หลวงพ่อพระราชพรหมยานอธิบายเรื่องตัณหา

ในห้อง 'หลวงพ่อฤๅษีลิงดำ' ตั้งกระทู้โดย joni_buddhist, 13 กุมภาพันธ์ 2008.

  1. joni_buddhist

    joni_buddhist Legal returns ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กันยายน 2005
    โพสต์:
    13,555
    กระทู้เรื่องเด่น:
    203
    ค่าพลัง:
    +63,444
    [​IMG]
    ทีนี้ท่านก็เลยบอกว่าถ้าเราจะตัดตัณหาทุกอย่าง กามตัณหา ก็ดี ที่เราคิดว่าของมันยังไม่มี อยากให้มีขึ้น ภวตัณหา ที่มีแล้วอยากให้มันทรงตัว วิภวตัณหา เมื่อสิ่งเหล่านั้นเคลื่อนไปตามสภาพของมัน ถือเป็นกฎธรรมดา เราก็หาทางต้านทานว่า ร่างกายเราจงอย่าแก่เลย จงอย่าป่วยไข้ไม่สบายเลย จงอย่าเป็นอย่างนั้นเลย จงอย่าเป็นอย่างนี้เลย มันห้ามไม่ได้ การห้ามไม่ได้มันก็เป็นทุกข์ ตานี้ก็มานั่งพิจารณาขันธ์ ๕ ท่านบอกดูยาก เราก็นั่งนึกถึงตัวตายกัน นี่เราเกิดมาเพื่อตาย เราไม่ได้เกิดมาเพื่ออยู่ ไอ้สิ่งที่เราจะพึงหาได้โดยชอบธรรม และก็ไม่เป็นโทษ ยังมีถมไป

    ทีนี้ตัณหานี่ถ้าตัวต่ำนะ ท่านบอกให้ยับยั้งไว้ อยากได้ในสิ่งที่ไม่มีโทษถือว่ายังมีความเบาอยู่ใช้ได้ นี่ตัวต่ำ ถ้าตัวสูงขึ้นไปตั้งแต่อนาคามีขึ้นไปไม่ได้เลย อยากได้อะไรทั้งหมดในโลกถือว่าใช้ไม่ได้ อยากได้แล้วก็เกาะ ถ้าอยากได้มาแล้วไม่เกาะไม่เป็นไร อยากได้สิ่งนี้เพื่อความสะดวกในการเป็นอยู่ แล้วก็คิดไว้ด้วยว่ามันจะได้มาหรือไม่ได้มาก็ช่างหัวมัน ถ้ามีโอกาสจะได้มาก็เอา เราจะใช้ ถ้าโอกาสที่จะพึงได้มาไม่มีก็ตามใจมัน เป็นเรื่องธรรมดา เราไม่ฝืนความสามารถและไม่ฝืนโอกาส แบบนี้ใจมันสบายตั้งแต่ก่อนจะได้มา

    ทีนี้พอได้มาแล้วเราก็ทราบเลยว่า ไอ้เจ้าตัวนี้นะ มันไม่อยู่กับเรานาน มันอาจจะอยู่นาน แต่เราก็ไม่อยู่กับมัน ไม่มันก็เราสักวันหนึ่งจะต้องจากกัน และก่อนที่จะจากกันมันจะทรงสภาพอย่างเดิมอยู่ไม่ได้ มันจะมีสภาพเก่าๆ ทรุดโทรมเปลี่ยนแปลงไปอยู่ตลอดเวลา หาทางพัง มันไม่ได้เปลี่ยนไปหาทางดี เปลี่ยนไปหาทางพังนี้อารมณ์ของเรารู้อยู่ เมื่อเวลามันพังจริงๆ ก็ไม่ต้องตกใจ บอกว่าฉันรู้แล้วว่าแกจะพัง เมื่ออยากจะพังก็พัง แก้ไขไม่ได้ แก้ไขได้ก็แก้ไขไป แก้ไขไม่ได้ก็แล้วไป นี่ความสบายมันก็เกิดขึ้น เวลามันพังไม่ถือเป็นเรื่องหนักใจ เรารู้อยู่แล้ว แล้วจิตของเราพร้อมแล้ว ถ้ามันเป็นอย่างนั้นจริงๆ เราจะถือว่าเป็นเรื่องปกติ นี้อาการอย่างนี้จะเกิดขึ้นได้จริงๆ เราต้องมัดความตายเข้ามาเทียบ

    นี่เป็นสมถภาวนา ถ้าใครเขาบอกว่าสมถะเก่ง หรือวิปัสสนาเก่งต้องบอกต้องเก่งคู่กัน เก่งคนเดียวใช้ไม่ได้ เก่งสมถะเป็นโลกียฌานเดี๋ยวก็เจ๊ง เก่งวิปัสสนาอย่างเดียวโดยไม่มีสมถะไม่ได้อะไรเลย เก่งสมถะดีกว่ามันยังได้บ้าง ใช้แต่วิปัสสนาญาณอย่างเดียวไม่มีสมถะ ไม่มีทางจะใช้อะไรเลย

    ท่านบอกว่าให้นึกถึงความตายเป็นปกติ เรารู้อยู่ว่าเราจะตายเสียอย่างเดียว ถ้าเราไม่ลืมความตาย ความเมามันก็น้อย อารมณ์ที่จะเกิดตัณหาคือความอยากมันก็เบา มันอาจจะอยากอยู่บ้าง แต่ว่าอยากพร้อมกับปล่อย อยากได้มาพร้อมกับอารมณ์ปล่อย มันมีอยู่เสมอ จะได้มาหรือไม่ได้มาก็ไม่หนักใจ หรือโอกาสยังมาไม่ถึง เมื่อได้มาแล้ว เราก็พร้อมใจรู้อยู่แล้วว่ามันจะพัง มันจะต้องเก่า มันจะต้องทรุดโทรม มันจะพังหรือมันจะไม่พังแต่ขโมยอาจเอาไปเสียก่อนก็ได้ ถ้าอาการอย่างใดอย่างหนึ่งปรากฏเราก็สบายใจ นี่ถือตัวมรณานุสสติกรรมฐานเป็นพื้นฐาน

    แต่ว่าไอ้ตัวนี้ก่อนที่มันจะเกิด มันแย่เหมือนกันนา กว่าจะหาไอ้ตัวนี้ได้ต้องมีเครื่องมือเข้ามาช่วย มีเครื่องมืออันดับแรกหรือทั้ง ๓ อันดับก็คือ ศีล สมาธิ ปัญญา อยู่แล้วเราจะมานั่งพิจารณาแบบนี้ หาความตายมาเป็นพื้นฐาน เอามาเปรียบเทียบกับอารมณ์ของวัตถุหรือบุคคล ว่ามันเป็นไปตามกฎธรรมดามันเป็นไปไม่ได้ อยู่ๆ มันเกิดไม่ได้ มันก็ต้องมีพื้นฐาน คือ เครื่องมือสำหรับใช้ เรียกว่าจะขึ้นบันได จะขึ้นบ้านขึ้นตึกมันต้องมีบันได อยู่ๆ จะกระโดดขึ้นไปบนหลังคาตึกน่ากลัวจะไม่สำเร็จ

    อันดับแรกเมื่อเรานึกถึงความตายเป็นอารมณ์ เมื่อนึกถึงความตายแล้วจิตมันยังดิ้นรนอยู่ ไอ้ความทะเยอทะยานของจิต อยากได้โน่น อยากได้นี่ อยากให้มันทรงตัว อยากจะฝัน มันก็ทรงอยู่ และคิดว่าถึงแม้ว่าเราจะตายแล้วลูกหลานก็ยังจะได้ใช้ ทีนี้วิธีที่จะป้องกัน และจะทำลายอำนาจของตัณหา อันดับแรกตามที่พูดเมื่อวานว่า ใช้ศีลครอบมันเข้าไว้ เอาศีลเข้าไปขังตัณหาคือความอยาก เอาศีลทำลูกกรงครอบตัณหาเข้าไว้ มันอยากได้โน่น อยากได้นี่ ให้มันวิ่งคึ่กคั่กๆ เอาไว้ มันโผล่มากัดไม่ได้ อยู่ๆ เป็นพระอยากจะมีเมียจะไปมีได้ที่ไหนก็ไม่ได้ ศีลมันค้ำอยู่นี่

    ตัณหามันเกิดแล้วแต่ว่าขังตัณหาไว้ด้วยอำนาจของศีล อยากรัก รักก็รักได้ แต่ก็รักแล้วอย่าไปยุ่งกะใครเขา รักอยู่แต่ในใจ ยุ่งเข้าอาบัติกินศีล ศีลบกพร่องไม่ได้ อันดับแรกนี้เอาศีลขังตัณหาเข้าไว้ ทีนี้พออยากจะรวย อยากไปค้าขายกับเขาบ้าง จะไปรับจ้างเขาบ้าง ศีลของพระมันบังคับนี่ ศีลบังคับให้พระประกอบอาชีพใดๆ ไม่ได้ ผิด เป็นไง ขังไว้อีกตัวซิ ไอ้ตัณหาอยากรวยถูกขังไว้อีกแล้ว ดิ้นโครมๆ ทีนี้ตัณหาอีกตัวมาแล้ว อยากจะฆ่าหมอนี่มันพูดไม่ถูกใจ ทำอะไรไม่ถูกใจ ฆ่ามันเสียเถอะ แหม ฆ่าได้ที่ไหนศีลขาด นี่ศีลขังตัณหาเสียแล้ว ตัณหาคืออยากฆ่านะ
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top width=145>[​IMG]</TD><TD vAlign=top>ทีนี้ตัณหาตัวหลง ไอ้โน่นก็ดีไอ้นี่ก็ดี โน่นของกู นี่ก็ของกู ไอ้สิ่งที่ว่าเป็นของกูแบบนี้พระใช้ไม่ได้ ใช้เมื่อไรลงนรกเมื่อนั้น พระพุทธเจ้าทรงสอนว่าทุกสิ่งทุกอย่างในโลกนี้อนิจจัง หาความเที่ยงไม่ได้ ทุกขังมีสภาพเป็นปัจจัยของความทุกข์ อนัตตา มันสลายตัวในเมื่อมันจะพัง มันมีอะไรเป็นของเรา ทีนี้ไอ้ความเมาของจิตก็ยังมีอยู่ ก็ดิ้นอยู่ในลูกกรง โผล่มาไม่ได้ ก็ช่างมัน เก่งก็เก่งในลูกกรงน่ะไอ้เจ้าศีลตัวนี้

    ถ้ามันขังไว้จริงๆ คือว่าสิกขา ๓ อธิศีลสิกขา อธิจิตสิกขา อธิปัญญาสิกขา นี่ก็บรรดาพุทธบริษัทที่ประกาศตัวเป็นสาวกของพระพุทธเจ้าจริงๆ ต้องทรงสิกขา ๓ ประการให้ครบถ้วน ใช้คำว่าอธิ แปลว่ายิ่ง คือเอากันจริงๆ ไม่ใช่ล้อเล่น หรือว่าหลอกเล่น อธิศีลสิกขา เราจะไม่ยอมให้สิกขาบทของศีล ทุกสิกขาบท ถ้าเป็นฆราวาสก็ศีล ๕ หรือว่าศีล ๘ เป็นเณรศีล ๑๐ เป็นพระศีล ๒๒๗ ทั้งหมดนี้เราจะรักษาศีลยิ่ง คำว่ายิ่งเขาทำยังไง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>


    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD bgColor=#99ccff>๑. เราจะไม่ทำลายศีลด้วยตัวเอง
    ๒. จะไม่ยุให้ใครทำลายศีล
    ๓. จะไม่ยินดีหรือไม่พอใจเมื่อบุคคลอื่นทำลายศีล แล้วนี่รวมความว่าศีลทั้งหมดที่เรามีอยู่เราจะไม่ยอมให้มันบกพร่องแม้แต่นิดหนึ่ง ทำลายศีลเองก็ไม่ทำลาย ยุให้ใครทำลายก็ไม่ทำลาย ไม่ยุ ไม่ยินดี เมื่อเขาทำลายแล้วก็ไม่ยินดี อย่างนี้เรียกว่ารักษาศีลยิ่ง
    </TD></TR></TBODY></TABLE>
    ที่มา http://www.geocities.com/4465/samadhi/maha445.htm
     
  2. stylenea

    stylenea Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +36
    อนุโมธนาครับ
     
  3. swimfanclub

    swimfanclub Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +81
    ขออนุโมทนา สาธุค่ะ
     
  4. คนมีกิเลส

    คนมีกิเลส เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    19 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    3,973
    ค่าพลัง:
    +19,431
    ขออนุโมทนาบุญกับท่านผู้ตั้งกระทู้ และขออนุโมทนาบุญกับทุกๆท่านร่วมอนุโมทนาครับ
    สาาาาา...ธุ
     
  5. sooyeon

    sooyeon สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +5
    ขออนุโมทนา สาธุ กับทุกๆคนค่ะ

    จงทำดีต่อไปเพื่อสิ่งดีๆ

    ทำดีไม่มีท้อ

    ทำดีไม่ต้องมีคนสั่งหรือบังคับ

    เปนเรื่องของจิตใต้สำนึก

    สำนึกดีสังคมดี

    ทำดีกันไว้เถอะค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...