ความสนุกทางเพศนั้นมีอยู่ แต่เป็นสุขที่มีประมาณน้อย เทียบเท่าของเหลวหลังการมีเพศสัมพันธ์นั่นแหละ

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย TupLuang, 15 ตุลาคม 2008.

  1. TupLuang

    TupLuang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 มิถุนายน 2008
    โพสต์:
    3,143
    ค่าพลัง:
    +1,371
    ความสนุกทางเพศนั้นมีอยู่ แต่เป็นสุขที่มีประมาณน้อย เทียบเท่าของเหลวหลังการมีเพศสัมพั

    [​IMG]
    ปล.ภาพประกอบ ดูเพื่อปลงนะครับ


    ถาม – ข้อห้ามไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ของนักบวช ถือว่าเป็นการฝืนธรรมชาติหรือไม่? เวลาผมเห็นข่าวฉาวของคนนุ่งเหลือง ก็เกิดความรู้สึกว่าเขาอยากมีเพศสัมพันธ์ก็ถูกต้องตามธรรมชาติแล้ว มนุษย์พยายามไปตั้งข้อห้ามที่ฝืนธรรมชาติเอง

    ก่อนอื่นต้องนิยามกันให้ชัด ว่า ‘ฝืนธรรมชาติ’ ในความหมายของคุณคืออย่างไร

    ในมุมมองของคนทั่วไป เพศเป็นสิ่งติดตัวมาแต่เกิด การไม่มีอารมณ์ทางเพศจึงถือเป็นความผิดปกติชนิดหนึ่ง พูดง่ายๆว่า ถ้ามีความต้องการทางเพศแล้วไม่ระบายออก ถือเป็นการ ‘ฝืนธรรมชาติทางกาย’ คนในโลกจะหยุดความเชื่อไว้ที่ตรงนี้ และไม่มองหาความเป็นธรรมชาติชนิดอื่นอีก

    ธรรมชาติทางกาย หญิงชายไม่จำเป็นต้องมีอะไรกันก็ไม่ตายใช่ไหมครับ? แต่ถ้าพูดถึงธรรมชาติทางใจล่ะ ถามว่าใจต้องการอะไรมากที่สุด? คำตอบที่ถูกต้องครอบจักรวาลคือต้องการความสุข ต้องการความสบายใจ สมกับที่ท่านว่า มนุษย์ทุกคนเกลียดทุกข์รักสุขด้วยกันทั้งสิ้น ถ้ามนุษย์คนหนึ่งมีแต่ทุกข์ มีแต่ความเร่าร้อน มีแต่ความกดดันทางใจ ไม่มีความสุขความสบายใจบ้างเลย เขาจะหดหู่ และภายในเวลาอันรวดเร็วเขาจะไม่อยากมีชีวิตต่อไปอีก พูดง่ายๆคือไม่ตรอมใจตายก็ฆ่าตัวตาย นี่เป็นหลักฐานว่าถ้าคุณไม่เป็นสุขบ้างเลย ถือเป็นการ ‘ฝืนธรรมชาติทางใจ’ อย่างแรง ผลคือไม่สามารถมีชีวิตต่อได้เป็นปกติ หรือกระทั่งอาจต้องจบชีวิตเลยทีเดียว

    ยังมีคนอีกจำพวกหนึ่ง ไม่เฉพาะนักบวชในพุทธศาสนานะครับ เขายอมรับกันว่าความสนุกทางเพศนั้นมีอยู่ แต่เป็นสุขที่มีประมาณน้อย เทียบเท่าของเหลวหลังการมีเพศสัมพันธ์นั่นแหละ ส่วนความทุกข์อันเกิดขึ้นหลังความสนุกทางเพศนั้น ใหญ่หลวงกว่าประมาณแห่งหยาดเหงื่อที่เสียไปขณะมีเพศสัมพันธ์ และหลังเพศสัมพันธ์จบลง

    ลองคิดดูเล่นๆ เอาเฉพาะที่เห็นตามจริง โดยไม่ต้องนับการเสี่ยงติดโรคจากคู่ขา ไหนจะทุกข์อันเนื่องจากการตั้งท้อง ๙ เดือน ไหนจะทุกข์อันเนื่องจากความเจ็บปวดขณะคลอด ไหนจะทุกข์อันเนื่องจากการประคบประหงมทารกวันต่อวันให้เติบใหญ่ขึ้นจนปีกกล้าขาแข็ง ไหนจะทุกข์อันเนื่องจากการหาเงินหาทองเลี้ยงดูเอาใจให้การศึกษาเด็กคนนั้นจนเอาตัวรอดได้ ไหนจะทุกข์อันเนื่องจากการพรากจากลูกเมียอันเป็นที่รัก ไหนจะทุกข์อันเนื่องจากการมีเรื่องทะเลาะเบาะแว้งต้องฆ่าแกงกันระหว่างคนในครอบครัว ลองคำนวณดูเถอะว่าเหงื่อที่คุณเสียไปมีประมาณมากสักเท่าใด

    แล้วความทุกข์อันใหญ่หลวงอย่างที่สุดของการเสพกามคืออะไร? คือการต้องเวียนว่ายตายเกิดอย่างไม่รู้อีโหน่อีเหน่ ขึ้นสูงได้เพราะฝืนห้ามใจละกามที่ผิดตลอดชีวิต แต่มีสิทธิ์ตกต่ำเพียงเพราะเผลอหลงกามต้องห้ามแค่วูบเดียว

    ตราบใดยังติดใจ และมองไม่เห็นทางเลือกอื่นนอกจากกามบ้างเลย ก็เหมือนการรอนแรมเดินทางไกลไปในป่ารกชัฏโดยไม่ทราบทิศของทางออก ขึ้นเขาลงห้วยลำบากตรากตรำเพียงใดห้ามบ่น ต้องก้มหน้าก้มตาทนเรื่อยไปไม่มีที่สิ้นสุด

    แก่นของความเข้าใจทางพุทธประการหนึ่ง คือมุมมองที่ว่าตราบใดยังยืนอยู่ในน้ำ คุณจะไม่มีวันแห้ง และกามก็เปรียบเหมือนห้วงน้ำแห่งมหันตทุกข์ ตราบใดยังติดอยู่ในห้วงกาม คุณก็ไม่มีวันพ้นออกจากทุกข์ไปได้ โดยเฉพาะอย่างยิ่งในแง่ของทุกข์ทางใจ

    เหล่านักบวชไม่ว่าลัทธิใดศาสนาไหน ล้วนเห็นค่าของการแสวงวิเวก ละความสุขทางกาย ประพฤติตนเพื่อเสวยสุขทางใจ ตั้งความเข้าใจไว้ว่าใจจะเป็นสุขสูงสุดได้ก็ต่อเมื่อเอากายออกมาจากโซ่ตรวนร้อยรัดเสียก่อน ออกห่างเหยื่อล่อให้ได้เสียก่อน เมื่อไม่หนักทึบอยู่ด้วยกาม จึงค่อยพูดกันเรื่องชำระมลทิน สะสางกิเลสขั้นละเอียด เพื่อความปลอดโปร่งทางใจชั้นสูงยิ่งๆขึ้นไป

    หากเหล่านักบวชไม่มีความผิดปกติทางจิต ตรงข้ามกลับสุขล้ำ หน้าตาอิ่มเอิบ ผ่องใส หลับสบายหายห่วง นั่นก็แปลว่าพวกเขามิได้ฝืนธรรมชาติ แต่ปฏิบัติได้สอดคล้องกับธรรมชาติยิ่ง เพียงแต่เป็นธรรมชาติทางใจ หาใช่ธรรมชาติทางกายดังที่คนทั้งโลกปักใจเชื่อว่ามีอยู่เท่านี้

    พอมาถึงการมองเห็นจากมุมดังกล่าว คุณจะไม่มองข้อห้ามของนักบวชเป็นเรื่องผิดปกติ แต่จะแทนคำว่า ‘ผิดปกติ’ ด้วยคำว่า ‘แตกต่างจากธรรมดา’ เหมือนคุณและคนทั้งโลกอยากกินจานเด็ดเผ็ดจัด แต่คนอีกกลุ่มหนึ่งคุณอยากกินของหวานเย็นสบายลิ้น ต่างฝ่ายต่างปรารถนาตามอัธยาศัย สำคัญคือถ้าไม่มีอัธยาศัยเดียวกัน ไม่สมัครใจยอมรับกติกาเดียวกัน ก็อย่าเพิ่งบวช มิฉะนั้นเมื่อบวชแล้วเห็นว่าข้อห้ามเป็นส่วนเกิน เป็นส่วนผิดธรรมชาติ เป็นส่วนที่ล้อเล่นได้ ก็จะประพฤติผิดขั้นร้ายแรง โดยไม่ทราบอนาคตว่าจะต้องรับผลข้างหน้าอย่างไร

    การมีเพศสัมพันธ์ขณะบวช ถือเป็นการละเมิดข้อตกลงกับชาวบ้าน ในอันที่จะขอข้าวเขากินเพื่อประพฤติพรหมจรรย์ ย่อมให้ผลเป็นบาปที่มืดมนยิ่ง ส่วนการรักษาข้อตกลงไว้ด้วยการประพฤติธรรม เจริญสุขทางจิตชดเชยความอยากในกาม ย่อมให้ผลเป็นบุญที่สว่างไสวยิ่ง เห็นชัดเจนยิ่งๆขึ้นไปว่าการละกามเสียได้ ย่อมกลมกลืนกับธรรมชาติของจิตที่ผ่องใส แสนสุขแสนสบายครับ

     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 22 ตุลาคม 2009
  2. Add-on

    Add-on Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 กันยายน 2008
    โพสต์:
    383
    ค่าพลัง:
    +64
    ถึงแม้ความต้องการทางเพศจะเป็นกฎของธรรมชาติ

    เราอย่าไปคิดว่าเราต้องระบาย ถ้าเราไม่ระบายจะเป็นการฝืนกฎธรรมชาติ

    ให้เราคิดว่ามันเป็นเพียงความรู้สึกเพียงชั่ววูบ เราอย่าไปหลงมัวเมากับกามคุณ

    เราเกิดมามีขันธุ์5 ซึ่งเป็นสิ่งไม่เที่ยง เราจะอยากได้ใคร่ดีไปทำไม
     
  3. lithai

    lithai สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    10
    ค่าพลัง:
    +7
    อยู่คนเดียวเปลี่ยวกายแสนสบายแต่ไม่สนุกอยู่สองครองทุกข์แสนสนุกแต่ไม่สบาย
     
  4. บุตรสา

    บุตรสา เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 สิงหาคม 2008
    โพสต์:
    300
    ค่าพลัง:
    +793
    แฮ่...คุ้นๆแฮะ เคยได้ยินหลวงพ่อท่านพูดไว้ เป็นประโยคที่โดนใจมาก
     
  5. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,644
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,019
    ถ้าศึกษาธรรมะเเละเข้าถึง เข้าใจได้มาก เรื่องกามตัณหาเป็นเรื่องเล็กไปเลยครับ เราจะตัดมันได้อย่างเเน่นอน ไม่มีมันมารบกวนจิตใจอีกต่อไป
     
  6. กระติ๊บ

    กระติ๊บ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    30 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    669
    ค่าพลัง:
    +939
    การเกิด ก็เป็นธรรมชาติ หากไม่อยากเกิด ก็ต้องฝืนธรรมชาติให้ได้จ๊ะ
    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้จ๊ะ
     
  7. nondanun

    nondanun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    5,980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    13
    ค่าพลัง:
    +32,612
    ถูกครับ
     
  8. Mccarthney

    Mccarthney เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    11 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    48
    ค่าพลัง:
    +771
    ขอบคุณข้อความดีๆ ครับ เอาไป 10 กะโหลก ^ ^
     
  9. Putthathida

    Putthathida เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กรกฎาคม 2009
    โพสต์:
    58
    ค่าพลัง:
    +210
    ความสุขทางโลก เป็นสุขแบบหยาบๆ
    ความสุขทางธรรม เป็นสุขแบบละเอียด
    ถ้าใครยังไม่เข้าใจถึงความสุขทางธรรม ก็จะมองว่าเป็นเรื่องฝืนธรรมชาติ
    เพราะยังสัมผัสไม่ได้ถึงความสุขแบบละเอียดที่มีอยู่ยิ่งกว่า

    อนุโมทนากับเจ้าของกระทู้ ที่ให้ข้อคิดดีๆ และถูกต้องค่ะ
     
  10. cinderella2517

    cinderella2517 Mindset Coach และ นักพยากรณ์

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    735
    ค่าพลัง:
    +1,404
    ขออนุโมทนาค่ะ เป็นความสว่างกระจ่างใจแท้ ขอนำเสนอเผยแพร่เพื่อให้คนเข้าใจในธรรมมะข้อนี้ค่ะ
     
  11. Tsunayoshi

    Tsunayoshi สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    4
    ค่าพลัง:
    +22
    อนุโมทนาสาธุ

    เราละได้แล้วค่ะ มันแปลกดีที่วันที่เลิกคิดเรื่องคู่ครองได้เด็ดขาด คือนั่งเล่นคอม อยู่ๆ อยากออกไปขับรถเล่น ทั้งที่ไม่รู้จะไปไหน สมองมันว่างจนผิดปกติ เหมือนคิดอะไรไม่ออก (คล้ายๆ อารมณ์จิตสบายๆตอนนั่งสมาธิ)

    แล้วพอตัดสินใจไป ก็ระหว่างทางมองเห็นหญิงขับรถคนเดียว กับอีกคัน ชายหญิง ซ้อนสอง แล้วนก1ตัว ที่บินไปมา เลยพิจารณาไปในขณะยังสมองว่างๆ ว่า ตอนอยู่คนเดียว ก็อยากบินสบายเหมือนนกแต่พอนกนั้นมีครอบครัว ก็ต้องเหนื่อยยาก เหมือนหญิงที่นั่งรถคนเดียวไม่หนักรถ แต่พอเสพสุขแล้วต้องซ้อนสอง หนักรถ ทุกข์จึงเกิด เราไม่อยากมีภาระต้องนั้น ไม่อยากเหนื่อยขนาดนั้น

    ทั้งที่ก่อนหน้านั้นก็คิดๆนะ ว่าอยากโสดๆ แต่ก็คือไม่เด็ดขาด เดี๋ยวอยาก เดี๋ยวไม่อยาก

    แต่ผลของการไปเห็นรถมอไซด์สองคันและก็นก1ตัว แล้วพิจารณา ผลก็คือ ตอนนี้ละได้เด็ดขาดหยั่งกะผีหลอก ไม่คิดเรืองคู่อีกเลย แปลกดี แต่เกิดขึ้นจริงกับเราค่ะ
     
  12. NikuSeed

    NikuSeed เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    336
    ค่าพลัง:
    +724
    อนุโมทนา สาธุ

    ธรรมชาติ คือ ธรรมดาของชีวิต
    ธรรมดาของชีวิต คือ ความทุกข์ทั้งหลาย เริ่มเหตุจากความทุกข์จากการเวียนว่ายอยู่ในวัฏสงสาร
    หากไหลไปตามธรรมชาติ ก็คือการยอมให้ความทุกข์เข้ามาหาได้เป็นปรกติ

    บัณฑิตผู้กระจ่างในธรรม ย่อมปรารถนาที่จะไม่ยอมปล่อยให้ตนไหลไปตามธรรมชาติ อันเป็นเหตุแห่งทุกข์นั้นแน่นอน
     
  13. jameskungz

    jameskungz Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    19
    ค่าพลัง:
    +26
    ขออนุโมทนาครับ

    แต่ผมสงสัยเหอะ คือ พ่อแม่ของผมที่ได้ให้กำเนิดผมมาแล้วเนี่ย พวกเขาจะไม่สามารถที่จะบรรลุธรรมถึงนิพพานได้หรือยังไงกันครับ? อันนี้ผมสงสัยเฉยๆ นะหะ ว่าถ้าเกิดมีลูกมีคู่ มีเพศสัมพันธ์ไปแล้ว จะยังสามารถเปลี่ยนเส้นทางละทิ้งและไปเข้าสู่ทางธรรมได้ไหม?
     
  14. Readome

    Readome เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 สิงหาคม 2007
    โพสต์:
    69
    ค่าพลัง:
    +130
    เพศสัมพันธ์ น่ะต้องเข้าใจว่า มันเป็นธรรมดาของมนุษย์แต่ถามว่ามีเพศสัมพันธ์บาปไหม
    มันไม่บาปหรอก เพราะเราเกิดมาได้ก็เพราะว่าการมีเพศสัมพันธ์จากพ่อและแม่
    ฉะนั้น พ่อแม่ก็บาปสิ นิพพานไม่ได้ เอาเป็นว่าหากไม่มีเพศสัมพันธ์ ก็ไม่มีบุคคลที่เรารู้จักหรอกไม่ว่าจะเป็นพระสงฆ์ หรือนักบวช ทั้งหลาย ล้วนแล้วแต่เกิดจากเพศสัมพันธ์ทุกคนนั่นแหล่ะ ฉะนั้นการมีเพศสัมพันธ์ใครมีครอบครัวแล้วหากมีเพศสัมพันธ์แล้วทำให้ครอบครัวมีความสุขก็มีความสุขไปหากคิดว่าสุขกายมันสนุกแค่ระยะไม่เกิน 1 ชั่วโมง คือกายมันชอบ
    ใจก็เอา ความสุขก็เกิดนี่ไม่มีปัญหาเป็นมนุษย์ก้แบบนี้แหล่ะ แต่บางคนมีเพศสัมพันธ์แล้ว พิจารณาได้ คือมันทุกข์บางคนมีจนเบื่อแล้วบวชก็มี แต่ตอนแรกก็หลงตามกิเลส
    ก็ตามใจฉัน แต่สุดท้ายความเบื่อหน่ายจะเกิดเองน่ะ อย่าไปคิดว่าบาปกรรม แต่หากคนคิดได้ เดี๋ยวเขาก็คิดได้เอง เหมือนกับคนชอบช่วยเหลือตนเอง เขาทำเพราะใจกระตุ้นกาย
    ปล่อยเขาทำไปอยากลองอยากรู้ไปตามธรรมชาติสุดท้ายเมื่อเขาคิดได้แล้วก็หยุดเอง
    นั่นแหล่ะ เขาไม่ได้หมกมุ่นแต่เขาอยากลองอยากรู้เฉยๆ เมื่อเขารู้ไปเรื่อยๆ ความเบื่อหน่ายก็จะเกิด เดี๋ยวก็คิดได้เอง น่ะ ธรรมะไม่ได้สอนให้ล่ะกาม ตัญหา แต่สอนให้เรารู้จักพิจารณาว่าสิ่งไหนทุกข์ สิ่งไหนทำให้จิตเราหม่นหมองต่างหาก พยายามสอนให้ล่ะ เดี๋ยวมันเลิกเอง
    มีเพศสัมพันธ์ปฏิบัติธรรมได้ แต่ผิดศีลข้อสามนี่สิ มันทำให้เหมือนสัตว์เดียรัจฉาน
    มีคู่เป็นตัวตนคือได้ทำบุญร่วมกันมา หากมีมากกว่าหนึ่งคนก็ไม่ต่างจากสุนัขหรือ สัตว์เดียรัจฉานที่ไม่มีคู่เป็นตัวตนและไม่มีความรู้จักพอเสวยกามไปตามอารมณ์ตามปกติ
    รักกันได้เสพสมกันได้ แต่ใจนี่มันไม่ต้องเสพสม ให้เสพอารมณ์เข้าใจซึ่งกันและกันและเป็นคนมีศีลธรรมในโลกนี้ก็พอ สาธุ อนุโมทนา
     
  15. aekcompany

    aekcompany เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2008
    โพสต์:
    56
    ค่าพลัง:
    +105
    อนุโมทนา สาธุด้วยครับ

    จริงด้วยครับ ผมเห็นด้วย การที่เราดิ้นรนต้องการมีคู่นั้นเป็นทุกข์อย่างยิ่ง
    ทั้งทุกข์ทางกายและทางใจนะครับ หลังจากที่ผมปฏิบัติสมาธิมากๆแล้วก็มีความคิดแบบนี้เหมือนกันครับ แต่ตอนหลังได้ทิ้งไม่ค่อยมีเวลาปฏิบัติ รู้สึกว่าจิตใจเรามันหวั่นไหวมาก คิดแต่เรื่องการมีคู่อย่างเดียวมันทำให้เราคิดมากและกระวนกระวายมาก จะต้องกลับมาปฏิบัติสมาธิหาความสุขทางใจดีกว่าต้องแบกภาะความทุกข์ทางใจมากๆครับ
     
  16. โสภา จาเรือน

    โสภา จาเรือน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    2,013
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +3,332
    โมทนาสาธุบุญค่ะ


    สู่เส้นทาง วิปัสสนา พาพ้นทุกข์

    ประสพสุข เสริมปัญญา ลาสรรเสริญ

    เห่อหลงสุข ว่าแกร่ง แหล่งเพลิดเพลิน

    ละห่างเหิน โลกมายา ว่าแน่นอน<!-- google_ad_section_end -->
     
  17. ปัญจ์ธน

    ปัญจ์ธน เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    417
    ค่าพลัง:
    +855

    มีครูบาอาจารย์หลายองค์ที่เคยมีครอบครัวมาก่อน ภายหลังท่านได้ออกบวชและบรรลุมรรคผลนิพพานก็มีครับ ในสายหลวงปู่มั่นมีตัวอย่างให้เห็นครับ




    ธรรมะไม่กลับมา โลกาวินาส
     
  18. ลุงชาลี

    ลุงชาลี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มีนาคม 2008
    โพสต์:
    2,958
    ค่าพลัง:
    +4,763
    าธุ สาธุ ขอโมทนา
    อิทัง ปุญญพลัง อิมินา ปุญญะกัมเมนะ

    ด้วยเดชะบุญกุศลที่ข้าพเจ้าได้บำเพ็ญมาแล้วด้วยดี
    ตั้งแต่ปฐมชาติ อดีตชาติ ปัจจุบันวันนี้
    ข้าพเจ้าขอตั้งจิตกุศลนี้เป็น มหาธรรมทาน
    เพื่ออบรมหนทางความดับ
    ไม่มีเหลือเชื้อแห่งอาวสะกิเลสตน แด่ผู้ใฝ่ในธรรม
    และผู้เคารพเลื่อมใสองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    <O:p</O:p
    ขอส่งผลบุญกุศล อันเกิดจากการนี้
    อุทิศให้ ครูอุปัชฌาย์อาจารย์สืบๆ ต่อกันมา
    พ่อเกิดแม่เกิด ผู้มีคุณผู้สูงชาติ
    ผู้สงเคราะห์โลกพิทักษ์ธรรม ตลอดจน
    เจ้าบุญนายคุณ เจ้าบ่าวนายใช้ เจ้ากรรมนายเวร
    เจ้าเกณฑ์ชะตา เจ้าการบัญชี ทั้งหลายในทุกภพทุกชาติ
    ที่ข้าพเจ้าได้เคยสบประมาทล่วงเกิน และมีสัมพันธ์เกี่ยวข้อง
    ขอจงได้รับขมากรรม อโหสิกรรม และอนุโมทนาบุญให้แก่ข้าพเจ้า
    และกรรมอันใดที่ท่านทั้งหลาย ได้ทำไว้กับข้าพเจ้าทุกภพทุกชาตินั้น
    ข้าพเจ้าขอปวารณาให้เป็นอโหสิกรรมเช่นกัน
    พร้อมนี้ขอให้ท่านทั้งหลายพึงปราศจากทุกข์และมีสุข
    เกิดปัญญาญาณยิ่งๆ ขึ้นไป เช่นเดียวกับที่ข้าพเจ้าได้รับ
    ณ กาลบัดเดี่ยวนี้ด้วยเทอญ
    <O:p</O:p
    สาธุ สาธุ สาธุ นะ โม พุท ธา ยะ
    นิพพานัง ปะระมัง สุขขัง
    ขอเชิญร่วมสร้างพระอุปคุต หลวงปู่ทวด วัดนาอุดม อุบลฯ (รับของดีหลายครูบาอาจารย์)<!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end --><!-- google_ad_section_end -->
     
  19. andente

    andente เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    25
    ค่าพลัง:
    +101
    อนุโมทนา สาธุ


    เรื่องเพศสัมพันธ์นั้นตัดกันยาก โดยเฉพาะผู้ชาย ถ้าไม่บรรลุธรรมแล้วก็ยัง
    ตัดไม่ขาดตามที่พระเดชพระคุณหลวงพ่อฤาษีลิงดำสอนไว้

    สำหรับผมบางครั้งเหมือนเราตัดได้ขาดได้ มันก็หายไปสักพัก แต่พอมันกลับมาอารมณ์มันหนักกว่าเดิมอีก
    ตอนนี้ก็ขอสายกลางไว้ละครับ เอาวิธีดูตามจิตดูอารมณ์กำกับมันไว้ไม่ฝืนมัน เห็นรู้เห็นจริงว่ามันไม่เที่ยง
    เป็นของลวงหลอกจากกิเลส พอดูบ่อยๆเข้าตอนนี้เริ่มตามจิตทัน เริ่มเห็นทันทุกข์ขึ้นเรื่อยๆครับ
     
  20. chura

    chura เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 มีนาคม 2005
    โพสต์:
    688
    ค่าพลัง:
    +1,971

    พระพุทธเจ้าก็มีบุตรก่อนออกบวช น๊ะครับ ... ฉนั้นไม่เกี่ยวกัน
    หรอกครับ การมีกามมันก็แค่ช่วงขณะนั้น เราไม่ได้มีกามกันทั้งวันทั้งคืน
    น๊ะครับ กามเกิดไม่นานมันก็ดับ เหมือนคนถือศิล5 ถ้าทำผิดศิลไปแล้ว
    ก็สามารถกลับมารักษาศิล5 ได้ใหม่ ความดีมรรคผลเริ่มต้นได้ใหม่เสมอๆ
    ยกเว้นพวกที่ผิดศิลหนักตามพระวินัยน๊ะครับ ....

    กามกิเลส ถือว่าเป็นหัวหน้ากิเลสน๊ะครับ เป็นคู่ชกอันดับหนึ่งของผู้ปฎิบัติ
    ธรรม แต่คนธรรมดาไม่ต้องถึงกับละกามกิเลสหรอกครับ พระโสดบันท่าน
    ก็ยังไม่ล๊ะกามน๊ะครับ เพียงแต่ท่านเห็น กาย และ ใจ ไม่ใช่ตัวตนเท่านั้น ถ้า
    เรายังอยู่ในเพศฆาราวาส ก็ปฎิบัติให้ได้พระโสดาบันคือเห็น กายเห็นใจ
    จนจิตยอมรับว่ากายกับใจ นี้ไม่ใช่ของเรา แค่นี้ก็ถือว่าสุดยอดในชีวิตแล้วครับ
    ปิดประตูอบายมิดแล้วครับ....
     

แชร์หน้านี้

Loading...