ขอถามสักนิด ถึงช่อง DMC กับ พุทธศาสนา

เมื่อวานนี้ผมดู รายการช่อง DMC ของวัดพระธรรมกาย

ครั้งแรกก็ไม่ตั้งใจจะเปิดดูเพราะส่วนตัวยังรู้สึกส่งสัยในคำสอนของพระในวัดนี้

แต่บังเอิญมีการ์ตูน พุทธประวัติ และ เรื่องราวของคำสอนต่างๆ

เลยเผลอไปนั่งดู คิดว่าจะมีประโยชน์

แต่สุดท้ายก็ งง กับเรื่องราวต่างๆ ที่บอกว่า พระปัจเจกพุทธเจ้า

เมื่อถึงนิพพานแล้ว ใยต้องกับมาเวียนว่ายตาย เกิดอีก (งงครับ)

เพราะที่ได้ยินมา พระอรหันต์ ถ้ามรณะภาพแล้ว จะต้องหลุดจาด "วัฎสงสาร"

ใยท่าน (พระวัดนี้) จึงสอนแบบนี้ แถมท้ายด้วยการอวดอ้างถึงปฏิหารต่างๆ

ของหลวงพ่อสด....(จะเรียกว่าเป็นการอวดอ้างอุตริอนุสธรรมหรือเปล่านะ)

เห็นแล้งก็ปลงอนิจจังอีกวัด ว่าใยจึงบิดเบือนคำสอนของพระพุทธเจ้าขนาดนี้

...........

กรมศาสนาทำอะไรอยุ่กันครับ ถึงได้ไม่มีการตรวจสอบ

แบบนี้ศาสนาพุทธจะอยู่อย่างไร

 

อัพยากะตาธัมมาฯ

 

ธรรมกายไม่ใช่พุทธศาสนานะครับเป็นแค่ลัทธิหนึ่งที่ มีคำสอนผิดแปลกไปมีอีกหลายอย่างที่ไม่ใช่คำสอนของพระพุทธเจ้า ค่อนข้างที่จะบูชาเงินหน่ออยที่พูดนี่ไม่ใช่ลบหลู่แต่ให้ไปศึกษาวิเคราะห์เอาเองครับ ตอนแรกผมก็อย่างนี้เละ พอมานั่งวิเคราะห์แล้วไปถามพระรูปอื่นๆจึงได้คำตอบที่ผมเขียนมา ยังไม่คนอีกมากที่ยังงมงายกับธรรมกายอยู่

 

ได้ข่าวมาว่าเจ้าอาวาสวัดนี้เข้าพบยาก ใครที่จะเข้าพบก็ต้องบริจาคเงินมากๆ ถึงจะมีโอกาสได้เข้าพบ
มีคนเล่าให้ฟังมาอีกทีนึง ใครพอทราบบ้างครับ

 

ทำแบบนี้พระพุทธศาสนาก็เสื่อมเร็วหมดละซิคับ พี่น้องครับ ให้เอาหูไปนา เอาตาไปไร่ สิ่งเสื่อมๆก็พลอยกันกินในศาสนาพุทธผิดจากหลักคำสอนที่แท้จริง ผมเห้นด้วยกับน้อง แอ่นบาง นะครับที่นำมาโพสเพื่ออยากหาคำตอบ อย่างน้อยเราก็เอาสิ่งที่เราเห็นว่าผิดปกติจากพระไตรปิฎกมานำเสนอ
ให้คนทั่วไป หรือผู้มีส่วนเกี่ยวข้อง เขาอาจนำไปขยายผลต่อก็ได้ครับ และเราก็ได้รู้ความจริงว่าผิดถูกอย่างไร และปกป้องศาสนาไปด้วย



ผมมีความเห็นว่าสิ่งไหนถ้าผิดถูก ตรวจสอบตามพระไตรปิฎกที่มีเป็นลายลักษณ์อักษร ดีกว่าไปเชื่อครูบาอาจารย์ล้วนๆที่ไม่ตรงตามพระไตรปิฎก เพราะครูบาอาจารย์เหล่านั้นเราก้ไม่รู้ว่าท่านสำเร็จแค่ไหน จริงหรือไม่ ครับพี่น้อง

 

อย่าดูแต่เพียงภายนอกนะครับท่าน

ดูให้ดี ดูให้ลึก ดูให้แจ่ม

มีอะไรดีๆ อยู่ในนั้นนะครับ

 

คงจะต้องฟัง หรือเข้าใจอะไรผิดแน่ๆครับ

เพราะหลวงพ่อท่านไม่เคยสอนแบบนี้เลย

ขอข้อมูลสอบกลับหน่อยครับผม

 

เห็นด้วยครับ สาธุ

 

ดูแล้ว อย่าลืม กู้เงิน ดอกเบี้ยร้อยละ 12 เพื่อทำบุญสร้างพระนะจ๊ะ

เราให้เฉพาะกู้เงินเป็นหนี้วัดเท่านั้นจ๊ะ และสิ่งที่ได้ เป็นตั๋วเพื่อทำบุญให้วัดฉันเท่านั้นจ๊ะ ไม่ใช่เงินสดนะจ๊ะ

 

ออกตัวก่อนนะครับว่าผมไม่เคยไปวัดพระธรรมกาย
และเคยมีความคิดเหมือนที่ออกไปตามข่าวด้วย

แต่พอได้ดูสื่อ DMC และพิจารณาตามด้วยเหตุผล และปัญญาที่ตัวเองมีอยู่
ก็ไม่เห็นว่าจะแตกต่างกับที่พระท่านอื่นสอนตรงไหนเลย
แค่เพียง "จุดหมาย" ในชาติปัจจุบัน ของชาววัดพระธรรมกายนั้น ไม่ใช่อยู่ที่พระนิพพาน
แต่เค้าต้องการสร้างบารมีสะสมไว้ และหวังว่าจะไปพักพิงชั่วคราวที่สวรรค์ชั้น "ดุสิต"

ผมไม่คิดว่าผิดตรงไหน หากมีความปรารถนาจะสะสมบารมีไว้
และเพื่อประโยชน์อันอุดมต่อไปในภายหน้า

แม้ในเวปนี้ก็มีหลายท่านที่ปรารถนาอย่างเดียวกันกับชาววัดพระธรรมกาย
แต่อาจเป็นเพราะผู้นำของวัดได้สะสมบารมีมานานกว่า
จึงมีบริวารมากมาย และด้วยบุญที่สั่งสมมา ทำให้มีโภคทรัพย์อันเกิดจากบุญนั้นมากมาย

และที่ท่านสอนว่า
"บุญเป็นที่พึ่งของสัตว์ทั้งหลาย ฉะนั้นในระหว่างเดินทางในสังสารวัฏฏ์นี้ จำเป็นอย่างยิ่งที่จะต้องสะสมบุญและบารมีไว้"
ผมก็เห็นว่าจริง อย่างที่ได้กล่าว หรือมีท่านใดจะแย้งว่า พระพุทธเจ้าไม่เคยสอนให้ทำทาน
เพื่อความสะดวกในการสร้างบารมีในภายหน้า

เท่าที่จำได้ ผมถวายเงินร่วมในพิธีที่ชาวธรรมกายจัดขึ้น (ตักบาตรพระหลายร้อยรูป ทั่วประเทศ และอื่นๆ) ไม่ถึง 1000 บาท ไม่เคยไปวัดพระธรรมกาย ไม่ได้ภาวนาตามแนววัดพระธรรมกาย และไม่มีส่วนเกี่ยวข้องใดๆทั้งสิ้น
แต่ที่โพสต์ตอบนี้ เพื่ออธิบายในความเห็นของคนคนนึง ที่ไม่เอนเอียงตามข่าว และได้ใช้วิจารณญาณส่วนตัวพิจารณาเรียบร้อยแล้ว

ขออภัยหากไม่เป็นดั่งใจบางท่าน

 

ผมเองก็ไม่ใช่ชาววัดพระธรรมกายนะครับ

แต่ชอบทำบุญกับทางวัดครับ เคยทำไปอยู่หลายบุญอยู่ แต่ก็ไม่มาก (จริงๆ แล้วก็ทำทุกวัดครับไม่ได้เจาะจง)

เพิ่งดู DMC ได้ไม่ถึงปีครับ ไม่ได้ฝึกมาแบบธรรมกายเหมือนกัน

แต่อยากลองฝึกดูบ้าง มีบางอย่างยังสงสัยอยู่เยอะครับ จึงต้องลองพิสูจน์ดูก่อน

ยังไม่คัดค้าน หรือเชื่อทั้งหมดครับ

โดยส่วนตัวผมเชื่อในคุณวิเศษของหลวงปู่สดนะครับ

เคยฟังเทศน์เสียงท่านเป็นคนเอาจริง มีความมั่นใจในวิชาของท่านสูงมาก

บุญบารมีท่านดูจากบริวารสมบัติแล้ว ก็คงจะบำเพ็ญมามิใช่น้อยครับ


ของอย่างนี้ต้องพิจารณาให้ดีครับ ดูกันไปนานๆ จริงไม่จริงต้องพิสูจน์ด้วยตัวเองครับ

สมดังพุทธพจน์ที่ว่า

“คนไขน้ำ ย่อมไขน้ำ

ช่างศร ย่อมดัดลูกศร

ช่างไม้ ย่อมถากไม้

บัณฑิต ย่อมฝึกตน” ครับ

 

หากบอกว่า การพาไปสวรรค์ชั้นดุสิต ไม่ผิด

ลองตรองดูอีกทีนะครับว่า กว่าจะลงมาจากสวรรค์ชั้นดุสิต ลงมาแล้ว
จะเจอ พุทธศานา อีกหรือเปล่า เพราะถ้าขึ้นไปก็ต้องมีอายุผ่าน 2500 ปี
แน่ นั่นแปลว่า ลงมาอีกที พระพุทธศาสนาก็หายไปจากโลกแล้ว

จะต้องรอให้จักรวาลเกิดดับอีกหลายหนทีเดียว(มหากัปล์) กว่าจะเจอพระพุทธศาสนอีก
ยังไม่รวมอสงไขยนะ อ้างอิงจากการบำเพ็ญบุญ ยี่สิบอสงไขย แสนมหากัปล์

 

สวรรค์ชั้นดุสิตนี่ ท่านว่าความพิเศษคือ เทวดาชั้นนี้สามารถอธิฐานจุติลงมาได้ (พูดคือเลือกเกิดได้ตามกำลังบุญบารมีครับ)
จึงเป็นสาเหตุว่าทำไม่พระโพธิสัตว์จึงต้องอยู๋ชั้นดุสิต ซึ่งเป็นสวรรค์ชั้น ที่ ๔ ทั้งที่บุญบารมีเต็มเปี่ยมแล้ว จะไปอยู่ชั้นที่ ๖ ก็ได้ อันนี้ฟังพระท่านมาอีกทีนะครับ จริงแค่ไหนขอท่านผู้รู้ทั้งหลายมายืนยันอีกที เป็นธรรมทานครับ

 

ก็ขอแลกเปลี่ยนเป็นทัศนะนะ

การจะลงมาจุติในลักษณะพระโพธิสัตว์ ก็แปลว่า เป็นหัวหน้าเขา ถึงจะมีบารมีที่
เรียกว่าเป็นโพธิสัตว์ การดูว่าตัวเองทำบุญมาทางเป็นหัวหน้าคนหรือไม่ ไม่ได้
ดูที่ตอนนี้มีลูกน้องหรือเปล่า แต่ให้ดูว่า ยามเดือดร้อนมีคนมาช่วยหรือเปล่า

และอีกแง่หนึ่งที่นิยมพูดกันคือ ตอนทำบุญ เป็นหัวหน้างานหรือเปล่า ถ้าเป็นเพียง
ผู้ร่วมบริจาค ไม่ใช่ผู้เดินหา บอกบุญในฐานะผู้นำ ถูกวานใช้อีกที ก็ลืมไปได้เลย
ว่าจะเป็นโพธิสัตว์ แบบนี้จะกำหนดการจุติไม่ได้

อีกกระแสหนึ่ง โพธิสัตว์ที่เป็นผู้กำหนดจุติได้ จะต้องเป็นโพธิสัตว์ที่ได้รับการพยากรณ์
จากศาสดาแล้ว โพธิสัตว์ชนิดนี้ลงมาจุติเป็นมุนษยืก็จะภาวนาเป็น ไม่ใช่แค่ทำสมาธิ
เป็น แต่จะต้องทำสติปัฏฐาน4 เป็น เพราะการทำสมาธิเป็นเป็นเรื่องของพรหม หาก
เอาแต่ทำสมาธิเป็นจะเป็นเรื่องความผิดพลาดของการเป็นโพธิสัตว์ เพราะจะไปเกิดเป็น
พรหมแทน ส่วนโพธิสัตว์ที่ยังไม่ได้รับการพยากรณ์จะท่องไปในโลก ไม่สงวนอยู่ที่สวรรค์
อาจจะมีลงนรกด้วยซ้ำ จะไม่มีการกำหนดภพ เลือกภพ จะพร้อมที่จะไปไหนก็ได้

 

อืม ท่าจะจริงแฮะ ขอบคุณครับ

 

คือ ... เคยดูเหมือนกันง่ะ ..... มีการ์ตูน ... เพลง ... นิทาน ก็ดูดีง่ะ ... แต่ พอดีวันนั้นฟัง หลวงพ่อธัมมชโย เทศน์ (ช่วงที่มีการให้บริจาคทำบุญในวันที่ 10 ตุลา ถ้าจำไม่ผิดนะ) ... หลวงพ่อบอกว่า

"ทำบุญเร็ว ย่อมได้ผลบุญเร็ว" .... อันนี้เห็นด้วยครับ

"ทำบุญมาก ก็ได้ผลมาก" .... เอ่อ อออออ ... อันนี้ก็..ก็ .... ก็เห็นด้วย

"ดังนั้น เวลาทำบุญต้องทำมาก ๆ นะจ๊ะ .... ถ้าเราทำบุญพันเราก็ได้กลับเป็นแสน ถ้าเราทำบุญแสนเราก็ได้กลับมาเป็นล้านจ๊ะ ... "
เอ่อออ... คือถ้าเป็นพันเป็นแสนที่หลวงพ่อหมายถึงหน่วยบุญ ผมก็ยังเห็นด้วยครับ ......... แต่ถ้าหน่วยเป็นบาทหรือเงินสกุลอื่น... ผมว่า เอ่อ... ไม่ห็นด้วยง่ะ

"คนใดที่ทำบุญจนหมดตัวน่ะ รวย ๆ กันทั้งนั้น บางคนทำบุญจนหมดตัว แต่ก็ไม่เห็นจะหมดตัว มีแต่เป็นเศรษฐีกันทุกคนจ๊ะ" ..... เอ่ออออ เปลี่ยนช่องเถอะ ...

 

เมื่อก่อนผมก็เคยแอนตี้วัดนี้พอสมควร แต่เชื่อมั๊ยว่ามันมีจุดหักเห ทำให้ผมต้องมองกลับว่า สิ่งที่ผมได้รับรู้มา ต้องมีการแก้ไขกันพอสมควร ... เพราะว่าความจริงก็คือความจริง

ผมจะถามพี่น้องที่รักว่า สวรรค์ชั้นที่ห้า กับสวรรค์ชั้นที่หก
เหตุไฉน จึงมีคำว่า "มาร" ปรากฎในชื่อเรียกเช่นนั้นหรือ?

นี่แหล่ะครับ

 

เป็นคำกลาวหาที่เลื่อนลอยไม่มีหลักฐานรองรับ ทางวัดเขาไม่เคยสอนอย่างที่เจ้าของกระทู้กล่าวหาแน่
หลายๆครั้งที่พบข้อกล่าวหาทั้งหลายเกิดจากจินตนาการของตัวผู้กล่าวหาว่าเป็นอย่างนั้นอย่างแล้วสรุปเป็นคำพูดของตัวเองนำไปไปยัดเยียดว่าวัดสอนอย่างนั้นอย่างนี้โดยที่ตัวเองก็ไม่เคยได้ยินจริงๆ เป็นแต่ว่าได้ฟังๆกันมา ซึ่งความจริงก็ไม่เคยปรากฏว่าเป็นอย่างที่กล่าวหา ซึ่งคำกล่าวหาก็มักวกไปที่ข้อสรุปว่าไม่ใช่พุทธ แต่พอสืบค้นจริงๆก็พบว่ามีพระสูตรรับรองทุกครั้งไป แต่ข้อกล่าวหาก็ไม่เคยตกไปซะที ในนี้ผมก็คร้านที่จะตอบ ขนาดมีหลักฐานยืนยันจากพุทธพจน์ยืนยัน ยังไม่ยอมรับ และหันมาเล่นงานที่ตัวบุคคลอีก
การวินิจฉัยปัญหาในพระพุทธศาสนาจะต้องอาศัยหลักฐานจากพระไตรปิฎกพิสูจน์ ถ้าปรากฏว่ามีพระสูตรรองรับ ก็แสดงว่าถูกต้อง ปัญหาทุกปัญหาที่นำมาถกเถียงกันในปัจจุบัน ผมบอกได้เลยว่ามีคำตอบจากพระพุทธเจ้ามาแล้วทั้งนั้น
ผมว่าคุณลองตั้งคำถามใหม่ให้รัดกุมในข้อที่สงสัย จะได้ตอบได้ตรงประเด็นพร้อมทั้งหลักฐานประกอบ เพื่อความรู้ที่ถูกต้อง