ทำบุญให้ไก่ปีละ๒ ครั้ง-สมเกียรติ ตั้งใจอาวรณ์ ประธานเครือซันกรุ๊ป

<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=0 width=567 border=0><TBODY><TR><TD vAlign=top>ทำบุญให้ไก่ปีละ๒ ครั้ง สมเกียรติ ตั้งใจอาวรณ์ ประธานเครือซันกรุ๊ป</TD></TR><TR><TD class=Text_Story vAlign=top><!-- [/IMG] คติความเชื่อของพุทธศาสนิกชนไทย นั้น มีความเชื่อว่าคนที่มีอายุสั้น เป็นคนที่มักสร้างกรรม ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นคนเหี้ยมโหด มือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการฆ่า ไม่มีเมตตาเอ็นดูในชีวิตของผู้อื่น

ส่วนคนที่มีอายุยืน เป็นผู้เว้นจากการฆ่า มีความละอายต่อบาป มีความเมตตา ชอบช่วยเหลือและอนุเคราะห์แก่สัตว์ทั้งหลาย คนที่มีโรคมาก เป็นผู้ที่ชอบสร้างกรรม ชอบเบียดเบียน และทำร้ายสัตว์ คนที่มีโรคน้อย เป็นผู้ที่มีเมตตา ไม่เบียดเบียนสัตว์
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่อแปลกสำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์ จะต้องจัดให้มีการทำบุญใหญ่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สัตว์ทุกๆ ปี
บริษัท ซันกรุ๊ป จำกัด ผู้ส่งออกไก่สุก ไม่ต่ำกว่าปีละ ๑,๐๐๐-๒,๐๐๐ ตัน ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่จัดให้มีการทำบุญใหญ่ อุทิศส่วนกุศลให้ไก่ปีละ ๒ ครั้ง
นายสมเกียรติ ตั้งใจอาวรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซันกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จะว่าไปแล้วยอมรับว่าเป็นคนกลัวเรื่องบาป และเป็นคนที่เชื่ออย่างมากด้วย เพราะเชื่อว่าบาปมีจริง บริษัทจึงมีพิธีทำบุญปีละ ๒ ครั้ง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ไก่ที่เราฆ่าเพื่อนำไปเป็นอาหาร เป็นธุรกิจทางการค้า อย่างน้อยสิ่งที่เราฆ่าก็เป็นการส่งเสริมรายได้ให้คนในท้องถิ่นด้วย ก็ถือเป็นการทำบุญอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน
ส่วนการทำบุญ บริษัทจะทำเป็นประจำทุกปี โดยมีทั้งใส่บาตร กรวดนํ้าให้ไก่เหล่านั้น ระยะเวลาส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่ต้นปีแล้วมาถึงปลายปี ทั้งนี้ การทำบุญเช่นนี้เพื่อให้คนในองค์กรเกิดความสบายใจ พร้อมทั้งพนักงานทุกคนจะต้องมีความซื่อตรงในการปฏิบัติดีต่อผู้อื่น รวมทั้งตนเองด้วย หรืออย่างน้อยก็ต้องมีความเสียสละ
"ผมคิดว่าทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นไปตามหลักไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา การที่ไม่เบียดเบียนใคร แล้วเราพูดดี ทำดี ทำบุญอุทิศส่วนกุศล รวมทั้งไม่ไปผิดลูกผิดเมียใคร ก็ถือเราไม่ได้เบียดเบียนสังคม การที่ผมทำอาชีพขายไก่ ผมถือว่าเราทำอาหารให้คนในสังคม การที่ฆ่าไก่เป็นตันๆ นั้น ถือว่าเป็นธุรกิจอย่างหนึ่งที่ต้องทำ การทำบุญให้ไก่ สามารถทำให้พนักงานเกิดความสบายใจ พนักงานเป็นเหมือนพี่น้อง เมื่อมีความสุข ประสิทธิภาพการทำงานย่อมดีไปด้วย" นายสมเกียรติ กล่าว
เมื่อถามถึงพระเครื่อง นายสมเกียรติ บอกว่า ไม่ได้มีพระเครื่องแขวนคอ แต่มีพระพุทธและพระธรรมติดอยู่ในใจเสมอ โดยทุกๆ วันจะสวดมนต์ไหว้พระก่อนออกจากบ้านและก่อนเข้านอน ขณะเดียวกันเมื่อว่างเว้นจากธุรกิจ ก็จะหยิบหนังสือธรรมะ เพื่อชีวิตที่ดี ของพระอาจารย์พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ขึ้นมาอ่าน ซึ่งมีหลักธรรมหลายข้อที่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตและธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ส่วนหลักธรรมที่นายสมเกียรติบอกว่า สามารถนำมาใช้ทั้งการดำเนินชีวิตและสร้างความสำเร็จให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดี คือ มรรค ๘ ซึ่งได้แก่ ๑.สัมมาทิฐิ คือความเข้าใจถูกต้อง ๒.สัมมาสังกัปปะ คือความใฝ่ใจถูกต้อง ๓.สัมมาวาจา คือการพูดจาถูกต้อง ๔.สัมมากัมมันตะ คือการกระทำถูกต้อง ๕.สัมมาอาชีวะ คือการดำรงชีพถูกต้อง ๖.สัมมาวายามะ คือความพากเพียรถูกต้อง ๗.สัมมาสติ คือการระลึกประจำใจถูกต้อง และ ๘.สัมมาสมาธิ คือการตั้งใจมั่นถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังมีหลักธรรมอีกข้อหนึ่ง ที่สำคัญไม่น้อยกว่ากัน คือ อิทธิบาท ๔ แปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ ได้แก่ ๑.ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น ๒.วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น ๓.จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น และ ๔.วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น
นายสมเกียรติ บอกด้วยว่า ช่วงที่ไข้หวัดนกระบาดไปทั่วประเทศ ผู้เลี้ยงไก่หลายคนอาจจะต้องสูญเสียรายได้มหาศาล แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีอยู่และรักษาไว้ให้ได้ คือ สติ ทุกอย่างไม่เที่ยง มีได้มีเสีย เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเสียเราต้องสร้างกำลังใจให้เกิดขึ้น อย่าท้อแท้ ที่สำคัญคือต้องสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับพนักงานด้วย
0 เรื่อง / ภาพ สมศักดิ์ ใจแสน 0

-->

​

คติความเชื่อของพุทธศาสนิกชนไทย นั้น มีความเชื่อว่าคนที่มีอายุสั้น เป็นคนที่มักสร้างกรรม ฆ่าสัตว์ตัดชีวิต เป็นคนเหี้ยมโหด มือเปื้อนเลือด หมกมุ่นในการฆ่า ไม่มีเมตตาเอ็นดูในชีวิตของผู้อื่น
ส่วนคนที่มีอายุยืน เป็นผู้เว้นจากการฆ่า มีความละอายต่อบาป มีความเมตตา ชอบช่วยเหลือและอนุเคราะห์แก่สัตว์ทั้งหลาย คนที่มีโรคมาก เป็นผู้ที่ชอบสร้างกรรม ชอบเบียดเบียน และทำร้ายสัตว์ คนที่มีโรคน้อย เป็นผู้ที่มีเมตตา ไม่เบียดเบียนสัตว์
ด้วยเหตุนี้จึงไม่ใช่เรื่อแปลกสำหรับบริษัทที่เกี่ยวข้องกับการฆ่าสัตว์ จะต้องจัดให้มีการทำบุญใหญ่เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้สัตว์ทุกๆ ปี

​

บริษัท ซันกรุ๊ป จำกัด ผู้ส่งออกไก่สุก ไม่ต่ำกว่าปีละ ๑,๐๐๐-๒,๐๐๐ ตัน ก็เป็นอีกบริษัทหนึ่งที่จัดให้มีการทำบุญใหญ่ อุทิศส่วนกุศลให้ไก่ปีละ ๒ ครั้ง
นายสมเกียรติ ตั้งใจอาวรณ์ ประธานกรรมการ บริษัท ซันกรุ๊ป จำกัด กล่าวว่า จะว่าไปแล้วยอมรับว่าเป็นคนกลัวเรื่องบาป และเป็นคนที่เชื่ออย่างมากด้วย เพราะเชื่อว่าบาปมีจริง บริษัทจึงมีพิธีทำบุญปีละ ๒ ครั้ง เพื่ออุทิศส่วนกุศลให้ไก่ที่เราฆ่าเพื่อนำไปเป็นอาหาร เป็นธุรกิจทางการค้า อย่างน้อยสิ่งที่เราฆ่าก็เป็นการส่งเสริมรายได้ให้คนในท้องถิ่นด้วย ก็ถือเป็นการทำบุญอีกอย่างหนึ่งเหมือนกัน
ส่วนการทำบุญ บริษัทจะทำเป็นประจำทุกปี โดยมีทั้งใส่บาตร กรวดนํ้าให้ไก่เหล่านั้น ระยะเวลาส่วนใหญ่จะเริ่มตั้งแต่ต้นปีแล้วมาถึงปลายปี ทั้งนี้ การทำบุญเช่นนี้เพื่อให้คนในองค์กรเกิดความสบายใจ พร้อมทั้งพนักงานทุกคนจะต้องมีความซื่อตรงในการปฏิบัติดีต่อผู้อื่น รวมทั้งตนเองด้วย หรืออย่างน้อยก็ต้องมีความเสียสละ
"ผมคิดว่าทุกอย่างไม่เที่ยง เป็นไปตามหลักไตรลักษณ์ คือ อนิจจัง ทุกขัง อนัตตา การที่ไม่เบียดเบียนใคร แล้วเราพูดดี ทำดี ทำบุญอุทิศส่วนกุศล รวมทั้งไม่ไปผิดลูกผิดเมียใคร ก็ถือเราไม่ได้เบียดเบียนสังคม การที่ผมทำอาชีพขายไก่ ผมถือว่าเราทำอาหารให้คนในสังคม การที่ฆ่าไก่เป็นตันๆ นั้น ถือว่าเป็นธุรกิจอย่างหนึ่งที่ต้องทำ การทำบุญให้ไก่ สามารถทำให้พนักงานเกิดความสบายใจ พนักงานเป็นเหมือนพี่น้อง เมื่อมีความสุข ประสิทธิภาพการทำงานย่อมดีไปด้วย" นายสมเกียรติ กล่าว
เมื่อถามถึงพระเครื่อง นายสมเกียรติ บอกว่า ไม่ได้มีพระเครื่องแขวนคอ แต่มีพระพุทธและพระธรรมติดอยู่ในใจเสมอ โดยทุกๆ วันจะสวดมนต์ไหว้พระก่อนออกจากบ้านและก่อนเข้านอน ขณะเดียวกันเมื่อว่างเว้นจากธุรกิจ ก็จะหยิบหนังสือธรรมะ เพื่อชีวิตที่ดี ของพระอาจารย์พระพรหมคุณาภรณ์ (ป.อ.ปยุตโต) ขึ้นมาอ่าน ซึ่งมีหลักธรรมหลายข้อที่สามารถนำมาปรับใช้กับชีวิตและธุรกิจได้เป็นอย่างดี
ส่วนหลักธรรมที่นายสมเกียรติบอกว่า สามารถนำมาใช้ทั้งการดำเนินชีวิตและสร้างความสำเร็จให้ธุรกิจได้เป็นอย่างดี คือ มรรค ๘ ซึ่งได้แก่ ๑.สัมมาทิฐิ คือความเข้าใจถูกต้อง ๒.สัมมาสังกัปปะ คือความใฝ่ใจถูกต้อง ๓.สัมมาวาจา คือการพูดจาถูกต้อง ๔.สัมมากัมมันตะ คือการกระทำถูกต้อง ๕.สัมมาอาชีวะ คือการดำรงชีพถูกต้อง ๖.สัมมาวายามะ คือความพากเพียรถูกต้อง ๗.สัมมาสติ คือการระลึกประจำใจถูกต้อง และ ๘.สัมมาสมาธิ คือการตั้งใจมั่นถูกต้อง
นอกจากนี้ ยังมีหลักธรรมอีกข้อหนึ่ง ที่สำคัญไม่น้อยกว่ากัน คือ อิทธิบาท ๔ แปลว่า บาทฐานแห่งความสำเร็จ ได้แก่ ๑.ฉันทะ ความพอใจรักใคร่ในสิ่งนั้น ๒.วิริยะ ความพากเพียรในสิ่งนั้น ๓.จิตตะ ความเอาใจใส่ฝักใฝ่ในสิ่งนั้น และ ๔.วิมังสา ความหมั่นสอดส่องในเหตุผลของสิ่งนั้น
นายสมเกียรติ บอกด้วยว่า ช่วงที่ไข้หวัดนกระบาดไปทั่วประเทศ ผู้เลี้ยงไก่หลายคนอาจจะต้องสูญเสียรายได้มหาศาล แต่สิ่งสำคัญที่ต้องมีอยู่และรักษาไว้ให้ได้ คือ สติ ทุกอย่างไม่เที่ยง มีได้มีเสีย เป็นเรื่องธรรมดา เมื่อเสียเราต้องสร้างกำลังใจให้เกิดขึ้น อย่าท้อแท้ ที่สำคัญคือต้องสร้างความเข้าใจให้เกิดขึ้นกับพนักงานด้วย 0 เรื่อง / ภาพ สมศักดิ์ ใจแสน 0

-----------
Ref. http://www.komchadluek.net/2007/01/21/j001_83940.php?news_id=83940

</TD></TR></TBODY></TABLE>