ทำบุญ-พิสดาร ขอขมาเด็กแท้ง สะท้อน-สะเทือนสังคม

ทำบุญ-พิสดาร ขอขมาเด็กแท้ง สะท้อน-สะเทือนสังคม

สดจากสนามข่าว
สถียร ท้วมจันทร์ เรื่อง/ภาพ


<TABLE cellSpacing=5 cellPadding=1 width="20%" align=left border=0><TBODY><TR bgColor=#400040><TD></TD></TR></TBODY></TABLE>
ยังคงเป็นเรื่องที่ต้องใช้วิจารณญาณกันต่อไป

สำหรับการทำบุญพิธีสะเดาะเคราะห์ ขอขมาและขออโหสิกรรมดวงวิญญาณเด็กที่เสียชีวิตจากการถูกทำแท้งหรืออุบัติเหตุต่างๆ ซึ่งวัดแค ต.รั้วใหญ่ อ.เมือง จ.สุพรรณบุรี จัดทำขึ้นให้ประชาชนได้ทำบุญทั่วไป

พิธีกรรมดังกล่าวเกิดความเห็นที่แตกต่างขึ้น เมื่อบางคนมองว่าการทำบุญแบบนี้อาจเป็นช่องว่างที่ทำให้วัยรุ่นมองเห็นเรื่องการทำแท้งเป็นเรื่องปกติธรรมดา ทำแท้งแล้วก็มาทำบุญได้ ในขณะที่บางคนมองว่าวิธีการนี้ถือเป็นการทำบุญอีกทางที่ชาวพุทธพึงกระทำได้ ไม่ใช่พิธีแก้กรรม เพราะการฆ่าชีวิตเป็นกรรมหนักตามหลักพุทธศาสนา เป็นการทำบุญเพื่อผ่อนหนักให้เป็นเบา สร้างความสุขทางใจ

แต่ก็อีกนั่นแหละ ปัญหาของสังคมในยุคปัจจุบันเสื่อมถอยศีลธรรม

มีกรณีเด็กสาวหรือวัยรุ่นที่ตกเป็นเหยื่อกามโดยคนใกล้ชิด ทำให้ท้องอย่างไม่ตั้งใจและจำเป็นต้องทำแท้ง

หากมองอีกมุม กรณีพิธีกรรมของวัดนี้อาจเป็นเครื่องชี้วัดปัญหาสังคม ให้ทุกฝ่ายช่วยกันแก้ไขเยียวยา

กล่าวถึงพิธีทำบุญขออโหสิกรรมวิญญาณเด็กถูกทำแท้ง วัดดังเมืองสุพรรณฯ จัดขึ้นครั้งนี้เป็นครั้งที่ 2 ระหว่างวันที่ 27-29 พ.ย. หลังจากครั้งแรกจัดไปเมื่อวันที่ 15 ต.ค.ที่ผ่านมา เลยทำให้มีประชาชนจำนวนมากที่ทราบข่าวเดินทางไปทำบุญล่วงหน้า

"วัดแค"กลับมาคึกคักอีกครั้ง


สถานที่ใช้ประกอบพิธีกรรมอยู่ใต้กุฏิพระครูปลัดธรรมวงศานุวัตร (สมศักดิ์ กตวฑฺฒโน) เจ้าอาวาส ซึ่งกั้นพื้นที่อย่างเป็นสัดส่วน มีการนำโลงศพขนาดเล็กสีขาว มีลายฉลุสีทองขนาดเล็ก มาตั้งไว้บนปะรำพิธี ประดับด้วยเครื่องใช้และของเล่นเด็กจำนวนมาก ซึ่งโลงศพดังกล่าวมีไว้สำหรับให้ประชาชนเขียนชื่อ-นามสกุล บุตรที่เสียชีวิตใส่กระดาษ แล้วหย่อนลงโลงเพื่อใช้ประชุมเพลิง นอกจากนี้ ยังมีการถวายพานพุ่มที่บรรจุเครื่องใช้สำหรับเด็กที่ทางวัดจัดเตรียมไว้ โดยจะเสียค่าใช้จ่ายชุดละ 99 บาท ซึ่งเงินที่ได้ระบุว่าจะนำไปบูรณะวัด ส่วนเครื่องใช้สำหรับเด็กทางวัดจะนำไปบริจาคให้โรงพยาบาลในจังหวัดสุพรรณบุรี เพื่อให้เด็กทารกที่พ่อแม่ขาดแคลนนำไปใช้เลี้ยงดูลูก

แต่ละวันมีคนมาทำบุญไม่ขาดสาย

พระครูปลัดธรรมวงศานุวัตรเล่าที่มาของการทำบุญครั้งนี้ว่า เกิดจากทางวัดต้องการทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้กุมารทองคำ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่อยู่คู่วัดมาแต่โบราณ แต่ขณะนั้นทางวัดกำลังเข้าสู่การปรับปรุงและบูรณะ จึงต้องเลื่อนการทำบุญออกไป ซึ่งต่อมานายลักษณ์ เรขานิเทศ หรือ "หมอลักษณ์ฟันธง" หมอดูชื่อดัง ซึ่งเป็นอุบาสกผู้อุปถัมภ์วัดแค ได้ขอมาประกอบพิธีกรรมเชิญดวงวิญญาณเด็กที่เสียชีวิตจากการแท้ง เพื่อเป็นกำลังของกุมารทองคำ รวมทั้งยังต้องการที่จะหล่อเทวรูปกุมารทองคำขึ้นมาใหม่ ทางวัดจึงตัดสินใจจัดงานทำบุญขอขมา ขออโหสิกรรมดวงวิญญาณ และงานพิธีเชิญดวงวิญญาณเด็กขึ้นมาพร้อมๆ กัน

"การทำแท้งที่เกิดขึ้นด้วยตั้งใจหรือไม่ตั้งใจ ถือเป็นกรรมที่หนักตามพระพุทธศาสนา เพราะเป็นการฆ่าชีวิตคนไปหนึ่งชีวิต รวมทั้งการทำแท้งยังเป็นการสร้างแผลใจที่มิอาจลบล้างให้เลือนหายไปจากจิตใจได้ การประกอบพิธีกรรมดังกล่าวจึงเป็นการทำให้บุคคลที่เข้ามาพึ่งทางธรรมรู้สึกสบายใจและผ่อนจากหนักให้เป็นเบาเท่านั้น แต่มิอาจล้างบาปกรรมที่ก่อขึ้นมาได้" เจ้าอาวาสวัดแค กล่าว

ส่วนอีกสาเหตุหนึ่งที่ทำให้มีการจัดงานเป็นครั้งที่ 2 เจ้าอาวาสวัดแคอ้างว่า เนื่องจากหลังจัดงานครั้งแรกได้ฝันเห็นเด็กทารกมาดึงจีวรขณะเดินอยู่ในวัด จึงตัดสินใจจัดงานและประกอบพิธีกรรมดังกล่าวขึ้นอีกครั้ง

ได้รับการตอบรับจากชาวบ้านมากมาย


หลังการทำบุญสะเดาะเคราะห์ขออโหสิกรรมดวงวิญญาณเด็กดังเป็นข่าวแพร่สะพัดออกไป ปรากฏว่ามีเสียงวิพากษ์วิจารณ์เกิดขึ้นอย่างกว้างขวาง ทั้งทางด้านบวกด้านลบ ได้แก่ "ครูยุ่น" นายมนตรี สินทวิชัย เลขาธิการมูลนิธิคุ้มครองเด็ก และอดีตส.ว.สมุทรสงคราม ที่ออกมาระบุว่า ไม่น่าจะเกิดผลดีเพราะอาจทำให้วัยรุ่นมองว่าการทำแท้งเป็นเรื่องธรรมดาได้ พอไปทำแท้งก็มาทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้

ที่สำคัญ "ครูยุ่น" ตั้งข้อสงสัยว่าเป็นกิจของสงฆ์หรือไม่!??

"คนที่ไปไม่ได้รับทราบว่ากรรมแก้หรือทุเลาไม่ได้ การทำแท้งเป็นเรื่องผิดศีลธรรมและกฎหมาย การให้วัดหรือพระเข้าไปอาจทำให้เกิดความเข้าใจผิดกับหมู่คนที่ไปทำแท้ง หรือคนที่คิดจะไปทำแท้ง ว่าล้างหรือทุเลาบาปได้หากทำบุญให้เด็ก อาจทำให้คนแห่มาทำพิธีกันมากมาย มุมหนึ่งที่วัยรุ่นหรือคนในพื้นที่และคนที่เห็นภาพข่าวเรื่องนี้จะเกิดความคิดว่า การทำพิธีขอขมาทำให้การทำแท้งเป็นเรื่องธรรมดา สามารถทำพิธีกรรมเพื่อแก้บาปได้ ก็จะไปกันใหญ่ ทั้งที่ไม่ใช่หนทางแก้ปัญหา เป็นเรื่องของความเชื่อไม่ใช่เรื่องเหตุผล วัดมีส่วนทำให้เกิดความเชื่อที่ขัดกับคำสอนของพระพุทธเจ้าหรือไม่

ขณะที่นายสรรพสิทธิ์ คุมพ์ประพันธ์ ผอ.มูลนิธิศูนย์พิทักษ์สิทธิเด็กและกรรมการคุ้มครองเด็กแห่งชาติ ก็แสดงความเห็นที่คล้าย บอกว่า การทำบุญขอขมาดังกล่าวอาจทำให้รู้สึกดีขึ้นจนไม่เกิดความรู้สึกผิด เรื่องนี้พัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์จังหวัด (พมจ.) ต้องเข้าไปดูแลผู้เข้าไปร่วมพิธีแต่ละราย ว่ามีปัจจัยสาเหตุเสี่ยงการทำแท้งอย่างไร และเข้าไปช่วยเหลือดูแลแก้ปัญหาเพื่อจัดระบบการป้องกันการทำแท้ง ซึ่งน่าจะเป็นการแก้ปัญหาที่ดีกว่า



ส่วนมุมมองอีกด้าน "หมอลักษณ์ฟันธง" ออกมาอธิบายว่า การจัดพิธีกรรมนี้เป็นไปตามที่ท่านเจ้าอาวาสฯ ได้ปรารภว่ามีเจตนาเพื่อต้องการให้ผู้ที่เข้ามาทำบุญรู้สึกสบายใจเท่านั้น ซึ่งบาปกรรมที่เกิดจากฆ่าชีวิตผู้เป็นลูกหรือผู้อื่นไม่สามารถลบล้างได้ นอกจากนี้ หากเรามองตามความเชื่อตามคติของคนไทย เด็กที่เตรียมจะเกิดแล้วถูกทำแท้งหรือตายผิดธรรมชาติ ดวงวิญญาณจะไม่ไปสู่สุคติ ต้องวนเวียนอยู่ในภพนี้จนกว่าถึงวาระได้ไปผุดไปเกิด อาจเป็นด้วยความแค้นที่ไม่ใช่ความผิดของเด็ก แต่เขาต้องมาตายด้วยการทำแท้ง เพราะการกระทำที่รู้เท่าไม่ถึงการณ์ของบิดามารดา การจัดพิธีทำบุญดังกล่าว นอกจากช่วยทำให้คนที่เป็นบิดามารดาที่ได้กระทำได้สำนึกถึงความผิด ให้เกิดความสบายใจแล้ว ดวงวิญญาณของทารกเมื่อได้รับรู้ถึงผลบุญก็จะได้อโหสิกรรมได้ไปเกิดในภพภูมิที่ดีต่อไป

ด้านพระราชปริยัติสุธี เจ้าคณะจังหวัดสุพรรณบุรี มีมุมมองว่า การทำบุญไม่ว่าเป็นรูปแบบใด ถือว่าไม่ผิด เป็นเรื่องที่ดี แล้วแต่ความเชื่อความศรัทธาของประชาชน ไม่ถือเป็นการมอมเมาประชาชนแต่อย่างใด เรื่องนี้ก็เป็นการคิดถึงคนตายที่อาจไม่มีคนคิดมาก่อน

"อาตมาเองไม่ส่งเสริมแต่ก็ไม่ได้คัดค้าน"

ดังนั้น ทุกคนต้องใช้วิจารณญาณตัดสินใจ




[FONT=Tahoma,]หน้า 2[/FONT]

http://www.matichon.co.th/khaosod/view_news.php?newsid=TUROd01ERTJNVEU0TVRFMU1RPT0=&sectionid=TURNd01RPT0=&day=TWpBd09DMHhNUzB4T0E9PQ==

 

เหรียญมีหลายด้าน ความคิดต่างมุม

 

อุเบกขา!!

 

บุญและบาปแยกกันไม่มีใครอยู่เหนือกรรมแม้พระศาสดา...สาธุๆๆๆ

 

ผมมีความเห็นอยู่สองแนวทางครับ
อย่างแรก หากเป็นการแท้งเพราะไปเอาเด็กออกถือว่าเป็นเรื่องน่าตำหนิครับ
แต่อย่างที่สอง หากเป็นการแท้งเพราะเด็กหลุดมาเองด้วยเหตุที่ตัวเด็ก/แม่ ไม่แข็งแรงทำให้ตัวเด็กไม่สามารถเกาะตัวอยูที่มดลูกได้(ส่วนมากจะเกิดตอนตั้งท้องอ่อนๆ) อย่างนี้ก็ไม่ว่ากันเพราะเป็นเรื่องสุดวิสัยไม่มีเจตนา
แต่ทั้งสองกรณีนั้นได้มีวิญญาณมาครองในตัวเด็กแล้ว เมื่อแท้งไปวิญญาณเบายังวนเวียนอยู่ ควรทำบุญอุทิศส่วนกุศลให้เขาบ่อยๆเขาจะได้ไปเกิดใหม่ หากไม่สนใจเลยเบาอาจมีจิตที่คิดไม่ดีต่อแม่เขาได้ ทำให้ชีวิตมีแต่ปัญหาติดขัดต่างๆนานา ฯลฯ

 

วัดในเมืองจ.ปลาก้มีเยอะเเยะเลย

 

เอ๋า ทำผิดแล้วยังไม่ขอโทษก็ยิ่งจังไรไปกันใหญ่
พิสดารตรงไหนหว่า

 

ขอให้ดวงวิญญาณเด็กถูกทำแท้ง และเด็กแท้ง ทั้งหลาย ไปสู่สุคติ ค่ะ

สาธุ ^__^