ภาระที่มีอยู่ให้ทำไปตามหน้าที่เท่านั้น จงระวังเอาไว้
    เสมอว่า ชีวิตมันสั้นเข้ามาทุกที อย่าคิดว่าจักทำงาน
    ทางโลกจนเสร็จสิ้นหมดทุกอย่าง จงรีบมุ่งปฏิบัติ
    ทางธรรมให้เสร็จก่อนจักตายดีกว่า พิจารณาตามนี้
    ให้มากๆ แล้วจักได้ไม่ประมาทในชีวิต


    จากหนังสือธรรมที่นำไปสู่ความหลุดพ้น
    รวบรวมโดย พล.ต.ท. นพ. สมศักดิ์ สืบสงวน
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  10. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  11. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    "สุจริต ๓"

    [​IMG]




    ครั้งหนึ่ง

    มีอุบาสกได้กราบเรียนถามหลวงปู่ว่า "หลวงปู่ครับ ที่ว่าธรรมย่อมคุ้มครองผู้ประพฤติธรรม ธรรมในที่นี้หมายถึงอะไรครับ"
    หลวงปู่ตอบสั้นๆ ในทันทีว่า "กายสุจริต วาจาสุจริต มโนสุจริต"
    หลวงปู่ท่านไม่ได้ขยายความ เพราะรู้ว่านิสัยของนักศึกษาพวกนี้คงไปค้นคว้าเอาเองได้ ซึ่งก็เป็นเช่นนั้น
    กายสุจริตก็คือ การกระทำสิ่งที่ถูกต้องดีงาม ไม่ไปประพฤติผิดศีลข้อ ๑ ๒ และ ๓ คือ ไม่ไปละเมิดหรือเบียดเบียนในชีวิต ในทรัพย์ ในบุคคลที่เขาหวงแหน (หมายถึงประพฤติผิดในกาม)
    วาจาสุจริตก็คือ การพูดจาถูกต้องดีงาม ไม่ไปประพฤติผิดศีลข้อ ๔ ได้แก่ ไม่พูดเท็จ ไม่พูดหยาบคาย ไม่พูดยุแหย่ให้แตกแยก และไม่พูดเพ้อเจ้อ เลื่อนลอย ไร้เหตุผล
    มโนสุจริตซึ่งสำคัญที่สุด คือไม่ละโมบคิดเอาแต่จะได้ ไม่คิดร้ายมุ่งเบียดเบียนหรือเพ่งมองในแง่ที่จะทำลาย รวมทั้งการมีความเห็นถูกต้อง (สัมมาทิฏฐิ)
    อานิสงส์แห่งการมีกายสุจริต วาจาสุจริต และมโนสุจริต นี้เองที่จะมาคุ้มครองเรา ซึ่งแต่ก่อนก็คิดแบบเด็กๆ ว่าก็คุ้มครองเราให้แคล้วคลาดปลอดภัยยังไงล่ะ ซึ่งก็คงจะถูกระดับหนึ่ง แต่พอศึกษาธรรมและมีประสบการณ์ชีวิตมากขึ้น จึงรู้ว่าหมายถึงสิ่งที่ลึกซึ้งกว่านั้น นั่นก็คือคุ้มครองเราให้สามารถรักษากายใจให้เป็นปรกติสงบเย็นอยู่ได้ แม้ในท่ามกลางโลกธรรมที่เข้ามากระทบนั่นเอง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    "...พระโสดาบันขั้นสัตตขัตตุง มีจริยาคล้ายชาวบ้านธรรมดามาก ยังมีอารมณ์รุนแรงในความรัก ยังมีอารมณ์รุนแรงในความโลภ ในความโกรธ ในความหลง แต่ทว่าเป็นผู้มั่นคงในศีล ไม่ละเมิด

    ... สำหรับพระโสดาบันขั้นโกลังโกละ ขั้นโกลังโกละนี้มีอารมณ์เยือกเย็นมากหรือว่ามีความมั่นในคุณพระรัตนตรัย มีศีลมั่นคงมาก ความจริงเรื่องศีลนี่มั่นคงเหมือนกันแต่ว่าจิตของท่านเบาบาง ในด้านความรัก ความโลภ ความโกรธ ความหลง ความคำนึงถึง อารมณ์อย่างนี้มีอยู่แต่ก็น้อย ถ้ามีคู่ครองเขาจะโทษว่ากามคุณท่านลดหย่อนลงไป ความสนใจในเพศ ความสนใจในความโลภ อารมณ์แห่งความโกรธ อารมณ์แห่งความหลงมันเบา กระทบไม่ค่อยจะมีความรู้สึก...

    ... สำหรับพระโสดาบันขั้นเอกพิซี ในตอนนี้อารมณ์ของท่านผู้นั้น จะมีอารมณ์ธรรมดาอยู่มาก ขอท่านทั้งหลายโปรดอย่าลืมว่า พระอริยเจ้าจะเป็นฆราวาสก็ดีจะเป็นพระก็ดี จะเป็นเณรก็ดี จะเป็นคนมีจิตละเอียด ไม่ขัดคำสั่งผู้บังคับบัญชาและไม่ขัดคำสั่ง ไม่ฝ่าฝืนกฏระเบียบวินัยและกฏหมาย อันนี้เป็นอารมณ์ของพระโสดาบัน ที่ท่านทั้งหลายจะพึงทราบ..

    ... สำหรับเอกพิซีนี่ ความจริงมีอาการจิตใกล้พระสกิทาคามี แต่ทว่าสิ่งที่จะระงับไว้ได้นั้น กดด้วยกำลังของศีล มีความรู้สึกว่า เราจะต้องประคับประคองศีลของเราให้แจ่มใสอยู่เสมอ มองดูความรักระหว่างเพศ หรือว่าความร่ำรวย หรือว่าความโกรธหรือหลงในระหว่างเพศ หลงในสภาวะต่าง ๆ เห็นว่าเป็นของไร้สาระ มีอารมณ์เบาในความปรารถนาในสิ่งนั้น ๆ แต่ทว่าก็ยังมีความปรารถนาอยู่.."

    "...องค์ของพระโสดาบันก็คือ..
    ...๑. มีความเคารพในพระพุทธเจ้า
    ...๒. มีความเคารพในพระธรรม
    ...๓. มีความเคารพในพระอริยสงฆ์ นี่จัดเป็นองค์ที่มี ๓ ประการ

    ...และสิ่งที่จะแถมขึ้นมาก็คือ พระนิพพานเป็นอารมณ์ ทำทุกสิ่งทุกอย่างไม่หวังผลตอบแทน ไม่หวังความดี มีชื่อเสียงในชาติปัจจุบัน มีความรู้สึกต้องการอยู่อย่างเดียวว่าเราทำความดีทุกอย่างเพื่อพระนิพพานเท่านั้น...

    ...อารมณ์จิตตอนนี้ขอบรรดาท่านพุทธบริษัท ภิกษุ สามเณรทุกท่านต้องจำไว้ จงอย่าไปคิดว่า พระโสดาบันเลอเลิศไปถึงอารมณ์อรหันต์ โดยมากมักจะคิดว่าอารมณ์ของพระอรหันต์ เป็นอารมณ์ของพระโสดาบัน ก็เลยทำกันไม่ถึง เรื่องการคิดผิดความจริง การเป็นพระโสดาบันเป็นง่าย มีอารมณ์ไม่หนัก ที่หนักจริง ๆ ก็คือศีลอย่างเดียว..."
    .
    .
    ☆หลวงพ่อพระราชพรหมยาน
    วัดจันทาราม(ท่าซุง)อุทัยธานี☆
    -----------------------------------
    ที่มาจาก...หนังสือโวาทหลวงพ่อวัดท่าซุง เล่ม ๕ หน้า ๑๒๘,๑๓๐๑-๑๓๒
    โดย...หลวงพ่อพระราชพรหมยาน .วัดจันทาราม(ท่าซุง) ต.น้ำซึม อ.เมือง จ.อุทัยธานี..,จัดพิมพ์โดย..ศ.ดร.ปริญญา นุตาลัย..
     
  16. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     
  17. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  18. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]



    โกรธบ่อยๆ อายุจะสั้น
    ความโกรธนั้นทุกคนต้องมีเป็นธรรมดาตราบใดที่ยังไม่เป็นพระอรหันต์ก็ต้องมีจะมีมากบ้างน้อยบ้าง แต่เราก็ต้องระวังระงับให้ได้โดยใช้สติควบคุม การมาปฏิบัติธรรมก็สามารถช่วยให้ความโกรธน้อยลงได้บ้าง คือ ระงับได้เร็วขึ้น
    หลวงตาแนะวิธีการแก้อารมณ์โกรธว่า ให้หาภาพพระพุทธรูป หรือพระสงฆ์องค์ใดองค์หนึ่งที่เราเคารพนับถือ อัดขยายภาพให้ใหญ่แล้วใส่กรอบตั้งไว้ในที่ที่เหมาะสม และเราสามารถมองเห็นได้บ่อยๆ แล้วนั่งมองดูทุกวันๆ
    พอเวลาโกรธใครก็ให้นึกถึงหน้าท่าน แล้วอารมณ์โกรธก็จะหายไปเอง ให้ทำเช่นนี้เรื่อยๆ จนกลายเป็นความเคยชินพอเกิดอารมณ์โกรธปั๊บก็ให้เห็นหน้าท่านปุ๊บ กลายเป็นสมาธิเลย
    เวลาคนโกรธนั้นจะแสดงออกทางกาย ทางวาจา ทางใจ ทางกายก็ออกมาทางสีหน้าและแววตา การกระทำบ้าง ทางวาจาก็ด่าบ้าง ทางใจก็คิดมุ่งร้ายต่อเขาบ้าง
    รู้หรือเปล่าว่า เวลาโกรธ ร่างกายต้องทำงานมากขนาดไหน ธาตุทั้งสี่นั้นทำงานป่วนไปหมด คือ ทำงานไม่เป็นระบบ กระทบถึงหัวใจด้วย เป็นแบบนี้บ่อยๆเข้า โกรธบ่อยๆ อายุจะสั้น เพราะมันกระทบร่างกายโดยตรง เพราะจิตควบคุมธาตุอยู่ จิตเป็นอย่างไร ก็กระทบธาตุด้วย
    บางคนโกรธมาก มีอาวุธอยู่กับตัวก็ถึงขั้นทำร้ายกัน ฆ่าเขาติดคุกติดตาราง ต้องเดือดร้อนไปทั่วเพราะอารมณ์โกรธเพียงแค่นี้
    เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะไม่มีสติคอยควบคุม สิ่งเหล่านี้อยู่ที่การฝึกจิต ฝึกสมาธิ ให้สังเกตจากพอตาเห็นภาพปั๊บ หูก็ได้ยิน การสัมผัส อารมณ์จะเริ่มปรุงแต่งเสริมทันที ถ้าไม่มีตัวสติคอยควบคุมก็จะไปเรื่อย
    เหมือนกับการภาวนา เรากำลังภาวนาอะไรอยู่ก็ตาม เผลอแป๊บเดียว จิตก็ไปคิดเรื่องอื่นแล้ว นี่เป็นเพราะเราไม่มีสติเข้าไปควบคุม พอนึกได้ก็กลับมาภาวนาใหม่
    ฉะนั้น เวลาทำอะไร ต้องใช้สติเป็นตัวควบคุมตลอด
    ทำด้วยความมี "สติสัมปชัญญะ"

    . . .
    คติธรรมคำสอนโดย... พระอาจารย์วรงคต วิริยธโร (หลวงตาม้า) วัดพุทธพรหมปัญโญ (วัดถ้ำเมืองนะ) ต.เมืองนะ อ.เชียงดาว จ.เชียงใหม่
     
  19. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    [​IMG]
     
  20. นโมพุทธายะ๕

    นโมพุทธายะ๕ ก่อนตายไปอีกชาติ .. ใช้กายสังขารสร้างกำลังให้คุ้ม ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    21,604
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1,037
    ค่าพลัง:
    +70,114
    ..........................
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 28 กันยายน 2015
สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...