ประสบการณ์ถอดกายและสัมผัสเรื่องภพภูมิแบบชั่วคราว

ในห้อง 'ประสบการณ์อภิญญา' ตั้งกระทู้โดย volvo16738, 10 พฤษภาคม 2020.

  1. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    กระทู้นี้ตั้งมาเพื่อแชร์ประสบการณ์นิดๆหน่อยๆ + สอบถามผู้รู้...

    **ทั้งหมดคือเรื่องจริง ไม่มีการหลอกลวงใดๆ จากประสบการณ์จริงล้วนๆ**

    เนื่องจากผมพยายามฝึกถอดกายมานาน ตั้งแต่ช่วงปี 2014 จนถึงปัจจุบัน ฝึกทั้งตามแนวของพระดังๆในไทย ฝึกตามบางท่านในเว็บบอร์ดนี้ และตามแนวของฝรั่ง

    จนในที่สุดทำได้เพราะตามแนวของฝรั่ง + ของท่านคนนึงในบอร์ดนี้ ใช้ทั้ง 2 แนวทางไปด้วยกัน...

    ครั้งแรกที่ถอดออกมาได้ ฝึกตามแนวทางของฝรั่ง จากหนังสือชื่อ the phase https://prnt.sc/sdxyup หรือจากเว็บนี้ https://obe4u.com/

    ตอนกายถอดออกมา มีความรู้สึกว่ามีกายที่เบามากๆอีกกายลอยขึ้นมากจากกายหยาบ ลอยไป ลอยมา บางครั้งตีลังกา บังคับอะไรยังไม่ค่อยได้ ออกไปประมาณ 10-20 วินาที ก็กลับเข้าร่างเลย ตอนที่ออกมานั้น ยังมองไม่เห็นอะไร เหมือนหลับตาอยู่. ที่มั่นใจว่าเป็นการถอดกายจริง ไม่ใช่ฝันเพราะตอนกลับเข้าร่างใหม่ๆ ยังมีความรู้สึกเหมือนมี

    พลังงานอยู่ในกายหยาบ เหมือนยังกลับเข้าได้ไม่เต็ม

    ฝึกแบบนี้หลายครั้ง ผลคือส่วนใหญ่จะหลับก่อน ที่จะถอดกาย - -" เพราะทำในท่านอน มักจะหลับได้ง่ายเมื่อเกิดอาการเพลีย เลยพยายามหาวิธีฝึกใหม่

    ขอเล่าแบบสรุปนะครับ เดี๋ยวจะยาวเกินไป...

    หลังจากนั้นเลยเปลี่ยนมาทำแบบ ทำความรู้สึกทั่วตัวในท่านั่ง ทำตามผู้รู้ท่านนึงในบอร์ด ไปสักพักนึง หรืออารมณ์ประมาณเข้าฌานนั่นแหละ นั่งไปประมาณ 2 ชั่วโมง ไม่รู้ว่าถึงฌานไหน แต่มีความรู้สึกว่ากายละเอียดเริ่มแยกออกจากกายหยาบเหมือนเป็นคนละส่วนกัน แต่สุดท้ายก็ยังถอดกายไม่ได้อยู่ดี ก็เลยเปลี่ยนมาทำต่อในท่านอน ทำควบ

    คู่ไปกับแบบเดิม สรุปใช้เวลาไม่ถึง 10 นาที เริ่มรู้สึกเหมือนมีพลังงานในตัว กำลังจะแยกออกไปจากกายหยาบ (กายละเอียดนั่นแหละครับ) แต่...

    ดันมีอะไรบางอย่างมากดไว้... = =" ผมเลยลองเอามือไปจับดู (มือในที่นี้คือมือของกายละเอียด) สรุปคือเจอมือเหมือนกัน มากดผมไว้ ไม่ให้ออก จากการสังเกต จะมีอยู่ 2 จุด ที่เคยเจอ คือ บริเวณเหนือจะดือ และบริเวณเหนือเอวด้านขวา ตอนนั้นผมมองไม่เห็นนะครับ เลยมั่นใจว่าเป็นวิญญาณเหมือนกันนี่แหละ มีความรู้สึกเจ็บบริเวณนั้น

    นิดหน่อย หลังจากนั้นก็กลับเข้าร่าง...

    ผมพยายามทำต่อไปเหมือนเดิม ก็เจอแบบนี้อีกเหมือนเดิม บางครั้งมองเห็นได้ตอนถอดกาย แต่บางครั้งมองไม่เห็น เพราะเขาไม่ยอมให้ออกเลย...

    - วิญญาณ ผญ บางคนมานอนจับมือ บางครั้งมานอนกอด วิญญาณ ผญ ตนนี้ ผมเจอมาประมาณ 3-4 ปี คือช่วงปี 2014 - 2017 มั่นใจว่าเป็นวิญญาณแน่ๆ เพราะผมนอนคนเดียว = ="

    - บางครั้งเจอวิญญาณจากภพภูมิ แต่ละวันมาไม่ซ้ำกัน โดยมากระซิบข้างหู 95% จะเป็นหูขวา ไดยินไม่ค่อยชัด น่าจะมาจากภพภูมิที่สูงกว่า ตามที่บางท่านเคยบอกว่าถ้าได้ยินหูขวาจะเป็นแบบนี้ (อันนี้ผมฟังหูไว้หูนะ ไม่ได้เชื่อจริงๆ) เอาจริงๆผมไม่ได้กลัวพวกเขานะ เพรารู้สึกะเหมือนเขามาพูดหรือมาเตือนอะไรเฉยๆ ไม่ได้ตั้งใจมาทำร้ายอะไร

    ผมพยายามฟัง แต่ก็ยังได้ยินไม่ชัดอยู่ดี พอรู้เรื่องแค่บางคำ เช่น บอกว่า ดูหนังโป๊ - -", แล้วก็ "เดี๋ยวพาไปสวรรค์" บางครั้งไม่ได้ยินก็จริง แต่เหมือนจะมาเตือน ไม่ให้เราถอดกายออกไป

    - บางครั้งก็ได้ยินหูขวา แต่ไม่ใช่กระซิบ ความรู้สึกเหมือนจะอยู่ห่างออกไปสัก 2 เมตร

    - บางทีก็ได้ยินทั้ง 2 หู เสียงดังมากๆ เช่น เจอวิญญาณเหมือนเสียงปีศาจหัวเราะ แค่หัวเราะนะ ไม่ได้พูดอะไร แต่ผมกลับไม่มีความรู้สึกกลัว / เคยได้ยินเสียงของวิญญาณที่มากดผมไม่ให้ออกด้วย ได้ยินทั้ง 2 หูนี่แหละ เหมือนเปิดเสียงแบบ max ตอนใส่หูฟัง เป็นเสียงเหมือนมีอำนาจอยู่หน่อย เพราะผมไปด่าเขา ที่ไม่ยอมให้ออก และผมพยาม

    ยามหาทุกวิธีที่จะออก พยายามดันมือเขาออก ไม่ให้กดไว้ ก็เลยเหมือนดุผม เสียงดังมากๆ ผมเลยกลับเข้าร่างไป เพราะรำคาญ - -'

    - ไม่เคยได้ยินหูซ้ายข้างเดียว เห็นบางท่านบอกเป็นภพภูมิของสัมภเวสี แต่ผมไม่เคยได้ยิน

    ผมเองพยายามสื่อสารกับเขา โดยใช้ความคิดพูดไป เหมือนเขาจะรู้เรื่องอยู่ เพราะเขาตอบกลับมา แต่ผมดันฟังไม่ค่อยรู้เรื่องเลย ผมเองไม่เข้าใจว่าทำไมวิญญาณบางดวงถึงพูดแล้วได้ยินชัดแทบหูแตก บางดวงได้ยินไม่ค่อยชัดนัก

    เคยมีประสบการณ์ถอดกายแบบเต็มๆอีกแบบ แต่ผมรู้สึกว่าจะเป็นแบบ Lucid dream (ผิดถูกยังไงบอกด้วยนะครับ บางทีอาจจเข้าใจผิด) เพราะมั่นใจว่าถ้าถอดแบบออกไปตามความเป็นจริง เขาไม่ให้ออกแน่ ที่มั่นใจ
    ว่าเป็น Lucid dream (ฝันรู้ตัว) เพราะว่า มันไม่ค่อยชัดเท่า ตอนที่เคยออกไปได้แบบจริงๆ อันนั้น เหมือนจริงมาก แต่ Lucid dream ตอนผมถอดกาย เหมือนเหมือนตอนกำลังถอดกายจริงๆ แต่ดันไปโผล่ที่อื่น แต่อันนี้มองเห็นนะครับ วิญญาณที่ออกมาได้ตอนฝัน จะเหมือนกับตอนถอดจริง คือเท้าจะไม่ติดพื้น ตัวจะลอย

    เบามากๆ เคลื่อนที่ได้ด้วยความคิด ไปซ้าย ขวา ใช้ความคิดของเราในการเคลื่อน ด้วยความที่อยากเห็นร่างของตัวเอง ผมเคยพยายามไปที่กระจกเพื่อมองดูตัวเอง แต่ดันไม่เห็นอะไรเลย (ก็กายละเอียดนี่เนอะ) = =" จากนั้นผมเลยยกมือทั้ง 2 ข้างขึ้น เป็นมือแขน เหมือนของมนุษย์ แต่จะใส และละเอียดกว่า และเหมือนมีพลังงานขาวๆใสๆอยู่

    รอบมือนิดนึง ผมพยายามลอย และเคลื่อนที่ไปซ้าย ขวา ด้วยความที่ยังไม่ชิน ถ้านึกถึงสถานที่ไหน ก็จะไปที่นั่นทันที เลยเริ่มเข้าใจกายละเอียดมากขึ้น พอสักพักก็กลับเข้าร่าง...

    วันใหม่ก็พยายามถอดกายใหม่ บางครั้งก็ออกไปได้แบบในความฝัน (ฝันรู้ตัว) อันนี้ผมได้ฝึกลอยตัวในอากาศ ก็คือว่าเป็นเรื่องดี บางวันก็ออกไปแบบกายจริง แต่ออกไม่ได้นะครับ โดนบางคนมาขวางไว้ แล้วก็มีวิญญาณที่ผมบอกตามข้างบนแหละครับ มาพูดอะไรบางอย่าง จริงๆผมก็ไม่เข้าใจหรอก...

    จากประการณ์อีกอย่างคือ ตอนกายกลับเข้าร่างแล้ว (ถอดกายจริง ไม่ใช่ Lucid dream) จะสามารถถอดออกไปได้อีก ในเวลารวดเร็วหลังจากที่เพิ่งกลับเข้ากาย เหมือนมีความรู้สึกอ่อนเพลียด้วย เหมือนมีความรู้สึกมีพลังงานกำลังจะออก ลมหายใจดับหมด ไม่มี และลอยออกไป (จริงๆลมหายใจดับน่าจะเป็นเพราะช่วงนั้นอยูในกายใน

    กาย เลยไม่มีลมหายใจ) และได้ยินเสียงวิญญาณเดิม ที่มาพูด มือเดิมที่มากด วิญญาณดวงเดิมที่มาขวาง = =' ทำได้แบบนี้ 5-6 ครั้งเลย แล้วจากนั้น ก็กลับเข้ากายหยาบแบบแนบสนิท...

    จริงๆประสบการณ์มีเยอะกว่านี้อยู่มาก แต่ขอเล่าแบบรวบรัดไป เพราะแค่นี้ก็ยาวมากแล้วครับ...

    อยากถามผู้รู้ในนี้มีวิธีอื่นอีกไหมครับ? ที่จะถอดกายออกไปได้ โดยไม่ต้องมีใครมาขวางแบบนี้ ผมไม่เคยไปเที่ยวภพภูมิ เลยอยากลองพิสูจน์ครับ จะให้ผมอ่านตำรา แล้วเชื่อ ผมบอกตรงๆผมไม่เชื่อครับ นอกจากจะเห็นทุกอย่างเอง อยากเข้าใจความจริง เรื่อง บุญ บาป สวรรค์ นรก จักรวาล ฯลฯ แต่ผมออกไปไม่ได้เลยครับ ช่วงนี้ นอกจากจะมีวิธีใหม่

    ขอบคุณครับ
     
  2. ดีจังเนอะ

    ดีจังเนอะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
    คุณต้องฝึกถอดให้ได้นานๆ ครับ แล้วค่อยไปเที่ยวสวรรค์นรก 10 - 20 วิ นี่ กายเนื้อกับกายทิพย์ยังไม่ค่อยจะขาดจากกันครับ แล้วไปฝึกพวกพลังจิตเล่นๆไปก่อน เอาสนุกๆ ลองสังเกตุ พวกคนที่คุณเห็นว่าเป็นมิตร หรือมาขัดขวาง หรือเฉยๆ หรือมีท่าที่ยังไง แล้วเหตุเพราะอะไร

    ทีหลังพอถอดออกไปมันจะกลับร่าง ลอง เอามือของกายทิพย์รูปไปตามตัว จะช่วยให้ไม่กลับร่าง

     
  3. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    เท่าที่สังเกตมานาน เหมือนไม่ได้จะมาเป็นศัตรูอะไรนะครับ เหมือนไม่ให้ออกเพราะเหตุผลบางอย่างมากกว่า เพราะถ้าจะมาทำร้าย คงไม่ใช่แค่กดไว้เฉยๆหรอกครับ และจากที่ฟังตอนกระซิบหูก็เหมือนมาพูด หรือเตือนอะไรบางอย่าง จากความรู้สึกของผมเองก็ไม่ได้กลัวอะไรเขาอะนะ

    จริงๆผมก็คิดแบบนั้นแหละครับ ว่าจะออกมาแล้วพยายามฝึกไปก่อน แต่เขาไม่ให้ออก ผมก็ทำอะไรไม่ได้ละครับ เลยว่าจะหาวิธีใหม่ๆแทน ที่ไม่ใช่การถอดกายแบบทั้งตัวลอยขึ้นมา
     
  4. ดีจังเนอะ

    ดีจังเนอะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
    แนะนำส่วนตัวนะครับ ได้เห็นได้เจออะไรก็เอาขำๆ อย่าไปเชื่อมาก เอาสนุกๆ ดูว่ามันมีประโยชน์อะไรกับตัวคุณในโลกมนุษย์บ้าง
     
  5. ดีจังเนอะ

    ดีจังเนอะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
    ถ้าคุณอยากออกจริงๆ คุณจะให้คนอื่นมาห้ามได้ไงครับ คุณก็ถามไปว่ามากดไว้ทำไม เขาตอบยังไงก็ฟังหูไว้หู ไม่งั้นก็ใช้พลังจิตยกเอาเขาออกไปไกลๆ เลย ไม่งั้นก็ใช้วาจาสิทธิ์บอกให้ไปไกลๆ ถ้าคุณจะออกไปลุยนี่ผมบอกเลยจะมีคนมาขวางประจำ...แต่คุณต้องหาวิธีดีลไป
     
  6. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    เรื่องใช้พลังจิตดันมือเขาออกไป ผมรู้สึกว่าเคยทำครั้งนึงนะครับ ช่วงที่หัวร้อนนิดๆ ไม่รู้เหมือนกันว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง เพราะผมเองไม่เคยฝึก แต่รู้สึกเหมือนดันมือเขาลอยออกไปได้ แค่ครั้งนั้นครั้งเดียวนะครับ เพราะปกติจะใช้แค่มือตัวเองดันออก แต่แรงไม่มากพอ

    เคยพยายามทำตัวหัวรั้น จะออกไปให้ได้ เลยเหมือนโดนดุเสียงดังมาก เต็ม 2 หู ได้ยินชัดแบบใส่หูฟังแล้วเปิดเสียง max เสียงเหมือนมีพลังอำนาจนิดๆ แต่ผมไม่ทันได้ฟังก็กลับเข้าร่าง เพราะเหมือนเขาจะหัวร้อน เลยไม่อยากฟัง - -'
     
  7. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    อันนี้จริงไหมครับ เดี๋ยวลองดู
     
  8. ดีจังเนอะ

    ดีจังเนอะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
    ถ้าใช้กายทิพย์สู้เหนื่อยเยอะ ใช้พลังจิต หรือวาจาดีกว่า ถ้าใช้เป็นอาจจะเลิกใช้กายทิพย์สู้ไปเลย ใช้วาจาสบายกว่าเยอะ บางทีเสียงดังที่หูนี่ดังจนหูแทบแตก ฟังรู้เรื่องบ้าง ไม่รู้เรื่องบ้าง บางทีก็เป็นดนตรี แต่ท้ายที่สุดก็ต้องดูว่ามีประโยชน์อะไรบ้าง ถ้าไม่มีเลยก็คงต้องวาง

    ที่มีคนมากดนี่อาจจะเหมือนพวกที่เขาเรียกผีอำ เห็นไปรอบๆห้อง แต่มักจะมีคนมากดหรือทับที่ตัว (มันมีออกไปได้หลายแบบ) มักจะเหมือนตัวแข็งขยับยาก ถ้าลุกไปได้มักจะโดนดูดกลับร่าง มักจะมาพร้อมสภาวะน่ากลัว ไปได้ก็มักจะไม่ไกลมาก ยกเว้นถอดจนเซียน

    ถ้ากายทิพย์ขาดจากกายเนื้อเยอะๆ จะออกไม่ยาก บางทีเบาจนลอยออกไปเองเลย อันนี้จะเหมาะกับการไปทัวร์มากกว่า อันนี้ถ้าจะกลับร่างให้เอามือถูๆ ที่กายทิพย์ให้เกิดความรู้สึก จะช่วยให้อยู่ได้นานขึ้น มีหลายเทคนิคช่วยให้ไม่กลับร่าง
     
  9. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    ทำไมรู้สึกเหมือนคุณสมัครสมาชิกมาเพื่อตอบกระทู้นี้เลยครับ 555

    ยังไงก็ขอบคุณละกันครับ :)

    ทำไงให้ขาดออกจากกันเยอะๆครับ?

    เห็นเขาบอกว่าออกท่านั่งสติจะมากกว่าอันนี้จริงไหมครับ? (ผมอาจจะใช้คำผิดนะ ไม่แน่ใจ)

    Edit: มีคนเก่งคนนึงในเว็บนี้มาตอบทาง PM แล้วครับ เรื่องจิต หรือวิญญาณที่มารบกวน ให้เราปล่อยวางทิพย่โสต ยึดอุบกขา ให้มั่นคง ประมาณนี้ครับ แต่คำถามคือผมจะออกยังไง นี่สิ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 13 พฤษภาคม 2020
  10. นางละเวง555

    นางละเวง555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41
    อยากให้มาเล่าต่อนะคะ..ว่าจะต้องแก้ไขยังงัยจิตวิญญานที่มารบกวน..เคยออกมาแบบไม่มีสติไร้ทิศทางควบคุมไม่ได้อยู่หลายครั้ง..ทั้งกลางวันและกลางคืน..รู้สึกตัวแบบชัดมาก..กับแบบไม่ชัดก็มี(คล้ายฝันก็มี)..จนโดนเตือน..ห้ามออก..แต่ใจมันอยากออก..เหมือนโดนคุมไว้(.ยังไม่ได้ไปเที่ยวภพภูมิอื่นเลย.)
     
  11. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    คุณออกมาได้อยู่ใช่ไหมครับ? ผมเองก็เคยออกมาได้ แต่หลังๆของผมนี่โดนกดไว้ไม่ให้ออกเลย = =" ถ้าออกมาได้ก็ให้ลองฝึกออกมาแบบให้มีสติทุกครั้ง แล้วพยายามควบคุมกายให้ได้ครับ ฝึกไปเรื่อยๆ แล้วลองพิจารณากาย + ความรู้สึกตอนออกมาดูนะครับ แล้วก็พยายามแยกกับตอนออกมาแบบคล้ายฝันอยู่ แล้วก็ตอนอยู่ในกายหยาบดู ความรู้สึกตอนออกมาแบบได้จริงๆ มันจะได้ยินเสียงชัดเจนและดังกว่าตอนฝันมาก ดังกว่าตอนอยู่ในกายหยาบด้วยซ้ำ ตัวมันจะลอยๆ ยืนไม่ได้ ต้องฝึกคุมให้อยู่ และใช้ความคิด ให้ลอยไป ลอยมา ได้ก่อน อยู่แต่ในห้อง อย่าเพิ่งไปไหนครับ ให้เก่งก่อนค่อยไป

    ส่วนเรื่องวิญญาณที่มาขวาง ผมคิดว่าเขาไม่ได้มาทำร้ายเรา เหมือนมาทำตามหน้าที่ของเขาที่ไม่ให้เราออกมากกว่า ผมเองเคยด่าเขาเพราะไม่ให้ออกแหละครับ แต่หลังๆมา ลองคิดๆดูเหมือนเขาแค่จะมาขวางเราไม่ให้ออกเฉยๆ ไม่ได้มาทำร้ายอะไร เหมือนเป็นหน้าที่ของเขามั้ง ถ้าคุณออกมาได้ ก็ลองสื่อสารกับเขาดูนะครับ ว่าทำไมไม่ให้ออก จะได้รู้และลองหาวิธีใหม่ๆดู

    ผมแนะนำได้เท่านี้ครับ เพราะประสบการณ์ผมมีแค่นี้ ผมเองก็พยายามหาทางใหม่ๆอยู่ สำคัญสุดคือเรื่ิิองสื่อสารกับเขาครับ อย่าพยายามคิดทำร้ายเขานะครับ เพราะผมดูแล้วเขาแค่มาขวางไม่ให้เราออก เพราะเหตุผลบางอย่างเท่านั้น...
     
  12. นางละเวง555

    นางละเวง555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41
    คือหลังจากไปเรียนสมาธุิจิตตานุภาพของพระอ.หลวงพ่อวิริยังค์.ในปี2555.ใช้คำบริกรรมพุทโธ.ตลอด3-4เดือน.เรียนสมาธิเฉพาะตอน2-3ทุ่มจันทร์ถึงศุกร์..แล้วน้องผู้ชายอีกคน..ที่เพิ่งมาปฏิบัติที่เรียนด้วยกัน.เขามาเขียนเรื่อง.การกลับไปนั่งปฎิบัติสมาธิต่อที่บ้าน..เขาเล่าเรื่องกายทิพย์ของเขาพุ่งขึ้นไปนอนเล่นและตีลังกาเล่นอยู่บนก้อนเมฆ..เป็นที่ตื่นเต้นฮือฮาของนักปฎิบัติสมัครเล่นอย่างพวกเราอย่างมาก..และในความรู้สึกตอนนั้นคือเราต้องทำให้ได้แบบเขามั่ง555เพ้อมาก..และรู้้สืกมุ่งมั่นในทำการบ้านมาก..เขาจะมีสมุดบันทึกสมาธิในช่วงระหว่างวันจดบันทึกเวลาในการทำสมาธิแล้วมาส่ง..อ.ผู้สอน..หลังจากนั้น.(เป็นอาการครั้งแรกที่ออก).มีอยู่คืนหนึ่งบริกรรมพุทโธจนหลับ.รู้สึกตื่นขึ้นมาในตอนดีก..รู้สึกถึงพายุหมุนกลางลำตัวบริเวนสะดือหมุนติ้วๆจนหมึนเวียนหัวไปหมด..ควบคุมไม่ได้..และเหมือนใครก้ไม่รู้มาถีบเราจนตกเตียง..แต่!!..มันไม่ตกเตียง!!.ร่างกลับลอยผ่านหัวเตียงนอนทะลุฝาผนัง!!ลอยไปแผ่หราอยู่กลางทะเล.ลอยอยูเหนือน้ำประมาณ1ศอก.(บ้านติดทะเล)ทั้งตกใจและตื่นเต้นมาก..มองซ้ายมองขวา..มันคือทะเลหลังบ้านเราเอง..มองขึ้นไปบนฟ้า..พระจันทร์เต็มดวงตามปกติ.ตื่นเต้นมากมองกลับเข้ามาที่ตัวบ้านเห็นชัดเจนมาก..5..เห็นจะได้วูปเดียวกลับมาที่กายเนื้อแบบรวดเร็วมาก.ใจสั่นมาก.นอนแช่อยู่พิจจารณา..เราไม่ได้ฝันเพราะตลอดเวลาเราได้ไม่ได้หลับ.รู้สึกชัดควบคุมไม่เลย..ลึกๆในใจยังไม่อยากกลับ..(ขออนุญาติไปงานก่อนนะคะค่อยกลับมาเล่าและปรึกษาต่อนะคะ)เพราะหลังจากนั้น..ออกตอนกลางวัน
     
  13. นางละเวง555

    นางละเวง555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41
    เล่าต่อค่ะ..ด้วยความกลัวยามวิกาล..และความมืดจะไม่ไปไหนเด็ดขาด(หมายถึงไม่ยอมออกไปไหนแม้กายในอยากจะออกไป)..ทีนี้ก็ออกตอนกลางวันค่ะ..คล้ายฝันแต่ไม่ได้ฝัน..คือบ้านติดทะเลจะชอบนอนเล่นกันกับลูกชาย..ที่ชานหลังบ้าน..(ที่ยื่นลงไปในทะเลอันดามัน)..ตอนกลางวันบ่าย2เห็นจะได้..ในขนะที่นอนเล่นหลับเคลิ้มไปนั้นจะนอนจริงหรือนอนเล่นจิตจะบริกรรมพุทโธอยู่เสมอ..ที่เคลิ้มๆอยู่ก็รู้สึกตื่น.ด้วยเสียงเรือหางยาวที่วิ่งผ่านหลังบ้านดังมากคะ.จู่ๆรู้สึกชัดถึงกายในค่อยๆเคลื่อนถอดออก.(รู้สึกออกทางศีรษะ..ยังบริกรรมพุทโธอยุ่)..บังคับกายใจไม่ได้ก็เลยปล่อยมันดูว่ามันจะทำอะไร(ตอนนั้นบริกรรมพุทโธรัวมาก).ปรากฎว่ากายได้ถอดออกและได้ตกลงไปในน้ำหลังบ้าน..และดำดิ่งลึกลงไปในกลางทะเล..ตอนนั้นรู้สีกหนาวนิดๆ.และหายใจได้ในน้ำ..ก็เลยคิดว่าถึงไหนก็ลงมาแล้วสำรวจดูบริเวนนั้นหน่อย..ก็ได้ตำดิ่งไปเรื่อยๆ.ลักษณะที่ใต้ท้องทะเลมีแสงส่องทอดลงมาใต้น้ำ..ทำให้มองเห็นองค์พระพุทธรูปสีทองอร่ามองค์ใหญ์องค์นึงตั้งอยู่..แสงแดดที่ส่องลงมาผ่านน้ำกระทบพาดพระเศียรพาดลำตัวทั้งองค์ให้เห็นองค์สีทองสว่างชัดมาก..งงซิ..งงมากเลยคะพระพุทธรูปองค์ใหญ่ยังใหม่เอี่ยมอยู่เลยมาอยู่ใต้ท้องทะเลได้อย่างไร..ใครมาก่อสร้างไว้..เราก็เลยรีบดำแวกว่ายเข้าไปนั่งพนมมือท่าเบญจางฯ..น้อมกราบกราบกราบ..ในขณะที่พิจารณารูปองค์พระอยู่..ว่ามาอยู่ใต้ทะเลได้อย่างไร.ถึงได้จมอยู่ใต้ทะเลลึกอยุ่นี้..สักพักนึง.มีเสียงเข้ามารบกวนมากรู้สีกถึงการวูปกลับเหมือนอาการตกใจ..ลักษณะการกลับคือ..วูปกลับเข้ากาย..มีเป็นแสงทองเป็นสีเหลืองอมทองคลุมกว้างไปหมดทำให้มองรัยไม่เห็นเลย..ว่ากลับเข้ามาที่กายทางไหนอย่างไร..เห็นแต่สีทองเหลืองทองคล้ายหมอกคลุมไปหมด..ประมาณ2ิ-3วินาทีได้..ในการวูบกลับมา..และได้รู้ถึงเสียงที่รบกวนคือเสียงเรือที่วิ่งผ่านไปนั่นเอง..และลุกขึ้นนั่งพิจจารณาดูว่าจริงหรือที่มีองค์พระองค์ใหญ่โตอยู่ใต้ท้องทะเลและรู้สึกเสียดายสุดๆทำไมต้องรีบกลับด้วย..ยังชื่นชมองค์พระพุทธรูปยังไม่เต็มอิ่มเลย..ต้องกลับเสียแล้ว..ค่อยมาเล่าต่อนะคะ..ในการออกมาอีกหลายๆคั้รั้ง..แต่ตอนนี้ออกไม่ได้เลยตั้งเดือนตุลาปีที่.จนถึงบัดนี้..รู้สึกอาลัยอาวรณ์มากยังไม่ได้ไปเที่ยวต่างภพภูมิเลย..
     
  14. ดีจังเนอะ

    ดีจังเนอะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
    เพิ่มเติมครับ มีวิธี ทำให้ไม่มีคนขวาง ถ้าออกแบบนี้ไม่มีใครขวางแน่นอน จะไม่มีคนทับกายแน่นอน ให้ย้าย vibration ออกจากร่างแล้วค่อยถอด ไม่มีใครขวางแน่นอน จะมีแต่คนมาช่วยสนับสนุน อยากทำอะไรเขาก็จะรีบมาช่วย ถ้าทำถูกต้องตามที่บอก เวลาถอดจะเห็นชัดมากแบบเห็นด้วยตาเนื้อ
     
  15. volvo16738

    volvo16738 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2013
    โพสต์:
    189
    ค่าพลัง:
    +234
    ย้ายยังไงครับ? แอบงงนิดๆ
     
  16. ดีจังเนอะ

    ดีจังเนอะ สมาชิกใหม่

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 พฤษภาคม 2020
    โพสต์:
    6
    ค่าพลัง:
    +4
    ต้องไปฝึกวิธีควบคุม life force ในร่างกายก่อนครับที่เขาเรียกว่า qi ถ้าเล่นกับมันจนเก่งจนสามารถย้ายออกไปจากร่างได้เป็นสภาวะแบบไม่มี qi ในกาย ถ้าถอดแบบนี้จะไปได้นานมาก ไปนานจนเบื่อไปเลย แล้วเวลาออกไปสัมปชัญญะจะดีมากจะคล้ายแบบเวลาตื่นเลย
     
  17. นางละเวง555

    นางละเวง555 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 ธันวาคม 2018
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +41
    แล้วถ้าฝึกสติปัฎฐาน4ละคะ..มันจะมีส่วนช่วยได้ไหมคะ.แบบมีสติและเห็นกาย(ใน)ให้ได้ชัดๆ..และควบคุมมันได้..คือควบคุมไม่ได้อยากออกก็ออกเลย..ยังไม่อยากจะกลับมันก็รุ้สึกตัวขึ้นมาแค่ได้ยินเสียงดังๆข้างนอกก็รู้สึกตัวทันทีและยังไม่เคยเห็นกายตนเองเลย..อยากเห็นแบบเป็นใสๆบ้าง
     
  18. MUSAFA

    MUSAFA MUFASA AL-AMYADH

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 สิงหาคม 2017
    โพสต์:
    213
    ค่าพลัง:
    +164
    ถอดจิตบ่อยๆระวังนะครับ พวกเค้ารับรู้ตั้งแต่คุณพยายาม(ตอนยังทำไม่สำเร็จ) ระวังพวกที่จ้องฮุบร่างคุณ ถ้าคุณบุญบารมีไม่พอก็จะเสี่ยงมากๆ ถ้าการซิงโครไนซ์จิตกับกายไม่ลงตัว ทั้งจากถูกแทรก หรือออกไปไกลไปนาน จิตคุณจะหลุดเอาง่ายๆ แล้วก็ตาย(จากร่าง)ส่วนร่างจะถูกยึดโดยธรรมชาติเพื่อเก็บไว้เป็นหลักฐานความประพฤติของคุณ หรืออาจถูกสวมโดยสิ่งอื่น คุณคงจะไม่มีความสุขแน่ๆ ที่ต้องคอยเห็นร่างของคุณกระทำการไม่ดีโดยไม่ได้เกิดจากคุณ
    เพิ่มเติมครับ
    คงมีใครอีกหลายคน ที่เคยสงสัยว่าหลังจากเราตายไปแล้วจะเป็นอย่างไร สุดแล้วแต่ความเชื่อใครความเชื่อมัน หรืออาจจะตายแล้วจบก็ไม่ได้ผุดไม่ได้เกิดก็ได้(ประมาณว่าเลวเกินกว่าวัฏจักรจะรองรับเลยให้หลับไปนานๆ จนลืมหมดทุกอย่างหรือเรื่องซาแล้วค่อยเกิดมาใหม่ให้พ่อแม่ที่เคลียร์ตนเองจนพร้อมจะเลี้ยงดูลูกของตนให้เป็นคนดี(ดีอย่างแท้สำหรับวัฏจักรได้แล้ว แล้วค่อยมาเกิด) ซึ่งธรรมชาติก็มีระบบเป็นวัฏจักร และคัดกรองกลั่นกรอง แม้แต่ กรองจิตวิญญาณและบำบัดจิต(เหมือนการบำบัดน้ำเสีย)

    จากประสบการณ์ส่วนตัวที่ได้ศึกษาโดย เคลียร์ตามสมมติฐาน สังเกตุ วิเคราะห์เรื่องราวมา (ทดลองตายชั่วขณะ) สังเกตุได้ว่า

    เมื่อเราตายลง จิตที่เหมือนว่ายังไม่ดับยังคงอยู่ในร่างที่ดับ หากเป็นชาวพุทธก็คงเผา หรือฝังแบบชาวจีนชาวคริส มุสลิม
    หากแต่จิตยังคงอยู่ในร่างพร้อมข้อมูล พลังงานบวกและลบ(บุญ,บาป) ยังคงหมุนเวียน
    หากฝังก็ต้องหมุนเวียนเรื่องราวเหมือนเข้าศาลตามคดีความ แต่พุทธนี่ดีหน่อยตรงที่มีเผาฌาปนกิจ

    แต่ก็ใช่ว่าจะง่าย เพราะความร้อนที่อาจปรับได้แล้วแต่จิตแล้วแต่กรรม ส่วนเวลาเสี้ยววินาทีที่ยาวนานสุดแล้วแต่กรรม

    กรรมนั้นจะส่งผลให้ร้อนมาก-น้อย ยาวนาน-หรือสั้น

    หากสำนึกได้(คิดความเข้มข้นเป็นเปอร์เซนต์ตามความจริงใจ) ก็สามารถลดความร้อนและเวลาลงได้
    หากแต่การลนไฟนั้นจะไม่ตายทันทีเหมือนตอนมีชีวิตแล้วโดนไฟคลอกหรือจมน้ำตายมันง่ายไปที่จะเป็นแบบนั้น ที่เพียงฟุบเดียว สักพัก น็อค หลับสลบไม่รับรู้อะไรอีก แล้ววนลูปไปตื่นในครั้งที่ตื่นเมื่อล่าสุด จนกว่าจะถึงจุดตัดอายุกรรม

    หากแต่การลนไฟนั้นจะเหมือนไฟคลอกจนทนเจ็บไม่ไหวและไม่เจ็บจนชา แต่หากสุดก็จะวูบ ลูป ฟุบแล้วตื่นมาทนเจ็บต่อจนกว่าจะหมดกรรม หลังจากนั้นจึงเข้าสู่ช่วงเวลาที่ได้ไปเสวยบุญ(ได้ไปใช้พลังงานบวกที่ได้สะสมไว้) และระหว่างนั้น ก็สร้างกรรมใหม่เพิ่มอีก
    แล้วมันดีหรือเปล่า(เรื่องไฟ)??? มันย่อมดีกว่า(มุมมองส่วนตัว แบบจ่ายสด งดเชื่อ) การอดทนเข้าศาลตัดสินว่าต้องบำเพ็ญตนเป็นประโยชน์หรือถูกตัดสิน(ขอเปรียบเทียบกับศาล) ให้กลายเป็นเปรตสัมพเวสีผีเร่ร่อน ต้องทนทุกข์ทมานชนิดผ่อนส่งกรรม
    แต่ผู้ที่ได้รับการอภัย(ลหุโทษ(เรื่องเล็กๆน้อยๆหรือหากเจ้ากรรมนายเวรไม่ถือสาเอาความ หรือที่คุณได้สำนึกเต็มขั้นก่อนตายแล้ว)ก็จะไม่ต้องไปเคลียร์ (ผ่านไปเลย) และถ้าไม่มีการต้องเคลียร์(หากเคลียร์หมดแล้ว)ก็จะได้ไปเสวยบุญเลย หรือไม่ก็โดนคาดโทษ(เพ่งเล็ง)แค่นิดหน่อย
    #บางคนมีแต่ลหุโทษและเจ้ากรรมนายเวรไม่เอาความ ก็อาจจะแค่รู้สึกแค่ร้อนวูบๆวาวๆนิดหน่อย(เหมือนผิงไฟ) แล้วก็อาจข้ามมิติไปเลยโดยอาจเห็นเงารางๆของงานศพตัวเอง ซึ่งไปแบบไม่รู้ตัว(ตายไม่รู้ตัว)โดยที่แวดล้อมยังปกติทุกอย่าง คือรับรู้เรื่องแต่ไม่ได้ประสพพบเจอด้วยตัวเอง(อิสลามเรียกกรณีนี้ว่า อาบาดัน)

    สำหรับผู้ที่ไม่เลือกศาสนาก็จะได้แคลนสายวิทยศาสตร์
    ซึ่งธรรมชาติจะปรับสมดุลพลังงานบวก-ลบที่เจ้าตัวสะสมไว้ เช่น ได้ตกอยู่ในสภาวะได้รับผลกระทบจากภัยพิบัติ โรคระบาด ปรากฏการณ์ต่างๆ ได้ทุกรูปแบบทุกจินตนาการ ผีดิบซอมบี้ เอเลี่ยนบุก มีสิทธิได้เจอหมด สุดแล้วแต่กรรม ถ้าสามัญๆธรรมดาๆ ก็อาจแจคพอร์ต ประสบภัยพิบัติหรือโรคระบาดด้วยตัวเอง แต่ผู้ไม่เชื่อศาสนาและไม่เคารพธรรมชาติ ก็มักปลอบใจตัวเองประมาณว่ามันเพราะ "ความบังเอิญ"

    แล้วพวกคุณล่ะ? ชอบแบบไหน
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 25 พฤษภาคม 2020

แชร์หน้านี้

Loading...