ผีท่องนะโม

สวัสดีครับ เรื่องนี้เป็นเรื่องจริงจากตำหนักบรรเทาทิพย์ เหตุเกิดประมาณกลางเดินมีนาคม 2555
มีผู้หญิงชื่อ สำอางค์ อายุ27ปีเข้ามาหาปู่ที่ตำหนัก ปู่ท่านก็ถามสำอางค์ว่าเป็นมาอย่างไรถึงได้มาที่นี่ สำอางค์ก็ตอบมาว่า หนูไม่ได้เดือดร้อนอะไรแต่เรื่องที่สงสัยมากอยู่เรื่องหนึ่ง แล้วสำอางค์ก็เล่าให้ฟังว่า เมื่อประมาณ 1ปีที่ผ่านมาเธอเจอกับผี ตนหนึ่ง และเห็นอยู่เป็นประจำโดยเฉพาะเวลาเธออยู่คนเดียว ครั้งแรกที่เจอคือเธอกำลังพักผ่อนอยู่ในห้องตอนกลางวัน จำได้ดีว่าเป็นบ่ายๆของวันอาทิตย์ ห้องที่เธออยู่เป็นอพาตเมนต์ เธอเองเพิ่งย้ายมาอยู่ได้ไม่นาน ก็พอมีเพื่อนข้างห้องบ้าง วันนั้นกำลังครึ่งหลับครึ่งตื่น ก็ได้ยินเสียงคนเคาะประตูห้อง 2-3 ครั้ง เธอก็นึกในใจว่า คงเป็นเพื่อนๆข้างห้องมาชวนไปซื้อกับข้าวที่ตลาดเหมือนอย่างเคย แต่เพราะความง่วงเธอจึงไม่ลุกไปเปิดประตูแล้วก็พยายามข่มตาหลับต่อ เมื่อกำลังเคลิ้มๆจะหลับ กลับได้ยินเสียงเหมือนมีใครมาขยับข้าวของภายในห้อง พอเธอลืมตาขึ้นมาก็เห็น ผู้หญิงผมยาวนั่งหันหลังให้เธอ กำลังจัดเสื้อผ้าในตู้อยู่ สำอางค์ตกใจมากคิดว่าขโมยมาค้นของ จึงตะโกนไปว่า ใครน่ะ เข้ามาทำไม ผู้หญิงคนนั้นหันหน้ากลับมายิ้มให้สำอางค์ แล้วหันกลับไปจัดเสื้อผ้าในตู้ต่อ สำอางค์มองไปที่ประตูก็ยังลงกลอนเหมือนเดิม แล้วผู้หญิงคนนี้เข้ามาได้อย่างไร เมื่อมองไปที่ผู้หญิงคนนั้นอีกที ด้วยความที่ในห้องไม่ได้เปิดไฟไว้ จึงเริ่มนึกได้แล้วว่า ต้องไม่ใช่คนแน่ๆ ในชีวิตไม่เคยเชื่อเรื่องแบบนี้เลย กลับเจอแบบจังๆ กลางวันแสกๆ เมื่อไม่รู้จะทำยังไงต่อ จึงพนมมือ แล้วสวดมนต์ ท่องนะโมตัสสะ เพราะคิดว่าผีมันคงกลัวแล้วจะได้หนีไป ที่ไหนได้เรื่องที่เธอไม่คิดไม่ฝันมันยิ่งไปกันใหญ่ เมื่อผีสาวตนนั้นเมื่อได้ยินเสียงสวดมนต์ แทนที่จะหายไป จากที่เคยหันหลังให้เธอ คราวนี้กลับมานั่งพับเพียบอยู่ข้างๆเตียงแล้วพนมมือ ท่องนะโมตัสสะไปพร้อมกับเธอ เห็๋นดังนั้นสำอางค์ก็ทำอะไรต่อไม่ถูก จึงเอามือปิดหน้า แล้วพูดว่า อย่ามาหลอกกันเลยเธอกลัวแล้ว เดี๋ยวจะทำบุญไปให้ ผีสาวตนนั้นพูดตอบกลับมาว่าไม่ต้องกลัวหรอก เรามาดี สักพัก ก็เหมือแต่ความเงียบ สำอางค์จึงเปิดตาดูในห้องอีกครั้ง ก็ไม่พบผีสาวตนนั้น
หลังจากวันนั้นเมื่อใดก็ตามที่เธออยู่คนเดียว จะพบเจอผีสาวตนนั้นอยู่เสมอ บางครั้งก็มาเป็นเวลานาน บางครั้งก็มาแปปเดียวก็ไป แต่ทุกครั้งผีตนนั้นจะมาจัดเก็บข้าวของหรือเสื้อผ้าให้เธออยู่เสมอ จนสำอางค์เองก็ชินและไม่รู้สึกกลัวแล้วเพราะคิดว่าเขาคงมาดีจริงๆ
เล่ามาถึงตรงนี้เธอก็ถามปู่เฮง บรรเทาทิพย์ว่า ผู้หญิงคนนั้นเป็นใครกันแน่เป็นผีที่อยู่ที่ห้องนั้นหรือปล่าว แล้วผีไม่กลัว บทสวดมนต์หรอทำไมถึงสวดตามเธอได้ ทำไมต้องมาให้เห็นแค่เวลาเธออยู่คนเดียว เล่าให้ใครฟังก็ไม่เชื่อ
ปู่เฮงตอบไปว่า วิญญาณที่เห็นนั้นเป็นวิญญาณของ ข้าทาสบริวารตั้งแต่เมื่อชาติปางก่อน เขามารับใช้ตามที่เขาได้อธิษฐานไว้ก่อนจะตาย เรื่องที่เขาสวดมนต์ตามสำอางค์นั้นเพราะเขาเป็นสัมพเวสี เป็นวิญญาณที่ไปเกิดเมื่อถึงเวลาการสวดมนต์นั้นเป็นการสะสมบุญอย่างหนึ่ง สำอางค์ก็ควรทำบุญให้เขาด้วยเขาจะได้ไปเกิดเสียที แล้วสำอางค์ก็ลาปู่กลับบ้านไป

 

แบบนี้เค้าเีรียกว่าเป็นกึี่งๆคล้ายผีเจ้าทีหรือผีบรรพบรุษครับ..ไม่ใช่สัมพะเวสีที่ต้องการส่วนกุศลอะไร.คือมีจิตละเอียดสูงกว่าสัมพะเวสี และจะอยู่ตามอายุไขจนกว่าจะหมดภาระใดๆที่ยังคงค้างอยู่...และผมก็เห็นว่าเป็นเรื่องธรรมดามากๆครับ..จะให้ท่องคาถาบทไหนเค้าก็ท่องได้หมดหละครับ..บางทีเค้าก็แกล้งคนที่เห็นเล่นๆเฉยๆก็มี ถ้าคนนั้นทำผิดศิลธรรมอะไรบ้างอย่าง เค้าก็พูดตามคาถาที่เราถ่องๆบนโลกได้หมดหละครับ..

 

ผีวิญญาณบรรพบุรุษจะคอยคุ้มครอง ไม่มีทางมาสวดบทคาถาแน่นอนคับ ผู้หญิงคนนี้ปัจจุบันเธอก็อยู่ดีมีสุขหลังจากทำตามที่ผมบอก การปรากฏกายจะทำให้บุญลดน้อยลง ถ้าไม่จำเป็นเค้าไม่มาให้เห็นเล่นฯหรอกคับ เรื่องที่ผมเล่ามันมีจิงและพิสูจได้ เจ้าที่มีหน้าที่ปกครองให้บ้านมีสุขและที่สำคัญ ไม่ใช่ ผี ท่านคือเทพ ปกปักรักษา

 

คุณจั่วหัวข้อเองครับว่า ผีท่องนะโม เอาแต่เรื่องผี วิญญาน นะครับ..และคุณพูดผมมองว่าเป็นการแอบแฝงโฆษณาหรือเปล่านะผมไม่ทราบ..ถ้าคิดจะช่วยเหลือจริงๆด้วยใจที่บริสุทธิ์ ย่อมไม่มีการเีรียกค่าตอบแทนใดๆทั้งสิ้น.ไม่มีกำหนดราคาของการช่วยเหลือเท่านั้นเท่านี้แน่นอน.คนที่คุณช่วยเหลือเค้าจะให้เท่าไรก็ตามกำลังศรัทธาและ้ตามแต่กำลังทรัพย์ของท่านนั้นๆซิครับ..​

.ส่วนที่คุณเคยช่วยมาโดยไม่เสียค่าใช้จ่ายผมก็โมทนาด้วยครับและคุณอย่าปฎิเสธนะครับว่า Fb คุณไม่มีการเสียค่าใช้จ่าย...และถ้าคุณจะจั่วหัวว่าผี คนอ่านก็เข้าใจซิครับว่าเป็นผี..ก็พูดไปซิครับตั้งแต่แรกว่าเป็นเทพ ไม่ใช่เล่าให้ฟังคนอ่านฟังแล้วค่อยมาบอกว่าเป็นเทพ..เป็นอะไร ระบุ ระดับชั้นของภพภูมิที่คุณจะเล่าให้ชัดๆไปเลยครับ..และการที่ปรากฎตัวแล้วจะทำให้บุญลดน้อยลงเนี่ยว่าใช่หรือครับ..ผมไปพักที่ไหนก็ตามที่ไม่ใช่บ้านผม..​

เจ้าที่ท่านแวะมาทักทายผมเกือบทุกที.จะทำให้บุญท่านน้อยลงหรือครับ.ผมอุทิศส่วนกุศลให้ท่านเจ้าที่ท่านยังไม่รับเลยและไม่ได้สนใจด้วย..เพราะแต่ละท่านมีบุญมีกุศลมากอยู่แล้ว เพียงแต่มองว่าผมเป็นคนมีสัมมาคารวะเท่านั้น...แล้วที่หลายๆท่านเคยเห็นส่วนของภพภูมิเป็นปกติและครับ..ท่านที่มาปรากฎให้เห็นบุญท่านจะน้อยลงหรือครับ...ฟังดูที่คุณพูดแล้วมันไม่สมเหตุสมผลเท่าไรนะครับ
​

 

ชัดเจน

ว่าแต่ ผีจัดเสื้อผ้าให้มนุษย์ เคลื่อนย้ายวัตถุสิ่งของที่เป็นธาตุ นี่ใช้พลังงานเยอะนะ ทำได้ระดับนั้น ไม่ใช่ระดับธรรมดาแล้วนา?

 

ข้อ1 - ขอโทษนะครับ ผมว่าคุณกำลังเข้าใจผิดหรือเปล่า เรื่องที่ผมเล่าให้ฟัง ผมก็บอกว่า ผีที่เจอเป็นผี ไม่ได้บอกว่าเป็นเทพสักคำ ลองไปอ่านดูให้ดีๆนะครับ ถ้าอ่านไม่แตกฉานก็อ่านหลายๆรอบ เรื่องที่บอกว่า ไม่ใช่ ผี ท่านคือเทพ ปกปักรักษา นั้นคุณคงอ่านไม่เข้าใจว่าผมกำลังอธิบายว่า เจ้าที่คืออะไร เจ้าที่เป็นเทพ ไม่ใช่ผี ไม่ได้บอกว่า ที่ผู้หญิงคนนั้นเจอ เป็นเทพ กรุณาอ่านให้ดีก่อนจะตำหนิอะไรแบบนี้ เข้าใจว่าคุณมีความรู้ความเข้าใจในแบบของคุณ ทางผมก็มีความรู้ความเข้าใจ ในแบบของผม
ข้อ2 - เรื่องค่าครู ที่กำหนดราคาไว้ เพราะตำหนักผมมีครูอาจารย์ การจะทำพิธีใดๆย่อมมีพิธีรีตรองให้ถูกต้อง ที่คุณบอกว่า ถ้าจะช่วยคนจากใจจริงไม่ต้องตั้งราคาค่าครูไว้ให้เขาจ่ายตามกำลังศรัทรา ผมขอถามกลับไปว่า คุณเสกธูปเสกเทียนเสกค่าไฟฟ้าประปามาได้เชียวหรือ ถ้าผมไม่เรียกค่าครูตามที่ครูบาอาจารย์สั่งสอนไว้ นั่นคือผมผิดครูถือเป็นการลบหลู่ครูบาอาจารย์ และผมก็ไม่ได้บีบบังคับให้คนต้องมาดู ถ้าวิชาผมไม่ดีจริง ก็คงรักษาใครไม่หาย ถ้าเป็นอย่างนั้นต่อให้รับรักษาฟรีๆก็ไม่มีใครเขามารักษา หรือขอความช่วยเหลือ อย่างไรก็ตามอยากให้คุณไปศึกษาเรื่องค่าครูและพิธีรีตรองให้ละเอียดก่อนจะดีกว่า
ข้อ 3 - เจ้าที่แวะมาทักทายคุณเกือบทุกที คุณตั้งสติดีๆนะครับ เพราะถ้าไม่ใช่เรื่องจริง ถือเป็นบาปอันมหันต์เภทภัยจะมาถึงตัวคุณเอง เพราะคุณล้อเล่นกับสิ่งศักดิ์สิทธิ์ ถ้าคุณบอกว่า ท่านเจ้าที่ไม่รับบุญกุศล แล้วทำไมในบทสวดมนต์ บทกรวดน้ำถึงมี บทอุทิศผลบุญให้พระภูมิเจ้าที่ ลองหาหนังสือสวดมนต์มาศึกษาดูบ้าง การที่คุณมีสัมมาคารวะถือเป็นเรื่องดี ผมขออนุโมทนาด้วย ที่ถามว่าเจ้าที่ท่านมาทักทายแล้วบุญท่านจะลดลงไหม คราวหลังตอนท่านมาทักทายก็วานถามท่านด้วย ที่คุณว่าผมไม่สมเหตุสมผล เพราะคุณเอาตัวเองเป็นเกณฑ์ตัดสินหรือเปล่า http://84000.org/tipitaka/book/nana.php?q=47 ลองอ่านตามลิ้งนี้ดู "สำหรับเทวดานั้น แม้ท่านจะมีความสุข มีอาหารทิพย์ แต่ถ้าท่านทราบว่ามีผู้คนในโลกมนุษย์นี้ทำบุญแล้วอุทิศให้ท่าน ท่านก็ยินดีรับ ถ้าท่านเป็นสัมมาทิฏฐิ ท่านก็ชื่นชมอนุโมทนาด้วย บุญในข้อปัตตานุโมทนาก็เกิดแก่ท่าน"
หรือ คนมีสัมมาคารวะ อย่างคุณอุทิศบุญกุศลด้วยมิจฉาทิฎฐิ ท่าถึงไม่ยอมรับบุญกุศลนั้น
ที่มาอ้างอิง พระไตรปิฎก เล่มที่ ๒๓ พระสุตตันตปิฎก เล่มที่ ๑๕ อังคุตตรนิกาย สัตตก-อัฏฐก-นวกนิบาต ปุญญกิริยาวัตถุสูตร
ข้อ 4 -เคยได้ยินเรื่องเกี่ยวกับผีลากขา หรือผีดึงเสื้อ หรือที่มาเคาะห้อง หรือครับ ผีพวกนั้นคงไม่ใช่เจ้าที่เจ้าทางมาทำหรอก และการผีที่มาจัดเสื้อให้นั้นไม่ใช่ผีธรรมดาหรอก เป็นวิญญาณที่ผูกพันกันมา

สงสัยอะไรถามได้ ครับ ถามด้วยเหตุและผล ยินดีจะตอบให้เสมอ
ชัดเจนไหมครับ

 

ผี กับ เทพ ในด้านความเป็นทิพย์ ต่างกันอย่างไรบ้างครับ?
แล้วการที่ผี จะมาขยับวัตถุที่เป็นธาตุ ต้องใช้อะไรบ้าง ใช้บุญไหม?

 

คุณ Ohn1986 คุณไม่ต้องกังวลอะไรกับผมหรอกครับ..ว่าสิ่งที่คนอย่างผมพูดนะจริงหรือเปล่า หรือว่าจะปาบหรือไม่ ปกติผมเป็นคนค่อนข้างถ่อมตัวนะครับ..และสิ่งที่ผมพูดไม่มีสิ่งในไหนที่ผมไม่เคยประสบด้วยตัวเองและผ่านและพบเจอมาก่อน..ผมต้องมั่นใจพอตัวผมถึงจะพูด.และผมก็พูดแบบกลางๆยังไม่ได้พูดในสิ่งที่พบเจอมาทั้งหมดเพราะผมทราบดีว่าอะไรพูดได้หรือพูดไม่ได้นะครับ...
​

...

แต่สิ่งที่ผมพูดไม่เคยแฝงเร้นด้วยคำโฆษณาชวนเชื่อ..ว่าใครทำตามผมแล้วหายอย่างโน้นอย่างนี้..พวกสำนักต่างๆแบบนี้ทำไมผมจะไม่เคยไปหละครับ..เค้ามีขันธ์มีอะไรเตรียมให้แต่เค้าไม่เคยต้องกำหนดเรื่องค่าครูอะไรหรอกครับ..คุณจะใส่หรือไม่ใส่ก็ได้.แล้วแต่ศรัทธาและก็ไม่มีที่ไหนเข้ามาพูดเรื่องค่าใช้จ่ายในการทำพิธิกันหรอกครับถ้าเค้าบริสุทธิ์ใจที่จะช่วยจริงๆ..ถ้าตัวเองหรือสำนักตัวเองยังไม่พร้อมแม้กระทั่งค่าใช้จ่ายเล็กน้อยๆอย่างนี้.ก็อย่ามาช่วยเหลือคนอื่นๆเลยครับเอาตัวเองให้พร้อมก่อนดีไหม.​

และผมก็ตรวจสอบผลการปฎิบัติกับครูบาร์อาจารย์ผมก่อน.ถึงจะพูดและ..ผมไม่ได้มีอาจารย์แค่ที่ยังมีชีวิตอยู่บนโลกทางโลก ผมยังมีท่านที่เป็นกายทิพย์ถ้าคุณแน่จริงคุณน่าจะมีความสามารถตรวจสอบได้นะครับ. ...ไม่ใช่แบบพวกประเภทวิญญานมีฤิทธิฺแล้วอาศัยร่างกายคนอื่นๆเพื่อสร้างบารมีให้ตัวเองนะครับ.และก็พวกที่ชาติก่อนเคยเป็นฤาษีมาก่อน..ความจริงกลุ่มฤาษีที่ยังมีฤิทธิฺ์ส่วนตัวผมก็พอรู้ว่าเป็นใคร.ทั้งแบบเจอกันตัวต่อตัวและเจอในทางสมาธิ...ไม่ใช่แบบคุณให้บูชาเพื่อความเป็นศริมลคลชุดละ 2,500 บาทอะไรแบบนี้หรอกนะครับ...​

เรื่องสัมผัสแบบนี้ ผมมีความสามารถเห็น วิญญานได้ด้วยตาเปล่าๆมาตั้งแต่ผมเป็นเด็กๆแล้วครับและบางอย่างผมทำได้แบบที่ไม่ต้องมาฝึกมานั่งเหมือนๆคนอื่นเค้า... และสัมผัสผมก็พอจะมีครบทั้ง 6 ทาง..และผมก็บอกคุณได้ว่าผมพอจะสัมผัสระดับภพภูมิ แบบที่หลายๆคนเห็นแต่รูปปั้นด้วยตาเปล่ามาแล้วหลายๆท่าน.ได้ตั้งแต่ระดับชั้นสูงๆหลายๆท่าน.แต่ผมไม่พูดเฉยๆ.​

....คุณพูดมากไปก็แค่นั้นหละครับ...ใครเค้าก็รู้เจตนาคุณกันทั้งนั้นหละครับเพียงแต่เค้าไม่อยากจะมาต่อล้อต่อเถียงกับคุณ..ผมว่าคุณเลิกทารองพื้นแต่งหน้าใส่แว่นตาดำทำเทห์นั่งถ่ายรูปในรถ แล้วมาแต่งตัวให้ดูน่าเชื่อถือเหมือนคนมีศีลมีธรรมพึงปฎิบัติจะดีกว่าไหมครับ..

และสุดท้ายนี้ผมขอพูดกับคุณเพียงเท่านี้นะครับ..หวังว่าคุณน่าจะพอเข้าใจอะไรบ้าง...โดยส่วนตัวผมรังเกียจ..พวกวิญญานหรือพวกกลุ่มผีมีฤิทธิ์ ที่มาอาศัยร่างคนอื่นเพื่อสร้างบารมีให้ตนเอง..โดยอ้างค่าใช้จ่ายต่างๆนานาว่าเป็นค่าขึ้นครู แล้วให้เช่าชุดบูชาชุดนั่นชุดนี้..แล้วสอดแทรกธรรมคำสั่งสอนของ.พระพุทธเจ้าหรือครูบาร์อาจารย์เพื่อยกระดับให้ตัวเองดูหน้าเชื่อถือ..ถ้าคุณไม่ใช่ผมก็ อนุโมทนาด้วยนะครับ...แล้วก็อโหสิกรรมด้วยนะครับถ้าหากว่าได้กล่าวล่วงเกินคุณไป และขอให้คุณเจริญขึ้นเรื่อยๆแล้วกัน หากคุณเดินตามรอยของผู้เป็นเลิศทั้งสามภพ..ขอบคุณครับ..​

 

ด้วย ความนับถือ คุณ noppakan ผู้ถ่อมตนและมีสัมมาคารวะ เรื่องราวที่กล่าวกันมาทั้งหมด คงให้ผู้อื่นที่ได้อ่านใช้วิจารณญาณของตน ตัดสินด้วยตัวเองจะดีกว่า คุณมาตัดสินผมเป็นอย่างนั้น ผมตัดสินคุณเป็นอย่างนี้คงไม่มีวันจบ
ประเด็นที่ผมเขียนเป็นข้อๆไว้ผมก็พยายามตอบข้อสงสัยที่คุณตั้งข้อสังเกต กับผมไว้ถ้าตอบไม่ชัดเจนตรงไหนกรุณาแยกประเด็นถาม แต่ที่ผมเห็นสิ่งที่คุณเขียนมีแต่สร้างประเด็นที่ขัดแย้งมากขึ้น ถ้าอย่างนั้นผมก็มีข้อสงสัยที่อยากจะถามเช่นกัน ด้วยสิ่งที่คุณเป็นคนเขียนขึ้นมาด้วยตัวเอง
1-คุณบอกว่าคุณมีสัมมาคาระ แต่ เขียนว่า เจ้าที่ท่านแวะมาทักทายคุณบ่อยๆ ผมเพิ่งเคยเห็นคุณเป็นคนแรกที่ เจ้าที่ท่านแวะมา"ทักทาย" ปกติแล้ว เทวดาที่เป็นเจ้าที่ไม่มีกิจอันควร ท่านจะมา ทักทายคุณ บ่อยๆ เลยหรือ พูดยังกับเป็นเพื่อนกัน แต่คุณเองก็บอกว่า "อย่างผมทำได้แบบที่ไม่ต้องมาฝึกมานั่งเหมือนๆคนอื่นเค้า... และสัมผัสผมก็พอจะมีครบทั้ง 6 ทาง..และผมก็บอกคุณได้ว่าผมพอจะสัมผัสระดับภพภูมิ แบบที่หลายๆคนเห็นแต่รูปปั้นด้วยตาเปล่ามาแล้วหลายๆท่าน.ได้ตั้งแต่ระดับชั้นสูงๆหลายๆท่าน.แต่ผมไม่พูดเฉยๆ" บุญญาธิการของคุณคงสูงส่งมาแต่ชาติปางก่อน แม้แต่พระสงฆ์ผู้บำเพ็ญเพียรหลาย10พรรษา ยังทำแบบคุณไม่ได้ ถือว่าโชคของผมยังดีที่คุณเป็นคนถ่อมตน
2-ที่คุณบอกว่า คุณอุทิศกุศลให้ท่านเจ้าที่ท่านยังไม่รับ ไม่ผิดแปลกไปหน่อยหรือ การอุทิศกุศล ด้วยสัมมาทิฎฐิ เหตใดเทวดาท่านไม่รับกุศลนั้น เพราะท่านมีบุญกุศลมากเลยไม่รับบุญกุศลหรือ? เหตใดท่านมีบุญกุศลมากล้นยังติดอยู่ในภพภูมินี้ นอกจากจะเป็นกุศลที่เกิดจากมิจฉาทิฎฐิ ท่านถึงปฎิเสธ คำสอนเหล่านี้ที่จริงไม่ต้องอ้างจากพระไตรปิฎกก็ได้ เป็นเรื่องที่เข้าใจด้วยสามัญสำนึก แต่ที่ผมยก ลิ้งมาให้เพื่อให้คนที่ไม่รู้ได้เข้าไปดูจะได้ไม่บิดเบือน
นี่เป็นการยกมาจากคำพูดของคุณเท่านั้น เป็นโจทย์ที่ล้วนมากจากคำอ้างของคุณเอง หวังว่าคุณจะตอบคำถามเหล่านี้ให้ชัดเจนก่อนที่จะมาตัดสินผม
อยากให้คุณตั้งสติให้ดีๆ เพราะอย่างคุณผมเองก็คงรักษาไม่หาย บุญญาธิการที่คุณอ้างไว้มันสูงเกิน คนธรรมดา เพราะตำหนักผมรักษาแต่คนธรรมดาๆ เท่านั้น
สำหรับกระทู้นี้ผมจะไม่มาเถียงกับคุณอีกแล้ว มันไม่มีประโยชน์ ให้คนอ่านเขาพิจารณากันเอง
เรื่องที่ผมแต่งตัวแบบนั้น เพราะร่างเองยังเป็นวัยของเขา เวลาส่วนหนึ่งต้องมาช่วยเหลือคนอื่นแล้วจะมาเอาชีวิตที่เหลือของเขาไปใช้เสียหมดไม่ให้เขาได้ใช้ชีวิตของตัวเองมันยุติธรรมแล้วหรือพระพุทธองค์ ทรงสั่งสอนเรื่อง ทางสายกลาง น่าจะเคยได้ยินกันใช่ไหม ที่คุณบอกว่า "มาแต่งตัวให้ดูน่าเชื่อถือเหมือนคนมีศีลมีธรรมพึงปฎิบัติจะดีกว่าไหมครับ" ต่อให้แต่งชุดขาวห่มขาว ทักทายเจ้าที่ มองเห็นผีไปวันๆ ไม่ได้ช่วยใครได้จริง แบบนั้นผมก็ไม่ทำหรอกครับ
เรื่องที่คุณบอกว่า ตามตำหนักทรงต่างๆ มีขันธ์ไว้ให้ แล้วให้ไปรับขันธ์ฟรีๆ หรือทำพิธีอะไรให้ฟรีๆแบบนั้น ไว้ผมจะเล่าให้ฟังวันหลังก็แล้วกันว่าไอ้ขันธ์ฟรีๆที่คุณว่า จริงๆมันแฝงอะไรไว้
ส่วนที่คุณ ปุญบพิธสอบถามมานั้น ผีกับเทพ ต่างกันอย่างไร ให้เข้าใจกันง่ายๆ เทพหรือเทวดา คือผู้มีกรรมดี เมื่อจุติ หรือสิ้นจากภพภูมิที่แล้ว ก็ต้องใช้กรรม กรรมที่ว่าคือกรรมดีจึงอยู่ในภพภูมิที่ดี และที่ถามว่าผีขยับวัตถุใช้บุญไหม การกระทำใดๆของ จิต แม้แต่มนุษย์เองย่อมเกิดจากกรรม และก่อให้เกิดกรรมด้วยกันทั้งสิ้น อย่างที่ผีตนนั้นมาขยับเสื้อผ้าให้เห็นเพราะ มีกรรมร่วมกันมา กับผู้พบเห็นคือการใช้กรรมในทางหนึ่ง ถ้าไปกระทำกับผู้อื่นที่มิได้ก่อกรรมกันไว้ ย่อมเกิดกรรมต่อเนื่องกันไป เกิดเป็นกงกรรมกงเกวียน ไม่ทราบว่าที่อธิบายไปจะเข้าใจมากน้อยเพียงใด
ถ้าเทียบกับทางวิทยาศาสตร์ ก็เหมือน กับ บุญ(กรรม) เป็นพลังงานหนึ่งๆ เมื่อมีแรงกริยา ย่อมเกิดแรงปฎิกริยา เท่าเทียมกัน

 

เอาเป็นว่าผมจะสัมผัสอะไรได้มันก็เรื่องปัจจัตตังของผมแล้วกันนะครับ.ไม่ต้องเอาไปเปรียบเทียบอะไรหรอกครับ..ผมพอจะทราบดีเรื่องวัตถุประสงค์ของภพภูมิแต่ละท่านว่าทำไมท่านถึงแวะมาอนุโมทนากับผม(ผมพูดให้ง่ายคือแวะมาทักทาย).และชีวิตผมก็คลุกคลีกับบุคคลพวกที่มีความสามารถพิเศษหลายท่านแบบที่ไม่ต้องฝึกและเป็นอริยะหลายท่านตั้งแต่ผมยังเด็กๆแล้วหละครับ...
ส่วนประเด็นที่ว่าการอุทิศส่วนกุศลนั้น ที่ท่านไม่รับผมหมายถึงว่าท่านมองว่าไม่ใช่ประเด็นหลักครับเรื่องบุญกุศลเพราะท่านมีเยอะมากแล้วและท่านยังมีภาระและวาระของท่านอยู่หรือยังไม่ถึงเวลาที่ท่านจะเปลี่ยนภพภูมิ...ไม่ใช่แบบอุทิศส่วนกุศลให้แบบสัมพะเวสีนะครับ.หรือพวกประเภทใชักำลังสมาธิไปปรับธาตุในร่างกายให้สมดุลย์หรือพวกใช้กำลังสมาธิไปจัดการเี่กี่ยวกับเจ้ากรรมนายเวรที่ทำให้คนนั้นป่วยแล้วหายนะครับจุดนี้ผมทราบดีว่าต้องมีกำลังสมาธิพอตัวและอาศัยบารมีของครูบาร์อาจารย์....
จริงๆ.ถ้าคุณสัมพัสกับระดับภพภูมิชั้นที่สูงๆได้จริงๆนะ..คุณจะไม่มาตั้งแง่ข้อสงสัยเรื่องประเด็นการอุทิศส่วนกุศลอะไรหรอกครับ..ปกตินะเวลาผมไปที่ไหนก็ตามผมจะอุทิศส่วนกุศลเสมอและจะเดินไปไหว้เจ้าที่ตลอดโดยนิสัยผม.และหลายครั้งพี่สัมพะเวสีที่ผมอุทิศส่วนกุศลให้ก็แวะมาหาผมหลังจากที่เค้ายกระัดับภพภูมิไปแล้ว...
เอาเป็นว่าคุณจะทำอะไรก็ทำไปแล้วกันครับ..จะเล่าประสบการณ์เรื่องผีของคนอื่นๆแล้วทำตามคุณ แล้วคนนั้นหายเพื่อโฆษณาตำหนักอะไรของคุณก็เรื่องของคุณแล้วกันครับ.แล้วไม่ต้องยกคำที่มันดูเป็นศัพท์เฉพาะมาให้คุณดูทรงภูมิหรอกครับ..บอกตามตรงว่าผมรำคาญ..ผมบอกแล้วไง..ว่าผมรังเกียจพวกวิญญานหรือผีมีฤิทธิ์ที่มาอาศัยร่างคนเพื่อหาประโยชน์เข้าตัวเอง...ผมว่าเราพูดกันแค่นี้น่าจะพอแล้วนะครับ..​

 

ถูกครับ ส่วนคนที่บอกว่า ผีบรรพบุรุษ สวดมนต์ไม่ได้ ไม่จริงครับ คุณลองชวนเค้ามาสวดมนต์พร้อมกับคุณสิ แล้วตั้งใจฟังดีๆ เรื่องนี้ให้พิสูจน์ และรู้ได้ด้วยตนเองครับ สิ่งที่เราเค้าใจกันนะ มันอาจคลาดเคลื่อนไปเยอะ

 

นะโม................

 

ขอโทษทั้งสองท่านนะครับ

อย่าได้กล่าวโทษกันเลย เดวจะพาลกันทะเลาะกันแล้ว จิตหมองกันซะเปล่าๆครับ

อโหสิกรรม จะได้ไม่ผูกเวรกรรมต่อกันเถอะครับ เป็นเพื่อนมนุษย์จงอย่าทะเลาะกันเลยครับ

ขอบคุณสำหรับ ความรู้ทั้งหลายนะครับ

 

ท่องนะโม ไม่ได้ไว้ไล่ผีเเต่ไว้สวดสรรเสริญพระพุทธเจ้า
ถ้าจะไล่ผีจริงๆสวดวรรคใดวรรคนึงของชินบัญชรสิ พ่อเคยเจอเล่าให้ฟังสวดนะโมตัสสะผีนี่หัวเราะเลยพ่อเลยเปลี่ยนเป็นสวด นะมะอะอุ เลยคราวนี้กระเจิงเลย

 

ขอเล่าประสบการณ์ที่ได้พูดคุยและไปพบคุณอ้น Login : Ohn1986 ที่สำนักบรรเทาทิพย์มานะคะ

เริ่มจากการที่ดิฉันได้เข้าไปแอดเบอร์โทรศัพท์เพื่อคุย WhatsApp จากกระทู้นึงในเวปนี้แต่จำไม่ได้อ่ะค่ะว่ากระทู้ไหน จากนั้นก็ได้พูดคุยกันถึงเรื่องที่ดิฉันกำลังสงสัยหลายเรื่อง สุดท้ายคุณอ้นบอกว่าให้โทรไปคุยจะสะดวกกว่า (02-1578025) พอโทรไปก็ได้พูดคุยอยู่ซักพัก คุณอ้นก็บอกว่ามีค่าดูดวง 500 บาท ทีแรกดิฉันก็อึ้งนะเพราะเค้าไม่ได้บอกไว้ก่อน บอกแค่ว่าอยากรู้อะไรก็ให้โทรไปคุยกันจะสะดวกตอบมากกว่า สรุปดิฉันกับแฟนก็จ่ายแบบงง ๆ แต่ก็แอบหวังว่าเค้าจะช่วยในเรื่องที่เป็นปัญหาที่ดิฉันและแฟนกำลังประสบอยู่ได้ จากนั้นก็ได้แชทคุยกันใน WhatsApp หลายวันกับคุณอ้น ดิฉันกับแฟนก็ตัดสินใจไปหาคุณอ้นที่ "ตำหนักบรรเทาทิพย์" ที่หมู่บ้านเอื้ออาทร ตึกที่ 34 ชั้น 1 ห้อง 5 อยู่เลยม.กรุงเทพรังสิตไปสะพานลอยที่ 2 หน้าซ.มีศาลปู่หวายใหญ่ ๆอยู่ติดถนนพหลโยธิน(คิดว่าหลาย ๆคนที่ผ่านเส้นทางนี้คงเคยเห็นศาลนี้ค่ะ) วันนั้นดิฉันไปหาคุณอ้นเนื่องจากคุณอ้นบอกว่าจะสามารถรักษาอาการปวดหลังให้หายได้โดยมีค่าครู 3,000 บาท แต่ดิฉันตกลงกับคุณอ้นว่าถ้ารักษาหายค่อยจ่ายได้ไหม ดิฉันยินดีจ่ายทันทีแต่คุณอ้นบอกว่ามันมีค่าใช้จ่ายโดยให้ดิฉันจ่ายก่อนครึ่งนึงและถ้าไม่หายตามเวลาที่กำหนดก็ยินดีคืนเงินให้ทั้งหมด พอไปถึงก็ได้เจอกับคุณอ้นที่อ้างว่าเป็นปู่เฮงแต่งกายด้วยชุดสีแดงคล้าย ๆทหารสมัยอยุธยา และพ่อแม่ของคุณอ้นก็เรียกคุณอ้นว่าปู่ ๆทุกคำ ก็ได้พูดคุยกันในหลาย ๆเรื่องและก็ให้วา่งเงินไว้ในพาน และก็ให้น้ำมนต์มา 1 ขวด(ขวดน้ำเหมือนน้ำดื่มขนาดเล็ก)ให้ดื่มวันละ 9 จิบทุกวันจนกว่าจะหมด และให้ยาหม่องมา 1 กระปุก+พระเครื่อง 1 องค์(อะไรไม่รู้)+รูปพระเกจิ 5 พระองค์(หลวงปู่มั่น, หลวงปู่ฝั้น, หลวงปู่ทวด, หลวงปู่ศุข และหลวงพ่อโต) และก็บอกกรรมวิธีปฏิบัติมาให้ และกำหนดวันมาให้ว่าปวดหลังจะหายภายใน 24 วันซึ่งตรงกับวันที่ 13 กค. 2555 และก็เรื่องนั้นเรื่องนี้จะสำเร็จในวันที่เท่านั้นเท่านี้กำหนดวันมาให้ชัดเจน พอมาถึงวันที่กำหนดก็ไม่มีอะไรที่เป็นจริงเลยซักเรื่อง สุดท้ายดิฉันก็ทวงถามเรื่องการขอเงินคืนตามที่ตกลงกันไว้ื เพราะแฟนดิฉันเป็นคนไม่ค่อยเชื่อเรื่องอะไรพวกนี้ ดิฉันเกือบทะเลาะกันกับแฟนเรื่องที่มาทำแบบนี้ดิฉันเลยรับปากว่าถ้าไม่หายจะต้องขอเงินคืน คุณอ้นบอกแต่แรกว่าที่ดิฉันปวดหลังเพราะในอดีตดิฉันเคยไหว้ฤาษี ท่านเลยมาดัดตน ซึ่งเป็นเรื่องที่ดิฉันและแฟนสงสัยเป็นที่สุดว่าฤาษีจะมาดัดตนทำไม? เพื่ออะไร? คุณต้นตอบแบบมึน ๆว่าท่านมาดัดตนทรมานเราเพราะท่านไม่อยากให้เราไปนับถือท่าน เพราะท่านไม่เหมาะกับเรา (ยิ่งงงเข้าไปใหญ่) สุดท้ายคุณอ้นเงียบไปหลายวัน ดิฉันเลยโทรไปหลายเบอร์ที่เคยให้ไว้แต่ก็ไม่รับสายซักครั้ง ดิฉันก็ได้ทวงถามไปทาง WhatsApp ตลอดแต่ก็ไม่ตอบ หลายวันผ่านไปตอบกลับมาว่าให้ไปเอาเงินคืนที่ตำหนัก ดิฉันบอกว่าจะให้โอนมาและดิฉันจะส่งของคืนให้ทางปณ.แต่คุณอ้นบอกว่าต้องไปเอาเงินคืนจากพานเอง เค้าเอาออกให้ไม่ได้ เพราะถ้าผิดครูถึงกับตายโหง! ดิฉันและแฟนก็ยิ่งไม่พอใจเพราะมันน่าแปลกตรงที่ ตอนเค้าเอาออกไปตอนแรกเอาออกไปได้แต่ทำไมคืนให้เราไม่ได้? ค่าครูโอนได้ไม่เห็นต้องวางในพานก็ยังได้แต่ตอนเอาคืนทำไมโอนมาไม่ได้? ปกติคุณอ้นอ้างว่าได้ส่งของให้ทางลูกศิษย์บ่อย ๆทางปณ.ดิฉันก็ว่าไม่เห็นต้องเอาไปวางในพาน แล้วทำไมตอนคืนเงินต้องวางในพานแล้วให้เราไปเอาเอง ซึ่งก็ไกลจากบ้านดิฉันมาก แต่แฟนดิฉันบอกว่าไม่เป็นไรจะเข้าไปเอาเอง ไปถึงพ่อกับแม่ของคุณอ้น จากเดิมพูดคุยอัธยาศัยดีกับเรามากแต่วันนั้นไม่ค่อยอยากคุย คุณอ้นที่แต่งชุดทหารอโยธยาสีแดง(เก่า ๆ)ซึ่งอ้างว่าเป็นปู่เฮงก็ไม่ค่อยอยากตอบอะไรมาก ตอบแต่ว่าไม่รู้ทำไมไม่หาย ตอบแบบแถ ๆเรื่อยเปื่อย จริง ๆมีอีกหลายเรื่องที่ได้พูดคุยกันแล้วได้คำตอบจากคุณอ้น และพ่อแม่ของคุณอ้นซึ่งไม่ค่อยตรงกันเท่าไหร่ อืม..มีอีกเรื่องนึงที่ดิฉันปรึกษาคุณอ้นว่าอยากได้เงินคืนจากคนที่โกงเงินไป คุณอ้นบอกว่ามีค่าครู 7,000 บาท คราวนี้แพงไปกันใหญ่ ให้เหตุผลว่าต้องเอาไปซื้อพานครู ไหว้ผี ทำบุญนั่นนี่สารพัดเยอะแยะมากมายก่ายกอง และก็อ้างว่ารักษาคนเดินไม่ได้ยังหาย คนเจ็บแค่ไหนมาหาก็หายหมด ยกเว้นเรา! แต่ก็บอกว่าไม่รู้ทำไมรักษาดิฉันไม่หาย ดิฉันไปหาที่ตำหนัก 3 ครั้ง แต่ละครั้งไม่เห็นมีคนมาหาเลย มีแค่ครั้งเดียวมีผู้หญิงมาหาคนนึงแค่นั้น ดิฉันตั้งข้อสังเกตุว่าที่คุณอ้นอ้างว่ารักษาคนหายมามากมาย เอาอะไรมายืนยันคะ? คนที่คุณอ้นอ้างเหล่านั้นมีตัวตนอยู่จริงมั๊ย? ที่ดิฉันออกมาเล่าประสบการณ์นี่เพื่อเป็นสาธารณกุศลให้คนที่กำลังเดือดร้อนอย่างดิฉันให้ใตร่ตรองให้ดี ๆก่อนจะตัดสินใจจ่ายเงินเพื่ออะไรทำนองนี้นะคะ และถ้าหากคุณอ้นอยากจะอธิบายก็ขอให้อธิบายตอบในกระทู้นี้เพื่อให้ทุกคนได้ร่วมตัดสินนะคะ ไม่ต้อง WhatsApp มาเพราะคุณอ้นบล็อกดิฉันแล้วทั้ง ๆที่ดิฉันไม่เคยพูดอะไรที่ไม่ดีเลยซักครั้ง ขอบคุณค่ะ

 

- ก่อนอื่นต้องขอโทษOhn1986 เพิ่งเข้ามาอ่านเห็นว่าน่าสนใจเลยขอแสดงความคิดเห็น….ไม่เห็นด้วย....ผมมีเหตุผลแน่อน ลองอ่าน

- ข้อความ...ปู่เฮงตอบไปว่า วิญญาณที่เห็นนั้นเป็นวิญญาณของ ข้าทาสบริวารตั้งแต่เมื่อชาติปางก่อน เขามารับใช้ตามที่เขาได้อธิษฐานไว้ก่อนจะตาย เรื่องที่เขาสวดมนต์ตามสำอางนั้นเพราะเขาเป็นสัมพเวสี..... อันนี้ไม่ใช่เลย ผมไม่ได้จะต้องการล่วงเกินหรือลบหลู่ปู่เฮง แต่อยากบอกว่า...ข้อแรกวิญญาณดวงนั้นทำผิดต่อคุณสำอางค์ในสมัยรัชกาลที่ 5 ต่างหาก ข้อสองเห็นด้วยกับคำพูดของnopphakan ที่บอกว่าคล้ายผีเจ้าที่หรือผีบรรพบุรุษ แต่สำหรับผมเรียกกว่า วิญญาณบรรพบุรุษ

- ผมก็ไม่อยากลบหลู่ แต่ความจริงก็คือความจริง ปู่เฮงที่ว่า เป็นแค่วิญญาณสัมภาเวสี ไม่ใช่เทพที่ไหน

- เอาแค่ตอบนิดๆ หน่อยๆ หากตอบทุกข้อที่คุณOhn1986 โพสต์มา เดี๋ยวจะพาลกลายเป็นทะเลาะกันเปล่าๆ

- ผมก็ไม่ได้เก่งอะไร แต่เห็นด้วยกับคำกล่าวของ nopphakan ทุกประการ เพราะถึงจะบอกกล่าวบางอย่างทำให้เกิดความไม่พอใจ แต่ขณะที่บอกกล่าว nopphakan บอกด้วยจิตที่เป็นกุศล

- ผมก็ไม่ค่อยอยากยุ่งกับใคร ได้แต่อ่านๆ แต่ถ้าไม่ใช่บวกกับจิตคนนั้นเป็นอกุศลคงปล่อยไว้ไม่ได้

- ผมไม่มีเจตนาที่จะให้เกิดความแตกแยก แต่ต้องการให้เกิดความกระจ่าง

ก็แค่ความคิดเห็นของคนๆ หนึ่ง

 

- ขอแสดงความเสียใจกับคุณtuntitanaka ที่โดนหลอก และขอให้เก็บไว้เป็นประสบการณ์

- วันนั้นที่คุณไปแม้แต่วิญญาณสัมภาเวสีก็ไม่ได้ลง ที่คุณคุยด้วยน่ะคือ...คนธรรมดา..ที่คุณกล่าวถึงนั่นแหละ

- ไม่ได้ต้องการลบหลู่ แต่อย่ามาหากินบนความเดือนร้อนของผู้อื่น

แค่ความคิดเห็นของคนๆ หนึ่ง

 

ผมอาจจะพอแนะนำวิธีให้หายได้ครับ
ไม่ต้องใช้เงินอะไร แล้วไม่ต้องมาเจอผมด้วย
แต่จะให้ไปปฏิบัติธรรมที่วัดครับ
ลอง PM มาคุยกันครับ ถ้าตั้งใจปฏิบัติจริง แล้วกรรมไม่หนักมากถึงขนาดปิดมรรคผล หายแน่นอนครับ

 

ขอบคุณมากนะคะ คุณปุณบพิธ เรื่องของการปฏิบัติธรรมตอนนี้ยังไม่มีโอกาสคะ ยังติดเรื่องงานหลายเรื่องคะ ถ้ามีโอกาสคงต้องสักวันคะ ตอนนี้คงต้องอดทนสักพักไปก่อนคะ ขอบคุณอีกครั้งคะ ^_^

 

- หากเป็นอาการปวดหลังล่ะก็ ลองแก้ไขด้วยการปฏิบัติด้วยตัวคุณเองดังนี้

- ก่อนอื่นเหตุนั้นเกิดจากเคยตีงูที่หลังทั้งหมด 5 ตัว สมัยกรุงธนบุรี

- หลังสวดมนต์หรือนั่งสมาธิ ให้อุทิศบุญกุศลนั้นให้กับเจ้ากรรมซึ่งเป็นงูทั้ง 5 ตัวในสมัยกรุงธนบุรี ลองปฏิบัติดูนะครับ

- แฮะๆ ลืมไป ขอขมาและขออโหสิกรรมต่องูทั้ง5 ตัวในสมัยกรุงธนบุรรีด้วยนะครับ