นักวิทย์เตือน โลกเตรียมรับมือพายุสุริยะครั้งใหญ่

สนามแม่เหล็กโลกปกป้องเรา ขณะพายุสุริยะพัดเข้ามา



​

อุณหภูมิพื้นผิวมหาสมุทร (สีส้ม สีเหลือง) มีความร้อนสูงในพื้นที่วงกว้างมาก

​

​

​

เรียบเรียงข้อมูลโดยกระปุกดอทคอม
ขอขอบคุณภาพประกอบจาก สมาคมดาราศาสตร์ไทย

เมื่อวันที่ 21 กุมภาพันธ์ที่ผ่านมา เว็บไซต์เดลิเมล์ ของอังกฤษ รายงานว่า นัก ดาราศาสตร์เตือนโลกอาจเผชิญกับพายุสุริยะครั้งรุนแรงที่สุดในประวัติศาสตร์ ทำให้ไฟดับและโทรศัพท์ใช้การไม่ได้เป็นเดือน และอาจสร้างความเสียหายหลายหมื่นล้านล้านบาท

รายงาน ระบุว่า ในช่วง 2-3 ปีที่ผ่านมา นักดาราศาสตร์พบว่า ดวงอาทิตย์มีการลุกจ้าและการปะทุรุนแรงขึ้นเรื่อย ๆ และนั่นแสดงให้เห็นว่า ดวงอาทิตย์กำลังเข้าสู่จุดที่มีการปะทุรุนแรงที่สุดในรอบวัฏจักร 11-12 ปี ในช่วงนี้ ซึ่งถ้าหากมันปะทุรุนแรงขึ้นกว่านี้ และมีกำลังมากพอ ก็จะส่งผลให้เกิดไฟฟ้าดับ ระบบดาวเทียม การบอกทิศทางในสนามบิน และเครือข่ายโทรศัพท์ใช้การไม่ได้ โดยจะกินเวลาหลายสัปดาห์เลยทีเดียว ซึ่งในขณะนี้ โอกาสที่ปรากฏการณ์ดังกล่าวจะเกิดขึ้นก็สูงขึ้นเรื่อย ๆ เพราะดวงอาทิตย์เริ่มมีการปะทุบ่อยขึ้นและรุนแรงที่สุดในวัฏจักรแล้ว

โดยศาสตราจารย์ เซอร์ จอห์น เบดดิงตัน ที่ปรึกษาด้านวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลอังกฤษ ได้เปิดเผยว่า ประเด็นเรื่องสภาพอากาศของอวกาศเป็นสิ่งที่เราต้องจริงจังกับมัน เพราะไม่รู้ว่ามันจะเกิดอะไรขึ้นและไม่สามารถคาดการณ์ได้อย่างแม่นยำ ในขณะนี้ ดวงอาทิตย์ในระบบสุริยะของเรากำลังอยู่ในจุดที่มีการปะทุสูงขึ้นเรื่อย ๆ เราจึงต้องเตรียมตัวรับมือกับมันตั้งแต่เนิ่น ๆ หากพบว่ามันมีความเป็นไปได้สูงที่จะเกิดพายุสุริยะครั้งใหญ่ขึ้น

ด้าน เจน ลูบเชนโก หัวหน้าศูนย์ศึกษาบรรยากาศและมหาสมุทรแห่งสหรัฐฯ ได้เปิดเผยว่า การปะทุครั้งรุนแรงที่สุดของดวงอาทิตย์ เกิดขึ้นครั้งล่าสุดเมื่อประมาณ 10 ปีก่อน และส่งผลกระทบต่อระบบไฟฟ้าและโทรคมนาคมในตอนนั้น และถ้าหากมันเกิดขึ้นอีก มันก็จะส่งผลกระทบมากกว่าที่เคยเป็นอย่างแน่นอน เพราะทุกวันนี้ ผู้คนต้องพึ่งพาเทคโนโลยีบนอวกาศกันมาก ไม่ว่าจะเป็นโทรทัศน์ โทรศัพท์ การกระจายเสียงวิทยุ ระบบ GPS ซึ่งเป็นสิ่งที่ใช้กันอย่างกว้างขวางทั่วโลก รวมถึงคอมพิวเตอร์ก็เป็นสิ่งจำเป็นในการทำงาน การดำรงชีวิตของมนุษย์ไปแล้ว ดังนั้น หากพายุสุริยะครั้งใหญ่เกิดขึ้นเมื่อไร ก็จะทำให้ระบบการสื่อสารทุกประเภทกลายเป็นอัมพาตทันที

อย่างไรก็ดี พายุสุริยะไม่ใช่เรื่องใหม่ มันเคยเกิดขึ้นมารอบแล้วรอบเล่า ทุก ๆ 11-12 ปี และส่งผลกระทบมากน้อยต่างกันไป โดยการปะทุครั้งใหญ่ของดวงอาทิตย์ที่มีการจดบันทึกในประวัติศาสตร์ เกิดขึ้นครั้งแรกในปี ค.ศ.1859 ซึ่งทำให้ระบบโทรเลขลัดวงจร ถึงกับเกิดเพลิงใหม่หลายแห่งในยุโรปและอเมริกา และหลังจากนั้นก็เกิดขึ้นอีกหลายครั้ง แต่ไม่รุนแรงมากนัก จนเมื่อปี ค.ศ.1972 พายุสุริยะครั้งใหญ่ได้ทำให้ไฟฟ้าดับ และระบบโทรคมนาคมใช้การไม่ได้ ในรัฐอิลินอยด์ สหรัฐฯ และอีกครั้งในปี ค.ศ. 1989 บริเวณรัฐควิเบก ของแคนาดา ซึ่งทำให้ไฟฟ้าดับทั่วเมือง

ทั้งนี้ นักวิทยาศาสตร์ยังมีการคาดการณ์กันว่า ช่วงสูงสุดของวัฏจักรดวงอาทิตย์ครั้งต่อไป จะอยู่ในช่วงกลางปี ค.ศ. 2012-2013 โดยดวงอาทิตย์จะปะทุถี่ขึ้นและรุนแรงขึ้นอย่างนี้ไปเรื่อย ๆ แต่ก็ไม่ถึงกับคร่าชีวิตคนหรือส่งผลกระทบต่อสิ่งมีชีวิตบนโลกแต่อย่างใด เพียงแต่ส่งผลกระทบทางด้านการสื่อสาร และระบบไฟฟ้าเท่านั้น แต่ก็สร้างความลำบากกับผู้คนไม่น้อย เพราะหากรุนแรงมากก็จะทำให้ผู้คนต้องกลับไปใช้ชีวิตอย่างไร้ไฟฟ้า ไร้เทคโนโลยี ไปนานเป็นเดือนเลยทีเดียว

http://hilight.kapook.com/view/56417