ขอขมา อโหสิ ล้างเท้าพ่อแม่ แล้วเอาน้ำล้างเท้ามาอาบน้ำ

ในห้อง 'ทุกข์และปัญหาชีวิต' ตั้งกระทู้โดย สันโดษ, 5 พฤษภาคม 2009.

  1. สันโดษ

    สันโดษ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    9,940
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +16,870
    [​IMG]


    สืบเนื่องจากกระทู้ที่แล้ว เรามาตั้งไว้ หลังจากวันที่แฟนเราบอกเลิกไม่นาน
    ก็ได้แง่คิดจากเพื่อนๆที่เคยอกหักมาเหมือนกัน รวมทั้งทุกคนที่เข้ามาเป็นกำลังใจ
    ทำให้เรารู้สึกดีขึ้นเยอะเลยค่ะ ขอบคุณจากใจจริงๆค่ะ
    ต่อไปนี้คือเรื่องราวที่เกิดขึ้นหลังจากนั้น อาจจะยาวสักหน่อยนะคะ


    ในคืนวันที่ 5 เมษายนที่ผ่านมา
    จิตใจเราที่รู้สึกบอบช้ำมากๆ ทำให้เราคิดถึงบุคคล 2 คน ที่สำคัญกับชีวิตเรามากที่สุด
    มากกว่าผู้ชายคนหนึ่ง ที่ไม่เห็นความสำคัญของเราแล้ว ท่านทั้งสองก็คือ พ่อ และ แม่
    ความจริงเรื่องความรักของเรา แม่จะรู้ตลอด รู้แบบละเอียดลึกซึ้งมาก
    มีอะไรเราจะบอกแม่หมด ไม่ปิดบัง
    เพราะแม่เราค่อนข้างหัวสมัยใหม่ และใจดีกับลูกมาก เหมือนเป็นเพื่อนกัน
    เราจะทำอะไร ไม่เคยว่าเลย จะมีก็แต่คอยเตือน
    ตลอดเวลาที่เราจะเลิกไม่เลิกกับแฟน คาราคาซังอยู่นั้น แม่เราก็คอยปลอบมาตลอด
    บอกว่าคนอื่น ถึงยังไงก็เป็นคนอื่น เลิกกันไปก็กลายเป็นคนแปลกหน้า
    ไม่เหมือนพ่อแม่ ไม่มีใครจะหวังดีและรักเรา เท่ากับพ่อแม่อีกแล้ว
    นี่คือคำพูดของแม่เรา ที่เตือนสติเราตลอดเวลา แต่กับพ่อเรา เค้าไม่รู้เรื่องนี้เท่าไหร่
    รู้แต่ว่าเรามีแฟนเท่านั้น ซึ่งเค้าก็ไม่ว่าอะไร เพราะเราโตแล้ว (จริงๆวัยเราสมควรจะแต่งงานไปแล้วด้วยซ้ำ)
    เรากับแม่ รู้ดีว่าพ่อเป็นคนคิดมาก ยิ่งถ้ารู้ว่าเราเลิกกับแฟน เดี๋ยวก็คิดมากอีก


    จนกระทั่งคืนนั้น เรารู้สึกแย่มากๆ ไม่ไหวแล้ว
    สิ่งแรกที่เราคิดคือ วันที่เราเสียใจที่สุด คนที่หวังดีและอยู่เคียงข้างเราจริงๆคือใครกัน
    ตอนนี้เรานึกถึงธรรมะ ขึ้นมาเลย (จริงๆเราเป็นคนชอบทำบุญมาก ชอบศึกษาเรื่องศาสนาอยู่แล้ว)
    แต่วินาทีนี้ เรานึกถึงเรื่อง เวรกรรม เรื่องบาปบุญที่ทำกับพ่อแม่ขึ้นมาเลย
    ในช่วงเวลาที่เราคบกับคนๆหนึ่ง และรักคนๆหนึ่งมาก
    แต่เราได้ทำอะไรให้พ่อแม่ และแสดงออกว่ารักท่านบ้างหรือยัง
    นิสัยเราเป็นคนที่ค่อนข้างกระดากใจ ถ้าจะต้องแสดงออกความรักกับพ่อแม่
    แต่วันนั้นสิ่งที่เราอยากทำมากเลยคือ การขอขมา


    เราเดินไปบอกแม่ทั้งน้ำตาว่า ให้แม่กับพ่อเข้ามาในห้องนอนเราหน่อย เราจะล้างเท้าขอขมา
    แม่เราก็ไปตามพ่อมาที่ห้องเรา พ่อก็งงๆว่ามีอะไร เราก็ไปเอากะละมังใบเล็กๆมาใส่น้ำ
    แล้วเราก็เอาเข้าไปในห้อง ให้พ่อแม่นั่งบนเตียง เรานั่งอยู่ข้างล่าง
    หลังจากนั้นเราก็ไม่ได้พูดอะไรเลย จับเอาเท้าพ่อมาแช่ลงในน้ำ แล้วก็ค่อยๆล้างถูอย่างตั้งใจ น้ำตาก็ไหลตลอด
    ล้างได้สักพักก็เอาผ้าเช็ดตัวที่เราใช้อยู่ มาวางรองที่เท้าแล้วเช็ดเท้าพ่อ
    หลังจากนั้นก็เปลี่ยน เลื่อนกะละมังมาวางตรงหน้าแม่ แล้วก็ทำเหมือนกัน



    พอเสร็จขั้นตอน เราก็ยกมือไหว้ แล้วบอกว่า สิ่งที่เราเคยทำไม่ดีกับพ่อแม่ไว้
    ทั้งเคยเถียงพ่อแม่ หรือคิดไม่ดีอะไรกับพ่อแม่ ก็ขอให้อโหสิให้เราด้วย
    รวมทั้งเวรกรรมที่เราทำในอดีต จนส่งผลมาถึงปัจจุบัน เราก็ขออโหสิกรรม ให้จบลงในชาตินี้
    พ่อเราก็ลูบหัวเรา อโหสิให้เรา แล้วก็พูดถึงความรู้สึกต่างๆที่มีต่อลูกคนนี้
    ส่วนแม่เราก็ร้องไห้ เข้ามากอดเรา แล้วบอกว่าขอให้เราเจอคนที่ดีๆ
    แม่ภาวนาและอวยพรให้เราได้เจอคู่แท้ คู่ที่ดีกว่านี้ และก็อโหสิกรรมทั้งหมดให้เรา
    แม่เราจะพูดซ้ำวนเวียนแต่เรื่องให้เราเจอคู่แท้คู่ที่ดี พูดไปแม่ก็ร้องไห้ไป
    เพราะแม่รู้ว่าเราเจออะไรมาบ้าง แล้วตอนนี้เราเสียใจแค่ไหน
    เราก็ร้องไห้ตลอดเวลาเลย ก้มลงกราบเท้าพ่ออยู่นานมาก แล้วก็หันมาก้มลงกราบเท้าแม่
    ก็คุยกันแบบเปิดใจอยู่นาน เราก็บอกว่าเราอยากทำอะไรให้พ่อแม่ ตอบแทนบุญคุณให้ท่าน
    ที่เลี้ยงดูเรามาตั้งแต่เล็กจนโตอย่างลำบาก พ่อเราก็บอกว่าไม่เป็นไร
    แต่เราบอกว่า พ่อแม่เลี้ยงเรามาตั้งหลายปี
    ถึงแม้เราอาจจะมีเวลาเลี้ยงเค้าอีกสัก 10-20 ปี เป็นการตอบแทน เราก็ต้องทำให้ได้


    เมื่อก่อนเราเคยตั้งใจไว้เหมือนกันว่า สักวันเราจะกราบเท้าพ่อแม่ขออโหสิกรรม
    แต่ก็ผลัดมาตลอด เพราะเรารู้สึกอายที่จะทำ
    ถึงแม้วันนั้นเราจะทำไป เพราะการผิดหวังในเรื่องความรักจากคนๆหนึ่ง
    เราก็ยังรู้สึกดี ที่เรามีโอกาสได้ทำ ก่อนที่ท่านทั้งสองจะจากเราไปสักวัน
    ทำให้วันนั้นความอาย ความกระดากใจมันหายไปหมดเลย
    คิดอย่างเดียวว่า เค้าเป็นพ่อแม่เรา เราจะอายทำไม
    ในเมื่อมันเป็นเรื่องที่ดี ที่ลูกคนหนึ่งจะพึงระลึกทำให้พ่อแม่ได้
    เรารักคนๆหนึ่งแทบขาดใจ โหยหา ง้องอน ไล่ตาม อยากคืนดีกับเค้า ทำใจที่จะกลับมาอยู่ตัวคนเดียวไม่ได้
    แต่คนที่เราสมควรจะแสดงความรักมากที่สุดก็คือ พ่อแม่ต่างหาก ทำไมเราไม่นึกถึงท่านกันล่ะ


    ตอนเรามีแฟน เราก็เอาอกเอาใจ หาอะไรให้กิน คอยบีบนวด ก็เต็มใจทำให้
    แต่กับพ่อแม่ ที่ผ่านมาเราได้ปรนนิบัติท่านอย่างเต็มที่หรือยัง
    เรารักคนอื่น ดูแลคนอื่นมากกว่าพ่อแม่ตัวเองเสียอีก
    พอหลังจากขอขมาพ่อแม่ไปแล้ว เรารู้สึกอยากทำอะไรๆให้ท่านมาก แม้จะเป็นเรื่องเล็กน้อยก็ตาม
    พ่อให้เราตัดเล็บเท้าให้ เราก็ทำอย่างไม่อิดออด ให้เรานวดขา เราก็นวดให้
    เราคิดว่าทำแค่นี้มันยังน้อยกว่าที่ท่านทำให้เราเสียอีก
    ท่านเฝ้าเลี้ยงดู อดตาหลับขับตานอน ในเวลาที่เราแหกปากร้องกลางดึกกลางดื่นทุกคืน ตอนเรายังเป็นทารก
    เช็ดอึเช็ดฉี่ให้เรา ต้องตามใจเวลาเราชักดิ้นชักงอจะเอาของเล่น
    ส่งเสียเลี้ยงดูกว่าจะโตมาได้ขนาดนี้


    กับแฟนเวลาทะเลาะกัน เค้ายังโกรธเรา โมโหเรา
    แต่เชื่อมั้ยว่า เราเถียงพ่อแม่ขนาดไหน ชักสีหน้า เอาแต่ใจยังไง
    พ่อแม่ไม่เคยโกรธเราเลยสักครั้ง ไม่เคยมีท่าทีโมโหเราเลยสักนิด
    เรานึกย้อนกลับไป ไม่มีเลยสักครั้งจริงๆ มีแต่จะให้คำเตือน คำแนะนำ
    ผิดหวังร้องไห้ซมซานมา ก็ปลอบโยนให้กำลังใจ


    จริงๆเราอยากจะให้มันเป็นพิธีการกว่านี้ คือตอนแรกกะจะซื้อพวงมาลัยสวยๆมากราบด้วย
    แต่เกิดคิดจะขอขมาเดี๋ยวนั้น เลยไม่มีเวลาเตรียมการ เราก็คิดว่า ทำด้วยใจนี่แหละ ไม่ต้องมีอะไรเลยก็ได้
    หลังจากนั้นเราก็เอาน้ำล้างเท้าพ่อแม่ มาเทใส่อ่าง เปิดน้ำเติมลงไปให้เต็ม แล้วก็อาบน้ำล้างหน้า
    ในใจก็คิดไปว่า ขอให้น้ำนี้ชำระสิ่งต่างๆที่ไม่ดีออกไปจากชีวิตเรา
    ต่อไปนี้ก็ให้เจอแต่สิ่งดีๆ คนดีๆผ่านเข้ามาในชีวิต


    เราได้ยินมาเหมือนกันว่า คนที่จะอวยพรได้ศักดิ์สิทธิ์ที่สุด ก็คือพ่อแม่
    อยากขออะไร ไม่ต้องไปบนบานที่ไหน ให้ขอกับพ่อแม่ ดีที่สุด
    กราบไหว้พ่อแม่เป็นอันดับแรก เพราะพ่อแม่เปรียบเสมือน พระพุทธรูปประจำบ้าน
    เวลาไปไหน หรืออยู่ในเหตุการณ์ที่ทำให้เรารู้สึกอันตราย ก็ให้นึกถึงพ่อแม่
    ครั้งหนึ่งสมัยเด็กๆ เราเดินทางไกลตอนเข้าค่ายลูกเสือ ต้องเดินผ่านฮวงซุ้ย น่ากลัวมาก
    เราก็นึกถึงหน้าพ่อตลอด เพราะก่อนไป พ่อบอกว่า ถ้ามีอะไรให้นึกถึงหน้าท่าน



    พิมพ์มาตั้งนาน เพิ่งรู้สึกว่าตัวเองพิมพ์อะไรไปเยอะมากเลย ขอบคุณที่อ่านมากันจนถึงตรงนี้นะคะ
    เราอยากเอาประสบการณ์ในช่วงชีวิตหนึ่งมาบอกเล่าสู่กันฟัง
    สำหรับใครที่อกหักหรือท้อถอยกับชีวิต ให้ลองนึกถึงพ่อแม่ เข้าไปกราบไปขอพรจากท่าน
    จะทำให้มีกำลังใจขึ้นอีกเยอะเลยค่ะ และทำให้เรารู้สึกมีแรงที่จะก้าวต่อไปเผชิญสิ่งต่างๆในโลกใบนี้


    อย่ารอ อย่าผลัดวันประกันพรุ่งอย่างเรา ไม่มีเหตุอะไรก็เข้าไปกราบ ไปขอขมาท่านได้
    ชีวิตมันไม่แน่นอน ไม่รู้ว่าพ่อแม่จะอยู่กับเราได้นานแค่ไหน
    คิดได้เมื่อไหร่ ก็ลงมือทำเลย พ่อแม่คือพระอรหันต์สำหรับลูก คือบุคคลที่เราควรจะรักและบูชามากที่สุด
    แล้วจะรู้เลยว่าชีวิตเราจะมีแต่สิ่งที่ดีๆเกิดขึ้น และสบายใจอย่างที่สุดเลยค่ะ <!--MsgFile=0-->


    <CENTER><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 border=0><TBODY><TR><TD><TABLE cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%" bgColor=#222244 border=0><TBODY><TR><TD>[​IMG]</TD></TR></TBODY></TABLE></TD></TR></TBODY></TABLE></CENTER>
    ที่มา http://www.pantip.com/cafe/siam/topic/F7717971/F7717971.html
     
  2. chantima

    chantima เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กันยายน 2008
    โพสต์:
    747
    ค่าพลัง:
    +407
    anumoana ka
     
  3. อรชร บุญเอนก

    อรชร บุญเอนก Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    16
    ค่าพลัง:
    +28
    ขอชื่นชมและขอยกย่องคุณมาก
    นับจากนี้ไปคุณจะมีแต่ความสุขความเจริญ

    ไม่เชื่อก็คอยดู!
     
  4. ภัทรวรรณ

    ภัทรวรรณ Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    61
    ค่าพลัง:
    +50
    โดนค่ะ พึ่งเจอกับตัวเองเลยความรัก

    ไม่อยากให้พ่อแม่รับรู้กลัวเสียใจเหมือนตัวเอง ตอนนี้ก็เป็นบ้า ใจทุกข์ตรมมาก

    คิดเหมือนกันค่ะ ว่าจะทำอย่างนี้กับพ่อแม่

    ความรู้สึกที่พูดมาโดนทุกคำค่ะ อาย เพราะไม่เคยแสดงออก

    จะรออะไรอีกก่อนเวลาจะสายไป..........รักแม่(ไม่กล้าบอก)
     
  5. somkan

    somkan สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    1
    ค่าพลัง:
    +3
    อ่านแล้วเราร้องไห้เลย เพราะพ่อแม่จากเราไปหลายสิบปีแล้ว รักแม่มาก แต่กลัวพ่อมากเพราะพ่อทุบตีลูกรุนแรงเกินเหตุ ขนาดพ่อตายไปแล้วหลายปียังฝันถึงพ่อด้วยความหวาดกลัวว่าจะถูกตี ถูกไล่ยิง แต่วันนี้พ่อตายไปนานมากแล้ว..มาคิดได้ว่าอย่างไรพ่อก็ยังดีกว่า..พ่อของบางคนอีกมากมาย เราได้เรียนมา ได้เติบโตมาก็เพราะพ่อ ถึงพ่อจะดุร้าย แต่พ่อก็ทำหน้าที่เลี้ยงดูลูก ด้วยปัจจัยสี่อย่างครบถ้วน จากคำสอนของพ่อก็ช่วยรักษาชีวิตในยามวิกฤติได้หลายครั้ง เช่น อย่าเปิดประตูจนกว่าจะถามตอบให้แน่ใจว่าคนที่เคาะประตูคือใคร ...ฯลฯ.. วันนี้ได้แต่เสียใจ..ที่เมื่อครั้งพ่อมีชีวิตอยู่ไม่เคยทำดีกับพ่อเลย..ถึงตอนนี้จะใส่บาตรทำบุญอุทิศส่วนกุศลไปให้ ก็ทำได้แค่นั้น....
     
  6. DevaIsis

    DevaIsis เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 สิงหาคม 2010
    โพสต์:
    2,005
    ค่าพลัง:
    +4,600
    เอาน้ำล้างเท้าพ่อและแม่ มากิน มาดื่ม

    นั่นแหละที่เจ๊ทำ

    เพราะสมัยสาวๆ ก็เหมือนคุณสันโดษนี่แหละ คบใครก็โดนทิ้ง ไปนั่งร้องไห้ในศาลา หลวงพ่อจรัญชี้หน้า พูดดังๆ ว่า

    ด่าพ่อด่าแม่ ค่าตัวเป็นแสน เหลือสลึงถึงมั้ย

    โอ๊ย...ปล่อยโฮกลางศาลาวัด ญาติโยมมองมาที่เจ๊คนเดียวเลย เจ๊นี้อยากจะมุดแทรกแผ่นดินหนีไป

    ก็อย่างที่บอกแหละ เอามาอาบ แค่ ชิล ชิล เอามาดื่ม มากิน เห็นผลทันตา

    ทำบ่อยๆ ก็ว่า โอ้โห ติดกินน้ำล้างเท้าพ่อแม่จัง อร่อย หอม เหอะ เหอะ
     
  7. siwatcha

    siwatcha เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 กรกฎาคม 2012
    โพสต์:
    219
    ค่าพลัง:
    +1,242
    สาธุ โมทนาคะ คุณสันโดษจะพบแต่สิ่งดีๆ มาในชีวิตแน่นอน เพราะคำอวยพรไหนก็ไม่ขลังศักดิ์สิทธิ์เท่าของคุณแม่ีคุณพ่อได้ เพราะมีแต่ความจริงใจและปราถนาดีล้วน ๆ สิ่งที่คุณสันโดษทำประเสริฐมากนะคะ และต่อให้ยังไม่เจอใครที่ใช่ คุณก็จะมีความสุขความเจริญอยู่ได้ด้วยตัวคุณเองแถมยังมีคุณพ่อคุณแม่ที่เคียงข้างคุณอยู่ตลอด และไม่ทอดทิ้งคุณแน่นอนเพราะเรื่องของเนื้อคู่แล้ว ขอให้คุณสันโดษคิดซะว่าหากมีกะเขาจริง ศีลเสมอกัน มีธรรมมะในใจไหม และเป็นคนกตัญญูเหมือนคุณหรือเปล่าหากได้เจอก็ดี แต่หากไม่เจอก็ต้องอยู่ให้ได้เพราะถือซะว่าอาจได้คนไม่ดีแล้วอยู่เป็นสาวหน้านวลก็ไม่ีเห็นต้องแคร์ใครคนเขาอยู่เป็นโสดกันเยอะไป และสวดมนต์ไหว้พระ่น้อมใจระลึกถึงพระรัตนตรัย แผ่เมตตาเป็นประจำ หากนั่งสมาธิได้ยิ่งดีที่สุด และคุณสันโดษจะทราบว่าสุขใดก็ไม่เท่าสุขจากการปล่อยวางและขอให้ถึงซึ่งนิพพานในอนาคตกาล มีพระพุทธเจ้าในใจให้มากๆ คะ
     
  8. polchayanon

    polchayanon Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 กุมภาพันธ์ 2013
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +28
    ผมก็เพิ่งไปล้างเท้าแม่มา เมื่อสงกรานต์ แล้วเอาน้ำมาเทลงอ่างน้ำ อาบทุกวัน สบายใจดี
     
  9. buakwun

    buakwun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    4 กุมภาพันธ์ 2012
    โพสต์:
    2,830
    ค่าพลัง:
    +16,613
    อ่านแล้วก็น้ำตาไหล นึกถึงวันที่ได้กราบเท้าแม่และล้างเท้าให้แม่ ทำทุกครั้งก็จะน้ำตาไหลทุกครั้ง ได้กล่าวขอขมาและขออโหสิกรรมต่อท่าน ท่านก็จะอโหสิกรรมและให้ศีลให้พรทุกครั้ง แล้วก็เอาน้ำล้างเท้าแม่นั้นลูบหน้าลูบหัวเพื่อเป็นสิริมงคลให้ตัวเอง ท่านใดที่ทำแล้วขอให้ชีวิตพบแต่ความเจริญรุ่งเรืองนะคะ
     
  10. daowdeaw

    daowdeaw เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 เมษายน 2013
    โพสต์:
    537
    ค่าพลัง:
    +1,558
    ผู้ที่กราบเท้าและล้างเท้าให้พ่อแม่ ชีวิตจะมีแต่ความเจริญรุ่งเรือง หากินสิ่งใดก็จะมิตกต่ำ ขออนุโมทนาบุญกับผู้ที่มีความกตัญญูกับบุพการีทุกท่านด้วยค่ะ
     
  11. DuchessFidgette

    DuchessFidgette เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 ตุลาคม 2012
    โพสต์:
    2,607
    ค่าพลัง:
    +9,301
    คุณพ่อ คุณแม่ก็บอกเราหลายทีแล้วว่าให้ไปกราบและล้างเท้าท่าน เพราะปีที่ผ่านมาชง มีแต่เรื่องแย่ๆ ก็ได้แต่รอเวลาถถ้าได้ไปเมืองไทยก็จะไปกราบท่าน
     
  12. sunisa005

    sunisa005 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ธันวาคม 2011
    โพสต์:
    195
    ค่าพลัง:
    +298
    ดิฉันเพิ่งไปเซอร์ไพร์สวันเกิดท่าน1/8/56ชวนท่านไปทำบุญพาไปตัดแว่นซื้อของอร่อยๆที่ท่านชอบและขอขมากรรมด้วยการล้างเท้าขอพรท่าน ซื้อเสื้อให้ท่านใหม่บอกตรงๆค่ะว่าอิ่มเอมใจมากๆทำไปเถอะค่ะสนับสนุนทำความดีอนุโมทนาบุญด้วยคะ
     
  13. แมวเหมียว99

    แมวเหมียว99 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 ตุลาคม 2010
    โพสต์:
    76
    ค่าพลัง:
    +136
    ดีจังค่ะ

    แมวเหมียวเคยล้างเท้าพ่อกับแม่มาหนนึง..ก่อนปีใหม่แมวเหมียวจะทำอีกครั้งค่ะ..เพราะแมวเหมียวรู้สึกว่าตนเองยังทำดีกับพ่อแม่ไม่มากพอ...
     

แชร์หน้านี้

Loading...