ค้นหาความลับของความสุข

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย HONGTAY, 1 กุมภาพันธ์ 2010.

  1. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,877
    [​IMG]



    ...ครั้ง หนึ่งมีเทวดาองค์หนึ่ง ต้องการซ่อนความลับชิ้นสำคัญ
    คือ ความลับที่จะมี "ความสุข"



    ภันเต คุณารัตนามหาเถระ เป็นพระชาวศรีลังกา
    ที่จบการศึกษาจากมหาวิทยาลัยพุทธศาสนามิชชั่นนารี เมืองโคลัมโบ
    แล้วมีโอกาสไปเผยแพร่ศาสนาในประเทศอินเดีย รวมทั้งประเทศอื่นๆ
    เช่น มาเลเซีย แคนาดา ออสเตรเลีย นิวซีแลนด์
    แล้ว จึงศึกษาต่ออีกที่มหาวิทยาลัยในสหรัฐอเมริกา


    ความสนใจในเรื่อง วิปัสสนา ทำให้ท่านเขียนหนังสือเกี่ยวกับเรื่องของสติได้กระจ่าง
    ให้ ความหมายอย่างชัดเจนและครอบคลุมในรายละเอียดอย่างมาก
    เพราะเมื่ออ่าน หนังสือ "สติ ด้วยภาษาง่ายๆ" และ "8 ขั้น วิถีทางสู่ความสุข"
    ซึ่งแปล โดย พ.ญ.ชวาลา เธียรธนู จบลง
    จะเห็นได้ถึงพลังของเรื่อง "ภายใน"
    ที่ มีส่วนในการกำหนดความเป็นไปต่างๆ ของชีวิตได้ทุกซอกทุกมุม


    โดย เฉพาะ "ความสุข" ที่ทุกคนไขว่คว้ากันนักหนา

    ใน 8 ขั้นวิธีสู่ความสุข ท่านภันเต คุณารัตนาฯ เขียนไว้ว่า


    ...ครั้ง หนึ่งมีเทวดาองค์หนึ่ง ต้องการซ่อนความลับชิ้นสำคัญ
    คือ ความลับที่จะมี "ความสุข"
    ท่านคิดว่าจะซ่อนความลับนั้นใต้ท้องทะเล
    แต่ท่านพูดกับ ตัวเองว่า "ไม่ดี ฉันจะไม่ซ่อนความลับของฉันไว้ที่นั่น
    มนุษย์นั้นฉลาด ยิ่งนัก สักวันเขาต้องหาพบแน่ๆ"


    ต่อไป ท่านนึกว่าจะซ่อนไว้ในถ้ำ แล้วท่านเปลี่ยนความคิด
    "คนชอบเที่ยวถ้ำ ไม่เอาล่ะ มนุษย์จะค้นพบอีก"
    หรือ จะซ่อนไว้บนยอดเขาสูงดี แต่ท่านคิดอีกว่า
    "ผู้คนเดี๋ยวนี้อยากรู้อยาก เห็น สักวันหนึ่งต้องมีคนปีนเขาขึ้นมาพบแน่ๆ"


    ในที่สุดท่านก็ได้ที่ที่ดีที่ สุด
    "ฉันรู้ที่ที่ไม่มีคนค้นหา ฉันจะซ่อนความลับนี้ไว้ในใจมนุษย์"...



    นับ ตั้งแต่นั้นมา มวลมนุษย์จึงต้องพยายามหา
    วิธีค้นหาความลับที่ถูกซ่อนไว้ ตามความศรัทธาและความเชื่อของแต่ละเผ่าพันธุ์


    บรรดาพุทธศาสนิกชน นั้น มีหลักธรรมเป็นวิชา
    ซึ่งสอนให้ใช้ "สติ" เป็นเครื่องมือในการค้นหาความลับ


    สำหรับ คำอธิบายถึงการมีสติในทางที่ควรจะเป็น นั่นคือ "สัมมาสติ"
    ซึ่งเป็น หนึ่งใน มรรค 8 หรือ 8 วิถีทางสู่ความสุข
    ท่านบอกว่า...สติ คือ ความตั้งใจต่อสิ่งรอบตัวที่เป็นอยู่ทุกขณะ
    เนื่องจากไม่รู้ตัว เรารู้จักตัวเองและโลกรอบตัว
    โดยผ่านทางแนวความคิดที่จำกัดตามความเคยชิน
    และถูกปรุงแต่งด้วยความหลงผิด การรับรู้ของเรา
    และการสร้างมโนภาพ ที่ตามมาต่อความเป็นจริงจึงไม่ชัดเจนและสับสน


    สติสอนให้เราหยุด ใช้แนวความคิด ภาพพจน์ การให้คุณค่า
    วิจารณ์ ออกความเห็น และแปลความหมายทุกสิ่งลงชั่วคราว


    จิตที่มีสติจึงเที่ยงตรง แทงทะลุ สมดุลและไม่ยุ่งเหยิง
    เปรียบเช่นกระจกเงาสะท้อนภาพโดยไม่บิด เบือนสิ่งที่อยู่ตรงหน้า...


    สภาวะ ของการมีสติที่ว่านี้มีความจำเป็นและสำคัญมากต่อการดำเนินชีวิต
    เพราะจะ ทำให้ผู้ที่ฝึกฝนมองเห็นสิ่งต่างๆ ในหลายๆ มุม
    และปรับการมีปฏิกิริยา ตอบโต้ต่อสิ่งเร้าได้ ดังที่ท่านบอกว่า


    ...เมื่อ เราเรียนรู้ที่จะสังเกตโดยไม่วิจารณ์สิ่งต่างๆ รอบๆ ตัว
    เราจะมองเห็น ความรู้สึกและความคิด
    โดยไม่เข้าไปยึดไว้ ไม่แล่นโลดไปตามปฏิกิริยาเคยคุ้น


    สติให้เวลาที่เราต้องการ เพื่อที่จะป้องกันและชนะความคิด และการกระทำที่ไม่ดี...


    หาก จะสรุปความก็คือ ถ้าสะสมสติไว้ได้มากพอ
    ปัญญาจะเกิดตามมาโดยอัตโนมัติ ให้นำไปใช้ได้ในทุกๆ เรื่อง
    ขอเพียงแต่มีความฝักใฝ่อย่างจริงจัง


    ...สติ นำปัญญามาได้อย่างไร และปัญญา
    ทำให้เราปล่อยสิ่งปิดบังความสุขไปได้ อย่างไร
    เมื่อเราค้นภายในตัวเรา เพื่อให้พบความเข้าใจ ความจริงเกี่ยวกับความสุข...


    เรื่องเหล่านี้เป็นสิ่งที่แต่ละคน พึงต้องขวนขวายเพื่อให้พบคำตอบด้วยตนเอง
    เพราะขุมทรัพย์แหล่งนี้เป็น เรื่องเฉพาะตัวที่ใครอื่นไม่สามารถจะค้นหาแทนได้


    ท่านภันเต คุณารัตนาฯ จึงบอกว่า


    ...คุณ เคยชี้ให้แมวดูอะไรไหม คุณยิ่งชี้แมวยิ่งเข้ามาดมนิ้วคุณ
    แมวจะไม่มองเกินเลยไปกว่านิ้วคุณ
    ถ้า คุณอ่านหนังสือเล่มนี้จนจบ และพูดว่า
    "มีแค่นี้เองหรือ? สัจธรรมอยู่ที่ไหน? ฉันไม่เห็นได้อะไรขึ้นมาจากหนังสือนี้"


    คุณก็เหมือนแมวนั่นแหละ ขอให้ดูเกินไปกว่าคำที่เขียนไว้ในหนังสือนี้
    ใช้ การปฏิบัติที่พระพุทธเจ้าทรงแนะนำ
    ให้ผลักดันตัวเองให้เห็นอีกวิถีทางของ ความเข้าใจ เดินตามมรรคด้วยตนเอง
    ทางเดินนี้จะกระจายครอบคลุมประสบการณ์ ทุกด้านของชีวิต


    ใช้หนังสือนี้ ช่วยให้คุณตั้งคำถามเกี่ยวกับประสบการณ์ของคุณเอง
    พยายามเรียนอะไร บางอย่างจากทุกสิ่งที่เกิดขึ้นกับคุณ พระพุทธเจ้าตรัสเสมอว่า


    "จงมาดู" ซึ่งหมายความว่า จงมาและมองดูภายในร่างกายและจิตใจของตัวเอง
    เพื่อ จะได้เห็นความจริง คือ ธรรมะ อันเป็นสิ่งที่คุณจะหาไม่พบจากที่อื่น...


    ท้าทาย กันอย่างนี้ หากใครอยากรู้วิธีค้นหาความลับของความสุขจากหนังสือทั้งสองเล่ม
    คุณหมอชวาลาผู้แปลบอกว่า หากผู้ใดต้องการเป็นจำนวนมากเพื่อแจกจ่าย
    แล้ว บริจาคเงิน จะนำสมทบมูลนิธิเพื่อสถาบันราชานุกูล
    ซึ่งทำงานช่วยเหลือ เด็กพิการทางสมอง
    ให้ติดต่อได้ที่มูลนิธิ โทร.0-2245-4601 ต่อ 7001


    แต่ใครจะขอรับหนังสือไปอ่านเพียงอย่างเดียวก็ได้-ไม่ว่ากัน


    ขอบคุณเรื่องราวดีดีจาก...
    คอลัมน์ ระเบียงปัญญา
    โดย รอยตะวัน
    มติชน วันที่ 30 พฤษภาคม พ.ศ. 2547 ปีที่ 27 ฉบับที่ 9578

    <!-- m -->
     
  2. ดาวจรัสแสง

    ดาวจรัสแสง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 ตุลาคม 2009
    โพสต์:
    542
    ค่าพลัง:
    +3,015
    โอ ขอบพระคุณเป็นอย่างยิ่งค่ะสำหรับบทความ เนื้อหาสาระที่ให้ข้อคิด อืม ว่าแล้วก็จะไปลองสะสมสติ เพื่อที่จะได้มีสมาธิและปัญญา

    อนุโมทนาสาธุค่ะ
     

แชร์หน้านี้

Loading...