Ong

สวัสดีตอนเย็นค่ะ สบายดีหรือเปล่าค่ะ
[IMG]

ขอให้มีความสุขในวันสุดสัปดาห์ค่ะ

เสียงปรบมือและคำสรรเสริญของใครก็ไม่ยิ่งใหญ่เท่าความภูมิใจของตัวท่านเอง

กล้าฝัน กล้าเดินตามฝัน เป็นมนุษย์เป็นของยาก
ท่านเป็นทั้งมนุษย์และผู้มีปัญญา จงกล้าเดินตามฝันของท่านเถิด ลองดูสักตั้งก่อน
อย่าให้คำปรามาสของผู้อื่นมาเป็นอุปสรรค จะหยุดหรือจะเดินท่านใช้ปัญญาของท่านเลือกเองเถิด

ขอพลังจงสถิตอยู่กับท่านตลอดไป

naproxen

สวัสดีตอนเช้าค่ะ

คำตรัสของสมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
"เรือนกระดูก"

เธอจงพินิจกายที่อาดูร ไม่สะอาด เปื่อยเน่าไหลเข้าไหลออก ซึ่งคนเขลาปรารถนายิ่งนัก
เธอจงเห็นธาตุทั้งหลายโดยเป็นของว่างเปล่า อย่ามาสู่โลกอีก เธอสำรอกความพอใจในภพชาติเสีย จักสงบระงับอยู่ตลอดไป

สรีรกายนี้ ถูกสร้างให้เป็นเมืองกระดูก ฉาบด้วยเนื้อและเลือด เป็นที่ตั้งลงแห่งความแก่ ความตาย ความทระนง และความลบหลู่

วันนี้ได้รับผ้ายันต์แล้วนะครับ สวยงามมาก ๆ เลย

สวัสดีครับ

มีพุทธวจนะมาฝาก ครับ

ผู้ไม่ดุร้าย กลางกลุ่มชนผู้ดุร้าย
สงบ กลางกลุ่มชนผู้ทารุณ
ไม่ยึดมั่นกลางกลุ่มชนผู้ยึดมั่น
ตถาคตเรียกว่า พราหมณ์

สวัสดีครับน้องอิน วันนี้พี่ได้โอนเงินทำบุญกฐินไปให้แล้วนะจำนวนเงิน 500 บาท ขออนุโมทนาด้วยครับ

http://board.palungjit.com/showthread.php?t=155001

บอกบุญงานกฐินครับ

แม้ท่านทั้งหลายผู้เห็นแล้วว่าสังขารทั้งหลายไม่มีตัวตนไม่เที่ยง
กล่าวนัยว่าเป็นสิ่งสมมติเป็นของชั่วคราว
แต่ขอให้ท่านอยู่กับสังขารที่เป็นความสุขความดี เถิดขอรับ

มีพระสูตรของท่านเว่ยหลางมาร่วมศึกษาค่ะ
*******************************
[IMG]

[IMG] "ท่านเว่ยหล่าง"

พระสูตรทางพระพุทธศาสนานิกายเซ็นที่โด่งดัง และเป็นที่รู้จักกันอย่างกว้างขวาง เห็นจะไม่มีพระสูตรใดเกิน "สูตรของท่านเว่ยหล่าง" เพราะได้รับการแปลเป็นภาษาต่างๆ หลายภาษาและได้รับความสนใจจากประชาชนโดยเฉพาะอย่างยิ่งในหมู่ของปัญญาชนเนื่องด้วยสูตรของท่านเว่ยหล่างล้วนแต่เป็นเรื่องของการใช้ปัญญาเพื่อค้นหาหนทางแห่งความเป็นพุทธะ
และเพื่อความหลุดพ้นไปจากเครื่องร้อยรัดทั้งปวงในโลกนี้ สูตรของท่านเว่ยหล่างได้รับการแปลเป็นภาษาไทยโดยท่านพุทธทาสภิกขุ ตั้งแต่หมวด 1 ถึง 7 ส่วน หมวด 8 ถึง 9 คุณประวิทย์ รัตนเรืองศรี เป็นผู้แปล
ทำไมจึงต้องศึกษาสูตรของท่านเว่ยหล่าง
คำตอบก็คือ พระสูตรนี้ใครได้ศึกษาแล้วก็เป็นการเปิดสติปัญญาของตนให้สว่างไสวและมีทัศนคติต่อพุทธศาสนาได้อย่างแจ่มชัดว่า แท้ที่จริงแล้วศาสนาพุทธเป็นศาสนาแห่งปัญญา

[IMG] [IMG][IMG] [IMG][IMG] [IMG]

มีพระสูตรร่วมศึกษาที่ชมรมพระสูตรท่านเว่ยหลางนะค่ะ ร่วมเขาไปศึกษากันได้ค่ะ สุแวะมาบอกกล่าวค่ะ ไปก่อนนะค่ะ

[IMG]


[IMG]

[IMG]

คนทุกชาติทุกภาษาย่อมต้องมีสิ่งซึ่งเป็นเครื่องยึดเหนี่ยวจิตใจ คนบนโลกนี้มีบริบทของความเชื่อความศรัทธา ต่อปรัชญาลัทธิความเชื่อ และหลักศาสนา ที่คล้ายคลึงกัน ในการยึดถือเอาสิ่งที่เกรงกลัว เป็นที่เคารพบูชา เพื่อสวามิภักดิ์ ให้ได้มาซึ่งความปลอดภัย หรือความสุขสบายในชีวิต ตั้งแต่เกิด จนกระทั่งสิ้นลมหายใจ ตายไปในที่สุด
ชาวจีนที่มีปูมหลังอันยาวนานทางอารยะธรรม ย่อมวิถีชีวิตบนเส้นทางของความเชื่อ ความศรัทธา อันหลากหลาย พัฒนาการจากหลักคุณธรรม จนเป็นหลักศาสนา ที่เป็นทั้งนามธรรมและรูปธรรมในที่สุด
พุทธศาสนามหายานอันหลากหลาย เป็นหลักศาสนาที่มีอิทธิพล ต่อความคิด ความศรัทธา จนเป็นที่นิยม นับถือสืบทอดกันต่อ ๆ มาจนถึงปัจจุบัน

[IMG]

[IMG]

[IMG]

[IMG]


[IMG]

[IMG]

วันนี้ทำลาบเจ มาให้น้องที่ออฟฟิตกินเรยเอามาฝากเพื่อนด้วย

[IMG]
ลืมข้าวอะ อะขอให้อร่อยนะค่ะ

ดีจ้าหลาน ong

[IMG]

ศิษย์รักเอ๋ย…

จริงใจ ลดละชื่อเสียง ผลประโยชน์
บำเพ็ญเพิ่มพูนเมตตาธรรมให้ปรากฏ
จริงใจ ลดละอารมณ์นิสัยเคยชิน
บำเพ็ญเพิ่มพูนให้บรรยากาศธรรมให้ปรากฏ
จริงใจ ลดละความดื้อดึงความเห็นแก่ตัว
บำเพ็ญเพิ่มพูนความซื่อสัตย์เที่ยงตรงให้ปรากฏ
จริงใจ ลดละความใคร่อยาก
บำเพ็ญเพิ่มพูนจิตกุศลทานให้ปรากฏ
จริงใจ ลดละการยึดมั่นถือมั่นโกรธเคือง
บำเพ็ญเพิ่มพูนเมตตากรุณา อภัยให้ปรากฏ

ในหลักธรรมจริงคือความจริงที่สืบทอดมายั่งยืนไม่เปลี่ยนแปลง เกิดมาหลายภพชาติ มิสู้เกิดมาแล้วเพื่อบำเพ็ญธรรม บรรลุอริยมรรค บำเพ็ญธรรมยุคขาวปฏิบัติภายนอกเที่ยงตรง บำเพ็ญภายในบริสุทธิ์โดยแท้

ศิษย์รักเอ๋ย...
อลคัททูปสูตร พุทธะสอนว่า คือแพนำพาใช้ข้ามฝั่ง ให้นำปฏิบัติบำเพ็ญสู่จุดหมายนิพพาน หากชีวิตมีความยึดมั่นถือมั่นก็จะเป็นทุกข์ ชื่อเสียงเงินทอง หากยึดมั่นถือมั่นมากเกินไปก็จะเป็นทุกข์ ดังนั้นหลักธรรมคำกล่าวทั้งหลาย เพื่อสอนชี้นำให้เจ้าทุกคนก้าวล่วงพ้นจากปุถุชนสู่อริยเมธี

[IMG]

[IMG]

มาส่งข้าววันนี้ทำ จับฉ่ายมา น่ากินไหมขอให้มีความสุขนะจ๊ะ อิๆๆหอมมาก อิ่มแร้ว คิดถึงสุด้วย

[IMG]

คติธรรมประจำวันนี้

"ย้อนมองส่องตน"

ย้อนอย่างไร มองอย่างไร ส่องอย่างไร ในกายตนใช่ไหม
ไม่ว่าในโลกของความเป็นจริงทุกคนเจอเรื่องต่างๆๆมากมาย และมีคำว่ากิเลสเยอะมากมายมาเกี่ยวพันในชีวิต การที่เราจะทำให้ตัวเองหลุดพ้นจากโลกีย์ทุกได้นั้น สิ่งที่ทำได้ก็คือ
"การย้อนมองส่องตน " ย้อนไม่ใช่ว่าย้อนมองส่องแต่คนอื่น นั่นและคือทุกข์ คือ การสร้างกิเลส การสร้างบาปกรรม โดยเราไม่รู้ตัว พึ่งสังวรเสมอ ว่า อย่าพยายามไปส่องไปย้อน ผู้อื่น ถ้าย้อนทั่งส่อง เรื่องในของคนอื่น คิด ซาระตะ สะ ทำให้ตน เหนื่อยและเป็นทุกข์ คนที่ถูกส่อง ถูกย้อน เขาไม่ได้รู้สึกไรกะคุณเรย แต่ คนที่ทุกข์คือใคร ก็คนที่พยายามไปจับผิดคนอื่นนั้นแหละ ย่อมทุกข์และตกในวิบากกรรม ย่อมหนีในโลกีย์ไม่พ้น
แต่ในทางกลับกัน สิ่งที่ ควรทำดีที่สุด
"ย้อนมองส่องตน ส่องในกายตน ส่องใจตน พิจารณา ว่าเรา ทำดีแร้วหรอ เรากำหราบจิตเราแร้วหรอ เรามีสติ ในการแก้ปัญหาเราแร้วหรอ เราเรียกจิตเราที่วิ่งโลดแล่นในโลกีย์มาครบแร้วหรอ นี้คือส่งที่เราต้อง ทำ และนี้คือ คติธรรม ที่ว่า ย้อนมองส่องตน ส่องตัวเอง ก่อน กวาดส่องไปติไปเตียนไป วิจารณ์คนอื่น จำไว้ ว่าคนที่ถูกวิจารณ์ ไม่ได้ทุกข์เหมือนคนไปส่องนะ ฝากไว้ให้เพื่อนได้นำไปเป็นข้อคิดในการศึกษาธรรมต่อไป