ตาทิพย์เห็นอะไร ใช้ทำอะไรได้บ้าง

เริ่อง"ตาทิพย์"นี้ เข้าใจว่า มีคนอยากรู้รายละเอียดมาก ว่า
จะมีได้ ยังไง มีแล้วทำอะไร ได้บ้าง แล้วมันจะหายไปใหม?

สงสัย กระทู้นี้คงเป้นหนังยาว อีก ครั้ง
และคงจะเป้นครั้งแรกๆๆที่จะมีการมาเล่าเป็นฉากๆๆ

จากกระทู้ ข้างบน ตาทิพย์เห็นอะไร และทำอะไรได้บ้าง
ตาทิพย์ที่มี สามารถใช้ได้ในทั้งสองมิติ คือ มิติวิญญาณ และมิติโลกปัจจุบัน

มิติโลกแห่งวิญญาณ
1. ใช้มองดูการเดินไปมา ของ วิญญาณ ที่ซ้อนอยู่กับโลก ปัจุบัน
วิญญาณเหล่านี้ เอาเปรียบเรา เพราะเขามองเห็นเรา
แต่โดยทั่วไปเราไม่เห็นเขา ทุกตรอก ซอกซอย ตามบ้าน ตามเรือน มีเขา
อยู่หมดในทุกที่ เมื่อพบคนที่จิตอ่อนก็เข้าแทรกรังแก ทำให้เจ็บทำให้ป่วย
จึงมีบางคนมีอาชีพไล่ผี เป็นหมอผี

2. ใช้ดูอดีต ว่า เคยเกิดเป็รใคร เป็นอะไร ทำกรรมอะไรไว้ การดูอดีต จะพบ
ว่า ฟังชั่นของคนที่วนเวียนมาเกิดนั้น จะเหมือนเดิม แต่ต่างกันว่า ภพภูมิที่
สูงกว่าหรือ ต่ำกว่า เช่นคนเคยเกิดเป็นหัวหน้าคน ก็ต้องเป็นหัวหน้าตลอด
เพียงแต่ว่าวเป็นหัวหน้ากุลี หรือ หัวหน้าอธิบดี

3. ใช่ดูอนาคต การมองเห้นอนาคต ก็เหมือนดูหนังขาวดำ ขนาด 16 มม.
เนื่องจาก เหตุยังไม่เกิดจริง อนาคตที่เห็นคือ การอนุมาณ สรุปจากกรรมที่
กำลังทำอยู่ ว่า ตอนนี้ กรรม เป้นขนาดนี้ ถ้าไปไปตอนนี้ ก็จะเป็นอย่างนี้

ในวิธีนี้ เมื่อยังไม่ตาย เรายังมีโอกาสที่จะเปลี่ยนกรรมได้ ถ้าทำดีถือศีล
สวดมนต์ ทำสมาธิ ปฏิบัติกรรมฐาน ก็จะเปลี่ยนกรรมนั้นได้ เพราะ ยังไม่จบ
ดังนั้นคนที่ยังไม่ตาย หนังยังไม่จบ ยังพอมีเวลาแก้เบี่ยงกรรมได้

เป็นไปตามคำที่ว่า" เมื่อยังมีลมหายใจ ชีวิตก็ยังมีหวัง

 

4. ตามดูบรรพบุรุษ หรือ ผู้ที่ล่วงลับไปแล้วว่า ขึ้นไปอยูสวรรค์ชั้นไหน
หรือลงนรกลงไปต่ำแค่ไหน
ได้ส่งบุญไปให้ได้รับหรือเปล่า

ถ้าขึ้นข้างไปและไปพบ ก้จะเชิญให้ลงมาคุยกับลูกหลานได้
เข้าใจว่าท คงจะมีอภิสิทธิ์ เพราะมีบุญ
ยังไม่เคยเฃิญจากข้างล่างขึ้นมา
คงจะเป็นเพราะ คิตคุก นรกอยู่
กำลังง่วนอยู่ในกะทะทองแดง
กำลังสนุกในการปีนต้นงิ้ว ฯลฯ
ห้ามเยี่ยมห้ามประกัน
เลยขึ้นมาไม่ได้

จากการปฏิบิติ พบว่า เมื่อพบ อรหันต์ พระโพธิสัตว์ หรือ ผู้หลุดพ้น
จะสามารถ เชิญลงในโลกมนุษย์ได้

เรื่องนี้ คงอีกยาว วันหลังมาต่อ ครับ

 

ขึ้นมาตอนเช้า ระบบเวบคงจะรวนน่าดูชม
กดส่งแล้ว ไปบ้าง ไม่ไปบ้าง สับสน เลยออกมารกรุงรังจอ
เวบมาสเตอร์ ครับ ลบที่รุงรังทิ้งด้วยครับ

5. การถอดจิต กระทำโดยการแยกกายทิพย์ออกมา
แล้วสั่งให้ไปยังสถานที่ๆอยากจะไป
พอได้ที่ ก็ส่งตาทิพย์ตามไป
เมื่อลืมตาขึ้นก็จะพบว่า ตัวเองอยู่ ณ ที่นั้น
จากนั้นอยากดูอยากเห็นอะไร ก็ทำไป

เรื่องนี้ รัสเซียถนัดมาก มีการฝึกกันอย่างจริงจัง
เอากายทิพย์ไป ทำ สปาย แอบล้วงความลับของอีกฝ่าย

หรือ ถอดกายทิพย์ไปเยี่ยมคนที่อยากจะไปพบ
เช่นไปเยี่ยมและรักษาคนไข้ในโรงพยาบาล
กรณีนี้ จิตจะต้องแข็งจริงๆ
เพราะจะต้องฝ่าด่านเจ้าที่เจ้าทาง
ฝ่าด่านวิญญาณที่ตายและเฝ้าทับถมอยู่บนเตียง
ส่วนใหญ่เขาจะขอ อาหารทิพย์ เพราะ หิวโหยมานาน
โรงพยาบาลยิ่งเก่าแก่ เจ้าที่ จะดุ และ วิญญาณ จะมากขึ้นตามความเก่า
แก่

 

เวลาจะกลับ ให้เอาตาทิพย์กลับมาก่อน เพื่อตั้งหลัก
แล้วค่อยเอากายทิพย์กลับมา ทิ้งกันไม่เกิน 3 วินาที
เมื่อกายทิพย์และตาทิพย์กลับมารวมกับกายหยาบ
พอลืมตาขึ้นก็จะเป็นคนปกติ เหมือนเดิม

ระวังอย่างเดียวอย่าหลงทาง หรือถูกผู้มีพลังแรงกว่า มาดักจับเอาไปเป็นบริวาร
ถ้ากลับมาได้ไม่ทันเวลา 5-7 วัน กายหยาบจะเน่าและตายจริงๆ

ดังนั้นเขาจึงห้ามเอาคนที่เหมือนตาย แต่ยังไม่ตาย ตัวยังนิ่ม
มาฉีดยา หรือ ใส่โลง ให้หายใจไม่ออก
โอกาสที่จะกลับมายังมี

และก่อนไป ก้ให้ขอ เชิญ อาจารย์ ที่นับถือ
เช่นหลวงปู่โต พรหมรังสี หลวงปู่ทวดแห่งวัดช้างให้ ฯลฯ
ให้ท่านตามไป คุ้มครอง จึงจะปลอดภัย ทั้งขาไป ขากลับ

ในบางกรณี คนที่ถูกเยี่ยมจะมีความไวมาก จะสัมผัสการมาเยือนได้
โดยมองเห็นเป็นลูกกะตาสีเขียวเรืองคู่ ลอยมาจ้องอยู่ไม่ห่างจากหน้าเขา
ไม่ได้แปลว่า เป็นผี มาหลอก แต่ เป้นการถอดจิตมาเยี่ยมของคนที่คิดถึง

มีข้อห้ามช่วงเวลาตอนถอดจิต คือ ช่วงเช้า-เย็น
ขณะที่ ผู้ที่จะถูกเยี่ยม กำลังเข้าห้องน้ำ
ลองคิดดู ขณะที่กำลังอยู่ในห้องน้ำ
คงจะอะร้า อะร่าม พิลึก

คนถอดจิตอย่าทำผิดศีล ทั้ง 5 ข้อ มิฉนั้น อภิญญาจะเสื่อม
เช่นถอดจิตไปแล้ว พบ จิตของสาวสวยกลางทาง
ก็ติดพัน และเมคเลิฟ กลางอากาศ ผิดศีลข้อกาเม
พอตื่นขึ้นมา หรือ กลับมาเข้าร่าง
มันจะเหนื่อยเหมือนไปออกกำลังมา

เคยมีผู้หญิงคนหนึ่ง มาขอให้ช่วย
เพราะเวลานอน ชอบฝันว่า ลอยออกไปข้างนอก
แล้วจะมีผู้ชายมาชวนเมคเลิฟ เธอขัดขืนไม่ได้
ตื่นมาเหนื่อยหอบทุกที
ขอให้ช่วยหยุดให้ด้วย
เพราะเธอเชื่อว่า อย่างไร ก็บาปและผิดศีล

 

ในทางโลก ตาทิพย์ทำอะไรได้บ้าง

1. ดูออร่า รัศมีกายทิพย์ เพื่อตรวจ พฤติกรรมที่ผ่านมาทุกชาติ ว่า สะสม
ความดี ความเลวไว้อย่างไร สีจะออกมาเป็นชั้น เหมือนเปลือกไข่หุ้มตัว
พฤติกรรม ดูได้ จาก ความหมายของสี
ซึ่งได้เล่าไว้แล้ว ในกระทู้ "ออร่า และแสงชีวิต.

2. ดูว่า ในตัวคน มีเทพ หรือ เทวดา องค์ใน
โอปาติกะ แอบแฝงอยู่หรือไม่
ถ้าเป็นดวง สี สว่าง สวยงาม เช่น สีน้ำเงิน สีฟ้า สีเหลือง สีชมภู
ก็จะเป็นเทพที่ดี

ถ้ามีสีแดงจัด สีสกปรก นั่นคือ สิ่งที่ไม่ดี เป็นอันตรายแก่ร่างนั้นๆๆ
คนที่มีพลังสูง ถ้าสัมผัสโดยสื่อบางอย่าง เช่นมีดหมอ พลังตาที่สามที่แรง
มาก ก็จะผลักดันออกไปได้ ที่ชาวบ้านเรียกว่า ไล่ผี

3. สำรวจดู คน เช่นเวลาโทรศัพท์ถึงใคร เมื่อเขามารับสาย
สายและเสียงจะเป็นสื่อ ระหว่างกัน
ตาทิพย์จะทำให้มองเห็นว่า อีกข้างเป็นใคร หน้าตาเป็นยังไง
สวยใหม หล่อใหม แต่งตัวด้วยสีและเสื้อผ้าแบบใด

 

4. ใช้ตาทิพย์ มองทะลุร่างกายคน จะเหมือนมีตาเอกซเรย์
มองเห้นอวัยวะเป็นชิ้นๆๆ
แต่การที่จะวินิจฉัยว่า เป็นอย่างไร
ผู้นั้นจะต้องมีความรู้ หรือ ศึกษาวิชา
อนาโตมีหรือวิชา กายเสียก่อน
เพื่อจะได้รู้ว่า อวัยวะส่วนนั้นๆ คืออะไร
ซึ่งก็ไม่ยาก เพราะ จำง่าย เช่นหัวใจเท่ากำปั้น
กะเพาะใหญ่ ลำใส้เล็ก ลำใส้ใหญ่ ตับสองชิ้นโตๆๆ ฯลฯ
ดูกี่คน ก็จะเหมือนกัน

ระวังกรณีพิเศษที่นานๆๆจะมีสักที เช่น
หัวใจอยู่ทางขวามือ แทนที่จะอยู่ทางซ้ายมือ เหมือนคนทั่วไป

ที่ยาก คือ สี เพราะเวลามองด้วยตาทิพย์ จะต่างจาก การเอกซเรย์ด้วย
ฟิมล์แบบที่ทำทั่วไป เป็นภาพขาวดำ ต้องใช้คนที่ชำนาญมาอ่านและแปล
เมื่อใช้ตรทิพย์ จะเหมือนดูภาพสี

จะต้องดูคนปกติมากๆๆ จนจำได้ว่า เวลาไม่ป่วย อวัยวะ ชิ้นนั้น จะมีสี
อะไร ถ้าผิดสีไป เช่น ดำ น้ำตาล สีเทา แปลว่า เป็นโรคแล้ว

ตาทิพย์นี้ มีความมหัศจรรยืคือ เหมือนมีดผ่าตัดในตัว
ตั้งจิตให้ลึกตื้นได้ เหมือนผ่าตัดเป็นชั้นๆๆ แบบแล่เนื้อได้ เพื่อดูราย
ละเอียด เช่นผ่าหัวใจออกเป็นสี่ห้อง ก็จะเห็นห้องทั้งสี่
เห็นลิ้นหัวใจ เห็นเส้นเลือด เข้าออก ตรงไหนอุกดน
ะต้องทำ บอลลูนหรือไม่

สมองเห็นเป็นส่วน ก็ต้องจำว่า ส่วนใหน ของสมอง ควบคุมอวัยวะ ส่วน
ใด เข่น การมอง เห้น การเคลื่อนไหว การรับฟัง
สมองนั้นดูง่าย เพราะ โดยปกติ จะมีสีสว่าง ของ ฟอสฟอรัส ซึ่งเป้นส่วน
ประกอบสำคัญของสมอง มีสีเหลือง เราจึงมองเห็นมันสมอง ได้ชัด เวลา
มีคนถูกยิงหรือถูกรถทับตายที่บริเวณ หัว

เห็นแถบสีมืด ที่ส่วนใดของสมอง ก็บอกได้เลยว้า เขาจะเป็นอะไร

 

5. ใช้ตรวจโชคชะตาชีวิต คน
เวลาเรามอง ออร่าของคน ปกติจะต้องมีออร่า เต็มตัว ตามตัวคนเวลาเกิด
เงา บนผนังห้องเวลาเอาตัวขวาง แสงไฟ

ที่สำคัญ คือ รูปต้องเต็ม
ถ้าตัวแหว่ง แปลว่า จะป่วยตรงนั้น ถ้าแหว่งมาก ก็ป่วยมาก
ถ้ามีแต่ตัว ไม่มีหัว ที่โบราณเรียกว่า "ไม่มีเงาหัว" เตรียมตัวตายได้เลย ใน
สามวันเจ็ดวัน แบบนางวันทอง อขง ขุนแผนในอดีต ที่ต้อง ถูกตัดศีรษะ

ถ้ามีเต็มตัว แต่มีกรอบครอบที่ตัวตั้งแต่คอลงมา ไม่ครอบหัว
ก็แปลว่า จะเป็น"เจ้าชาย หรือ เจ้าหญิงนิทรา" แน่นอน

อ้อ สายแล้วครับ ต้องไปทำงาน แล้วจะมาต่อ
คำถามที่จะถามมาขอให้เป็น คำถามเพื่อความรู้ ส่วนรวม
ไม่ใช่เป็นคำถามเฉพาะตัว เช่น ดูออร่า ดูอดีตชาติ
มิฉนั้นจะมีมาเป็นร้อยเป้นพัน ตอบไม่ไหว ครับ

 

โมทนาครับ

 

โมทนาด้วยคะ ได้ความรู้เยอะจิง อยากมีตาทิพย์บ้าง น่าจะมีประโยชน์ ช่วยคนได้หลายทางด้วย

 

เป็นความรู้ที่ยอดเยี่ยมจริงๆครับ

 

น่าสนใจค่ะ กำลังทำความเข้าใจอยู่เหมือนกัน แต่คนเขียนสงสัยจะเป็นชาวตะวันตกเพราะเนื้อหาไปทางวิทยาศาสตร์มากกว่าศาสนา หรือศาสตร์ลี้ลับ แต่อ่านแล้วดูจะไปได้กับการทำสมาธิของศาสนาพุทธนะค่ะ<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-comfficeffice" /><o></o>
จะข้อแบ่งปั่นความรู้ที่อ่านมาด้วยนะค่ะ<o></o>
<o> </o>
แต่คนเรามีตาอีกตาหนึ่งที่ทำหน้าที่จดจำ ที่เรียกว่า “ตาที่ 3”ความจริงแล้วมันคือ “ต่อมไพเนียล” ซึ่งเชื่อกันว่ามีพลังลึกลับมากมาย นักปราชญ์หลายท่านคิดว่าเป็น “ตาแห่งจิตวิญญาณ” เพื่อมองดูภายในจิตวิญญาณของเรา<o></o>
<o> </o>
ต่อมไพเนียลมีขนาดเท่าเม็ดถั่ว และมีตำแหน่งอยู่หลังดวงตา, นักปราชญ์ และผู้สนใจด้านจิตวิญญาณพยายามศึกษาหน้าที่จริงๆของไพเนียลอยู่ตลอดเวลา
ชาวกรีกโบราณเชื่อว่าไพเนียลเป็นทางเชื่อมต่อกับอาณาจักรแห่งปัญญา ดิสคาร์ทีสเรียกมันว่า “ศูนย์แห่งพลังจิต” ต่อมนี้ถูกกระตุ้นด้วยแสงสว่าง และควบคุมจังหวะต่างๆของร่างกาย ไพเนียลยังทำงานสอดคล้องไปกันไฮโปธาลามัสซึ่งควบคุมความกระหาย, ความหิว, จิตนาการทางเพศ และนาฬิกาชีวะของร่างกาย และกำหนดการเสื่อมตามวัย<o></o>
<o> </o>
เมื่อไพเนียลตื่นตัวขึ้นจะรู้สึกถึงแรงกดที่ฐานสมอง แรงกดนี้มักเกิดจากประสบการณ์ เมื่อทำการเชื่อมต่อกับคลื่นความถี่ที่สูงขึ้น อุบัติเหตุที่ศีรษะยังสามารถกระตุ้นตาที่3 / ต่อมไพเนียลได้อีกด้วย<o></o>
<o> </o>
แต่โบราณมาเราได้รู้ว่าต่อมไพเนียลเชื่อมต่อระหว่างร่างกาย และโลกทางจิตวิญญาณ เชื่อว่าเป็นแหล่งพลังที่มีในมนุษย์ ต่อมไพเนียลมีความสำคัญเสมอมาต่อพลังที่เหนือธรรมชาติ การพัฒนาทางอัจริยภาพของเรามีความเกี่ยวข้องกับไพเนียลด้วย<o></o>
ตาที่3 เห็นภายในเหมือนมองผ่าน “จักรา” เมื่อเรามองหาคำตอบจากคลื่นความถี่ที่สูงขึ้น (คลื่นความถี่นี้หมายถึงคลื่นความถี่ของสมอง ถ้ามีสูงมากๆก็แปลว่ามีพลังงานทางจิตที่สูง)<o></o>
<o> </o>
สิ่งนี้มีวิถีทางจากจอตาไปยังไฮโปธาลามัส ซึ่งนำข้อมูลเกี่ยวกับวัฏจักรของแสง และความมืดเป็นการส่งกระแสประสาทผ่านเส้นประสาทไปยังต่อมไพเนียล แต่กระแสประสาทจะหยุดลงในเวลาค่ำ, เมื่อไม่มีแสงกระตุ้นไฮโปธาลามัสแล้ว ไพเนียลจะหลั่งเมลานินออกมา ไพเนียลเป็นอวัยวะที่ไวต่อแสง และมีความสำคัญในการควบคุมเวลาในร่างกายมนุษย์<o></o>
<o> </o>
ในสัตว์มีกระดูกสันหลังบางชนิดที่ต่ำกว่ามนุษย์ ไพเนียลทำหน้าที่เป็นตัวรับแสง และได้วิวัฒนาการต่อมาเป็นตัวรับภาพได้เหมือน กิ้งก่าในนิวซีแลนด์ ที่เรียกกว่า “กิ้งก่า 3ตา”<o></o>
<o> </o>
ตอ่มไพเรียลจะมีขนาดใหญ่ในวัยเด็ก และเริ่มหดตัวลงเมื่อเขาสู่วัยรุ่น ต่อมนี้มีบทบาทสำหคัญในการพัฒนาทางเพศ, การจำศีลในสัตว์, การเผาผลาญอาหาร และฤดูผสมพันธุ์ ในคนเรามันมีผลกระทบต่อจังหวะชีวิตใน 24 ชั่วโมง, รูปแบบการหลับนอน (ระดับเมลาโตนินเพิ่มขึ้นในเวลาค่ำ) และมีความเกี่ยวข้องกับความผิดปกติของอารมณ์ตามฤดูการณ์ ระดับของเมลาโตนินที่มีมากในเด็กเชื่อว่าเพื่อยับยั้งการพัฒนาการทางเพศ แต่เมื่อเข้าสู่วัยรุ่นเมลานินผลิตน้อยลง<o></o>
<o> </o>
ต่อมไพเนียลหลั่งเมลาโตนินระหว่างเวลาในการพักผ่อน และ ในความฝัน เพราะเราได้รับพลังงานสนามแม่เหล็กไฟฟ้า และถูกกระตุ้นจากสนามแม่เหล็กไฟฟ้าที่อยู่รอบตัวเรา เหมือนกับที่ต่อมไพเนียลกระตุ้นเรา<o></o>
<o> </o>
ไพเนียล และพิตูอิตารี่ต้องมีการกระเพื่อมเป็นหนึ่งเดียวกัน ผ่านการทำสมาธิ และหรือการผ่อนคลายจะกระตุ้นตาที่3 และ สามารถรับรู้มิติที่สูงขึ้นได้ เมื่อความต่อเนื่องมีความถูกต้องระหว่างบุคคล, การสื่อสารผ่านพิตูอีตารี่ และจิต, การสื่อสารผ่านไพเนียล, จะสร้างสนามแม่เหล็กขึ้น พลังด้านบวก และลบทำปฏิกิริยากัน และกลายเป็นพลังที่รุนแรงมากพอจะสร้างแสงในหัวสมองได้ <o></o>
<o> </o>
การท่องเที่ยวระหว่างดวงดาว และความสามารถลี้ลับอื่นๆมีความสัมพันธ์ใกล้ชิดกับการพัฒนาของแสงในสมอง หลังจากการพักผ่อนทางกายแล้ว สมาธิที่มีต่อไพเนียลเริ่มที่จุดกลึ่งกลางของหน้าผาก เมื่อกล้ามเนื้อตาได้ผ่อนคลายจะกระตุ้นไพเนียล และตาที่ 3 เริ่มจากการแยกความรู้สึก และความรู้ตัวทางกายภาพ, ความรู้ตัวจะรวมศูนย์ที่ไพเนียล ความรู้สึกไว และจุดแห่งการตระหนักรู้ความจริงรวมศูนย์ในบริเวณระหว่างกึ่งกลางหน้าผาก และไพเนียล เคล็ดลับคือการจินตนาการ, ความมุ่งมั่นสูง, กายทิพย์หลีกเล้นออกไป (ในจินตนการกายทิพย์ออกจากประตูในสมองไป) อาจเกิดเสียงดังขึ้นในขณะเกิดการแยกออกของกายทิพย์<o></o>
<o> </o>
การฝึกที่จะฝันเป็นขั้นแรกในการเข้าถึงพลังงานภายในของเราโดยตรงเพื่อกระตุ้นตาที่ 3 สนามแม่เหล็กสร้างขึ้นรอบต่อมไพเนียลโดยการพุ่งจิตไปที่กึ่งกลางระหว่างต่อมไพเนียล กับพีตูอีตารี่ การสรรสร้างจิตนการในความฝันถึงบางสิ่ง, และผ่านพลังความคิดของจิตจะให้ชีวิต และทิศทางในรูปแบบนี้<o></o>
<o> </o>
การพัฒนาตาที่3, การจินตนาการ และการฝันมีความสำคัญเป็นองค์ประกอบในหลายวิถีทางเพื่อแยกตัวเองออกจากกายเนื้อ สัมผัสที่6 ยังได้รับผ่านการพัฒนาตาที่3 ด้วยเช่นกัน ความรู้ความจำในการท่องไปในดวงดาวจะไม่ถูกบันทึกไว้ในความทรงจำ เมื่อเรามีสติตื่นตัวเต็มที่ จนกระทั้งสัมผัสที่6 มีพลังมากพอ แสงวาบของสัมผัสที่6 จะมีระดับที่สูงขึ้นหากมีการฝึกฝน<o></o>
<o> </o>
ตาที่3 หรือในอินเดีย เรียก “ตาพระศิวะ” มีความเชื่อมต่อกับ “กรรม” อย่างแนบแน่น <o></o>
ในการท่องเที่ยงจากจิตวิญญาณไปยังสรรพสิ่งที่ย้อนกลับไปหาจิตวิญญาณ ความลี้ลับในพลังของไพเนียลจะเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนืองจากระยะที่หลับไหลเป็นเวลานาน, นำกลับมาซึ่งความสามารถแห่งดวงดาวในจักรวาล และจิตวิญญาณ<o></o>
<o> </o>
ในคลื่นความถี่ของสมองที่ชัดเจน ขอบเขตของสันดานดิบจะค่อยๆเลือนหายไป ในระยะเดอต้า เรากำลังผ่อนคลายได้ลึก แต่ยังมีการรับรู้, เป็นระยะที่อยู่ในภวังค์ที่จะท่องเที่ยวไป หรือกลับมาตื่น ขณะที่สมองเข้าสู่ระยะที่ลึกลงไปอีก ความรู้ตัวของเราจะน้อยลง, ตาที่ 3จะตื่นขึ้น และ การแบ่งแยกจะเป็นไปตามธรรมชาติ ชนพื้นเมือง และผู้สนใจศาสตร์ลี้ลับบางท่านสามารถมองเห็น หรือ มีพลังในระดับที่สูงขึ้น การเห็นนี้เป็นสัญญาณภาพของตาที่ 3<o></o>
<o> </o>
การมีสติรู้จะเพิ่มขึ้นจากอารมณ์ตามธรรมชาติกลายเป็นความรู้แจ้ง เมื่อไพเนียลถูกยกระดับขึ้นจากการหลับไหล เราสามารถรับรู้ถึงความไม่มีตัวตน, และรับรู้ภายในตัวของเราเอง, รับรู้ภวังคจิตผ่านการฝึกฝนที่ต่างกันเพื่อกระตุ้นแสงในสมอง
<o>...........................................................................................................................</o>
<o>การทำสมาธิถ้าเข้าใจตามที่อ่านเกี่ยวกับตาที่3นี้ ก็คงเป็นการทำให้ต่อมไพเนียลตื่นตัว และยกระดับการทำหน้าที่ของต่อมนี้ให้สูงมากยิ่งขึ้น </o>
<o>การทำให้เกิดแสงในสมองคงเหมือนกับที่ครูบาอาจารย์ท่านสอนให้นั่งสมาธิแล้วบอกว่าทำจิตให้ว่าง ทำให้ขาว ทำให้สว่าง ดูจะไปด้วยกันได้ดีนะค่ะ</o>

 

เหอๆตาที่สามหนูไม่มี
มีแต่ 4 ตา
สายตาสั้น เหอะๆ ทำอะไรไม่ได้เลยต้องมี 4 ตาถึงจะทำได้
มี 2 ตามองไม่ชัด ต้อง 4 ตาถึงจะชัด อิอิ

 

มาต่อ ครับ
6. ใช้ตาทิพย์ดู"สง่าราศี และบารมี"ของคน
เมื่อเรามองคน เราจะเห็นแสงสีที่เขามี แสงสีนั้นคือ บารมี และอำนาจ
คนเราเพิ่มกำลังของบารมีได้ง่ายๆ

เช่นใส่เสื้อที่มีสี เหมือนกับสีออร่า ที่ตนมี มันจะขยายพลังออกไป
ใส่เตรื่องใช้ส่วนตัว เครื่องประดับ อัญมณี เช่น แหวน สร้อยโลหะ เพชรนิล
จินดา ตุ้มหู สรอยข้อมือ ฯลฯที่ สีเสริมกัน จะขยายพลังได้มากบางที ถึง
สามเท่า

ตอนแรก ยังไม่มีใครขยายความเรื่องนี้
พวกค้าขายก็มั่วว่า คนเกิด ราศีนี้ จะต้องใส่ ทับทิม ใส่ บุศราคัม ฯลฯ
คนเกิดวัน จันทร์ วันอังคาร ฯลฯ จะต้อง ใส่ โอปอลล์ ใส่ หยก มรกต บ้าง
เป็นการโปรโมทการขายที่ อันตรายมาก เพราะ เดาเอาเองทั้งนั้น

คนที่เกิด ราศีเดียวกัน หรือเกิด วัน จันทร์ อังคาร....ย่อมมีกรรมที่ไม่
เหมือนกัน สี ออร่า ก็จะไม่เหมือนกัน สีบารมีก็ต้องไม่เหมือนกัน

ถ้าใครแต่งตัว ใส่ เสื้อผ้า ใส่แหวน ใส่ ตุ้มหู สายสร้อย ฯลฯที่ถูกต้อง
บารมีจะขยายกำลัง วันนั้นจะทำอะไรก็สำเร้จ

ถ้าใส่ผิด วันนั้นบารมีตก ทำอะไรก็ล้มเหลว ขายของไม่ได้ เจรจากับใครก็
แพ้ทางเขา

จะเห็นว่า คนประเภท วีไอ พี บุคคลสำคัญในทุกวงการ จะระวังเรื่องนี้มาก
บางคนจะมีที่ปรึกษา การแต่งตัวให้ถูกสี โดยเฉพาะ ผู้บริหารระดับสูง
สุด และ นักการเมืองดังถ้าผิดก็แพ้หมด

เป็นส่วนหนึ่ง ของวิชา ฮวงจุ๊ย และ โหงวเฮ้งที่นับวัน จะมีความสำคัญ
มากขึ้น

 

7. การปลูกต้นไม้และ สิ่งรอบตัว

เมื่อ คนเรามีราศี สิ่งรอบตัวเราที่จำเป้นเช่น บ้าน สีบ้าน สีทาห้องนอน ต้นไม้ประดับ อาหารที่กิน ยาที่กิน จะต้องมีสีที่เสริมแสงออร่าประจำตัวเช่นกัน

ถ้าทาสีผิด ปลูกต้นไม้ผิดกินอาหารผิด ก็ล้มเหลวทุกเรื่อง ถ้าใส่และใช้ถูกก้
จะได้และสำเร็จทุกเรื่อง

คนบางคนมีความรู้สึกไว และรู้ด้วยตัวเองว่า อยู่บ้านนี้ สะบาย เข้าบ้านคนอื่น จะรู้สึกอึดอัด ใส่เสื้อสีนี้ แล้วไม่สะบาย ไม่ชอบ จึงใส่แต่สีเสื้อที่ ตัวเองรู้สึกสะบาย

ดังนั้นคนเรา จะต้องใช้และมี ปัจจัยสี่ คือ อาหาร บ้านที่อยู่อาศัย เครื่องนุ่งห่ม
และยารักษาโรค ที่มีออร่า และแสงสีเสริมกับตัวเท่านั้น จึงจะมีชีวิตที่มีความสุข

 

8. การตรวจการเข้าทำงาน

ปกคิคนเรามีหลายประเภท หลายหลาก และจะมีคุณสมบัติเฉพาะตัว ความถนัดในงานที่ต่างกันไป ตามที่ได้ร่ำเรียนมา

บริษัทเล็กๆ เวลารับสมัครงานก้จะมีการทดสอบ และสัมภาษณ์
ถ้าบริษัทใหญ่ องค์การใหญ่ และมีความสำคัญ
เขาจะมีหน่วยหนึ่ง เป็นที่ ปรึกษาด้าน โหงวเฮ้ง

ว่า หน้าแบบนี้ จมูก แบบนี้ ปกอย่างนี้ เหมาะแก่งาน หรือไม่
โดยเฉพาะ ตำแหน่งที่สำคัญๆๆ จะเพ่งเล็งเป็นพิเศษ
ก็ว่ากันไป
หน้ามนุษย์ ตามตำรา ของ โหงวเฮ้ง มีความน่าเชื่อถือได้ ระดับหนึ่ง
แต่ก็มีพลาดกันได้

แต่ถ้าตรวจด้วยตาทิพย์ จะเห็นหมด ว่า เป้นคนดีใหม ซื่อสัตย์ใหม
มีทัศนวืสัยไกลใหม ไหวพริบดีใหม ฉลาดแต่โกง หรือ โง่แต่ขยันหรือไม่
ป่วยเป็นโรคอะไร ที่ การแพทย์ธรรมดา ตรวจไม่ได้

การใช้ตาทิพย์ตรวจเลือกคนเข้าทำงานจึงมีความจำเป้น และจะมีการใช้ มากขึ้นเรื่อยๆๆ
คนที่มีตาทิพย์จะไม่เปลี่ยนข้อมูล จากที่ไม่ดี ให้เป็นดีได้ ไม่มีการเพี้ยน
ในกรณีมีการ ล๊อบบี้ ให้พรรคพวกได้ งานทำ แบบมีเส้น เพราะถ้าทำ เขาจะ หมดฤทธิ์ในระยะเวลาอันสั้น...ไม่คุ้ม

 

9. การตรวจคนโกง

ในองค์กร หรือ บริษัท ใหญ่ๆๆ จะมีคนมาก นับพันนับหมื่นคน
มีคนดีคนเลว ปนกันไป เขาจึงมีระบบ ตรวจสอบภายในเพื่อจับผู้ทุจริต
ส่วนใหญ่จะตรวจจาก เอกสาร ที่มีข้อมูลแตกต่าง ทางการบัญชี การเบิกเงินฯลฯ

บางองค์กร เริ่มใช้คนตาทิพย์เป้ที่ปรึกษา ในการ จับผู้ทุจริต
คนตาทิพย์ ทำงานง่ายๆๆ แต่รวดเร้วและมีผล 100 เปอร์เซ็นต์

เขาทำโดย เอารายชื่อ พนักงานทั้งหมด/ใบสมัครงานทั้งหมด พร้อมรูปถ่าย
มานั่ง ส่องด้วยตาทิพย์ดู ก็จะรู้ว่า ผู้ใดโกง โกงมาก โกงน้อยก็บอกได้

ต่อมาจะมีแผนกตรวจสอบภายในแบบนอกเครื่องแบบ
ส่งคนเข้าประกบ ตั้งแต่ออกจากบ้าน ว่า วันๆๆหนึ่งไปใหน บ้าง
ที่บ้านมีรถ กี่คัน บ้านใหญ่โตแค่ไหน

มีบ้านเล็ก บ้านใหญ่ บ้านแอบ กี่หลัง
การสังคมเป็นอย่างไร

แล้วนำข้อมูลมาประมวลว่า
ถ้าเป็นอย่างนั้น
รายได้ ต่อเดืแน จะอยู่ได้ใหม
ถ้าไม่ได้ ก็แปลว่า มีการทุจริต จริง
ก็เริ่ม ตรวจเอกสาร
และในไม่ช้า ก้จะพบการทุจริต คั้งแต่หลัก แสน ถึงหลักหลายล้านบาท

พบบ่อยๆๆ เดือนละ 2-3 คน จะได้เงืนคืนมา คุ้มกับการจ้างคนตาทิพย์หลายเท่านัก

มีกรณีที่เพิ่งเกิด เมื่อเร็วๆๆนี้ จับการโกงได้ มูลค่า มากว่า 20 ล้านบาท
(ในมูลค่า รายได้ เดือนละมากกว่า 200 ล้านบาท)
ปรากฤว่า น้องชายเจ้าของกิจการโกงพี่ชายตัวเอง

ก็ทำได้แค่บอก พี่ชายเขาไป
ในไม่ช้าก็มีการแบ่งสมบัติกันระหว่างพี่น้อง
นี่คือ ตัวอย่าง อีกแบบ ของ ประโยชน์ของการมีตาทิพย์

ยังมีอีกแยะ จะค่อยๆๆ ทะยอยเล่าไป
ถ้าเบื่อ บอกมาด้วย จะได้หยุด
ครับ

 

ยังไม่เบื่อครับ ท่าน the third eyes แต่อยากให้ท่านเล่าเรื่องที่ พวกคนดีมีวิชาฯ แล้วไปเป็นที่ปรึกษาด้านสิ่งลี้ลับให้พวกบริษัท ห้างร้าน ธนาคาร บ้างครับ อย่างเช่น

บมจ. อิตาเลี่ยนไทย มีที่ปรึกษาด้านนี้ เพื่อแก้ปัญหาด้านการก่อสร้างและปัญหาด้านอื่นๆ

ธ. กรุงไทย และ ไทยพาณิชย์ มีคนให้คำปรึกษา ก่อนตั้งสาขาใหม่

นาย ก. มีที่ปรึกษา เพื่อรักษาเก้าอี้ (เหมือนใครหนอ ที่เป็นศิษย์พ่อคูณ แต่สุดท้ายก็ฝืนกฎสวรรค์ไม่ได้)

บริษัทฯ แห่งหนึ่งที่เป็นเจ้าของ 711 มีบุคลากรด้านนี้ไว้เพรียบ เพื่อทำอะไร...ไม่ทราบ?

เอาแบบละเอียดๆ จะได้กระตุ้นกิเลสให้ตื่นตัว กระชุ่มกระช่วยหัวใจดีแท้

 

เล่ามาอีกเลยจ้า ชอบอ่านคะ ได้ความรู้ขึ้นอีกเยอะเลย

 

ดีมากครับความรู้ที่ได้ อนุโมทนาครับ

 

.....ดีนะที่ทำงานผมไม่มีที่ปรึกษาด้านนี้ ไม่งั้นผมคงตกงานชัวร์เพราะชอบอู้ ชอบแว่บมาเล่นเนต หึๆๆ