เชิญเข้าร่วมสนทนาพิเศษเรื่อง มิติ ความฝัน ชาติภพ จิตวิญญาณ โดย @โนวา อนาลัย@ [Writer]

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย mead, 8 สิงหาคม 2007.

  1. soul2006

    soul2006 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 พฤศจิกายน 2006
    โพสต์:
    1,026
    ค่าพลัง:
    +5,169
    ช่วยลุ้นด้วยคนค่ะ.......เพราะจริงๆ ค่ะ
     
  2. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    มาเล่าความฝันเมื่อคืนให้ฟังค่ะ ฝันว่าได้เข้าไปสนทนากับผู้ชายคนหนึ่ง ดูรูปร่างหน้าตาแล้วท่านก็เหมือนอาจารย์ใหญ่วิชาพลังจักรวาลเลยค่ะ แต่ลักษณะท่าทางและบุคคลิกของท่านกับไม่เหมือนเลย บุคคลท่านนี้มีความเงียบสงบดูมีพลังอำนาจสูงมากและจะก้มหน้านิ่งตลอด ความรู้สึกของเราที่มีต่อท่านนั้นมีทั้งความรักและกลัวอย่างที่สุดในเวลาเดียวกัน ขจรวรรณเข้าไปเล่าเรื่องราวมากมายที่ผ่านเข้ามาในชีวิตของตัวเองให้ท่านฟัง เหมือนกำลังบีฟงานอยู่อะไรประมาณนั้น แต่พอท่านเงยหน้าขึ้นมาและยกมือแบมือขวาขึ้น เรากลับรู้สึกกลัวท่านไปทุกอณูของร่างกาย แทบจะทุกรูขุมขนเลยก็ว่าได้ และได้ยินเสียงของตนเองบอกว่า GOD! แล้วก็ตื่นขึ้นมาด้วยความตื่นเต้นอีกแล้วครับท่าน..: bat: : bat: : bat:
     
  3. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    หรอครับ อาจารย์คนนั้นลักษณะเป็นยังไงอ่ะครับ เค้าก้มหน้าแล้วผมปิดหน้ารึเปล่า เพราะผมเคยฝันว่าตัวเองตื่นมากลางดึกแล้วเห็นผู้ชายคนนึงดูน่าเกรงขามมากเลยอายุประมาณ 50 ยืนอยู่ตรงหน้าห้องผมแล้วบอกว่า มาถูกทางแล้ว (เคยเล่าให้ฟังแล้วด้วยครับ)
     
  4. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    วันก่อนได้มีโอกาสพูดคุยเรื่องราวความฝันกับพี่จิตต์ แล้วรู้สึกเหมือนตัวเองถูกน๊อคมาเลยค่ะ เลยอยากจะนำความฝันและความเชื่อส่วนตัวมาขอคำแนะนำจากพี่นักเขียนน่ะค่ะ.. ขออนุญาตเล่านะคะ..

    มีอยู่คืนนึงขจรวรรณฝันว่ามีพระมานั่งสอนธรรมะให้ฟังทั้งคืนเลยค่ะ แต่มีอยู่บางส่วนที่ท่านไม่ได้สอน จะขอดูท่านก็ไม่ให้ดู ท่านบอกว่าเมื่อถึงเวลาคราวหน้าเราก็จะรู้เอง ทีนี้ก็เลยเล่าให้พี่จิตต์ฟังและบอกว่าขจรวรรณชอบศึกษาธรรมะทีนี้พี่เค้าก็บอกว่าเปลี่ยนความเชื่อได้แล้วขจรวรรณ.. เลยงงไปเลยค่ะ..

    การที่ขจรวรรณชอบศึกษาธรรมะไม่ได้หมายความว่าเข้าไปศึกษาหนังสือภาษาบาลีสันสกฤตเป็นเล่ม ๆ แต่เป็นการศึกษาเกี่ยวกับธรรมชาติ, สัจจะหรือความจริงนั้นถือเป็นความเชื่อที่ผิดรึปล่าว ตามความเข้าใจของขจรวรรณแล้วถึงแม้เราจะเข้าไปสัมผัสกับโลกแห่งความจริงหลากมิติซึ่งเป็นภาวะจิตของเราเองนั้นก็ไม่ได้หมายความว่าสิ่งที่เราเข้าไปสัมผัสนั้นจะเป็นจริงเสมอไป ความคิดนี้ถูกหรือผิดคะ พี่นักเขียนช่วยขยายความให้ฟังอีกครั้งนึงได้มั้ยคะ.. ขอบคุณค่ะ..
    (cry) (cry) (cry)
     
  5. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    พี่คิดว่าคุณโชว์พาวน่าจะลองจับอารมณ์ความรู้สึกของคุณโชว์พาวในขณะที่ฝันอยู่นะคะ ในความเข้าใจของขจรวรรณรูปกายทางกายภาพในความฝันเป็นเพียงส่วนประกอบที่สมมุติขึ้นมาแค่นั้นเอง แต่ความรู้สึกที่ติดมากับอารมณ์ของเราจนตื่นนี่ลืมไม่ลงเลยล่ะค่ะ.. เข้าใจถูกรึปล่าวก็ม่ายรู้เดี๋ยวพี่นักเขียนคงมาขยายความอีกทีนะคะ..
    (good)
     
  6. เด็กโชว์พาว

    เด็กโชว์พาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    1,082
    ค่าพลัง:
    +470
    ตื่นมาผมก็กลัวๆเสียวๆ อ่ะครับ แต่ก็รู้สึกดีเหมือนกับว่าที่ฝึกสมาธิและก็ฝึกฝันนั้นอ่ะน่าจะเริ่มเข้าท่าแล้ว
     
  7. easymz3

    easymz3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +180
    แหม..ได้ฟ้งเพลงแล้วรู้สึกขนลุกดีจัง ได้ทั้งอารมณ์เศร้า,ความเหงา,ความมุ่งมั่น,และสุดท้ายคือความปิติสุข ของผลที่ได้รับจากความมุ่งมั่นนั้นๆ ในเดือนแห่งความรักนี้ขอให้ทุกคนมีแต่ความรักและความหวังดีให้แก่กัน ความรักแม้เป็นเพียงนามธรรม และถูกให้นิยามต่างๆนาๆ แต่ทุกครั้งที่เรารู้สึกถึงคำคำนี้ ความหมายเดียวที่เราได้รับคือความสุขใจและคงเป็นเหมือนกันทุกๆเอกภพและทุกๆมิติ ความรักคือของกลางของจักรวาลที่ใครๆก็เข้าไปสำพัสได้ทุกเมื่อเสมอมา ตลอดมาและตลอดไป(||) (||) (||)
     
  8. easymz3

    easymz3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +180
    ฟังเพลงนี้หลายรอบแล้ว. อยากจะเล่าจินตนาการในขณะฟังแบบมีสมาธิให้ฟัง
    ภาพแรกที่เห็นเป็นหญิงสาวผมดำตาโตหน้ารูปไข่พร้อมด้วยผ้าคลุมศรีษะเป็นผ้าบางๆลายดอกปลายผ้า
    พริ้วไหวไปตามแรงรมที่ปะทะตัวเธอ เธอยืนอยู่บนเรือโดยสารลำใหญ่เพื่อเดินทางค้นหาบางสิ่ง
    บางอย่างและเพื่อละทิ้งความรู้สึกบางอย่าง ใบหน้าของเธอเต็มไปด้วยความเศร้าและคลาบน้ำตาบนแก้มของเธอ
    ภาพที่สอง ตัดมาที่แวบแรกในความรู้สึกตอนที่ได้ฟังเพลงครั้งแรก คือเธอกำลังเดินอยู่บนทางเ้ท้าเธอใส่เสื้อคลุมยาวสีโทนมืดๆและถือร่มอากาศในตอนนั้นทั้งหนาว
    ทั้งเปียกเธอกำลังรีบเดินกลับที่พักในขณะนั้นเองเธอได้สบตากับผู้ชายคนหนึ่งซึ่งเดินตามเธอมา
    และกำลังรีบเร่งกลับที่พักเช่นกันเขาและเธอประสานสายตากันเป็นครั้งแรก
    ภาพที่สาม เป็นภาพของหญิงสาวนั่งทำงานในสำนักงานเธอกำลังเหมอมองไปที่กระจกที่ชุ่มด้วยเม็ดฝนในใจ
    เธอคิดถึงอะไรบางอย่างที่ผ่านมาเธอรู้สึกเหงาเหลือเกิน
    ภาพที่สี่ เธอเดินมาถึงประตูที่พักอย่างอ่อนแรง เธอเดินเข้ามาในห้องพร้อมด้วยความเหน็ดเหนื่อยที่มี
    อยู่เต็มกายพร้อมกับเหลียวมองภาพถ่ายที่คุ้นสายตาเธออยู่เสมอและทรุดตัวลงนั้งบนเก้าอี้นวมของเธอ
    ด้วยความหมดแรง
    ภาพที่สี่ ชายหนุ่มผู้เร่งรีบในการดำเินินชีวิตและเป็นผู้มั่นคงต่อความรักเสมอมากำลังกลับสู่ที่พักเช่นเดียวกับเธอ
    และกลับมาพร้อมกับความไม่เข้าใจในคนใกล้ชิดและสิ่งที่ต้องเผชิญต่อไปคือความอ้างว้างที่กำลังจะมาเยือน
    ภาพที่ห้า
    ชายหนุ่มผู้ผิดหวังกับเรื่องราวต่างๆที่ผ่านมานังทอดกายอยู่บนม้านั่งยาวสีขาวติดทะเลทราบในสวนสาธารณะ
    แห่งหนึ่ง เขากำลังพยายามละทิ้งความรู้สึกผิดหวังโดยให้เสียงแห่งธรรมชาติเป็นผู้ปลอบโยน และใกล้ๆกันนั้นบนม้านั่งอีกตัวหญิงสาวผู้ดูภายนอกแข็มแข็งแต่ภายในเปียกปอนไปด้วยความปราถนาที่ผิดหวัง
    มานั้งให้ธรรมชาติเป็นผู้ปลอบโยนเช่นกัน
    ภาพที่หก
    ทั้งเขาและเธอมักจะมานั้งในสถานที่นี้อยู่เสมอและทั้งสองไม่ได้มีีโอกาสที่จะได้พูดคุยกับใช้แต่เพียงหางตา
    ชำเรืองกันและกันเสมอมา หากวันใดที่นั่งนั้นว่างลงอีกฝ่ายก็จะมีความรู้สึกว่าขาดอะไรไปบางอย่าง
    ภาพที่เจ็ด
    จนในที่สุดเธอทั้งคู่ก็มีโอกาสได้พูดคุยกันแลกเปลี่ยนความคิดซึ่งกันและกันและภาพที่เห็นสุดท้ายคือเขาและเธอ
    เดินจับมือเคียงคู่กันเสมอๆตลอดมา
    ภาพที่แปด
    เป็นภาพที่เห็นชายและหญิงชราคู่หนึ่งนั่งอยู่บนชิงช้าหน้าบ้านรับไอแดดอุ่นๆของวันใหม่พร้อมกับใบหน้า
    ที่อ่อนโยนที่มีให้แก่กันหญิงชรานอนหนุนตักผู้เป้นที่รักชายชราลูบศรีษะเธออย่างแผ่วเบาพร้อมกับแกว่งชิงช้า
    เบา ไอแดดของวันใหม่ที่ทั้งคู่ได้รับคือไออุ่นที่เขาและเธอมอบให้แก่กันและกันเสมอตลอดมาและตลอดไป

    ภาพสุดท้ายเป็นภาพที่เห็นและรู้สึกได้ถึงความอบอุ่นอย่างแท้จริงความรักและความอบอุ่น
    ไม่มีช่องว่่าง ระยะทาง และกาลเวลา เป็นสิ่งสวยงามตามธรรมชาติที่แท้จริง สัมพัสด้วยใจได้ทุกเวลา
    และทุกครั้งที่ได้สัมผัสเราก็จะรู้สึกถึงพลังอันลึกลับที่คอยพลักดันเราให้มีชีวิติและดำเินินไปบนหนทาง
    แห่งโลกปัจจุบัน

    ชอบมากๆต้องไปหาหนังสือมาอ่านแล้วซิเรา
    คิดถึงพี่นักเขียนและเพื่อนๆพี่ๆี่น้องๆทุกคนครับ(kiss) (kiss) (kiss)
     
  9. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    อ่านแล้ว

    อ่านเกือบจบแล้วครับสำหรับ Same Soul, Many Bodies
    เป็นหนังสือดีอีกเล่มที่ขอแนะนำครับ
    เรื่องนี้ต่างจาก Only Love is Real ตรงที่มีมิติของอนาคตของคนที่รับการบำบัดโดยการสะกดจิตเข้ามาด้วย
    และที่น่าตื่นเต้น (สำหรับผม) คือคนไข้คนหนึ่งได้ย้อนอดีตไปยังชาติที่เกิดในเยรูซาเล็มสมัยเดียวกับพระเยซูด้วย เป็นคนที่ยืนร้องไห้ต่อหน้าศพของพระเยซูหลังจากที่โดนตรึงไม้กางเขน ที่สำคัญมีข้อมูลของคนไข้คนนี้ที่เห็น ดร.ไวส์ (ในชาติปัจจุบัน) มีชีวิตอยู่ในสมัยนั้นด้วย บรรยายรูปร่างลัษณะหน้าตา การแต่งกาย ได้ตรงกับที่ ดร.ไวส์ เคยเห็นตัวเองอย่างไม่มีทางที่จะบังเอิญเหมือนกันได้
    ดร. ไวส์ เป็นอีกคนที่สรุปเรื่องเวลาว่า "อดีต ปัจจุบัน อนาคต เกิดขึ้นในเวลาเดียวกัน"

    ลองไปหาอ่านดูกันนะครับ
     
  10. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2008
  11. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    พี่นักเขียนช่วยอธิบายสภาวะอารมณ์นิพพานในความคิดของพี่นักเขียนให้ฟังได้มั้ยคะ? ว่ามีสภาวะเช่นไร? สภาวะนี้มีไว้สำหรับนักบวชในศาสนาพุทธเท่านั้นหรือ? แล้วฆราวาสอย่างเรา ๆ หรือผู้ที่นับถือศาสนาอื่นสามารถที่จะเข้าถึงสภาวะนี้ได้หรือไม่? โดยวิธีใด? เพราะคงปฏิเสธไม่ได้ว่าการที่พวกเราพยายามศึกษาหรือเรียนรู้เกี่ยวกับจิตวิญญาณมาอย่างยาวนาน บางคนอาจจะผ่านประสบการณ์การเกิด - ตาย มาแล้วหลายภพชาติ เกิดความเชื่อแบบผิด ๆ ถูก ๆ มาก็เยอะ ต่างก็แสวงหาความรู้แจ้งด้วยกันทั้งสิ้น..จริงมั้ยคะทุก ๆ คน.. ( หวังว่าคำถามนี้คงไม่ก่อนให้เกิดความขัดแย้งในห้องวิทย์ฯ นะคะ ):boo:
     
  12. easymz3

    easymz3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +180
    อ่านตามมาเรื่อยๆแล้วเกิดคำถามมากมาย แต่คิดว่าถ้่าอ่านไปเรื่อยๆคงเจอกับคำถามที่สงสัย
    อย่ากระนั้นเลย ถามพี่นักเขียนและเพื่อนๆเลยดีกว่า ว่า
    หากจิตวิญญาณมีขีดความสามารถในการติดต่อสื่อสารกับจิตวิญญาณอื่นๆอย่างอิสระไรขอบเขต
    เหตุใดจิตวิญญาณเหล่านั้นจึงเลือกที่จะเติมเต็มความรู้ด้วยการเลือกที่จะทำเองและเลือกที่จะค้นหาด้วย
    ตนเอง แทนการเรียนรู้จากจิตวิญญาณทั้งหลาย

    ช่วยอธิบายด้วยนะครับ(deejai)
    ปล. หลายวันที่ผ่านมา ก่อนนอนก็ตั้งจิตขอรับรู้ถึงตัวตนอื่นๆของเราแต่ผลที่ได้เป็นภาพที่หลังไหลเข้ามามากมายจนตืนนอน
    ตอนเช้ารู้สึกหนักไปหมดเหมือนที่พี่นักเขีัยนบอกว่าหัวโตเท่าช้างแต่ตัวเท่าเดิม พยายามต่อไปครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2008
  13. easymz3

    easymz3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +180
    ผมพยายามนึกภาพคำว่าอดีต ปัจจุบัน อนาคต เกิดขี้นในเวลาเดียวกัน ไม่ออกสักทีเลยครับ
    ไม่รู้มีใครเป็นอย่างผมบ้างเพราะภาพอดีตบางภาพของผมหายไปหรือเป็นเพราะเหตุผลที่พี่นักเขียนว่า
    ปัจจุบันสามารถเปลี่ยนอดีตได้และส่งผลไปถึงอนาคตได้...
    ผมเคยสงสัยว่าหากเรายืนอยู่ในห้องที่เป็นกระจกทั้งสี่ด้านเราจะเห็นภาพของเราซ้อนๆกันในกระจกไร้ที่สิ้นสุด
    หากเราเปรียบเทียบกับ อดีต ปัจจุบัน และอนาคตได้หรือเปล่าก็ไม่รู้เหมือนกันนะครับ
    คำถามบางคำถามก็ยังคงต้องหาคำอธิบายกันต่อไป และเมื่อได้รับคำตอบคำถามก็คงจะเปลี่ยนเป็น
    ความรู้ต่อไปครับ(deejai)
     
  14. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
     
  15. leogirlw99

    leogirlw99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กรกฎาคม 2007
    โพสต์:
    2,501
    ค่าพลัง:
    +4,765
     
  16. zipper

    zipper เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กันยายน 2004
    โพสต์:
    5,226
    ค่าพลัง:
    +10,590
    คุณ easymz3 ดูท่าจะอินกับเพลงนี้ :D
    ไม่รู้ว่าหนังสือเมื่อเอามาทำใหม่อย่างนี้แล้ว จะขายได้ขนาดไหน
    ถ้าคุณ easymz3 ได้อ่านแล้ว อาจจะอยากอ่านหนังสือเล่มอื่นของ ดร.ไบรอันก็ได้

    กับคำถามนี้ "หากจิตวิญญาณมีขีดความสามารถในการติดต่อสื่อสารกับจิตวิญญาณอื่นๆอย่างอิสระไรขอบเขต
    เหตุใดจิตวิญญาณเหล่านั้นจึงเลือกที่จะเติมเต็มความรู้ด้วยการเลือกที่จะทำเองและเลือกที่จะค้นหาด้วย
    ตนเอง แทนการเรียนรู้จากจิตวิญญาณทั้งหลาย"

    อาจจะตอบไม่ถูกนัก แต่ความเข้าใจส่วนตัวแล้ว บางทีเรานั้นก็เป็นจิตวิญญาณที่เกิดขึ้นจากความอยากรู้จากจิตวิญญาณดวงอื่นก็ได้นะ จิตวิญญาณที่เราไปเรียนรู้มาก็ไม่ได้เป็นจิตวิญญาณดวงอื่นๆ เลย แต่ก็เป็นจิตวิญญาณดวงเดียวกัน ที่แยกแตกมามีประสบการณ์ตามที่อยากจะลองเป็น

    คุณ Veggie อ่านไปเยอะแล้วเหรอ ผมยังอ่านไปไม่ถึงไหนเลย :S

    สำหรับเรื่องที่ว่า อดีต ปัจจุบัน อนาคต เกิดขึ้นในเวลาเดียวกันนั้น ตามความเข้าใจส่วนตัว คงเหมือนกับว่า ความรู้สึกในอดีตนั้นยังคงมีผลต่อปัจจุบัน เช่นเหมือนว่าตอนเด็กเคยจมน้ำ เลยกลัวที่จะว่ายน้ำ เพราะว่าความรู้สึกในช่วงที่จมน้ำมันยังฝังอยู่ในความรู้สึก ส่วนอนาคตที่เกิดพร้อมกับปัจจุบันก็เหมือนว่าอนาคตของสภาพปัจจุบันที่เราเป็นอยู่มันก็เกิดขึ้นมาแล้ว แต่อนาคตเหล่านั้นก็เปลี่ยนไปได้ตามการกระทำของปัจจุบันนะ

    คุณ easymz3 ไม่เคยอ่านหนังสือเล่มอื่นๆ ของดร.ไบรอันซะด้วยสิ หนังสือเล่มอื่นของดร.ไบรอันที่พูดถึงการสะกดจิตย้อนอดีตนั้น ตอนที่อ่านไปก็สงสัยว่าทำไมตัวตนของอดีตที่เกิดจากการย้อนอดีตหรือว่าตัวตนอื่นๆ ที่พบเจอในระหว่างการสะกดจิตทำไมถึงสามารถพูดโต้ตอบกับดร.ไบรอันได้ ทั้งๆ ที่ตัวตนนั้นน่าจะมีแต่ประสบการณ์/ความทรงจำในอดีต ตอนที่ย้อนอดีตไปมันเหมือนน่าจะคิดย้อนนึกถึงเรื่องราวในอดีต ไม่น่าจะโต้ตอบกับ ดร.ไบรอันที่นั่งอยู่ข้างๆ ได้และด้วยอารมณ์ความคิดในสมัยนั้น แต่ถ้าจะบอกว่าอดีตของตัวเรามันก็อยู่ในตัวเรานี่เอง อดีตที่ว่าหมายถึงความคิด,อารมณ์,ความทรงจำ เมื่อดร.ไบรอันย้อนอดีตชุดไหนมา ตัวคนไข้จึงสามารถพูดโต้ตอบกับดร.ด้วย ความคิด,อารมณ์,ความทรงจำในชุดนั้นๆ จึงกล่าวได้ว่าอดีตก็ยังอยู่ในตัวเรา

    ส่วนอนาคตนั้นมันเกิดขึ้นแล้วล่ะ ตามการกระทำของเรา เหมือนหนังสือที่มีเขียนไว้พร้อมแล้วและเราค่อยๆ อ่านไป เหมือนว่าเมล็ดถั่วเขียวก็มีอนาคตที่เป็นต้นถั่วเขียวซ้อนไว้อยู่แล้ว

    ถ้าไม่เข้าใจ ก็อาจจะว่าเราอธิบายผิด หรืออธิบายไม่ดีก็ได้ เพราะตัวเองก็ยังมึนตัวเองหน่อยๆ เลย ฮ่าๆๆ


    น่าเสียดายนะที่เค้าบังคับเพลงร้อง แอบไปเห็นกระทู้ของคุณนกที่ห้องดนตรีแล้วล่ะ อิอิ
     
  17. mead

    mead เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    16 เมษายน 2005
    โพสต์:
    8,116
    ค่าพลัง:
    +62,425
    ช่วงนี้ดูเหมือนจะขมักเขม้นอ่านหนังสือกันทุกคนเลยครับ
    คุณจินตวดีโทรมาบอกว่าก็อ่านวันละ 3 เล่ม..3 เวลา เหมือนทานยาเลยครับ
    อ่านหนังสือพร้อมๆกัน ทั้งของอาจารย์อนาลัย - จิตจักรวาล - สนทนากับพระเจ้า (ที่คุณซิปแนะนำ)
    เห็นคุณจินต์ฯบอกว่าเนื้อหาเชื่อมต่อและกลมกลืนกันไปหมด..อ่านแล้วก็รู้สึกว่าแต่ละเล่มสื่อข้อมูลเนื้อหาเหมือนกันแต่มีหน้าที่ต่างกัน.. เช่นจิตจักรวาลบอกเรื่องหน้าที่ของมนุษย์..พี่นักเขียนฯเน้นเรื่องจิตวิญญาณอันลุ่มลึก ...ส่วนสนทนากับพระเจ้าเป็นการถาม-ตอบเรื่องที่มนุษย์สนใจ


    และฝากข้อความนึง ที่ส่งให้พี่นักเขียนเมื่อเร็วๆนี้มาโพส...
    เนื่องจากคุณจินต์ฯสัญญากับตัวเองว่าจะอ่านให้จบทุกเล่มก่อน..
    แล้วจะเข้ามาโพส เลยต้องรักษาสัจจะอย่างเต็มที่เลยครับ

    อ้างอิง:
    <TABLE cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" border=0><TBODY><TR><TD class=alt2 style="BORDER-RIGHT: 1px inset; BORDER-TOP: 1px inset; BORDER-LEFT: 1px inset; BORDER-BOTTOM: 1px inset">ข้อความดั้งเดิมโดยคุณ JINTAWADEE
    ตอนนี้จดบันทึกความฝันเกือบทุกวัน ที่ใช้คำว่าเกือบเพราะว่าบางคืนจำได้นิดเดียว หรือแว้บ ๆ เลยไม่รู้จะเขียนอะไรดี แต่ส่วนหนึ่งหลังจากแรเงาความรู้สึกแล้ว พอกลับมาเปิดย้อนดู ทำให้เรามองเห็นภาวะจิตข้างในของเราได้ดีขึ้น เพราะที่แรเงามักเป็นความรู้สึกเดียวกัน บางอย่างอยากจะแก้ไข แต่การใช้สติสัมปชัญญะในความฝันบางครั้งควบคุมไม่ได้ ยิ่งตอนหลังฝันเห็นตัวเองไปหยิบกระดาษที่มีข้อความถึงการทำหนังสือใบมอบฉันทะให้คนอื่นในกรณีความจำเสื่อม ไม่อยากคิดถึง อยากให้มันผ่านไป แต่ช่วงหลังกลับเริ่มรู้สึกเหมือนความจำตัวเองสั้นลง เลยเถิดไปถึงการคิดทำใบมอบฉันทะอย่างในฝันจริง ๆ คุณมีคำแนะนำอะไรไหมคะ อ้อ 2-3 วันนี้เห็นผู้ชายฝรั่งในความฝัน ต้อนรับเรา ได้ยินตัวเองบอกให้ผู้หญิงคนหนึ่งที่อยู่กับเราในฝันตลอด ให้ไปเป็นส่วนหนึ่งของผู้ชายคนนั้น ปรากฏว่าพอเปิดอ่านหนังสือสนทนากับพระเจ้าที่เพิ่งได้มา ผู้ชายฝรั่งคนนั้นคือคนเขียนหนังสือเล่มนี้ (Mr. Neal) หน้าตาเหมือนกันเลยทั้งที่ไม่เคยเห็นมาก่อน แต่พอเปิดเจอรูปก็จำได้เลย

    สุดท้ายนี้ดิฉันกำลังขะมักเขม้นกับการอ่านหนังสือชุดโนวาอนาลัยอยู่ แม้จะมีปัญหาทางด้านความจำก็ตามแต่คิดว่านี่เป็นเป้าหมายของตัวเองที่ได้เลือกเอาไว้ ขอให้คุณประสบความสำเร็จกับงานแสดงภาพเขียนนะคะ (kiss)

    </TD></TR></TBODY></TABLE>
     
  18. VeggieGuy

    VeggieGuy เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2007
    โพสต์:
    3,942
    ค่าพลัง:
    +4,262
    Same Soul

    จริงๆ แล้วผมอ่านเกือบจบตั้งแต่วันแรกแล้วครับ เหลือไม่กี่หน้า แต่ก็ยังไม่สามารถหาเวลาอ่านต่อให้จบได้ หนังสือเล่มนี้ดีจริงๆ ครับ

    ส่วนเรื่องที่คุณ Zipper สงสัยว่าทำไมคนที่โดนสะกดจิตสามารถโต้ตอบกับหมอได้นั้น ผมเองก็เคยสงสัยเช่นเดียวกัน เข้าใจว่า (ความเห็นส่วนตัว) ในระหว่างสะกดจิต คนไข้อยู่ภายใต้การควบคุมของหมอ
    ฉะนั้นจิตส่วนหนึ่งต้องคอยฟังและทำตามที่หมอแนะนำ
    โดยรับสัมผัสจากจิตอีกส่วนหนึ่งในชาติอดีตหรืออนาคต (มั่วหรือเปล่า?)
    เคยคิดเหมือนกันว่าข้อมูลที่ได้จากการสะกดจิตเป็นสิ่งที่เชื่อถือได้หรือ
    แต่จากข้อมูลต่างๆ ในหนังสือหลายเล่มของ ดร.ไวส์ ตั้งแต่ Only love...
    และเล่มอื่นๆ อีก ก็เป็นข้อมูลที่อาจยืนยันความถูกต้องของข้อมูลได้มากระดับหนึ่งครับ

    พวกเราที่เกิดมาในยุคนี้นับว่าโชคดีมากเลยนะครับ
    ได้มีโอกาสได้รับข่าวสารที่ "สรรพสิ่งทั้งปวง" หรือ "องค์เอกะ" หรืออะไรก็แล้วแต่ที่จะเรียก (ชื่อเรียกเป็นเพียงสิ่งสมมติ) ได้สื่อสารถึงพวกเราผ่านสื่อในรูปแบบที่แตกต่างกันไป ไม่ว่าจะเป็นการสื่อผ่านการจดบันทึกกว่า 3000 หน้า
    การสื่อสารผ่านความฝัน กระทั้งผ่านการสะกดจิต และอื่นๆ
    เราควรตักตวงโอกาสที่ดีนี้ในการรับฟังอย่างอ่อนน้อมถ่อมตนและเต็มไปด้วยสติและแบ่งปันเป็นวิทยาการเพื่อเรียนรู้ไปด้วยกันนะครับ (วันนี้พูดมีหลักการยังไงชอบกล หุหุ)

    ขอขอบคุณแฟนเพลงทุกท่านที่กรุณาให้ความชื่นชม
    ผมไม่ได้คาดหวังอะไรมากครับตอนนี้ แต่ถ้าเป็นไปได้อยากเปิดค่ายเพลงขึ้นมาทำเพลงเอง โดยตั้งชื่อค่ายว่า "แกรมม่า" แข่งกับ "แกรมมี่" ซะเลย
    อีกอย่าง ปีนี้ตั้งใจจะฟิตหุ่นเหมือนกันครับ เผื่อได้ประกวด "โดเวอร์แมน" อิอิอิ
     
  19. easymz3

    easymz3 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    20
    ค่าพลัง:
    +180
    กำลังอ่านอยู่เหมือนกัน เพราะอ่านนี่แหละครับถึงไ้ด้เกิดความสงสัย (smile)
     
  20. khajornwan

    khajornwan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    901
    ค่าพลัง:
    +4,468
    เอ.. เรื่องนี้เหมือนพี่นักเขียนเคยขยายความมาแล้วครั้งนึงนะคะ จำได้ว่าเป็นเรื่องเกี่ยวกับการถ่ายทอดอารมณ์ - จินตนาการและความรู้สึกนึกคิด ซึ่งเราสามารถสัมผัสได้ในความฝันหรือการเข้าภวังค์สมาธิ แต่พวกเรามักจะนึกคิดเวลาเป็นเส้นตรงเพราะมองเห็นภาพจากรูปกายทางกายภาพ แต่ยังงัยก็แล้วแต่ถึงแม้ว่าพี่นักเขียนจะพยายามอธิบายภาวะนี้เช่นไร เราก็จะรับรู้ได้ไม่ลึกซึ้งเท่ากับเราสัมผัสด้วยตัวเอง เพราะฉะนั้นพวกเราก็มาลองฝึกฝันกันให้คมชัดขึ้นก่อนดีกว่านะคะเผื่อจะทำให้เราเข้าใจถึงคำกล่าวนี้ได้มากขึ้นกว่านี้ อย่างขจรวรรณก็เคยฝันถึงเรื่องราวในอดีตแต่กลับมีอารมณ์ความรู้สึกในภาวะปัจจุบันเข้าไปซ้อนอยู่ในความฝันนั้นด้วยแหล่ะ.. แปลกดีมั้ยคะคุณeasymz3:cool:
     

แชร์หน้านี้

Loading...