ผู้ที่บรรลุอรหันต์แล้ว ไม่ขอปรารถนานิพพานก่อน

ในห้อง 'พุทธภูมิ - พระโพธิสัตว์' ตั้งกระทู้โดย noppadol108, 21 กุมภาพันธ์ 2009.

  1. noppadol108

    noppadol108 สมาชิก

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    11
    ค่าพลัง:
    +11
    ผู้บรรลุอรหันต์แล้ว แต่ยังไม่เข้าพระนิพพาน แต่ปรารถนาที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์ตลอดไป ได้หรือไม่ โดยที่ไม่ปรารถนาที่จะเป็นพระพุทธเจ้า
     
  2. iofeast

    iofeast เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    22 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    4,174
    ค่าพลัง:
    +7,815
    นิพพานไม่ใช่สถานที่ ที่เข้าแล้วออกไม่ได้นี่จ๊ะ ที่สูญไปน่ะกิเลศ จิตท่านไม่ได้สูญจ๊ะ หุ หุ หุ
     
  3. Specialized

    Specialized ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 กุมภาพันธ์ 2006
    โพสต์:
    22,156
    กระทู้เรื่องเด่น:
    23
    ค่าพลัง:
    +83,352
    พระอรหันต์ไม่ต้องกลับมาเวียนว่ายตายเกิดแล้วครับ

    แต่บางกรณีเช่น หลวงปู่เทพโลกอุดร อันนี้ท่านคงสำเร็จแล้วแต่อธิษฐานขออยู่ช่วยจนจบศาสนาพระพุทธเจ้าองค์ปัจจุบัน ผมคิดว่าการอธิษฐานอยู่ช่วยพระศาสนานี่ความเกี่ยวข้องของผู้อธิษฐานอยู่ช่วยคาดว่าน่าจะมีความสัมพันธ์กันอยู่ในเรื่องใดเรื่องหนึ่งของพระพุทธเจ้าในแต่ละกัลป์
     
  4. โพธิ์แก้ว

    โพธิ์แก้ว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    362
    ค่าพลัง:
    +440
    ผู้เข้าถึงนิพพานคือผู้ที่ทำกิจเสร็จแล้ว...ย่อมไม่มีความปราถนาอื่นใดอีก
     
  5. pharm.taung

    pharm.taung เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 มกราคม 2009
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +432
    น่าจะได้นะครับ
    ถ้าผมจำไม่ผิดก็พระโพธิสัตว์ เช่นเจ้าแม่กวนอิมไงครับ เคยดูในสารคดีอะไรซักอย่างจำไม่ได้แล้วครับ ท่านบรรลุอรหันต์แล้วแต่ท่านจะอยู่ช่วยมวลมนุษย์ก่อนอ่ะครับ ลองฟังท่านอื่นๆก่อนนะครับ ;)
     
  6. ชนะ สิริไพโรจน์

    ชนะ สิริไพโรจน์ ทีมผูัดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ผู้สนับสนุนเว็บพลังจิต

    วันที่สมัครสมาชิก:
    3 กรกฎาคม 2008
    โพสต์:
    5,891
    กระทู้เรื่องเด่น:
    14
    ค่าพลัง:
    +35,260
    พระอรหันต์ที่สำเร็จแล้ว แต่ยังไม่เข้าพระนิพพานมีอยู่ท่านคือพระอุปคุตครับ
    แต่ที่คุณเขียนนั้นมันไม่ถูกต้องครับ เช่นคำว่าปราถนาที่จะช่วยเหลือสรรพสัตว์ให้พ้นทุกข์
    ตลอดไป เพราะในโลกนี้ไม่มีคำว่าตลอดไปครับ แม้องค์สมเด็จพระสัมมาสัมพุทธเจ้า
    ผู้ทรงพระคุณอันประเสริฐ หมดยุคหมดสมัยของพระองค์ท่านก็ปรินิพพาน พระพุทธศาสนา
    เมื่ออยู่ครบ ๕๐๐๐ ปี ก็ต้องสูญสลายไปตามกาล

    <!-- google_ad_section_end -->
     
  7. แงซาย ชายดอย

    แงซาย ชายดอย เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ตุลาคม 2007
    โพสต์:
    1,028
    ค่าพลัง:
    +1,314
    สาธุ ครับ พระพุทธเจ้าประเสริฐที่สุด

    ชวนร่วมทำบุญกันครับ ตามลิ้งใต้ลายเซนผม
     
  8. สัทธาธิกะ

    สัทธาธิกะ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    5 พฤษภาคม 2008
    โพสต์:
    736
    ค่าพลัง:
    +373
    "ท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระ"

    [​IMG]

    ในอดีตกาลครั้งองค์สมณะโคดมเจ้า ทรงตรัสรู้อนุตรสัมมาสัมโพธิญาณ ครานั้นอัครสาวกเบื้องซ้ายและเบื้องขวาของพระพุทธองค์ คือ พระโมคคัลลานะ ผู้เลิศในอิทธิฤทธิ์ และพระสารีบุตรผู้เลิศในปัญญา ณ แคว้นพาราณสี ปรากฏเด็กน้อยนามว่า ชินนะ บุตรของมะติโตพราหมณ์ และนางยะถานาพราหมณ์ โคตรบัญจะระ เลื่อมใสในพระพุทธศาสนาแห่งองค์พระศาสดาแต่ครั้งเยาว์วัย ได้บวชเป็นสามเณร และเป็นศิษย์ของพระโมคคัลลานะ สามเณรชินนะ ทรงภูมิปัญญาเป็นที่เฉลียดฉลาดเป็นยิ่ง ศรัทธาในการบิณฑบาตอย่างสงบขยันหมั่นเพียรเป็นนิจ ครั้นอายุได้เพียง 7 ขวบก็สำเร็จอรหันต์
    สามเณร ชินนะ บัญจะระ นับว่ามีรูปงาม เสียงไพเราะ รู้พิธี เจ้าระเบียบ รอบคอบด้วยความสะอาด ตั้งอยู่ในศีลาจาวัตรอันงดงาม
    ครั้นย่างเข้าสู่วัยหนุ่ม รูปร่างของท่านชินนะ บัญจะระ ยิ่งสวยสดงดงาม ผิวขาวละเอียดประดุจหยก หน้าแดงระเรื่อสีชมพู คิ้วโก่งดังคันศร ไว้เกษาเกล้าจุก เยื้องย่างสง่างามประดุจราชสีห์ ด้วยรูปงามเป็นที่ต้องตาต้องใจของสตรีเพศ จึงมีสตรีเพศต่างหลงใหลในตัวของท่านชินนะเป็นอย่างยิ่ง ด้วยท่านชินนะนั้นยึดพรหมจรรย์เป็นสรณะจึงมีแต่ความสงบ
    แล้ววันหนึ่ง ขณะที่ท่านชินนะได้ออกบิณฑบาตโปรดสัตว์ ได้มีหญิงผู้หนึ่งซึ่งแอบหลงรักท่านชินนะ มิอาจยับยั้งใจเอาไว้ได้จึงได้โผผวาเข้ากอดท่านชินนะอย่างลืมตัว ท่านชินนะ เห็นอาการของผู้หญิงคนนั้นกระทำแก่ท่านดังนี้ก็บังเกิดความสังเวชอย่างใหญ่ หลวง อันพรหมจรรย์ของท่านต้องมาแปดเปื้อนเสียดังนี้ ความยึดมั่นในพรหมจรรย์ของท่านต้องมาสะบั้นลง ท่านจึงดำริขึ้นว่า "ตัวท่านนี้มีรูปงามเช่นนี้ย่อมก่อให้เกิดอกุศลกรรมแก่อิตถีเพศ เป็นการสร้างบาปให้เกิดขึ้นด้วยมีกายรูปนี้เป็นเหตุ จะมีสักเท่าใดกันหนอที่ปรารถนาล่วงพรหมจรรย์ของท่านเช่นผู้หญิงคนนี้.."
    ท่านชินนะ คิดดังนี้ เห็นกายเป็นเหตุ กายทำให้พรหมจรรย์จิตเสื่อมสลาย กายก่ออกุศลจิตให้เกิดเป็นบาปกับอิตถีเพศผู้ยังมัวเมาในรูป ท่านจึงถอดกายทิพย์ออกจากร่าง ทิ้งสังขารไว้เมื่อยังไม่ถึงกาล เมื่ออายุท่านเพียง 23 ปี 6 เดือน กายทิพย์ของท่านจึงไปได้แค่ชั้นพรหมโลก
    ท่านชินนะ นับว่าเป็นผู้รอบรู้พิธีการต่างๆของโลกวิญญาณ ท่านสามารถสวดพระคาถาคลายพระเวทย์ได้อย่างเยี่ยมยอดยามท่านสวดพระคาถาไม่ว่า บนโลกหรือบนสวรรค์เสียงของท่านจะก้องกังวานไปทั่วนรกภูมิ และสวรรค์สามสิบสามชั้นเทพพรหมได้ยินจะสะเทือนจิตออกจากสมาบัติหมดสิ้น เพื่อรับทราบพิธีการที่ท่านชินนะจัดขึ้น
    ท่านชินนะบัญจะระ มีกายละเอียดอยู่ในชั้นพรหม ขณะนี้เป็นชั้นหัวหน้ารูปพรหม 16 ชั้น ควบคุมทั้งหมด ดังด้วยว่าสตรีเพศเป็นผู้ทำลายความบริสุทธิ์ของท่านเสียก่อนดังนี้ ทำให้ท่านละสังขารก่อนถึงกาลเวลาแห่งอายุดังนี้ จึงทำให้ท่านมีกำลังบุญอยู่ในแค่ชั้นพรหม ดังนั้นท่านจึงต้องสร้างบุญในโลกมนุษย์เพื่อสร้างบุญบารมีนำท่านขึ้นไปสู่ แดนอรหันต์

    ประวัติ ท่านท้าวมหาพรหมชินนะบัญจะระ - พุทธพรหมปัญโญ
     
  9. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    อยู่ที่จิตจ้า เช่น องค์พระกวนอิม ท่านสำเร็จแล้วแต่ก็โปรด เวไนยอยู่ ปณิธานท่านยิ่งใหญ่มาก "จนกว่าพุทธะทั่งหมดจะข้ามฝั่งวัฏสงสารหมด" ท่านเข้า-ออก เป็นว่าเล่นเลย ถึงพระท่านเข้ามหานครนิพพานแล้วก็ตามแต่ยังแผ่ พระกรุณา พระเมตตา พระปัญญา เป็นกระแสธรรมอยู่ตลอดเวลา(ว่าง แต่ ไม่สูญ นิพพานมีจริงไม่สูญ )ทุกวันออกพรรษา พระพุทธองค์และพระสาวกยังเสร็จออกโปรด ทุกที่เลย นาคยังลอกแก้วถวาย(บั้งไฟพญานาค)เป็นพุทธบูชากันเลยทุกปี ท้าวมหาพรหมชินปัญจะระ นี้ก็ใช้ จริงๆแล้วนิพพานนี้ คำที่สมมุติขึ้นมาเท่านั้นเอง ให้เราเข้าใจ กันว่า ที่สุดแห่งธรรมนี้มีจริง
     
  10. neung48

    neung48 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ตุลาคม 2006
    โพสต์:
    465
    ค่าพลัง:
    +457
    การที่พระอรหันต์จะอยู่ช่วยสรรพสัตว์ก่อนมันไม่ค่อยมีเน้อ มันเท่ากับข้ามจากพระอรหันต์มาเป็นพระโพธิสัตย์แล้ว เขาไม่ทำกันหรอก การบำเพ็ญบารมีมันต่างกัน เป็นพระอรหันต์ช่วยสรรพสัตร์ลำบากกว่าด้วย เพราะตนเองครองเพศบรรพชิต แต่ฟระโพธิสัตย์จะฉุดช่วยได้ง่ายกว่าเพราะครองเพศธรรมดา ไม่ต้องระวังอะไรมากมาย
     
  11. ไห่เฉากุหลาบไฟ

    ไห่เฉากุหลาบไฟ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 ตุลาคม 2004
    โพสต์:
    896
    ค่าพลัง:
    +2,177
    เรื่องนี้ก็น่าสนใจนะ....
    แต่ในความคิดของผม คุณพระนั้นไม่ได้ตายไปไหนหรอกนะ ถ้าเรานับถือท่านยึดเอาองค์ใดองค์หนึ่งท่านอาจจะสงเคราะห์เราได้ ถ้าไม่เกินกฎแห่งกรรม
    ผึดถูกประการใดขอให้ทุกท่านแก้ไขให้ด้วย และขอขมาเป็นอย่างสูงต่อพระรัตนตรัย ณ ที่นี้ด้วย
     
  12. งูขาว

    งูขาว เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    29 มกราคม 2008
    โพสต์:
    945
    ค่าพลัง:
    +1,824
    ธรรมะไม่มีเพศ ไม่มีแบ่งแยก มีแต่ทำความดี ไม่ทำความชั่ว ทำจิตให้บริสุทธ์ ซึ่งเป็น คุณลักษณะของชาว พุทธะ(พุทโธ) ที่ มหานครนิพานก็ตาม โลกุตรภูมิ ก็ตาม ทุกภพทุกภูมิ ก็ตาม แม้กระทั่งโลกมนุษย์ นี้ก็ตาม
    ธรรมะ ก็คือ ธรรมะ
    บำเพ็ญกองไหนก็ ลงร่องเดียวกันหมด
    ไม่มีทุกข์ สมุทัย นิโรธ มรรค ไม่มีฌาน ไม่มีการบรรลุ เพราะไม่มีอะไรให้บรรลุ
     
  13. วิญญาณนิพพาน

    วิญญาณนิพพาน ทีมงานอาสาฯ ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    6 เมษายน 2008
    โพสต์:
    22,455
    กระทู้เรื่องเด่น:
    51
    ค่าพลัง:
    +21,011
    ได้ครับ
     
  14. ขันธ์ธรรม

    ขันธ์ธรรม Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 กันยายน 2009
    โพสต์:
    36
    ค่าพลัง:
    +54
    การที่เป็นอรหันต์แล้วไม่ปราถนาเข้านิพพาน...เป็นไปไม่ได้เพราะคุณธรรมที่ท่านบรรลุแล้วนั้นแหละคือนิพพานเพียงแต่ว่าท่านอยากอยู่สงเคราะห์หมู่สัตว์โลกและดูแลรักษาพระศาสนาไปจนครบวาระนั้นๆๆ....ดังเช่นพระสัมมาสัมพุทธเจ้าได้เคยตรัสไว้ว่าใครที่เชี่ยวชาญอิทธิบาท4ผู้นั้นสามารถอยู่ได้ถึง1กัป(ถ้าผิดไปกระผมก็ขออภัยท่านทั้งหลายด้วยครับ)
     
  15. ปรมิตร

    ปรมิตร เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    17 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    404
    ค่าพลัง:
    +528
    เห็นด้วยนะครับ นิพพานอยู่นอกเหนือนิยามโลก ผู้ที่บรรลุอรหันต์แล้ว ยอมไม่มีตัณหาหรือปราถนาที่จะอยู่ต่อ หากแต่อาศัยเมตตา สงเคราะห์โลกตามวาสนาเก่า (นิสัยเก่า) จึงอาศัยอิทธบาทสี่ (เป็นเหตุให้)ครองขันธ์อยู่หากสิ้นหรือดับขันธ์ย่อม มีอัมตธาตุคือนิพพานเป็นอารมณ์
    (จริงๆแล้วเรามิควรนำเรื่อง วิสัยของผู้ได้ฌาณหรือวิสัยของพระอรหันต์มาdiscussนะครับแต่ ไหนๆก็เข้ามาอ่านเเล้วเลยเอาซะหน่อย)

    ข้าแต่ท่านผุ้เจริญ อันนี้เป็นความเข้าใจของผมนะครับ นิพานแล้วไม่สามารถกลับมาได้อีกแน่นอน เพราะไม่มีกิจหรือสิ่งใดต้องทำต่ออีกแล้ว
    แต่ท่านทั้งหลายก็ทราบดีอยู่แล้วว่าว่า พระอนาคามีทั้งหลายจะไปบังเกิดในพรหมโลกชั้นสุทธาวาส ท่านเคยคิดไหมว่า
    พระผู้ทรงคุณทั้งหลายนั้นๆ ที่ท่านกล่าวถึงนั้น บางที่ท่านอาจมิได้สำเร็จเป็นพระอรหันต์ แต่สำเร็จอนาคามีบุคคลแล้วไปบังเกิดในพรหมโลกแล้วยังไม่พิจารณาธรรมเพื่อเข้านิพพาน เพราะปราถนาช่วยมนุษย์อยู่ด้วยเมตตาหรือต่อมาบรรลุอรหันต์จิตบริสุทธิ์แล้ว แต่ขันธ์ของพระพรหมนั้นอยู่นาน หากท่านยังไม่ละขันธ์ ขันธ์นั้นๆก็มิสูญ ยังสามารถช่วยมนุษย์ ได้ตลอดตามที่ท่านเห็นว่าควรช่วยและหากประสงค์อยู่ต่อไป ก็ย่อมทำได้ด้วยอาศัยอำนาจอิทธิบาทสี่ก็ได้นะครับ แต่ผมยังไม่เคยได้ยินว่าท่านเหล่านนั้นอยู่ข้ามสมัยของพระพุทธะเจ้าที่ตนสดับตรับฟังพระธรรมนะครับ
    เพราะหากใกล้จะมีพระพุทธเจ้ามาบังเกิดขึ้น ท่านเหล่านนั้นจะไม่มีเหตุให้อยู่ต่ออีกเพราะ เหล่า สัตว์ มนุษย์ เทวดา มารและพรหม นั้นๆจะได้รับการโปรดด้วยพระมหาเมตตาและพระมหากรุณาจากพระพุทธเจ้าผุ้ทรงคุณอันยิ่งใหญ่อยู่แล้วครับ
    (บางทีท่านชินนะ หรือหลวงปู่เทพโลกอุดร หรือหลวงปู่ หลวงพ่อบางองค์ที่มีคนกล่าวถึง อาจอยู่ในกรณีดังกล่าวนี้ก็ได้นะครับ จิตที่บรรลุอรหันต์ก็ย่อมนิพพาน จิตอื่นๆที่บรรลุแล้ว ย่อมไปตามที่บรรลุแล้ว ตรงไปตรงมา)

    หากมีผู้ที่นั่งสมาธิแล้วมีหลวงปู่บางองค์ท่านอยู่ในจิต มาช่วยหรือมาสอนในสมาธิ
    ก็มีสองอย่างคืออย่างที่ผมได้กล่าวมา อีกอย่างก็ โดนกิเลสหลอกเอาเข้าให้แล้วครับ55 ปรุงเอง ชงเอง กินเองล้วนๆ(คิดเองเออเอง 55)
    อันนี้ก็ คิดไปเฉยๆ อธิบายได้ด้วยทฤษฎีที่เข้าใจครับ ท่านเจ้าของกระทู้จะได้ประโยชน์จากคำตอบผมไหมเนี่ย555

    หากท่านเจ้าของกระทู้จะประสงค์ช่วยเหลือมนุษย์นานๆ ก็ลองประสงค์อนาคามีบุคคลแล้วบรรลุอรหันต์ แต่ยังไม่ดับขันธ์ เพื่อดำรงขันธ์ช่วยเหลือผู้เวียนว่ายตายเกิดจากพรหมโลกลองดูสิครับ เจ๋งดีนะครับ ออกแนวๆดีหึหึ
    แต่อย่างที่บอกอ่ะนะครับผมก็ยังไม่เคยได้ยินว่าท่านเหล่านนั้นอยู่ข้ามสมัยของพระพุทะเจ้านะครับ เพราะสิ่งทั้งหลายย่อมมีเหตุ หากมิใช่นิพพาน ขันธ์ที่มีอยู่ย่อมอยู่ในกฎของไตรลักษณ์ เป็นธรรมดา
    อนุโมทนาในความดีที่ขะเกิดขึ้นนะครับ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 6 ตุลาคม 2009
  16. sa_bye_dee

    sa_bye_dee Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    10 มิถุนายน 2009
    โพสต์:
    42
    ค่าพลัง:
    +34
    ไม่ถึงนิพพานก็ไม่สำเร็จอรหันได้
     

แชร์หน้านี้

Loading...