คำพยากรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า (1)

พอดีไปอ่านหนังสือเล่มหนึ่งเรื่องคำพยากรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า มาจากสำนักสงฆ์แห่งหนึ่งเกี่ยวกับภัยพิบัติของโลกและการรับมือ น่าสนใจดีค่ะ ส่วนจะเชื่อหรือไม่...ขึ้นอยู่กับวิจารณญาณของแต่ละคนนะค่ะ(พอดียาวจะแบ่งเป็นตอนมาให้อ่านนะค่ะ)

คำพยากรณ์ขององค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>​

“อานันนทะ” ดูก่อนอานน์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ปี จะเกิดการณ์ร้ายแรง จะมีการรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ฝนเหล็กจะตกจากอากาศไฟจะลงมาจาอากาศ จะเผาผลาญประชาชนให้พินาศ จะมีการล้มตายซึ่งกันและกันเป็นอันมาก แต่ว่า ดูก่อนอานนท์ก่อนกึ่งพุทธกาล ๑๕ ปี จะถือว่าเป็นการณ์ร้ายแรงหาได้ไม่ ทั้งนี้ก็เพราะว่าหลังกึ่งพุทธกาลไปแล้ว<o></o>
อานันทะ ดูก่อนอานนท์ จะมีความร้ายแรงมากกว่ากึ่งพุทธกาลมาก ยักษ์นอกพระพุทธศาสนาจะรบราฆ่าฟันซึ่งกันและกัน ต่างฝ่ายจะล้มตายกันฝ่ายละมาก ๆ สมณะ ชี พราหมณ์ จะล้มตาย จะตายไป ฝ่ายละครึ่งจึงะเลิกรากัน สำหรับประเทศที่นับถือพระพุทธศาสนาจะมีภัยเหมือนกันแต่ไม่ร้ายแรงนัก ฯ<o></o>
พระพุทธเจ้าบอกว่า ค.ศ. ๒ooo โลกจะไม่สลาย... พระพุทธศาสนาจะทรงอยู่ได้ตลอด ๕ooo ปี<o></o>
ทรงตรัสชี้ เขตประเทศต่อไปนี้ จะเป็นประเทศที่มีความเจริญรุ่งเรืองมากจะสามารถทรงพระพุทธศาสนาครบ ๕ooo ปี<o></o>

นี่หมายถึง ประเทศไทย ...<o></o>​

ถ้าสงครามใหญ่เกิดขึ้น คนไทยจะมีความมั่นคงในพุทธศาสนามากขึ้น ในเมื่อเห็นการสูญเสีย ความตายเกิดขึ้น ความทุกข์ก็เกิดขึ้น จิตใจก็เริ่มเป็นกุศล เวลานั้นบรรดาพุทธศาสนิกชนก็จะมีความมั่นคงในพระพุทธศาสนามากขึ้น เพราะกลัวตาย<o></o>
สำหรับท่านนักปฏิบัติที่เจริญสมาธิจิตก็เร่งรัดตัวเอง กำลังใจก็จะมีสมาธิ ในที่สุดอภิญญาก็จะเกิด ในเมื่ออภิญญาเกิดก็จะใช้ผลอภิญญาและญาณต่าง ๆ ที่ได้จากสมาธิและวิปัสสนาญาณเอามาช่วยบรรดาท่านพุทธบริษัททั้งหลาย ให้มีความสุขปลอดภัย ขอให้ทุกท่านยอมรับนับถือความดีของพระพุทธเจ้าที่ให้ไว้ คือ<o></o>
๑. สังคหวัตถุ ๔ ได้แก่ <o></o>
๑.๑ ทาน การให้ ให้มีการสงเคราะห์ซึ่งกันและกันสร้างความรักเข้าไว้ อย่าสร้างศัตรู<o></o>
๑.๒ ปิยวาจา พูดดี พูดให้คนที่รับฟังมีความสุขเขาจะรักเรา เราก็มีความสุข<o></o>
๑.๓ อัตถจริยา ช่วยเหลือการงานซึ่งกันและกัน<o></o>
๑.๔ สมานัตตา ไม่ถือตัวไม่ถือตน<o></o>
๒. พรหมวิหาร ๔ ได้แก่<o></o>
๒.๑ เมตตา ความรัก<o></o>
๒.๒ กรุณา ความสงสาร<o></o>
๒.๓ มุทิตา มีจิตใจอ่อนโยนเห็นใครได้ดีก็ยินดีดีด้วย <o></o>
๒.๔ อุเบกขา วางเฉย เมื่อเหตุร้ายเกิดขึ้น ไม่ดิ้นรนยอมรับความจริง<o></o>
จงอย่าประมาทในชีวิต จงทรงจิตของท่านให้มีความมั่นคงในคุณพระรัตนตรัย ๓ ประการ คือ คุณพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ โดยเฉพาะอย่างยิ่งให้มีจิตยึด พระพุทธคุณให้ภาวนาว่า “พุทโธ”<o></o>
ก่อนจะหลับให้กำหนดการเข้าออกของลมหายใจ หายใจเข้า นึกว่า “พุท” หายใจออกนึกว่า “โธ” และเวลาตื่นนอนใหม่ ๆ ทำแบบนี้เป็นปกติเวลาที่ยังตื่นอยู่ ถ้าคิดขึ้นมาได้เมื่อไหร่ก็ทำใจให้นึกถึงความดีขององค์สัมมาสัมพุทธเจ้า ภาวนาว่า “พุทโธ” เป็นปกติอย่างนี้ได้ชื่อว่าเป็นผู้เข้าถึงไตรสรณคมณ์ พุทธรัตนะ ธรรมรัตนะ และสัฆรัตนะ ทั้ง ๓ ประการ จิตของท่านจะทรงสมาธิ อำนาจบารมี อำนาจบารมี ของพระพุทธเจ้า จะทำจิตใจของท่านให้เยือกเย็นมีความสุข อันตราย ที่จะเกิดขึ้นกับท่านทั้งหลาย ก็พ้นภัยด้วยอำนาจพุทธานุภาพ ธัมมานุภาพ สังฆนุภาพ<o></o>
ถ้าจิตของเราไม่นิยมในขันธ์ ๕ รูป เวทนา สัญญา สังขาร วิญญาณ ไม่ใช่เรา ไม่ใช่ของเรา จิตเราเกาะองค์พระสัมมาสัมพุทธเจ้าว่า พระองค์อยู่ที่ไหนเราจะไปที่นั่น ท่านจะพ้นกิเลส จะเข้าถึงพระนิพพานได้....<o></o>
นะโมตัสสะ ภะคะวะโต อะระหะโต สัมมาสัมพุทธัสสะ (๓ จบ)<o></o>
พุทธธัง สะระณัง คัจจามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระพุทธเจ้าเป็นที่พึ่ง<o></o>
ธัมมัง สะระณัง คัจจามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระธรรมเจ้าเป็นที่พึ่ง<o></o>
สังฆัง สะระณัง คัจจามิ ข้าพเจ้าขอถึงพระสงฆ์เจ้าเป็นที่พึ่ง<o></o>
<o> </o>

การเตรียมตัวรับมือภัยธรรมชาติครั้งใหญ่<o></o>​

ü ก่อนการเกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่ ๑๕ วัน โลกจะเอียงก้มหัวให้ดวงอาทิตย์มากขึ้นเรื่อย ๆ ส่งผลให้น้ำแข็งจากขั้วโลกเหนือละลาย จะนำไปสู่คลื่นยักษ์ถาโถมเข้าสู่แผ่นดิน (ปัจจุบันเกิดแล้ว)<o></o>
Ø เกิดภัยธรรมชาติครั้งใหญ่เป็นเวลา ๔๙ วัน ในระหว่างเดือน ตุลาคม – พฤศจิกายน<o></o>
Ø ฝนตกครั้งใหญ่ทั่วโลก (ระยะชำระล้างเป็นเวลา ๗ วัน)<o></o>
*ระยะเวลาการเกิดภัยธรรมชาติที่รุนแรงของโลกรวมแล้วมีระยะเวลาทั้งสิ้น ๕๖ วัน<o></o>
*ใน ๓ วันแรกจะเกิดสงครามนิวเคลียร์ที่ทวีปเอเซีย ในประเทศที่เป็นอริต่อกัน<o></o>
<o> </o>

ภัยธรรมชาติที่เกิดขึ้นอย่าหลีกเลี่ยงไม่ได้<o></o>​

๑. เกิดน้ำท่วมครั้งใหม่<o></o>
๒. พายุถล่ม<o></o>
๓. แผ่นดินแยกและแผ่นดินไหว<o></o>
๔. ภูเขาไฟระเบิด (จังหวัดทางภาคกลาง ๒ ลูก ภาคเหนืตอน ล่าง ๓ ลูก อีกทั้งที่จังหวัดราชบุรี น่าน แพร่ อ.ร้องกวาง)<o></o>
๕. คลื่นยักษ์จากทะเล<o></o>
๖. โรคระบาดที่สุดจะเยียวยา ได้แก่ VIRUSTERIA อหิวาตกโรค สายพันธุ์ใหม่ ผู้ไดรับเชื้อจะเสียชีวิตทันทีภายใน ๖ วัน<o></o>
๗. คลื่นเสียงที่รุนแรง ตั้งแต่เกิดมาในชีวิตยังไม่เคยได้ยินเสียงที่ดังขนาดนั้นมาก่อน<o></o>
๘. อดอยากขาดแคลนอาหาร<o></o>
<o> </o>

การดูแลแก่นแท้ยามมีภัย<o></o>​

๑.ได้ยินเสียงให้ละวางเสียงนั้น / รู้เห็นสิ่งใด ให้ละวางสิ่งนั้น ต้องไม่รับรู้ ไม่รับเห็น ไม่รู้ ไม่ชี้ ไม่ว่าจะได้ยินเสียงคนข้างบ้านร้อง เพราะกำลังจะตาย หรือได้ยินเสียงใดที่น่าหวาดกลัว ต้องได้ยินแล้วผ่านเลยไป หากละวางไม่ได้เกิดอาการ “ตายก่อนตาย” (รู้ว่าตนเองจะต้องตายแน่ ๆ หรือการตายทั้งเป็น)<o></o>
๒. ยอมรับให้ได้ต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ต้องมีสติตลอดเวลา<o></o>
๓. อย่าอยู่นิ่งเฉย เพราะจะทำให้กลัวมากขึ้น ควรหากิจกรรมทำ เชาน อ่านหนังสือธรรมะ เพื่อให้จิตเป็นบวกเกิดความอื่มเอิบ<o></o>
๔.สังเกตธรรมชาติก่อนนาทีวิกฤติจะเกิดขึ้น<o></o>
๕.ห้ามกินเนื้อสัตว์ทุกชนิด<o></o>
๖. ห้ามกินผักที่ยังไม่ได้แช่ด่างทับทิม<o></o>
๗.ฝึกการกินน้อย ถ่ายน้อย<o></o>
๘. ระวังอากาศที่หนาวเย็น<o></o>
๙.ระวังสัตว์ร้าย สัตว์มีพิษ เช่นงูพิษ จระเข้<o></o>
๑๐.ห้ามอยู่ตึกสูงเกิน ๓ ชั้น จะพังทลายราบเป็นหน้ากลอง<o></o>

<o> </o>​

การเตรียมจิตวิญญาณ<o></o>​

๑.ชำระกรรมให้เบาบาง ทำได้โดย หยุดโลภ โกรธ หลง ทำจิตใจให้สงบ เบิกบาน เพราะวันนั้นจะมีผู้เส้นโลหิตในสมองแตก เสียชีวิตเป็นจำนวนมาก เพราะเสียงที่ดังกึกก้องไปกระตุ้นเส้นเลือดในสมองแตก ดังนั้นต้องปล่อยวาง ทำให้จิตเป็นบวกจะช่วยได้มาก<o></o>
๒.มีสำนึกทางจิตวิญญาณ<o></o>
๓.ฝึกการละวาง<o></o>
๔.มีสติรู้ตัวตลอดเวลา<o></o>
๕.ฝึกการทำโมฆกรรม * ขออภัยต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือผู้ที่เราล่วงละเมิด<o></o>
หมายเหตุ : โมฆกรรม หรือ โมฆะ หมายถึง การตกเป็นอันเสียเปล่า ใช้บังคับไม่ได้และจะทำให้กลับคืนอีกไม่ได้นิติกรรมที่ตกเป็นอันโมฆะย่อมเสียเปล่าใช้บังคับใด ๆ ไม่ได้อีกเลย มำไม่ได้ผล<o></o>
<o> </o>
<o> </o>
<o> </o>
<o> </o>

การเตรียมตัวเตรียมปัจจัย<o></o>​

เพื่อตนเองและสมาชิกในครอบครัว<o></o>​

๑.เตรียมอาหารและน้ำดื่มไว้ที่บ้านอย่างน้อย ๓-๖ เดือน<o></o>
๒.เครื่องนุ่งห่มเพื่อความอบอุ่นของร่างกาย ได้แก่ เสื้อผ้า กระเป๋า น้ำร้อน ผ้าห่ม ฯลฯ เพราะในช่วงเวลานั้นอากาศจะหนาวเย็นยะเยือกจับขั้วหัวใจ<o></o>
๓.เครื่องใช้ที่จำเป็น<o></o>
๔.ที่อยู่อาศัย<o></o>
๕.ยารักษาโรค<o></o>
๖.ด่างทับทิมและคาราไมล์(จำเป็นมาก)ห้ามกินอาหารที่ไม่ได้ล้างด้วยด่างทับทิม เพราะจะมีทั้งเชื้อโรคและสารกัมมันตรังสี ส่วนคาราไมล์ จะมีไว้รักษาโรคทางผิวหนังที่ดูเหมือนจะยากต่อการรักษา แต่เมื่อทาคาราไมล์แล้ว จะหายอย่างน่าอัศจรรย์<o></o>
๗.ยานพาหนะ เช่น เรือ เสื้อชูชีพ<o></o>
๘.เครื่อช่วยชีวิต<o></o>
๙.แสงสว่าง เช่น เทียน ตะเกียงพายุ (เวลานั้นท้องฟ้าจะมืดมิด ๗ วัน เท่ากับ ๑ ราตรี และจะมืดมิด รวม ๗ ราตรี หรือ ๔๙ วัน ไฟฟ้าจะดับทั่วโลก)<o></o>
๑๐.เตรียมสุขภาพร่างกายให้แข็งแรง<o></o>
<o> </o>

การดูแลตัวเองในช่วงเวลาวิกฤติ<o></o>​

๑.ห้ามออกนอกบ้านโดยเด็ดขาด ใครมาเคาะประตูบ้านก็ห้ามเปิดไม่ว่าคนนั้นจะเป็นญาติสนิทหรือคนที่เรรู้จักก็ตาม<o></o>
๒.ห้ามตากฝน เพราะในฝนจะมีพิษ ทั้งเชื้อโรคและสารเคมีที่มนุษย์สร้างขึ้น<o></o>
๓.ห้ามลุยน้ำหรือแช่น้ำนาน ๆ แต่ถ้าหลีกเลี่ยงไม่ได้ต้องใช้ด่างทับทิมล้างทุกครั้ง<o></o>
๔.ห้ามเปิดประตูต้อนรับผู้อื่นเพราะช่วงเวลานั้นประตูมิดชิดของโลกทั้งสามภพจะถูกเปิดเป็นครั้งแรก<o></o>
ผู้ไม่เชื่อเรื่องผีสาง จิตวิญญาณ ก็จะได้เห็น คนที่มาเยือนอาจเป็นผีเปรต ผีโขมด ที่เป็นเจ้ากรรมนายเวรของเราจำแลงมาก็เป็นได้และห้ามอยากรู้อยากเห็นโดยเด็ดขาด<o></o>