ปิดรับบริจาค ปิดที่พักสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 แล้ว

ผมได้รับแจ้งจากพระ อ. สมสุข สัจจวโรว่า ออกพรรษานี้ประมาณช่วงวันที่ 21 - 25 ต.ค. 2556 มีโอกาสอย่างสูงที่ท่านจะพาพระอาพาธลงตรวจรักษา พระอาพาธรูปนี้คือหลวงปู่เกษม อายุ 63 ปี พรรษาเกือบ 40 อาพาธด้วยอาการคล้ายความดันสูง นับเป็นพระภิกษุอาพาธรูปแรกที่ที่พักสงฆ์อาพาธนวมินทร์88จะได้เปิดใช้สถานที่

ดังนั้น พระภิกษุสงฆ์ที่อาพาธด้วยโรคต่าง ๆ จำเป็นต้องเดินทางเข้ามาตรวจรักษาในกรุงเทพฯ แต่หาที่พักชั่วคราวไม่ได้ บัดนี้ที่ัรับรองสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 ซึ่งหลายปีที่ผ่านมาเปิดเป็นที่รับรองสงฆ์อาพาธเฉพาะที่รู้จักสนิทเท่านั้น ได้ขยายแนวความคิดออกมาเป็น ที่รับรองสงฆ์อาพาธจากจาตุรทิศ ( ทิศทั้ง 4 ) เพื่อให้พระภิกษุสงฆ์ สามเณร และอุบาสก ( งดเว้นอุบาสิกา ) ผู้ประพฤติปฏิบัติธรรมเฉพาะที่เป็นผู้ชายสามารถเข้าใช้พักชั่วคราวเพื่อตรวจรักษาในกรุงเทพฯได้โดยไม่คิดค่าใช้จ่ายใด ๆ ทั้งสิ้น

พระภิกษุสงฆ์ สามเณร อุบาสก ที่ต้องการเข้าพักเพื่อตรวจรักษาอาพาธ เจ็บป่วย ขอให้ติดต่อผมก่อนที่จะเดินทางได้ตามรายละเอียดด้านล่างนี้เพื่อจองสถานที่ครับ

นายสมบูรณ์ ติยะวงศ์สกุล
ที่อยู่ที่สามารถส่งจดหมายมาได้
3/391 หมู่บ้านบ้านแก้ววิลล่า ค. 2
ถนนลาดพร้าววังหิน 68
แขวงลาดพร้าว เขตลาดพร้าว
กรุงเทพฯ 10230

โทรศัพท์ 086-1050222

e-mail : glassbuddha2009@yahoo.com

****************************************

ขณะนี้ผมขอเปิดรับบริจาคเพื่อหาปัจจัยซ่อมสร้างพื้นห้อง, ฝ้าเพดานและอื่นใด เช่น สร้างห้องน้ำห้องส้วมใหม่ ตามกำลังทรัพย์ตามกำลังศรัทธา ขออนุโมทนาครับ

บัญชีร่วมบุญนี้ครับ

 

.................................................................

 

สำรองพื้นที่ประมาณ 3 ค.ห..

 

สำรองพื้นที่ประมาณ 3 ค.ห...

 

อาคารหลังคาสังกะสีนี้แหละครับ ที่พักสงฆ์อาพาธจากจาตุรทิศโดยมีพระ อ. สมสุข สัจจวโรเป็นผู้ดูแลสถานที่ที่ให้ความเอื้อเฟื้อสถานที่พักชั่วคราวในยามที่พระอาพาธเข้ากรุงเทพฯเพื่อตรวจรักษาแต่ไม่มีสถานที่พัก




ห้องน้ำห้องส้วมที่จะสร้างขึ้นใหม่แทนของเดิมที่คับแคบ






ผมนำสลากในกองทุนทำบุญทำทานทุกชนิดของผมที่มีคนเคยร่วมบุญด้วยการให้ไปซื้อสลากออมสินและสลาก ธกส ผมนำมาโพสต์ไว้ว่า หากมีผลประโยชน์อันเกิดจากการถูกสลากทั้งหมดนี้ ให้นำมาร่วมบุญในการซื้อที่ดินที่พักสงฆ์นี้ครับ

 

พระภิกษุสงฆ์ที่ต้องการมาพักที่ที่รับรองสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 จะได้ใช้เป็นแนวทางการเดินทางครับ

ผมจะได้โพสต์และอธิบายรูปไปพร้อมกัน เป็นขาเข้ามาจากมีนบุรีเข้ากรุงเทพฯนะครับ หรือจะเรียกว่า เข้ามาจากถนนรามอินทรา ก.ม. 10 เข้ามาหาที่พักสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 จะเดินทางมาอย่างไร เราเอาทางหลักนะครับ เพราะมีทางลัดอีกด้วย แต่ขอยึดทางหลักไว้ก่อน


ป้ายบอกทางเขียน ซ้ายไปบางกะปิ ให้เลี้ยวซ้าย
ป้ายบอกทางเขียน ตรงไป หลักสี่ คือมุ่งไปต้นถนนรามอินทรา หรือเรียกว่ามุ่งไปต้นถนนแจ้งวัฒนะนั่นเอง
เมื่อไม่เข้าทางลัดให้ตรงไปใต้สะพานตรง ก.ม. 8 ใต้สะพานจะเป็นไฟเขียวไฟแดง ถ้ามาจากมีนบุรีถึงไฟแดงเลี้ยวซ้ายเข้าถนนนวมินทร์


สะพานกิโลเมตร 8 ตัวนี้ยาวครับ ถ้าขึ้นสะพานจะเลยไป ต้องไม่ข้ามสะพาน


ยิ่งเข้าใกล้สามแยกไฟเขียวไฟแดง ถนนดูเหมือนจะยิ่งโค้ง จะเห็นป้ายซอยรามอินทรา 48/1


ใกล้สามแยกไฟเขียวไฟแดงมากนะครับตรงนี้ มีป้ายสีเหลืองบอก 5 ม. หมายความว่า ใต้สะพานมีความสูง 5 เมตร รถบรรทุกที่สูงเกินนี้ผ่านไม่ได้ครับ


เลี้ยวซ้ายครับ


รูปนี้ผมถ่ายขณะที่รถกำลังเลี้ยวซ้ายตรงสามแยกไฟเขียวไฟแดงพอดี ต้องขออภัยที่กล้องถ่ายไม่ชัด จะเห็นป้ายคำว่า ถนนนวมินทร์เล็กนิดเดียวอยู่บนฟ้าโน่นครับ


พอเลี้ยวซ้ายมาเพียงไม่กี่สิบเมตรจะเห็นตึกใหญ่ด้านหน้านี้ครับ ถนนหกเลน ไป 3 มา 3


ซ้ายมือมีป้ายรถประจำทางครับ มีแท๊กซี่เต็มไปหมดครับ เรียกว่าสะดวกถ้าเรียกแท๊กซี่จะสะดวกมาก


ซ้ายมือจะมีปั๊ม ป.ต.ท. มีร้าน Amazon กาแฟ มี 7-11


บนถนนนวมินทร์ที่เพิ่งเลี้ยวเข้ามานี้ จะเป็นประมาณซอย 98 ครับ
เรียกว่าซอยนวมินทร์ 98 เรามุ่งหน้าไปทางบางกะปิ จะเห็นป้ายทางลัดมุ่งไปออกถนนรามอินทรา ( ซึ่งคนที่เขาเดินทางเก่ง ๆ แล้ว เขาอาจใช้ทางลัดตรงนี้กัน ) แ่ต่เราไม่ไปทางลัดนะครับ เอาไว้ไปมาคล่อง ๆ แล้วค่อยมาว่ากันเรื่องทางลัดตรงนี้ครับ ไปทางหลักก่อนจะได้ตรงไปตรงมาครับ


มีป้ายทางลัด


จากสามแยกไฟเขียวไฟแดงใต้สะพาน ก.ม. 8 ที่เลี้ยวซ้ายเข้ามาถนนนวมินทร์ เพียงไม่ถึง 1 ก.ม. หรืออย่างมากก็ 1 ก.ม. เศษเท่านั้น ก็จะเห็นป้ายปากซอยนวมินทร์ 88 ครับ มองภาพตรงหน้าปากซอยเป็นแบบนี้ครับ จะเห็นตรงสะพานคนข้ามถนนเขียน รพ. เปาโล เมมโมเรียล นวมินทร์


ป้ายซอยนวมินทร์ 88 ชัดเจนพร้อมรายละเอียดครับ


พอเลี้ยวรถเข้าซอย 88 ถ่ายรูปตัวตึก รพ. เปาโล เมมโมเรียล นวมินทร์


จากปากซอยนวมินทร์ 88 เข้าไปประมาณร้อยกว่าถึงสองร้อยกว่าเมตรมีสะพานข้ามลำคลองเล็ก ๆ ครับ พอรถข้ามสะพานข้ามคลอง พอรถลงปั๊บก็เลี้ยวขวาทันทีครับ ตรงเข้าไปจะเห็นแยกแรกครับ แยกนี้เป็นสามแยกแรกครับ ( แต่รูปที่ผมถ่ายนี้ผมถ่ายตอนรถหันหัวกลับนะครับ เดี๋ยวจะงง ) ผมถ่ายให้เห็นตัวเรือนที่พักสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 ที่เป็นหลังคาสังกะสีสูง ๆ นั่นแหละครับ




ที่รับรองสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 คือหลังคาสังกะสีครับ รั้วบ้านที่มีสิงโตหินคู่หนึ่งนั้นคือบ้านของหลวงปู่นิยม เลปาจารย์ครับ







ตรงนี้แหละครับ ที่รับรองสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88


ถ้ามาจากอีกมุมหนึ่งของซอย คือถ้ามาจากสามแยกมองตรงมาหลังซ้ายมือที่เป็นสังกะสีนี่แหละครับ เรือนรับรองสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 ขวามือเห็นสิงโตหินคู่คือบ้านหลวงปู่นิยม เลปาจารย์ที่ท่านละสังขารแล้ว


เห็นเรือนรับรองสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 เต็ม ๆ ตาครับ หลังคาแหลมชั้นเดียวนี่แหละครับ

 

คุณสำเนา วงศ์จำปาได้โทรแจ้งว่า พรุ่งนี้จะโอนร่วมบุญสงฆ์อาพาธในบัญชีธนาคารกรุงเทพจำนวน 1,000.- บาท

ขออนุโมทนาบุญด้วยครับ

 

ที่พักสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 เปิดรับพระภิกษุอาพาธที่ต้องการเดินทางเข้ากรุงเทพฯเพื่อตรวจหรือรักษา แต่ไม่มีที่พักอาศัยในระหว่างการตรวจรักษา โดยขณะนี้ทางที่พักสงฆ์นวมินทร์ 88 จะทำการสร้างห้องน้ำห้องส้วมขึ้นมาใหม่ 1 ห้อง และซ่อมแซมปรับปรุงกุฏิในส่วนที่ชำรุด และตกแต่งใหม่ให้ดูดีขึ้นแค่พอสมควร

หากทางที่พักสงฆ์มีจตุปัจจัยอยู่ ก็จะถวายเป็นค่าเดินทาง ค่าอุปกรณ์และค่ายานอกบัญชีที่ทาง รพ. สงฆ์ไม่จ่ายให้ฟรี และค่าอื่นใดอันเกี่ยวกับสงฆ์อาพาธทุกกรณี ทั้งหมดนี้น้อมถวายเป็นมหาสังฆทานแก่สงฆ์จากทิศทั้งสี่โดยไม่เลือกยศฐาบรรดาศักดิ์ใด ๆ ทั้งสิ้น

 

............................

วันพฤหัสบดีที่ 3 ต.ค. 56 เวลาประมาณเกือบ 1 ทุ่ม คุณสำเนาโทรแจ้งว่าให้นำไปทำทานแก่คนยากจนจำนว 500.- บาทครับ

 

.................................................................

 

คุณเบญโทรแจ้งว่า อีก 2 - 3 วันจะโอนเงินที่รวบรวมจากคนที่ไปดูหมอไพ่ยิปซีร่วมบุญสงฆ์อาพาธเอาไว้จำนวน 500.- บาท

ผมขออนุโมทนาครับ ท่านที่มีจิตศรัทธาต่องานบุญสงฆ์อาพาธนวมินทร์ 88 สามารถทำการบอกบุญด้วยวิธีต่าง ๆ ได้ด้วยตนเองเหมือนกับคุณเบญได้เลยนะครับ จะวางขัน ตั้งต้นผ้าป่า หรือจะหากล่องมาวางก็ได้ เมื่อรวบรวมได้แล้วค่อยโอนเข้าบัญชีได้ทันทีเลยครับ

 

ครั้งที่พระสุวรรณเทียวตระเวณหาที่พักสงฆ์อาพาธในกรุงเทพฯ ไม่มีวัดใดเลยรับ ที่สุดผมติดต่อขอให้พระสมัยซึ่งขณะนั้นพักอยู่วัดแห่งหนึ่ง ให้พักในกุฏิท่านได้ แต่เมื่อเข้าไปพักก็พบว่า ห้องน้ำห้องส้วมไม่สามารถใช้ได้ ผมต้องย้ายท่านมาที่พักสงฆ์นวมินทร์ซึ่งขณะนั้นพระสมสุขมารักษาอาพาธอยู่


ที่พักสงฆ์อาพาธนี้มีห้องพักสามารถพักได้ 4 - 5 รูปหากจำเป็น แต่ถ้าเป็นโรคติดต่อเช่นวัณโรค ควรมารูปเดียว เพราะมีกุฏิสำหรับสงฆ์อาพาธเพียงกุฏิเดียว และกุฏิของพระ อ. สมสุขแยกต่างหากอีกกุฏิเท่านั้น


ครั้งนั้นพระสมสุขรักษาเส้นเอ็นแขนอักเสบ


พระสุวรรณเข้ารับการรักษาอยู่นาน 7 - 8 วัน ซึ่งทุกวันต้องมารับการรักษาจากแพทย์


ครั้งที่พระสุวรรณมาพักรักษาอยู่ 8 วัน วัดไหนใครจะให้อยู่ถ้าต้องต้มยาหม้อด้วย แต่ที่นี่รับครับ

 

อาคารหลังคาสังกะสีนี้แหละครับ ที่พักสงฆ์อาพาธ


อาคารหลังคาสังกะสีอีกมุมหนึ่ง มองจากถนนซอย


นั่งอยู่ใกล้ประตูถ่ายรูปด้านข้างที่พักสงฆ์ สามารถมองทะลุบ้านติดกันได้ ในภาพพระ อ. สมสุข สัจจวโรได้ตากจีวรไว้


ห้องน้ำห้องสุขา


อยู่ภายในที่พักสงฆ์มองออกด้านนอก ซึ่งเป็นด้านติดกับถนนซอย


หลังคาและโครงเหล็กมีสนิมพอสมควรแล้ว พระ อ. สมสุขบอก


นอกชานตรงนี้ตั้งโต๊ะ ใช้เป็นโต๊ะฉันเช้า ( พระ อ. สมสุขฉันมื้อเดียว ) หลังจากนั้นใช้เป็นโต๊ะเอนกประสงค์

 

ตอนที่เป็นแบบนี้ วัดไหนในกรุงเทพฯจะรับ นี่จึงควรมีที่พักสงฆ์อาพาธ






ผมได้โทรขึ้นไปกราบนมัสการเรียนพระชนะว่า ขณะนี้เราได้ที่รับรองสงฆ์อาพาธที่สงฆ์จากทั่วทุกทิศสามารถมาใช้สถานที่เพื่อการรักษาได้แล้ว พระ อ. ชนะอนุโมทนาและแสดงความคิดเห็นว่าเป็นเรื่องดี จากนี้ไปพระภิกษุสงฆ์ สามเณร อุบาสก อุบาสิกาจากทั่วทุกทิศที่ไม่มีที่พึ่งจะได้มีที่พึ่ง

และได้เรียนถามเรื่องพระชัยชาญ ( พระในรูปนี้ที่มีแผลทะลุลำไส้ใหญ่ ) ที่อาพาธจากหลายโรค และที่สำคัญคือมีแผลบริเวณก้นทะลุลำไส้ใหญ่ พระ อ. ชนะบอกว่า หลังจากที่น้องสาวพระชัยชาญรับไปอยู่บ้านแล้ว ทราบมาว่า ขณะนี้พระชัยชาญได้หายจากแผลที่ก้นแล้ว และขณะนี้ลุกขึ้นยืนได้แล้ว เดินได้บ้างแล้ว ซึ่งทุก ๆ ฝ่ายก็ดีใจที่ท่านสามารถหายจากอาการที่ทุกคนนึกว่า ครั้งนั้นท่านคงจะไม่หาย

 

เมื่อครั้งรักษาอุบาสกพินิจที่ รพ. วิชัยยุทธ


ตอนมาถึง บขส. ผมไปรับจากหมอชิตแล้วตรงเข้า รพ. วิชัยยุทธทันที


จำได้ว่าน้ำหนักลุงพินิจไม่ถึง 40 ก.ก. ในขณะนั้นเนื่องจากป่วยมาหลายเดือน ที่ รพ. ประจำจังหวัด ( ไม่ขอเอ่ยชื่อจังหวัด ) ให้แต่ยาพาราเซ็ทตามอลกินวันละ 4 มื้อ กินมาหลายเดือน ย้ายไปรักษาที่ รพ. ต่างอำเภอที่ก็ใหญ่มาก ก็เหมือนเดิม คือให้ยาพาราเซ็ททามอล ในเมื่อหมดที่พึ่งพิงและกำลังจะตาย ก็ขออาศัยผมและกองทุนฯมารักษาที่ รพ. วิชัยยุทธเพียงสัปดาห์เดียวหายขาด ที่รู้ว่าหายขาดเพราะตอนที่ผมไปบวช ผมก็บวชที่วัดป่านี้ และอยู่ตรวจชีพจรอุบาสกพินิจนี้ตลอด มีอีกเพียงครั้งเดียวที่อาการกำเริบเมื่อประมาณกลางปี 2549 ชีพจรกลับมาเร็ว 120 ครั้งต่อนาทีอีกครั้ง ตอนนั้นรู้แล้วว่ารักษาเอกชนมันดียังไง เลยส่ง รพ. หล่มสัก และหายขาดถึงปัจจุบัน


ครูบาดำริและน้องชายนั่งรอหน้าห้องเอ๊กเรย์อย่างเป็นห่วง

 

ประมาณปี พ.ศ. 2548 ทั้งปีหรือช่วงไม่เกินครึ่งปีแรกของ พ.ศ. 2549 จำไม่ได้ ผมไปรับพระภิกษุรูปหนึ่งจากที่พักสงฆ์อาพาธมูลนิธิหลวงปู่มั่น ซอยจรัญสนิทวงศ์ 37 เพื่อผ่าตัดที่ รพ. วิชัยยุทธ
( รายละเอียดไม่สามารถเขียนได้ )
[ เก็บภาพไว้เป็นกรณีศึกษาอีกกรณีหนึ่ง ]

 

หลวงปู่ท่อน วัดศรีอภัยวัน จ. เลยมาพักที่ รพ. วิชัยยุทธโดยมีห้องประจำ

หลวงปู่คำบ่อและหลวงปู่ท่อนอยู่ในห้อง ผมเข้าไปกราบ

พระสว่าง จามตุลีอาพาธหาที่ รพ. ประจำจังหวัดและ รพ. อำเภออื่น ๆ หาไม่พบโรค
ผมรับเข้าแอดมิทและหาโรคที่ รพ. วิชัยยุทธค้นพบในวันแรก
อาพาธเป็นวัณโรคปอดชนิดติดต่อ ทางโรงพยาบาลให้ปิดหน้ากากไว้ตลอดเวลา

พระสว่าง จามตุลี เป็นพระภิกษุที่เป็นตัวอย่างที่ดี เพราะท่านทำตามที่แพทย์สั่งทุกกระเบียดนิ้วตลอดทั้งปี จนวัณโรคปอดหายขาดได้

 

่พระสุชาติอาพาธต้องฟอกไตสัปดาห์ละ 2 ครั้ง ค่าใช้จ่ายส่วนตัว ค่าเดินทาง มีปัญหา กองทุนฯเดิมขณะนั้นเข้าช่วยท่านอยู่ระยะหนึ่งจำไม่ได้ว่ากี่เดือน แต่ไม่เกิน 1 ปี

 

หลวงปู่จากเพชรบุรีที่ ณ วันนั้นลูกศิษย์ต้องชำระค่าใช้จ่ายให้ศิริราชแต่มีไม่พอ จำไม่ได้ว่าขาดไปประมาณ 30,000.- บาท ( ประมาณนั้นจำแน่นอนไม่ได้ )

 

เมื่อประมาณปี พ.ศ. 2548 จากการที่ได้รับหน้าที่รับส่งพระภิกษุที่ต้องการหาป่าปฏิบัติธรรม ได้ส่งพระ อ. วรวิทย์ มหาวายาโมและพระ อ. สมสุข สัจจวโรเข้าป่าหุบชะนี ต่อมาได้รู้จักหมอวุธ ใจซื่อ ที่เป็นหมอรักษามาเลเรียประจำหน่วยมาเลเรียมาปฏิบัติธรรมที่หุบชะนี จึงได้รู้จักกันและได้รู้ว่า ที่หุบชะนีเป็นแหล่งที่เบาบางจากมาเลเรียในเขตนั้น เลยจากหุบชะนีลึกเข้าไปในป่าอีกเป็นแหล่งที่มาเลเรียชุกชุม ประชาชนป่วยด้วยมาเลเรียจำนวนมาก หมอวุธขอให้กองทุนฯสงเคราะห์จอโทรทัศน์และกล้องดูเชื้อมาเลเรียผ่านจอทีวีให้แก่หน่วยมาเลเรียห้วยไคร้, หน่วยมาเลเรียเพชรบุรี, หน่วยมาเลเรียแก่งกระจาน, และหน่วยมาเลเรียหัวหินจำนวนรวม 5 ชุด พร้อมกับขอให้รับพระภิกษุจากหุบเสือโคร่งเข้าตรวจเลือดรักษาที่เวชศาสตร์เขตร้อน กรุงเทพฯซึ่งเป็นโรงพยาบาลที่เป็นหน่วยงานตรงที่สุดในการรักษามาเลเรียที่เก่งที่สุดในประเทศไทย

ทางกองทุนฯได้รับอนุเคราะห์ไว้ทั้งหมด และได้มอบยาที่เกี่ยวข้องกับมาเลเรียเท่าที่หาได้และยาสามัญประจำบ้านไว้ให้หมอวุธและหมอเพชรเพื่อช่วยเหลือชาวบ้านที่ยากจนต่อไป



จอโทรทัศน์และเครื่องเสียบเข้ากับกล้องจุลทรรศน์เพื่อให้ภาพเชื้อ PV หรือ PF ( เชื้อมาเลเรีย ) ไปปรากฏบนจอโทรทัศน์ เพื่อให้คนไข้สามารถเห็นเลือดของตนเองได้ชัด ๆ ว่า ติดเชื้อมาเลเรียหรือเปล่า โดยเชื้อมาเลเรียเท่าที่หมอวุธ ใจซื่อและหมอเพชร ทั้งจากหน่วยมาเลเรียห้วยไคร้และหน่วยแก่งกระจานเล่าให้ฟัง มี 2 ชนิด ชนิด PF และ PV ส่วนรายละเอียดผมจำไม่ค่อยได้แล้ว ครั้งนั้นส่งทั้งหมดไปที่หน่วยหัวหิน แล้วหมอวุธไปรับเครื่องมือจากหน่วยมาเลเรียหัวหิน เครื่องมือทั้งหมดได้รับคำแนะนำจากบริษัทนำเข้าเครื่องมือแพทย์ที่ช่วยแนะนำได้ดีมาก ทางกองทุนฯรับอนุเคราะห์ไว้ทั้งหมด

พระภิกษุทั้ง 3 จากชุบเสือโคร่งที่รับเข้ามาตรวจเลือดไม่พบเชื้อมาเลเรียแต่อย่างไร นับว่าเป็นเรื่องดี แปลว่า การเข้าปฏิบัติธรรมในป่าลึกและเป็นแหล่งระบาดของเชื้อมาเลเรีย ก็ไม่ได้หมายความว่าจะต้องติดเชื้อเสมอไป ที่สำคัญคืออย่าปล่อยให้ยุงกัด นอนกางมุ้งทั้งกลางวันและกลางคืน เวลาตื่นให้ใช้ผ้าขาวม้าไล่ยุงตลอดเวลา จุดควันหรือยากันยุงแล้วแต่ชอบไว้เพื่อให้จำนวนยุงลดลง บางคนชอบจุดกองไฟขนาดใหญ่ แล้วแต่ชอบครับ เลือกเอาเอง อย่านั่งส้วมนาน ยุงกัดก้นติดเชื้อมาเลเรียได้เช่นกัน