ธรรมะต้านภัยพิบัติครั้งใหญ่

คำนำ<O</O​

<O</O
ในโลกนี้มีหลายเรื่องที่ดูเหมือนว่าน่าสนใจเพราะมันทำให้รู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนานเพลิดเพลิน เช่น เรื่องลึกลับมหัศจรรย์ เรื่องแปลกประหลาดและเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นต้น เมื่อมองเห็นว่าเรื่องเหล่านี้น่าสนใจมาก ก็จะใช้เวลามากมายเพื่อที่จะเรียนรู้และติดตามค้นหาจนถึงที่สุด จึงทำให้ธรรมะกลายเป็นเรื่องรอง ในขณะที่เสียเวลามากมายกับเรื่องเหล่านี้ ก็ยังคงรู้สึกเป็นทุกข์เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่มีประโยชน์สำหรับการพัฒนาดวงจิตและไม่สามารถนำมาใช้ดับทุกข์ได้

เมื่อมีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้ ควรจะมองเห็นว่าธรรมะเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่สุดเพราะธรรมะมีประโยชน์สูงสุด กล่าวคือ ธรรมะเป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนาดวงจิตและสามารถนำมาใช้ดับทุกข์ได้ เมื่อมองเห็นประโยชน์ของธรรม ก็ต้องใช้เวลามากมายเพื่อที่จะเรียนรู้และฝึกฝนธรรมอย่างจริงจังโดยไม่สนใจในเรื่องอื่นๆ ที่ไม่มีประโยชน์ เส้นทางธรรมมีแต่ความสงบ ส่วนเส้นทางอื่น มีแต่ความวุ่นวาย
เมื่อเรามองเห็นประโยชน์ของธรรมะ เราก็ได้เรียนรู้และฝึกฝนธรรมเป็นเวลา 10 กว่าปี ใน ขณะเดียวกันเราก็ได้เขียนหนังสือธรรมะเพื่อประโยชน์ส่วนรวมด้วยธรรมะที่เราเขียนนี้มีความแปลกใหม่ที่สามารถพิจารณาด้วยเหตุผลและสามารถนำมาใช้ดับทุกข์ได้
เราได้เขียนหนังสือธรรมะเป็นจำนวน 4 เล่ม มีดังนี้
1. เปิดวัฏสงสาร เป็นธรรมะระดับพื้นฐาน
2. ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ 1
3. ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ 2
4. ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ 3
<O</O
เราได้นำธรรมะบางส่วนมาให้อ่าน มีดังนี้

<O</O
ความสัมพันธ์ของดวงจิต กิเลสและหลักธรรม<O</O
ดวงจิต กิเลสและหลักธรรมมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันเป็นคู่ ดังนี้
คู่ที่ 1. ดวงจิตกับกิเลส
คู่ที่ 2. ดวงจิตกับหลักธรรม
คู่ที่ 3. กิเลสกับหลักธรรม
<O</O
ดวงจิตกับกิเลส<O</O
ที่จุดเริ่มต้นของเส้นทางพัฒนาดวงจิต ดวงจิตเป็นสิ่งที่คงอยู่ มีลักษณะ โล่งโปร่ง เย็นสบาย ไม่มีความรู้สึกยินดียินร้ายและไม่สามารถปกป้องคุ้มครองตนเองได้ ดวงจิตจึงเปรียบเหมือนห้องที่ไม่ได้ล๊อคกุญแจ ทำให้ผู้อื่นสามารถเข้ามาอยู่อาศัยได้
กิเลสเป็นความรู้สึกยินดียินร้าย มีลักษณะไม่คงที่ มีอาการขึ้นๆ ลงๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุ ที่มากระทบ กล่าวคือ เมื่อมีเหตุมากระทบ กิเลสจะลุกขึ้นมาวุ่นวาย เมื่อไม่มีเหตุมากระทบ กิเลสก็จะนั่งเงียบและก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาวุ่นวายได้ตลอดเวลา
เมื่อดวงจิตเปรียบเหมือนห้อง กิเลสก็จะเปรียบเหมือนผู้ที่เข้ามายึดพื้นที่ในห้องและรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของห้อง เมื่อกิเลสรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของห้อง กิเลสก็จะรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของบ้านด้วยและก็จะยึดบ้านมาเป็นของตนเอง กล่าวคือ เมื่อดวงจิตไม่สามารถปกป้องคุ้มครองตนเองได้ กิเลสก็จะฉวยโอกาสเข้ามาครอบครองเป็นเจ้าของดวงจิตได้อย่างง่ายดาย เมื่อกิเลสเข้ามาครอบครองเป็นเจ้าของดวงจิตแล้ว กิเลสก็จะครอบครองเป็นเจ้าของร่างกายด้วยเพราะดวงจิตอาศัยอยู่ในร่างกาย
<O</O
ดวงจิตกับหลักธรรม<O</O
หลักธรรมมีลักษณะสงบนิ่ง มั่นคง แข็งแกร่งและมีพลังอำนาจที่สามารถปกป้องคุ้มครองดวงจิตได้ หลักธรรมจึงเปรียบเหมือนผู้คุ้มภัยที่รอดวงจิตไปเชื้อเชิญ เมื่อดวงจิตไปเชื้อเชิญ ผู้คุ้มภัยก็จะเดินทางมากับดวงจิตเพื่อปกป้องคุ้มครองดวงจิต กล่าวคือ เมื่อดวงจิตรู้ว่าหลักธรรมสามารถปกป้องคุ้มครองดวงจิตให้พ้นจากอำนาจของกิเลสได้ ดวงจิตก็จะไปเชื้อเชิญหลักธรรมให้มาอยู่ด้วยกันเพื่อที่จะใช้หลักธรรมเป็นเกราะป้องกันภัย เมื่อใดที่ดวงจิตไม่ใช้หลักธรรมให้เป็นประโยชน์ เมื่อนั้นหลักธรรมก็จะเดินทางจากไป แต่ถ้าดวงจิตนึกขึ้นได้ว่าจะต้องใช้หลักธรรมเป็นเกราะป้องกันภัย ดวงจิตก็จะไปเชื้อเชิญหลักธรรมกลับมาอีก ทุกครั้งที่ดวงจิตไปเชื้อเชิญหลักธรรม หลักธรรมก็จะเดินทางกลับมาด้วยเสมอ เมื่อดวงจิตรู้จักใช้หลักธรรมอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ หลักธรรมก็จะอยู่กับดวงจิตตลอดไป
<O</O
กิเลสกับหลักธรรม<O</O
กิเลสมีลักษณะวุ่นวาย ไม่คงที่ มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆ และมีพลังอำนาจมืดที่ทำให้เกิดความร้อนรน กิเลสจึงมีความร้อน
หลักธรรมมีลักษณะสงบนิ่ง มั่นคง แข็งแกร่งและมีพลังอำนาจสว่างที่ทำให้เกิดความสงบเย็น หลักธรรมจึงมีความเย็น หลักธรรมสามารถดับกิเลสได้เพราะความเย็นสามารถดับความร้อนได้โดย การใช้ความเย็นเข้าแทนที่ความร้อน ทำให้ความร้อนลดลง เมื่อความเย็นเข้ามาแทนที่มากขึ้นเท่าใด ความร้อนก็จะลดลงเท่านั้น เมื่อความเย็นเข้ามาแทนที่ความร้อนทั้งหมด ก็จะสามารถดับความร้อนได้
เมื่อดวงจิตเปรียบเหมือนห้อง กิเลสก็จะเปรียบเหมือนผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยในห้องโดยที่ไม่มีใครเชื้อเชิญ จึงเป็นการอยู่อย่างไม่ชอบธรรม ส่วนหลักธรรมก็จะเปรียบเหมือนผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยโดยที่ได้รับการเชื้อเชิญ จึงเป็นการอยู่อย่างชอบธรรม แต่ห้องนี้มีพื้นที่ให้อาศัยอยู่อย่างจำกัด เมื่อหลักธรรมเข้ามาอยู่อาศัยในห้องเป็นจำนวนเท่าใด กิเลสก็จะต้องย้ายออกไปจากห้องเป็นจำนวนเท่านั้น เพราะหลักธรรมมีพลังอำนาจที่สามารถขับไล่กิเลสได้ ดังนั้น เมื่อหลักธรรมเข้ามาอยู่อาศัยจนเต็มพื้นที่ในห้องแล้ว กิเลสทั้งหมดก็จะต้องย้ายออกไปจากห้องอย่างถาวร<O</O
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:line style="Z-INDEX: 251657728; POSITION: absolute; TEXT-ALIGN: left; LEFT: 0px" id=_x0000_s1026 strokeweight="1.5pt" to="4in,20.7pt" from="136pt,20.7pt"></v:line><O</O
<O</O
การพิจารณาความเปลี่ยนแปลงและความไม่เปลี่ยนแปลง<O</O
ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงและไม่เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย เหตุปัจจัยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถบังคับควบคุมได้ เราจึงไม่สามารถบังคับควบคุมให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงและไม่เปลี่ยนแปลงไปตามที่ใจต้องการ เราจึงไม่สามารถคาดหวังได้ว่า มันจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่เปลี่ยนแปลง บางครั้งเราอยากจะให้มันเปลี่ยนแปลง แต่มันก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุของมัน บางครั้งเราอยากจะให้มันไม่เปลี่ยนแปลง แต่มันก็เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุของมัน ดังนั้น จึงต้องเข้าใจในต้นเหตุที่ว่า เหตุใดมันจึงเปลี่ยนแปลง เหตุใดมันจึงไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเข้าใจในต้นเหตุ ก็จะเข้าใจและยอมรับในผลที่เกิดขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความแปรปรวนไม่แน่นอน เปรียบเหมือนนุ่นที่ปลิวลอยตามลม มันไม่มีทิศทางที่แน่นอนว่าจะปลิวไปตกในที่ใด
ความไม่เปลี่ยนแปลงทำให้เกิดการหยุดอยู่กับที่ เปรียบเหมือนนาฬิกาที่ตายแล้ว มันจึงไม่สามารถบอกเวลาได้
เมื่อพิจารณาความจริงเช่นนี้แล้ว ก็จะเห็นว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง ตามเหตุปัจจัย มันเป็นอย่างนั้นเอง ไม่อาจเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้
<O</O
ถ้าอยากรู้รายละเอียดของการพัฒนาดวงจิตและวิธีการดับทุกข์ ถ้าอยากรู้ว่าธรรมะจะต้านภัยพิบัติได้อย่างไร ก็ขอเชิญแวะเข้ามาอ่านข้างในได้
เราอนุญาตให้นำธรรมะไปเผยแพร่ได้ แต่ห้ามนำธรรมะไปค้าขาย



คำนำเพิ่มเติม
ธรรมะมีรายละเอียดมากมายหลายเรื่อง แต่ละเรื่องก็มีหลายมุม เมื่อท่านได้อ่านธรรมะแล้วและมีข้อสงสัยในเรื่องใดหรือต้องการเรียนรู้รายละเอียดเพิ่มเติม ท่านก็สามารถโทรพูดคุยกับเราได้ที่เบอร์โทร 087-674-2930<O</O


<O</O
<O</O

กอบกุล เกื้อธรรม ผู้เขียน<O</O
สุขสมบูรณ์ ธงชัยขาวสะอาด ผู้พิมพ์<O</O​

30 เมษายน 2553
โทร. 087-674-2930<O</O​

 

อนุโมทนา ค่ะ A.41 (ใช่คนเดียวกับที่เรารู้จักหรือเปล่าค่ะ):'(

 

อนุโมทนา ค่ะ A.41 (ใช่คนเดียวกับที่เรารู้จักหรือเปล่าค่ะ):'(<!-- google_ad_section_end -->

ใช่ครับ..คนเดียวกันที่รู้จักครับ...ขอบคุณครับที่ติดตามอ่าน...

 

ธรรมะต้านภัยพิบัติครั้งใหญ่<!-- google_ad_section_end -->​

<HR style="BACKGROUND-COLOR: #ffffff; COLOR: #ffffff" SIZE=1><!-- google_ad_section_start -->

คำนำ<O</O​

<O</O
ในโลกนี้มีหลายเรื่องที่ดูเหมือนว่าน่าสนใจเพราะมันทำให้รู้สึกตื่นเต้นและสนุกสนานเพลิดเพลิน เช่น เรื่องลึกลับมหัศจรรย์ เรื่องแปลกประหลาดและเรื่องอิทธิปาฏิหาริย์ เป็นต้น เมื่อมองเห็นว่าเรื่องเหล่านี้น่าสนใจมาก ก็จะใช้เวลามากมายเพื่อที่จะเรียนรู้และติดตามค้นหาจนถึงที่สุด จึงทำให้ธรรมะกลายเป็นเรื่องรอง ในขณะที่เสียเวลามากมายกับเรื่องเหล่านี้ ก็ยังคงรู้สึกเป็นทุกข์เพราะเรื่องเหล่านี้ไม่มีประโยชน์สำหรับการพัฒนาดวงจิตและไม่สามารถนำมาใช้ดับทุกข์ได้

เมื่อมีโอกาสเกิดมาเป็นมนุษย์ในชาตินี้ ควรจะมองเห็นว่าธรรมะเป็นเรื่องที่น่าสนใจมากที่สุดเพราะธรรมะมีประโยชน์สูงสุด กล่าวคือ ธรรมะเป็นเครื่องมือสำหรับการพัฒนาดวงจิตและสามารถนำมาใช้ดับทุกข์ได้ เมื่อมองเห็นประโยชน์ของธรรม ก็ต้องใช้เวลามากมายเพื่อที่จะเรียนรู้และฝึกฝนธรรมอย่างจริงจังโดยไม่สนใจในเรื่องอื่นๆ ที่ไม่มีประโยชน์ เส้นทางธรรมมีแต่ความสงบ ส่วนเส้นทางอื่น มีแต่ความวุ่นวาย
เมื่อเรามองเห็นประโยชน์ของธรรมะ เราก็ได้เรียนรู้และฝึกฝนธรรมเป็นเวลา 10 กว่าปี ใน ขณะเดียวกันเราก็ได้เขียนหนังสือธรรมะเพื่อประโยชน์ส่วนรวมด้วยธรรมะที่เราเขียนนี้มีความแปลกใหม่ที่สามารถพิจารณาด้วยเหตุผลและสามารถนำมาใช้ดับทุกข์ได้
เราได้เขียนหนังสือธรรมะเป็นจำนวน 4 เล่ม มีดังนี้
1. เปิดวัฏสงสาร เป็นธรรมะระดับพื้นฐาน
2. ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ 1
3. ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ 2
4. ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ 3
<O</O
เราได้นำธรรมะบางส่วนมาให้อ่าน มีดังนี้

<O</O
ความสัมพันธ์ของดวงจิต กิเลสและหลักธรรม<O</O
ดวงจิต กิเลสและหลักธรรมมีความสัมพันธ์เกี่ยวข้องกันเป็นคู่ ดังนี้
คู่ที่ 1. ดวงจิตกับกิเลส
คู่ที่ 2. ดวงจิตกับหลักธรรม
คู่ที่ 3. กิเลสกับหลักธรรม
<O</O
ดวงจิตกับกิเลส<O</O
ที่จุดเริ่มต้นของเส้นทางพัฒนาดวงจิต ดวงจิตเป็นสิ่งที่คงอยู่ มีลักษณะ โล่งโปร่ง เย็นสบาย ไม่มีความรู้สึกยินดียินร้ายและไม่สามารถปกป้องคุ้มครองตนเองได้ ดวงจิตจึงเปรียบเหมือนห้องที่ไม่ได้ล๊อคกุญแจ ทำให้ผู้อื่นสามารถเข้ามาอยู่อาศัยได้
กิเลสเป็นความรู้สึกยินดียินร้าย มีลักษณะไม่คงที่ มีอาการขึ้นๆ ลงๆ มีการเปลี่ยนแปลงไปตามเหตุ ที่มากระทบ กล่าวคือ เมื่อมีเหตุมากระทบ กิเลสจะลุกขึ้นมาวุ่นวาย เมื่อไม่มีเหตุมากระทบ กิเลสก็จะนั่งเงียบและก็พร้อมที่จะลุกขึ้นมาวุ่นวายได้ตลอดเวลา
เมื่อดวงจิตเปรียบเหมือนห้อง กิเลสก็จะเปรียบเหมือนผู้ที่เข้ามายึดพื้นที่ในห้องและรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของห้อง เมื่อกิเลสรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของห้อง กิเลสก็จะรู้สึกว่าตนเองเป็นเจ้าของบ้านด้วยและก็จะยึดบ้านมาเป็นของตนเอง กล่าวคือ เมื่อดวงจิตไม่สามารถปกป้องคุ้มครองตนเองได้ กิเลสก็จะฉวยโอกาสเข้ามาครอบครองเป็นเจ้าของดวงจิตได้อย่างง่ายดาย เมื่อกิเลสเข้ามาครอบครองเป็นเจ้าของดวงจิตแล้ว กิเลสก็จะครอบครองเป็นเจ้าของร่างกายด้วยเพราะดวงจิตอาศัยอยู่ในร่างกาย
<O</O
ดวงจิตกับหลักธรรม<O</O
หลักธรรมมีลักษณะสงบนิ่ง มั่นคง แข็งแกร่งและมีพลังอำนาจที่สามารถปกป้องคุ้มครองดวงจิตได้ หลักธรรมจึงเปรียบเหมือนผู้คุ้มภัยที่รอดวงจิตไปเชื้อเชิญ เมื่อดวงจิตไปเชื้อเชิญ ผู้คุ้มภัยก็จะเดินทางมากับดวงจิตเพื่อปกป้องคุ้มครองดวงจิต กล่าวคือ เมื่อดวงจิตรู้ว่าหลักธรรมสามารถปกป้องคุ้มครองดวงจิตให้พ้นจากอำนาจของกิเลสได้ ดวงจิตก็จะไปเชื้อเชิญหลักธรรมให้มาอยู่ด้วยกันเพื่อที่จะใช้หลักธรรมเป็นเกราะป้องกันภัย เมื่อใดที่ดวงจิตไม่ใช้หลักธรรมให้เป็นประโยชน์ เมื่อนั้นหลักธรรมก็จะเดินทางจากไป แต่ถ้าดวงจิตนึกขึ้นได้ว่าจะต้องใช้หลักธรรมเป็นเกราะป้องกันภัย ดวงจิตก็จะไปเชื้อเชิญหลักธรรมกลับมาอีก ทุกครั้งที่ดวงจิตไปเชื้อเชิญหลักธรรม หลักธรรมก็จะเดินทางกลับมาด้วยเสมอ เมื่อดวงจิตรู้จักใช้หลักธรรมอย่างต่อเนื่องสม่ำเสมอ หลักธรรมก็จะอยู่กับดวงจิตตลอดไป
<O</O
กิเลสกับหลักธรรม<O</O
กิเลสมีลักษณะวุ่นวาย ไม่คงที่ มีการเปลี่ยนแปลงขึ้นๆ ลงๆ และมีพลังอำนาจมืดที่ทำให้เกิดความร้อนรน กิเลสจึงมีความร้อน
หลักธรรมมีลักษณะสงบนิ่ง มั่นคง แข็งแกร่งและมีพลังอำนาจสว่างที่ทำให้เกิดความสงบเย็น หลักธรรมจึงมีความเย็น หลักธรรมสามารถดับกิเลสได้เพราะความเย็นสามารถดับความร้อนได้โดย การใช้ความเย็นเข้าแทนที่ความร้อน ทำให้ความร้อนลดลง เมื่อความเย็นเข้ามาแทนที่มากขึ้นเท่าใด ความร้อนก็จะลดลงเท่านั้น เมื่อความเย็นเข้ามาแทนที่ความร้อนทั้งหมด ก็จะสามารถดับความร้อนได้
เมื่อดวงจิตเปรียบเหมือนห้อง กิเลสก็จะเปรียบเหมือนผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยในห้องโดยที่ไม่มีใครเชื้อเชิญ จึงเป็นการอยู่อย่างไม่ชอบธรรม ส่วนหลักธรรมก็จะเปรียบเหมือนผู้ที่เข้ามาอยู่อาศัยโดยที่ได้รับการเชื้อเชิญ จึงเป็นการอยู่อย่างชอบธรรม แต่ห้องนี้มีพื้นที่ให้อาศัยอยู่อย่างจำกัด เมื่อหลักธรรมเข้ามาอยู่อาศัยในห้องเป็นจำนวนเท่าใด กิเลสก็จะต้องย้ายออกไปจากห้องเป็นจำนวนเท่านั้น เพราะหลักธรรมมีพลังอำนาจที่สามารถขับไล่กิเลสได้ ดังนั้น เมื่อหลักธรรมเข้ามาอยู่อาศัยจนเต็มพื้นที่ในห้องแล้ว กิเลสทั้งหมดก็จะต้องย้ายออกไปจากห้องอย่างถาวร<O</O
<?xml:namespace prefix = v ns = "urn:schemas-microsoft-com:vml" /><v:line style="Z-INDEX: 251657728; POSITION: absolute; TEXT-ALIGN: left; LEFT: 0px" id=_x0000_s1026 strokeweight="1.5pt" to="4in,20.7pt" from="136pt,20.7pt"></v:line><O</O
<O</O
การพิจารณาความเปลี่ยนแปลงและความไม่เปลี่ยนแปลง<O</O
ทุกสิ่งทุกอย่างจะเปลี่ยนแปลงและไม่เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุปัจจัย เหตุปัจจัยเป็นสิ่งที่ไม่สามารถบังคับควบคุมได้ เราจึงไม่สามารถบังคับควบคุมให้ทุกสิ่งทุกอย่างเปลี่ยนแปลงและไม่เปลี่ยนแปลงไปตามที่ใจต้องการ เราจึงไม่สามารถคาดหวังได้ว่า มันจะเปลี่ยนแปลงหรือไม่เปลี่ยนแปลง บางครั้งเราอยากจะให้มันเปลี่ยนแปลง แต่มันก็ไม่เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุของมัน บางครั้งเราอยากจะให้มันไม่เปลี่ยนแปลง แต่มันก็เปลี่ยนแปลงไปตามเหตุของมัน ดังนั้น จึงต้องเข้าใจในต้นเหตุที่ว่า เหตุใดมันจึงเปลี่ยนแปลง เหตุใดมันจึงไม่เปลี่ยนแปลง เมื่อเข้าใจในต้นเหตุ ก็จะเข้าใจและยอมรับในผลที่เกิดขึ้น
ความเปลี่ยนแปลงทำให้เกิดความแปรปรวนไม่แน่นอน เปรียบเหมือนนุ่นที่ปลิวลอยตามลม มันไม่มีทิศทางที่แน่นอนว่าจะปลิวไปตกในที่ใด
ความไม่เปลี่ยนแปลงทำให้เกิดการหยุดอยู่กับที่ เปรียบเหมือนนาฬิกาที่ตายแล้ว มันจึงไม่สามารถบอกเวลาได้
เมื่อพิจารณาความจริงเช่นนี้แล้ว ก็จะเห็นว่า มันเป็นเช่นนั้นเอง ตามเหตุปัจจัย มันเป็นอย่างนั้นเอง ไม่อาจเปลี่ยนเป็นอย่างอื่นได้
<O</O
ถ้าอยากรู้รายละเอียดของการพัฒนาดวงจิตและวิธีการดับทุกข์ ถ้าอยากรู้ว่าธรรมะจะต้านภัยพิบัติได้อย่างไร ก็ขอเชิญแวะเข้ามาอ่านข้างในได้
เราอนุญาตให้นำธรรมะไปเผยแพร่ได้ แต่ห้ามนำธรรมะไปค้าขาย



คำนำเพิ่มเติม
ธรรมะมีรายละเอียดมากมายหลายเรื่อง แต่ละเรื่องก็มีหลายมุม เมื่อท่านได้อ่านธรรมะแล้วและมีข้อสงสัยในเรื่องใดหรือต้องการเรียนรู้รายละเอียดเพิ่มเติม ท่านก็สามารถโทรพูดคุยกับเราได้ที่เบอร์โทร 087-674-2930<O</O


<O</O
<O</O

กอบกุล เกื้อธรรม ผู้เขียน<O</O
สุขสมบูรณ์ ธงชัยขาวสะอาด ผู้พิมพ์<O</O

30 เมษายน 2553
โทร. 087-674-2930<O</O​

<!-- google_ad_section_end -->
<FIELDSET class=fieldset><LEGEND>ไฟล์แนบข้อความ</LEGEND><TABLE border=0 cellSpacing=3 cellPadding=0><TBODY><TR><TD></TD><TD>เปิดวัฏสงสาร.pdf (4.07 MB, 18 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (1) ปก.doc (50.5 KB, 15 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (1) คำ (64.5 KB, 12 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (1) สา.doc (28.0 KB, 10 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (1) เน (350.0 KB, 23 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (2) ปก.doc (50.5 KB, 9 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (2) คำ (51.0 KB, 10 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (2) สา (27.5 KB, 13 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (2) เน (428.0 KB, 17 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (3) ปก.doc (54.5 KB, 8 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (3) คำ (56.0 KB, 9 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (3) สา (30.0 KB, 10 views)</TD></TR><TR><TD></TD><TD>ขั้นเตรียมโลกุตรธรรม เล่มที่ (3) เน (893.5 KB, 19 views)</TD></TR></TBODY></TABLE></FIELDSET>