กรมหลวงชุมพรฯ

ท่านใดมีเรื่องราวเสด็จเตี่ย หรือหลวงพ่อที่เกี่ยวข้องกับพระองค์กรุณาลงไว้ครับ
หน้าแรกจะเป็นประวัติหลวงพ่อสําเนียง อยู่สถาพร
หน้า 1 คลิ๊กให้โดนตัวเลขนะครับ
พระประวัติกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์อย่างย่อ กระทู้ที่18

หน้า 2 คลิ๊กให้โดนตัวเลขนะครับ
ประสบการณ์กับหลวงพ่อสําเนียง ของสมาชิก กระทู้ที่33
จะมีวอลเปเปอร์ และ ภาพกรมหลวงชุมพร อาร์ต กระทู้ที่35
พระคาถาที่สําคัญของผลวงปู่ศุขที่สูญหายมาแล้ว กระทู้ที่37
เรือรบหลวงสิมิลัน เรือรบหลวงที่ทันสมัยของไทย กระทู้ที่39
ตํารายาส่วนหนึ่งของหมอพร กรมหลวงชุมพรฯ กระทู้ที่40

หน้า 3 คลิ๊กให้โดนตัวเลขนะครับ
หลวงพ่อเงิน และ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพย์อาภา กระทู้ที่43
เพลงดาบของชาติ พระราชนิพนธ์เสด็จเตี่ย กระทู้ที่46
ย่าเหล สุนัขหลวง ความจริงหรือเรื่องใส่ความ กระทู้ที่49
เรื่องของย่าเหลอ่านไล่ๆลงไปครับและควรใช้วิรณญานให้ถ้วนถี่
ก่อนที่จะนําความเห็นใดความเห็นหนึ่งไปเผยแผ่ให้เสื่อมพระเกียรติ

หน้า 4 คลิ๊กให้โดนตัวเลขนะครับ
ของขลังประจํากายทรงประทานให้ใครก่อนสิ้น กระทู้ที่61
ปั้นเหน่งแม่นาคพระขโนง ในการครอบครอง กระทู้ที่62
จดหมายลายพระหัตถ์ ของเสด็จเตี่ย กระทู้ที่63
ของขลังของกรมหลวงชุมพร กระทู้ที่64
ภาพถ่ายของครอบครัว กรมหลวงชุมพร กระทู้ที่65
ปีอาถรรพ์ของ ตระกูลอาภากร กับคนปีมะ กระทู้ที่67
ภาพถ่ายของกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กระทู้ที่68
อัศจรรย์วันอาภากร 19 พฤษภาคม กระทู้ที่70
ตํานานทหารเสืออาภากร สุภาพบุรุษเสือไท กระทู้ที่71
แมวขาวมณีสัตว์เลี้ยงแสนรักของ ร.5 และ เสด็จเตี่ย กระทู้ที่79


หน้า 5 คลิ๊กให้โดนตัวเลขนะครับ

P.M.
ต้องการเพลง มหารเรือให้ใช้ P.M. เท่านั้นผมจะไม่โพสในบอร์ดนะครับ


ลิงค์อื่นๆเพิ่มเติม
รําลึก รศ.112
ข้าราชบริพาร ทหารในพระปิยมหาราชรายงานตัว
รำลึก ๑๐๐ ปีวันสวรรคต พระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้า ณ สุสานหลวง วัดราชบพิธฯ
เมื่อข้าพเจ้าไปขออโหสิกรรมกับ 'พระนางเรือล่ม'
ปาฏิหาริย์กรมหลวงชุมพรเขตรอุดมศักดิ์แนะนําอีก 1 ลิงค์ครับ
กลุ่มชมรม ย้อนรอย..สี่แผ่นดิน

ศัตรูหนักร้อยตันราวีพันลําเรือจะจมมันทั้้งพัน
จงเช่นดอกประดู่พรั่งพรูและร่วงโรยพร้อมกัน
ตราด 112 จรดลึกความทรงจําฝรั่งยํ้าสลักทรวง
อาภากร หมายตะวันร่วงดับลับ ณ หาดทรายรี
ไฉนเห็นแลเด่นคว้างจรัสแสงกระจ่างกลางฤทัย
ขวานทองงามดั่งกุหลาบ เหลือบไรจ้องยํ้ายี
สีแดงดอกดั่งเลือดทุกหยดป้องปกปฐพี
กุหลาบแดงคือข้าฯนี้ขอถวายองค์บิดา
กยิราเจ นะ เจ้าจงฟัง นะ กยิราเถนัง
คั่งตอกตระปู นะ เจ้าจงเร่งทํา ลูกเตี่ยไม่แพ้
ชุมพรจุติ อิทธิกะระณัง สุโข นะโมพุทธายะ​

ลูกงามเด่น ดั่งนามลูก เพชรรัตน์ แก้วประดับ งามสง่า ดั่งแม่หมาย
ละชั่วผิด คิดให้ซื้อ กุศลอย่าคลาย แม่จากไกลทิ้งนามไว้ประดับตัว
วันลาพรากจากสายน้ำวิปโยก สร้างความโศกเจ้าแผ่นดินฟ้าร้องไห้
ลูกสัญญาจะมาพร้อมสําเภาไชย จะล่องไพร สิกขาเวทย์ เหยียบลําเรือ
อตีตัง ญาณชาติเก่า เล่าความบอก นิมิตส่อง ให้เห็นภัย ในสงสาร
คลิ่นกระหนํากลืนร่างร่วงลอยไกลคว้าง ประจุฌานเทพรับไว้แดนไตรตรึง
มากาลนี้หวนระลึกถึงกาลเก่า โอ้หนอเราวิสัยกล้านักรบสยาม
ละทิ้งชีพคงชาติไว้ให้ตระการ เลือดสยามข้นเกินใครในปฐพี
ดวงจิตนี้เข้าถึงธรรมด้วยอาธิษฐาน บําเพ็ญฌานล่วงรู้ทุกข์สุขเป็นไฉน
องค์เตี่ยนั่งบัลลังก์สมาถอวยพรไชย ร่วมส่งให้โสดาบันตามหลังมา
อัตภาพ จะละทิ้ง ก็สําเร็จ หากไม่เหน็บเอาของหนักขึ้นทูลหัว
ห่วงหน้าที่ห่วงลูกหลานห่วงบ้านเมือง แต่ไม่หวงวิเชียรส่งกระโจมไฟ
ทะเลในสงสารนั้นแสนสุดกว้าง ขับเรือขวางทางเกลียวคลื่นบ่หวั่นไหว
เรื่อโคลงบ้างเคลงบ้างช่างประไร สําเภาใหญ่จะคร้ามคลื่นฤๅจะมี​

ปู่เจ้าเสียดฟ้า ที่สถิตองค์บิดา ทหารเรือกล้า อาภากร
บนยอดเขาแหลมปู่เจ้า ที่สถิตย์พระอัฐิกรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
​

สําเภาใหญ่ของเตี่ยลํานี้จะนําพาลูกหลานที่เคารพรักพระองค์ข้ามทะเลสงสาร
ในอีกไม่เกิน 7 ชาติ พวกเราจะเข้าเฝ้าพระองค์พร้อมกันทุกคน ที่นฤพาน
ไม่มีสัตว์ป่าสัตว์นําหรือผีห่าตนใด กล้าทําร้ายทําลายพวกเรา ให้ได้รับเคราะห์กรรม
ไม่มีมนุษย์และเทพองค์ใด ทําลายเผ่าพันธ์อันมีเกียรติยิ่งของพวกเรา "อาภากร"
อกุศลคิดไม่ดี ให้รับโทษภายใน 3 วัน อย่าให้ทันใน 3 เดือน อย่าให้เคลือนใน 3 ปี​

 

ทราบแค่ว่าท่านเป็นพระโอรสของเสด็จเตี่ย
ภายในวัดมีสิ่งของสําคัญของราชวงศ์มากมายมาย
และเจ้านายชั้นสูงในราชวงศ์องค์ปัจจุบันก็เสด็จไปวัดนี้บ่อยมาก สมัยที่ หลวงพ่อยังมีชีวิต

 

สวัสดีคะ คุณอาภากร ศิลามณีไปก๊อปมาให้อ่านจากเวบนี้คะ

http://www.konrakmeed.com/webboard/upload/index.php?showtopic=4221&mode=threaded&pid=71490

หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร
วัดเวฬุวนาราม ต.ลำพญา อ.บางเลน จ.นครปฐม

ประวัติพอสังเขป

ท่านเป็นพระโอรสของ เสด็จเตี่ย กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ กับ หม่อมทองนุ่น
เกิดเมื่อวันที่ 5 ต.ค. 2460 ที่วังไชยา

ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะถือกำเหนิดมาดูโลกนั้น
นายเอม อยู่สถาพรเป็นพระสหายของเสด็จเตี่ย
ได้เล่าให้หลวงพ่อฟังว่า

ขณะที่หม่อมแม่ทรงพระครรภ์ได้ 2 เดือน
เสด็จเตี่ยได้รับคำสั่งจากทางราชการให้ไปรับเรือหลวงพระร่วงที่ต่างประเทศ
จึงได้พาหม่อมแม่ไปฝากไว้กับ หลวงปู่ศุข วัดปากคลองมะขามเฒ่า จังหวัดชัยนาท
ซึ่งท่านเป็นพระอาจารย์ของเสด็จเตี่ย
โดยให้นายเอม อยู่สถาพรซึ่งเป็นพระสหายเป็นผู้ดูแล

ตัวหลวงพ่อสำเนียงจึงกลายเป็นลูก 3 พ่อ
ซึ่งเสด็จเตี่ย คือ พ่อผู้ให้กำเหนิด
นายเอม เป็น พ่อเลี้ยงดู
พร้อมกับ หลวงปู่ศุข เป็นพ่อ ผู้ดูแลให้การศึกษาเล่าเรียน

หลวงพ่อสำเนียงใช้นามสกุลของนายเอม คือ อยู่สถาพร (ในหนังสือไม่ได้ระบุสาเหตุ)
หลวงพ่อสำเนียง อยู่สถาพร เมื่อเกิดมาแล้วก็ได้อยู่กับหลวงปู่ศุขจนเติบโต
จึงได้มาศึกษาในกรุงเทพฯ ที่ร.ร.อัสสัมชัญ จนจบมัธยมปลาย
จากนั้นไปศึกษาต่อที่ร.ร.นายร้อยพระจุลจอมเกล้า
จนจบจึงได้รับราชการทหารบก จวบได้รับยศร้อยเอก
และเคยได้ร่วมสมรภูมิถึง 2 ครั้ง คือ สงครามอินโดจีน และสงครามมหาบูรพา
พอกลับจากศึกสงคราม ก็ถูกมรสุมร้ายทางการเมืองกระทำเอา
ถูกจองจำพร้อมกับ จอมพล ป. พิบูลสงคราม - หลวงเสรี - หลวงวิจิตรวาทการ และคนอื่นๆ
ในข้อหาอาชญากรสงคราม

เมื่อได้รับการปลดปล่อยหลวงเสรีได้ไปบวชที่วัด เบญจมบพิตร
ส่วนหลวงพ่อสำเนียงท่านไปบวชอยู่ที่ วัดกัลยาณมิตร ฝั่งธนบุรี
ท่านตั้งใจบวชเพียง 15 วัน แต่พอบวชได้ 3 วัน ก็มีเหตุการณ์เมืองขึ้นมาอีก
จึงทำให้ท่านเปลี่ยนความตั้งใจ
เหตุการณ์บ้านเมืองกำลังยุ่งเหยิง จอมพล ป. พิบูลสงคราม
ได้กลับมาเป็นนายกรัฐมนตรีอีกวาระหนึ่ง
แต่ต้องการให้หลวงพ่อสำเนียงกลับไปรับราชการอีก
ทว่าท่านไม่ยอมสึก ทั้งได้ตั้งจิตอธิษฐานไว้ว่า
จะขอยึดเอาผ้ากาสาวพัสตร์หุ้มห่อร่างกายจนกระทั่งตาย <!--IBF.ATTACHMENT_71490-->
<!-- THE POST -->

 

วัดเวฬุวนาราม จ. นครปฐมครับ


หลวงปู่ศุข - หลวงพ่อสําเนียง

หมอพร กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์

หุ่นขี้ผึ้งหลวงพ่อสำเนียงครับ ที่นั่งงูเพราะท่านช่วยคนถูกงูกัดได้ครับ





ข้อมูลจากนี้ครับ
วัดเวฬุวนาราม จ. นครปฐมครับ ถ่ายเมื่อ 12/08/52
​

 

เอ งง จัง

พระองค์เจ้าหญิงอรองค์อรรคยุพา ทรงประสูติวันที่ ๒๗ ตุลาคม พ.ศ.๒๔๒๔ เป็นพระราชธิดาในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว และเจ้าจอมมารดาโหมด บุนนาค สิ้นพระชนม์วันที่ ๒๐ กุมภาพันธ์ พ.ศ. ๒๔๒๕ พระชันษา ๔ เดือน

ไม่เข้าใจ.....

 

พอดีอ่านเจอตะกี้เลยมาต่อครับ
พบนครร้างในนิมิต และหลวงพ่อปราบโจร

ก่อนที่หลวงพ่อสำเนียงจะมาบุกเบิกทุ่งร้างกลางป่าทึบให้มาเป็นวัดวาอารามอันพรั่งพร้อมไปด้วย โบสถ์ วิหาร ศาลา โรงธรรมที่สวยงามนั้น ท่านกล่าวว่า - ขณะที่ท่านพำนักจำพรรษาอยู่ที่วัดแห่งหนึ่งในก.ท.ม.ท่านได้เกิดนิมิตขึ้นว่าได้เห็นปราศาทร้างแห่งหนึ่ง ซึ่งการนิมิตเห็นนี้ไม่ได้หลับตาเห็น แต่เป็นแบบลืมตาเห็นภาพขึ้นมา เมืองร้างแห่งที่ท่านพบเห็นในนิมิตนี้มีสมบัติล้ำค่าถูกฝังอยู่มากมายมหาศาล คนเฝ้าสมบัติล้ำค่านี้บอกกับท่านว่า....ใครจะมาเอาสมบัติเหล่านี้ไปไม่ได้ คนที่จะมาเป็นเจ้าของจะต้องมาสร้างเมืองนี้ให้เจริญรุ่งเรืองขึ้นมาเหมือนเดิมเสียก่อน และคนที่จะมาอยู่เมืองนี้ได้จะต้องเป็นคนดี มีศีลธรรม ถ้าไม่เช่นนั้นจะหาความเจริญขึ้นมาไม่ได้นอกจากพินาศล่มจมเท่านั้น เพราะสถานที่แห่งนี้คือที่ตั้งเมืองธรรมานครอมรวดีศรีธานินทร์ มหินทรามหาเลิศลบภพนพรัตน์ราชธานีบุรีรมย์มาก่อน

หลังจากหลวงพ่อสำเนียงได้นิมิตเห็นเมืองธรรมานครแล้วท่านเดินทางสู่เมืองร้างแห่งนี้โดยทางรถไฟไปลงสถานีงิ้วราย จากนั้นลงเรือต่อไปตลาดลำพญาต่อเรือไปอีก 3 ช.ม.จึงถึงตลาดลำพญาจากตลาดเดินเท้าอีก 4 ก.ม.โดยประมาณจึงถึงวัดแหลมชะอุย เป็นสถานที่รกร้างว่างเปล่าเหลือแต่ซากปรักหักพัง พอให้รู้ว่าสถานที่นั้นเคยเป็นวัดมาก่อนที่ๆแห่งนั้นเมไปด้วยต้นไม้น้อยใหญ่เต็มไปหมด ทำให้สถานที่นั้นร่มรื่นและเงียบสงัดวังเวงยิ่งนัก จึงมีสัตว์นาๆชนิด เช่นงูเห่า งูจงอางเป็นต้นเพราะปราศจากผู้คนสัญจรไปมา มีแต่บริเวณทุ่งกว้างที่ร้างซึ่งมีเด็กเลี้ยงควายอยู่จำนวนหนึ่งเท่านั้น เด็กพวกนั้นปราศจากเสื้อผ้านุ่งห่มเพราะความแห้งแล้งทุรกันดารความยากจนของครอบครัว พ่อแม่เด็กเหล่านั้นหากินทางทุจริตลักลอบหาวัตถุโบราณในบริเวณวัดร้างแห่งนี้เพื่อนำเอาไปขาย

เมื่อท่านไปถึงท่านได้เดินเข้าไปดูในโบสถ์ปรากฏว่าถูกปัดกวาดดูสะอาดสะอ้าน คล้ายกับมีคนมาอาศัยอยู่ ท่านจึงตัดสินใจที่จะอยู่ ณ. วัดร้างแห่งนี้ โดยท่านตั้งปณิธานเอาไว้ว่าจะพัฒนาวัดร้างแห่งนี้ร่วมกับชาวบ้านในถิ่นนี้ให้เจริญ ท่านจึงได้ยึดเอาโบสถ์เป็นที่อยู่อาศัย แต่ท่านหารู้ไม่ว่าที่แห่งนี้คือที่ซ่องสุมของพวกโจรและเสือร้ายปล้นฆ่าชื่อดัง คือ เสือแคล้ว เสือสด เสือเลียง เสือสมหมาย เสือผาด ทั้ง 5 เสือดังกล่าวทางการได้หมายหัวเอาไว้แล้วว่าต้องจับตายลูกเดียว พวกนี้หาทรัพย์มาได้เท่าไหร่ก็จะนำมาแบ่งปันที่นี่ประจำเพราะเป็นจุดศุนย์กลางระหว่างจังหวัดนนทบุรี สุพรรณบุรี นครปฐม ปทุมธานี มีอยู่วันหนึ่งเสือร้ายเหล่านั้นปล้นทรัพย์ได้มาก็นัดกันมาแบ่งสมบัติที่โบสถ์ร้างแห่งนี้ เมื่อเสือแคล้วมาแอบเห็นหลวงพ่อสำเนียงอยู่ในวัดก็สบถจะต้องฆ่าพระองค์นี้ให้ได้ เพราะกลัวท่านมารู้เห็นความลับ อีกหรือท่านปลอมมาเป็นพระเพื่อมาสืบจากทางราชการ เสือแคล้วจึงตกลงกับพวกอีก 4 เสือจะต้องฆ่าท่านคืนแรกเสือแคล้วมาคนเดียวก้าวเข้าไปยืนในโบสถ์เห็นเพียงแสงเทียนสลัวๆพอเห็นว่ามีพระนั่งสมาธิอยู่ เมื่อเพ่งเข้าไปหมายจะฆ่าหลวงพ่อปรากฏว่า คุณพระช่วยภาพที่เขามองเห็นไม่ได้มีพรอยู่องค์เดียวเหมือนที่เขาเห็นตอนกลางวันเสียแล้ว เพราะภายในโบสถ์เต็มไปด้วยพระสงฆ์ห่มสีกลักกำลังนั่งสมาธิเต็มไปหมด พระเหล่านั้นต่างนั่งสมาธิอย่างสงบโดยไม่สนใจกับภายนอกโบสถ์เลย เสือแคล้วนึกอยู่ในใจว่าพระมาจากไหนเยอะแยะก็ตอนกลางวันเห็นมีอยู่องค์เดียว ส่วนมือยังกำปืนแน่นอยู่ในลักษณะพร้อมยิงเสมอ ในที่สุดก็เลิกล้มความตั้งใจ เพราะไม่ทราบว่าจะทำวิธีไหนที่จะฆ่าพระได้หมด หลังจากนั้นสหายอีก 4 เสือก็ผลัดกันมาทุกคืนโยผัดเปลี่ยนกันกับเพื่อนทุกคนในกลุ่ม ผลปรากฏว่าเหตุการณืเหมือนกันทุกครั้ง 4 วันเต็มๆ

ผลสุดท้ายเขาและเพื่อนยอมแพ้ในอภินิหารที่ได้ประสพมาจึงไม่อาจฆ่าท่านได้ ซึ่งคงเป็นเพราะบารมีของท่านซึ่งปฏิบัติธรรมเคร่งครัดเสมอมานั่นเอง เช้าของวันที่ 5 พวกเสือร้าย 5 คนได้ปรึกษาหารือกันเข้าไปกราบหลวงพ่อสำเนียงในโบสถ์และเล่าความจริงให้ท่านฟัง พวกเขาแนะนำตัวเองหลวงพ่อจึงถามไปว่า โยมพากันมาทำไมที่นี่ เสือแคล้วและพวกจึงสารภาพว่าต้องการมากราบขอขมาหลวงพ่อ กรรมใดที่ได้ล่วงเกินท่านไว้ขอให้ท่านอโหสิกรรมแก่พวกเขา

หลวงพ่อท่านว่า เวรของผู้จองเวรย่อมไม่ระงับ แต่เวรของผู้ที่ไม่จองเวรย่อมระงับ อาตมาอโหสิให้ แต่กรรมโยมได้กระทำไปนั้นไม่ว่าอดีตหรือปัจจุบัน กรรมนั้นย่อมตอบสนองในภายหลังไม่มีใครให้อภัยได้ ดังนั้นขอโยมจงหยุดการกระทำชั่วนั้นๆเสียแล้วให้เริ่มทำความดีต่อไป หมั่นรักษาศีลเพราะศีลจะทำให้ผู้ปฏิบัติให้เป็นผู้ที่สมบูรณ์ในโภคทรัพย์ ทั้งในภพปัจจุบันนี้และจะนำสู่สุขคติและนิพพานในภพหน้า เมื่อได้รับฟังธรรมะจากหลวงพ่อ เสือร้ายทั้ง 5 สำนึกผิดและซาบซึ้งในโอวาสของหลวงพ่อสำเนียง พวกเขาพร้อมที่จะปฏิบัติตามจึงได้มอบตัวเป็นลูกศิษย์ของท่าน พร้อมได้ปวาราณาตัวว่าจะเลิกทำชั่ว แล้วตั้งอยู่ในศีลธรรมต่อไป

เครดิตจากนี้
http://www.nightsiam.com/forum/index.php?topic=1785.0

 

ก็สงสัยเช่นกันครับ ว่า พระองค์เจ้าหญิงอรองค์อรรคยุพา สิ้นพระชนม์ตั้งแต่พระเยาว์แต่ในรูปเหตุไฉนถึงดูแล้วน่าจะมีอายุ เกิน 70 นะ และสืบจากประวัติสายกรมหลวงชุมพร ก็คงเห็นจะมีแต่ พระเจ้าวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาทิตย์ทิพอาภา เพียงพระองค์เดียวที่มีความเกี่ยวพันธ์กับจ.นครปฐม นอกนั้นวิเคราห์ไม่ออกเลย

 

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
​

<o></o>
​

พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ (หรือเสด็จเตี่ย) เป็นพระเจ้าลูกยาเธอในพระบาทสมเด็จพระจุลจอมเกล้าเจ้าอยู่หัว รัชกาลที่ 5 นับลำดับราชสกุลวงศ์เป็นองค์ที่ ๒๘ มีพระนามเดิมว่า พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์ <o></o>ประสูติในพระบรมมหาราชวัง เมื่อวันที่ ๑๙ ธันวาคม พ.ศ.๒๔๒๓ เวลา ๑๕.๕๗ น. ตรงกับแรม ๓ ค่ำ เดือนอ้าย ปีมะโรง จุลศักราช ๑๒๔๒ เป็นพระลูกยาเธอองค์ที่ ๑ ในเจ้าจอมมารดาโหมด ธิดาเจ้าพระยาสุรวงศ์ไวยวัฒน์ ( วร บุญนาค) สมุหพระกลาโหมในรัชกาลที่ ๕<o></o>
<o></o>
พระองค์ทรงมีพระกนิษฐาและพระอนุชา ร่วมพระมารดา ๒ พระองค์ คือ พระองค์เจ้าหญิงอรองค์อรรคยุพา ( สิ้นพระชนม์เมื่อทรงพระเยาว์ ) และพระองค์เจ้าสุริยงประยูรพันธุ์ ( ต่อมาได้ดำรงพระยศเป็นกรมหมื่นไชยาศรีสุริโยภาส - ต้นราชสกุล สุริยง )<o></o>

ตราด ร.ศ. ๑๑๒ คือ รอยสักที่เสด็จในกรมฯทรงสักให้นักเรียนนายเรือรุ่นแรกๆ เพียงไม่กี่คนด้วยฝีพระหัตถ์ของพระองค์เองรวมทั้งที่พระอุระของพระองค์ก็สักคำนี้ด้วยเช่นกันเพื่อให้เป็นที่ระลึกและจดจำเหตุการณ์นี้เนื่องด้วยคราวนั้นประเทศไทยถูกรุกรานทางทะเลจากฝรั่งเศสเกิดการรบที่ปากแม่น้ำเจ้าพระยา เหตุการณ์นี้ทำให้เราต้องสูญเสียดินแดนไปบางส่วนพร้อมกับเสียเงินค่าทำขวัญ จังหวัดจันทบุรี และจังหวัดตราดถูกยึดเป็นประกันทำให้เสด็จในกรมฯ ทรงเจ็บแค้นพระทัยเป็นอย่างมากจึงสักไว้เป็นที่ระลึกในเหตุการณ์นี้<o></o>

เสด็จในกรมฯ ทรงรับตำแหน่งเสนาบดี กระทรวงทหารเรือไม่กี่วันได้กราบบังคมลาราชการออกไป เพราะมีสุขภาพไม่สมบูรณ์ และประชวรโรคภายในทางกระทรวงทหารเรือได้ถวายเรือหลวงเจนทะเลเป็นพาหนะพร้อมนายแพทย์ประจำพระองค์ตามเสด็จไปที่ด้านใต้ปากน้ำเมืองชุมพรซึ่งเป็นที่ที่พระองค์จองไว้เพื่อทำสวนขณะประทับอยู่ก็เป็นไข้หวัดใหญ่เนื่องจากตากฝน ประชวรอยู่ได้ ๓วันก็ชิ้นพระชนม์ที่ตำบลหาดทรายรี ในวันที่ ๑๙ พฤษภาคม ๒๔๖๖ สิริพระชนมายุ ๔๔ พรรษา<o></o>

คำประกาศของ พลเรือเอก พระเจ้าบรมวงศ์เธอ พระองค์เจ้าอาภากรเกียรติวงศ์กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
​

<o></o><o></o><o></o><o></o>>

" อาภากร "
​

เจอบันทึกนี้ให้เอาคำต่อไปนี้ของกูไปประกาศให้คนรู้ว่า


“กู กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์
ผู้เป็นโอรสของพระปิยะมหาราช<o></o>​

ขอประกาศให้พวกมึงรับรู้ไว้ว่า<o></o>

แผ่นดินสยามนี้ บรรพบุรุษได้เอาเลือด เอาเนื้อ เอาชีวิตเข้าแลกไว้<o></o>​

ไอ้อีมันผู้ใดคิดบังอาจทำลายแผ่นดิน
ทำลายชาติ ทำลายศาสนา
พระมหากษัตริย์ ฤๅกระทำการทุจริต
ก่อให้เกิดความเดือดร้อนต่อส่วนรวม<o></o>
จงหยุดการกระทำนั้นโดยเร็ว
ก่อนที่กูจะสั่งทหารผลาญสิ้นทั้งโคตร
​

ให้หมดเสนียดแผ่นดินสยามอันเป็นที่รักของกู<o></o>

ตราบใดที่คำว่า "อาภากร" ยังยืนหยัดอยู่ในโลก
กูจะรักษาผืนแผ่นดินสยามของกูลูกหลานทั้งหลาย<o></o>​

แผ่นดินใดให้เราเกิดมา แผ่นดินใดที่ให้ซุกหัวนอน
ให้ความร่มเย็นเป็นสุขมิให้อนาทรร้อนใจ
จงซื่อสัตย์ต่อแผ่นดินนั้น”<o></o>


[MUSIC]http://palungjit.org/attachments/a.1118337/[/MUSIC]

ขออนุโมทนาค่ะ


​

​

<o></o>

 

กยิราเจ กยิราเถนัง...............

 

ขออนุญาติขุดวางลิงค์นะครับ
<TABLE cellSpacing=3 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD width=20></TD><TD></TD><TD>หลวงพ่อฤาษีลิงดําเล่าเรื่องกรมหลวงชุมพร ๑.mp3 </TD></TR><TR><TD width=20></TD><TD></TD><TD>หลวงพ่อฤาษีลิงดําเล่าเรื่องกรมหลวงชุมพร ๒.mp3 </TD></TR><TR><TD width=20></TD><TD></TD><TD>หลวงพ่อฤาษีลิงดําเล่าเรื่องกรมหลวงชุมพร ๓.mp3 </TD></TR><TR><TD width=20></TD><TD></TD><TD>หลวงพ่อฤาษีลิงดําเล่าเรื่องกรมหลวงชุมพร ๔.mp3</TD></TR></TBODY></TABLE>พระประวัติกรมหลวงชุมพร.mp3 (โหลดบีบอัดตัดต่อจาก youtube ฟอแมต MP3)​

เรือหลวงมกุฎราชกุมาร ที่นํากรมขุนเทพทวารวดี และพระองค์เจ้าอาภากร ไปศึกษา ณ ประเทศอังกฤษ​

​

สมเด็จเจ้าฟ้ามหาวชิราวุธ (กรมขุนเทพทวาราวดี) คือพระราชอิสริยายศของพระบาทสมเด็จพระมงกุฎเกล้าฯ ก่อนที่จะทรงดํารงค์พระยศ สยามมกุฎราชกุมาร และขึ้นครองราชย์เป็นรัชกาลที่ 6 ในราชวงศ์จักรี ในเวลาต่อมา
​

​

 

ขออนุโมทนาบุญกับคุณ อาภากร ด้วยคะที่ ส่งธรรมะดีๆ จากหลวงพ่อฤาษีมาให้
ฟัง ชอบมากกกก หลวงพ่อถ้าเทศน์ก็ เทศน์ ตรงๆ ชอบท่านตรงนี้แหละคะ

 

ผมชอบฟังธรรมะที่เทสน์โดย หลวงพ่อฤาษีลิงดํา และแนวหลวงพ่อพุทธทาสครับ ไม่ใช้ภาษาธรรมแบบพิศดารมากนัก คนไม่ค่อยรู้ธรรมะฟังเข้าใจง่าย การสอนของหลวงพ่อเหมือนพ่อเล่านิทานให้ลูกฟังก่อนนอน และที่ว่าท่านเทสน์ตรงก็คงเพราะใช้ภาษาชาวบ้านทําให้เราเข้าใจนี่หล่ะ

 

คะเวลาฟังหลวงพ่อฤาษี เทศน์ ฟังและสนุกดี ไม่ง่วงนอนเข้าใจง่ายฟังท่านแล้วทำให้ ตุ๋ยนึกตามแล้วเห็นภาพได้ ตุ๋ยติดตามอ่านหนังสือหลวงพ่อ และฟังเทปอยู่ประจำ แต่เทปชุดนี้ยังไม่มี กลับเมืองไทยต้องไปหาเสียแล้วแหละคะ

 

รบกวนอีกเรื่องได้ไหม สำหรับข้อมูลของพระฉายาของเสด็จในกรมฯ ที่ถูกลืม ใครพอจะทราบและมีข้อมูลแบ่งปันกันบ้าง จะเป็นพระคุณอย่างสูง เพราะเคยเห็นมาบ้างสั้นๆ จากหนังสือชื่อ "มณีในอาทิตย์" เมื่อประมาณ 3 ปีมาแล้ว

 

องค์หญิงอรฯ

มีบางท่านเล่าให้ฟัง ว่า ไม่ได้ สิ้นพระชนม์ ตามบันทึก

และ บั้นปลาย ของพระองค์ ก็ยังได้อุปฐาก พระเถระ หลายองค์

แต่ไม่เป็นที่เปิดเผย ข้อมูลบางส่วนได้จากวัดแห่งหนึ่งในภาคอิสาน

 

ที่ถามไป หมายถึง ท่านที่กระทำอัตวินิบาตฆาตกรรม เพราะน้อยใจที่เสด็จในกรมฯท่านไม่ใส่พระทัยดูแล ซึ่งเป็นพระชายาที่มีการอภิเษกตามประเพณี เพราะอยากรู้เรื่องเกี่ยวกับพระชายาองค์นี้ ว่าท่านทำไมถึงน้อยใจถึงขนาดนั้นได้ หรือเสด็จท่านไม่ได้ทรงรัก แต่อภิเษกตามพระราชประสงค์ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว (รัชกาลที่ ๕)

 

พระวรวงศ์เธอ พระองค์เจ้าทิพยสัมพันธ์ทรงปลงพระชนม์ชนชีพพระองค์เองด้วยยาพิษ
คำสุดท้ายของเจ้าหญิงทิพย์สัมพันธ์เอ่ยไว้มีความว่า " คนที่เรารัก ก็ยังมิค่อยได้อยู่ใกล้ "

พระราชบิดา(สมเด็จเจ้าฟ้าฯกรมพระยาภานุวงศ์วรเดช) ของหม่อมเจ้าหญิงทิพย์สัมพันธ์ ทรงเศร้าเสียพระทัยที่เสียพระธิดาถึงกับได้แต่งกลอนบทหนึ่งไว้ว่า
"เขาไม่รักเราแล้วหนอพ่อจะเลี้ยง
ถึงเวียงวังเราก็มีที่อาศัย
เขาไม่รักเราแล้วก็แล้วไป
จะไปรักเขาไยให้ป่วยการ "

อันนี้หากหาอ่านพระประวัติของเสด็จเตี่ยจะเห็นว่าทรงงานมากและเจ้าชู้อยู่ยกตัวอย่าง

เสด็จเตี่ยเคยทรงสู่ขอ" เจ้าหญิงบัวชุม ณ เชียงใหม่ (เป็นธิดาของเจ้าดวงทิพย์ ซึ่งเป็นราชบุตรองค์ที่ 10 ของเจ้าราชวงศ์ มหาพราหมณ์คำคง และเป็นอนุชาของพระเจ้าอินทวิไชยยานนท์ เจ้าผู้ครองนครเชียงใหม่ ด้วยพระองค์เองกับ พระราชชายาเจ้าดารารัศมี แต่พระราชชายาเจ้าดารารัศมีทรงปฏิเสธไปอย่างนุ่มนวลอ้างเอาความเยาว์วัยของเจ้าบัวชุมเป็นข้อขัดข้อง ทำให้พระองค์ทรงผิดหวังมาก
เมื่อเจ้าบัวชุมอายุได้ 35 ปีแล้ว เจ้าบัวชุมได้สอนเปียโนให้หม่อมเจ้าหญิงจารุพัตรที่วังกรมหลวงชุมพร เสด็จในกรมก็ยังไม่ทรงลืมความหลัง รับสั่งกระเซ้าเย้าหยอกตรงๆว่า " เมื่อก่อนนี้เธอสวยมาก ฺฉันอยากได้เธอมาเป็นหม่อมของฉันจริงๆ เสียดายว่าฉันมีหม่อมมากไปเลยไม่อยากเอาชนะเธอ ไม่อย่างนั้นเธอจะต้องมาเป็นหม่อมของฉันจริงๆ "

ช่วงชีวิตหลังสมรสของเสด็จเตี่ยแทบจะไม่ได้กลับวังของพระองค์ทรงกินนอน ฝึกสอนทหารเรือตลอดเวลา ตลอดจนเสด็จเตี่ยเดินทางทั้งส่วนพระองค์และราชการต่างเมืองบ่อยจึงไม่ใคร่มีโฮกาสได้อยู่ด้วยกัน

 

หมอพร เสด็จเตี่ย เจ้าพ่อประดู่ เจ้าพ่อประดู่ผมมักจะเรียกพระองค์ในกรณีที่ไม่อยากให้คนอื่นรู้ว่าผมกําลังพูดถึงเสด็จเตี่ย ในส่วนหนังสือ มณีในอาทิตย์ผมไม่ได้อ่านครับ หรืออาจจะอ่านแล้วจําชื่อหนังสือไม่ได้

ส่วนที่มาของเจ้าพ่อประดู่ เจ้าพ่อดอกประดู่ เจ้าพ่อลูกประดู่ แล้วแต่จะเรียก
มาจาก ต้นไม้ที่มีชื่อว่าต้นประดู่ ต้นประดู่นี้มีหลายแบบหลายชนิด มีสีแตกต่างกัน แต่ทุกชนิดจะเหมือนกันคือออกดอก พร้อมกัน บานพร้อมกัน และร่วงลงพร้อมๆกัน ทั้งต้น
จึงทรงเปรียบเทียบลูกหลานทหารเรือ ว่าควรจะเป็นอย่างเช่นดอกประดู่ รักพวกพ้อง สามัคคีพร้อมเพรียง ทหารเรือจึงมักเรียกตัวเองว่าลูกประดู่ ประจวบกับ นิสัยที่ห้าวหาญ ไม่เกรงกลัวใคร เหมือนนักเลง เหมือนเจ้าพ่อ เลยมาเป็นที่มาของเจ้าพ่อประดู่ แต่ดอกประดู่ของกรมหลวงชุมพรท่านจะเป็นพันธ์ที่มีสีเหลือง

เล่ากันว่าความที่เป็นคนตรง คนจริงของพระองค์ ทําให้เจ้านายหลายๆพระองค์ทรงกลัวเกรงยิ่งนัก ตลอดถึงแม้ในโลกทิพย์ด้วย

 

มีภาพมาฝาก เจ้าของกระทู้....​

 

น่าสนใจครับ ทั้งตามประวัติที่สิ้นพระชนม์ตั้งแต่อายุ 1 ขวบปี
แต่กลับปรากฏพระนามพระองค์ ใต้ภาพของหญิงชราที่ไม่ว่าจะดูยังงัยก็ไม่ใช่ 1 ขวบปีเป็นแน่ ปริศนานี้ หลวงพ่อสําเนียงท่านรู้ดีที่สุด อยากรู้ต้องลองไปวัดท่านดูครับ เจ้านายหลายพระองค์ชั้นสูงในรัชกาลปัจจุบัน ท่านทราบความนี้ดี