ทาน

ในห้อง 'จิตวิทยา & สุขภาพ' ตั้งกระทู้โดย paang, 23 มีนาคม 2009.

แท็ก: แก้ไข
  1. paang

    paang เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 เมษายน 2005
    โพสต์:
    9,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +34,326
    กระตุ้นน้ำย่อย ช่วยระบบขับถ่ายดี<?XML:NAMESPACE PREFIX = O /><O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p>[​IMG]</O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    "มะเขือเทศ" สวยทั้งรูป สวยทั้งคุณภาพ เพราะมะเขือเทศขึ้นชื่อว่าเป็นผลไม้ที่มีประโยชน์ต่อร่างกายมากมาย ทั้งช่วยระบบภายในร่างกายและยังช่วยระบบภายนอกร่างกายได้อีกด้วย
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    มะเขือเทศจัดเป็นผลไม้ แต่ส่วนใหญ่คนเรามักจะนำมะเขือเทศมาจัดอยู่ในจำพวกผัก ในการปรุงอาหารซะส่วนใหญ่ น้อยรายที่จะรับประทานมะเขือเทศสดๆ
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    มะเขือเทศสามารถนำมาทำเป็นอาหารได้หลากหลายรูปแบบ ทั้งในแบบผัดผัก ข้าวผัด น้ำพริกอ่อง ซุปทั้งใสและข้น ยำต่างๆ รวมไปถึงส้มตำ อาหารอันโอชะของใครต่อใครหลายคนก็เหมือนจะขาดมะเขือเทศไม่ได้
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    เพราะนอกจากจะสร้างสีสันแล้วยังเพิ่มรสชาติให้อีกด้วย หากจะนำมาคั้นเป็นน้ำมะเขือเทศดื่มก็ชุ่มคอชื่นใจดี หรือทำเป็นซอสมาปรุงรสอาหารก็ได้ ในผลของมะเขือเทศนี้ยังอุดมไปด้วยวิตามินและเกลือแร่
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    มะเขือเทศช่วยให้ร่างกายสดชื่น กระตุ้นน้ำย่อย ช่วยย่อยอาหาร และยังช่วยการระบายการขับถ่ายให้สะดวกขึ้นอีกด้วย และมีการวิจัยกันว่าการดื่มน้ำมะเขือเทศเป็นประจำจะช่วยป้องกันโรคมะเร็งได้ โดยเฉพาะมะเร็งของต่อมลูกหมากที่คุณผู้ชายกลัวนักกลัวหนา
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    นอกจากวิตามินซี ที่มีสูงในมะเขือเทศแล้ว วิตามินอื่นๆ ก็มีอยู่ครบทุกชนิด แถมเปลือกนอกของมะเขือเทศยังมีสารชนิดเดียวกับที่พบในเปลือกองุ่นแดงที่เชื่อว่ามีส่วนช่วยป้องกันโรคหัวใจขาดเลือดได้อีกด้วย
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ประโยชน์ของมะเขือเทศนอกจากที่กล่าวมาแล้วนั้น ยังมีประโยชน์ต่อคุณผู้หญิงอีกด้วย ถ้าคุณเป็นคนรักสวยรักงาม กลัวรอยเหี่ยวย่นจะมาเยือนเร็วเกินไป ลองนำมะเขือเทศสุกมาฝานเป็นแผ่นบางๆ แล้ววางแปะไว้บนหน้า หรือใช้น้ำมะเขือเทศคั้นสดๆ ทาตามใบหน้า เชื่อกันว่าจะทำให้ผิวเต่งตึง มีน้ำมีนวลขึ้น<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    Dr. Rui Hai Liu แห่งมหาวิทยาลัย Cornell ได้ทำการศึกษาปริมาณของสารต้านอนุมูลอิสระในมะเขือเทศ ที่ได้รับความร้อนมากกว่า 190 (F เป็นเวลา 2, 15 และ 30 นาที พบว่าระดับของสารต้านอนุมูลอิสระ ทั้งหมดเพิ่มขึ้นสูงถึง 28% หลังให้ความร้อน 2 นาที และเพิ่มเป็น 62% หลังให้ความร้อนครึ่งชั่วโมง<O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ส่วนระดับของ Lycopene นั้นเพิ่มขึ้น 6%, 17% และ 35% หลังให้ความร้อนเป็นเวลา 2, 15 และ 30 นาทีตามลำดับ) โดย Dr. Rui Hai Liu รายงานว่าการปรุงอาหารจะทำ Lycopene ในมะเขือเทศมี Bioavailable มากขึ้น นั่นถือสามารถที่จะดูดซึมเข้าไปและนำไปใช้ได้อย่างรวดเร็ว อย่างไรก็ตาม ข้อเสียของมะเขือเทศที่ถูกปรุงให้สุกแล้วคือจะสูญเสียวิตามินซีไป โดยพบว่าภายหลังการให้ความร้อน 2 นาที ระดับวิตามินซีลดลง 10% และลดลงมากเกือบ 30% เมื่อให้ความร้อนนาน 30 นาที
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    Lycopene เป็นสารที่ทำให้มะเขือเทศมีสีแดง แหล่งของ Lycopene ที่มีมากที่สุดจากอาหาร คือ มะเขือเทศ แต่สามารถพบได้ในแตงโม มะละกอ และผล Pink grapefruit จากผลการศึกษาก่อนหน้านี้ของ The American Cancer Society รายงานว่า Lycopene อาจช่วยป้องกันมะเร็งที่ต่อมลูกหมาก ปอด และกระเพาะอาหารได้ และยังอาจช่วยป้องกันโรคหัวใจได้อีกด้วย

    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    <O:p></O:p>
    ที่มา: หนังสือพิมพ์พิมพ์ไทย
     

แชร์หน้านี้

Loading...