ข้อความจากต่างมิติ - ข้อความชุด Morning messages จาก The Team

www.morningmessages.com

ข้อความชุด Morning Messages จาก "The Team" ดังกล่าวนี้
ข้อความหลักๆที่เวลาเราไปสมัครรับข้อความทางอีเมลเอาไว้ในเวปไซต์
Morning Messages นั้น ทั้งหมดจะมีอยู่ 88 ข้อความ
เดี๋ยวผมจะค่อยๆทะยอยแปลและโพสต์ให้อ่านนะครับ

จะพยายามแปลให้มากที่สุดครับ

ปล. โปรดใช้วิจารณญาณในการรับรู้ข้อมูลเอาเองนะครับ
เพราะผมเป็นแต่เพียงผู้ที่ไปอ่านเขามา แล้วนำมาแปลและโพสต์
ให้ท่านได้อ่านด้วยเท่านั้น หาใช่เจ้าของข้อมูลแต่อย่างใดไม่

..................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

ข้อความสื่อสารจากทีมงาน “พวกเราอยู่ที่นี่” (The “We Are Here” Team)
ผู้รับสาส์น: Peggy Black,
ที่มา: Morning Messages


(credit the picture from internet )

พวกเราอยู่ที่นี่ เพราะพวกเรามีความปราถนาที่จะแบ่งปันข้อความเหล่านี้ ให้แก่มนุษยชาติ และต้องการที่จะเชื้อเชิญมนุษยชาติ ให้มาสร้างสายสัมพันธ์อันเหนียวแน่น และสร้างการเชื่อมต่ออันแข็งแกร่งของความตระหนักรู้ กับเหลี่ยมมุมต่างๆอันหลากหลายของพวกเขาเองแต่ละคน ที่อยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิตินี้ เพราะว่ามนุษย์โลกแต่ละคนและทุกๆคน ที่สามารถตื่นรู้ขึ้นมาสู่ความรู้ที่ว่าพวกเขาคือ “มนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติ” (multidimensional star-humans) ได้แล้ว ก็เท่ากับว่า พวกเขากำลังทำให้มนุษย์โลกทั้งมวล สามารถทำได้เช่นเดียวกันนี้ด้วย

มันมีความสำคัญมากที่มนุษย์โลกจะต้องตระหนักรู้ว่า พวกเขากำลังท่องไปในมิติต่างๆอยู่แล้ว วันละหลายๆครั้ง เพราะว่าจะต้องจำเอาไว้ว่า “พวกคุณจะสามารถมองเห็น เฉพาะแต่สิ่งที่พวกคุณเชื่อเท่านั้น”

เพราะว่าโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณ จะสอดคล้องกับความเชื่อของพวกคุณอย่างพอเหมาะพอดีเสมอ และมิติต่างๆก็เป็นเรื่องของคลื่นความถี่และระดับความสั่นสะเทือนเท่านั้น ซึ่งความเป็นจริงเกี่ยวกับเรื่องนี้ก็กำลังเป็นที่รู้กันโดยทั่วไปท่ามกลางพวกคุณหลายๆคนที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้อยู่แล้ว

การตระหนักรู้ของพวกคุณ และการให้การต้อนรับของพวกคุณ คือสิ่งที่จะทำให้คลื่นความถี่ และความสั่นสะเทือนของพวกคุณสามารถผสานรวมกับและ แลกเปลี่ยนกับคลื่นความถี่และความสั่นสะเทือนของพวกเราได้ คำเชื้อเชิญของพวกเราที่มีมาถึงพวกคุณ และถึงมนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติคนอื่นๆทุกๆคนนี้ จะทำให้มิติต่างๆอ่อนตัวลงและสามารถผสานรวมเข้าด้วยกันได้ ดังนั้น จงไหลไปตามกระแสการไหลของมัน อย่างนุ่มนวล และ อย่างราบรื่น

มันเป็นเรื่องของการเปลี่ยนระดับคลื่นความถี่และความสั่นสะเทือน ซึ่งเครื่องมือที่มีอานุภาพมากที่สุดในโลกแห่งเกมสามมิตินี้ ที่พวกคุณอาจจะเรียกมันว่า “กุญแจทอง” ก็ได้..ก็คือ..ทักษะความสามารถ และการฝึกฝนให้ตัวเองสามารถคงอยู่แต่ในคลื่นความถี่ของความเบิกบานและความรู้สึกซาบซึ้งใจล้วนๆให้ได้ อย่างมีสติสัมปชัญญะ ไม่ว่าจะเกิดอะไรขึ้นก็ตามก็จะต้องดึงตัวเองให้กลับคืนไปอยู่ในหัวใจของตัวเอง ซึ่งเปรียบเสมือนจอกศักดิ์สิทธิ์อันวิเศษใหม่อีกครั้งหนึ่งให้ได้ และก็จะต้องแผ่แต่คลื่นความสั่นสะเทือนด้านบวกเหล่านี้ออกมาสู่ชีวิตประจำวันของตัวเองให้ได้ ในทุกๆชั่วขณะ

มันเป็นช่วงเวลาที่เหลือเชื่อบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณ เพราะว่ามันกำลังมีการเปลี่ยนแปลงของแมทตริกซ์เกิดขึ้นอยู่ ดังนั้น มนุษย์โลกจึงกำลังพบกับการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่ในโลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาที่พวกเขาสามารถรับรู้ได้อยู่ แต่พวกคุณก็กำลังคร่อมอยู่ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติทั้งหลายอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้วด้วย

ดังนั้น การเปลี่ยนแปลงที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ จึงคือการตื่นขึ้นมาของพวกคุณเอง และก็คือการเริ่มที่จะมีสติรับรู้ว่าพวกคุณกำลังคร่อมอยู่ระหว่างโลกแห่งความเป็นจริงหลากมิติอยู่แล้วจริงๆ

เพราะว่านอกจากพวกคุณจะสามารถรับรู้ถึงสิ่งต่างๆที่เป็นวัตถุธาตุทางกายภาพที่กำลังแวดล้อมพวกคุณอยู่นี้ได้แล้ว ซึ่งก็คือสิ่งที่เป็นของแข็งตามการรับรู้ของพวกคุณ ในขณะเดียวกันพวกคุณก็ยังสามารถตระหนักรู้ถึงข้อมูลข่าวสารต่างๆที่พวกเรากำลังสื่อสารมาถึงพวกคุณอยู่นี้ได้ด้วย ว่า..โดยแทบจะไม่ต้องใช้ความพยายามอะไรเลย พวกคุณก็สามารถที่จะท่องเที่ยวไปในสถานที่ต่างๆในกาแล็กซี่ได้

ร่างกายเนื้อของพวกคุณกำลังปฏิบัติการอยู่ในโลกแห่งความเป็นจริงอันหลากหลายอยู่ตลอดเวลาอยู่แล้ว และเซลทุกๆเซลในร่างกายเนื้อของพวกคุณ ก็มีความตระหนักรู้ถึงสัญญาณรบกวนต่างๆ (noise) ที่มีอยู่ทั้งภายใน และภายนอกร่างกายเนื้อของพวกคุณเองได้ตลอดเวลาอีกด้วย ดังนั้นพวกมันจึงกำลังปรับตัวตามไปด้วยอยู่ตลอดเวลาเท่าที่จำเป็น

เซลทุกๆเซลในร่างกายเนื้อของพวกคุณ กำลังอ่านตำแหน่งของดวงอาทิตย์, ดวงจันทร์ และดวงดาวต่างๆอยู่ตลอดเวลา และก็กำลังปรับตัวตามไปด้วยเท่าที่จำเป็นอยู่ตลอดเวลา เซลทุกๆเซลในร่างกายเนื้อของพวกคุณกำลังตรวจติดตามดูทุกๆอย่างที่ถูกส่งเข้ามาจากทุกๆมิติอยู่ตลอดเวลา และก็กำลังทำการปรับตัวตามไปด้วยเท่าที่จำเป็นอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย เพราะว่าเซลทุกๆเซลในร่างกายเนื้อของพวกคุณ กำลังปฏิบัติการอยู่ในระดับหลากมิติ และก็กำลังปฏิบัติการด้วยความรู้หลากมิติอยู่

มนุษยชาติกำลังวิวัฒน์ และ กำลังจะมีสติรับรู้แล้วว่า พวกเขากำลังส่งผลกระทบต่อโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกเขาได้ก้าวเข้ามาสู่นี้อยู่ และพวกเขาก็กำลังจะมีสติรับรู้แล้วว่า พวกเขากำลังส่งผลกระทบต่อการไหลเวียนของพลังงานบนดาวเคราะห์โลกดวงนี้อยู่

ซึ่งเมื่อใดที่พวกเขาสามารถเชื่อมต่อได้อย่างเต็มที่ และ สามารถมีสติสัมปชัญญะรับรู้ถึงการเชื่อมต่อกับโครงข่ายการเชื่อมต่อทั้งมวล.. หรือกับแมทตริกซ์รวมของการแผ่ขยายของพระเจ้า..หรือกับความเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบ (the total oneness) ได้แล้ว และรวมถึง สามารถถักทอเป็นผืนแผ่นเดียวกันอย่างสมบูรณ์แบบกับทุกสรรพสิ่งที่มีอยู่เป็นอยู่ (the All That Is) ได้แล้ว พวกเขาก็จะกลายไปเป็นมนุษย์แห่งดวงดาว (star human) ไปในที่สุด ซึ่งวิวัฒนาการดังกล่าวนี้กำลังเกิดขึ้นภายในอะตอมของมนุษย์โลกทุกๆคนอยู่ในขณะนี้

มันมี “มนุษย์แห่งดวงดาว-หลากมิติ” (multidimensional star human) ที่เป็นแนวหน้าอยู่กลุ่มหนึ่ง ที่กำลังทำหน้าที่ถือธงแห่งการรู้แจ้งอันนี้เดินนำหน้าคนอื่นๆมาอยู่ และพวกเขาก็ได้ทำเช่นนี้มาหลายภพชาติแล้ว พวกเขาได้ตื่นรู้ขึ้นมาสู่ “ความรู้” ที่ว่ามนุษย์โลกทุกๆคนคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติแล้ว

และในตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้ว ที่มนุษย์โลกทุกๆคนจะต้องจดจำมันให้ได้ และจะต้องผสานรวมเข้ากับจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของคนอื่นๆที่ก็ได้ตระหนักรู้ถึงความเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติของตัวเองแล้วเช่นเดียวกันให้ได้ด้วย

เพราะว่าตอนนี้กำลังมีมนุษย์โลกจำนวนมากขึ้นแล้ว ที่สามารถขยายตัวเข้าไปสู่ตัวตนหลากมิติของตัวเองได้แล้ว ดังนั้น พวกเขาจึงได้กลายไปเป็นผู้บุกเบิกในเรื่องของการทำให้โครงข่ายพลังงานต่างๆมีความสอดคล้องกัน, มีความสมดุล และคลายความยุ่งเหยิงลงไป

โครงข่ายพลังงานของดาวเคราะห์โลก ได้รับการปรับปรุงแก้ไข และถูกทำให้กลับคืนสู่สภาพเดิมแล้ว ซึ่งปฏิบัติการนี้ได้ดำเนินต่อเนื่องมายาวนาน จนกระทั่งถึงบัดนี้ เป็นระยะเวลาหลายร้อยปีแล้ว ซึ่งเป็นการดำเนินการในระดับของมิติที่ละเอียดอ่อนทั้งหลาย แต่ในตอนนี้มันก็กำลังเกิดขึ้นอยู่ในมิติทางกายภาพที่กำลัง active อยู่ในขณะนี้อีกด้วย ซึ่งการปรับปรุงใหม่ และการทำให้โครงข่ายพลังงานดังกล่าวนี้กลับคืนมาสู่สภาพเดิมนั้น เป็นการดำเนินการอยู่ในระดับของกาแล็กซี่ และตอนนี้มันก็ถึงเวลาแล้ว มันคือการมาชุมนุมกัน มันคือการเปลี่ยนแปลงที่จะไปกระตุ้นให้วัตถุประสงค์แห่งการมารับใช้โลกของพวกคุณตื่นตัวขึ้นมา

ยังมีคนอื่นๆอีกจำนวนมากมายที่เป็นเหมือนกับพวกคุณ ที่จดจำได้แล้วและระลึกได้แล้วว่าวัตถุประสงค์ของการมาอยู่บนโลกของตัวเอง ในช่วงเวลาแห่งวิวัฒนาการทางด้านจิตสำนึกที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้คืออะไร พวกเขาได้ยื่นมือออกมาแล้ว และพวกเขาก็ได้ร้องขอความช่วยเหลือและการสนับสนุนออกไปแล้ว บนเวทีของโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพนี้

ซึ่งการร้องขออย่างมีสติสัมปชัญญะของพวกเขานี้ ก็ได้รับการตอบสนองแล้ว และก็มีหลายสิ่งหลายอย่างก็กำลังถูกประทานลงมาให้อยู่ จากกลุ่มของผู้ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงสุดในจักรวาลแห่งนี้

พวกเราขอเชิญพวกคุณ และขอเชิญมนุษย์แห่งดวงดาว (star human) ผู้ที่ตื่นรู้แล้วคนอื่นๆด้วยให้มาทำหน้าที่เป็นจุดศูนย์รวมของพลังงาน และให้มาทำหน้าที่เป็นผู้ทอดสมอพลังงานที่กำลังถูกส่งมาเป็นของขวัญและเอิบอาบพวกคุณอยู่ในขณะนี้ เอาไว้กับดาวเคราะห์โลก

และในทุกๆลมหายใจของพวกคุณ ขอให้พวกคุณจงระลึกเอาไว้เสมอว่า พวกคุณคือแสงสว่าง และพวกคุณก็เป็นคนสำคัญอีกด้วย และมันก็ถึงเวลาแล้วที่พวกคุณจะต้องตื่นขึ้นมาอย่างเต็มที่เสียที และเพราะว่าทุกๆความสั่นสะเทือนของพวกคุณ..ทุกๆความคิดของพวกคุณ กำลังถูกถ่ายทอดเข้าไปสู่แมทตริกซ์ของสนามพลังงานของดาวเคราะห์โลกดวงนี้อยู่

ดังนั้น จงถามตัวเองอยู่เสมอว่า “คำพูดนี้, ความคิดนี้, การกระทำนี้, ความรู้สึกนี้
จะไปเพิ่มแสงสว่างให้กับดาวเคราะห์โลกหรือไม่ หรือว่ามันจะไปเพิ่มความเป็นพิษเป็นภัยให้แก่โลกมากขึ้นกว่าเดิมอีกกันแน่?”


จงจำไว้ว่าพวกคุณคือองค์ประกอบหนึ่งที่มีความสำคัญของกระบวนการวิวัฒนาการในครั้งนี้ มนุษย์แห่งดวงดาวแต่ละคน จะถือ “รหัส” ที่มีความจำเป็นต่อผู้คนจำนวนมากมายเอาไว้อยู่ เพื่อใช้สำหรับกระตุ้นให้กระบวนการตื่นรู้ของผู้คนเหล่านั้นเริ่มต้นเกิดขึ้น ดังนั้นในการมีปฏิสัมพันธ์ต่อกันแต่ละครั้ง มันก็จะมี “ชั่วขณะอันล้ำค่า” อยู่ในช่วงเวลานั้นๆด้วย

เพราะว่ารหัสต่างๆจะถูกเผยออกมา และการกระตุ้น ก็จะบังเกิดขึ้นท่ามกลางรูปธรรมชีวิตเหล่านั้น เมื่อใดที่พวกคุณและคนอื่นๆสั่นสะเทือนอยู่ในระดับคลื่นความถี่ที่สูงที่สุด และมีชีวิตชีวามากที่สุดของตัวเองแล้ว เมื่อนั้นแหละคือช่วงเวลาที่จะสามารถช่วยยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนที่ต่ำๆกว่าทั้งหลายของมนุษย์โลกคนอื่นๆให้สูงขึ้นมาได้

ทุกๆครั้งที่ “มนุษย์แห่งดวงดาว-หลากมิติ” (multidimensional star human) คนใดก็ตาม เลือกอย่างมีสติสัมปชัญญะว่าจะขออยู่ในกระแสความคิดที่สูงส่งดีงาม, หรือจะขออยู่ในคลื่นความถี่ของการสั่นสะเทือนที่สูงๆของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และ ความรู้สึกชื่นชมยินดีแล้ว เมื่อนั้นมันก็จะเกิดการยกระดับขึ้นของแมทตริกซ์แห่งมวลหมู่มนุษยชาติทั่วทั้งแมทตริกซ์ ทุกๆครั้งไป

และทุกๆครั้งที่ “มนุษย์แห่งดวงดาว-หลากมิติ” (multidimensional star human) คนใดก็ตามก้าวหน้าไปสู่การเป็นผู้มีความเมตตากรุณามากขึ้น, มีความเข้าใจมากขึ้น, และมีความเป็นตัวตนที่แท้จริงของตัวเองมากขึ้น เมื่อนั้นมันก็จะเกิดการยกระดับขึ้นของแมทตริกซ์แห่งมวลหมู่มนุษยชาติ ทั่วทั้งแมทตริกซ์เลย ทุกๆครั้งไป

มนุษย์โลกกำลังทะยอยกันตื่นขึ้นมาสู่การเป็นนายเหนือตัวเองอยู่ ทีละคนทีละคน ซึ่งก็คือการตื่นขึ้นมาสู่ตัวตนที่แท้จริงของพวกเขาเอง และก็คือการก้าวเข้าไปสู่ความมีอธิปไตยในตัวเอง พวกเรากำลังเฉลิมฉลองไปพร้อมๆกับพวกคุณอยู่ สำหรับความก้าวหน้าที่เหลือเชื่อที่กำลังเกิดขึ้นอยู่ในขณะนี้ พวกเราขอเชิญให้พวกคุณมั่นคงอยู่บนเส้นทางนี้ต่อไป จงเดินบนเส้นทางนี้ต่อไป และจงแบ่งปันสิ่งที่พวกคุณเป็น ซึ่งก็คือการเป็น “มนุษย์แห่งดวงดาว-หลากมิติ” ผู้สูงส่ง ให้แก่ผู้อื่นต่อไปด้วย

เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณและคนอื่นๆ นำเอาคลื่นความถี่นี้, สัจธรรมนี้, ความรู้นี้ ลงมาไว้บนโลกใบนี้แล้ว และเมื่อใดที่พวกคุณและคนอื่นๆพากันสั่นสะเทือนอยู่ด้วยระดับความสั่นสะเทือนที่สูงๆ ของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และ ความรู้สึกชื่นชมยินดีแล้ว เมื่อนั้นก็เท่ากับว่าพวกคุณกำลังเชื้อเชิญให้ และ ทำให้คนอื่นๆสามารถเชื่อมต่อกับ ความตระหนักรู้หลากมิติอันยิ่งใหญ่ของพวกเขาเองได้ด้วยเช่นเดียวกัน ทุกๆครั้งไป


...The Team...

Source: Morning Messages
.........................................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

"ข้อความที่ 1: มันเป็นสิทธิที่มีมาแต่กำเนิดของพวกคุณ..ที่จะตื่นรู้ขึ้นมา"


(credit the picture from internet)

พวกเรามีคลื่นความถี่หนึ่งที่เปิดกว้างสำหรับพวกคุณอยู่ มันเปิดกว้างสำหรับพวกคุณอยู่เสมอ และมันก็ได้เปิดกว้างสำหรับพวกคุณมาโดยตลอด และมันก็จะเปิดกว้างสำหรับพวกคุณตลอดไปด้วย แต่พวกคุณคือผู้ที่จะตัดสินใจว่าจะรับเอามันมามากน้อยแค่ไหน หรือจะเชื่อมต่อกับมันหรือไม่ หรือจะตระหนักรู้ถึงมันหรือไม่

พวกเราเป็นเสมือนเสียงดนตรีที่บรรเลงอย่างแผ่วเบาอยู่เบื้องหลังพวกคุณตลอดเวลา ดังนั้น บางครั้งพวกคุณก็จะสามารถรับรู้ถึงมันได้ แต่บางครั้งก็อาจจะไม่

เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณสั่นสะเทือนด้วยความสุข, ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ, ด้วยความรัก, และด้วยความเมตตากรุณาแล้ว ข้อมูลข่าวสารจากพวกเรา และการมีตัวตนอยู่ของพวกเราก็จะสามารถหลั่งไหลไปพร้อมๆกับพวกคุณได้ในทุกๆโปรเจกซ์, ในทุกๆกิจกรรม, และในทุกๆมุมมองของพวกคุณ

ส่วนความกลัว, ความวิตกกังวล และการตัดสินชี้ถูกผิดนั้น จะปิดกั้นกระแสการไหลอันนี้

พวกเราอยากขอเชิญพวกคุณ ให้มาฝึกฝนการยินยอมให้ตัวเอง หยุดกิจกรรมต่างๆลงสักครู่ แล้วหันมาอยู่ในความสงบเป็นเวลาซัก 2 – 3 นาที และหลายๆครั้งต่อวัน เพราะว่าเมื่อพวกคุณฝึกฝนทำเช่นนี้แล้ว และใช้เครื่องมือง่ายๆอันนี้แล้ว มันก็จะกลายเป็นเครื่องมือ ที่จะทำให้พวกคุณสามารถเข้าสู่ความสมดุลได้อย่างง่ายดายและอย่างรวดเร็ว ซึ่งก็จะทำให้ร่างกาย-จิตใจ-อารมณ์-และวิญญาณของพวกคุณสอดประสานกลมกลืนกันด้วย

พวกเขาอยากจะขอสนับสนุนให้พวกคุณและคนอื่นๆ จงรับฟังเสียงนำทางจากภายในของตัวเอง และจงหาเวลาเพื่อสงบนิ่ง และเตรียมพร้อมสำหรับสิ่งที่จะถูกนำเสนอมาให้นี้

มันเป็นสิทธิที่มีมาแต่กำเนิดของพวกคุณ ที่จะตื่นรู้ขึ้นมา ภพชาตินี้ของพวกคุณ คือภพชาติที่พวกคุณ จะต้องเคารพในความยิ่งใหญ่อลังการทั้งหมดของตัวเอง และคือภพชาติที่พวกคุณจะต้องเคารพในความเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติของตัวเองด้วย

..The Team..
....................................................
Source: Morning Messages
....................................................
#Facebook: Chayutt Naowarat https://web.facebook.com/chayutt.deejaroen
#เพจขายหินออนไลน์ที่ใหญ่ที่สุดในประเทศไทย: Alchemistic Power of Stones (https://facebook.com/chayutt.naowarat)
#ฝากกระทู้เกี่ยวกับหินด้วยนะครับ http://Alchemistic.2.vu/AlchemisticHere

 

"ข้อความที่ 2: ตัวตนหลากมิติของพวกคุณเอง (Multidimensional Self)"


(credit the picture from internet)

ตอนนี้มนุษย์โลกกำลังทะยอยกันตื่นขึ้นมาสู่ความเป็นตัวตนหลากมิติของตัวเองอยู่ ดังนั้นตอนนี้พวกเขาจึงกำลังตระหนักรู้แล้วว่าสิ่งเร้าจากภายนอกทั้งหลาย ที่สังคมเป็นผู้จัดหามาให้นั้น คือสิ่งที่ทำให้พวกเขาหลงทางและคือสิ่งที่จะมาควบคุมพวกเขา

ดังนั้น จงดึงตัวเองออกมาจากสิ่งยั่วยุเหล่านั้นเสีย ที่คอยแต่จะทำให้พวกคุณ
สิ้นเปลืองเวลาไปกับกิจกรรมต่างๆมากมาย แล้วจงยินยอมให้ตัวเองหลุดออกมาอยู่ในสถานที่ๆสงบเงียบที่ๆพวกคุณจะสามารถได้ยินข้อความของพวกเราแทน

(คำว่า "พวกเรา" ในที่นี้หมายถึงผู้ที่อยู่ใน ณ.ฟากฝั่งโน้นของม่านพราง หรือก็คือผู้ที่อยู่ในโลกของวิญญาณทั้งหลาย เช่น ตัวตนที่สูงส่งกว่า หรือจิตวิญญาณ หรือจิตเดิมแท้ของเราเอง และทวยเทพทั้งหลาย สิ่งศักดิ์สิทธิ์ทั้งหลาย เป็นต้น - ผู้แปล)

ในฐานะที่พวกคุณเป็นมนุษย์โลกคนหนึ่ง และมีร่างกายเนื้อ แต่ข้างในของพวกคุณก็ยังมีเงาสะท้อนของดวงดาว, ของดวงจันทร์ และของดวงอาทิตย์อยู่ด้วย เพราะว่าพวกคุณมีคุณสมบัติของกาแล็กซี่อยู่, มีเงาสะท้อนของกาแล็กซี่อยู่ และมีการเชื่อมประสานอยู่กับกาแล็กซี่ด้วย

และจงจำไว้ว่านี่คือเกมแห่งวิวัฒนาการ นี่คือเกมแห่งจิตสำนึกเกมหนึ่ง มันคือเกมที่ยินยอมให้พวกคุณมีประสบการณ์กับลายเซนต์ทางพลังงานของตัวเองทั้งหมด

และมนุษย์โลกอย่างพวกคุณนี้ ก็จะเหมือนกับรูปธรรมชีวิตชั้นสูงที่ละเอียดอ่อน และมีระดับวิวัฒนาการทางด้านจิตสำนึก/ความตระหนักรู้สูงมากๆแล้วส่วนใหญ่นั่นแหละที่จะสามารถถูกออกแบบได้ และพวกคุณก็คือศูนย์รวมของข้อมูลข่าวสารที่กำลังรับรู้และรู้สึกถึงจิตใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าอยูj และพวกคุณก็กำลังมีการขยายตัวออกไปจากจิตใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพระเจ้าอยู่ตลอดเวลาอีกด้วย

ในช่วงเวลาแห่งการเปลี่ยนแปลงครั้งยิ่งใหญ่บนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณนี้ มันก็จะมีการเคลื่อนไหวอย่างรวดเร็วและรุนแรงของกระแสพลังงานเกิดขึ้นด้วย ดังนั้น วิธีการที่ดีที่สุดและมีสติสัมปชัญญะมากที่สุดสำหรับการรับมือกับพลังงานอันเหลือเชื่อเหล่านี้คือการกล้าที่จะเชื่อมั่นในกระแสการไหลของพลังงานเหล่านี้ แล้วยินยอมให้ตัวเองหลั่งไหลไปตามกระแสการไหลของมันและคล้อยตามการเปลี่ยนแปลงทั้งหลายที่เกิดขึ้น

จงวางใจในความเชื่อมั่นนี้ จงดำรงอยู่ “ภายใน” ตัวตนของตัวเอง (จดสติไว้ที่จักระหัวใจของตัวเอง – ผู้แปล) ซึ่งเป็นที่ๆจะนำพาความยืดหยุ่นมาสู่พวกคุณได้ในทุกๆสถานการณ์ จงฝึกฝนแผ่กระแสพลังงานแห่งความสุขความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกขอบคุณ ออกมาสู่ทุกๆประสบการณ์ที่พวกคุณกำลังประสบอยู่

..The Team..
....................................................
Source: Morning Messages
...................................................

 

"ข้อความที่ 3: ลูกตุ้มพลังงาน"


(credit the picture from internet)

พลังงานที่กำลังไหลบ่าลงมาเอิบอาบดาวเคราะห์โลกอยู่ในขณะนี้ เป็นพลังงานที่มาจากอาณาจักรที่อยู่เบื้องบนทั้งหลาย และก็เป็นพลังงานที่มาจากรูปธรรมชีวิตแห่งความรักและแสงสว่างทั้งหลายอีกด้วย ซึ่งพลังงานเหล่านี้กำลังทำงานร่วมกับพลังงานที่มาจากชาวโลกจำนวนหนึ่ง ที่สามารถยกระดับความสั่นสะเทือนของสนามพลังงานของตัวเองขึ้นมาได้แล้วอยู่

เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่มนุษย์โลกแห่งดวงดาวเหล่านี้ แผ่คลื่นพลังงานแห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกขอบคุณออกมา คลื่นพลังงานเหล่านี้ก็จะไปผสานรวมเข้ากับพลังงานของ “แมทตริกซ์แห่งภาพสามมิติ” (matrix of the hologram) และก็จะไปทำให้คลื่นความถี่ของแมทตริกซ์ที่ว่านี้ทั้งแมทตริกซ์ สูงขึ้นตามไปด้วย

และเมื่อใดที่ผู้ที่ตกอยู่ในความมืดมิดทั้งหลาย สามารถโอบกอดเอาความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกขอบคุณไว้ได้แล้ว โลกแห่งความเป็นจริงของพวกเขาก็จะถูกยกระดับขึ้นอย่างมาก

ส่วนการต่อต้านสิ่งใดๆนั้น ก็คือการไปทำให้สิ่งนั้นๆมันคงอยู่ต่อไป เพราะว่าในความเป็นจริงแล้ว การไปต่อต้านสิ่งใดๆนั้นก็คือการไปทำให้สิ่งนั้นๆมันมีกำลังกร้าแข็งมากยิ่งขึ้น เพราะว่าเมื่อใดก็ตามที่เราไปต่อต้านสิงใดเข้า และไปแสดงออกซึ่งการต่อต้านที่ว่านั้น และอยู่ในคลื่นความถี่ของพลังงานแห่งการต่อต้านอันนั้นแล้ว ก็เท่ากับว่าเรากำลังมอบพลังงานของตัวเอง ให้กับสิ่งที่เรากำลังต่อต้านนั้นอยู่ให้มันมีพลังงานมากขึ้นไปอีก

และดังนั้น ลูกตุ้มแห่งพลังงานก็จะเหวี่ยงไปด้านใดด้านหนึ่งของความเป็นขั้วนี้ ดังนั้น เป้าหมายของเราก็คือ “การทำใจให้เป็นกลางอย่างสมบูรณ์แบบ” โดยไม่เหวี่ยงไปทางซ้ายหรือทางขวาเลย เพราะว่าเรารู้แล้วว่าความเป็นขั้วมันมีอยู่ เพราะว่าเรารู้แล้วว่ามันมีทั้งด้านบวกและด้านลบอยู่

แต่ก็จงรู้เอาไว้ด้วยว่า จุดที่ทรงพลังอำนาจมากที่สุด สำหรับความตระหนักรู้ของพวกคุณก็คือ “จุดที่พวกคุณอยู่ในความสงบ ณ.จุดศูนย์กลางของความเป็นตัวตนของพวกคุณเอง” (ณ.จักระหัวใจของตัวเอง – ผู้แปล)

เพราะว่า ณ.จุดศูนย์กลางนี้ และ ณ.สถานที่แห่งความสงบอย่างสมบูรณ์แบบนี้ จะมีคลื่นและความสั่นสะเทือนของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกขอบคุณอันบริสุทธิ์ของพวกคุณเองสถิตย์อยู่

..The Team..
......................................................
Source: Morning Messages
......................................................

 

"ข้อความที่ 4: โลกแห่งความเป็นจริงที่เลื่อนไหล"


(credit the picture from internet)

ชีวิตคือภาพโฮโลแกรมสามมิติ หรือคือมายาการ เพราะว่าประสบการณ์ชีวิตทั้งหมดที่พวกคุณกำลังมีกันอยู่นี้ในระหว่างที่กำลังอยู่ในร่างกายเนื้ออันนี้ เป็นแต่เพียงเศษเสี้ยวหนึ่งของความเป็นตัวตนรวมทั้งหมดของพวกคุณเองเท่านั้นเอง แต่ว่าเศษเสี้ยวอันนี้ก็มีความสำคัญ เพราะว่ามันจะทำให้พวกคุณได้มีโอกาสเผชิญกับความเป็นทวิภาวะ (duality) และได้มีโอกาสเผชิญกับสิ่งที่เป็นบวกและเป็นลบ เพราะว่าความเป็นทวิภาวะคือสิ่งที่ ego สร้างขึ้นมา

ความเป็นทวิภาวะคือคุณสมบัติหนึ่งของการแบ่งแยก และความเป็นทวิภาวะนี้เอง ก็คือสิ่งที่จะสามารถทำให้พวกคุณยึดติดอย่างเหนียวแน่นอยู่กับโลกแห่งมายาการนี้ได้

ลองจินตนาการดูสิว่า อีโก้ของพวกคุณนั้น เป็นแต่เพียง “ผู้จัดการ” ของพวกคุณเท่านั้นเอง หาใช่ “เจ้าของ” ของพวกคุณไม่ อีโก้ของพวกคุณนั้นเป็นแต่เพียงผู้จัดการตัวตนของพวกคุณเท่านั้นเอง แต่ว่า..ก็จะเหมือนกับผู้จัดการส่วนใหญ่นั่นแหละ ที่พอได้เข้ามาทำหน้าที่ดูแลและตัดสินใจในทุกๆเรื่องบนพื้นฐานของความเป็นทวิภาวะเป็นเวลานานๆหลายปีแล้ว ก็จะหลงคิดไปว่าตัวเองเป็นเจ้าของซะเอง

แต่ว่าในตอนนี้ “เจ้าของ” ตัวจริง (ซึ่งก็คือความตระหนักรู้อันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณเอง) ได้กลับมาแล้ว และก็กำลังต้องการที่จะมาบริหารจัดการทุกอย่างด้วยตัวเองแล้ว (ซึ่งหมายถึงชีวิตของพวกคุณ) แต่ว่าอีโก้ของพวกคุณก็ยังไม่อยากที่จะสูญเสียอำนาจของมันไป ดังนั้น ชาวโลกหลายคน จึงกำลังติดอยู่ท่ามกลางศึกสงครามระหว่างอีโก้และความตระหนักรู้ที่สูงส่งกว่าของพวกเขาเองอยู่ มันคือการดิ้นรนต่อสู้ด้านพลังงาน มันคือการดิ้นรนต่อสู้กับความเป็นทวิภาวะ

(หมายเหตุ : คำว่า “ความตระหนักรู้ที่สูงส่งกว่า” นั้น รูปธรรมชีวิตต่างมิติบางรูปธรรม ก็เรียกว่า “ตัวตนที่สูงส่งกว่า” หรือ Higher Self หรือ จิตวิญญาณ (Soul) แล้วแต่จะเรียก ซึ่งก็จะประมาณว่า คือ “จิตเดิมแท้” หรือ “พุทธจิต” นั่นเอง ส่วนอีโก้นั้น บ้านเราเรียกว่า “จิต” เฉยๆ หรืออาจจะเรียกว่า “จิตมนุษย์” ก็ได้ – ผู้แปล)

ในตอนนี้ “ความตระหนักรู้ที่สูงส่งกว่าของพวกคุณเอง” กำลังผสานรวมเข้ากับตัวตนอีกส่วนหนึ่งของพวกคุณเอง ที่เรียกว่า “อีโก้” อยู่ ด้วยความรัก และนี่แหละคือวิวัฒนาการที่กำลังเกิดขึ้นบนดาวเคราะห์โลกของพวกคุณอยู่ในขณะนี้หละ ซึ่งเมื่อใดที่การผสานรวมระหว่างความตระหนักรู้หลากมิตินี้ กับร่างกายเนื้อนี้ เสร็จสิ้นสมบูรณ์ลงแล้ว ความสมดุลอย่างสมบูรณ์แบบภายในสนามพลังงานแห่งความเป็นทวิภาวะนี้ก็จะเกิดขึ้นในทันที

และภายในสนามพลังงานแห่งความสมดุลอย่างสมบูรณ์แบบนี้เอง ที่จะทำให้พวกคุณสามารถตระหนักรู้ถึงโลกแห่งความเป็นจริงอื่นๆอันหลากหลาย ที่ตัวเองกำลังท่องไปอยู่ได้ แล้วพวกคุณก็จะตื่นขึ้นมาสู่ความเป็นหลากมิติ ซึ่งเป็นที่ๆตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณเองกำลังดำรงอยู่ และก็กำลังเล่นเกมนี้อยู่หละ

มันคือสนามพลังงานที่กระแสความคิดจะถูกเนรมิตออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงแบบฉับพลันทันที มันคือโลกแห่งความเป็นจริงที่พวกคุณจะสามารถท่องไปในกาลเวลาไหนๆก็ได้ หรือในโฮโลแกรมไหนก็ได้ ตามแต่จินตนาการของพวกคุณ มันคือโลกแห่งความเป็นจริงที่มีสภาพเป็นของไหล

..The Team..
................................................................
Source: Morning Messages
...............................................................

 

"ข้อความที่ 5: ทีมที่เต็มเปี่ยมไปด้วยความรัก"


(credit the picture from internet)

พวกเราขอแนะนำให้พวกคุณยืนอยู่ในโฮโลแกรมอันนั้นแหละ ในโลกแห่งความเป็นจริงทางกายภาพที่พวกคุณชื่นชอบและคุ้นเคยอันนั้นแหละ แล้วยินยอมให้จิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของพวกคุณเองขยายตัวออกมา แล้วยอมรับเอาศักยภาพแห่งความเป็นไปได้ที่ว่า มันจะมีประตูอยู่บานหนึ่ง ที่สามารถเปิดออกไปสู่โลกแห่งความเป็นจริงอื่นๆได้

และพวกคุณแต่ละคนก็กำลังถูกเชื้อเชิญให้เดินเข้าไปในนั้นอยู่ ซึ่งในนั้นมันก็จะมีรูปธรรมชีวิตที่เปี่ยมไปด้วยความรักอยู่ทีมหนึ่งที่พร้อมทุกเมื่อที่จะให้ความช่วยเหลือพวกคุณ และชี้นำทางให้กับพวกคุณ และให้กับชาวโลกคนอื่นๆทุกๆคน ในการผจญภัยแบบใหม่ในครั้งนี้

แต่กุญแจสำคัญที่พวกคุณจะต้องจดจำให้ได้ก็คือ ความสมัครใจ และ การร้องขอ ดังนั้น จงเอ่ยปากขอสิ่งที่พวกคุณต้องการออกมาอย่างชัดเจน แล้วจากนั้นก็จงปล่อยวางมันลง

(ปล.ถ้าไม่ร้องขอเบื้องบนก็ไม่อาจก้าวก่ายทางเลือกเสรีของมนุษย์ได้ เพราะมันเป็นกฎ และพอร้องขอแล้ว ต้องปล่อยวางลง อย่าไปกำกับมาก เพื่อให้พวกเขาได้ทำงานให้เราตามวิธีการของพวกเขา - ผู้แปล)

การฝึกฝนเชื่อมต่อกับส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์มากที่สุดของตัวพวกคุณเองในทุกๆวัน ด้วยวิธีการต่างๆ คือสิ่งที่มีความจำเป็น ซึ่งพวกคุณสามารถที่จะมอบของขวัญชิ้นนี้ให้กับตัวเองได้ โดยการนั่งอยู่ในความสงบแล้วทำความรู้สึกถึงร่างกายเนื้อของตัวเอง และทำความรู้สึกถึงกายแห่งพลังงานของตัวเอง

แล้วจากนั้น ในขณะที่พวกคุณกำลังหายใจออก และกำลังจดจ่อสติเอาไว้ที่หัวใจของตัวเอง ก็ให้ส่งความรู้สึกซาบซึ้งใจและความรู้สึกขอบคุณ ไปให้กับส่วนที่ศักดิ์สิทธิ์ของตัวเอง และจงยินยอมให้พลังงานแห่งความรักถูกส่งกลับมาด้วยความรู้สึกยินดีด้วย ซึ่งวิธีการฝึกง่ายๆนี้จะช่วยทำให้พวกคุณมีความเข้มแข็งมากยิ่งขึ้นในทุกๆระดับของความเป็นตัวตนของพวกคุณเอง

จงจำไว้ว่าพลังงานจะคล้อยตามความคิดเสมอ เพราะฉะนั้นแล้ว จงระวังความคิดของตัวเองให้ดี จงหมั่นตรวจตราดูความคิด, อารมณ์ความรู้สึก และคำพูดของตัวเองอยู่เสมอ เพราะว่าทั้งหมดที่กล่าวมานี้ ล้วนมีคลื่นความสั่นสะเทือนอยู่ด้วยกันทั้งสิ้น

มันเป็นหน้าที่รับผิดชอบของพวกคุณที่จะต้องมีสติรู้ และส่งแต่ลายเซ็นทางพลังงานของตัวเอง ที่มีระดับความสั่นสะเทือนสูงๆออกไปให้กับสนามพลังงานของจิตสำนึกมวลรวมของคนทั้งโลกอยู่เสมอ เพราะว่าสิ่งนี้มันมีความสำคัญมากเกินกว่าที่พวกคุณจะรู้ได้ซะอีก

..The Team..
...............................................................
Source: Morning Messages
..............................................................

 

"ข้อความที่ 6: การกระทำอย่างตั้งอกตั้งใจ"


(credit the picture from internet)

มันเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องเข้าใจในความล้ำค่าของ "การมีสติอย่างเต็มที่อยู่กับสิ่งที่ตัวเองกำลังกระทำอยู่" ซึ่งมันไม่สำคัญเลยว่าพวกคุณจะกำลังทำอะไรอยู่ หรือว่ากำลังทำมันอย่างไร

เพราะว่ากุญแจสำคัญก็คือการมีสติรู้อยู่กับมัน, และคือการสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่สูงๆอันบริสุทธิ์เข้าไปในงานหรือในหน้าที่ที่พวกคุณกำลังทำอยู่นั้น

และรวมถึงการเอิบอาบงานหรือหน้าที่ๆพวกคุณกำลังทำอยู่นั้น ด้วยคลื่นความสั่นสะเทือนอันใสสะอาดและกระจ่างชัดของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี

เพราะว่าการกระทำเล็กๆน้อยๆใดๆก็ตามที่เกิดจากความตั้งอกตั้งใจ ซึ่งหมายถึง การทำด้วยความรู้สึกเบิกบาน-มีความสุข, ซาบซึ้งใจ และ รู้สึกชื่นชมยินดีนี้ จะส่งคลื่นความสั่นสะเทือนกระเพื่อมออกมาจากชีวิตของพวกคุณ แล้วไปทำให้พลังงานภายนอกทั้งหมดที่มันไปกระทบสัมผัส เกิดการยกระดับขึ้นและเปลี่ยนรูปแบบไปในทางที่ดีขึ้น

ดังนั้น พวกคุณคนใดก็ตามที่กำลังฝึกฝนการสงบนิ่งอย่างมีสติรู้แบบนี้อยู่ ก็จะกลายเป็นตัวอย่างให้แก่คนอื่นๆ และจะกลายเป็นท่าเทียบเรือที่ปลอดภัย รวมถึงกลายเป็นคลื่นความถี่ที่สมดุลให้กับคนอื่นๆ เพื่อให้คนอื่นๆได้พึ่งพาอาศัยคลื่นความถี่ที่สมดุลนี้ แล้วสั่นสะเทือนตามไปด้วย แล้วจากนั้นจำนวนของพวกคุณก็จะเพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆ

จงสุภาพอ่อนโยนกับตัวเอง โดยการน้อมนำเอาจิตสำนึก/ความตระหนักรู้ของตัวพวกคุณเอง เข้าไปใส่ในงานที่ตัวเองกำลังทำอยู่นั้น และเข้าไปใส่ใน “ปัจจุบันขณะ” นั้นๆ..ด้วยความรัก แล้วจากนั้นก็เอิบอาบชั่วขณะแห่งปัจจุบันขณะนั้นๆ ด้วยความรู้สึกเบิกบาน-เป็นสุข, ด้วยความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี

แล้วเมื่อนั้น พวกคุณก็จะได้รู้ถึงและได้ประจักษ์ถึงความมีเกียรติ ของการที่ได้มาอยู่ในร่างกายเนื้อนี้ และก็จะได้ประจักษ์ถึงความศักดิ์สิทธิ์ของทุกๆสิ่งที่พวกคุณกระทำลงไป

..The Team..
............................................................
Source: Morning Messages
...........................................................

 

งามแปลชุดนี้แฝงนัยสำคัญอะไรหลายอย่าง
ขอบคุณ
ขอบคุณ
ขอบคุณ

 

ยอดเยี่ยมมากเลย สัมผัสได้ถึงความจริงที่อยู่เหนือกาลเวลา
คอยตามอ่านทุกข้อความนะครับ >>> ขอบคุณมาก (kiss)

 

"ข้อความที่ 7: จอกศักดิ์สิทธิ์ของความตระหนักรู้สีทอง"


(credit the picture from internet)

พวกเราขอเชิญพวกคุณและคนอื่นๆให้ลองมาสังเกตดูตัวเอง ว่ากำลังต่อต้านอะไรอยู่หรือเปล่า แล้วจากนั้นก็ให้ตามสายป่านอันนั้นไป เพื่อสาวไปให้ถึงต้นตอ หรือเมล็ดพันธุ์ของการต่อต้านที่ว่านั้น ซึ่งมันจะเป็นเสมือนปมของเชือกที่ผูกอยู่บนผืนผ้าที่ถักทอกันขึ้นมาเป็นโลกแห่งความเป็นจริงอันนี้ ดังนั้น ที่พวกคุณจะต้องทำก็คือ แค่คลายปมอันนั้นออกเท่านั้นเอง แล้วผืนผ้าที่ถักทอนั้นก็จะคลี่ออกมา

โดยปกติแล้วเมื่อมีอะไรใหม่ๆมาให้ตระหนักรู้ การตอบสนองของคนทั่วไปก็มักจะเป็นการต่อต้าน และการต่อต้านที่ว่านี้ก็จะมาในรูปแบบที่แตกต่างกันออกไป และด้วยวิธีการที่แตกต่างกันออกไป

ซึ่งคนบางคนก็อาจจะต่อต้านออกมาตรงๆแล้วปิดใจของตัวเองไปเลย โดยไม่ยอมรับในความเป็นไปได้ของสิ่งที่แตกต่างออกไปอันนั้นเลย และไม่ยอมรับในความเป็นจริงที่จริงยิ่งกว่าอันนั้นเลย

แต่สำหรับคนบางคนก็อาจจะต่อต้านอยู่ในใจลึกๆ จนมองไม่เห็นแม้กระทั่งความเป็นไปได้ของสิ่งที่แตกต่างออกไปอันนั้น และมองไม่เห็นความเป็นจริงที่จริงยิ่งกว่าอันนั้น

แต่ก็จะมีคนบางคนที่มองเห็นความเป็นไปได้ของสิ่งที่แตกต่างออกไปอันนั้นอยู่ และก็มองเห็นความเป็นไปได้ของความเป็นจริงที่จริงยิ่งกว่าอันนั้นอยู่ แต่ก็ยังเลือกที่จะปฏิเสธอยู่ดี เพราะว่าพวกเขายังต้องการที่จะยึดมั่นอยู่ในความเชื่อเดิมๆของตัวเองอยู่ต่อไป เพราะว่ามันทำให้พวกเขารู้สึกสะดวกสบายมากกว่า และเพราะว่าพวกเขายังต้องการที่จะรักษาอำนาจจอมปลอมของตัวเองเอาไว้อยู่ต่อไป

จงจำไว้ว่าพวกคุณคือจอกศักดิ์สิทธิ์ของความตระหนักรู้สีทองอันหนึ่ง ดังนั้น เวลาจะพูดหรืจะทำอะไรลงไปนั้น จงเคารพและให้เกียรติส่วนที่ดีเลิศและอลังการมากที่สุดของตัวเองด้วย

และพวกเราก็เคารพและให้เกียรติพวกคุณด้วยเช่นเดียวกัน และพวกเรายังเคารพและให้เกียรติพวกคุณ ในฐานะที่พวกคุณได้พากันสมัครใจลงมาเป็นส่วนสำคัญส่วนหนึ่งของกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นทางจิตสำนึก/ความตระหนักรู้อันน่าทึ่งในครั้งนี้ด้วย และกระบวนการเลื่อนระดับขึ้นดังกล่าวนี้ ก็กำลังถูกนำพาเข้ามาสู่แมทตริกซ์ และโครงข่ายของโลกแห่งความเป็นจริงของมนุษยชาติอยู่ในขณะนี้อยู่แล้ว

ดังนั้น เครื่องมือที่ดีที่สุด และมีคุณค่ามากที่สุดที่พวกคุณสามารถที่จะนำเอาไปใช้ได้ในช่วงเวลานี้ก็คือคลื่นความสั่นสะเทือนของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี

ซึ่งถ้าพวกคุณฝึกฝนตัวเองจนกลายไปเป็นผู้เชี่ยวชาญในการเรียกเอา และนำพาเอาคลื่นความสั่นสะเทือนอันบริสุทธิ์เหล่านี้มาใช้งานได้แล้ว มันก็จะเป็นประโยชน์ต่อพวกคุณอย่างมาก

เพราะว่าปาฏิหาริย์ทั้งหลาย และปรากฎการณ์ความบังเอิญที่เหลือเชื่อทั้งหลาย (synchronicities) จะเกิดขึ้นภายในคลื่นความถี่เหล่านี้นั่นเอง

..The Team..
................................................................
Source: Morning Messages
...............................................................

 

"ข้อความที่ 8: แพชูชีพของพวกคุณ"


(credit the picture from internet)

กลไกทางชีวภาพของร่างกายเนื้อของพวกคุณจะตอบสนองต่อคลื่นความสั่นสะเทือนของอารมณ์ความรู้สึกต่างๆอยู่ตลอดเวลา ซึ่งเมื่อใดที่พวกคุณแผ่ส่งคลื่นความสั่นสะเทือนของความสุข, ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ, ความรู้สึกชื่นชมยินดี และความรักออกมาแล้วหละก็ สารเคมีและฮอร์โมนต่างๆภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณ และคำสั่งต่างๆจากสมองของพวกคุณ ก็จะขยายตัวและเปิดออกมา เพราะว่าเซลต่างๆเหล่านั้นกำลังตอบสนองต่ออารมณ์ความรู้สึกที่มีระดับคลื่นความสั่นสะเทือนสูงๆเหล่านั้นอยู่

แล้วพวกคุณก็จะรู้สึกถึงความสบายๆที่จะแผ่ซ่านไปทั่วทั้งร่างของพวกคุณ และจิตใจของพวกคุณก็จะใสสะอาด และหัวใจของพวกคุณก็จะเปิดมากขึ้นกว่าเดิม และโลกภายในของพวกคุณก็จะขยายตัวมากขึ้นกว่าเดิม และความเชื่อมต่อของพวกคุณกับมิติที่สูงๆกว่าทั้งหลายก็จะเกิดขึ้นอย่างง่ายดายและอย่างราบรื่น

แต่ในทางตรงกันข้าม เมื่อใดที่พวกคุณรู้สึกหวาดกลัว, หรือโกรธ, หรือขุ่นเคืองใจขึ้นมาหละก็ ทุกสิ่งทุกอย่างภายในระบบร่างกายและจิตใจของพวกคุณก็จะหดตัวลง แล้วเซลทั้งหลาย และอวัยวะทั้งหลายที่อยู่ภายในร่างกายเนื้อของพวกคุณก็จะเอิบอาบไปด้วยฮอร์โมนแห่งความตึงเครียด และระบบของพวกคุณก็จะปิดตัวลงระดับหนึ่ง เพราะว่ามันจะเข้าสู่โหมดป้องกันตัวเอง แล้วระบบของพวกคุณก็จะปิดทำการ และความสั่นสะเทือนของพวกคุณก็จะหยาบขึ้นและหนักขึ้น

ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณแต่ละคนจะต้องฝึกฝนตัวเองให้สามารถยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้นให้ได้ เพื่อให้ไปอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่มีระดับคลื่นความสั่นสะเทือนสูงขึ้นแทน ซึ่งก็คือคลื่นความสั่นสะเทือนของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีนั่นเอง เพราะว่าอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้ จะกลายไปเป็น “แพชูชีพ” ของพวกคุณ ที่จะสามารถช่วยเหลือพวกคุณได้ในช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึงนี้

(หมายเหตุ : พวกเขาเปรียบอารมณ์เหมือนท้องทะเล ซึ่งเราจะสามารถเลือกได้ว่าจะจมอยู่ในทะเลอารมณ์เหล่านั้น หรือว่าจะขึ้นมาอยู่บน “เรือ” หรือ “แพ” แล้วล่องลอยไป หรือโต้คลื่นไปบนทะเลอารมณ์เหล่านั้นก็ได้ – ผู้แปล)

..The Team..
.................................................................
Source: Morning Messages
................................................................

 

"ข้อความที่ 9: อารมณ์คือคลื่นความถี่ชนิดหนึ่ง"


(credit the picture from internet)

อารมณ์ของมนุษย์นั้น มีความสำคัญอย่างมาก มากซะยิ่งกว่าที่พวกคุณเคยถูกบอกถูกสอนมาซะอีก เพราะว่าอารมณ์ทั้งหลายนั้น คือคลื่นความถี่ชนิดหนึ่ง หรือคือความสั่นสะเทือนชนิดหนึ่ง และจะไปมีปฏิสัมพันธ์กับ และไปเชื่อมประสานกับโลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเองด้วย เพราะว่าพวกมันคือจุดแห่งการดึงดูดของพวกคุณ

และพวกมันก็คือตัวชี้บ่งว่า หรือคือป้ายสัญญาณหรือแผนที่ที่บอกให้ทราบว่า..ตอนนี้ภายในระบบ “ร่างกาย/จิตใจ/อารมณ์/จิตวิญญาณ” ของพวกคุณนั้น มันกำลังอยู่ในสภาวะที่สมดุลดีอยู่ หรือว่ากำลังอยู่ในสภาวะที่สับสนวุ่นวายอยู่กันแน่

เพราะว่าเมื่อใดที่พวกคุณตกอยู่ในความหวาดกลัว, ตื่นตระหนก, โกรธ หรือวิตกกังวลแล้ว ความสั่นสะเทือนของอารมณ์เหล่านั้น ก็จะกลายเป็นข้อความที่มีความผิดปกติอย่างมาก ที่จะส่งไปถึงร่างกายของพวกคุณ และก็จะทำให้การทำหน้าที่ของอวัยวะต่างๆ และกล้ามเนื้อต่างๆของพวกคุณ ตกอยู่ในสภาวะที่ตื่นตระหนกตามไปด้วย แล้วร่างกายเนื้อของพวกคุณก็จะตกอยู่ในสภาวะที่ตื่นตัว และแยกตัวออกมาจากระบบโดยรวม (ซึ่งประกอบด้วย ร่างกาย/จิตใจ/อารมณ์/จิตวิญญาณ – ผู้แปล)

แต่เมื่อใดที่พวกคุณสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่ที่สูงๆของความสุข-ความเบิกบาน, ความรัก, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีแล้ว ระบบทั้งระบบของพวกคุณ ก็จะสั่นสะเทือนอยู่ในระดับความตระหนักรู้ที่สูงๆ ซึ่งก็คือความรู้สึกผ่อนคลาย, ตื่นตัว, สอดประสานกลมกลืนกัน, และสร้างสรรค์ เป็นต้น แล้วมันก็จะมีกระแสพลังงานหลั่งไหลไปมาระหว่างอะตอมแต่ละอะตอม, เซลแต่ละเซล และดวงดาวแต่ละดวงดาว

ในทางตรงกันข้าม เมื่อใดที่พวกคุณรู้สึกกลัว, โกรธ หรือขุ่นเคืองใจขึ้นมาหละก็ ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่ภายในระบบร่างกาย/จิตใจของพวกคุณก็จะหดตัวลง แล้วเซลต่างๆและอวัยวะต่างๆของพวกคุณ ก็จะเอิบอาบไปด้วยฮอร์โมนแห่งความตึงเครียด และระบบของพวกคุณก็จะปิดตัวลงระดับหนึ่ง เพราะว่ามันจะเข้าสู่โหมดป้องกันตัวเอง แล้วระบบของพวกคุณก็จะปิดทำการ และความสั่นสะเทือนของพวกคุณก็จะหยาบขึ้นและหนักขึ้น

ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณแต่ละคนจะต้องฝึกฝนตัวเองให้สามารถยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของตัวเองให้สูงขึ้นให้ได้ เพื่อให้ไปอยู่ในสภาวะอารมณ์ที่มีระดับคลื่นความสั่นสะเทือนสูงขึ้นแทน ซึ่งก็คือคลื่นความสั่นสะเทือนของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี นั่นเอง

เพราะว่าอารมณ์ความรู้สึกเหล่านี้จะกลายไปเป็น “แพชูชีพ” ของพวกคุณ ที่จะสามารถช่วยเหลือพวกคุณได้ในช่วงเวลาที่กำลังจะมาถึงนี้

(หมายเหตุ : พวกเขาเปรียบอารมณ์เหมือนท้องทะเล ซึ่งเราจะสามารถเลือกได้ว่า จะจมอยู่ในทะเลอารมณ์เหล่านั้น หรือว่าจะขึ้นมาอยู่บน “เรือ” หรือ “แพ” แล้วล่องลอยไป หรือโต้คลื่นไปบนทะเลอารมณ์เหล่านั้นก็ได้ – ผู้แปล)

และในวันนี้พวกเราอยากจะขอนำเสนอสิ่งนี้แก่พวกคุณ ซึ่งก็คือ..เมื่อใดที่พวกคุณสามารถรู้สึกถึงอารมณ์ หรือความคิดของตัวเองได้ ก็ขอให้ถามตัวเองทุกครั้งว่า

“พลังงานอันนี้มันเป็นพลังงานที่เป็นประโยชน์ต่อชีวิต หรือเป็นพลังงานที่จะมอบความมีชีวิตชีวาให้หรือไม่ หรือว่าความคิดนี้ หรืออารมณ์นี้ มันเป็นพลังงานที่จะไปบั่นทอน หรือจะเป็นอันตรายต่อชีวิตกันแน่?"

ซึ่งถ้าพวกคุณฝึกฝนถามตัวเองเช่นนี้เสมอๆแล้ว มันก็จะช่วยให้พวกคุณสามารถคงอยู่ในคลื่นความถี่ที่สูงๆตลอดเวลาได้

..The Team..
..............................................................
Source: Morning Messages
..............................................................

 

"ข้อความที่ 10: อารมณ์คือคลื่นความถี่ชนิดหนึ่ง (ต่อ)"


(credit the picture from internet)

มนุษย์โลกแต่ละคนคือระบบที่มีความสลับซับซ้อนระบบหนึ่งของสารเคมี, ฮอร์โมน, ความสั่นสะเทือน/คลื่นความถี่ และรวมถึง..ของความเชื่อ, สิ่งที่ถูกปลูกฝังมา, การยึดติดทางอารมณ์ และความเคยชินทางอารมณ์ด้วย

ดังนั้น ความปราถนาที่จะเข้าให้ถึงความสมดุล และค้นให้พบวิธีการควบคุมอารมณ์ของตัวเอง อย่างที่คุรุทั้งหลายสามารถทำกันได้นั้น จึงเป็นสิ่งที่มีความสำคัญต่อชีวิตของมนุษย์ทุกๆคน

อารมณ์ของพวกคุณนั้น ก็เปรียบดั่งทะเล ที่จะมีการขึ้นๆลงอยู่เสมอ เพราะว่าท้องทะเลจะได้รับผลกระทบจากลม, จากแรงดึงดูดของดวงจันทร์, และจากฤดูกาลอีกด้วย

ดังนั้น มันจึงเป็นสิ่งที่สำคัญมากที่มนุษย์โลกทุกๆคน จะต้องรู้ว่าตัวเองสามารถที่จะเลือกจมอยู่ในทะเลของอารมณ์ของตัวเองก็ได้ หรือว่าจะเลือกที่จะล่องลอยอยู่เหนือคลื่นทะเลอารมณ์ของตัวเองก็ได้ด้วย

“การมีสติรู้” คือเรือที่พวกคุณจะสร้างขึ้นมา เพื่อทำให้ตัวเองสามารถล่องลอย
อยู่เหนือคลื่นอารมณ์ของตัวเองได้ในแต่ละชั่วขณะ ดังนั้นมันจึงเป็นสิ่งสำคัญมากที่พวกคุณจะต้องรู้ว่า ตัวพวกคุณเองคือเรือลำนั้น ไม่ใช่ทะเล

จงจำไว้ว่าประสบการณ์ใดๆก็ตามที่ยังค้างคาอยู่ หรือที่ยังไม่ได้รับการแก้ไข หรือที่ถูกเก็บกดเอาไว้ ที่ถูกกระตุ้นให้โผล่ขึ้นมาใหม่อีกครั้งหนึ่งโดยเสียงเพลง, โดยกลิ่น หรือโดยความทรงจำก็ตาม จะไปฉุดดึงพวกคุณให้จมดิ่งลงไปสู่ท้องทะเลแห่งอารมณ์ทุกครั้งไป

เพราะฉะนั้นแล้ว จงปีนกลับขึ้นมาอยู่บนเรือลำนั้นใหม่อีกครั้งหนึ่งเสีย และจงจำไว้ว่าอารมณ์เหล่านี้ไม่ใช่ตัวตนของพวกคุณ เพราะว่าถึงแม้ว่าพวกคุณอาจจะรู้สึกถึงพวกมันได้ก็ตาม แต่ว่าอารมณ์เหล่านี้ก็แค่มาทำหน้าที่เป็นสัญญาณที่ชัดเจนเพื่อบ่งบอกว่า ตอนนี้พวกคุณกำลังเสียศูนย์อยู่นะ..เท่านั้นเอง

ณ.จุดศูนย์กลางของพวกคุณนั้น ซึ่งก็คือบนเรือแห่งการมีสติรู้ลำนั้น พวกคุณคือผู้ควบคุมและคือผู้นำวิถีของมัน

ทุกสิ่งทุกอย่างที่พวกคุณแต่ละคนทำลงไป ด้วยความสั่นสะเทือนแห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีนั้น จะไปช่วยยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของแมทตริกซ์โดยรวมให้สูงขึ้น และคลื่นความสั่นสะเทือนเหล่านี้ก็ยังจะช่วยประคองพวกคุณให้อยู่แต่บนเรือที่ลอยอยู่เหนือทะเลพายุอารมณ์ที่ปั่นป่วนได้

และด้วยเหตุนี้จึงทำให้พวกคุณสามารถที่จะเคารพและให้เกียรติความสง่างามและยิ่งใหญ่ของตัวเองได้

..The Team..
..............................................................
Source: Morning Messages
..............................................................

 

ขออนุญาตค่อยๆโพสต์ไปวันละนิดวันละหน่อยนะครับ
เพราะว่าถ้าโพสต์มากเกินไปพวกเราก็จะไม่มีเวลาย่อยข้อมูลเหล่านี้
แล้วก็อาจจะซึมซับกันไม่ได้เต็มที่ เพราะบางอย่างมันก็ต้องอาศัย
การค่อยๆคิดตรึกตรองตามไปด้วย

และที่สำคัญ ข้อความทุกข้อความไม่ว่าจะจากใครก็ตาม
โดยเฉพาะจากต่างมิติแบบนี้ มันก็จะมีพลังงานแฝงอยู่ด้วย
ดังนั้น การได้มีเวลาปรับตัวให้เข้ากับพลังงานเหล่านี้บ้าง
จึงจะเป็นการดีกว่า และสมควรกว่าหนะครับ

.............................................

 

ชอบรูปภาพในกระทู้นี้มาก อลังการ จินตนาการ สร้างสรรค์ สวยงามดี

 

"ข้อความที่ 11: พวกคุณคือผู้ที่มาเพื่อยกระดับให้มันสูงขึ้น"


(credit the picture from internet)

มนุษย์โลกแต่ละคนมักจะคบหาสมคมกับแต่ผู้ที่สามารถเข้ากันได้ และมีระดับคลื่นความถี่ระดับเดียวกันเท่านั้น ดังนั้น พวกคุณจึงสามารถที่จะมองย้อนกลับไปดูประสบการณ์ชีวิตที่ผ่านๆมาของตัวเองได้ ว่าผลลัพธ์ของการมีระดับความสั่นสะเทือนนั้นๆของตัวเองในขณะนั้นๆหนะคืออะไร

ลองมองย้อนกลับไปดูอดีตของตัวเองดูสิ แต่ว่า..พวกเราก็จะต้องขอบอกว่า..ให้มองดูด้วยใจที่เป็นกลาง โดยไม่มีการตัดสินชี้ถูกผิดนะ..ให้แค่มองดูประสบการณ์เหล่านั้น หรือรูปแบบเหล่านั้นเฉยๆว่า..ผู้คนที่พวกคุณดึงดูดเข้ามาหาตัวเองในขณะนั้นๆเป็นอย่างไร, อาชีพการงานที่พวกคุณใช้หาเลี้ยงชีพในขณะนั้นๆเป็นอย่างไร, มันมีความสุขหรือความทุกข์เกิดขึ้นในขณะนั้นๆอย่างไรบ้าง?

และเมื่อพวกคุณได้สังเกตการณ์ดูชีวิตของตัวเองด้วยใจที่เป็นกลางแบบนี้ไปแล้ว พวกคุณก็จะเห็นว่ามันมีรูปแบบเดิมๆ หรือนิสัยเดิมๆ และสิ่งเดิมๆเกิดขึ้นซ้ำแล้วซ้ำเล่าอยู่อย่างนั้น เพราะว่าพวกคุณไปดึงดูดพวกมันเข้ามาไม่หยุดหย่อน

ซึ่งความรู้อันนี้แหละ ที่จะเป็นพลังอำนาจของพวกคุณหละ เพราะว่าเมื่อรู้เช่นนี้แล้ว ตอนนี้..พวกคุณก็สามารถที่จะเริ่มเปลี่ยนระดับคลื่นความถี่ของตัวเอง และอารมณ์ความรู้สึกของตัวเอง และความคิดของตัวเองใหม่ได้แล้ว

และเมื่อใดที่พวกคุณตัดสินใจที่จะเปลี่ยนระดับคลื่นความถี่, อารมณ์ความรู้สึก และความคิดของตัวเองให้สูงขึ้นเช่นนี้แล้ว พวกคุณก็จะไปดึงดูดเอา และไปนำพาเอาผลลัพธ์ที่ดีกว่าเดิมเข้ามาหาตัวเองโดยธรรมชาติ

จงจำไว้ว่านี่คือโฮโลแกรม นี่คือมายาการ แต่ว่า..ตัวตนที่แท้จริงของพวกคุณนั้น
คือผู้สร้างที่มีความยิ่งใหญ่อลังการและทรงพลังอำนาจ

พวกคุณคือผู้ที่มาเพื่อแปลงคลื่นความถี่ของพลังงาน พวกคุณคือผู้ที่จะมายกระดับให้มันดีขึ้น

ตอนนี้ดาวเคราะห์โลกดวงนี้กำลังปกคลุมไปด้วยพลังงานที่หนาแน่นทึบตัน และไม่ดีไม่งามทั้งหลายอยู่ เพราะฉะนั้น พวกคุณจึงพากันมาที่นี่ เพื่อมาเล่นอยู่ในโฮโลแกรมอันนี้ และเพื่อมานำพาเอาความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีของตัวเองมาใส่ไว้ในโฮโลแกรมอันนี้ นั่นแหละคือวิธีการที่จะทำให้เอกภพแห่งนี้มีระดับความสั่นสะเทือนที่สูงขึ้นหละ คือด้วยการใช้คลื่นความสั่นสะเทือนมาเยียวยารักษาด้วยความตั้งใจและจริงใจไปทีละน้อยๆทีละน้อย

..The Team..
................................................................
Source: Morning Messages
...............................................................

 

"ข้อความที่ 12: งานเพื่อเปลี่ยนแปลงคลื่นความถี่"


(credit the picture from internet)

ร่างกายเนื้อ หรือร่างกายทางกายภาพของพวกคุณ ถูกออกแบบมาเพื่อใช้ห่อหุ้มแก่นแท้อันศักดิ์สิทธิ์ ซึ่งก็คือจิตวิญญาณที่เป็นแก่นแท้ของพวกคุณเอาไว้ในขณะที่พวกคุณกำลังทำการเปลี่ยนรูปแบบ และแปลงสภาพของพลังงานที่หนาแน่นทึบตันและมีคลื่นความถี่ที่ต่ำๆอยู่นี้

ซึ่งพลังงานดังกล่าวนี้ก็เช่น พลังงานของความเกลียด, ความกลัว, ความมีอัคติ, ความโลภ, การชอบบงการ และควบคุมผู้อื่นๆ และ การใช้ความคิดของตัวเองเป็นใหญ่ เป็นต้น

ร่างกายเนื้อของพวกคุณถูกออกแบบมาอย่างน่าพิศวง มันถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถฟื้นฟู และสร้างเซล, และเนื้อเยื่อ และกระดูกขึ้นมาใหม่เองได้ตลอดเวลา มันถูกออกแบบมาเพื่อให้สามารถเยียวยารักษาตัวเองได้ มันถูกออกแบบมาเพื่อช่วยเหลือวิญญาณของพวกคุณในขณะที่วิญญาณของพวกคุณได้บรรลุภาระกิจที่มันได้เลือกที่จะลงมาทำแล้วนั้น มันถูกออกแบบมาเพื่อให้พวกคุณใช้
เพื่อร่วมเล่นอยู่ในโฮโลแกรมแห่งนี้ในขณะที่อยู่บนดาวเคราะห์โลกดวงนี้

ดังนั้น เป้าหมายของพวกเราก็คือ การช่วยให้พวกคุณจดจำตัวตนที่แท้จริงของตัวเองในฐานะที่เป็นมนุษย์แห่งดวงดาวหลากมิติให้ได้ พวกคุณมีตัวรับสัญญาณ และมีการเชื่อมต่ออยู่กับกาแล็กซี่ และอยู่กับมิติทุกๆมิติ และอยู่กับกาลเวลาทุกๆกาลเวลาอยู่ภายในตัวเองอยู่แล้ว

พวกคุณมาที่นี่ ก็เพื่อที่จะมาเปลี่ยนรูปแบบของพลังงาน โดยใช้ประตูมิติที่อยู่ภายในหัวใจของพวกคุณเอง เพราะว่า ณ.ที่ตรงนั้นมันคือหม้อแปลงพลังงานอันเยี่ยมยอด พวกคุณคือมนุษย์แห่งดวงดาว และเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติ และเป็นหม้อแปลงพลังงานอันหนึ่ง

เมื่อใดที่พวกคุณสามารถจดจำพลังอำนาจที่แท้จริงของตัวเองได้แล้ว พวกคุณก็จะแผ่คลื่นความถี่ และความสั่นสะเทือนของตัวเอง ออกไปรวมกับของคนอื่นๆที่มีจิตใจคล้ายๆกัน เพื่อยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของแมทตริกซ์ของโลกให้สูงขึ้น

เมื่อใดที่ภายในหัวใจของพวกคุณสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่ของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีอย่างแน่วแน่แล้ว คลื่นความถี่เหล่านี้มันก็จะแผ่ออกมาสู่ภายนอก แล้วเข้าไปสู่แมทตริกซ์ของโลก และเข้าไปสู่กาแล็กซี่ต่อไป

แล้วคลื่นความถี่เหล่านี้มันก็จะเริ่มก่อตัวมากขึ้น คือมันจะเริ่มเพิ่มขนาดและจำนวนของหน่วยที่สั่นสะเทือนมากขึ้น เพราะว่ามันจะคล้ายๆกับ “ซ่อมเสียง” (tuning fork) ที่กำลังสั่นสะเทือนอยู่ด้วยคลื่นความถี่ของความสุข-ความเบิกบาน, ความความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี คือมันจะไปกระตุ้นให้ หรือไปเร้าให้คนอื่นๆหันมาสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่เดียวกันนี้ด้วยเช่นเดียวกัน

นี่แหละคืองานรับใช้โลกและมวลหมู่มนุษยชาติของพวกคุณหละ นี่แหละคือการทำหน้าที่เป็นตัวแปลงพลังงานของพวกคุณหละ

(ปล.ซ่อมเสียง หรือ tuning fork ใดๆ เมื่อถูกเคาะให้สั่นสะเทือนแล้ว และเมื่อนำไปไว้ใกล้ๆกับซ่อมเสียงอันอื่นๆแล้ว มันก็จะเหนี่ยวนำให้ หรือกระตุ้นให้ซ่อมเสียงอันอื่นๆสั่นสะเทือนด้วยคลื่นความถี่เดียวกันนั้นตามไปด้วย – ผู้แปล)

..The Team..
.................................................................
Source: Morning Messages
.................................................................

 

"ข้อความที่ 13 : ช่องว่างภายในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณ"


(credit the picture from internet)

มันเป็นภูมิปัญญาอันเฉลียวฉลาดของหัวใจของมนุษย์เอง ที่ทำให้มนุษย์สามารถเยียวยารักษาตัวเองได้อย่างสมบูรณ์แบบ และสามารถเชื่อมต่อกับมิติต่างๆและดวงดาวต่างๆได้อย่างสมบูรณ์แบบ

ดังนั้น พวกเราจึงได้พร่ำบอกพวกคุณอยู่เสมอๆว่า ให้กลับเข้าไปอยู่ภายในช่องว่างอันศักดิ์สิทธิ์ ที่อยู่ภายในหัวใจของพวกคุณเอง แล้วแผ่ส่งพลังงานแห่งความรัก และพลังงานแห่งความรู้สึกขอบคุณ ออกมาสู่โลกแห่งความเป็นจริงของพวกคุณเอง เพราะว่าภายในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์ของพวกคุณนี้เอง ที่กระบวนการเปลี่ยนรูปแบบอันมหัศจรรย์จะสามารถเกิดขึ้นได้

ดังนั้น พวกเราจึงขอสนับสนุนและขอส่งเสริมให้พวกคุณ เริ่มทำความสะอาดช่องว่างภายในหัวใจของตัวเองเสีย เพื่อให้มันสะอาดหมดจดปราศจากมลทินทางพลังงาน และมลทินทางอารมณ์ใดๆทั้งสิ้น จงขัดสีฉวีวรรณมันให้สะอาดแวววาวจนเป็นเงา จงเปิดช่องให้แสงสว่างสาดส่องเข้ามา จงระบายความอับชื้นให้ออกไปให้หมดเสีย แล้วจงใช้ชีวิตอยู่ในนั้น

เพราะว่าตราบใดที่หัวใจของพวกคุณมีพลังงานของอารมณ์ความรู้สึกเก่าๆแห่งความเจ็บปวด หรือแห่งความโศกเศร้าเสียใจ หรือแห่งความไม่ไว้เนื้อเชื่อใจ ตกค้างอยู่หรือคั่งค้างอยู่หละก็ ก็จะทำให้ความสามารถในการเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนของพวกคุณลดน้อยลงไป เพราะว่ามันถูกบิดเบือนหรือขัดขวาง

และเมื่อใดที่พวกคุณ “ปิดใจ” ตัวเองต่อคนอื่นๆแล้ว มันก็จะเป็นการปิดการเชื่อมต่อกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบนด้วย เพราะฉะนั้น มันจึงถึงเวลาแล้วที่มนุษย์โลกทุกๆคน จะต้องหันมาเยียวยารักษาหัวใจที่บาดเจ็บของตัวเองเสียที

ในทุกๆการกระทำของพวกคุณ สิ่งจะช่วยนำทางให้กับพวกคุณได้ และสิ่งที่จะช่วยยกระดับคลื่นความสั่นสะเทือนของพวกคุณให้สูงขึ้นได้ ก็คือภูมิปัญญาจากหัวใจของพวกคุณเองนั่นเอง ดังนั้น จงฝึกถามหัวใจของตัวเองซะก่อน ก่อนที่จะไปถามจิตใจของตัวเอง (จิตใจคือความคิดบวกอารมณ์ความรู้สึก – ผู้แปล)

จงฝึกเชื่อมโยงและเชื่อมต่อภูมิปัญญาจากหัวใจของพวกคุณ ให้เข้ากับภูมิปัญญาจากสมองของพวกคุณเอง

จงฝึกแผ่กระแสพลังงานแห่งความรักแบบไม่มีเงื่อนไข, และกระแสพลังงานแห่งความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดี ออกมาจากหัวใจของพวกคุณเอง ไม่ใช่จากจิตใจของพวกคุณ

จงยินยอมให้ตัวเองมองเห็นว่า “ช่องว่างภายในหัวใจอันศักดิ์สิทธิ์” ของพวกคุณเอง คือสถานที่ที่กว้างใหญ่ไพศาล, แผ่ขยายออกไปกว้างไกล, ไร้ขอบเขต, และเต็มเปี่ยมบริบูรณ์ เพราะว่ามันคือลิงค์ที่คอยเชื่อมโยงพวกคุณเอาไว้กับโครงข่ายของเอกภพอยู่ และมันก็คือเส้นทางกลับบ้านของพวกคุณ

..The Team..
................................................................
Source: Morning Messages
................................................................

 

"ข้อความที่ 14 : รูปธรรมชีวิตหลากมิติผู้ที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบของพลังงานได้"


(credit the picture from internet)

เมื่อใดที่พวกคุณดำรงอยู่ใน “ปัจจุบันขณะ” และมีสติสัมปชัญญะรับรู้ถึงความยิ่งใหญ่อลังการของตัวเองอยู่ และมองดูความเป็นไปภายนอกจากคลื่นความสั่นสะเทือนของความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีอยู่

เมื่อนั้นมันก็จะมีกระแสการไหลของพลังงานเกิดขึ้น เพราะว่ามันจะมีการเชื่อมต่ออยู่กับแมทตริกซ์ของมิติที่สูงกว่า ซึ่งก็คือโครงข่ายแห่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์เบื้องบน ซึ่งเป็นที่ๆทุกสิ่งทุกอย่างสามารถเป็นไปได้ทั้งหมด และมันก็จะต้องอาศัยประตูมิติที่อยู่ตรงหัวใจของพวกคุณเท่านั้น ถึงจะสามารถเข้าถึงแมทตริกซ์ของมิติที่สูงกว่าที่ว่านี้ได้

มนุษย์โลกคือรูปธรรมชีวิตหลากมิติที่สามารถเปลี่ยนรูปแบบของพลังงาน ที่หนาแน่นทึบตันและมีระดับความสั่นสะเทือนต่ำๆได้

แต่มนุษย์ส่วนใหญ่กลับปิดประตูหัวใจของตัวเองไปเสียแล้ว เพราะว่าพวกเขาเคยพบกับความเจ็บปวดทางอารมณ์มาก่อน หรือเคยสูญเสียความรักมาก่อน หรือเคยถูกหักหลัง หรือเคยถูกปฏิเสธมาก่อน ดังนั้น คลื่นความถี่เหล่านี้แหละ ที่พวกเขาจะต้องทำให้มันเปลี่ยนรูปแบบไปเสีย ซึ่งนั่นแหละคือการมอบของขวัญให้กับสนามพลังงานของคนทั้งโลกหละ

อันดับแรก มนุษย์โลกแต่ละคนจะต้องเปลี่ยนรูปแบบพลังงาน ที่หนาแน่นทึบตันและมีคลื่นความสั่นสะเทือนต่ำๆของตัวเองให้หมดไปเสียก่อน เพราะว่ามันเป็นหน้าที่ของพวกเขาที่จะต้องยกระดับคลื่นความถี่แห่งความเจ็บปวด, แห่งการสูญเสียความรัก, แห่งการถูกทรยศหักหลัง, และแห่งการถูกปฏิเสธที่มีอยู่ภายในสนามพลังงานของหัวใจตัวเองให้สูงขึ้นให้ได้

และเมื่อใดที่ประตูมิติแห่งหัวใจของมนุษย์แต่ละคนถูกชำระล้างให้สะอาด และปราศจากความเจ็บปวดใดๆแล้ว ไม่ว่าจะด้วยการจินตนาการหรือเป็นความจริงก็ตาม เมื่อนั้นมันก็จะกลายไปเป็นหม้อแปลงพลังงานที่ทรงพลังอำนาจขึ้นมาทันที และมันก็จะสามารถนำไปใช้เพื่อเปลี่ยนรูปแบบของคลื่นความถี่ที่หนาแน่นทึบตันของพลังงานแห่งความกลัว, ความเกลียดชัง, ความมีอัคติและความเย็นชา ที่อยู่ภายในสนามพลังงานของคนทั้งโลกได้อีกด้วย

มีวิธีการฝึกอยู่วิธีการหนึ่งที่เหล่านักปราชญ์ของพวกคุณเคยสอนเอาไว้ที่บอกว่าให้พวกคุณหายใจเอาความทุกข์ยากของโลกเข้าไป ในหัวใจของตัวเอง แล้วเปลี่ยนรูปแบบคลื่นความถี่ของพวกมันในนั้น (ด้วยคลื่นความถี่แห่งความรัก, ความสุข-ความเบิกบาน, ความรู้สึกซาบซึ้งใจ และความรู้สึกชื่นชมยินดีของพวกเราเอง – ผู้แปล) แล้วจากนั้นจึงหายใจเอาคลื่นความถี่ที่ถูกเปลี่ยนรูปแบบไปแล้วนั้นออกมา ซึ่งนี่ก็เป็นวิธีการปฏิบัติที่ทรงพลังอำนาจและน่าอัศจรรย์อย่างยิ่งวิธีหนึ่ง

และก็มีวิธีการปฏิบัติอยู่อีกวิธีการหนึ่งที่น่าทึ่ง และทรงพลังอย่างมากเช่นเดียวกันซึ่งก็คือ การคงอยู่ใน “ปัจจุบันขณะ” อย่างมีความสุข-ความเบิกบาน, มีความรู้สึกซาบซึ้งใจ และมีความรู้สึกชื่นชมยินดี

มันเป็นสิ่งที่สำคัญมากสำหรับมนุษย์โลกแต่ละคนที่จะต้องก้าวเข้าไปสู่ความยิ่งใหญ่อลังการของตัวเอง และไปเป็นเจ้าของอำนาจอธิปไตยในตนเอง ในฐานะที่ตัวเองเป็นรูปธรรมชีวิตหลากมิติให้ได้

..The Team..
................................................................
Source: Morning Messages
................................................................