ประชุมสมัชชาสงฆ์ไทย พร้อมฉลองวัดไทยแอลเอ40ปี

ในห้อง 'ข่าวพุทธศาสนา' ตั้งกระทู้โดย aprin, 27 พฤษภาคม 2012.

  1. aprin

    aprin เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    18 ตุลาคม 2005
    โพสต์:
    7,492
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +22,514
    พระพุทธศาสนาเข้าสู่ดินแดนลุงแซมมานาน 40 ปี โดยนับปีการตั้งวัดไทยในแอลเอเป็นตัวตั้ง ในการนี้สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกาจึงจัดงานใหญ่ในเดือน มิ.ย. 2555 ถึง 3 งานพร้อมๆ กัน

    ฉลองวัดไทยแอลเอ
    การจัดงานใหญ่นั้นได้มีประชุมเตรียมงานเมื่อวันพุธที่ 8 ก.พ. 2555 โดยพระสุนทรพุทธิวิเทศ (ประชัน ชุตินฺธโร) วัดพุทธาวาส นครฮิวส์ตัน มลรัฐเทกซัส ประธานสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ได้ออกฎีกานัดหมายคณะกรรมการสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกาไปประชุมที่ “วัดไทยลอสแองเจลิส” มลรัฐแคลิฟอร์เนีย เพื่อหารือถึงการประชุมใหญ่สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 36/2555 ซึ่งปีนี้นับว่าเป็นปีพิเศษ เพราะเป็นปีที่วัดไทยลอสแองเจลิส วัดไทยแห่งแรกในสหรัฐอเมริกาก่อตั้งเมื่อปี 2515 มีอายุครบ 40 ปีพอดี ประจวบกับพระราชธรรมวิเทศ (อมรวุฒิ อมโร) หัวหน้าสงฆ์วัดไทยลอสแองเจลิสมีอายุครบ 80 ปี จึงกำหนดให้มีงานใหญ่พร้อมกันถึง 3 งานในวาระเดียวกัน คือ ประชุมใหญ่สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา ครั้งที่ 36/2555 งานฉลองวัดไทยลอสแองเจลิสครบรอบ 40 ปี และงานอายุวัฒนมงคล 80 ปี พระราชธรรมวิเทศ

    ส่วนความเป็นมาวัดไทยแอลเอนั้น ข้อมูลในเว็บไซต์ของวัดไทยแอลเอ เล่าว่า เนื่องด้วยคนไทยที่อยู่ที่เมืองนครลอสแองเจลิส ซึ่งเป็นเมืองที่คนไทยอยู่มากกว่าเมืองอื่นๆ ในสหรัฐอเมริกา แต่ไม่มีศาสนสถานชาติของตน เมื่อถึงคราวจำเป็นก็ต้องไปอาศัยวัดชนชาติอื่นๆ

    ปี 2512 พระครูวชิรธรรมโสภณ (ต่อมาได้เลื่อนสมณศักดิ์เป็นพระโสภณวชิรธรรม) หรือพระอาจารย์สีนวล วัดทุ่งสาธิต หรือวัดวชิรธรรมสาธิต เดินทางมาสหรัฐอเมริกาพร้อมพระอีก 2 รูป ต่อมาคณะคนไทยได้จดทะเบียนเป็นองศ์การกุศลไม่แสวงหากำไรชื่อว่า พุทธสมาคมไทยอเมริกัน โดยมี เอส เบิร์ด เป็นประธาน

    [​IMG]

    เมื่อออกพรรษาพระทั้งสามรูปก็เดินทางกลับประเทศไทย ในคราวนั้นผู้มีจิตศรัทธาได้บริจาคเงินเพื่อสร้างวัดกว่า 6,000 เหรียญสหรัฐ อุไร วัลลิภากร และคณะ ได้เก็บรักษาเงินดังกล่าวเพื่อมอบร่วมสร้างวัด

    ปี 2514 พูนศักดิ์ ซอโสตถิกุล และคณะได้มีโอกาสพบกับท่านเจ้าคุณพระธรรมโกศาจารย์ (ต่อมา : พระพิมลธรรม) วัดราษฎร์บำรุง ชลบุรี ที่มานครลอสแองเจลิส และเข้าพักที่บ้าน เกียรติ ประชาศรัยสรเดช จึงปรึกษาหารือถึงการตั้งวัดไทยและได้จดทะเบียนเป็นองค์การไม่แสวงหากำไรชื่อว่า “ศูนย์พุทธศาสนาฝ่ายเถรวาท” โดยมี พูนศักดิ์ เป็นประธาน และได้ซื้อบ้านที่เมืองเซพูลเวดา นิมนต์ท่านอาจารย์พระมหาธีรพันธ์ เมตฺตาวิหารี วัดมหาธาตุ มาจำพรรษาเมื่อวันที่ 6 ก.ค. 2514 ออกพรรษาแล้วท่านก็เดินทางกลับประเทศไทย

    ปี 2515 (ถือว่าเป็นปีก่อตั้งวัดไทย) ท่านเจ้าคุณพระธรรมโกศาจารย์ (ชอบ) ได้ส่งภิกษุมาใหม่อีก 5 รูป โดยมีพระโสบิน โสปาโก วัดมหาธาตุ เป็นหัวหน้า มาพักที่เมืองเซพูลเวดา แต่สถานที่แห่งนั้นทางการไม่อนุญาตให้สร้างวัด จึงมาซื้อที่ที่วัดอยู่ในปัจจุบัน เนื้อที่ 3 ไร่ โดยมี วิชัยบุญสม ซอโสตถิกุล บิดามารดาของพูนศักดิ์เป็นผู้อุปถัมภ์บริจาคเงินซื้อทั้งหมด

    ประวัติสมัชชาสงฆ์ไทย
    ส่วนประวัติสมัชชาสงฆ์ไทยนั้น เมื่อคณะสงฆ์มีมาก จึงรวมตัวก่อตั้งองค์กรการปฏิบัติงานของคณะสงฆ์ไทยฝ่ายมหานิกาย จดทะเบียนก่อตั้งเป็นองค์กรทางศาสนาที่ไม่แสวงหาผลกำไรตามกฎหมายของประเทศสหรัฐอเมริกา เมื่อวันที่ 21 ต.ค. 2519 (1976) โดยเรียกชื่อว่า สมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา (ส.ท.ส.) The Council of the Thai Bhikkhus in the U.S.A. (C.T.U.)

    แม้ว่าสมัชชาสงฆ์ไทยจะมีกิจกรรมประจำปี มีองค์กรบริหารกันเองอย่างเข้มแข็งดังที่ปรากฏทุกวันนี้ ก็ใช่ว่าพระพุทธศาสนาจะฝังรากในสหรัฐอเมริกาแน่นแฟ้นดังที่หลายๆ ท่านคาดคิดก็หาไม่ เพราะพระธรรมคำสอนยังไม่ออกจากวัดไปหาคนท้องถิ่น แม้ว่าพระเถระผู้ใหญ่หลายรูปมีความหวังว่า สหรัฐอเมริกาและยุโรปจะเป็นที่มั่นแห่งพระพุทธศาสนาต่อไปในอนาคตก็ตาม

    ทั้งนี้ ต้องยอมรับว่าการสร้างวัดและที่พระไทยไปประจำวัดต่างๆ ที่สหรัฐอเมริกาหรือยุโรปนั้น มิใช่นโยบายของคณะสงฆ์มาแต่ต้น แต่เกิดเพราะพระสงฆ์และญาติโยมริเริ่มกันเอง

    แต่ปัจจุบันมีความร่วมมือกันเหนียวแน่นระหว่างมหาเถรสมาคมและสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา และประเทศอื่นๆ ทำให้เห็นว่ามหาเถรสมาคมสนับสนุนส่งเสริมวัดในต่างประเทศ

    ปัจจุบันในสหรัฐอเมริกามีวัดไทย 96 วัด (วัดธรรมยุตประมาณ 50 วัด) กระจายอยู่ตามรัฐต่างๆ มีพระภิกษุที่เป็นพระธรรมทูตและไม่ใช่พระธรรมทูตปฏิบัติงานอยู่ประมาณ 500 รูป (ไม่รวมพระธรรมยุต)

    เห็นตัวเลขนี้ก็น่าจะมั่นใจได้ว่าสหรัฐอเมริกาจะเป็นฐานที่มั่นของพระพุทธศาสนาในอนาคตได้ แต่เมื่อสัมภาษณ์พระเถระที่อยู่ในอเมริกามานานแล้วจะพบว่าความคาดหวังนี้ยังอยู่ห่างไกล

    อนาคตบ่แน่
    เจ้าคุณ พระสุนทรพุทธิวิเทศ (ประชัน ชุตินธโร ป.ธ.4) วัดพุทธาวาส แห่งฮิวส์ตัน มลรัฐเทกซัส ประธานสมัชชาสงฆ์ไทยในสหรัฐอเมริกา เมตตาให้ความเห็นเรื่องนี้แก่ผมเมื่อเร็วๆ นี้ ขณะที่พระคุณเจ้าเดินทางมาปฏิบัติศาสนกิจในเมืองไทย

    ท่านพูดถึงความเป็นไปได้ที่พระพุทธศาสนาจะลงหลักปักฐานในสหรัฐอเมริกาว่ายังไม่มีอะไรแน่นอน จะเห็นว่าเยาวชนลูกหลานคนไทยในสหรัฐอเมริกายังไม่ใกล้ชิดเท่าที่ควร ท่าทีแบบนี้ทำให้เกิดความเป็นห่วงในอนาคตอีก 20-30 ปีข้างหน้า ว่าใครจะรักษาวัดที่ชาวพุทธไทยสร้างไว้ เมื่อคนรุ่นเก่าที่อายุ 30-60 ปี ที่เข้าวัดในปัจจุบันค่อยๆ หมดไป

    เข้าถึงอเมริกันชนยาก

    ส่วนการจะพึ่งคนท้องถิ่นที่เป็นชาวอเมริกันหรือฝรั่งชาติอื่นๆ นั้น รู้สึกว่าจะยาก แม้ว่าทางวัดจะพยายามแล้วก็ตาม นอกจากฝรั่งที่แต่งงานกับคนไทยเท่านั้น ซึ่งก็มีจำนวนจำกัด

    [​IMG]

    สิ่งที่เป็นกำแพงขวางกั้นระหว่างคนท้องถิ่นกับวัดในพระพุทธศาสนาเถรวาทจากประเทศไทย เห็นได้ชัดเจนที่สุดคือ ภาษา ที่ใช้ในการสื่อสาร ทั้งนี้พระไทยแม้จะมีฐานะเป็นพระธรรมทูต ได้รับการอบรมความเป็นพระธรรมทูตไปแล้ว แต่ความสามารถด้านการสื่อสารด้วยภาษาอังกฤษนั้นค่อนข้างจะมีปัญหา ยกเว้นบางท่านที่เก่งจริงๆ เท่านั้น

    พระสุนทรพุทธิวิเทศ (ประชัน) ซึ่งอยู่ที่สหรัฐมา 29 ปี ให้ความเห็นส่วนตัวว่า พระพุทธศาสนา ยังไม่ค่อยออกนอกวัด แต่ยังอยู่กับชุมชนไทยเสียมากกว่า บางวัดอาจมีฝรั่งเข้ามาบ้าง แต่ยังไม่เป็นชิ้นเป็นอัน (จำนวนน้อย) ถ้าหากพุทธศาสนาเข้าถึงฝรั่งที่เป็นคนท้องถิ่นได้เมื่อไร เมื่อนั้นแหละ พุทธศาสนาถือว่าหยั่งรากได้แล้ว แต่ถึงขณะนี้ยังอยู่ในชุมชนคนไทยที่มีอายุ 30 ปีขึ้นไปถึง 60 ปี

    เมื่อคนกลุ่มนี้ชราลงไปเรื่อยๆ จนถึงแก่กรรม หรือกลับเมืองไทย ใครจะดูแลวัดต่อไป เพราะลูกหลานของเขาในสหรัฐก็ไม่เป็นหลักประกันว่าเขาจะมาแทนบรรพบุรุษ ปู่ ย่า ตา ยาย เพราะเท่าที่เห็นในปัจจุบัน ลูกหลาน (ไทย) ที่เป็นวัยรุ่นไม่ค่อยเข้าวัด ทั้งๆ ที่เคยเข้าวัดเมื่อเรียนประถมตอนต้นถึง ป.6 แต่พอโตจบ ม.8 เข้ามหาวิทยาลัยเริ่มห่างวัด จะมาเมื่อทางวัดจัดกิจกรรมเท่านั้น

    การจะฝากอนาคตไว้กับฝรั่งอเมริกันที่เป็นคนท้องถิ่นนั้นมีความเป็นไปได้ยาก เพราะยังไม่มีใครที่เข้ามาบวชแบบเสียสละเพื่อพระศาสนาเหมือนพระไทย เมื่อไรที่มีฝรั่งอเมริกันเข้ามาบวชถาวร เมื่อนั้นถือว่าพุทธศาสนาน่าจะฝังรากในแผ่นดินนั้น

    คณะสงฆ์ไทยพยายามปลูกฝังให้ลูกหลานไทยผูกพันกับวัดตั้งแต่ยังเยาว์ โดยจัดสอนธรรมศึกษา สอนให้รู้จักวัฒนธรรมไทยและความเป็นไทย โดยบางวัดที่มีศักยภาพได้จัดตั้งโรงเรียนพุทธศาสนาวันอาทิตย์ ซึ่งพวกเขาก็สนใจมาเรียน ทำให้รู้สึกว่าอย่างน้อยที่สุดเขาก็ได้รู้จักพระสงฆ์ มีโอกาสสืบทอดพุทธศาสนาให้ยั่งยืน แต่อนาคตไม่แน่

    ที่พูดนี้เฉพาะครอบครัวคนไทย ส่วนฝรั่งที่สนใจพุทธศาสนาเข้าวัดก็เกิดจากการอ่านหนังสือแล้วต้องการปฏิบัติ

    สมัชชาสงฆ์ไทยมิได้ละเลยกับสิ่งที่ได้เห็น จึงแก้ปัญหาด้วยการส่งเสริมให้สอนธรรมศึกษา เพื่อให้เขาได้เข้าใจหลักธรรมและอยู่ในร่มเงาพุทธศาสนามากขึ้น จะเห็นว่าแม่กองธรรมสนามหลวงอนุญาตให้เปิดสอบธรรมศึกษาปี 2555 ที่สหรัฐอเมริกาถึง 15 สนาม และได้เปิดสอบไปแล้วเมื่อวันที่ 29 เม.ย.-5 พ.ค. 2555

    แม้ว่าอนาคตที่พระพุทธศาสนาจะหยั่งรากลึกในสหรัฐอเมริกาจะไม่สดใสนัก แต่พระสงฆ์ไทยและชาวไทยในสหรัฐก็ยังดำเนินกิจกรรมทางศาสนาโดยไม่ท้อถอย เพราะการจะเปลี่ยนศรัทธาคนนั้น ไม่ใช่ของง่าย

    ประชุมสมัชชาสงฆ์ไทย ทำบุญอายุ80ปี เจ้าอาวาส พร้อมฉลองวัดไทยแอลเอ40ปี - โพสต์ทูเดย์ ข่าวธรรมะ-จิตใจ
     
  2. datchanee

    datchanee เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มกราคม 2009
    โพสต์:
    2,947
    ค่าพลัง:
    +1,276
    satu satu satu........
     

แชร์หน้านี้

Loading...