ขอเชิญท่านที่มีความจงรักภักดีและเทิดทูนในสมเด็จพระนเรศวรมหาราช

"กรมศิลป์"ฟื้นสถาปัตย์พระราชวังอยุธยามรดกโลก
ภาพสันนิษฐาน-โมเดลจำลองวิหารศรีสรรเพชญ
ข่าววันที่ 4 กุมภาพันธ์ 2553 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ



“สมเด็จพระเทพ”องค์ประธานที่ปรึกษาอนุรักษ์มรดกโลกอยุธยา กรมศิลป์ฟื้นสถาปัตยกรรมพระราชวังโบราณ ทำภาพสันนิษฐาน–โมเดลจำลอง ปตท.สผ.สมทบงบ68ล. ผอ.อุทยานฯ เผยขุดเจอกระเบื้องเชิงลาย มั่นใจนักท่องเที่ยวแห่เข้าชมมากกว่า1.2ล.คน92ปท.

สยามรัฐ – ศิลปวัฒนธรรม 4 ก.พ. เวลา 09.19 น. ที่พระราชวังโบราณ จ.พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากรร่วมกับบริ ษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด (มหาชน) หรือ ปตท.สผ. จัดทำพิธีบวงสรวงบูรพมหากษัตริย์ โครงการอนุรักษ์พัฒนาบริเวณใจกลางมรดกโลกอยุธยา พระราชวังโบราณ จ.พระนครศรีอยุธยา โดยมี เรืออากาศเอกสุริยะ ศึกษากิจ ผช.รมว.วัฒนธรรม (วธ.) นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร นายวิทยา ผิวผ่อง ผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา พร้อมผู้บริหารปตท.สผ. เข้าร่วมพิธีบวงสรวง

นายเกรียงไกร กล่าวว่า โครงการดังกล่าวอนุรักษ์พัฒนาบริเวณใจกลางมรดกโลกอยุธยาได้รับพระมหากรุณาธิคุณจาก สมเด็จพระเทพพระรัตนราชสุดาฯ สยามบรมราชกุมารี ทรงรับเป็นองค์ประธานที่ปรึกษาโครงการ ซึ่งมีเป้าหมายและแผนงานบูรณะฟื้นฟูบริเวณใจกลาง (core zone) โบราณสถานมรดกโลกพระนครศรีอยุธยา โดยการสนับสนุนงบประมาณของ ปตท.สผ. กว่า 68 ล้านบาทมีกำหนดแล้วเสร็จในวาระเฉลิมฉลองเนื่องในโอกาสที่พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว มีพระชนมายุครบ 84 พรรษา ในปี 2554

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า จากแผนงานขณะนี้ได้เริ่มมีการทำภาพสันนิษฐานและโมเดลจำลองของวัดทั้งหมด 6 แห่ง เสร็จแล้วก็จะไปติดตั้งตามจุดต่างๆ ในวัด เพื่อใช้เป็นข้อมูลสำหรับนักท่องเที่ยว ขณะที่ในส่วนพระราชวังโบราณต่างๆ นั้น จะต้องมีการขุดสำรวจเพิ่มเติมบริเวณใต้พื้นดินก่อนว่าข้างล่างมีอะไรเพื่อความชัดเจน จากนั้นจึงจะดำเนิน การทำภาพสันนิษฐานและโมเดลจำลองภาพสามมิติ เพื่อให้เห็นภาพทั้งหมดในพื้นที่ว่าวัดและพระราชวังต่างๆ สมัยก่อนตั้งอยู่ในทิศใด พร้อมกันนี้จะทำภาพแอนิเมชั่นประกอบไว้ให้ได้ศึกษาภายในศูนย์ข้อมูลเรียนรู้ด้วย

ด้าน นายเมธาดล วิจักขณะ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กล่าวว่า ทางกรมศิลปากรใช้ฐานข้อมูลจากประวัติศาสตร์มาประมวลผลผ่านทางโปรแกรมคอมพิวเตอร์ ออกมาเป็นภาพสันนิษฐานและโมเดลที่ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด โดยเฉพาะการจำลองรูปแบบของพระราชวังโบราณทั้งหมด ขณะนี้ได้ทำการขุดค้นพระราชวังโบราณเพิ่มเติม ซึ่งเบื้องต้นพบกระเบื้องเชิงลาย กระเบื้องมุงหลังคา สำหรับในส่วนวัดพระศรีสรรเพชญรูปแบบโมเดลสร้างขึ้นมาจากการเสากลมกลางวิหารที่เหลืออยู่เพียงต้นเดียว ขณะที่วัดมหาธาตุได้ต้นแบบโมเดลจากภาพถ่ายในสมัยรัชกาลที่ 5 ประกอบกับแผนที่เก่าของชาวดัชช์ที่ทำไว้ในสมัยอยุธยาราชธานี

“โมเดลนวัตกรรมนี้ ถือว่าเป็นครั้งแรกที่กรมศิลปากรนำมาใช้กับอุทยานประวัติศาสตร์อยุธยา คาดว่าโครงการดังกล่าวจะช่วยกระตุ้นให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลเข้ามาชมอุทยานฯ แห่งนี้มากขึ้น จากเดิมที่มีนักท่องเที่ยวเข้ามาเที่ยวปีละ 1.2 ล้านคน จาก 92 ประเทศจากร้อยละ 60 เป็นชาวยุโรป และเชื่อว่าจะช่วยลดปัญหาการทำลายแหล่งโบราณสถานด้วย” นายเมธาดล กล่าว

​

ภาพสันนิษฐาน - นายเมธาดล วิจักขณะ ผู้อำนวยการอุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา กรมศิลปากร แสดงภาพการจัดทำภาพสันนิษฐานและโมเดลจำลองพระราชวังโบราณอยุธยา ใกล้เคียงของเดิมมากที่สุด โดยใช้ฐานข้อมูลจากภาพถ่ายในสมัยรัชกาลที่ 5 และแผนที่เก่าชาวดัชช์บันทึกไว้ในสมัยอยุธยา</SPAN>

 

กรมศิลป์”จัดพิธีบวงสรวงบูรพมหากษัตริย์อโยธยา
งบ70ล.โมเดลจำลองกรุงเก่ามรดกโลก
ข่าววันที่ 3 กุมภาพันธ์ 2553 แหล่งข่าวจาก สยามรัฐ




สยามรัฐ – ศิลปวัฒนธรรม 3 ก.พ. นายเกรียงไกร สัมปัชชลิต อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวว่า กรมศิลปากรร่วมมือกับบริษัท ปตท.สำรวจและผลิตปิโตรเลียม จำกัด(มหาชน) หรือปตท.สผ. จัดโครงการอนุรักษ์พัฒนาบริเวณใจกลาง (core zone) มรดกโลกอยุธยา เนื่องจากเล็งเห็นความสำคัญในการศึกษาเพื่อทำความเข้าใจในอดีตอย่างถูกต้องตามหลักวิชาการ และข้อตกลงว่าด้วยความร่วมมือการอนุรักษ์มรดกโลกทางวัฒนธรรมของ 2 หน่วยงานดังกล่าว ดำเนินการจัดทำป้ายรูปสันนิษฐานโบราณสถานในสภาพที่สมบูรณ์ และโมเดลจำลองจากการวิเคราะห์ทางด้านงานสถาปัตยกรรมและทางโบราณคดี และ จัดทำหนังสือภาพเชิงซ้อนเพื่อสื่อการเรียนรู้ศิลปะอยุธยา

อธิบดีกรมศิลปากร กล่าวอีกว่า ยังได้กำหนดจัดตั้งศูนย์เรียนรู้พระราชวังโบราณ สำหรับตั้งแสดงหุ่น จำลองพระมหาปราสาทและวัดพระศรีสรรเพชญ์ รวมถึงอาคารบริการโดยมีแผนการดำเนินงานประมาณ 600 วัน งบ ประมาณ 68.6 ล้านบาท โดยโบราณสถานที่อยู่ในโครงการในบริเวณพระราชวังโบราณ ได้แก่ พระที่นั่งสรรเพชญ์ มหาปราสาท พระที่นั่งสุริยาสน์อมรินทร์ พระที่นั่งจักรวรรดิไพชยน พระที่นั่งบรรยงก์รัตนาสน์ พระที่นั่งวิหารสมเด็จ รวมถึงแนวกำแพงและป้อม สำหรับวัดที่อยู่ในโครงการจำนวน 5 แห่ง ได้แก่ วัดมหาธาตุ วัดราชบูรณะ วัดพระราม วัดพระศรีสรรเพชญ์ และวัดใหญ่ชัยมงคล ทั้งนี้เพื่อส่งเสริมสนับสนุนการอนุรักษ์ และการสืบสานมรดกไทย มรดกโลกอยุธยาให้มีความยั่งยืน

“เป็นการนำหลักฐานทางด้านวิชาการประวัติศาสตร์โบราณคดีของอยุธยา มาฟื้นฟูจัดแสดงให้เป็นรูปธรรมในฐานะแหล่งเรียนรู้ และแหล่งท่องเที่ยวทางวัฒนธรรมอย่างยั่งยืน เพื่อกิจกรรมการท่องเที่ยวอุทยานประวัติศาสตร์พระนคร ศรีอยุธยา ซึ่งเป็นมรดกโลกให้แพร่หลายยิ่งขึ้น และเพื่อเสริมสร้างจิตสำนึกและเครือข่ายในการอนุรักษ์โบราณสถานของชาติอย่างถูกวิธีต่อไป ทั้งนี้ในวันที่ 4 ก.พ. กรมศิลปากรจะจัดพิธีบวงสรวงบูรพมหากษัตริย์ ณ พระที่นั่งพลับพลาตรีมุข ภายในพระราชวังโบราณ อุทยานประวัติศาสตร์พระนครศรีอยุธยา” อธิบดีกรมศิลปากร กล่าว </SPAN>

 

เมื่อวานเจอข้อมูลโดยบังเอิญอีกแล้ว วิทยานิพนธ์เรื่องวัดวรเชษฐ์(วรเชตเทพบำรุง) เป็นวิทยานิพนธ์เพื่อขอจบดุษฏีบัณฑิตของมหาวิทยาลัยศิลปากร ดิฉันอ่านแล้วดีใจมากที่ข้อมูลสาระสำคัญในวิทยานิพนธ์นี้ระบุประเด็นสำคัญๆไว้ว่า

1 วัดวรเชตเทพบำรุง สร้างพระปรางค์ใหม่บนฐานเดิม ในพุทธศตวรรษที่ 22 หรือระหว่างปีพ.ศ. 2100 ถึง พ.ศ. 2199 แสดงว่าเป็นความจริงที่วัดนี้สร้างใหม่ในสมัยอยุธยาตอนกลาง

2 วัดนี้เป็นวัดอรัญวาสีแห่งกรุงศรีอยุธยา


3 พระปรางค์นี้เป็นพระปรางค์ในยุคกลางถึงยุคปลาย จึงเป็นพระปรางค์ที่สอปูน และมีลวดลายประดับ ไม่ใช่อย่างที่เคยเข้าใจกันว่าเป็นพระปรางค์สมัยยุคต้นกรงศรีฯซึ่งในยุคต้นกรุงศรีฯนิยมสร้างพระปรางค์แบบไม่สอปูน

เอามาให้อ่านกันเพลินๆระหว่างศุกร์ เสาร์ อาทิตย์ กันค่ะ

ป.ล.หากท่านใดรู้กฏหมายว่าเอกสารที่ทางสายธาตุแนบมานี้ไม่สามารถเผยแพร่ได้ โปรดแจ้งด้วยนะคะ เมื่อวานทางสายธาตุหาเอกสารนี้เจอโดยบังเอิญจากอินเตอร์เนตค่ะ เห็นว่าข้อมูลนี้เป็นประโยชน์ต่อวัดวรเชษฐ์(นอกเกาะ)เป็นอย่างยิ่ง ไม่รู้ว่าท่านพลตรีพิจิตร ขจรกล่ำได้เห็นวิทยานิพนธ์ฉบับนี้หรือยังนะคะท่านพี่จงรักภักดี ถ้าท่านยังไม่เคยเห็น ขอความกรุณาจากท่านพี่ส่งข้อมูลไปให้ท่านพลตรีพิจิตร ขจรกล่ำด้วยได้ไหมเจ้าคะ

 

จุ๊บสนใจมากค่ะ ขอบคุณมากนะค่ะ คุณพี่ทางสายธาตุ

 

พระขุนแผน กรุวัดวรเชษฐ์

พระขุนแผน กรุวัดวรเชษฐ์



​

พระขุนแผนวัดวรเชษฐ์ พุทธลักษณะ พระปางมารวิชัย ประทับอยู่บนบัลลังก์ฐานสำเภาในซุ้มเรือนแก้ว รูปแบบทางศิลปใกล้เคียงกับพระขุนแผนเคลือบกรุวัดใหญ่ สันนิษฐานได้ว่าเกิดจากช่างศิลปท่านเดียวกัน ยิ่งตอกย้ำความเชื่อของนักวิชาการกลุ่มหนึ่ง ถึงความสัมพันธ์ของพระนเรศวร มหาราช กับวัดวรเชษฐ์นอกเกาะเมืองแห่งนี้

พระขุนแผน กรุวัดวรเชษฐ์ แตกกรุครั้งกรมศิลปากรเข้าไปบูรณะแนวกำแพงวัด พบพระบรรจุในไหจำนวนหนึ่ง แต่ความรู้เท่าไม่ถึงการณ์ทำให้พระที่มีจำนวนน้อยนั้นชำรุดไปเกือบทั้งหมด เหลือสมบูรณ์เพียง ๕ องค์เท่านั้น จึงเป็นพระที่หาชมยากมากและไม่มีหมุนเวียนในตลาด แต่ด้วยความเป็นพระที่มีศิลปงดงาม จึงเป็นที่โจษจันท์กันจนถึงทุกวันนี้ และมีภาพพระองค์สมบูรณ์เผยแพร่ไปในสื่อพระเครื่องอยู่เสมอมา

นำพุทธลักษณะของพระขุนแผนกรุวัดวรเชษฐ์ที่มีเพียง ๕ องค์เท่านั้นมาให้ชม หาไม่ได้อีกแล้ว น่าจะยังไม่เคยโพสพระกรุนี้ในกระทู้นี้นะคะ ตอนนี้กำลังอ่านเอกสารเกี่ยวกับวัดวรเชษฐ์อยู่ค่ะ ค่อยๆอ่านเกี่ยวกับรายละเอียดไปเรื่อยๆ​

 

รับทราบครับคุณทางสายธาตุ กำลังอ่านโดยเฉพาะในประเด็นสำคัญๆอยู่เช่นกัน เกรงว่าผลีผลามส่งไปให้ท่าน จะคุยกับท่านไม่รู้เรื่อง เป็นข้อมูลที่ดีมากทีเดียวครับ

ขอพึ่งพาคุณน้องจุ๊บด้วย มองเห็นประเด็นใดที่น่าสนใจก็ช่วยกรุณาบอกเล่าเก้าสิบกันเข้ามาบ้างนะครับ บางครั้งใครที่สนใจในทิศทางใดอยู่นานๆก็อาจมีอิทธิพลต่อการคล้อยตามและการตัดสินใจได้บ้างไม่มากก็น้อย ดังคำพังเพยที่ว่า "สองคนยลตามช่อง คนหนึ่งมองเห็นโคลนตม คนหนึ่งมองเห็นดาวอยู่พราวพราย"

 

...เพราะมีความเป็นไปได้สูงว่า ขณะนี้ มีมือ-มือหนึ่ง อันเป็น "มือที่มองไม่เห็น" กำลังปั่นโลก!?
"จักรวรรดินิยมอำนาจใหม่" เปลี่ยนจากใช้กำลังอาวุธ-กำลังทหารเข้าไปจัดการเอง ไปใช้วิธีการปลุกปั่นแต่ละประเทศ และภูมิภาค เป้าหมายให้แตกแยกและฆ่าฟันกันเอง
แล้วจักรวรรดินิยมอำนาจใหม่ก็ "เกาะหลัง" ผู้นำอำนาจใหม่ ที่ตัวเองแอบสนับสนุนมาแต่แรกในประเทศนั้น-ภูมิภาคนั้น เข้าไปเอี่ยวด้านเศรษฐกิจ ทรัพยากร!
กลุ่มจักรวรรดินิยมอำนาจใหม่ ส่ง "ประชาธิปไตย" เป็นสินค้าส่งออกสู่ประเทศพัฒนาใหม่เป็นการปูทางมาเป็นศตวรรษแล้ว ทั้งทางอเมริกาเหนือ-ใต้ แอฟริกา เอเชีย อาเซียน ตะวันออกกลาง
จะเร่งฟืน-เร่งไฟ เอาที่ประเทศไหนก่อน ขึ้นอยู่กับว่า เวลานั้น กลุ่มทุนยุโรป-สหรัฐ คือองค์กร CFR ณ เวลานั้นต้องการทรัพยากรอะไร?
ทรัพยากรน้ำมัน ป่าไม้ แถวๆ อเมริกาใต้ เริ่มที่เอกวาดอร์ เวเนซุเอลา ปานามา เมื่อ ๒๐ กว่าปีที่แล้วแหลกไปแล้ว ก็ขยับไปที่แอฟริกาเหนือ ตะวันออกกลาง อาเซียน
กลุ่มจักรวรรดินิยมใหม่ ก็คือกลุ่มทุนโลกที่ผมเคยพูดถึงบ่อยๆ ที่ "จอร์จ บุช" เพื่อนทักษิณขึ้นเป็น "ประธานใหญ่" อยู่ขณะนี้ ซึ่งกลุ่มองค์กรนี้เขามีแผน "จัดระเบียบโลกใหม่" ให้ทั้งโลกมีอำนาจเดียว-มีรัฐบาลเดียว เรียกว่า "รัฐบาลโลก" องค์กรหลักที่ใช้เป็นตัวขับเคลื่อนก็คือ Council on Foreign Relations-CFR
CFR ขณะนี้ เปิดเผยเต็มตัวครับ ทำหน้าที่เป็นไตรภาคีธุรกิจโลก กำหนดทิศทางการเมือง การเศรษฐกิจโลก เรียกว่า ธุรกิจการค้า การเงิน-การธนาคารใหญ่ๆ ของโลก เป็นของคนกลุ่มนี้ทั้งนั้น....


....ประเด็นก็คือ CFR สร้างคำว่าโลกาภิวัตน์ขึ้นมา แล้วใช้เทคโนโลยีการสื่อสารเข้าครอบครองและปลุกปั่น หวังควบคุมมนุษย์ทุกคนในโลกด้วยข้อมูลข่าวสาร ปัจจุบันเริ่มแล้ว มนุษย์กำลังถูกองค์กร "รัฐบาลโลก" ควบคุม


"เมื่อโลก "ถูกปั่น" สู่อำนาจใหม่" http://www.thaipost.net/news/120711/41599

เรื่อง CFR นี้หลายๆท่านคงจะพอทราบและพอจะจำกันได้ เป็นเรื่องที่น่าสนใจและควรรู้ไว้เพื่อสดับสติปัญญากันครับ เราจะได้มองภาพเหตุการณ์ต่างๆด้วยความเข้าใจและอย่างมีสติครับ

 

น้องจุ๊บลองบอกเล่าเก้าสิบมาบ้างหลังจากอ่านแล้ว แค่ 499 หน้าเอง(อิอิ) อ่านกันตาลาย
-------------------------------------------------------------------
แอบเช่าเหรียญฟ้าผ่ามาได้อีกหนึ่งเหรียญ เรื่องที่มาที่ไปของเหรียญฟ้าผ่าเคยเล่าไว้แล้ว แต่ที่สะกิดใจคือ เร็วๆนี้ได้ไปกราบพระจักษุธาตุอีกหลายครั้ง ทุกครั้งพระบรมสารีริกธาตุก็จะเสด็จแทรกอากาศมาปรากฏให้เราเก็บไปบูชา (ตอนนี้พระจักษุธาตุอยู่ที่บ้านบุญ พุทธมณฑลสาย 2) ทำให้เปรียบเทียบที่มาที่ไปของพระบรมสารีริกธาตุกับเหรียญฟ้าผ่า เหมือนกันเลย คือเสด็จแทรกอากาศมาต่อหน้าต่อตา เจ้าของตึกบ้านบุญเองก็มีประสบการณ์รับเสด็จพระธาตุขนาดใหญ่เท่าฝ่ามือ เสด็จมาตอนที่ท่านเจ้าของตึกและครอบครัวมานั่งกรรมฐานกับพระอาจารย์ประจักษ์ จนประมาณสักสามทุ่มได้ มีเสียงเหมือนรถสิบล้อมาชนตึก ได้ยินกันโดยถ้วนหน้า ท่านเจ้าของตึกจึงลืมตาดู เห็นพระบรมสารีริกธาตุรูปหัวใจ ยังอุ่นๆและนุ่มๆอยู่ พออุ้มขึ้นในฝ่ามือก็เป็นวัตถุแข็ง ปัจจุบันก็เก็บไว้ให้ท่านที่ไปเยี่ยมชมได้ดูอยู่ เรื่องความเชื่อเรื่องนี้ มันก็แปลกแต่เป็น แปลกแต่จริง คือจะไม่เชื่อๆแต่ก็เห็นพระธาตุเสด็จแทรกอากาศมาจริง เห็นกันทุกคน ล่าสุดพาหลานชายจบวิศวะ ลาดกระบัง เชื่ออะไรยากพอๆกัน พระธาตุเสด็จตกใส่หัวเขา เขาก็อึ้งไปเลย เสด็จวันนั้นหลายองค์ เขาอึ้งจะว่าเชื่อก็บอกไม่เต็มปากเพราะเป็นเรื่องใหม่ แต่จะไม่เชื่อก็ไม่ได้คือเห็นๆอยู่ว่าไม่มีใครดีดใส่และไม่มีเครื่องยิงพระธาตุ เรื่องนี้เขาจึงสรุปเองว่า แปลกแต่จริง

-------------------------------------------------------------

คิดๆอยู่ว่าอาจจะหาลวดลายประดับพระปรางค์องค์นี้ได้ก็ได้ แบบที่เห็นก็คิดว่าอาจจะใช่ก็ได้ ขอดูลายละเอียดไปก่อนค่ะ จนกว่าจะอ่านวิทยานิพนธ์ฉบับนี้จนจบแบบละเอียดรอบคอบแล้ว ค่อยว่ากัน

---------------------------------------------------------------------------
เจอบทความหนึ่งใน นิตยสารเล่มหนึ่ง ชื่อธงธรรม แหมจั่วได้น่าสนใจ แต่หาซื้อไม่ได้

ปก: หลวงพ่อเณร เจ้าอาวาสวัดศรีสุดาราม พระอารามหลวง
พาดปก: 60 ปี หลวงพ่อเณร-พระราชพิพัฒน์โกศล พระเถระนักพัฒนาแห่งวัดศรีสุดาราม


- กบฏ "ผู้มีบุญ" : ศาสนากับความยากไร้
- ถนนสายลูกผู้ชาย : เกษียณก็บวชได้
- ความเป็นมาของการเข้าพรรษาและกิจวัตรของพระภิกษุในช่วงนี้
- ลูกอมหลวงพ่อคง ธมฺมโชโต วัดบางกะพ้อม อ.อัมพวา จ.สมุทรสงคราม
- พระขุนแผน กรุวัดวรเชษฐ์ จ.อยุธยา ที่ระลึกสุดท้ายแห่งสมเด็จพระนเรศวรมหาราช
- วัดดาวดึงษาราม แขวงบางยี่ขัน เขตบางพลัด กทม.

น่าอ่านแต่หาอ่านไม่ได้ หาตามร้านหนังสือในอินเตอร์เนตแล้วก็ไม่มี ผู้จัดจำหน่ายเขาก็บอกว่าต้องติดต่อสำนักพิมพ์ โทรไปสำนักพิมพ์ก็ไม่มีคนรับสาย พรุ่งนี้จะลองโทรอีกที ถ้าหาซื้อได้ก็แหล่มเลย ​

 

อัพเดทข้อมูล ก่อนที่"ศาลโลก" จะอ่านคำสั่งกรณีเขมรไปร้องให้ออกมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค.54


ตรวจสำนวน 'ศาลโลก' ๑๘ ก.ค.(๑)

... จับตาศาลโลก 18 กรกฎาคม:
ผิดพลาด เขตแดนไทย และ MOU ปี 2543 (๑)
โดย วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ อดีตนักกฎหมายในคดีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ สำนักกฎหมาย Freshfields Bruckhaus Deringer (กรุงปารีส). นิติศาสตรมหาบัณฑิต (รางวัลทุนฟุลไบรท์และวิทยานิพนธ์เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด. ที่มา วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ | Facebook
หลายคนคงทราบแล้วว่าในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค.นี้ ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ศาลโลก) จะอ่านคำสั่งกรณีที่กัมพูชาขอให้ศาลระบุมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ศาลจะสั่งหรือไม่สั่งตามที่กัมพูชาขอหรือไม่อย่างไร ต้องรอลุ้นกัน แต่น้อยคนคงทราบว่า ช่วงก่อนวันเลือกตั้งที่ผ่านพ้นมา ศาลโลกได้ให้เจ้าหน้าที่ดำเนินการ (อย่างเงียบๆ) เพื่อปรับเปลี่ยนแก้ไขคำแปลคำพูดของฝ่ายไทย ซึ่งศาลเคยแปลผิดพลาดอย่างมีนัยสำคัญ ดังนี้
คำแปลฉบับเดิมที่ผิดพลาด
เมื่อวันที่ 29-30 พ.ค.2554 ฝ่ายไทยได้ชี้แจงด้วยวาจาต่อศาลโลกกรณีที่กัมพูชาขอให้ศาลมีคำสั่งระบุมาตรการคุ้มครองชั่วคราว (ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของคดีที่กัมพูชาขอให้ศาลตีความคำพิพากษาคดีปราสาทพระวิหาร พ.ศ.2505) และศาลได้บันทึกคำชี้แจงของฝ่ายไทยส่วนหนึ่งเป็นเอกสาร CR 2011/14 เป็นฉบับ uncorrected (คือยังไม่ได้รับการตรวจสอบโดยคู่ความ)
ต่อมาช่วงต้นเดือนมิถุนายน 2554 เจ้าหน้าที่ศาลโลกได้แปลเอกสาร CR 2011/14 ดังกล่าว ซึ่งในคำแปลหน้าที่ 4 ได้แปลคำพูดย่อหน้าที่ 10 ของนายวีรชัย พลาศรัย (ตัวแทนฝ่ายไทยซึ่งชี้แจงต่อศาลเป็นภาษาฝรั่งเศส) มาเป็นภาษาอังกฤษดังนี้:
"On 19 July, work began to erect a barbed wire fence and a sign marking the boundary of the Temple area, according to the line which had been adopted by the Council of Ministers on 10 July for the purposes of implementing the 1962 Judgment...”
(เน้นคำโดยผู้เขียน, ทั้งนี้ "a sign marking the boundary of the Temple area” ถูกแปลจากคำภาษาฝรั่งเศสต้นฉบับของนายวีรชัยที่ว่า "…un panneau marquant la limite de la zone du temple…", ดู http://bit.ly/n7fnFx และ http://bit.ly/qLpWUN)
คำแปลข้างต้นปรากฏอยู่ในบริบทที่ว่า เมื่อเดือนมิถุนายน 2505 ศาลโลกได้พิพากษาว่าปราสาทพระวิหารเป็นของกัมพูชาและไทยต้องถอนกำลังทหารออกจาก "บริเวณใกล้เคียงตัวปราสาท” (vicinity) แต่เมื่อคำพิพากษาไม่ได้ระบุขอบเขตของบริเวณดังกล่าวไว้ คณะรัฐมนตรีไทยจึงได้กำหนด "เส้นปฏิบัติการ” เมื่อวันที่ 10 ก.ค.2505 เพื่อให้ไทยสามารถปฏิบัติตามคำพิพากษา
และจากนั้นเมื่อวันที่ 19 ก.ค.2505 ไทยจึงเริ่มดำเนินการวางรั้วลวดหนามรอบตัวปราสาทและตั้งป้ายเพื่อบ่งบอก "boundary” [ซึ่งอาจแปลว่า "เขตแดน” หรือ "ขอบเขต”] ของบริเวณปราสาทพระวิหาร ตาม "เส้นปฏิบัติการ” เพื่อให้เกิดความชัดเจน
ต่อมา คำแปลดังกล่าวได้ทำให้เกิดความสับสนเกี่ยวกับคำว่า "la limite” และ "boundary” ซึ่งเป็นเหตุให้ผู้เขียนจำต้องให้ความเห็นทางกฎหมายในบทความเรื่อง "คำเตือนถึงอภิสิทธิ์: โปรดอย่าปล่อยให้ศาลโลกแปลคำผิด" (คำเตือนถึงอภิสิทธิ์: โปรดอย่าปล่อยให้ศาลโลกแปลคำผิด | Facebook) เพื่อเตือนรัฐบาลไทยว่าไม่ควรปล่อยให้ศาลใช้ถ้อยคำที่ไม่รัดกุมและอาจมีปัญหาอย่างมีนัยสำคัญ
กล่าวคือ การที่ศาลนำคำว่า "la limite” ที่นายวีรชัยใช้มาแปลเป็น "boundary” นั้น สามารถทำให้ผู้อ่าน (ซึ่งอาจรวมไปถึงผู้พิพากษาในคดี) เข้าใจไทยผิด เพราะคำฝรั่งเศส "la limite” ที่นายวีรชัยกล่าวไปนั้นหมายถึง "ขอบเขต” หรือ "the limit” ของบริเวณปราสาทพระวิหาร
แต่คำอังกฤษ "boundary” ที่ศาลนำมาใช้แปล แม้ทางหนึ่งอาจแปลว่า "ขอบเขต” ได้ แต่ก็สุ่มเสี่ยงต่อการถูกเข้าใจผิดว่าหมายถึง "เขตแดน” (ระหว่างไทยและกัมพูชา) บริเวณปราสาทพระวิหาร ซึ่งกระทบต่อรูปคดีอย่างมาก เพราะหากศาลนึกว่าไทยกำลังพูดถึง "เขตแดน” ก็เสมือนว่าไทยยอมรับว่าคำพิพากษา พ.ศ.2505 ได้ตัดสินเรื่องเขตแดนระหว่างประเทศไปแล้ว (ซึ่งผู้เขียนย้ำว่าเป็นความเข้าใจที่ผิด เพราะคำพิพากษา พ.ศ.2505 นั้น ศาลเพียงตีความสนธิสัญญา และมิได้ลากเส้นเขตแดนแต่อย่างใด)
ต่อมาเมื่อวันที่ 20 มิ.ย.2554 กระทรวงการต่างประเทศได้เผยแพร่คำแปลภาษาไทยในส่วนที่ตรงกับข้อความดังกล่าว โดยใช้คำว่า "ขอบเขต” แทนคำว่า "la limite” เช่นกัน (Twitter / Bill Pollock: Bulger says he's ready to ... ศาลโลกแก้ไขคำผิด)
ล่าสุด ช่วงปลายเดือนมิถุนายน 2554 ศาลโลกได้ดำเนินการอย่างเงียบๆ เพื่อแก้ไขคำแปลเอกสาร CR 2011/14 ฉบับ uncorrected หน้าที่ 4 ให้ปรากฏเป็นคำแปลปัจจุบัน (ฉบับ uncorrected เช่นเดิม) ดังนี้:
"On 19 July, work began to erect a barbed wire fence and a sign marking the limit of the Temple area, according to the line which had been adopted by the Council of Ministers on 10 July for the purposes of implementing the 1962 Judgment...”
(เน้นคำโดยผู้เขียน, นอกจากนี้ศาลยังได้แก้ไขถ้อยคำลักษณะเดียวกันในย่อหน้าที่ 11 คือเปลี่ยนคำว่า "boundary” มาเป็นคำว่า "limit” แทน, ดู http://bit.ly/pvX06d)
กล่าวคือ ศาลได้แก้ไขคำแปลคำชี้แจงของฝ่ายไทย จากเดิมที่ศาลใช้คำว่า "the boundary of the Temple area” มาเป็น "the limit of the Temple area” เพื่อเป็นการรับทราบจุดยืนของไทยอย่างชัดเจนว่า ไทยไม่ได้ยอมรับว่าคำพิพากษา พ.ศ.2505 เป็นเรื่องการกำหนด "เขตแดน” (ระหว่างไทยและกัมพูชา) บริเวณปราสาทพระวิหารแต่อย่างใด แนวรั้วรอบปราสาทจึงเป็นเพียง "ขอบเขต” เท่านั้น (ผู้สนใจประเด็นดังกล่าวดูคำอธิบายได้ที่ ตอบอาจารย์พวงทอง (1): โปรดอย่าปล่อยให้ศาลโลกแปลคำผิด | Facebook)
ดังนั้น "เขตแดน” ที่แท้จริงระหว่างไทยและกัมพูชา ณ วันนี้คือเส้นหรือบริเวณใด จึงมิได้เกี่ยวข้องกับศาลโลก และย่อมไม่ใช่สิ่งที่ศาลจะตีความได้ แต่ "เขตแดน” เป็นเรื่องที่ต้องว่าไปตามกฎหมายระหว่างประเทศ ซึ่งได้แก่อนุสัญญาสยาม-ฝรั่งเศส ค.ศ.1907 และเอกสารที่เกี่ยวข้อง อาทิ บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างรัฐบาลไทยกับรัฐบาลกัมพูชา ว่าด้วยการสำรวจและจัดทำหลักเขตแดนทางบก พ.ศ.2543 (ส่วนจะส่งผลดีต่อไทยหรือไม่นั้นเป็นอีกประเด็นที่สำคัญเช่นกัน)
แม้คำแปลดังกล่าวไม่มีผลผูกพันศาลโดยตรง แต่อย่างน้อย การที่ศาลให้เจ้าหน้าที่แก้ไขคำว่า "boundary” (เขตแดน) มาเป็น "limit” (ขอบเขต) นี้ ถือเป็นสัญญาณที่ดีว่า ศาลให้ความสำคัญกับประเด็นละเอียดอ่อนดังกล่าวที่ไทยต่อสู้ไว้ว่า คดีนี้มิใช่เรื่องเขตแดนดั่งที่กัมพูชาพยายามจะทำให้เป็น
ยังไม่จบ อ่านต่อพรุ่งนี้ หรือท่านจะคลิกอ่านที่ "คุณวีรพัฒน์" เขียนไว้ในเฟซบุ๊กทั้งหมดเองก็ได้ ตามสะดวกครับ.


แหล่งที่มา : http://www.thaipost.net/news/130711/41659

 

นำเที่ยววัดป่าแก้ว​

fficeffice" /><O></O>​

๐ จะนำเที่ยวชมเมืองเคยเรืองรุ่ง ไปกับลุงลงเรือข้าวเผื่อไว้<O></O>
จากท่าน้ำเก่าแก่เห็นแต่ไกล “วาสุกรี”นี้ไซร้ดีมีฝีพาย<O></O>
เห็นเรือจ้างกลางใหญ่แต่ไม่เก่า ไปพวกเราทันใดเกือบใจหาย<O></O>
มันโคลงเคลงฉันว่าหรือตาลาย เป็นอุบายนายเรือใส่เสื้อแดง<O></O>
พอเรือเคลื่อนเพื่อนตายก็หายเมา นั่งดูเขาจับปลาในหน้าแล้ง<O></O>
เขาโยนให้บอกนำไปทำแกง เรือตะแคงรับปลาเข้ามาไว้<O></O>
ถึงเสียวสั่นเสียงเครือกลัวเรือล่ม ต้องขอชมเสียงด่าร้องฮ้าไฮ้!!!<O></O>
แล้วพายต่อบรรเลงเป็นเพลงไทย ต่างสุขใจเพลงดีดนตรีเคล้า.....<O></O>
<O></O>
<O></O>
อู่เรือหลวงริมฝั่งก็ยังอยู่ ทุกคนรู้ห่วงหาทำหน้าเศร้า<O></O>
แต่บัดนี้มองเห็นเป็นบ้านเก่า สร้างทับเอาอู่เรือน่าเชื่อจริง<O></O>
นั่งเรือเรื่อยต่อมาถึงท่าใหญ่ ยกมือไหว้ใส่บาตรฉลาดยิ่ง!!!<O></O>
ประเพณีตอนเช้าเขาไม่ทิ้ง พระพายนิ่งให้พรดั่งกลอนยาว<O></O>
เห็นเจดีย์ศรีสุริโยทัย ยกมือไหว้พระนางฯขึ้นกลางหาว<O></O>
สังเกตเห็นปูนสอรอยต่อร้าว เป็นแนวยาวเอนเอียงขึ้นเฉียงไป<O></O>
โอ้ว่าพระสุริโยทัยใจทหาร ในตำนานกรุงศรีฯมีกราบไหว้<O></O>
ถลากั้นพระเจ้าแปรจากแดนไกล พระองค์ไม่เคยกลัวแม้ตัวตาย!!!<O></O>
มัคคุเทศก์แก่เก่าก็เล่าว่า เจดีย์นี้หนามิใช่ถึงใจหาย<O></O>
อุเหม่ใครผู้ใดเล่าเขาทำลาย? ช่างน่าอายเวรกรรมจะตามทัน<O></O>
ตอนสร้างค่ายเจดีย์มันมีเยอะ แต่ช่างเถอะมันนานทหารนั้น<O></O>
เขารู้ดีอยู่ได้อย่างไรกัน พอนานวันพลันลืมไม่ปลื้มใจ<O></O>
เห็นไหมเล่าแสงเรืองรองที่ท้องฟ้า คนอยุธยากรุงเก่าเขาทำไว้<O></O>
เอาโมเสกปิดยอด"บิ๊กจ๊อด"ไง รู้จักไหม?จำไว้พอเล่าต่อกัน<O></O>
"ไม่ฆ่าน้องฟ้องนายไม่ขายเพื่อน" ไม่เลอะเลือนเตือนจิตมิผิดผัน<O></O>
พ่อรักษากรุงให้อยู่คู่ไทยกัน ใช้อิฐต่อก่อกั้นเป็นกำแพง<O></O>
อยากถึงเร็วร่วมด้วยจึงช่วยพาย แต่ใจหายส่งลูกเหมือนถูกแกล้ง<O></O>
ที่ท่าน้ำต่อปลาราคาแพง ซื้อทำแกงที่ท่าวัดป่าแก้ว<O></O>
มีถนนโบราณเดินนานถึง แต่ขอพึ่งร่มไม้ใหญ่ปลอดภัยแล้ว<O></O>
พอป้าแจ๋วมาทันพากันแซว เดินเข้าแถวบุกป่าพนาวัน<O></O>
ถึงวัดร้าง"วรเชษฐ์"สุดเขตป่า อ่อนล้ากันนั่งพักก่อนพอผ่อนผัน<O></O>
อัฐิเจดีย์พระนเรศฯองค์ราชันย์ กลางนานั่นดูโดดเดี่ยวแสนเปลี่ยวใจ!!!<O></O>
เป็นทุ่งใหญ่ทุ่งเก่ายายเล่าว่า มีวัดป่าพระเอกาฯศรัทธาไว้<O></O>
ตั้งหทัยสร้างแหล่งรู้ให้อยู่ไกล ให้พระไทยเรียนลัดวิปัสสนา<O></O>
ภิกษุเฒ่าชาวสยามนามสิงห์ทน ความรู้ล้นคนรักมากหนักหนา<O></O>
ท่านรู้เรื่องพระนเรศฯองค์ราชา ชาวพารามากันทุกวันดี<O></O>
ผ่านสี่ร้อยปีกว่าวัดป่าแก้ว จัดพร้อมแล้วคุณยายตั้งบายศรี<O></O>
เทพ-พรหมรู้เห็นสิ้นต่างยินดี เครื่องบัดพลีราชวัตรเขาจัดแจง<O></O>
อ่านโองการเทวะเป็นประกาศ ขอช่วยชาติพาตลอดรอดเข้มแข็ง<O></O>
ทั้งผู้ใหญ่ก็เห็นเป็นภัยแรง ไทยขัดแย้งแยกทองสองสีน <O></O>
สุวรรณภูมิชื่อเด่นว่าเป็นแหลม- ทองเจิดแจ่มรุ่งเรืองดังเมืองสวรรค์<O></O>
อยู่สองฝั่งมหาสมุทรสุดอนันต์ อ่าวไทยนั้นปลาชุกชุมแต่กลุ้มใจ<O></O>
ฝั่งซ้ายอันดามันตะวันตก แต่ต้องยกตะนาวศรียอมพลีให้<O></O>
ตั้งสติคิดให้ออกช้ำชอกใคร พอนานไปลืมสิ้นแผ่นดินทอง<O></O>
ทั้งทะวาย-มะริดเป็นมิตรใหม่ เมืองท่าใหญ่รุ่งเรืองศรีไม่มีหมอง<O></O>
มีช่องทางด่านสิงขรสะท้อนมอง ไปขึ้นล่องคนเดียวเปลี่ยววิญญาณ์<O></O>
เป็นช่องทางขนผ่านค่าด่านเก็บ บนตะเข็บชายแคว้นดินแดนป่า<O></O>
ประตูขายส่งต่อของพ่อค้า สูงนักหนาภูผายาวตะนาวศรี<O></O>
ที่หน้าวัดเห็นมีกำแพงใหญ่ ตรงหน้าใช่พระปรางค์วัดร้างนี่<O></O>
แต่เก่าก่อนหญ้ารกขึ้นปกมี มองให้ดีพระปรางค์เก่าฉันเศร้าใจ!!!<O></O>
แต่เช้ามีใครจุดขึ้นชุดหนึ่ง กลิ่นติดตรึงส่งกลิ่นถึงถิ่นไหน<O></O>
นั่นธูปหอมกลิ่นฉุนอาบฝุ่นไว้ จึงขอใช้ร่วมแจมและแถมให้<O></O>
อันธูปหอมนี้พี่ได้จากใครจ๊ะ เถ้าแก่ฮะฝากป้าให้มาใช้<O></O>
มีโรงงานติดทางที่บางไทร ทั้ งอยู่ใกล้ถิ่นบางป่ายางบง<O></O>
กลิ่นหอมดีสีนวลน่าชวนใช้ ส่งกลิ่นไกลไปสวรรค์พากันส่ง<O></O>
พอปักเสร็จถึงเวลาพระพาลง แล้วเดินตรงไม่นานวิหารน้อย<O></O>
ที่ตรงนี้ตั้งรูปพระพนรัตน์ฯ พระลูกวัดบอกทันพากันคล้อย<O></O>
วิหารน้อยได้เห็นพอเอ็นจอย มีร่องรอยสูงต่ำเป็นกำแพง<O></O>
อยู่ติดกันมองเห็นเป็นเจดีย์ ที่ยอดมีรอยแยกแตกระแหง<O></O>
เห็นยอดเก่าล้มกลิ้งนอกกำแพง ทำเหมือนแกล้งแก้บนเหมือนจนดี<O></O>
มาเห็นพระอุโบสถรันทดจิต พระสี่ทิศพังหล่นแหลกป่นนี่!!!<O></O>
เห็นเสมาหล่นแตกแล้วแยกที่ ความคิดมีไม่ซ่อมข้ายอมใจ.....<O></O>
เจดีย์ทรงปราสาทสวยบาดจิต พระนางหนึ่งคะนึงคิดพิสมัย<O></O>
สุพรรณกัลยาโสภางค์พี่นางใน เขาว่าใช่เกศาองค์พระส่งมา!!!<O></O>
พระองค์จันฯนำพาจนมาถึง ลมพัดตึงพัดหวนทวนทิศา<O></O>
แล้วหอบเอาประทินกลิ่นมาลา ลอยขึ้นฟ้าน้อมถวายให้พระองค์!!!<O></O>
อันมาลีสีสวยต้องรวยกลีบ มีสร้อยหนีบกลีบดวงพวงระหง<O></O>
มีเกสรงอนไต่ขึ้นไล่ลง ดั่งงามองค์โอบอ้อมดาวล้อมเดือน!!!<O></O>
น้ำมันหอมระเหยรำเพยกลิ่น ภมรบินเกาะไว้แต่ไม่เปื้อน<O></O>
บรรจงเกาะเลาะเห็นอยู่เป็นเดือน เห็นแก่เพื่อนตามหามาลาไทย


กลอนนำเที่ยววัดป่าแก้ว ของท่าน พลตรี พิจิตร ขจรกล่ำ เจ้าเก่าอีกแล้วครับจังหวะพอดีกันก็เลยถือโอกาสส่งการบ้านที่คุณทางสายธาตุ ฝากไว้ไปให้เสียเลย เรื่องเดียวกันเสียด้วย !!!!

(ปล.ฝาก PM ถึงคุณทางสายธาตุ และคุณน้องจุ๊บ ครับ)

 

เห็นโบสถ์ปั๊บ จำได้เลย โบสถ์ที่พวกเราเพิ่งนำผ้าป่าสามัคคีไปร่วมซ่อมแซมหลังคาโบสถ์ บัดนี้มีหนังดัง ขุนรองปลัดชู มาถ่ายทำเผยแพร่สู่สายตาสาธารณชนอย่างแพร่หลายแล้ว
อดปลื้มใจไม่ได้ที่ได้ร่วมบุญถวายเงินซ่อมช่อฟ้า ใบระกา หางหงส์ไว้กับวัดชุมพลนิกายารามในครั้งนั้น ปลื้มใจๆๆ สาธุ สาธุ สาธุ​

 

เพลง "เอกอุดมพระราชปณิธาน" จากวงดุริยางค์ทหารบก

เชิญดาวน์โหลดไปฟังหรือไปแจกจ่ายกันได้เลยนะครับ

 

คนดีๆ(อีกคน)ที่ควรเอ่ยถึง

“ภักดี สืบนุการณ์” แพทย์ดีเด่นชนบทปี 53 ด้วยอุดมการณ์และความมุ่งมั่น

... “ทันทีที่สลัดคราบนักศึกษาแพทย์มาเป็นหมอเต็มตัว ตั้งเข็มทิศชีวิตไว้ว่า ภายหลังชดใช้ทุนเสร็จเรียบร้อยแล้วจะกลับมาศึกษาต่อด้านศัลยแพทย์ จากวันนั้นจนถึงวันนี้กว่า 24 ปี ไม่ได้กลับไปเรียนตามที่คิดไว้ ไม่ใช่ไม่มีโอกาสศึกษาต่อ พอได้สัมผัสและเห็นความทุกข์ยากของชาวบ้านในพื้นที่ห่างไกลแล้ว ทำให้มุมมองชีวิตเปลี่ยนไปจากเดิม และเกิดความคิดใหม่ที่จะทำงานและพัฒนาโรงพยาบาลเล็กๆ ต่อไป” นพ.ภักดี สืบนุการณ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสมเด็จพระยุพราชด่านซ้าย จ.เลย แพทย์ผู้ได้รับรางวัลแพทย์ดีเด่นในชนบทประจำปี 2553 บอกอย่างเต็มภาคภูมิ ...


ท่านที่สนใจในรายละเอียดและอยากรู้จักคุณหมอภักดี สืบนุการณ์ ให้มากกว่านี้ก็ขอเชิญที่ Quality of Life - Manager Online - ��ѡ�� �׺�ء�ó�� ᾷ������蹪����� 53 �����ش���ó���Ф�����������

 

เชิญติดตามกันต่อจากเมื่อวาน ตรวจสำนวน 'ศาลโลก' ๑๘ กค.(๒)

...เอาละครับ อ่าน "จับตาศาลโลก 18 กรกฎาคม: ความผิดพลาด เขตแดนไทย และ MOU ปี 2543" ของคุณ "วีรพัฒน์ ปริยวงศ์" ต่อจากที่ค้างแต่วานเป็นตอนที่ ๒ ดีกว่า


คำชมถึงรัฐบาลอภิสิทธิ์และกระทรวงการต่างประเทศ
ไม่ว่ารัฐบาลจะทราบเรื่องคำแปลที่ผิดพลาดนี้มาก่อนอยู่แล้ว หรือจะได้ทราบจากบทความของผู้เขียนนั้น คงไม่ใช่ประเด็นสำคัญเท่ากับประเด็นที่ว่า รัฐบาลต้องรับฟังเสียงของประชาชน และทันทีที่ผู้รับผิดชอบโดยตรงซึ่งได้แก่กระทรวงการต่างประเทศของไทย ได้ทราบถึงความผิดพลาดดังกล่าว ก็ได้ดำเนินการประสานงานเพื่อให้ศาลแก้ไขคำแปลดังกล่าวให้ถูกต้อง ซึ่งถือเป็นการปฏิบัติหน้าที่อันสมควรได้รับคำชมและกำลังใจจากประชาชนเช่นกัน
จริงอยู่ ที่ผ่านมาได้มีคำถามตลอดจนเสียงต่อว่าวิพากษ์วิจารณ์ต่อกระทรวงการต่างประเทศ ในฐานะหน่วยงานที่รับผิดชอบคดีปราสาทพระวิหารโดยตรงอยู่ไม่น้อย ไม่ว่าจะเป็นเรื่องบันทึกความเข้าใจ MOU พ.ศ.2543 สมัยรัฐบาลประชาธิปัตย์ มาจนถึงแถลงการณ์ร่วม (Joint Communiqu?) พ.ศ.2551 สมัยรัฐบาลพลังประชาชน จนถึงกรณีภาคีอนุสัญญามรดกโลก (ซึ่งทุกวันนี้ก็ยังไม่ชัดว่าการถอนตัวมีผลหรือไม่ ผู้สนใจโปรดดู คำขอถึงอภิสิทธิ์: อย่าซ่อน 91 ศพ อย่าซ่อน มรดกโลก | Facebook)
แต่ในขณะเดียวกัน การปฏิบัติหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศ ก็สมควรได้รับคำชื่นชมในบางเรื่องเช่นกัน นอกจากเรื่องคำแปลข้างต้นแล้ว ยังมีตัวอย่างอื่น อาทิ
-การใช้เทคโนโลยี twitter รายงานความเคลื่อนไหวของฝ่ายไทยที่ศาลโลก คล้ายการรายงานสด ช่วงวันที่ 29-30 พฤษภาคมที่ผ่านมา (Twitter) แม้เจ้าหน้าที่อาจได้ย่อข้อความจากบทแถลงที่เตรียมไว้ก่อนแล้ว และเป็นการเสนอข้อมูลข้างเดียวของฝ่ายไทยก็ตาม แต่อย่างน้อยประชาชนคนไทยก็สามารถติดตามข่าวสารได้รวดเร็วทันเหตุการณ์
-การใช้เทคโนโลยี facebook เผยแพร่รูปภาพการทำงานของคณะทำงานฝ่ายไทยที่ศาลโลก(ภาพบรรยากาศที่ศาลโลก | Facebook) แม้เจ้าหน้าที่อาจจะคัดมาเฉพาะภาพขณะทำงานเพียงไม่กี่รูป ซึ่งไม่อาจถ่ายทอดเหตุการณ์จริงได้หมด แต่อย่างน้อยประชาชนก็ได้ทราบถึงบรรยากาศของการสู้คดีประวัติศาสตร์ครั้งนี้ ทั้งเบื้องหน้าและเบื้องหลัง
-การให้ข้อมูลประชาชนในลักษณะถาม-ตอบ หรือย่อสรุปข้อต่อสู้ที่ฝ่ายไทยได้แถลงต่อศาล (- การตีความคำพิพากษาและมาตรการชั่วคราว - Verapat Pariyawong - วีรพัฒน์ ปริยวงศ์) แม้เจ้าหน้าที่จะนำเสนอข้อมูลฝ่ายเดียว โดยที่ไม่ได้สรุปข้อกล่าวหาและข้อต่อสู้ที่กัมพูชาอ้างในลักษณะเดียวกัน
แต่ก็ถือว่าแปลและสรุปได้ดีในระดับหนึ่ง คือย่อคำแถลงของตัวแทนและทนายความฝ่ายไทยเป็นรายบุคคลและแยกเป็นประเด็น ทำให้ประชาชนผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเป็นภาษาไทยได้สะดวก
นอกจากนี้ ในฐานะผู้ที่เคยช่วยทำคดีในศาลโลกและศาลอื่นมาบ้าง ผู้เขียนมั่นใจว่ายังมีความดีของข้าราชการไทยผู้อดหลับอดนอนอีกหลายกรณีที่อาจมิได้เปิดเผยต่อประชาชน
ที่กล่าวมา มิได้หวังให้กระทรวงการต่างประเทศรู้สึกปลื้มอกปลื้มใจ แต่ผู้เขียนประสงค์จะสื่อถึงความดังต่อไปนี้
1.ประชาชนมีสิทธิ์ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 56 คือสิทธิ์ได้รับและเข้าถึงข้อมูลหรือข่าวสารสาธารณะในความครอบครองของราชการ ยกเว้นมีความจำเป็นที่เปิดเผยไม่ได้ เช่น เรื่องความมั่นคง ราชการทุกหน่วยงานต้องเคารพสิทธิ์นี้ และหน่วยงานที่ดีย่อมต้องยึดมาตรฐานที่สูงกว่าพระราชบัญญัติข้อมูลข่าวสารของราชการ พ.ศ.2540 (ซึ่งสมควรได้รับการแก้ไข) โดยเฉพาะการอาศัยเทคโนโลยีที่ประหยัดและรวดเร็ว ดังที่กระทรวงการต่างประเทศได้ทำเป็นตัวอย่าง
2.ข้าราชการมืออาชีพที่ทำงานฉับไว มีประสิทธิภาพและโปร่งใสต่อประชาชน มีได้อีกในประเทศไทย และประชาชนควรเรียกร้องให้ข้าราชการยึดมาตรฐานดังกล่าว มิใช่จำยอมว่า "เช้าชามเย็นชาม” คือเรื่องปกติ และไม่จำกัดเฉพาะข้าราชการประจำทั่วไปเท่านั้น
แต่ต้องรวมถึงข้าราชการหรือผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง เช่น เข้าประชุมสภาตรงเวลาหรือไม่ หรือสละเวลามาพบปะประชาชนหลังวันเลือกตั้งมากน้อยแค่ไหน หรือข้าราชการในมหาวิทยาลัย เช่น สอนหนังสือ ตรวจข้อสอบ และผลิตผลงานอย่างท่วงทันต่อเหตุการณ์หรือไม่
หรือแม้แต่ข้าราชการตุลาการ ประชาชนผู้เป็นเจ้านายตัวจริงย่อมมีสิทธิ์ถามว่า เหตุใดคดีความในศาลไทยจึงใช้เวลานานและคั่งค้างยืดเยื้อจำนวนมาก เป็นต้น
3.ในยามที่ประเทศชาติมีปัญหาต้องฝ่าฟันร่วมกัน การมองเห็นความดี กล่าวชม และให้กำลังใจกันในสิ่งเล็กๆ น้อยๆ นั้น ไม่ได้สำคัญน้อยไปกว่าการต่อว่า ตักเตือน หรือติติงกันในเรื่องที่ใหญ่ และหากเราเพ่งเล็งทำเพียงอย่างใดอย่างหนึ่ง การฝ่าฟันปัญหาร่วมกันย่อมเป็นไปโดยลำบาก
4. เมื่อผู้ใดทราบถึงความผิดพลาดของตน ไม่ว่าผู้นั้นจะสูงศักดิ์ดั่งศาลที่นานาชาติเคารพ หรือทรงอำนาจดั่งนักการเมืองที่ได้รับคะแนนท่วมท้นจากทั่วประเทศ หากผู้นั้นกล้าหาญที่จะยอมรับข้อผิดพลาดและปรับปรุงแก้ไข ย่อมมิใช่เรื่องที่จะซ้ำเติมกัน แต่เป็นสิ่งที่ต้องช่วยกันสนับสนุนและชื่นชม
นอกจากศาลโลกจะได้แก้ไขคำแปลผิดให้ถูกต้องแล้ว ล่าสุด ศาลยังได้แจ้งว่าในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค. นี้ ศาลจะอ่านคำสั่งกรณีที่กัมพูชาขอให้ศาลระบุมาตรการคุ้มครองชั่วคราว ซึ่งกัมพูชาขอไว้สามข้อ คือ
(1) สั่งให้ไทยถอนทหารออกไปจากดินแดนของกัมพูชา (territoire cambodgien) ในบริเวณปราสาทพระวิหาร
(2) สั่งห้ามไม่ให้ไทยดำเนินการทางทหารในบริเวณปราสาทพระวิหาร
(3) สั่งให้ไทยงดเว้นการกระทำที่อาจกระทบต่อสิทธิของกัมพูชา หรืออาจทำให้ความขัดแย้งทวีความรุนแรงมากขึ้น
พรุ่งนี้อ่านตอนที่ ๓ อ่านจบแล้ว ทำใจให้สบาย ไม่ต้อง กลัวแพ้-กลัวชนะ และก็ไม่ต้องกังวลถึงกาลข้างหน้า เพราะอดีต-มาจากปัจจุบัน, อนาคต-ก็ไปจากปัจจุบัน ฉะนั้น ปัจจุบันเราทำไว้แบบไหน เมื่อวานและพรุ่งนี้มันก็เป็นแบบนั้น.


แหล่งที่มา : ตรวจสำนวน 'ศาลโลก' ๑๘ กค.(๒) | ไทยโพสต์

 

ท่านที่สนใจทางด้านเศรษฐกิจ อยากให้ลองอ่านเรื่องนี้ครับ

"เปิดฝากะลามองโลก"

...วิกฤติเศรษฐกิจในกลุ่มประเทศยุโรปขณะนี้อันที่จริงแล้วมันไม่ใช่ วิกฤติ แต่เป็น หายนะ ต่างหาก!!! ซึ่งดูไป-ดูมา มันน่าจะเป็นไปตามนั้น..

... ยังมีโปรตุเกส ไอร์แลนด์ สเปน และโดยเฉพาะอิตาลี ที่ว่ากันว่ามีขนาดเศรษฐกิจใหญ่เป็นอันดับ 3 ของยูโรโซน ถ้าดูจากปริมาณหนี้สินของประเทศ ที่พุ่งทะลุสูงไปกว่า 119 เปอร์เซ็นต์ ...

...แต่ที่สำคัญยิ่งไปกว่านั้นก็คือ...เศรษฐกิจของประเทศหัวขบวนทุนนิยมโลก อย่างสหรัฐอเมริกานั่นแหละ ที่น่าขนลุก ขนพอง น่าสยดสยองเอามากๆ เพราะถ้าหากรวมปริมาณหนี้สินของโลกทั้งโลก ซึ่งมีอยู่ประมาณ 42 ล้านล้านดอลลาร์ ว่ากันว่า 1 ใน 4 ของปริมาณหนี้สินที่ว่านี้ ก็คือหนี้ของอเมริกานั่นเอง

...จนเริ่มมีการเรียกร้องให้พิมพ์เงิน ปั๊มเงิน ลงไปใหม่อีกรอบ หรือให้งัดมาตรการ QE3 ออกมาใช้กันอีกเที่ยว ซึ่งก็คงเป็นไปดังที่นักวิเคราะห์การลงทุนชาวสวิส อย่างนาย มาร์ค เฟเบอร์ ผู้ซึ่งได้ชื่อว่าเป็นนักทำนายทายทักแนวโน้มเศรษฐกิจ ได้แม่นยำเอามากๆ เคยออกมาให้สัมภาษณ์ โทรทัศน์ CNBC ไปเมื่อเร็วๆ นี้ นั่นแหละว่า... "ผมเชื่อว่าอีกไม่นานจะมี QE3 ออกมาอีก และจะตามมาด้วย QE4-5-6-7 หรืออีกกี่ครั้งก็แล้วแต่ ตามที่พวกเขาต้องการ การพิมพ์เงินดอลลาร์ออกสู่ตลาดจะดำเนินต่อไป...

...มาตรการกอบกู้ ฟื้นฟูเยียวยาเศรษฐกิจของสหรัฐ ในลักษณะเช่นนี้ ล้วนแล้วแต่จะนำไปสู่ความ ฉิบหายกับฉิบหาย ลูกเดียวเท่านั้น โดยเฉพาะ เซเลนเต ที่ได้กล่าวทำนายภาวะฟองสบู่ อันเนื่องมาจากความพยายามโอบอุ้ม กอบกู้บรรษัทธุรกิจของสหรัฐ ด้วยการปั๊มเงินออกมาสู่ระบบนับเป็นล้านล้านดอลลาร์ ว่ามันจะก่อให้เกิดฟองสบู่ในระดับที่เป็นเสมือน มารดาแห่งฟองสบู่ทั้งหลาย ซึ่งถูกเรียกขานกันในนาม Bailout Bubble และถ้าหากฟองสบู่ที่ว่านี้แตกขึ้นมาเมื่อไหร่ ไม่เพียงแต่จะทำให้ระบบเศรษฐกิจทั้งหมดในโลกล่มสลายลงไปเท่านั้น แต่ยังอาจถึงขั้นทำให้เกิดบรรยากาศการปะทะขัดแย้งระหว่างชาติต่อชาติ จนนำไปสู่ สงครามโลกครั้งที่ 3 ขึ้นมาจนได้...


รายละเอียดเพิ่มเติมหาอ่านได้จาก เปิดฝากะลามองโลก | ไทยโพสต์

ขอขอบคุณแหล่งที่มา

 

จับตาศาลโลก 18 กรกฎาคม

ความผิดพลาด เขตแดนไทย และ MOU ปี 2543 (๓)
โดย วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ อดีตนักกฎหมายในคดีศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ สำนักกฎหมาย Freshfields Bruckhaus Deringer (กรุงปารีส) นิติศาสตรมหาบัณฑิต (รางวัลทุนฟุลไบรท์และวิทยานิพนธ์เกียรตินิยม) มหาวิทยาลัยฮาร์วาร์ด ที่มา วีรพัฒน์ ปริยวงศ์ | Facebook ผู้เขียนมิอาจล่วงรู้ผลของคำสั่งในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค.นี้ได้ แต่อาจตั้งข้อสังเกตเบื้องต้นดังนี้
.........................................

.....คำสั่งที่ศาลจะอ่านในวันจันทร์ที่ 18 ก.ค.นี้ ผู้เขียนเชื่อว่าศาลจะได้อธิบายข้อเท็จจริงเรียงเป็นเรื่องๆ (โดยศาลจะใช้คำว่า “Whereas” หรือ “ตามที่”…ทีละย่อหน้า) โปรดจับตาให้ดีว่า ศาลจะเห็นพ้อง “ตามที่” รัฐบาลไทยได้อ้างถึง MOU ฉบับนี้ไว้หรือไม่ หรือ MOU จะย้อนมาทำร้ายประเทศไทยดังที่มีผู้ย้ำเตือนไว้ และเราสมควรจะพิจารณาอนาคตของ MOU ฉบับนี้ต่อไปอย่างไร!...


ท่านที่สนใจและติดตามในเรื่องนี้สามารถอ่านรายละเอียดได้จาก จับตาศาลโลก 18 กรกฎาคม : | ไทยโพสต์

ขอขอบคุณแหล่งที่มา

 

ทำบุญไหว้พระใน วันเข้าพรรษากันมาเรียบร้อยแล้ว มาทำความรู้จักยายยิ้มกันครับ ท่านใดที่เคยได้ชมมาแล้วจากรายการ TV แนะนำให้ลองชมอีกครั้งรับรองว่าท่านจะได้เห็นในมุมมองที่แตกต่างไปจากครั้งก่อน ลองดูซิครับ

<TABLE class=content border=0 cellSpacing=0 cellPadding=0 width="100%"><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #e2e2e2 1px solid">ไปดูยายยิ้ม The vdo กัน ในสื่อธรรมะวิดีโอ

http://www.suanyindee.net/index.php?option=mediadharma&task=view&id=10​

แล้วจะสงสารยายยิ้มหรือสงสารตัวเองดี

</TD></TR><TR><TD colSpan=3></TD></TR></TBODY></TABLE>​

 

Untitled Document
เนื้อความรับสั่งสุดท้ายของสมเด็จพระนเรศวร ครัฟ

 

ขอทราบรายละเอียด

-----------------------------------------------
สวัสดีค่ะคุณจงรักภักดี ทางสายธาตุ และทุกท่าน

ไม่ได้เข้ามานาน วันนี้วันดี ฝนฟ้าตกราวกับสวรรค์ล่มเทวดาเลยโศกากันใหญ่ ไล่อ่านมาตั้งแต่กระทู้200 กว่า ทางสายธาตุ อ้อ คุณสายสินะ ยังเข้มเหมือนเดิม แอบขโมยสมบัติในกรุไปเยอะเลย พอดีไล่มาถึงเรื่อง(ตามอ้างอิง) เลยรบกวนขอทราบรายละเอียดเพิ่มหน่อยนะคะ

 

คุณจงรักภักดีคะ

ขอบคุณสำหรับ ..บทขับเสภาตอนสมเด็จพระนเรศวรเสด็จยกทัพจะไปตีกรุงอังวะ
ที่นำมาลง.. อ่านแล้วชอบมาแต่สะท้อนใจจัง เหมือนอดีตที่ขาดหายไป

เีสียอย่างเดียว ก๊อปได้แต่เวลาพริ๊นท์ เฮ้อ..ย้าวววยาว คิดว่าจะไปลองหาหนังสือ
มาเก็บน่าจะมีนะคะ...

อดีตคือสิ่งที่กลับมาไม่ได้ ถ้าได้หนังสือมา เหมือนได้เงาของอดีตมาเก็บไว้ใกล้ตัว หลอกตัวเองแค่นี้ ก้อ...สุขแล้ว