พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ห้ามรวย

ในห้อง 'พุทธศาสนา และ ธรรมะ' ตั้งกระทู้โดย thanan, 9 เมษายน 2010.

  1. thanan

    thanan เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 กันยายน 2004
    โพสต์:
    1,668
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +5,213
    โดย พระภาวนาวิริยคุณ (เผด็จ ทัตตชีโว)
    เรียบเรียง จาก รายการหลวงพ่อตอบปัญหา ทาง DMC



    ความจริงคำว่า “สันโดษ” แปลว่า “พอใจในสิ่งที่ควรมี ควรได้” อะไรไม่ควรมี ไม่ควรได้ ก็อย่าไปพอใจมัน ทีนี้...ถ้าตัวเขามีความรู้ มีความสามารถ มีความดีพอ จะได้อะไรในทางที่ถูก ที่ต้อง ที่ควร จะรวยได้เท่าไหร่ๆ พระพุทธองค์ไม่ได้ทรงห้าม แต่ว่าความเข้าใจผิดตรงนี้แหละ ทำให้เป็นอุปสรรคในการเข้าวัดไป

    ก่อนอื่นคุณโยมต้องรู้ว่า ธรรมชาติของคน โดยเฉพาะนักธุรกิจ นักธุรกิจทั้งหลายในโลก เป้าหมายของเขา เป้าหลัก คือ อยากรวย แล้วพวกที่รวยแล้ว ส่วนมากก็จะมีเป้าที่สองตามมาอีกด้วย คือ อยากดัง อยากรวย...อยากดัง เป็นเรื่องหลัก ๆของนักธุรกิจ

    พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ไม่ได้ห้ามรวย ส่วนมากมักเข้าใจผิดว่า พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงห้ามรวย ความจริงท่านไม่ได้ห้าม ยิ่งกว่านั้นยังตรัส “โทษของความจน” อีกด้วย อยู่ทางโลก ถ้าจน เป็นโทษนะ ตั้งแต่...ต้องไปกู้หนี้ยืมสิน แม้การกู้หนี้ยืมสินก็เป็นทุกข์ กู้หนี้ยืมสินมาแล้วก็ต้องจ่ายดอกเบี้ย จ่ายดอกเบี้ยก็เป็นทุกข์ ถ้าไม่มีดอกเบี้ยจะจ่าย ก็โดนทวง การโดนตามทวงก็เป็นทุกข์ นี่เป็นตัวอย่าง เพราะฉะนั้นทราบความจริงไว้ด้วย พระสัมมาสัมพุทธเจ้าไม่ได้ทรงห้ามนักธุรกิจ หรือใครทั้งหลายในโลกรวยเลย

    ยิ่งกว่านั้น ยังทรงสอน “หัวใจเศรษฐี” ไว้ด้วยว่า ถ้าใครอยากจะเป็นเศรษฐีล่ะก็ พระองค์มีวิธีให้เป็นเศรษฐีทั้งชาตินี้ เศรษฐีทั้งชาติหน้า ทรงสอนให้รวยข้ามชาติทีเดียว...จนข้ามชาติ...พระองค์ไม่เคยทรงสอน แต่ว่าที่พระองค์ทรงตำหนินั้น ทรงตำหนิประเภทรวยในทางที่ไม่ชอบ พูดง่ายๆ คือ รวยด้วยมิจฉาอาชีวะ อย่างนี้พระองค์ทรงตำหนิ เพราะว่าจะเป็นหนทางให้ตกนรก จะเป็นหนทางให้ไม่สมหวัง คือ หวังจะรวยแต่ว่าจะจนเสียก่อน นั่นประการหนึ่ง หรือรวยสมใจนึก แต่ว่าก็ต้องร้อนใจในบั้นปลายชีวิต หรือไม่ร้อนใจในบั้นปลายชีวิต ก็ต้องไปตกนรกเสียด้วยซ้ำ นั่นอีกประการหนึ่ง

    ที่เรียกว่า “มิจฉาอาชีวะ” เป็นอย่างไร...ยกตัวอย่าง อาทิ ค้าอาวุธ ค้ามนุษย์ (เช่น ค้าข้าทาส เป็นต้น) ค้ายาพิษ ค้ายาเสพติด ค้าสัตว์เอาไปฆ่า อย่างนี้เป็นมิจฉาอาชีวะ รวมทั้งอาชีพต้องห้ามต่างๆในทางกฎหมายบ้านเมืองด้วย พระสัมมาสัมพุทธเจ้า ทรงเห็นโทษของการรวยแบบชนิดผิดศีลผิดธรรมนั่นเองว่า “มันจะเดือดร้อนทั้งชาตินี้ ชาติหน้า” จึงทรงห้าม

    ทีนี้ เมื่อเรารู้หลักอย่างนี้แล้ว ชวนเขาเข้าวัด นั่นแหละดี ไม่ว่าเขารวยแล้วหรือยังไม่รวย ถ้ารวยแล้วในทางที่ผิด ก็จะได้ให้พระเตือนว่า “หยุดซะ” แล้วรีบทำความดีเป็นการแก้ไข เพระได้ทำผิดพลาดไปแล้ว ไปรวยในทางที่ไม่เหมาะไม่ควร

    หากเขายังไม่รวย แล้วไปทำผิด ๆ พลาด ๆ ก็ตั้งต้นใหม่ เตรียมไปรวยเยอะๆ ข้างหน้า ตามวิธีที่พระสัมมาสัมพุทธเจ้าทรงสอนเอาไว้ พระองค์ได้ทรงสอนหัวใจหรือหลักธรรมสำคัญทีเดียวที่จะให้เป็นนักธุรกิจ ไม่ใช่แค่เงินล้าน แต่เป็นนักธุรกิจพันล้าน หมื่นล้าน พระองค์ทรงสอนให้ทีเดียว มีหลักธรรมอยู่ 4 ข้อง่าย ๆ ดังนี้

    1.หาเป็น คือ ฉลาดหาทรัพย์ในทางที่ถูกที่ควร และฉลาดในการที่จะปิดนรกอีกด้วย

    2.รักษาเป็น หาทรัพย์มาได้เท่าไหร่ หากรักษาไม่เป็นล่ะก็ มันก็เหมือนเอาชะลอมไปตักน้ำ หรือเอาเข่งไปตักน้ำ ตักมาเท่าไหร่ก็ไม่เหลือ

    3.ข้อนี้น่าสนใจมาก ๆ คือ ทรงสอนให้สร้างเครือข่ายให้เป็น เครือข่ายนักธุรกิจ เครือข่ายขายตรง หรือเครือข่ายทางการค้า ที่มีกันในปัจจุบันนี้ พุทธองค์ทรงสอนเมื่อ 2,500ปีมาแล้ว ทรงใช้คำว่า “กัลยาณมิตตตา” คือ สร้างเครือข่ายคนดีให้เป็น ไม่ใช่สร้างเครือข่ายโจร ไม่ใช่สร้างเครือข่ายมาเฟีย ถ้าสร้างเครือข่ายคนดี ให้มาร่วมประกอบธุรกิจ ทั้งรวยด้วย ทั้งเปิดสวรรค์ เปิดนิพพานให้ตัวเองด้วย ถ้าสร้างเครือข่ายมาเฟีย ตกนรกแน่ แถมจะติดตารางตอนยังเป็น ๆเ สียอีกด้วย

    4.ใช้เป็น คือ ใช้เป็น...ในการดำเนินชีวิตแล้วยังไม่พอ ต้องใช้เป็น...ในการหาบุญข้ามภพข้ามชาติไปด้วย

    คุณโยมรีบไปบอกเพื่อนของคุณโยมที่เป็นนักธุรกิจว่า “เข้าวัดซะเร็ว ๆ นะ” แล้วจะได้ไปเติมเต็ม คือ รวยทั้งทรัพย์ รวยทั้งศีล รวยทั้งธรรม ถ้ารวยทั้งทรัพย์ ทั้งศีล ทั้งธรรม อย่างนี้มันถึงจะคุ้ม เพราะมันเป็นการรวยข้ามภพ รวยข้ามชาติ ไม่ต้องตกนรก ไม่ต้องไปหวาดผวากฎหมาย เป็นการรวยอย่างถูกต้อง รวยด้วยศีล รวยด้วยธรรม รวยด้วยธุรกิจของเราเอง อย่างนี้ มันถึงจะสมกับที่เกิดมาในเมืองพุทธ...ช่วยตามพวกเขามาเร็วๆนะ

    ข้อมูลจาก DMC ธรรมะ กฎแห่งกรรม นรก สวรรค์ สมาธิ พุทธประวัติ Dhamma Media Channel
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 9 เมษายน 2010

แชร์หน้านี้

Loading...