การแก้วิกฤติแห่งประเทศชาติและ วิกฤติแห่งตนเอง

ในห้อง 'วิทยาศาสตร์ทางจิต - ลึกลับ' ตั้งกระทู้โดย ขันธ์, 13 ตุลาคม 2008.

  1. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    สืบเนื่องจาก วิกฤติแห่งประเทศชาติในปัจจุบัน ซึ่งนับวันจะเริ่มลุกลาม และ จะนำไปสู่ ความเสียหาย ความล่มจม และ ความสลายของประเทศ ซึ่งจะทำให้ที่มั่นแห่งพระศาสนา เกิดปัญหา ผมขอให้แนวทางในการแก้ปัญหา เผื่อว่าเพื่อนๆ จะนำไปใช้และ บอกต่อกันไป ก็จะสามารถทุเลาอาการของประเทศนี้ไว้ได้

    วิกฤตินี้เกิดจากอะไร ตอบว่า เกิดจาก ความไม่มีศีลของผู้คน
    วิกฤตินี้จะแก้อย่างไร ตอบว่า นำศีลกลับเข้าสู่คน

    ที่ว่า ความไม่มีศีลของผู้คนเป็นอย่างไร ตอบว่า เพราะประชากรของประเทศขาดความปกติ ขาดภูมิคุ้มกัน ขาดหลักกาลมสูตร เมื่อขาดสิ่งเหล่านี้ จิตใจก็สอดส่ายตามเรื่องตามราวกันไป จนเกิดแบ่งพรรคแบ่งพวก คือ เมื่อเห็นใครคิดเหมือนกันก็รักกัน ใครคิดต่างกันก็เกลียดกัน ซึ่งนำไปสู่ ความมุสา หรือ การพูดสองคติ คติหนึ่งคือ การชื่นชมพวกเดียวกันเอง คติหนึ่งคือ การพูดยุยงและเสียดสีให้ร้ายฝ่ายตรงข้าม เพื่อให้คนเห็นดีเห็นงามกับตน และ เพื่อให้คนเกลียดฝ่ายตรงข้าม ก็เกิดการ นินทา สรรเสริญเกิดขึ้นในทุกหย่อมหญ้า นำไปสู่การกระทำที่ผิดหน้าที่ของแต่ละฝ่าย เพราะไม่ทำหน้าที่ตน แต่ทำหน้าที่ใหม่คือไปจับผิดฝ่ายตรงข้าม หาข้อมูลเพื่อกระทำให้ฝ่ายตรงข้ามเสียหาย เพื่อทำให้ตนดีขึ้น การจะแก้ไขวิกฤตินี้ คือ ต้อง ยุติ ความยุตินี้ให้เริ่มจากตน ด้วยการไม่พูดตามความเห็น แต่ให้พูดตามธรรม รักษาใจให้ปกติ คือ มีภูมิคุ้มกันให้แก่จิตใจ เพื่อนำไปสู่การทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง

    การทำหน้าที่ของตนให้ถูกต้อง จะต้อง เรียงลำดับคือ
    หน้าที่ต่อตนเอง คือ การนำใจ นำศีล นำสติกลับคืนมา
    หน้าที่ต่อครอบครัว คือ การทำหน้าที่ ลูกที่ดี พ่อแม่ที่ดี
    หน้าที่ต่อสังคม คือ การทำหน้าที่ในการงานที่ดี
    หน้าที่ต่อประเทศชาติ คือ การกระทำตัวให้ทำหน้าที่ที่ถูกต้องสามข้อต้น

    เมื่อ กระทำหน้าที่ของตนได้ถูกต้อง แต่ละฝ่ายก็จะตระหนักได้ว่า เราควรหันหน้าไปทำอะไร และ เราจะไม่หันหน้าผิดทาง คือ หันไปทำเรื่องที่ไม่ควรทำ อันได้แก่ การหันหน้าไปมอง ไปจับผิดคนอื่น แต่จะกลับมาพร้อมอยู่กับหน้าที่ของตน

    เพราะฉะนั้น อะไรที่ไม่ใช่หน้าที่ของตนก็อย่าไปกระทำเช่น

    การออกไปเป็นแนวร่วม ก็ไม่ใช่หน้าที่ตน เพราะว่า เรายังทำหน้าที่ของเราอันมีต่อตนเอง ครอบครัว และ สังคมยังไม่ดี
    การออกไปชุมนุม ก็ไม่ใช่หน้าที่ตน

    ทีนี้ เมื่อต่างฝ่ายต่างกลับไปทำหน้าที่ตน คนที่วิ่งวุ่นก็ไม่รู้จะวิ่งวุ่น หรือ ด่าใครก็จะค่อยๆ ยุติไป

    ในส่วนของรัฐบาล ใครจะชุมนุมอะไรก็ปล่อยไป ต้องมีสติอดทน ทำหน้าที่ของตนไปก่อน คือ บริหารประเทศ ทำอะไรได้เท่าไหนก็เอาเท่านั้น ถ้าไม่ดีเดี๋ยวก็ต้องพังไปเอง อยู่ไม่ได้ เช่น เมื่อครั้งรัฐบาลของพลเอก ชวลิต ที่เศรษฐกิจล่ม ก็อยู่ไม่ได้ด้วยกลไกของตนเอง
    ส่วนพันธมิตร รัฐบาลจะทำไม่ดีอย่างไร ถ้าทนไม่ได้ก็ชุมนุมไป เพราะว่า เดี๋ยวตัวเองก็ต้องเหนือย และหยุดไปเอง เป็นการกระทำอันเปล่าประโยชน์

    เพราะว่า แม้ตนเอง ชนะ ก็ไม่ได้ทำให้ประเทศเจริญขึ้น
    และ แม้ว่าตนแพ้ ก็ไม่ได้ทำให้ประเทศเจริญขึ้น

    ทั้งหมด เพราะมารเข้ามาเพื่อทดสอบ ปัญญาแห่ง ชาวพุทธ

    การชนะมารของพระพุทธองค์ คือ

    1 ทาน คือ อย่ามองว่า ใครเป็นฝ่ายตรงข้ามแต่จงให้ทาน และเอื้อเฟื้อต่อกัน
    2 ขันติ คือ เมื่อมีกลุ่มคนที่มีฤทธิมีอำนาจ แสดงอาการ ขอให้อดทน นิ่งอยู่เป็นที่ตั้ง
    3 เมตตา คือ ให้มีเมตตา ต่อกัน
    4 อิทธวิธี คือ แสดงฤทธิ์บ้าง
    5 สมาธิ คือ สงบตั้งมั่น
    6 ปัญญา คือ ใช้ปัญญา ข้อนี้ คือ การยกตนขึ้นสู่ความจริงความเป็นธรรมแล้วสอน
    7 เทสนา ด้วย การให้เห็นกับตัวเองในข้อผิด
    8 ญาณ คือ ด้วยความรู้อันยิ่ง

    และ ขอเชิญ เพื่อนๆ สวด พาหุง ให้ทุกคืนแล้ว แผ่เมตตาจิตไปให้ทั่วประเทศ
    จะได้แก้วิกฤติในครั้งนี้ครับ

    ทั้งหมด เพราะโลกธรรมแท้ๆ เสียดายที่สมชายไม่ได้อ่าน
     
  2. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,480
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,012
    ต้องวางใจให้เป็นกลางครับ อะไรจะเกิดก็ต้องเกิด ทําใจให้ดีเข้าไว้ เป้นคนดี เเล้วทุกสิ่งจะคลี่คลายไปได้ด้วยดีครับ
     
  3. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    มีสติ รู้จักสงบ รู้จักแพ้ รู้จักเหตุผล รู้จักความเป็นไปได้ รู้จักพอ รู้จักหยุด รู้จักความแตกต่าง รู้จักหน้าที่ตน

    รู้จักบาป รู้จักผลแห่งบาป และหยุดการเบียดเบียนผู้อื่นเป็นเบื้องต้น ^-^
     
  4. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    จิตก็ไม่ใช่ของเรา กายก็ไม่ใช่ของเรา เเล้วจะอยากได้อะไรมาเป็นของเรา?

    งานมีก็ทำไปดิ, เรียนก็เรียนไปดิ, ดูเเลตัวเองให้ดี ทำหน้าที่ของตัวเองในการเป็นคนดีก็พอ

    เวลาได้ดีหรือเลว เราก็โดนคนเดียว ไม่เห็นใครจะเป็นเดือดเป็นร้อน

    ที่ปัญหาไม่รู้จักจบจักสิ้น เพราะไม่รู้ว่าตัวเองเป็นใครกันซะที .....ไร้สาระ พวกฟุ้งซ่าน ยุ่งเรื่องชาวบ้าน

    ว่างมากก็หัดไปนั่งสมาธิดูจิตตัวเองกันมั้ง ชอบให้ คนอื่น จูงจมูกอยู่นั้น
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 ตุลาคม 2008
  5. นิรันตรพินทุ

    นิรันตรพินทุ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    173
    ค่าพลัง:
    +10
    ปัญหาทุกอย่างในโลก ล้วนเป็นปัญหาทางความคิด
     
  6. ฐาณัฏฐ์

    ฐาณัฏฐ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2008
    โพสต์:
    6,197
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +4,075
    จดหมายจากในหลวงถึงพระเทพฯ

    พระราชหัตถเลขาที่พระบาทสมเด็จพระปรมินทรมหาภูมิพลอดุลยเดช
    ทรงมีไปถึงสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา สยามบรมราชกุมารี เ
    มื่อวันที่ ๖ ตุลาคม พุทธศักราช ๒๕๔๗
    สมเด็จพระเทพรัตนราชสุดาฯ ทรงโปรดเกล้าฯให้นำมาเผยแพร่





    ลูกพ่อ

    ในพื้นแผ่นดินนี้ ทุกสิ่งเป็นของคู่กันมาโดยตลอด

    มีความมืดและความสว่าง ความดีและความชั่ว

    ถ้าให้เลือกในสิ่งที่ตนชอบแล้ว ทุกคนปรารถนาความสว่าง ปรารถนาความดีด้วยกันทุกคน

    แต่ความปรารถนานั้นจักสำเร็จลงได้

    จักต้องมีวิธีที่จักดำเนินให้ไปถึงความสว่าง หรือ ความดีนั้น

    ทางที่จักต้องไปให้ถึงความดีก็คือ รักผู้อื่น เพราะความรักผู้อื่น

    สามารถแก้ปัญหาได้ทุกปัญหา

    ถ้าให้โลกมีแต่ความสุขและเกิดสันติภาพ

    ความรักผู้อื่นจักเกิดขึ้นได้ พ่อขอบอกลูกดังนี้....






    1. ขอให้ลูกมองผู้อื่นว่า เป็นเพื่อนเกิด
    เพื่อนแก่ เพื่อนเจ็บ เพื่อนตายด้วยกัน ทั้งหมดทั้งสิ้น
    ไม่ว่าอดีต...ปัจจุบัน...อนาคต

    2. มองโลกในแง่ดี และจะให้ดียิ่งขึ้น
    ควรมองโลกจากความเป็นจริง
    อันจักเป็นทางแก้ปัญหาอย่างถูกต้องและเหมาะสม

    3. มีความสันโดษ คือ
    - มีความพอใจเป็นพื้นฐานของจิตใจ พอใจตามมีตามได้ คือได้อย่างไร ก็เอาอย่างนั้น
    ไม่ยึดติด ขอให้คิดว่ามีก็ดี ไม่มีก็ได้ พอใจตามกำลัง คือมีน้อยก็พอใจตามที่ได้น้อย
    - ไม่เป็นอึ่งอ่างพองลมจะเกิดความเดือดร้อนในภายหลัง
    - พอใจตามสมควร คือ ทำงานให้มีความพอใจเหมาะสมแก่งาน
    - ให้ดำรงชีพให้เหมาะสมแก่ฐานะของตน

    4. มีความมั่นคงแห่งจิต
    คือให้มองเห็นโทษของความเกียจคร้าน และมองเห็นคุณประโยชน์ของความเพียร
    และเมื่อเกิดสิ่งที่ไม่พึงปรารถนาให้
    ภาวนาว่า... มีลาภ มียศ สุขทุกข์ปรากฏ สรรเสริญนินทา เสื่อมลาภ
    เสื่อมยศ เป็นกฎธรรมดา อย่ามัวโศกานึกว่า 'ชั่งมัน'


    พ่อ
    6/10/2547



    ปล.สวัสดีอาจารย์ขันธ์
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 13 ตุลาคม 2008
  7. แมวแหมว

    แมวแหมว Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    729
    ค่าพลัง:
    +49
    ขอบคุณ "คุณหลงเขามา" ข้อคิดดี ๆ ยังคงมีอยู่เสมอ
     
  8. natspdo

    natspdo เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    1,041
    ค่าพลัง:
    +1,505
    ถ้าคนในสังคมรู้แบบคุณขันธ์ ปัญหาก็ไม่เกิด บางท่านไม่มีข้อเสนอแนะทางแก้ปัญหา ไม่แสดงภูมิธรรมของท่านให้ประจักษ์ ลองมองดูประเทศรอบเราสิครับ เขาเริ่มพัฒนาด้านเศรษฐกิจ เวลาดูข่าวก็จะเห็นเรื่องการพัฒนาประเทศ.. สำหรับเราหละ..จะทำความดีให้กับสังคมหรือจะสร้างปัญหาให้กับสังคม ประเทศชาติอยู่ในมือทุก ๆ ท่าน
     
  9. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196
    ถ้าเอาธรรมมาจับเปรียบเทียบ
    ปัญหาบ้านเมืองที่เดือนร้อนกันอยู่ทุกวันนี้
    เป็นเรื่องของคนไม่ปกติ
    เพราะขาดศีลที่บริสุทธิ์ ซึ่งศีลก็แปลตรงแล้วว่า ปกติ
    เพียงถ้าทุกคนมี แค่ศีล 5 สังคมก็จะร่มเย็นน่าอยู่กว่านี้ ไม่มีการเบียดเบียนกัน
     
  10. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    ฉันเป็นคนดี ฉันไม่ทำให้ผู้ใดเดือดร้อน ฉันไม่ขัดเเย้งกับผู้ใด ฉันนั้นได้ช่วยเหลือประเทศเเล้ว
     
  11. bigboom007

    bigboom007 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    7 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    319
    ค่าพลัง:
    +570
    เราควรมองคนทำผิดว่ากรรมอกุศลเขากำลังชักจูง เกิดจากกรรมเก่าแต่ชาติก่อนเป็นเหตุ
     
  12. Bacary

    Bacary เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 พฤษภาคม 2006
    โพสต์:
    1,211
    ค่าพลัง:
    +23,196
    [music]http://audio.palungjit.org/attachment.php?attachmentid=13143[/music]​
     
  13. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เคยไหม พยายามแทบตาย แต่ผลของมันกลับไร้ค่า
    จะมีราคาก็แค่บทเรียน

    นี่ก็เช่นเดียวกัน จริงๆแล้วถ้าหากมีสติสักหน่อย พิจารณาว่า การที่กลัวว่าทักษิณจะสร้างความล่มจมให้กลับประเทศ แล้ว มีการเคลื่อนไหว ขับไล่ จากวันนั้นถึงวันนี้ กี่ปีแล้ว
    ถ้าวันนั้น ตั้งสติแล้ว ค่อยๆ ดำเนินไปตามกระบวนการ ป่านนี้ ทักษิณหมดวาระไปแล้ว และก็ไม่บอบช้ำด้วย

    มาจนถึงวันนี้ ก็เช่นเดียวกัน หากไม่ยุติ มันก็บานปลายไปเรื่อยๆ นี่การแก้ปัญหาก็คือ หากปล่อย ไปตามกระบวนการของสังคม อีกไม่นาน รัฐบาลก็ต้องหมดวาระ แต่หากว่า จะยื้อกันวันนี้ ไม่มีทางที่จะจบลงง่ายๆ

    นี่แหละเขาเรียกว่า เมื่อคนโง่เคลื่อนไหว ความบรรลัยก็ตามมา

    เช่นเดียวกัน หากว่า ฝ่ายทักษิณ ผิดจริง ก็ค่อยๆ รวบรวมหลักฐาน แล้ว ฟ้องร้องไปตามกระบวนการ และหากเขาผิดจริง พรรคพวกเขาไม่ดีจริง มันอยู่ไม่ได้

    คนร้อนรนด้วยกิเลสเคลื่อนไหว อย่างไร ก็ไม่สำเร็จ ประเทศชาติเราต้องเรียนรู้จุดนี้กันอีกมาก
     
  14. เกสท์

    เกสท์ สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    765
    ค่าพลัง:
    +18
    คนไร้วาสนา ขาดปัญญา รู้ความจริงไม่ได้
    เรื่องนี้มีพุทธทำนายไว้แล้ว
    ท่านผู้รู้
    รู้แล้วว่าจะจบอย่างไร

    ความจริงจะปรากฎเอง เมื่อถึงเวลา
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 16 ตุลาคม 2008
  15. jinny95

    jinny95 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    6,074
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ทำนายไว้อย่างไรครับ ^-^
     
  16. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    คุณ guest คุณเป็นฝ่ายพันธมิตร
    คุณ ก็แสดงความเป็นตัวตนของคุณออกมา

    ส่วนผมพูดตามความจริง ไม่ได้เข้าข้างใคร และผมก็เห็นในความผิดพลาดของฝ่ายตรงข้ามคุณ และของคุณ
    เพียงแต่การแก้ปัญหา มันผิดพลาดทั้งคู่ และ ที่แย่ไปกว่านั้น คือ คำพูดที่เรื่อยเปื่อยอย่างยิ่งของ ฝ่ายที่เคลื่อนไหวอย่างพันธมิตร

    คุณ ควรจะแยกระหว่าง อคติ และ ความจริง และ หน้าที่ของคุณให้ออก
    คุณต้องแยก ระหว่าง กลุ่มคนในรัฐบาล ว่ามีกี่กลุ่ม คุณควรแยกว่า คนในประเทศมีกี่กลุ่ม
    แล้ว เลือกที่จะประพฤติต่อคนเหล่านั้น อย่างที่ควรเป็น ไม่ใช่ว่า พอใครเห็นการกระทำที่ไม่ถูกต้องของคุณ ก็เหมารวมไปหมด ว่าตรงข้ามกับคุณ และเป็นฝ่ายตรงข้าม

    ทีนี้ มันจะค่อยๆ ผลักดันคนกลางไปสู่ ขั้วตรงข้าม เพราะว่า เมื่อคุณไปทะเลาะกับฝ่ายหนึ่ง ซึ่งไม่ใช่ฝ่ายตรงข้ามคุณ เขาก็จะต้องผันตัวเองไปสู่อีกขั้วหนึ่งทันที

    นี่พระพุทธองค์ก็บอกไว้แล้วว่า บุคคล 4 จำพวกคือ

    รักเพราะรัก รักเพราะเกลียด เกลียดเพราะรัก และ เกลียดเพราะเกลียด

    บุคคลที่จะดำรงความเป็นกลางอยู่ได้คือ ผุ้ที่มีธรรมสูง

    ที่ผ่านมา แสดงให้เห็นแล้วว่า ตำรวจเมื่อก่อนถูกชื่นชม บัดนี้กลายเป็นคนเลว ทั้งๆที่คนเหล่านั้น ก็มีทั้งดีทั้งเลวปนกันไป
    นี่คุณกำลังผลักคนเหล่านั้นไปสู่ขั้วตรงข้ามอย่างสิ้นเชิง
     
  17. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    เอาหละ ทางแก้สุดท้าย ผมสรุปแล้ว ไม่อยากพูดมาก เดี๋ยวจะกลายเป็นปลุกปั่น

    รักเพราะรัก รักเพราะเกลียด ก็จะทำให้ผ่านวิกฤติไปได้

    คือ หาจุดร่วมในความรักกัน และ หาจุดร่วมในการเกลียดสิ่งเดียวกัน

    จุดร่วมในความรักกัน คือ สร้างสิ่งที่เรารักร่วมกัน คือ ประเทศชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์
    มาอันดับแรก และ จุดร่วมในความเกลียดชัง คือ ความไม่ดี ความเกลียดชังนั่นแหละ

    แล้ว ดับอารมณ์ ให้ได้ ปัญญาก็จะกระจ่างขึ้นมา

    ส่วนปัญหาในอนาคต หรือ ปัญหาที่จินตนาการขึ้นมา ความกลัว ต่างๆ ต้องดับ ต้องชี้แจง
     
  18. ผีเสื้อราตรี

    ผีเสื้อราตรี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,141
    ค่าพลัง:
    +283
    ไม่เข้าใจความหมายของคำว่ารักเพราะเกลียด คือเกลียดคนหนึ่งจึงจำเป็นต้องไปรักอีกคนหนึ่งที่อยู่ด้านตรงข้ามกับคนที่เราเกลียด หรือว่าเกลียดมากๆจนเกิดความรักเพราะถึงจะเกลียดแต่ใจก็คิดถึงแต่คนที่เราเกลียด อ.ขันธ์ ช่วยอธิบายให้ฟังที
     
  19. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    ก็ ถ้า ผีเสื้อ เกลียดนาย A ผมก็เกลียดนาย A

    ผีเสื้อกับผมก็จะรักกัน ก็เช่นเดียวกัน คนทุกคนในพันธมิตร รักกันเพราะเกลียดทักษิณ

    ทีนี้ เราต้องพยายาม เปลี่ยนจุดเกลียดชัง ให้เบนไป

    และ สร้าง จุดร่วมของความรักกัน กลับคืนมา
     
  20. ขันธ์

    ขันธ์ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    7,917
    ค่าพลัง:
    +9,181
    จุดร่วมแห่งความเกลียดชัง
    เมื่อ A เกลียด B ซึ่งเป็นคนที่ C รัก C ก็จะเกลียด A
    ที่นี้ พอ A เกลียด C ซึ่งเป็นคนที่ D รัก D ก็จะเกลียด A
    เมื่อ D เกลียด A ซึ่งเป็นคนที่ E รัก E ก็จะเกลียด D

    แล้วลองดูซิว่า ไล่ได้ถึง Z ไหม

    ทีนี้ ต้องผลักความเกลียดไปที่อื่น แล้วสร้างความรัก ค่อยๆ สร้างความรักคือ

    เมื่อ A รัก B ซึ่งเป็นคนที่ C รัก A กับ C ก็จะเริ่มหันมารักกัน

    เมื่อ A รักกับ C ซึ่งเป็นคนที่ D รัก A กับ D ก็จะเริ่มรักกัน

    Hi5 เท่านั้นที่จะช่วยเราได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...