พระสงฆ์ของวัดอุโมงค์(สวนพุทธธรมม) ต.สุเทพ อ.เมือง จ.เชียงใหม่ ทำไมถึงพูดแบบนี้????

ผมมีความตั้งใจที่จะบวชเพื่อศึกษาพระธรรม

อยากเรียนนักธรรม บาลี ควบคู่ไปกับการเรียนทางโลก

ด้วยเหตุนี้เองผมจึงต้องไปติดต่อที่วัดต่างๆ ในจังหวัดเชียงใหม่

ได้แก่...

1.วัดพระธาตุดอยสุเทพ (แต่ต้องไปเรียนที่ อ.แม่วาง จ.เชียงใหม่ ซึ่งไกลมาก)

2.วัดสวนดอก (พระเยอะ กุฏิก็เต็ม)

3.วัดบุปผาราม (พระเยอะ กุฏิก็เต็ม)

4.วัดแสนฝาง (พระเยอะ กุฏิก็เต็ม)

5.วัดอุโมงค์ ( ? )

ผมได้ไปติดต่อกับพระรูปหนึ่ง(ไม่ใช่เจ้าอาวาสนะคับ เจ้าอาวาสไม่อยู่)และท่านก็ได้พูดคุยกับผม และนัดวันอุปสมบทเรียบร้อยแล้ว

ผมและแม่ก็บอกท่านต่อไปว่า ผมอยากบวชเรียน เรียนนักธรรม บาลี และเรียนทางโลกควบคู่กันไปน่ะคับ และพระรูปนั้นก็ได้พูดขึ้นมาทันทีว่า ที่นี่พระอยู่เยอะไม่มีที่เรียน งั้นก็ไปบวชวัดอื่นเหอะ!!!

ทันทีที่ผมกำลังคุยกับพระท่านอยู่ ก็มีพระอีก 2-3 รูปเดินเข้ามาพอดี และได้ิยินผมคุยกับพระ และท่านก็ได้พูดสวนขึ้นมาทันทีว่า ทำไมไม่เรียนข้างนอกห๊าาา มันเป็นอะไร??? ผมตอบในใจว่า ผมตั้งใจที่อยากจะบวชเรียน มันผิดตรงไหน? ถ้าผมอยากเรียนข้างนอก แล้วผมจะมาบวชที่วัดทำไม?

คำพูดจาพระท่านไม่มีทีท่าที่เป็นมิตรด้วย พระุท่านพูดเหมือนกับว่าผมจะไปแย่งอาชีพพระยังไงยังงั้นเลย พระท่านก็ไม่ได้มีคำแนะนำอะไรเลยด้วยซ้ำ
ท่านบอกว่า ถ้าบวชที่นี่บวชสูงสุดได้ 15 วัน โอ้พระเจ้า!! 15 วันยังเรียนรู้อะไรได้ไม่มากเลย แล้วตอนแรกก็ทำเป็นจัดตารางวันบวชให้ผมแล้ว(ตอนนั้นทำไมถึงมีห้องหล่ะ) พอผมบอกว่าผมอยากบวชเรียน(แต่ห้องกลับเต็มซะงั้น)

สักครู่พระท่านก็เดินออกไปหมด โดยไม่สนใจผมกับแม่ที่มาสอบถามเรื่องนี้

ผมยอมรับว่าผมกับแม่เสียความรู้สึกเป็นอย่างมากเลยคับ

วัดอุโมงค์(สวนพุทธธรรม) จะจัดพิธีอุปสมบททุกๆ วัน เสาร์และอาทิตย์ แต่ละอาุทิตย์ก็มีคนมาบวชหลายคน (ปัจจัยได้เยอะเลยทีเดียวนะคับ แต่ผมไม่ได้ห่วงเรื่องนี้หรอก)

ผมตั้งใจอยากบวช ใครๆ ก็สนับสนุน ซึ่งเป็นสิ่งที่ดีมากๆ แต่ทำไมพระแท้ๆยังปฏิเสธการอุปสมบทเรา ผมยังไม่เข้าใจเลย????

 

มองต่างมุม

คุณโยมคืออย่างนี้
สมมุติ...ถ้าอยู่ ๆ อาตมา มาหาคุณโยมที่บ้านบอกขอพักบ้านโยมหน่อยซิสัก ๔ ปี
จะมาอยู่เรียนบาลีและปริญญาด้วยเลย คุณโยมจะยินดีอ้าแขนรับอาตมาเลยหรือไม่
วัดในเมืองกุฎิก็จำกัดวัดอุโมงค์พระเก่าร่วม ๔๐ รูป เข้าช่วงพรรษา ๒๐๐กว่า
ค่าไฟเดือน ๆร่วม ๓ หมื่น ตกหนักที่หลวงพ่อเจ้าอาวาส นิสัยใจคอคนก็แตกต่างมีปัญหาสารพัด คนอยู่ข้างในจะสงสารหลวงพ่อมากเพราะเคยมีพระใหม่ ๆมาสร้างวีรกรรมเพิ่มภาระให้หลวงพ่อมากใหนจะงานค่ายคุณธรรม คนพิการ เด็กกำพร้า วัดใหญ่ ๆภาระมากดูแลไม่ทั่วถึง....โปรดเห็นใจด้วย

อาตมาตอนเรียนวัดสวนดอกก็ตะเวนหาร่วม ๒๐- ๓๐วัดทั่วเมืองเชียงใหม่ ลองเถอะครับหาวัดพักในเมือง มันยาก.....ไปนอนสุสานรอกุฎิว่างเกือบ ๓ เดือนก็เคยมี

หรือบวชแล้วไปหาวัดอยู่นอก ๆ ก่อน ทาง มจร.วัดสวนดอกเขาก็หาวัดให้เมื่อสอบเข้าเรียน ๆไปมีเพื่อนพระด้วยก็ค่อยๆขยับขยาย


เจริญพร

 

ผมเองก็เคยเป็นพระนวกะที่นี่เหมือนกัน ต้องทำใจครับวัดในเมืองมีสารพัดปัญหาให้แก้น่าเห็นใจท่านเจ้าอาวาสครับ ที่ผมเจอด้วยตัวเองเลยคือว่ามีโยมอุปฐากขาใหญ่บริจาคมากว่างั้นเถอะพาลูกมาฝากเรียนป.โททางด้านศาสนาควบคู่กับการบวชซึ่งทำให้ได้เอกสิทธิ์ในการอยู่กุฏิเดี่ยวไม่ต้องรวมกับพระนวกะอื่นๆตลอดช่วงที่ผมบวชท่านก็มีวีรกรรมเยอะครับตอนหลังไม่รู้ว่าจะดีขึ้นหรือป่าว ทางที่ดีผมว่าไปบวชทีวัดนอกๆก่อนทำความคุ้นชินกับการเป็นสมมุติสงฆ์ให้ดีพร้อมก่อนก็ได้แล้วค่อยขยับขยายไปทีหลัง

 

ผมเองก็เคยบวชที่วัดอุโมงค์นะครับ เวลาบวชคือหนึ่งพรรษาเต็มครับ
ช่วงที่บวช จะมีพระพี่เลี้ยง (ท่านเสริฐ) คอยดูแล ไม่ปล่อยให้ว่าง
จะเคี่ยวเข็ญให้พระใหม่ อ่านหนังสือ และติวกันอยุ่บ่อย ๆ ยันค่ำ
ความรู้ที่ได้แน่นปึ๊กครับ เมื่อลงสนามสอบประชันกับวัดต่าง ๆ ก็ไม่อายใคร

รุ่นที่ผมบวชก็มีพระที่สอบได้อันดับหนึ่ง ปีก่อนหน้านั้นพระจากวัดอุโมงค์ก็ได้อันดับหนึ่ง
ส่วนยี่สิบอันดับแรก จากการสอบสามร้อยกว่ารูป มีพระจากวัดอุโมงค์สอดแทรก
เกือบทั้งนั้นครับ

ส่วนสมัยนี้เริ่มเปลี่ยนไปครับ ได้สนทนาก็พระที่รู้จักกัน ผมเพิ่งรู้ว่า
ที่วัดอุโมงค์ "ฆราวาสเป็นใหญ่ครับ" พระท่านก็ไม่อยากพูดมาก
ผมเองก็สงสัยว่า ฆราวาส คงไม่ได้ยกที่ดินให้เป็นของวัดอย่าง "เด็ดขาด"
มั๊งครับ เลยทำตัวเหมือนเป็นเจ้าของวัด
เคยกระทู้ถามในเว็บไซต์ วัดอุโมงค์ ก็ถูกลบไปเสียนี่
ภาพพจน์ของวัดที่ดี ๆ เริ่มเปลี่ยนไปในทางที่ไม่ดีแล้วครับ อนาจใจจัง

 

ขอคาราวะทิดวีในฐานะศิษย์ร่วมสำนักและยังมีพระพี่เลี้ยงองค์เดียวกันด้วย

 

อ่านแล้วหดหู่ วัดเป็นอย่างนี้แล้วหรือ:'(

 

ไม่เคยได้ยินเรื่องแบบนี้ ไม่น่าเชื่อว่าจะเป็นไปได้ แต่ก็เป็นไปแล้ว

 

หากถามว่า ที่วัดอุโมงค์มีการสอนความรู้ความรู้ทางธรรมไหม ขอตอบว่ามีครับ
แต่ต้องเข้ามาบวชในช่วงพรรษาครับ เพราะทางวัดได้วางระบบไว้แล้ว
เรื่องจำนวนคนที่จะบวช การจัดหาตำรา ปากกาดินสอ เอกสารข้อสอบเก่า ๆ
เขาติวกันเป็นกลุ่ม สอนกันเป็นกลุ่มครับ จะมา"โชว์เดี่ยว"ไม่ได้ครับ

เพราะพระอาจารย์ที่เก่ง ๆ ท่านมีภาระกิจต้องไปสอนข้างนอกครับ
ต้องจัดตารางให้ท่านอย่างเหมาะสม
หากจะถามต่อว่า ทำไมไม่สอนในวัดละ ก็ต้องตอบว่าทางวัด "ไม่มีโรงเรียน"
โดยเฉพาะครับ และพระวัดอุโมงค์เก่ง ทางข้างนอกต้องการตัว จึงไปสอนข้างนอกครับ

อยากศึกษาธรรมจริง ๆ ขอให้มาในช่วงพรรษาครับ ได้แน่นอน
และอย่าเห็นแก่ตัวจะมาศึกษาธรรมอย่างเดียว ขนาดผมหวังจะเอาตำรากฎหมาย
มาศึกษาตอนบวช ผมยังทิ้งเลย เพราะมาอาศัยอยู่วัดแล้ว ต้องทำความสะอาดวัด
ดูแลวัด ทิ้งขยะ กวาดใบไม้ ทำความสะอาดห้องน้ำ ช่วยกิจกรรมของวัด ฯลฯ
ไม่ใช่จ้องจะมาศึกษาธรรม มาเอาประโยชน์แต่ฝ่ายเดียว

จะคิดจะพูดอะไร ควรศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อน คำพูดคำจาของท่าน
ค่อยข้างจะติดลบ สำหรับทางวัดพอสมควร คิดหรือว่าทางวัด"ต้องการเงิน" ?
ใครที่ไม่มีทุนในการบวช ทางวัดที่ผู้ที่จะสนับสนุนให้ครับ "ฟรี" ครับ
หากมีความคิดที่ติดลบแล้ว ก็อย่าคิดที่จะบวชเลยครับ

 

=== ไม่ทราบว่าผมบอกคุณเหรอคับ ว่าผมจะศึกษาพระธรรมเพียงอย่างเดียวเท่านั้น!!!
ตอนนี้ผมเป็นพระเรียบร้อยแล้ว จำวัดอยู่ที่วัดแห่งหนึ่ง เจ้าอาวาสท่านก็มียศฐาบรรดาศักดิ์ ท่านใจดีมากๆ ไม่เหมือนวัดที่คุณเคยบวชเลยด้วยซ้ำ
และผมก็ใช่ว่าจะไม่กวาดขยะเหมือนที่คุณบอก มันก็ต้องกวาดกันอยู่แล้ว เรื่องเล็กๆน้อยๆ เป็นสิ่งที่ต้องทำเป็นธรรมดา ส่วนห้องน้ำที่นี่ไม่ต้องทำความสะอาดหรอกคับ พอดีมีแม่บ้านที่เขารับผิดชอบมาทำทุกๆวันอยู่แล้ว พอดีวัดนี้เจริญน่ะคับ ไม่จำเป็นต้องพึ่งพระเณรมาทำหรอก ขยะก็มีรถเก็บขยะของเทศบาลทุกวัน มีศิษย์วัดคอยเก็บกวาด ส่วนจานเวลาฉันก็ต้องล้างเป็นธรรมดา
ผมว่าคุณจะคิดจะพูดอะไร ควรศึกษาให้ถ่องแท้เสียก่อน คำพูดคำจาของคุณและความคิดของคุณ ผมว่าแย่มากๆด้วยซ้ำ ผมว่าคุณมีความคิดในแง่ลบมากๆๆๆกว่าผม ไม่รู้ว่าเคยบวชมาก่อนได้ยังไงเนี่ย ยังไงผมก็ขอยืนยันว่าผมคิดในแง่ดีเสมอ ===

ผมฝากไว้ละกันกับคำคมดีๆ.. คนโง่มักจะมองตัวเองว่าเป็นคนฉลาด ส่วนคนที่ฉลาดมักจะมองตัวเองว่าเป็นคนโง่

 

มันไม่เหมือนกันหรอกครับท่าน หากจะเปรียบเปรยกับการมาขออยู่บ้านมันต่างกันนะคับ ผมก็ไม่ใช่คนเลวที่ไหน เป็นคนดีคนหนึ่งเหมือนกัน (ผมผ่านการปฏิบัติธรรมแนวสติปัฎฐาน4มาอยู่แล้ว) รู้ว่าอะไรควรทำ อะไรที่ไม่ควรทำ และพอดีผมก็ได้บวชเรียบร้อยแล้ว เจ้าอาวาสท่านก็มีจิตเมตตามากๆ เรื่องค่าน้ำค่าไฟที่นี่ก็เสียเดือนละ 3 หมื่นกว่าๆ เช่นกัน แต่ไม่มีปัญหาอะไรหรอกคับ เพราะด้วยบารมีของหลวงพ่อท่าน ท่านก็มีโยมคอยบริจากค่าไฟอยู่แล้ว ไม่มีปัญหาอะไรเลย ซึ่งแตกต่างกับพระวัดอื่นโดยสิ้นเชิง วัดที่ผมบวชหลวงพ่อท่านน้อมรับบรรพาอุปสมบทเป็นอย่างดี วัดอื่นๆอย่าพูดถึงเลย มันต่างกันแบบไม่ต้องเปรียบเทียบหล่ะัคับ สาธุ...

 

ผมว่าคุณน่าจะเป็นคนที่เห็นแก่ตัวซะมากกว่านะ
ใครไม่เจอกับตัวเองก็คงไม่รู้หรอกว่าเป็นยังไงที่ได้ไปสอบถามที่วัดต่างๆ
และไม่จำเป็นต้องเอาความเก่งด้านการศึกษาพระธรรมมาบอกกันหรอก
คนเก่งไม่จำเป็นต้องโชว์ต้องอวดกันหรอก.. ไม่รู้จักเหรอคับ ปิดทองหลังพระน่ะ???

 

ถูกต้องที่สุดครับ..

 

คิดว่าเป็นบททดสอบซิคะ

 

แน่นอนอยู่แล้วคับ คิดแบบนั้นเหมือนกันคับผม สาธุ.. ^^

 

1. กระทู้ของคุณที่ตั้งต้นว่า " พระสงฆ์ของวัดอุโมงค์ ทำไมถึงพูดแบบนี้" คุณต้องการสื่อ
อะไรครับ ?
- หาข้อมูลได้ถ่องแท้ หรือยัง ก่อนที่จะเข้ามากระทู้ หาข้อมูลดีหรือยัง ?

2. "วัดอุโมงค์(สวนพุทธธรรม) จะจัดพิธีอุปสมบททุกๆ วัน เสาร์และอาทิตย์ แต่ละอาุทิตย์ก็มีคนมาบวชหลายคน (ปัจจัยได้เยอะเลยทีเดียวนะคับ แต่ผมไม่ได้ห่วงเรื่องนี้หรอก)"

คำว่า"ได้ปัจจัยเยอะ" คุณต้องการสื่อถึงอะไรครับ ???????????
***คุณรู้ได้อย่างไรว่า ปัจจัยเยอะ เคยสอบถามหรือ ? ***
***ถ้าไม่เคยสอบถาม แล้วเอามากระทู้ทำไม ? ต้องการสื่อถึงอะไร ?***

มันส่อถึงวุฒิภาวะ ยังอ่อนด้อยในทางโลก
***อะไรไม่ได้ดั่งใจ ก็เอามาประจานให้สังคมรับรู้ โดยขาดการไตร่ตรอง***

อ้างว่าผ่านการปฏิบัติมาแล้ว "อย่ามาคุย" คนที่ผ่านการปฏิบัติมาแล้ว
ยังขาดการไตร่ตรอง "ก่อนที่จะทำอะไรลงไป" จะปฏิบัติทำผี ทำไม
***ก่อนจะกระทู้อะไร หาข้อมูลหรือยัง***

ผมนะปฏิบัติที่วัดอัมพวัน กับหลวงจรัญต้้งหลายรอบ
ระดับแม่ชี ตามว่า ตามจิก ถึงที่พัก ก็มี
แม่ครัวทำอาหาร ตามด่าก็มี "ผมยังอดทนได้"

ก็แค่หาที่บวชไม่ได้ ไม่ถูกใจ ก็เอามาบ่น มาประจาน โดยขาดการไตร่ตรอง
นี้หรือคนที่ผ่านการ "ปฏิบัติมาแล้ว"
อ่อนมาก

 

อีกอย่าง ไม่ต้องตามส่งข้อความส่วนตัวก็ได้นะ "ไม่ค่อยว่าง"
ถ้าว่าง เข้ามาอ่านในบอร์ดแน่นอน ไม่ต้องห่วง

อีกอย่าง อ้างว่า ได้ทำการบวชสมใจแล้ว
ยัง "ปล่อยวาง" ไม่เป็นอีกเหรอ ยังตามมาเก็บกระทู้อีกเหรอ
บวช เสียของปล่าว ๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆๆ

 

1.เจ้าอาวาสท่านก็มียศฐาบรรดาศักดิ์ ท่านใจดีมากๆ ไม่เหมือนวัดที่คุณเคยบวชเลยด้วยซ้ำ
- ข้อความนี้ ต้องการสื่อถึงอะไรครับ ""วัด" ที่คุณเคยบวช"
สถาบันดูถูก กันได้หรือครับ ?

2.ส่วนห้องน้ำที่นี่ไม่ต้องทำความสะอาดหรอกคับ พอดีมีแม่บ้านที่เขารับผิดชอบมาทำทุกๆวันอยู่แล้ว พอดีวัดนี้เจริญน่ะคับ
- อืม ! ชอบเนาะ อยู่ที่สบาย ๆ เนี่ยะ ตอนผมบวช ผมก็ทำความสะอาดวัดนะครับ
มีปัญญาถ่ายของเสีย แต่ไม่มีปัญญาทำความสะอาด อยู่ไปก็รกวัดครับ

3.ไม่จำเป็นต้องพึ่งพระเณรมาทำหรอก ขยะก็มีรถเก็บขยะของเทศบาลทุกวัน มีศิษย์วัดคอยเก็บกวาด
- แหม ! สบายจริง ๆ อยู่วัดเนี่ยะ ตอนผมบวช ถึงจะมีศิษย์วัด มีรถเก็บขยะ
แต่ผมก็ทำความสะอาดวัดนะครับผม ทำสกปรกได้ แต่ไม่มีปัญญาทำความสะอาด
อยู่ไปก็รกวัด

4.ซึ่งแตกต่างกับพระวัดอื่นโดยสิ้นเชิง วัดที่ผมบวชหลวงพ่อท่านน้อมรับบรรพาอุปสมบทเป็นอย่างดี วัดอื่นๆอย่าพูดถึงเลย
- แหม ! พอได้ดีสิ่งที่ถูกต้องใจ ก็ดีไปหมดเลยะเนาะ ส่วนวัดที่ไม่ถุกใจยังมีการปรามาส
ถึงอีก เฮ้อ ! สมองคนเรา

วัดต่าง ๆ นะ จะให้ดีถูกใจคนเราไม่ได้หรอกครับท่าน อย่าเอาใจเป็นที่ตั้ง
ที่ต้องออกมา "แย้ง" เพราะ "ไม่ใช่ตอบสนองเราไม่ได้ดั่งใจ" ก็เอามาประจาน
ให้สังได้รับรู้ "มันไม่ถูกต้องครับ"


4. เรื่องค่าน้ำค่าไฟที่นี่ก็เสียเดือนละ 3 หมื่นกว่าๆ เช่นกัน แต่ไม่มีปัญหาอะไรหรอกคับ เพราะด้วยบารมีของหลวงพ่อท่าน
- อ่านะ ตอนบวช ผมเสียค่าน้ำไฟ ช่วยวัดตลอดครับที่น !

 

ถ้าวัดที่คุณเคยบวชดีจริง
แล้วทำไมถึงมีแต่คนเข้ามาโพสในทางลบหล่ะ
ลองคิดดูดีๆ
คุณน่ะไร้สมองมากกว่า

 

แหม๋ ใครๆก็ว่าตัวเองน่ะดีหมดแหละ
จะมีใครยอมรับบ้างว่าตัวเองน่ะไม่ดี

ถ้าในสิ่งที่คุณพูดมีดีมากๆๆๆๆๆๆ
เข้าคนอื่นจะมาโพสในด้านลบหาพระแสงอะไรหล่ะคับ
อ่านดูให้หมดซะ!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!!