จักรวาลอยู่ในตัวของคุณ มันสมบูรณ์อยู่แล้ว แม้แต่ "จักรวาลกับจุลินทรีย์ก็ไม่ต่างกัน"

สรรพสิ่งเป็นธรรมชาติอยู่แล้ว มีระบบใหญ่ และระบบย่อย ทว่า ไม่ว่าระบบใหญ่หรือย่อย ล้วน "มีโครงสร้างระบบเป็นหนึ่งเดียวกัน" ไม่ว่าจะเป็นอตอม หรือระบบสุริยจักรวาล ใหญ่หรือเล็กขนาดไหน ก็มีโครงสร้างระบบเดียวกัน ดังนั้น แม้ว่าจักรวาลหรือร่างกายของมนุษย์ "ก็มีโครงสร้างระบบเดียวกัน" ที่ลงตัวอยู่แล้ว ดังนั้น คุณจึงไม่จำเป็นที่จะต้องดัดแปลงให้มันแตกต่างไปจากธรรมชาติแต่ดั้งเดิมของมันเลย คุณเพียงแต่ใช้มันให้สอดคล้องกับระบบใหญ่ ที่ใหญ่ขึ้น และใหญ่ขึ้นก็เท่านั้น ยิ่งคุณสอดคล้องกับระบบที่ใหญ่ขึ้นมากเท่าไร คุณก็จะสอดคล้องกับธรรมชาติที่แท้จริงมากขึ้นเท่านั้น นั่นหมายถึง ในท้ายที่สุด คุณจะสอดคล้องกับ "จักรวาล" ไปด้วยในตัว นั่นคือเป้าหมายสุดท้ายที่ยิ่งใหญ่ที่สุด ในระบบที่ย่อยเล็กลงไป และไม่สามารถปรับตัวตามทำให้สอดคล้องกับระบบที่ใหญ่กว่าขึ้นไปได้ ล้วนแต่จะถูก "ทำลาย" เพราะความขัดแย้งกับวิถีแห่งธรรมชาตินั่นเอง ดังนั้น ยิ่งคุณถูกจำกัดกรอบด้วยระบบย่อยเท่าไร คุณยิ่งจะถูกทำลายได้ง่าย เช่น ระบบย่อยที่เรียกว่าสังคมย่อย, ประเทศ หรือแม้แต่ศาสนา เหล่านี้ ล้วนเป็นระบบย่อยที่มีความขัดแย้งบางประการกับธรรมชาติใหญ่ (จักรวาล) ดังนั้น ระบบย่อยเหล่านี้จึง "มีอายุจำกัด" เมื่อถึงจุดหนึ่งล้วนต้องถูกทำลายไป ไม่เที่ยง ไม่อาจยึดมั่นถือมั่นได้ ไม่ใช่ตัวตนของตนที่แท้จริง จริงอยู่ว่าการยอมจำนนทำตัวให้สอดคล้องกับระบบย่อย จะทำให้คุณได้รับผลผลิตหลายประการจากระบบย่อยนั้น เช่น การยอมเป็นพนักงานบริษัท ย่อมทำให้ได้รับเงินเดือน ทว่า สิ่งนี้ "มีอายุจำกัด" หากคุณปรับตัวเข้ากับระบบย่อยโดยไม่ยึดมั่น โดยเข้าใจระบบใหญ่ (จักรวาล) เมื่อใดที่ระบบย่อยขัดแย้งกับจักรวาลมากๆ คุณสามารถถอนตัวออกมาได้ทัน คุณจะไม่ถูกทำลาย และสามารถปรับตัวไปสู่ระบบอื่นๆ ที่ยังสอดคล้องกับจักรวาลและยังไม่ถูกทำลายได้ ดังนั้น ในการมองให้เห็นจักรวาลดดยรวมและเข้าใจวิถีของธรรมชาติภาคใหญ่ แล้วปรับตัวให้เข้ากับระบบย่อย โดยไม่ยึดระบบย่อย เตรียมพร้อมตัวเองอยู่ตลอดที่จะถูกเปลี่ยนแปลงโดยระบบใหญ่ รู้เท่าทันระบบใหญ่ และสามารถปรับตัวออกจากระบบย่อยที่ขัดแย้งกับธรรมชาติระบบใหญ่ได้ จึงเป็น "พฤติกรรมเปลือกนอก" ที่สังเกตได้ จากผู้ที่มีความสอดคล้องกับธรรมชาติระบบใหญ่ (จักรวาล) แล้ว

 

มาปูเสื่อรอฟังค่ะ

 

จักรวาลหมุนอยู่แล้วในตัวของคุณ เพียงแต่พลังงานเก่ากำลังขัดขวางมัน!


ธรรมชาติสร้างสรรค์ทุกอย่างมาเป็นปกติ แต่ดั้งแต่เดิมแล้ว มันดีและสมบูรณ์แล้ว
เพียงแต่หลังจากถูกสร้างขึ้นมา ก็ถูก "สิ่งตรงข้าม" ทำให้ "เบี่ยงเบน" จนในที่สุด
อาจทำให้เกิด "การกลายพันธุ์" ขึ้นในที่สุด ดังนั้น เราจึงไม่แนะนำให้คุณทำสิ่งใด
นอกจาก "ปกติที่คุณเป็นอยู่แล้ว" เราเพียงแต่แนะนำให้คุณรู้เท่าทัน สิ่งที่จะทำให้
คุณ "เบี่ยงเบนออกจากวิถีที่ปกติ" ก็เท่านั้น และต้นเหตุของการเบี่ยงเบนออกจาก
วิถีปกติ ก็คือ "พลังงานเก่า" ซึ่งอยู่บนโลกใบนี้ ซึ่งคุณได้เคยก่อเอาไว้เองเมื่อใน
อดีตที่คุณเคยเดินทางมายังโลกใบนี้ และคุณเองนั่นแหละ ที่มีหน้าที่ "ชำระล้าง"
พลังงานเก่าของคุณ เพื่อไม่ให้พลังงานเก่าเหล่านี้ นำพาคุณออกจากวิถีปกติตาม
ธรรมชาติแต่ดั้งเดิมซึ่งสอดคล้องกับจักรวาล ในกระบวนการชำระล้างนี้เอง คุณก็
ไม่จำเป็นต้องหาวิธีอันหนึ่งอันใด รูปแบบปฏิบัติอันใด เพราะจะเป็นการกระทำกิจ
อันใดก็ได้ที่ "สอดคล้องกับจักรวาล" ล้วนได้รับพลังงานจักรวาล, หมุนชำระล้าง
พลังงานเก่าให้อยู่แล้ว ทั้งนี้ การกระทำที่สอดคล้องกับจักรวาลจะมีลักษณะ ดังนี้


๑) ไม่สร้างพลังงานเก่าเพิ่ม, ส่งไปยังโลกอนาคต หรือไม่ก่อกรรมใหม่เพิ่มนั่นเอง
๒) ไม่ขัดขวางธรรมชาติใดๆ แต่มีลักษณะปลดปล่อยทุกๆ อย่าง ไปตามธรรมชาติ
๓) ยอมรับทุกสิ่งทุกอย่างว่าเป็นธรรมชาติ เป็นหนึ่งเดียวกัน ไม่ปฏิเสธธรรมชาติใด
๔) ไม่ต้านไม่ตาม, ไม่ขัดขวาง, ไม่หลงเพลิน, ไม่ลบ-ไม่บวกเพิ่ม มีฐานเป็นศูนย์
๕) เป็นการปลดปล่อยพลังงานไปโดยไม่ทำร้ายผู้ใด ปล่อยแล้วสลายกลายเป็นใส


เมื่อคุณสามารถกระทำกิจต่างๆ ได้สอดคล้องกับจักรวาลแล้ว พลังจักรวาล ก็จะหมุน
สอดคล้องกับจักระในร่างของคุณ กระบวนการชำระล้างก็จะเกิดขึ้นทันที จนพลังงาน
เก่า (พลังมืด) ก็จะค่อยๆ สว่างขึ้นแล้วใสในที่สุด ณ จุดนี้ คุณจะรู้สึกว่าง, เบา, โล่ง
หลุด, เหมือนสลายกลายเป็นศูนย์ และคุณสามารถ "เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล" หรือ
ธรรมชาติระบบใดระบบหนึ่งได้ในฉับพลันทันที เช่น คุณอาจดูแม่น้ำอยู่ ณ จุดศูนย์นี้
เองที่คุณสามารถ "หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียว กับแม่น้ำ" ได้ทันที และแม่น้ำนั้นมีระบบ
ไม่แตกต่างจากธรรมชาติอื่นใดเลย ทั้งจักรวาล มีระบบโครงสร้าง เหมือนกันทั้งหมด
เมื่อนั้นเอง คุณจะได้รับพลังที่ยิ่งใหญ่ที่สุดจากธรรมชาติ แต่มันอาจเป็นเพียงสิ่งที่นิ่ง
เงียบงัน, มีเหมือนไม่มี ฯลฯ พลังที่ยิ่งใหญ่นี้ ยิ่งมีพลังมาก กลับยิ่งเหมือนไร้พลัง แต่
นั่นคือ "พลังอันสูงสุด" และไม่มีพลังอื่นใดที่จะทำลายได้อีก ซึ่งกระบวนการนี้จะเกิด
ขึ้นได้ ถ้าคุณไม่ถูก "ขัดขวางโดยพลังงานเก่า" และกระบวนการได้ดำเนินไปถึงที่สุด

 

การปรับตัวคุณเข้าสู่ระบบใหญ่และระบบย่อยซึ่งอายุขัยต่างกัน


ธรรมชาติมีระบบในตัวเอง ซึ่งคล้ายคลึงกัน เช่น ระบบทุนนิยม, ระบบ
องค์กรห้างร้านต่างๆ, ระบบร่างกายมนุษย์ ฯลฯ ทว่า ระบบเหล่านี้ล้วน
มี "อายุขัยที่ต่างกัน" ดังนั้น จึงมีระบบที่ เกิดขึ้น, ดำรงอยู่ชั่วระยะแล้ว
ดับสลายลงไป ในขณะที่มนุษย์เองก็มีอายุขัยที่จำกัด เมื่อมนุษย์ที่หวัง
ผลระยะสั้น คิดสั้นๆ ได้ผลลัพธ์ในระยะสั้นออกมาดี ได้ผลเร็ว เช่น ได้
เงินมากในเวลาอันสั้น สิ่งนี้ล้วนเป็นไปได้ใน "ระบบย่อย" ทว่า เมื่อมัน
ขัดแย้งกับระบบที่ใหญ่ขึ้น มันจะถูกทำลายลงด้วย เช่น ในระบบการค้า
ยาเสพติด ในสังคมย่อยของผู้ค้ายานั้น ยอมรับและทำให้ผู้ค้ายาได้รับ
ผลที่ตนต้องการได้ ทว่า ระบบนี้ขัดแย้งกับระบบกฏหมาย ซึ่งเป็นระบบ
ที่ใหญ่กว่า ดังนั้น ผู้ค้ายาจึงถูกทำลายด้วยการถูกจับติดคุกในที่สุด ถ้า
คุณตัดสินใจอยู่ในระบบนี้ คุณอาจได้ผลที่คุณต้องการเร็ว ทว่ามันก็จะ
อายุขัยสั้นด้วย และคุณจะจบลงเร็วอย่างไม่คาดคิด แต่ถ้าคุณสามารถ
เอาตัวเองออกมาได้ก่อนระบบย่อยนั้นจะถูกทำลาย มาเริ่มต้นชีวิตใหม่
ในระบบที่ใหญ่ขึ้น เห็นผลช้ากว่า (เพราะระบบมันใหญ่, การเดินเครื่อง
จึงต้องรอทั้งระบบ จึงช้า) แต่อายุขัยของระบบ ก็จะยาวนานกว่า คุณก็
สามารถดำรงอยู่ในระบบนั้นได้ยาวนาน ปลอดภัย ไม่ถูกทำลายไปง่าย
ดังนั้น เราไม่ได้บอกว่าระบบใดผิดหรือถูกเลย เราเพียงแต่บอกท่านว่า
ทุกๆ ระบบมีอายุขัยของมัน ถ้าคุณกำลังอยู่ในระบบย่อยใดก็ตาม และ
คุณปรับตัวได้เร็ว คุณเอาตัวเองออกมาจากระบบที่กำลังจะตาย คุณจะ
สามารถเริ่มต้นใหม่ในระบบที่ใหญ่กว่าได้และคุณจะได้รับ "ความรอด"
แน่นอนว่า "มนุษย์ทุกคนเลือกเกิดไม่ได้" แต่เราสามารถที่จะเลือกเดิน
ตามทางของเราเองได้ ไม่ใช่ทุกขณะแต่ "บางขณะ บางโอกาส" อาจ
มาถึงคุณ และเมื่อนั้น ถ้าคุณเลือกที่จะคล้อยตามระบบที่ใหญ่กว่า คุณ
ก็จะรอด จะมีอายุขัยในระบบที่ยาวนานขึ้นได้ จนท้ายที่สุด คุณจะมีวิถี
ที่สอดคล้องกับระบบธรรมชาติที่ยิ่งใหญ่ที่สุดได้คือ "จักรวาล" นั่นเอง

 

มนุษย์สามารถย่อขยายตัวเองให้สอดคล้องกับระบบที่มีขนาดต่างกันได้


มนุษย์เป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นอยู่ในตัว สามารถย่อขยายตัวเองให้สอดคล้อง
กับระบบที่มีความเล็ก และใหญ่ต่างกันได้ เช่น สามารถย่อตัวลงเข้าร่วมกับกลุ่ม
คนกลุ่มเล็กๆ ก็ได้ หรือเข้าร่วมกับองค์กรโลกก็ได้ นี่คือ ธรรมชาติของมนุษย์ซึ่ง
มีอยู่แล้วในทุกคน การย่อและขยายขนาดระบบภายในตัวเองนี้คือ "การปรับตัว"
ของมนุษย์ ถ้ามนุษย์เอาตัวเองเข้าสู่ระบบใหญ่ที่สุด (จักรวาล) แล้วก็ย่อตัวเอง
ให้เล็กลงไม่ได้ มนุษย์ผู้นั้นจะหาระบบใดในโลกเข้ากับตัวเองไม่ได้เลยจึงจะอยู่
"นอกระบบของโลก" ไป และไม่ได้รับ "ผลพลอยได้จากระบบใด" เลย เช่น ไม่
มีงานทำ, ไม่อยู่ในระบบองค์กรใดๆ ฯลฯ ดังนั้น การที่เราสามารถเป็นหนึ่งเดียว
กับจักรวาลที่ยิ่งใหญ่ได้แล้ว เราต้องรู้จักการปรับตัวเข้าสู่ระบบย่อยของโลกด้วย
เพื่อให้สามารถดำรงชีพอยู่ได้ตามอายุขัยของระบบ เช่น จักรวาลมีวาระของการ
ให้ผลยาวนานมาก แต่มนุษย์ต้องกินต้องใช้ทุกวัน ดังนั้น การรอผลจากจักรวาล
จึงไม่สอดคล้องกับวงจรของการดำรงชีพของมนุษย์ มนุษย์จึงต้องมีระบบย่อยที่
ให้ผลเลี้ยงดูตนเองด้วย ทั้งนี้ การอยู่ในระบบที่ผูกมัดมากๆ เช่น ระบบทุนนิยมซึ่ง
ผูกมัดด้วยการทำงานแบบตอกบัตรเช้าเย็น ทำให้มนุษย์ไม่สามารถปลีกตัวมาทำ
กิจของจักรวาลได้เลย การมีงานทำอย่างอิสระแต่พอเลี้ยงชีพตนไปได้ ทั้งพร้อม
อยู่เสมอที่จะทำกิจของจักรวาล จึงกลายเป็นทางออกหนึ่งของการปรับตัวเข้าอยู่
ในระบบย่อย และพร้อมจะออกจากระบบย่อยเพื่อทำงานในระบบใหญ่ได้ในทันที

 

ธรรมจักร ไม่จำเป็นต้องสร้างใหม่หรือฝึกเพิ่ม เพราะจักรวาลสร้างให้แล้ว


"ธรรมจักร" หรือธรรมชาติของระบบที่ใช้ในการชำระล้างพลังงานเก่านั้น ไม่ต้อง
สร้างเพิ่มก็ได้ ทั้งยังไม่ต้องฝึกเพิ่มก็ได้ เพราะ จักรวาลสร้างให้มนุษย์ทุกคนแล้ว
อยู่ในจักระทั้ง ๗ ของมนุษย์ ซึ่งปกติจะหมุนคล้อยตามพลังจักรวาลอยู่แล้ว หาก
ไม่ถูก "พลังงานเก่า" ทำให้เบี่ยงเบนหรือผิดเพี้ยนไป ระบบธรรมจักร หรือจักระนี้
ก็จะหมุนเพื่อชำระล้างพลังงานเก่าที่จรเข้ามาเป็นระลอกๆ ได้ เพียงแต่คุณมีวิถีที่
สอดคล้องกับจักรวาล เปิดรับพลังจักรวาล ปรับจูนตรงกับธรรมชาติแห่งจักรวาล
ก็เท่านั้น เพียงแต่การหมุนนี้จะเป็นไปอย่างช้าๆ ค่อยเป็นค่อยไป แตกต่างจากคน
ที่ไปฝึก "หมุนจักระหรือหมุนธรรมจักร" ก็จะมีความชำนาญในการหมุนมากขึ้น มี
ความรวดเร็วขึ้น ทว่า สิ่งนี้ "ไม่ใช่สิ่งจำเป็น" เพราะการหมุน อย่างสอดคล้องกับ
ธรรมชาติ, จักรวาล อย่างค่อยเป็นค่อยไปนั้น "พอดีแล้ว" สำหรับมนุษย์ทุกๆ คน
ดังนั้น เราจึงกล่าวว่า "ไม่จำเป็นต้องสร้างเพิ่มหรือฝึกใหม่" แต่อย่างใด เพียงแต่
เปิดรับ-ปรับจูนจน "เป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล" สอดคล้องกับธรรมชาตินี้แล้ว คุณ
ก็สามารถได้รับพลังจักรวาลที่หมุนอยู่แล้วนี้ได้ คุณอย่าลืมว่าจักรวาลนั้น หมุนอยู่
และพลังแห่งการหมุนของจักรวาลนั้นมีมากพอทั้งจักรวาล และส่งผลต่อทุกสิ่งใน
จักรวาลอยู่แล้ว ถ้าสิ่งนั้นๆ ไม่ได้ "ต่อต้านหรือขัดขวางพลังจักรวาล" อยู่ ล้วนจะ
ได้รับพลังงานจักรวาลนี้อยู่แล้ว และหลายท่านได้ทราบแล้วว่าระบบภายในมนุษย์
นั้น มี "จักระทั้งเจ็ด" อยู่แล้ว เป็นธรรมชาติที่สมบูรณ์อยู่แล้ว เพียงแต่ที่คุณไม่ได้
รับพลังจากสิ่งนี้ เพราะ "ถูกขัดขวางอยู่" ด้วยพลังงานเก่าก็ดี ทำให้คุณค่อยๆ ถูก
ดึงให้เบี่ยงเบนออกจากพลังจักรวาล และหันไปใช้พลังงานเก่าขับเคลื่อนกิจกรรม
ต่างๆ ของคุณแทน แล้วคุณก็เริ่มเคยชินกับการใช้พลังงานเก่านั้น จนหลงลืมพลัง
จักรวาลนี้ไป ก็เท่านั้นเอง ดังนั้น เราจึงเพียงมาเตือนให้ท่าน ใช้สิ่งที่มีอยู่แล้วตาม
ธรรมชาติซึ่งสร้างสรรค์สมบูรณ์ในตัวแล้ว เท่านั้นเอง มิได้ให้สร้างหรือฝึกใหม่เลย

 

วงจรการหมุนของจักรวาลอันสอดคล้องกับจักระทั้งเจ็ดของมนุษย์ จะช่วยให้เกิดการชำระล้างพลังงานเก่าให้ใสบริสุทธิ์ไปในตัว ในกิจกรรมต่างๆ ที่มนุษย์กระทำอย่างสอดคล้องกับธรรมชาติแห่งจักรวาล โดยไม่ต้องมีสิ่งใดเพิ่มลงไปหรือลดลงไปเลย และในท้ายที่สุดของกระบวนการชำระล้างนั้น จะทำให้เกิดพลังงานใสบริสุทธิ์ และทำให้ท่านรู้สึกโล่ง, ว่าง, เบา, หลุด ฯลฯ และคล้ายๆ สิ่งที่เคยเป็นอยู่ ดำรงอยู่ จะกลายเป็นศูนย์ (แต่ไม่ได้ศูนย์สลายจริง เพียงแต่ใสบริสุทธิ์ สิ้นสภาพเดิมจนราวกับศูนย์ไปฉะนั้น) ณ จุดนี้เอง ที่ท่านไม่ถูกขวางด้วย "พลังงานเก่า" อีกแล้ว และสามารถ "หลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับจักรวาล" ผ่านระบบธรรมชาติน้อยใหญ่ได้ในฉับพลันทันที เช่น ขณะที่ท่านกำลังมองดูพระอาทิตย์ขึ้นยามเช้า หากกระบวนการชำระล้างสำเร็จ จนพลังงานเก่ากลายเป็นศูนย์ ณ จุดนั้น ท่านก็สามารถหลอมรวมเป็นหนึ่งเดียวกับธรรมชาติที่เรียกว่า "พระอาทิตย์" ได้ และฉับพลันนั้น ท่านก็ไม่ต่างจากพระสุริยเทพ ท่านจะกลายเป็นหนึ่งเดียวกับพระสุริยเทพได้ทันที เป็นสิ่งศักดิสิทธิ์ที่จักรวาลสร้างได้ทันที (ไม่ใช่สิ่งศักดิสิทธิ์ที่โลกสร้าง) ท่านจะเข้าถึงธรรมชาติอันเป็นหนึ่งเดียวกันทั้งจักรวาล ไม่ว่าระบบจะใหญ่หรือเล็ก และนี่คือ "ผลลัพธ์ในท้ายที่สุด" ที่เราต้องการให้ท่านไปถึงและท่านคงเห็นแล้วว่า "มันไม่ยากเกินไปเลย" ที่ท่านจะพยายาม หากไม่ถูก "พลังงานเก่าขัดขวาง" เสียก่อน อนึ่ง เรามิได้ต้องการให้ท่านมีความรู้สึกบวกหรือลบ, ดีหรือไม่ดีต่อพลังงานเก่าหรือพลังงานจักรวาล เราเพียงแต่สื่อสารให้ท่านเข้าใจและยอมรับความจริงของพลังงานทั้งสองชนิดที่ทำหน้าที่ต่างกันเท่านั้น ดังนั้น เราจึงไม่ได้บอกให้ท่านหนีหรือปฏิเสธพลังงานเก่า (ตรงกันข้าม ท่านควรยอมรับพลังงานเก่าแล้วชำระล้างเสีย) หรือให้ท่านแสวงหาพลังงานจักรวาล (พลังงานใหม่) แต่อย่างใดไม่ เพราะพลังงานจักรวาลนี้ ไม่ต้องหา ไม่ต้องไขว่คว้า เพราะเป็นสัจธรรมความจริงของธรรมชาติ เป็นสิ่งที่มีอยู่แล้ว ทั่วถึงแก่มนุษย์ทุกคนอยู่แล้ว สุดท้ายนี้ ขอให้ท่านทั้งหลายสนุกสานกับการทดลอง, พิสูจน์ และค้นพบความมหัศจรรย์ต่างๆ ที่เราได้แจ้งแก่ท่านเป็นการเบื้องต้น เพราะเราไม่อาจกล่าวได้อย่างละเอียด แต่หวังว่าท่านจะสามารถค้นพบมันได้เอง และสัมผัสความมหัศจรรย์ของพลังจักรวาล ซึ่งเราไม่อาจอธิบายให้ชัดเจนไปกว่านี้ได้ สวัสดี...

 

จบการสื่อสารจากจักรวาล


๑๕ ก.ค. ๒๐๑๑
รับสื่อสารโดย "อพอลโล่"

 

ขออนุโมทนาท่านอพอลโล่
ขออนุญาตนำไปเก็บสะสมไว้ที่
ความสัมพันธ์ของจักรวาลกับตัวเรา

 

ตามอ่านทุกกระทู้ อ่านเมื่อไร สว่างเมื่อนั้น ขออนุโมทนา สาธุการ

 

<TABLE id=post4878150 class=tborder border=0 cellSpacing=0 cellPadding=6 width="100%" align=center><TBODY><TR><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 0px solid" class=thead> เมื่อวานนี้, 04:54 PM </TD><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 1px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 0px solid; BORDER-TOP: #ffffff 1px solid; FONT-WEIGHT: normal; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=thead align=right> #19 </TD></TR><TR vAlign=top><TD style="BORDER-BOTTOM: #ffffff 0px solid; BORDER-LEFT: #ffffff 1px solid; BORDER-TOP: #ffffff 0px solid; BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" class=alt2 width=175><!-- google_ad_section_start(weight=ignore) -->อพอลโล่<!-- google_ad_section_end --><SCRIPT type=text/javascript> vbmenu_register("postmenu_4878150", true); </SCRIPT>
สมาชิก



วันที่สมัคร: Mar 2011
ข้อความ: 338
พลังการให้คะแนน: 38


</TD><TD style="BORDER-RIGHT: #ffffff 1px solid" id=td_post_4878150 class=alt1><!-- google_ad_section_start -->ลัทธิญี่ปุ่นแล้วยังไง
คุณไม่ได้เป็นนายก
ห้ามผมไม่ได้หรอก<!-- google_ad_section_end -->
</TD></TR></TBODY></TABLE>
​

คุณยอมรับว่า คุณไปเอาแนวคิดนี้มาจากคนญี่ปุ่น
ทำไมคุณไม่ให้ เครดิตคนญี่ปุ่น
กลับมาอวดอ้างตนว่า สื่อสารมาจากจักรวาล

เอาแนวความคิดมาจากญี่ปุ่น ผสมกับพุทธดัดแปลง
แล้วอ้างว่า มาจากจักรวาล

ทำแบบนี้ ถูกต้องแล้วหรือครับ

 

ติดตามอ่านคุณอพอลโล่ครับ อ่านไป นึกตามไป แล้วรู้สึกดียังไงบอกไม่ถูก ขออนุโมทนาด้วย และขอเป็นกำลังใจให้นะครับ

 

แล้วคนหลงเชื่อก็เยอะซะด้วยนะ

 

พลังงานเก่า หรือ พลังงานใหม่ ไม่ใช่ประเด็นสำคัญอะไร
มันสำคัญที่เป็น พลังงานดี หรือ พลังงานชั่วร้าย

รู้สึกเจ้าของกระทู้จะพยายามยัดเยียดว่า พลังงานเก่า เป็นพลังงานลบ พลังงานชั่วร้าย

แล้วพลังงานทางพุทธศาสนา ซึ่งเป็นพลังงานเก่า คุณอพอลโล่มีความเห็นยังไงครับ
เป็นพลังงานดี หรือพลังงานชั่วร้าย และสมควรส่งต่อพลังงานนี้ ไปในอนาคตมั้ย???

 

หยุดเถอะ อพอลโล่ ล้างสมองไม่สำเร็จหรอก

 

อ่าฮะ ..... ไม่ให้ล้างสมอง แล้วจะให้ล้างอะไร ???

 

ล้างตนในตน ล้างจิตในจิต