เพื่อการกุศล เปิดจอง! วัตถุมงคล งานสมโภชพระปางเปิดโลก วัดลำบัวลอย

ในห้อง 'พระเครื่อง วัตถุมงคล' ตั้งกระทู้โดย หนุ่ม36, 18 กุมภาพันธ์ 2016.

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้
  1. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    เปิดจอง! วัตถุมงคล งานสมโภชพระปางเปิดโลก วัดลำบัวลอย


    เรียน ท่านผู้มีจิตศรัทธาทุกท่าน

    เนื่องจากวัดลำบัวลอย จะจัดงานทักษิณานุปาทาน หลวงพ่อสนิท ยสินทโร ประจำปี พ.ศ. ๒๕๕๙ พร้อมกับงานสมโภชพระพุทธรูป ปางพระพุทธเจ้าเปิดโลก ในระหว่างวันที่ ๑๑-๑๔ มีนาคม พ.ศ.๒๕๕๙ นี้
    จึงขอเชิญชวนท่านสาธุชนร่วมงานบุญในครั้งนี้ และขอเชิญร่วมบูชาวัตถุมงคล เนื่องในงานสมโภชพระพุทธรูป ปางพระพุทธเจ้าเปิดโลก เพื่อนำเงินร่วมทอดผ้าป่าสามัคคี ถวายแด่ วัดลำบัวลอย เพื่อเป็นค่าใช้จ่ายต่างๆ ภายในวัดลำบัวลอย เป็นประโยชน์ในทางพระศาสนาสืบไป


    รายนามพระเกจิอาจารย์ผู้ร่วมพิธีพุทธาภิเษก

    ๑. หลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา
    ๒. พระครูธรรมสุตาภรณ์ (หลวงปู่บุญมี) วัดสุตธรรมาราม จ.นครนายก
    ๓. พระญาณนายก (หลวงพ่อทองใบ) วัดเจดีย์ทอง จ.นครนายก
    ๔. หลวงพ่อผ่าน วัดป่าโพธิ์แก้ว จ.ปราจีนบุรี
    ๕. หลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว จ.อยุธยา
    ๖. หลวงพ่อเพี้ยน วัดเกริ่นกฐิน จ.ลพบุรี
    ๗. หลวงพ่อจักษ์ วัดชุ้ง จ.สระบุรี
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2016
  2. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    วัตถุมงคลที่เปิดให้บูชามีรายการดังนี้

    ๑ พระพุทธรูป ปางเปิดโลก ขนาดบูชา เนื้อเรซิ่น สีทอง ขนาดความสูง ๓๓ ซม. บูชาองค์ละ ๑,๙๙๙ บาท จัดสร้างจำนวน ๑๙๙ องค์

    ๒ พระพุทธรูป ปางเปิดโลกขนาด ห้อยคอ เนื้อทองเหลือง ความสูง ๔.๕ ซม. บูชาองค์ละ ๙๙๙ บาท จัดสร้างจำนวน ๙๙๙ องค์

    ๓ พระพุทธรูป ปางเปิดโลกขนาด ห้อยคอ เนื้อเงิน ความสูง ๔.๕ ซม. บูชาองค์ละ ๑,๙๙๙ บาท จัดสร้างตามสั่งจอง แต่ไม่เกินจำนวน ๕๙ องค์

    ๔ พระพุทธรูป ปางเปิดโลกขนาด ห้อยคอ เนื้อทองเหลือง ความสูง ๓.๕ ซม. บูชาองค์ละ ๔๙๙ บาท จัดสร้างจำนวน ๙๙๙ องค์

    ๕ พระพุทธรูป ปางเปิดโลกขนาด ห้อยคอ เนื้อเงิน ความสูง ๓.๕ ซม. บูชาองค์ละ ๑,๑๙๙ บาท จัดสร้างตามสั่งจอง แต่ไม่เกินจำนวน ๑๕๙ องค์

    ๖ ภาพถ่ายสี หลวงปู่สนิท ขนาด ๑๐x๑๒ นิ้ว พร้อมกรอบ บูชารูปละ ๙๙๙ บาท จัดสร้าง ๑๙๙ รูป

    ๗ ล็อกเก็ต พระพุทธเจ้า พื้นสี แดง, น้ำเงิน, เหลือง บูชาองค์ละ ๔๙๙ บาท



    ท่านที่ประสงค์ร่วมทำบุญบูชาวัตถุมงคล งานสมโภชพระปางเปิดโลก วัดลำบัวลอย สามารถโอนเงินทำบุญได้ที่

    ธนาคารกสิกรไทย ออมทรัพย์
    ชื่อบัญชี เนตรชนก ศรีอำนวยไชย
    เลขบัญชี 773-2-08107-5


    ค่าจัดส่งวัตถุมงคลครั้งละ ๕๐ บาท

    ค่าจัดส่งพระบูชา ๑๐๐ บาท
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2016
  3. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ๑. พระพุทธรูป ปางเปิดโลก ขนาดบูชา เนื้อเรซิ่น สีทอง ขนาดความสูง ๓๓ ซม. บูชาองค์ละ ๑,๙๙๙ บาท จัดสร้างจำนวน ๑๙๙ องค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2016
  4. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ๒ พระพุทธรูป ปางเปิดโลกขนาด ห้อยคอ เนื้อทองเหลือง ความสูง ๔.๕ ซม. บูชาองค์ละ ๙๙๙ บาท จัดสร้างจำนวน ๙๙๙ องค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2016
  5. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ๓ พระพุทธรูป ปางเปิดโลกขนาด ห้อยคอ เนื้อเงิน ความสูง ๔.๕ ซม. บูชาองค์ละ ๑,๙๙๙ บาท จัดสร้างตามสั่งจอง แต่ไม่เกินจำนวน ๕๙ องค์

    เทียบเนื้อเงิน กับ เนื้อทองเหลือง
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2016
  6. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ๔ พระพุทธรูป ปางเปิดโลกขนาด ห้อยคอ เนื้อทองเหลือง ความสูง ๓.๕ ซม. บูชาองค์ละ ๔๙๙ บาท จัดสร้างจำนวน ๙๙๙ องค์
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2016
  7. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ๕ พระพุทธรูป ปางเปิดโลกขนาด ห้อยคอ เนื้อเงิน ความสูง ๓.๕ ซม. บูชาองค์ละ ๑,๑๙๙ บาท จัดสร้างตามสั่งจอง แต่ไม่เกินจำนวน ๑๕๙ องค์

    พิมพ์เล็กเทียบกับพิมพ์ใหญ่
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 19 กุมภาพันธ์ 2016
  8. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ภาพถ่ายสี หลวงปู่สนิท ขนาด ๑๐x๑๒ นิ้ว พร้อมกรอบ บูชารูปละ ๙๙๙ บาท จัดสร้าง ๑๙๙ รูป
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2016
  9. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ล็อกเก็ต พระพุทธเจ้า พื้นสี แดง, น้ำเงิน, เหลือง บูชาองค์ละ ๙๙๙ บาท

    ด้านหลังล็อกเก็ต อุดมวลสารศักดิ์สิทธิ์มากมายครับ

    มวลสารต่างๆได้แก่ ตะกรุดเสาร์ห้า ปี16 ที่ถูกไฟไหม้ระหว่างหลวงปู่ปลุกเสก ผงสาริการุ่น 1 ,2 และ 3
    เพชรหน้าทั่ง ผงเหล็กไหล พระผงของหลวงปู่ที่ชำรุดแตกหัก แผ่นยันต์ที่หลวงปู่สนิทท่านจารและเก็บไว้
    ผงวิเศษที่หลวงปู่ท่านทำเก็บไว้ เป็นต้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2016
  10. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ประวัติหลวงพ่อฟู วัดบางสมัคร อ.บางปะกง จ.ฉะเชิงเทรา


    พระมงคลสุทธิคุณ หรือ หลวงพ่อฟู อติภทฺโท เจ้าอาวาสวัดบางสมัคร อ.บางประกง จังหวัดฉะเชิงเทรา ศิษยานุศิษย์ต่างขนานนามท่านว่า “เทพเจ้าแห่งลุ่มน้ำบางปะกง”

    หลวงพ่อฟู เกิดเมื่อวันอาทิตย์ที่ ๓ ธันวาคม พ.ศ. ๒๔๖๕ อุปสมบท เมื่อวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ โดยมีพระครูพิบูลย์คณารักษ์ (หลวงพ่อดิ่ง) วัดบางวัว เป็นพระอุปัชฌาย์ ปัจจุบันอายุ ๙๐ ปี ๗๐ พรรษา หลวงพ่อฟูเป็นพระสุปฏิปันโน พระนักปฏิบัติ ผู้เปี่ยมด้วยเมตตา อาคมขลัง สืบทอดพุทธาคมจากครูบาอาจารย์ที่โด่งดังหลายรูป เช่น สายหลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว พระอุปัชฌาย์ ที่เมตตาและถ่ายทอดวิชาให้ทั้งหมด หลวงพ่อปานวัดบางเหี้ย ศึกษาต่อจากหลวงพ่อจอม หลวงพ่อเหลือ วัดสาวชะโงก หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จันทบุรี ทั้งวิชาเสืออาคม เสือสมิง ปลัดขิก หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกกระเชอ ซึ่งถ่ายทอดวิชาหน้าผากเสือ และปลัดขิก หลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ อันลือลั่น และยังถือได้ว่าเป็นศิษย์องค์สุดท้ายของหลวงพ่อดิ่ง ที่ได้รับการถ่ายทอดวิทยาคม ในการสร้างวัตถุมงคล ลิงหรือหนุมานอันลือเลื่อง และสุดยอดวิชาของหลวงพ่อดิ่งคือวิชา “สูญผีไล่ผี คาถาพระเจ้าสิบหกพระองค์”

    หลวงพ่อฟู เข้าสู่ร่มกาสาวพัสตร์ เมื่ออายุครบ ๒๐ ปี ในวันที่ ๑ พฤษภาคม พ.ศ. ๒๔๘๕ ที่วัดบางสมัคร โดยมีพระครูพิบูลย์คณารักษ์ (หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว) ผู้เป็นพระอาจารย์เป็นพระอุปัชฌาย์ หลวงพ่อชื่น วัดทองนพคุณ เขตคลองสาน กรุงเทพฯ เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูเมธีธรรมโฆสิต (พระมหาจอม) วัดบางสมัคร เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายาว่า “อติภัทโท” หลังจากอุปสมบทแล้ว ท่านได้ศึกษาด้านคันถธุระ ที่วัดทองนพคุณ กรุงเทพฯ จนสามารถสอบได้นักธรรมโท และต่อมาเมื่อปี พ.ศ. ๒๔๘๗ ท่านได้ไปจำพรรษาที่วัดอุทยานที จ.ชลบุรี เพื่อเรียนนักธรรมเอก จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๔๙๒ ท่านก็สอบได้เปรียญธรรม ๔ ประโยค ต่อมาพรรษาที่ ๑๖ พ.ศ.๒๕๐๑ หลวงพ่อฟูได้รับแต่งตั้งให้ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดอู่ตะเภา จ.ชลบุรี เลื่อนอันดับเป็นพระกรรมวาจาจารย์ และตำแหน่งเจ้าคณะตำบลหนองไม้แดง จ.ชลบุรี จนกระทั่งปี พ.ศ. ๒๕๐๓ ได้รับการแต่งตั้งให้เป็นพระอุปัชฌาย์ ต่อมาเมื่อ พ.ศ. ๒๕๐๕ ตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดบางสมัคร จ.ฉะเชิงเทรา ว่างเว้นลง ชาวบ้านและญาติโยมจึงนิมนต์ท่านให้มาเป็นเจ้าอาวาสวัดบางสมัครจวบจนปัจจุบัน

    ทั้งชีวิตท่านอุทิศเพื่อพระศาสนา ได้พัฒนาวัดบางสมัครจนเจริญรุ่งเรืองเป็นวัดที่ใหญ่โตและกว้างขวาง วันนี้มีพระอุโบสถ ที่ใหญ่ที่สุดในเขต อ.บางปะกง ในปี พ.ศ. ๒๕๓๔ ท่านได้รับรางวัลพระราชทานเสมาธรรมจักรทองคำ สาขาเผยแผ่พระพุทธศาสนาจากสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี สร้างความปลื้มปีติให้แก่ศิษยานุศิษย์ทั่วทุกหย่อมหญ้า ในด้านการศึกษา หลวงพ่อฟู ท่านได้รับการแต่งตั้งเป็นกรรมการตรวจธรรมสนามหลวง เป็นครูสอนพระปริยัติธรรมให้พระภิกษุสามเณรรุ่นใหม่อีกด้วย

    หลวงพ่อฟู ได้ชื่อว่าเป็นผู้สืบสานวิทยาคมสายตรงจาก หลวงพ่อดิ่ง วัดบางวัว โดยแท้ เนื่องจากเป็นพระอุปัชฌาย์ของท่านและยังเป็นเกจิอาจารย์ที่มีอาคมขลังยิ่ง วัตถุมงคลที่ได้รับความนิยมและกล่าวขานกันมากคือ เหรียญรูปไข่ รุ่นแรก พ.ศ. ๒๔๘๑ ตะกรุดเสือเสื้อยันต์ ลิงจับหลักแกะจากรากพุดซ้อน ว่ากันว่า หลวงพ่อดิ่ง ได้ถ่ายทอดวิชา “สูญผีไล่ผี คาถาพระเจ้าสิบหกพระองค์” อันเป็นวิชาชั้นสูงสุดของท่านและวิชาการสร้างลิงจับหลักที่แกะจากรากต้นพุดซ้อนให้หลวงพ่อฟูจนหมดสิ้น

    หลวงพ่อคง วัดวังสรรพรส จ.จันทบุรี ก็ได้ประสิทธิ์ประสาทวิชาทำเครื่องรางของขลัง “ตะกรุด ผ้ายันต์ ปลัดขิก เสืออาคม เสือสมิง การเขียน และลบผงอิทธิเจ ปถมัง ตรีนิสิงเห และการสร้างพระปิดตา” ให้แก่หลวงพ่อฟูเช่นกัน
    นอกจากนี้ หลวงพ่อบุญมี วัดบึงกระจับ จ.ฉะเชิงเทรา พระอาจารย์ผู้โด่งดังทางด้านการสร้างลูกอม ก็ได้ถ่ายทอดวิชากรรมฐานในการออกธุดงค์ คาถาที่ใช้ภาวนา คือ “อะระหัง” กับ “นะ ขัตติยะ” ให้กับหลวงพ่อฟูด้วย

    หลวงพ่อเริ่ม วัดจุกเฌอ จ.ชลบุรี ก็เป็นอาจารย์อีกรูปหนึ่งที่หลวงพ่อฟูให้ความเคารพ หลวงพ่อเริ่มนั้นไม่ธรรมดาสืบสานวิชา “ฝนแสนห่า” และ “สีผึ้งเจ็ดจันทร์” จากหลวงพ่ออ่ำ วัดหนองกระบอก วิชาทำปลัดขิก วิชาหน้าผากหนังเสือ จากหลวงพ่ออี๋ วัดสัตหีบ โดยตรง วิชาทำผง ๑๒ นักษัตรของหลวงปู่เทียนวัดโบสถ์ วิชาการสร้างพระปิดตา และวิชาโหราศาสตร์จากสมเด็จพระสังฆราช (อยู่) วัดสระเกศฯ กรุงเทพฯ วิชาเหล่านี้หลวงพ่อเริ่มได้ถ่ายทอดให้หลวงพ่อฟูในฐานะศิษย์เอกจนครบถ้วนด้วย

    ส่วน หลวงพ่อบุญมา วัดอุทยานที จ.ชลบุรี ก็ได้สอนตำราพระเวทสายเกจิอาจารย์ชายฝั่งทะเลตะวันออก และสูตรการผสมผงสร้างพระปิดตาสายวัดเครือวัลย์ จ.ชลบุรี ให้แก่หลวงพ่อฟู และวิชาการทำยาหอม ยาหม่อง น้ำมันใส่แผล จากสมุนไพรต่าง ๆ ซึ่งทุกวันนี้หลวงพ่อฟูได้นำมาใช้และแจกจ่ายประชาชนทั่วไปโดยไม่คิดมูลค่าใด ๆ ทั้งสิ้น
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2016
  11. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ประวัติพระครูธรรมสุตาภรณ์ (หลวงปู่บุญมี) วัดสุตธรรมาราม จ.นครนายก

    พระครูธรรมสุตากรณ์ (หลวงพ่อบุญมี คุณสาโร) หลวงพ่อมีชื่อทางด้านสะเดาะเคราะห์ต่อชะตา

    พิธีพุทธาภิเษก วัตถุมงคล พระครูธรรมสุตาภรณ์ หลวงปู่บุญมี คุณสาโร


    https://www.youtube.com/watch?v=NjuxS7N1E0c

    https://www.youtube.com/watch?v=3bhAjVIGs0M
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  12. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ประวัติพระญาณนายก(ทองใบ ชุติธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์



    พระญาณนายก(ทองใบ ชุติธมฺโม) เจ้าอาวาสวัดเจดีย์ ที่ปรึกษาเจ้าคณะจังหวัดนครนายก รวมอายุ 87 ปี 63 พรรษา สถานะเดิม ชื่อ นายทองใบ ธรรมดิษฐ์ เกิดวันอังคารที่ 13 สิงหาคม 2472 ขึ้น 8 ค่ำ เดือน 9 ปีมะเส็ง บิดาชื่อ นายเปลื้อง มารดาชื่อ นางเชย เกิดที่ ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก บรรพชา อุปสมบท เมื่อวันเสาร์ที่ 11 สิงหาคม 2496 แรม 12 ค่ำ เดือน 5 ปีมะเส็ง ณ วัดเจดีย์ทอง ต.ท่าช้าง อ.เมือง จ.นครนายก นามพระอุปัชฌาย์ พระราชวรนายก เจ้าคณะ อ.เมืองนครนายก วัดศรีเมือง อ.เมือง จ.นครนายก


    ถ้ากล่าวถึงหลวงพ่อทองใบ(พระญาญนายก) วัดเจดีย์ทอง หลายๆ ท่าน โดยเฉพาะลูกศิษย์ส่วนมากจะเข้าใจว่าท่านเก่งในเรื่องการทำนายทายทักดวงชะตาเท่านั้น

    แต่ในวงการพระเครื่อง โดยเฉพาะในเขตจังหวัดนครนายก ต่างแสวงหาเหรียญรุ่นแรกของท่าน มาไว้ในครอบครองและบูชาติดตัว ด้วยประสบการณ์ต่าง ๆ ที่พบเจอ ไม่ว่าจะเป็นทาง แคล้วคลาด ปลอดภัย ค้าขาย การงาน เจริญรุ่งเรือง และที่สำคัญอีกอย่างคือเหรียญของท่านสร้างตั้งแต่ ปี พ.ศ.2510 ซึ่งหากนับพระเกจิอาจารย์ในปัจจุบันคงมีไม่กี่รูปแล้ว
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  13. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    หลวงพ่อผ่าน วัดป่าโพธิ์แก้ว จ.ปราจีนบุรี

    อัตชีวประวัติหลวงปู่ผ่านฉันทโกพระผู้เสีย­สละเหนือนาบุญศิษย์เอกผู้สืบทอดวิชาอาคมจากหลวงปู่สรวง โล๊กตาเบ๊าะ เทพเจ้าแห่งโชคลาภและได้เจอปฏิหารย์ต่างๆมากมาย
    รับชมตามลิ้งค์ด้านล่างได้เลยครับ

    https://www.youtube.com/watch?v=HO7OB8Io6Iw
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  14. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ประวัติหลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว

    พระครูประโชติธรรมวิจิตร (หลวงพ่อเพิ่ม อตฺตทีโป) ที่ปรึกษาเจ้าคณะอำเภอบางไทร เจ้าอาวาส วัดป้อมแก้ว ต.บ้านกลึง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา นับได้ว่าเป็นพระเกจิอาจารย์อีกท่านหนึ่งของ จ.พระนครศรีอยุธยา ที่มีชื่อเสียงโด่งดัง ทั้งงานพัฒนาพระศาสนา ก่อสร้างเสนาสนะต่างๆ ของวัดและทางปลุกเสกวัตถุมงคลต่างๆ จนปรากฏเป็นที่เลื่องลือในหมู่ลูกศิษย์และผู้ศรัทธาเลื่อมใสในหลวงพ่อตลอดมา

    ประวัติหลวงพ่อเพิ่ม วัดป้อมแก้ว พระครูประโชติธรรมวิจิตร อยุธยา ตามประวัติหลวงพ่อเพิ่ม ถือกำเนิดเมื่อวันอาทิตย์เดือนสี่ ตรงกับปีขาล พ.ศ.๒๔๖๙ ณ บ้านกลึง อ.บางไทร จ.พระนครศรีอยุธยา โดยเป็นบุตรคนที่ ๓ ของโยมบิดาชื่อ นายเล็ก บำรุงสุข โยมมารดาชื่อนางแพร บำรุงสุข ชีวิตวัยเยาว์ หลวงพ่อเพิ่ม ได้เริ่มการศึกษาเบื้องต้นที่วัดช่างเหล็ก โดยเรียนกับพี่ชาย จนกระทั่งจบชั้นประถมศึกษาปีที่ ๔ จึงบรรพชาเป็นสามเณร อยู่ที่วัดบางยี่โถ เพื่อศึกษาอักขระขอม และบทสวดมนต์ต่างๆ ต่อมาบิดาล้มป่วยลง ท่านจึงสึกออกมาเพื่อช่วยงานทางบ้านประกอบอาชีพ และเมื่ออายุครบเกณฑ์ทหาร ท่านได้เป็นทหารรับใช้ชาติอยู่ ๒ ปี ครั้นพอออกจากทหาร มารดาของท่านได้เสียชีวิต ท่านจึงตัดสินใจอุปสมบท เมื่อ พ.ศ.๒๔๙๓ ณ วัดสีกุก อ.บางบาล จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมีพระครูประโชติวุฒิกร (หลวงพ่อโชติ) วัดป้อมแก้ว เป็นพระอุปัชฌาย์ พระครูถาวรธรรมคุณ วัดสีกุก เป็นพระกรรมวาจาจารย์ พระครูไพโรจน์ วัดเสาธง เป็นพระอนุสาวนาจารย์ ได้รับฉายา "อตฺตทีโป" แปลว่า "ผู้มีประทีปแห่งตน" การศึกษาพุทธาคม หลวงพ่อเพิ่มท่านได้สนใจศึกษาวิชาอาคมอย่างจริงจัง เมื่อครั้งย้ายมาจำพรรษาที่ วัดป้อมแก้ว โดยได้รับการถ่ายทอดมาจาก หลวงพ่อโชติ อดีตเจ้าอาวาสในขณะนั้น ผู้ซึ่งเป็นศิษย์ของหลวงพ่อห่วง วัดบางยี่โถ ในสายพุทธาคมของ หลวงปู่ปั้น วัดพิกุล สุดยอดพระเกจิอาจารย์ชื่อดังของ จ.พระนครศรีอยุธยา ในอดีต โดยในขั้นแรก ท่านได้เริ่มจากการเขียนอักขระเลขยันต์ต่างๆ จนได้รับความไว้วางใจจากหลวงพ่อโชติ ให้เป็นผู้เขียนอักขระยันต์แทนหลวงพ่อโชติ ช่วงที่ท่านมีอายุมากและสายตาไม่ดี ต่อมาหลวงพ่อเพิ่มได้รับการมอบหมายให้ทั้งจารอักขระเลขยันต์ต่างๆ รวมทั้งการนั่งปรกปลุกเสกแทนหลวงพ่อโชติอีกด้วย จนกระทั่งหลวงพ่อโชติมรณภาพ หลวงพ่อเพิ่มจึงได้รับตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดป้อมแก้ว แทนตั้งแต่ พ.ศ.๒๕๑๑ เป็นต้นมา จนถึงทุกวันนี้

    หลวงพ่อเพิ่ม ได้ใช้วิชาความรู้ต่างๆ ที่ได้ร่ำเรียนมาพัฒนาวัดป้อมแก้วตลอดเวลา จนทำให้สภาพของวัดดีขึ้นเรื่อยๆ และมีความเจริญรุ่งเรืองในทุกๆ ด้าน ดังที่เห็นในทุกวันนี้ ปัจจุบันหลวงพ่อเพิ่ม มีสุขภาพพลานามัยที่แข็งแรงดีอยู่เสมอ และมักจะได้รับกิจนิมนต์นั่งปรกอธิษฐานจิตวัตถุมงคลต่างๆ ตามพิธีพุทธาภิเษกทั้งที่วัดใน จ.พระนครศรีอยุธยา และใกล้เคียง รวมทั้งวัตถุมงคลของวัดป้อมแก้ว ที่ท่านได้จัดสร้างขึ้นเอง ซึ่งมีออกมาเป็นระยะๆ และมีผู้ทำบุญบูชาหมดไปในเวลาอันรวดเร็ว แม้ว่าจะไม่ได้มีการโฆษณาตามสื่อต่างๆ ก็ตาม
    หลวงพ่อเพิ่ม นับเป็นพระสุปฏิปันโนที่น่าเคารพกราบไหว้เป็นอย่างยิ่ง ด้วยปฏิปทาอันเรียบง่าย สมถะ สันโดษ เป็นที่ศรัทธาเลื่อมใสของผู้พบเห็นอยู่เสมอ จนมีผู้ปฏิบัติธรรมท่านหนึ่ง ซึ่งได้รับการถ่ายทอดวิชาความรู้ต่างๆ ในการนั่งสมาธิฝักอบรมวิปัสสนากรรมฐาน มาจากพระเกจิอาจารย์ยุคก่อน อาทิ หลวงพ่อพรหม วัดช่องแค ครูบาชุ่ม โพธิโก ครูบาพรหมา วัดพระพุทธบาทตากผ้า ฯลฯ ได้ให้ข้อสังเกตว่า

    ด้วยวัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเพิ่ม และการแสดงออกบนใบหน้าของหลวงพ่อ บ่งบอกได้ว่าท่านเป็นผู้มีบุญบารมีสูง และได้บรรลุธรรมในระดับหนึ่ง รวมทั้งเชื่อกันว่าท่านเป็นผู้มีพลังจิตอันสูงส่ง มีความแก่กล้าในทางวิชาอาคมอันเข้มขลัง ซึ่งตรงกับคำเล่าลือของชาวบ้านที่ว่า วัตถุมงคลของพระเครื่องหลวงพ่อเพิ่มทุกรุ่นที่ท่านได้ปลุกเสกเอาไว้ ล้วนมีอานุภาพความเข้มขลังศักดิ์สิทธิ์มาโดยตลอด จนปรากฏเกียรติคุณอันโด่งดังถึงทุกวันนี้ นอกจากนี้ ชื่อของ "หลวงพ่อเพิ่ม" ยังเป็นมงคลนาม จึงเชื่อกันว่า ใครได้ทำบุญกับ "หลวงพ่อเพิ่ม" ชีวิตมีแต่ "เพิ่ม" ขึ้นในทางที่ดีเสมอไป หนังสือพิมพ์คมชัดลึก "บุญนำพา"
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  15. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    ประวัติหลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม

    หลวงพ่อเพี้ยน อัคคธัมโม หรือ พระครูวิมลสมณวัตร เป็นพระเกจิอาจารย์อาวุโสของเมืองลพบุรี เจ้าตำรับสุดยอดเครื่องรางของขลัง ตะกรุดโทน และ ผ้ายันต์แดง เสือ สิงห์ ที่ มีประสบการณ์พุทธคุณกล่าวขานเลื่องลือกันไปทั่ว ทั้งในด้านเมตตา ค้าขาย ปกป้องคุ้มภัย มหาอุด และคงกระพันชาตรี เรื่องราวชีวิตและบทบาทของท่านนับว่าน่าสนใจ เพราะเป็นพระของชาวบ้านโดยแท้

    ประวัติ หลวงพ่อเพี้ยน เกิดในสกุล ยอดวัด เมื่อวันอาทิตย์ ขึ้น 3 ค่ำ เดือน 3 ปีขาล พุทธศักราช 2470 ที่บ้านเกริ่นกฐิน ต.บ้านชี อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี ชีวิตในวัยเยาว์ หลังจบการศึกษาภาคบังคับ ชั้นประถมศึกษาปีที่ 4 จากนั้นก็ช่วยเหลือครอบครัวในการประกอบอาชีพทำนา จวบกระทั่งถึงวัยแห่งการครองเรือน แต่ภายหลังเกิดความเบื่อหน่าย จึงหันหน้าเข้าสู่เส้นทางธรรม ท่านได้เข้าพิธีอุปสมบท เมื่อวันที่ 4 สิงหาคม 2519 ณ พัทธสีมาวัดกำแพง อ.บ้านหมี่ จ.ลพบุรี โดยมีหลวงพ่อเจือ เจ้าอาวาสวัดกำแพง เป็นพระอุปัชฌาย์ ได้รับฉายา อคฺคธมฺโม มีความหมายว่า ผู้มีธรรมอันยอดเยี่ยม ภาย หลังเข้ารับการอุปสมบท ได้ย้ายไปพำนักที่วัดเกริ่นกฐิน เพื่อบำเพ็ญสมณกิจ สวดมนต์ เจริญจิตตภาวนา และได้มีโอกาสได้ร่ำเรียนวิทยาคมจากหลวงพ่อปาน เจ้าอาวาสวัดเกริ่นกฐิน ในยุคนั้น รวมไปถึงการได้ทบทวนสรรพวิชาเข้มขลังจากแผ่นดินกัมพูชา ที่ได้รับการถ่ายทอดมาจากโยมบิดาของท่าน สำหรับหลวงพ่อปาน พระเกจิเรืองอาคม เป็นพระภิกษุที่สัญจรมาจากประเทศกัมพูชาเช่นกัน ซึ่งหลวงพ่อปานได้กล่าวเน้นย้ำเป็นการเตือนสติอยู่เสมอว่า คนเราจะทำการใดๆ ต้องมีจิตที่มุ่งมั่น ตั้งใจในการศึกษา หัวใจของการศึกษาวิชาอาคมให้บังเกิดผล ถึงความขลังและความศักดิ์สิทธิ์ จะต้องเริ่มที่สติ เมื่อสติมั่นคงก็จะบังเกิดเป็นสมาธิ สมาธิจะทำให้เกิดปัญญา สามารถทำจิตให้เป็นหนึ่งเดียว และเมื่อถึงขั้นนั้น จะทำสิ่งใดๆ ย่อมได้ผลดังนั้น เมื่อท่านได้ฝึกจิตตามแนวทางของหลวงพ่อปาน ทำให้การเรียนด้านวิชาอาคม บังเกิดความก้าวหน้า และได้รับความศรัทธาจากชาวบ้านที่ประสบเคราะห์ซ้ำกรรมซัดต่างๆ นานา โดยท่านได้ใช้อำนาจแห่งพุทธคุณ ธรรมคุณ และสังฆคุณ รวมทั้งวิทยาคม ใครถูกคุณไสยมนต์ดำ อวิชชาชั้นต่ำไสยมนต์ดำ อวิชชาชั้นต่ำ สรรพวิญญาณดุร้ายเข้าสิงร่าง ใช้มนต์คาถากำราบ ใครเจ็บป่วยเป็นไข้ป่า ใช้ยาสมุนไพรรักษา สามารถพลิกผันเปลี่ยนขาวเป็นดำ บำบัดปัดเป่าเคราะห์ร้ายได้ผลเป็นที่น่าอัศจรรย์ ชื่อเสียงร่ำลือระบือไกล


    ปี พ.ศ.2521 วัดเกริ่นกฐิน ร้างเจ้าอาวาสปกครอง ญาติโยมได้พากันไปร้องต่อพระผู้ใหญ่จังหวัดลพบุรี ขอให้แต่งตั้งหลวงพ่อเพี้ยน เป็นเจ้าอาวาส ซึ่งได้รับการตอบสนองตามคำร้องขอเป็นอย่างดีภายใต้การปกครองดูแลวัดเกริ่นกฐิน ตั้งแต่ปี พ.ศ.2521 จนถึงปัจจุบัน วัตรปฏิบัติของหลวงพ่อเพี้ยนไม่มีความเปลี่ยนแปลงใดๆ ดำรงตนอย่างสมถะ เป็นพระชาวบ้านธรรมดา แต่ว่าเข้าถึงจิตใจคนทุกระดับชั้น ไม่มีการเลือกชั้นวรรณะของผู้ที่ขอเข้าไปกราบนมัสการ หลวง พ่อเพี้ยน ได้ย้อนอดีตถึงปฐมเหตุแห่งการเป็นพระผู้เสก ว่า ในคราแรก เลือกมาพำนักที่วัดเกริ่นกฐิน ที่ตั้งโดดเด่นอยู่กลางทุ่งนา เพื่อปฏิบัติตามคำสอนของหลวงพ่อปาน ที่กำชับเอาไว้ สิ่งที่เริ่มต้น คือ การเจริญภาวนาทำให้เกิดจิตที่มั่นคง เป็นสมาธิ วันหนึ่ง ในราวพรรษาที่ 3 ท่านมีกิจนิมนต์ ต้องเดินทางจากวัดไปยัง อ.ท่าวุ้ง จ.ลพบุรี โดยเส้นทางจากหมู่บ้านเกริ่นกฐิน สู่ถนนสายหลักท่าโขลง-บ้านหมี่ ห่างไกลพอสมควร จำต้องเดินผ่านทุ่งนา ในบางช่วงต้องเดินผ่านป่าละเมาะ สองฟากทางรกทึบมาก หลวงพ่อเพี้ยน เดินทางออกจากหมูบ้านเกริ่นกฐินเพียงเล็กน้อย ได้พบเห็นการกระทำของโจรร้ายกำลังปล้นชิงทรัพย์ของชาวบ้าน แต่เจ้าทรัพย์ ต่อสู้ขัดขืน จึงถูกคนร้ายใช้มีดแทงจนถึงแก่ความตาย ไปต่อหน้าต่อตา ท่านบังเกิดความเวทนาต่อชาวบ้านผู้เคราะห์ร้ายเป็นยิ่ง นัก เมื่อเดินทางกลับวัด ได้ทบทวนเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น จึงได้ความคิดว่า หากชาวบ้านผู้นั้นมีวัตถุมงคลคุ้มครองป้องกันตัว อาจแคล้วคลาดภยันตรายได้อย่างแน่นอน ความคิดดังกล่าว ทำให้หลวงพ่อเพี้ยน มุมานะในการพลิกฟื้นตำรา ทั้งของโยมบิดาและหลวงพ่อปาน ที่ได้กำชับถึงหัวใจแห่งการร่ำเรียนวิชา โดยเฉพาะพระคาถาอาคม เมื่อรำลึกถึงคำสอน หลวงพ่อจึงเร่งในการภาวนาจิตอย่างจริงจัง และเริ่มทำการจัดสร้างของขลังเป็นครั้งแรก เพื่อแจกจ่ายให้กับผู้ที่ใกล้ชิดเอาไว้เพื่อเป็นการป้องกันและคุ้มครองตัว เอง ได้แก่ "ตะกรุดโทน" กว่าจะสำเร็จเป็นตะกรุดโทน มิใช่เรื่องง่ายดาย แผ่นโลหะแต่ละแผ่น เมื่อได้จารอักขระเลขยันต์ตามตำรับ กว่าจะบรรลุเป้าหมายถึงขั้นนำไปใช้ได้ ต้องผ่านขั้นตอนพิธีกรรมอันสำคัญ คือ การจารตะกรุดใต้น้ำ

    หลวงพ่อเพี้ยนจะต้องดำลงใต้น้ำ เพื่อทำการจารอักขระ ซึ่งเป็นหัวใจของพระคาถาด้านมหาอุด และคงกระพันชาตรี ตะกรุดโทนหลวง พ่อเพี้ยน สร้างประสบการณ์ลือลั่นท้องทุ่งบ้านหมี่ รวมทั้งเป็นที่รู้จักกันเป็นอย่างดี ในหมู่นักนิยมสะสมวัตถุมงคลของขลัง แต่ปัจจัยจากการเช่าบูชาทุกบาททุกสตางค์ หลวงพ่อไม่เคยนำเข้าพกเข้าห่อใช้จ่ายส่วนตัว แต่ท่านจะนำปัจจัยไปใช้ในด้านการพัฒนาวัดวาอาราม วัดเกริ่นกฐิน ในยุคหลวงพ่อเพี้ยน ปกครองเป็นเจ้าอาวาส ได้เกิดสิ่งใหม่ๆ มากมาย เป็นอาคารคอนกรีตเสริมเหล็ก อวดสายตาแก่ญาติโยม อาทิ ศาลาการเปรียญหลังใหญ่ 2 ชั้น หอฉัน หอสวดมนต์ หอระฆัง กุฏิสงฆ์ ศาลาอเนกประสงค์ อุโบสถ เมรุ เจดีย์พิพิธภัณฑ์ โดยตั้งกองทุนมาจากการสร้างพระกริ่งอัคคธัมโม และเหรียญบาตรน้ำมนต์ หลวงพ่อเพี้ยน มิได้มุ่งเน้นการพัฒนาภายในวัดของท่านเพียงอย่างเดียว ยังมองไปถึงปัญหาของชุมชนอีกด้วย อาทิ ได้สร้างถนนลาดยางจากถนนสายหลักท่าโขลง-บ้านหมี่ เข้าสู่หมู่บ้าน นอกจากนี้ ในด้านการศึกษา ยังได้จัดสร้างอาคารเรียนให้กับโรงเรียนวัดสระกระเบื้อง ใช้งบประมาณกว่า 2 ล้านบาท อีกด้วย
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

    แก้ไขครั้งล่าสุด: 18 กุมภาพันธ์ 2016
  16. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    พระครูสิทธิพิมล (หลวงพ่อจักษ์ จตฺตมโล) วัดชุ้ง

    พระครูสิทธิพิมล (หลวงพ่อจักษ์ จตฺตมโล) วัดชุ้ง ทายาทพุทธาคม ศิษย์เอก “หลวงปู่ย้อย ปุญฺญมี” พระเกจิอาจารย์ชื่อดังเมืองสระบุรี เจ้าตำรับตะกรุดมหาจักรพรรดิตราธิราช
    ปัจจุบัน หลวงพ่อจักษ์ สิริอายุได้ ๖๐ ปี (๕ รอบ) พรรษา ๓๙ ดำรงตำแหน่งเจ้าอาวาสวัดชุ้ง ต.เมืองเก่า อ.เสาไห้ จ.สระบุรี นามเดิม “ประจักษ์ นิลพิทักษ์”
    บรรพชาเป็นสามเณรที่วัดบ้านโดน แล้วย้ายมาอยู่ที่วัดอัมพวัน พ.ศ.๒๕๑๘-๒๕๑๙
    เนื่องจากสามเณรประจักษ์ มีวิสัยรักการบวช จึงตั้งใจศึกษาปฏิปทาแนวทางการปฏิบัติ โดยได้ดำเนินแนวทางตามยอดพระอริยสงฆ์ อย่างเช่น หลวงปู่ย้อย ปุญฺญมี และทำตัวเป็นศิษย์ที่ดีตลอดมา จนกระทั่งอุปสมบท เมื่อวันที่ ๑๕ พฤษภาคม ๒๕๑๙ ขณะอายุ ๒๑ ปี ณ วัดชุ้ง จ.สระบุรี โดยมี พระครูวิมลสมณวัต (หลวงพ่อใหญ่) เป็นพระอุปัชฌาย์, พระสมุห์บุญเรือง ราธธมฺโม อดีตเจ้าอาวาสวัดชุ้ง เป็นพระกรรมวาจาจารย์ และพระกำปั่น ปุญฺโณ อดีตเจ้าอาวาสวัดอัมพวัน รูปต่อจากหลวงปู่ย้อย เป็นพระอนุสาวนาจารย์

    หลังจากอุปสมบทแล้วได้ไปจำพรรษาอยู่ที่วัดอัมพวัน โดยมีหลวงปู่ย้อย เป็นเจ้าอาวาส โดยได้ศึกษาวิทยาคมกับหลวงปู่ย้อย ทางด้านศาสตร์ต่างๆ อาทิ การทำตะกรุด และอักขระเลขยันต์ต่างๆ เช่น ตะกรุดมหาจักรพรรตราธิราช สุดยอดตะกรุดดังของหลวงปู่ย้อย พระอริยสงฆ์ผู้ทรงคุณ แห่งลุ่มแม่น้ำป่าสัก จนสำเร็จสัพพวิทยาคมทั้งปวง
    ต่อมา ท่านได้ย้ายกลับมาจำพรรษาที่วัดชุ้ง เพื่อสงเคราะห์ญาติโยมทั้งหลาย โดยได้ไปมาหาสู่หลวงปู่ย้อย และวัดอัพวัน เรื่อยมา
    นอกจากนี้ ท่านได้ทำตะกรุดต่างๆ ส่งไปช่วยวัดอัมพวัน ตามที่หลวงพ่อปั่น เจ้าอาวาสรูปต่อจากหลวงพ่อย้อย ได้ขอมา
    ต่อมา เมื่อปี ๒๕๓๗ ท่านได้ไปศึกษาเล่าเรียนวิทยาคมเพิ่มเติมกับหลวงปู่เฮ็น สิริวํโส วัดดอนทอง พระเกจิอาจารย์ผู้ทรงคุณวิเศษอันล้ำเลิศ...ได้เล่าเรียนวิชาทำตะกรุดภุชงค์เบญจฤทธิ์ อันเป็นตำนานที่ลือชื่อของหลวงปู่เฮ็น จนสำเร็จวิทยาคมทุกอย่าง จนได้รับความไว้วางใจจากหลวงปู่เฮ็นในการช่วยทำตะกรุดภุชงค์เบญจฤทธิ์ และตะกรุดต่างๆ ตามตำราของท่าน จวบจนท่านมรณภาพ
    ต่อมา หลวงพ่อจักษ์ได้เอาความรู้จากสัพพวิทยาต่างๆ ที่ได้เรียนมาจากทั้ง ๒ คณาจารย์ มาช่วยหลวงพ่อเรือง สร้างวัตถุมงคล สร้างวัด โดยออกในนามหลวงพ่อเรือง ไม่ว่าจะเป็นยันต์หลังเหรียญหลวงพ่อเรือง หรือตะกรุดต่างๆ หลวงพ่อจักษ์เป็นผู้วางยันต์และจารให้ตลอดมา จนมีประสบการณ์เป็นที่กล่าวขานของชาวบ้านวัดชุ้ง เป็นอย่างดี
    ด้วยความเป็นพระดีมีครูดี จึงทำให้หลวงพ่อจักษ์ปลุกเสกอะไร สร้างอะไรก็มีความขลังศักดิ์สิทธิ์ เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง
    วัตถุมงคลที่หลวงพ่อจักษ์สร้างไว้ยุคต้นๆ คือ ทำไว้ในงานฝังลูกนิมิต และฝากกรุสืบอายุพระศาสนา มีหลายพิมพ์ อาทิ พระพิมพ์นางพญา พระปิดตา พระพิมพ์หลวงพ่อโต บางกระทิง พระพิมพ์จันทร์ลอย พระพิมพ์งบน้ำอ้อย พระพิมพ์ขุนแผนไข่ผ่า พระพิมพ์ขุนแผนห้าเหลี่ยม ฯลฯ รวมเรียกว่า พระผงใบลาน และพระเนื้อดินเผา ยุคต้น ซึ่งเป็นที่แสวงหาของเหล่าลูกศิษย์ทั่วไป
    ต่อมาเมื่อปี ๒๕๕๕ ได้สร้างพระยอดธง รุ่นแรก ออกงานฉลองพระอุปัชฌาย์ พระยอดธงรุ่นนี้มีประสบการณ์มากมาย
    ปี ๒๕๕๖ สร้างพระบูชาหลวงปู่ใหญ่ พระประธานโบสถ์เก่า วัดชุ้ง ขนาด ๙ นิ้ว, ๕ นิ้ว และเหรียญดวงหนุนเงิน หล่อแบบโบราณ ช่วงปลายปีได้จัดสร้าง เหรียญพระปิดตา รุ่น “เลื่อนสมณศักดิ์ ๕๖” โดยหลวงพ่อจักษ์ ได้รับพระราชทานเลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระครูสัญญาบัตรชั้นเอก ที่ “พระครูสิทธิพิมล”
    ปี ๒๕๕๘ หลวงพ่อจักษ์ มีอายุครบ ๕ รอบ (๖๐ ปี) ทางวัดจึงได้จัดสร้าง “เหรียญรูปเหมือนรุ่นแรก” ของหลวงพ่อ ซึ่งเป็นโอกาสที่รอคอยของบรรดาลูกศิษย์ทั้งหลาย เป็นรุ่นที่ทางวัดชุ้งจัดสร้างเองโดยตรง เพื่อนำรายได้สร้างหอสวดมนต์ และกุฏิสงฆ์

     

    ไฟล์ที่แนบมา:

  17. werapong

    werapong เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2006
    โพสต์:
    1,633
    ค่าพลัง:
    +7,800
    พี่หนุ่มครับ มีรายละเอียดมวลสารไหมครับ
     
  18. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    มวลสารที่อุดหลังล็อกเก็ต ผมเพิ่มข้อมุลให้ในโพสที่ #9 แล้วนะครับ
     
  19. หนุ่ม36

    หนุ่ม36 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    1,511
    ค่าพลัง:
    +3,463
    วัดลำบัวลอย ขอเชิญร่วมบุญพุทธาภิเษกพระ
     

    ไฟล์ที่แนบมา:

สถานะของกระทู้:
กระทู้ถูกปิด ไม่สามารถโพสต์ตอบกลับได้

แชร์หน้านี้

Loading...