ความมั่นคงทางด้านอาหาร กับ ข้าวไทย

โครงการนี้คาดว่าประเทศเรามีข้าวสำหรับบริโภคแน่นอน (แต่ไม่รู้ว่านานเท่าไร) หากในวันข้างหน้าทั่วโลกเกิดภัยพิบัติ หรือสภาพภูมิอากาศเปลี่ยนแปลงไปโดยสิ้นเชิง โครงการนี้จะไร้ประโยชน์ทันทีถ้าการเก้บรักษาข้าวไม่ดีเพียงพอ การรับจำนำถือว่ารัฐมีข้าวในมือแน่นอน ไม่มีการให้ความช่วยเหลือแบบให้เปล่า.....มันเหมือนรัฐได้ 2 เด้ง คือ 1.ได้ช่วยเหลือเกษตรกร (พิจารณาแบบบริสุทธิ์ก่อนครับ) 2. รัฐได้ความมั่นคงทางด้านอาหาร ถ้าจำไม่ผิดมีรายงานวิจัยเกี่ยวกับราคาอาหารโลกของ WTO หรือเปล่าไม่แน่ใจ ทุกท่านลองไปค้นคว้าอีกทีครับ ในอีก 10 ปีข้างหน้าราคาอาหารจะเพิ่มขึ้นไป 120% ถ้าผิดพลาดก็รบกวนผู้รู้ช่วยแก้ไขอีกทีครับ จากการคาดการณ์ส่วนตัวคาดว่าราคาอาหารน่าจะทวีคูณขึ้นอย่างรวดเร็วและอาจมาเร็วเกินคาด อยากฝากให้ทุกท่านลองพิจารณาครับ

"จำได้ตอนน้ำท่วมปี 54 ราคาอาหารและน้ำในพื้นที่ประสบภัยแพงมาก อันนี้ไม่น่ากังวลเนื่องจากมีเงินฉุกเฉินมากพอใช้จ่าย แต่ที่สำคัญ คือ มันไม่มีขายให้เรานะสิ และต้องเดินทางไกลด้วย โอ้อันนี้อันตรายแล้วครับ ถึงท่านจะมีเงินมากพอก็หาซื้อกินในพื้นที่ลำบาก ผมต้องอพยพออกจากพื้นที่ครับ." ฝากช่วยกันครับ

 

ลองดูผลการผลิตข้าวจากประเทศต่างๆประกอบครับ
แล้วถ้าหากประเทศใหญ่ประสบปัญหากับสภาพอากาศที่เปลี่ยนแปลงแล้วทำให้ผลผลิตลดลง โลกจะเกิดอะไรขึ้นบ้าง

ขอบคุณข้อมูลจาก TDRI ครับ

 

แต่ว่า ทางประเทศไทยเองจะมีความสามารถในการเก็บรักษาข้าวไว้ได้นานแค่ไหน
และรักษาปริมาณการผลิตข้าวในไทยได้ซักเท่าไรกัน ?

 

ตอนนี้ชาวนาเร่งปลูกข้าวจนไม่ได้สนใจเรื่องคุณภาพ?
กลับมีการเร่งผลผลิตเพื่อนำมาใช้จำนำเพื่อให้ได้ราคาที่รัฐทำประชานิยมไว้?
ซึ่งมากกว่าความเป็นจริง?
ทำให้เราไม่สามารถที่จะจำหน่ายข้าวออกไปสู่ตลาดโลกได้ เพราะคู่แข่งข้าวมีราคาถูกกว่า?
อีกทั้งการที่ชาวนาเร่งปลูกข้าว จนไม่คำนึงถึงคุณภาพจึงแปลกปนไปด้วยสารเคมีต่างๆมากมายทำให้ข้าวไทยคุณภาพต่ำลงๆจนแพ้เพื่อนบ้านในที่สุด?
ผลปรากฎว่าไทยเสียแชมป์ส่งออก?
ข้าวเป็นพืชที่ปลูกได้ในเวลาไม่นานประมาณ4เดือนต่อรอบเมื่อรัฐรับจำนำในราคาที่สูงเกินจริงจึงทำให้ชาวนาทั้งประเทศเร่งผลิตเพื่อนำมาจำนำทำให้มีข้าวเข้ามาอยู่ที่ภาครัฐเป็นจำนวนมาก โดยไม่สามารถที่จะจำหน่ายได้ทันเพราะรัฐเก็บข้าวไว้หมด จนผู้ที่เคยส่งออกข้าวไม่มีข้าวไปส่งต่างประเทศ เพราะชาวนาจำนำข้าวหมดทำให้ตลาดข้าวพัง?
จำนวนข้าวที่เข้ามาเป็นปริมาณมากเมื่อรัฐไม่มีปัญญาที่จะขายข้าวได้ทัน จึงมีต้นทุนมากขึ้นเป็นทวีคูณ ทั้งค่าจัดการ ค่าจัดเก็บรักษาฯลฯ
ข้าวเป็นผลผลิตที่มีเวลา สามารถที่จะเน่าเสียได้และราคาและคุณภาพ ลดลงไปเรื่อยๆตามระยะเวลาถ้าเก็บไว้นาน ก็จะไม่เป็นที่ต้องการของตลาด เพราะพืชชนิดนี้สามารถปลูกได้ทั่วไป ไม่เฉพาะประเทศเรา?

 

การวางแผนเรื่องอาหาร เป็นสิ่งที่ดีและควรทำ?และต้องรีบทำ
มีหลายประเทศในโลกที่ไม่ค่อยมีที่ดินหรือมีที่ดินน้อย หรือพื้นที่ไม่สมบูรณ์ ไม่เหมาะทำการเกษตร ได้เริ่มทำเรื่องนี้แล้วอย่างจริงจัง เพื่อความมั่นคงของประชากรในชาติเค้าในอนาคต มีการเช่าที่ทำการเกษตร ปศุสัตว์ และอื่นๆในด้านเกี่ยวกับอาหารในประเทศด้อยพัฒนาหรือยากจน ต่างๆทั่วโลกที่ให้เช่าซื้อหรือให้สัมปทาน
เพราะมีการคาดการณ์ว่าในอนาคตอันไม่ไกลนี้โลกจะพบกับภัยพิบัติต่างๆอันเป็นผลมาจากการเอาเปรียบธรรมชาติของสัตว์โลก ซึ่งจะส่งผลรุนแรงในด้านต่างๆให้วิปริตผิดไปจากเดิม
ทำให้แหล่งอาหารของโลก เสียหายและมีจำนวนไม่พอเนื่องจากประชากรของโลกที่จะเพิ่มมากขึ้นในอนาคตด้วย?

 

ประเทศจีนมีภัยพิบัติบ่อย
จึงมี stock ข้าวทุกสองปี คือ ถ้าสองปีไม่ได้ใช้ก็ระบายออกเก็บใหม่
มีการจัดการเรื่องความชื้น เพื่อรักษาข้าวให้เก็บไว้ได้นาน
คือจัดการเรื่องมอดแมลง(ปกติทุกสามเดือน) และความชื้น(เพื่อไม่ให้ข้าวเน่า)

ประเทศไทยเรามีการจัดสรรเรื่องข้าวอย่างดี???
หรือแค่เพื่อคอร์รัปชั่น จะเอามากินได้เปล่า..

โลกกำลังแปรปรวน คนไทยเก่งๆยังมีมากมาย
ประเทศต้องการปฏิรูปทุกด้าน เพื่อให้พวกเขาเข้ามาช่วยประเทศ
ไม่ใช่ถูกไล่ออก แล้วเอาพรรคพวกไร้ฝีมือเข้ามานั่งแท่นโกงกิน

 

ข้อมูลการบริโภคข้างของคนไทยลดลงไปมาก คือ โดยเฉลี่ย 100-110 กิโลกรัม/คน/ปี (แสดงว่าคนไทยเราเลือกกินอาหารเพื่อสุขภาพกันมากขึ้น) ซึ่งโดยเฉลี่ยคนเอเชียบริโภคข้าวประมาณ 200 กิโลกรัม/คน/ปี มีคนบริโภคข้าวทั่วโลกประมาณสามพันล้านคน จากข้อมูลคร่าวๆ รัฐบาลมีข้าวในโกดังอยู่ประมาณ 16-20 ล้านตัน หากเกิดภัยพิบัติขึ้นจริงและประเทศเราไม่สามารถผลิตข้าวได้เลย นั่นคือเราจะต้องใช้ข้าวบริโภคได้ 12.6 ล้านตัน/ปี จากปริมาณของรัฐ ณ ปัจจุบัน เรามีข้าวบริโภคแน่นอนเป็นเวลา 1ปี 3เดือน แบบสบายๆ ถ้ามีข้าวเข้ามาในโกดังอีกซักฤดูกาลเราก็จะมีข้าวไว้กินแบบสบายๆ 2ปี โดยไม่ต้องไปง้องอนขอซื้อจากต่างประเทศครับ ที่สำคัญเก็บรักษาให้ดีและมีระบบการจัดการที่ดีคาดว่าน้ำท่วมใหญ่อีกซักครั้งก็จะได้ไม่ต้องตกใจตื่นตระหนกกันครับ (อาหาร ยา และอาวุธสำคัญมากยามที่โลกเผชิญภัยพิบัติ) ฝากช่วยกันครับ

 

ต้องทำความเข้าใจกันก่อนนะครับว่า

1.ข้าวไม่ใช่ว่าจะเก็บไว้ในโกดังเป็นสองสามปีโดยไม่เสื่อมไม่เสีย เก็บไว้นานๆมูลค่ามันจะลดลงเรื่อยๆครับ

2.รัฐบาลไม่ได้มีความคิดจะเก็บข้าวไว้ในโกดังเพื่อที่จะเตรียมการอะไรทั้งสิ้น กลับกันก็คือรัฐบาลอยากจะระบายข้าวออกอย่างมาก ยิ่งเร็วยิ่งดี แต่การที่จะระบายข้าวตอนนี้ก็คือต้องขาดทุนทันทีอย่างมหาศาลเพราะต้องยอมขายไปในราคาต่ำกว่าที่รับจำนำไว้มาก ซึ่งไม่เป็นผลดีกับผลงานของรัฐบาล จึงใช้วิธีเก็บไว้เฉยๆ ถือหลักว่าถ้าไม่ขายก็ไม่ขาดทุน เมื่อไม่ยอมขายขาดทุนก็ไม่มีเงินมาจ่ายชาวนา นี่จึงเป็นที่มาของการที่จะต้องกู้เงินมาจ่ายชาวนา

แต่ข้าวที่อยู่ในโกดังอย่างมากมายนี่แหละครับเป็นปัจจัยหนึ่งที่จะต้องหาทางอยู่ในอำนาจให้ได้เเพราะตออันใหญ่เบ้อเริ่มมันกำลังจะผุดออกมาครับ

ผมเห็นการเผยแพร่แนวคิดว่าเรามีข้าวเก็บไว้ก็ดีแล้วอยู่เนืองๆในห้องภัยพิบัตินี้ แต่ก็ไม่เห็นมีใครเคยบอกได้ว่าภัยพิบัติอะไร เมื่อไหร่ ข้าวนะครับไม่ใช่ทองคำ เก็บไปนานๆจากมีมูลค่าจะกลายเป็นไร้มูลค่าเอา จะจัดการเก็บดีแค่ไหนมันก็มีอายุของมันครับ แล้วในขณะทีี่เราเก็บไว้แต่ชาติอื่นผลิตขายเอาๆ ส่วนเราเก็บไว้แล้วต้องมานั่งแช่งโลกให้มีภัยใหญ่เพื่อจะได้ถูกแจ๊คพอตเพื่อเอาข้าวมาใช้ นี่คงไม่ใช่ความคิดที่ดีครับ

ย้ำอีกครั้งครับว่ารัฐบาลไม่มีความคิดจะเก็บข้าวไว้นานๆ กลับกันก็คืออยากจะขายอยากจะระบายออกใจจะขาดเพราะภาระมันเยอะ

มีคำถามไว้ให้คิดเล่นๆ ถ้าคุณทำงานอยู่ในบริษัทหนึ่ง ผลงานการค้าขายอะไรก็ไม่มี และทุกๆเดือนคุณรู้ว่าเจ้าของต้องไปกู้หนี้ยืมสินมาจ่ายเงินเดือน บางคนก็ได้เงินเดือน บางคนก็ทำงานฟรีมาหลายเดือนแล้วโดยไม่ได้เงินเดือน พอถูกร้องเรียน เจ้าของก็บอกว่ากำลังทำเรื่องกู้อยู่ เดี๋ยวกู้ได้คุณได้รับแน่เงินเดือน ผมถามจริงๆว่าคุณอยากจะทำงานอยู่หรือเปล่าครับกับบริษัทแบบนี้

 

เห็นด้วยครับ ผมคงลาออกและไปหางานบริษัทอื่นทำครับ
ฝากพิจารณาอีกแง่มุมครับ (ความคิดเห็นส่วนตัวครับ) คือ ทุกท่านเคยทำประกันรถยนต์ชั้นหนึ่งมาตลอดต่อเนื่อง (อย่างน้อยก็ พรบ.ครับ) แต่ปรากฎว่าไม่เคยได้ใช้บริการเคลมเลยซักครั้ง เลยได้ส่วนลดเบี้ยประกันทุกปีแต่ก็ยังจ่ายเบี้ยสูงอยู่ ซึ่งผมมองว่ามันไม่คุ้มเลยที่เราต้องไปจ่ายเงินตรงส่วนนี้ผมอาจเก็บเงินส่วนนี้ไว้แล้วเอาไปซ่อมเองก็ได้ถ้าเกิดขึ้นจริง ซึ่งไม่รู้ว่าจะเกิดเมื่อใด และเกิดกี่ครั้ง คิดไปคิดมาก็พบว่ายอมจ่ายไปดีกว่าเพื่อลดความเสี่ยซึ่งเราไม่สามารถประเมินหรือกำหนดขอบเขตอะไรได้ครับ รวมๆผมน่าจะจ่ายไปหลายแสนแล้วครับ แต่ก็สบายใจและยังขับรถระมัดระวังเหมือนเดิมครับ

น้อมรับทุกความเห็นครับ

 

1.การประกันรถยนต์จะชั้นหนึ่ง ชั้นสอง ชั้นสามดีทั้งนั้นครับ แต่คุณทำประกันก็เพราะว่าคุณมีความเสี่ยง คุณขับรถออกไป คุณไม่ชนเขา แต่คนอื่นอาจจะมาชนคุณแล้วหนีไป แต่ถ้าจะเปรียบเทียบว่าเก็บข้าวไว้ถึงมันจะเสียหายไปก็ไม่เป็นไรเพราะเผื่อไว้เกิดภัยพิบัติ ตามภาวะปัจจุบัน ผมยังไม่เห็นว่าจะมีแนวโน้มความเสี่ยงใดที่จะต้องเก็บข้าวไว้16-20ล้านตันเพื่อให้คนบริโภคได้1ปี3เดือนเลยครับ เคยน้ำท่วมหนักก็ไม่ได้ท่วมทุกปี ถ้ามันท่วมหนักแบบปี53ปีเว้นปี อย่างนี้อาจจะสมเหตุสมผลที่จะเก็บได้ แต่ก็ยังไม่เห็นมีเลยครับ

2.ถ้าทำประกันแล้วเวลาเกิดปัญหา ผมไปเคลมแต่บริษัทผลัดผมไปเรื่อยๆ รอกู้มาชดใช้ผม อันนี้สิครับเป็นปัญหาแน่ๆ

 

เห็นด้วยครับ เหมือนกรณีบริษัทประกันรายใหญ่ที่ล้มละลายไป กรมการประกันภัยต้องเข้าไปเยียวยาผู้เอาประกันครับ
ซึ่งผมคาดว่าทุกท่านคงไม่อยากให้เกิดกรณีเช่นนี้ขึ้นครับ ผมจะเป็นแรงหนึ่งที่จะช่วยคอยติดตามตรวจสอบข้าวรัฐเท่าที่สามารถช่วยได้ ซึ่งอาจต้องรบกวนทุกท่านช่วยกันตรวจสอบดูแลติดตามอีกหลายๆแรงครับ เพื่อเป็นการช่วยองค์กรที่เขาตรวจสอบดูแลอยู่อีกทางหนึ่ง
ทุกท่านดูรายชื่อโรงสีที่เข้าโครงการได้ตามลิงค์กรมการค้าภายในครับ

 

ผมว่าคิดยังไม่ถูกต้องนะ
ที่จริงประเทศไทยมีความมั่นคงทางอาหารมาก่อนนะ การจำนำของรัฐน่าจะทำให้ความมั่นคงทางอาหารลดลง

ดูได้จาก เมื่อก่อนเกษตกร จะเก็บข้าวไว้ในยุ้งฉาง ของใครของมัน เก็บไว้เพื่อกินกันในครอบครัว ให้พอก่อน ส่วนที่เหลือก็ขาย

แต่ทุกวันนี้ ทุกคนมุ้งขายให้รัฐอย่างเดียว สมมุติ โกดังเกิดเสียหาย อะไรจะเกิดขึ้น ไม่ใช่ว่าไม่เคยเกิดนะ จำนำแต่ก่อนก็มีให้เห็นแล้ว ข้าวเน่าเป็นโกดังก็เคยเห็นแล้ว

หากคิดถึงความมั่นคงด้านอาหาร กระจายความเสี่ยง ให้ประชาชนเก็บไว้ในยุ้งฉางตัวเองดีกว่าครับ

ทุกวันนี้ ปลวก จะพังยุ้งฉาง ชาวนาหมดแล้วครับ

 

ผู้นำเข้า"อิรัก-อินโดฯ"แบนข้าวไทย มีปัญหาคุณภาพ-โยงสยามอินดิก้าผูกขาดสต๊อก


updated: 26 ธ.ค. 2556 เวลา 10:20:14 น.

ประชาชาติธุรกิจออนไลน์

ช็อก วงการผู้ส่งออก "อิรัก-อินโดนีเซีย" แบนไม่ซื้อข้าวไทย อ้างมีปัญหาเรื่องคุณภาพ ออร์เดอร์หายไปทันทีปีละไม่ต่ำกว่า 1 ล้านตัน เหตุที่ผ่านมาข้าวในสต๊อกรัฐบาลถูกบริหารจัดการผ่านเครือข่าย "สยามอินดิก้า" เพียงคนเดียว ทำป่วนไปหมด

หลังจากที่คณะกรรมการ ป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ขยายผลการไต่สวนกรณี ทุจริตโครงการรับจำนำ และการระบายข้าวในสต๊อกรัฐบาล เฉพาะอย่างยิ่งการขายข้าวแบบรัฐต่อรัฐ (G to G) มีความเกี่ยวพันกับบริษัทสยามอินดิก้า

ล่าสุดมีรายงานข่าวเข้ามา ว่า ข้าวส่วนใหญ่ที่สยามอินดิก้ารับเป็นผู้แทนรับมอบข้าว G to G จากรัฐบาลได้ถูกส่งต่อไปยังตลาดอินโดนีเซียกับอิรัก ปรากฏตามสถิติการส่งออกของกรมศุลกากร 10 เดือนแรกส่งออกไปยังอินโดนีเซียเพียง 78,988 ตัน จากช่วงเวลาเดียวกันของปี 2555 จำนวน 321,565 ตัน ลดลง 75% ส่วนการส่งออกไปอิรักมี 703,746 ตัน เพิ่มขึ้น 10.4% แต่เป็นการเพิ่มในอัตราที่ลดลงจากช่วง 6 เดือนแรก (ม.ค.-มิ.ย.) ปี 2556 ที่ส่งออกปริมาณ 418,490 ตัน หรือเพิ่มขึ้น 113%

แหล่งข่าวกล่าวว่า การส่งออกที่ลดลงเป็นผลมาจากคุณภาพข้าวโดยตรงและลุกลามถึงขั้นประเทศทั้งสอง ไม่ยอมซื้อข้าวจากไทยอีก โดยการประมูลนำเข้าข้าวของอิรักในช่วง 2-3 ครั้งหลัง ไม่อนุญาตให้ผู้ส่งออกจากไทยเป็นผู้เสนอราคาและหันไปซื้อจากที่อื่น

ซึ่งลอตสุดท้ายเมื่อเร็ว ๆ นี้อิรักซื้อข้าวจากอุรุกวัยซึ่งมีราคาสูงพอ ๆ กับราคาข้าวสหรัฐ ส่วนองค์กรสำรองข้าวอินโดนีเซีย (บูล็อก) หลังเปลี่ยนผู้บริหารใหม่ก็ประกาศ "แบน" ข้าวไทย เนื่องจากการรับมอบข้าวลอตหลังสุด 300,000 ตัน มีการระบุว่า ข้าวที่ส่งออกเป็นข้าวคุณภาพต่ำ

"ทั้ง 2 ตลาดปกติจะซื้อข้าวไทยปีละ 1 ล้านตัน ตรงนี้ผู้ส่งออกกังวลกันว่า เรากำลังเสียตลาดถาวรหรือไม่ จากปัญหาคุณภาพข้าว เท่ากับเป็นคำตอบว่า ทำไมเราถึงเจรจาการขาย G to G กับอินโดนีเซียไม่สำเร็จเสียที กรณีของอิรักก็เช่นกัน เดิมทีเป็นตลาดของข้าวไชยพร ค้าขายกันมานานไม่มีปัญหา แต่พอเปลี่ยนมือผู้ส่งออกก็เกิดการตัดราคากันขึ้นมาทันที โดยผู้ส่งออกรายนั้นได้ข้าวไปจากสยามอินดิก้าถูก ๆ ไปแข่งกับเจ้าเดิมห่างกันตันละ 40-50 เหรียญ ยกตัวอย่าง ข้าว 100% เกรด B ควรจะขายได้ 450 เหรียญ แต่ถูกตัดราคาลงเหลือ 390 เหรียญ เป็นการทำลายราคาหั่งเช้ง" แหล่งข่าวกล่าว

อย่างไรก็ตาม เมื่อข้าวส่งออกที่ผ่านผู้เกี่ยวข้องใน บริษัทสยามอินดิก้ามีปัญหาในเรื่องของคุณภาพ ส่งผลให้ฝ่ายการเมืองต้องหาบริษัทอื่นเข้ามา G to G ไปยังตลาดอื่นนอกเหนือจากอินโดนีเซีย-อิรัก

"ปัญหาที่เกิดขึ้นส่ง ผลต่อการจัดลำดับผู้ส่งออกข้าว Top 5 ของไทยใน 10 เดือนแรกของปีนี้ ปรากฏว่าบริษัทเอเซียโกลเด้นไรซ์ยังคงครองอันดับ 1 รองลงมาได้แก่ บริษัทสยามอินดิก้า, บริษัทแคปปิตัสซีเรียลส์, บริษัทซีพี อินเตอร์เทรด และบริษัทนครหลวงค้าข้าว ที่น่าจับตาเป็นพิเศษก็คือ การปรากฏตัวของบริษัทโอแล่ม ประเทศไทย ที่เข้ามาในอันดับที่ 11แสดงให้เห็นว่า มีการกระจายข้าวในสต๊อกรัฐบาลสู่มือผู้ส่งออกรายอื่น ๆ อีกทางหนึ่ง" แหล่งข่าวกล่าว

ด้านนายชูเกียรติ โอภาสวงศ์ นายกกิตติมศักดิ์ สมาคมผู้ส่งออกข้าวไทยกล่าวว่า ขณะนี้ราคาส่งออกข้าวไทยต่ำกว่าเวียดนามซึ่งไม่เคยปรากฏมาก่อน คือ ข้าวขาว 5% ของไทยตันละ 410-415 เหรียญสหรัฐ แต่ข้าวเวียดนามราคา 420-425 เหรียญ โดยราคานี้ยังต่ำกว่าช่วงก่อนที่มีการดำเนินโครงการรับจำนำเมื่อ 2 ปีก่อนด้วย

ทั้งหมดนี้เป็นปัญหามาจากการระบายข้าวในสต๊อกให้กับเครือข่ายผู้แทนรับมอบเพียงรายเดียว และมีแนวโน้มว่าข้าวไทยจะรูดลงไปอีกจาก

1) ผู้ซื้อประเมินแนวโน้มว่าราคาน่าจะปรับลดลงอีก จากการที่รัฐบาลมีแรงกดดันต้องเร่งระบายข้าวในสต๊อกเพื่อหาเงินมาคืน ธ.ก.ส.

2) เวียดนามจะมีข้าวรอบใหม่ออกมาปลายเดือนมกราคมต่อกุมภาพันธ์ ถึงตอนนั้นสงครามราคาข้าวคงกลับมาอีกรอบ คาดว่าราคาข้าวเวียดนามจะลงไปอยู่ที่ 380-390 เหรียญทำให้ยอดคำสั่งซื้อข้าวในเดือนมกราคมมีน้อยมาก โดยเฉพาะข้าวขาว ซึ่งผู้ส่งออกบางรายไม่มีคำสั่งซื้อล่วงหน้ามาหลายเดือนแล้ว

"รัฐบาลต้องหยุดโครงการรับจำนำข้าวแล้วเคลียร์สต๊อกมากกว่า 20 ล้านตันให้หมด" นายชูเกียรติกล่าว

 

- เมื่อ ตค. 2556 บอกว่า ขายข้าว จีทูจี ได้

http://isranews.org/thaireform/thai...นตัน-แถมคืนเงินธ-ก-ส-แล้ว-1-6-แสนล้านบาท.html

- มค. 2557 จีทูจีเก๊ ปูด

http://isranews.org/isranews-news/item/26603-boonsong-rice-scheme.html


.

 

แนวหน้า - ก๊วนทักษิณตั้งบริษัทผีซื้อข้าวไทย?

 

ถ้าขับรถผ่านเส้นยางตลาด-เชียงยืน-ขอนแก่น จะเห็นด้านซ้ายมือได้เกิดโกดังข้าว/โรงสีขนาดใหญ่ จุข้าวเปลือกได้ไม่น่าจะต่ำกว่าล้านตัน

ตั้งอยู่บนพื้นที่กะด้วยสายตาน่าจะประมาณ800-พันไร่

ข้าวที่เกษตรกรไปจำนำไว้โซนกาฬสินธุ์ ร้อยเอ็ด มหาสารคาม ขอนแก่น จะถูกส่งเข้ามาในโกดังแห่งนี้

จากการสอบถาม ได้ข้อมูลว่าเป็นบริษัทรับซื้อข้าวที่มีนายทุนจากประเทศจีน

ไม่รู้เท็จจริงอย่างไรนะ เรื่องนายทุนจีนเข้ามาทำธุรกิจในไทย ได้เกิดขึ้นแล้วแถบภาคอีสาน

แต่เท่าที่ดูข้อมูล จีนเค้ามีการเตรียมพร้อมเรื่องข้าวปลาอาหารของคนในประเทศตั้งแต่ไหนแต่ไรมา

ส่วนของไทยเรายังไม่ไปถึงไหนเลย

 

เห็นสร้างมาเกือบจะปีแล้ว แต่เกือบ 2 เดือนแล้วที่ไม่ได้ผ่านเส้นนั้น ไม่รู้ว่าตอนนี้สร้างเสร็จสมบูรณ์ยัง

.

 

คุน hiflyer กระทู้ขายข้าวไปไหนแล้ว นี้เป็นภัยพิบัติของปี2014 ของประเทศเลยนะเรืองนี้

ว่าถึงคนจีน ได้ข่าวว่า ตอนสร้างสนามกีฬาชีเกมส์ที่ลาว คนจีนที่มาสร้างสนาม มาตั้งรกรากที่ลาวเป็นหมื่นๆคนนะ อันนี้ข่าวเขาว่ามา

และรถไฟความเร็วสูงที่จะเข้ามาลาว ข่าวมาอีกละ ว่า พื้นที่รอบๆแนวรถไฟ ทางการจีนขอเช่าระยะยาวมากๆ ให้คนของเขาเข้ามาทำกิน

ที่ลาวตั้งแต่เหนือจดใต้ คนจีนเข้ามาเช่าทำกัิน กันเยอะมากๆ

 

บอกไม่ได้หรอกค่ะว่าเสร็จสมบูรณ์รึยัง
หลายเดือนที่ผ่านมา มีโอกาสขับรถเข้าขอนแก่นบ่อยๆ เป็นโครงการที่สะดุุดตา เค้าวางแผนก่อสร้างได้ดีมีการใช้หลักฮวงจุ้ยที่เหมาะสม

ช่วงพฤศจิกา -ธันวา หน้าเก็บเกี่ยว เห็นมีรถทุกรุ่น ตั้งแต่รถพ่วง สิบล้อ หกล้อ บรรทุกข้าวจากการจำนำเร่งเข้ามาส่งจนล้นโกดัง ล่าสุดตอนนี้เพิ่มเป็น 2 โกดังแล้ว

เชื่อว่าพื้นที่มากขนาดนั้น คงไม่ได้มีแค่โครงการเดียว คงต้องติดตามกันต่อไป ค่ะ

 

หายไปจริงๆด้วย คงเพราะการเมืองมากไป

.