เว็บพลังจิต ''ยิ่งคิดอกุศลมากเท่าไหร่ กรรมอกุศลจะมากขึ้นเป็นเงาตามตัว''

ในห้อง 'กฎแห่งกรรม - ภพภูมิ' ตั้งกระทู้โดย ผ่อนคลาย, 13 พฤษภาคม 2007.

  1. ผ่อนคลาย

    ผ่อนคลาย Super Moderator ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    21 พฤศจิกายน 2004
    โพสต์:
    5,775
    ค่าพลัง:
    +12,934
    [​IMG]


    ความทุกข์ต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการคิดอกุศล
    </O:p
    คนที่คิดอกุศล คือ คนที่ไม่มีความฉลาดทางอารมณ์. ขณะที่คิดอกุศล อารมณ์ในขณะนั้นก็จะเป็นอกุศล และความทุกข์ในรูปแบบต่าง ๆ ก็จะเกิดขึ้นทันที เพราะการทำงานตามธรรมชาติของสมองมนุษย์เป็นเช่นนั้นเอง.

    <O:p</O:pความทุกข์เป็นเรื่องปรกติที่คนทั่วไปพึงมีด้วยกันทั้งนั้น แต่คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์จะไม่มีความทุกข์ที่เกิดจากการคิดอกุศลหรือจากการคิดเบียดเบียนตนเองและหรือผู้อื่น.

    <O:p</O:pถ้าคิดอกุศลอย่างรุนแรง ความบีบคั้นทางจิตใจหรือความทุกข์ทางจิตใจก็จะรุนแรงไปตามสัดส่วนด้วย.

    <O:p</O:pเมื่อมีความทุกข์ทางจิตใจอย่างรุนแรง อวัยวะต่าง ๆ ก็จะทำงานผิดปรกติไปด้วย อาจเป็นผลให้เกิดการเจ็บป่วยทางร่างกายซ้ำซ้อนขึ้นมาอีก เพราะธรรมชาติของร่างกาย สมอง และจิตใจนั้น เป็นเรื่องที่แยกออกจากกันไม่ได้.
    <O:p</O:p
    ท่านคงจะระลึกได้ว่า ไม่ว่ากำลังทำกิจอะไร ก็มักจะมีความคิดแวบขึ้นมาเป็นครั้งคราว.
    <O:p</O:pความคิดที่แทรกหรือแวบขึ้นมาเป็นครั้งคราวโดยไม่ได้ตั้งใจคิดนั้น ถือว่าเป็นเรื่องปรกติ เพราะธรรมชาติของสมองเป็นเช่นนั้นเอง และเป็นเรื่องที่จำเป็นต้องมีความคิดเช่นนี้เกิดขึ้นอยู่เสมอ.

    <O:p</O:pขณะมีปัญหาที่รุนแรงเกิดขึ้น ความคิดที่แวบขึ้นมาจะเกิดขึ้นบ่อยครั้ง เพื่อเป็นตัวตั้งต้นของความคิด.

    <O:p</O:pความคิดที่แวบขึ้นมาเป็นครั้งคราวนั้น อาจเป็นเรื่องกุศล หรืออกุศลก็ได้ และในวินาทีที่แวบเรื่องอกุศลขึ้นมา ความทุกข์ก็จะเกิดขึ้นมาแวบหนึ่ง เพราะธรรมชาติของสมองเป็นเช่นนั้นเอง ให้ถือว่าเป็นเรื่องปรกติที่คนทั่วไปพึงมีพึงเป็นด้วยกันทั้งนั้น.

    <O:p</O:pความทุกข์ที่เกิดจากการคิดปรุงแต่งอย่างเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา จะด้วยความตั้งใจคิด หรือคิดแบบฟุ้งซ่านก็ตาม ถ้าเป็นการคิดอกุศล ก็ถือว่าเป็นความทุกข์จากการไม่มีความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งเป็นความทุกข์ที่ต้องรีบกำจัดให้หมดไปในวินาทีนั้น.

    ภาวะของความทุกข์แบบต่าง ๆ ที่เกิดจากการคิดอกุศล คือ ถึงขั้นเบียดเบียนตนเองและหรือผู้อื่นนั้น โดยย่ออาจแบ่งเป็น ๓ แบบ. เพื่อให้เข้าใจและจดจำได้โดยง่าย จึงขอให้ท่านผู้อ่านได้โปรดตรวจสอบกับข้อเท็จจริงจากประสบการณ์ตรงของท่านเองในทุกแบบด้วย ดังนี้ :-

    <O:p</O:pแบบที่ ๑. ความทุกข์ภายในจิตใจ.

    ความทุกข์ภายในจิตใจเป็นภาวะของจิตใจในลักษณะต่าง ๆ เช่น กังวลเครียด หวั่นไหว กลัว พรั่นพรึง กลุ้มใจ ขุ่นมัว เศร้าหมอง ซึมเศร้า สับสน ห่อเหี่ยว ท้อแท้ เบื่อหน่าย น้อยใจ เสียใจ อิจฉา ริษยา ขัดเคือง โกรธ แค้นเคือง พยาบาท รวมทั้งความอยากได้ อยากมี อยากเป็น ไม่อยากได้ ไม่อยากมี ไม่อยากเป็น ไม่ชอบใจ ไม่ถูกใจ ไม่พอใจในเรื่องต่าง ๆ ที่มากกว่าปรกติ เป็นต้น.

    <O:p</O:pความทุกข์จากการคิดอกุศลนั้น เริ่มต้นจากการคิดอกุศลหรือคิดเรื่องที่เป็นทุกข์ซ้ำแล้วซ้ำอีก จึงเป็นผลให้เกิดการต่อยอดของความคิดจนกลายเป็นความกังวล และถ้ายังควบคุมความคิดไม่ได้หรือปล่อยให้คิดกังวลต่อไปอีก ความกังวลก็จะต่อยอดมากขึ้นจนกลายเป็นความกังวลมาก.

    <O:p</O:pยิ่งมีความกังวลมาก อารมณ์กังวลก็จะมากขึ้น. ยิ่งเครียดมาก อารมณ์เครียดก็จะมากขึ้น. ยิ่งหวั่นไหวมาก อารมณ์หวั่นไหวก็จะมากขึ้น. ยิ่งกลัวมาก อารมณ์กลัวก็จะมากขึ้น และความบีบคั้นทางจิตใจหรือความทุกข์ก็จะมากขึ้นด้วย.

    ดังนั้น ความทุกข์แบบต่าง ๆ เกิดขึ้นจากการคิดอกุศล หรือมีอารมณ์อกุศล หรือมีจิตอกุศล.

    <O:p</O:pการไม่มีความฉลาดทางอารมณ์จึงทำให้เกิดความทุกข์ในรูปแบบต่าง ๆ ดังกล่าวแล้ว เพราะไม่มีความรู้และความสามารถในการบริหารความคิดนั่นเอง.
    <O:p</O:p
    แบบที่ ๒. ความทุกข์ทางจิตใจที่แสดงอาการออกมาภายนอก. การคิดอกุศลอย่างรุนแรง จะบีบคั้นจิตใจหรือทำให้มีความทุกข์ทางจิตใจเป็นอย่างมาก จึงต้องระบายความทุกข์ออกมาภายนอก โดยการแสดงออกมาทางคำพูดและการกระทำต่าง ๆ

    เช่น มีอาการกระสับกระส่าย ร้องไห้ คร่ำครวญ รำพึงรำพัน สับสน ดุดัน หน้านิ่วคิ้วขมวด กลัว เศร้าสร้อย ก้าวร้าว ทำลายสิ่งของ ทำร้ายตนเอง ฉ้อโกง โกงกิน กินตามน้ำ ทำลายชื่อเสียงของผู้อื่น แย่งชิงตำแหน่ง แย่งชิงทรัพย์สิน ทำร้ายร่างกายและจิตใจของผู้อื่น เยินยอ ประจบประแจง สอพลอ ให้สินบน ช่างพูด โกหก พูดหยาบ นินทา ว่าร้าย พูดเท็จ ส่อเสียด เหน็บแนม เพ้อเจ้อ เหลวไหล พูดหลอกลวง พูดเพื่อทำลายความเชื่อถือของผู้อื่น ทำความอกุศลต่าง ๆ นานา เป็นต้น.
    <O:p</O:p
    แบบที่ ๓. ความทุกข์ทางร่างกายและโรคต่าง ๆ ที่สืบเนื่องมาจากการมีความทุกข์ทางจิตใจ.

    ความทุกข์ทางจิตใจที่รุนแรงหรือเรื้อรัง จะทำให้เกิดความทุกข์ทางร่างกายและโรคต่าง ๆ ได้โดยตรง เช่น เกิดอาการมึนงง ปวดศรีษะ อ่อนเพลีย คลื่นไส้ อาเจียน เบื่ออาหาร อาหารไม่ย่อย ปวดท้อง กระเพาะอาหารอักเสบ เป็นแผลในกระเพาะอาหาร ท้องอืด ท้องผูก ลำไส้ใหญ่อักเสบ ถ่ายบ่อย เป็นเบาหวานรุนแรงขึ้น ร่างกายผ่ายผอม นอนไม่หลับ หมดแรง ปวดเมื่อย กล้ามเนื้ออักเสบ ข้ออักเสบ ภูมิต้านทานลดลง ติดเชื้อง่าย ภูมิแพ้ ร่างกายอ่อนแอ หายป่วยช้า ผมร่วง ใจสั่น หายใจไม่เต็มอิ่ม วิงเวียน หน้ามืด เป็นลม เจ็บที่หัวใจ หลอดเลือดไปเลี้ยงหัวใจตีบตัน ความดันโลหิตสูง เส้นเลือดในสมองตีบตันหรือแตก อัมพาต โรคหัวใจ มะเร็ง ปวดประจำเดือน ประจำเดือนผิดปรกติ เสื่อมสมรรถภาพทางเพศ เป็นต้น.
    <O:p</O:p
    เนื่องจากร่างกายและจิตใจถูกควบคุมด้วยการทำงานของสมอง.

    ดังนั้น ขณะที่สมองคิดอกุศล หรือคิดในเรื่องที่เป็นทุกข์ จิตใจก็จะเป็นทุกข์ และร่างกายก็จะทำงานผิดปรกติไปด้วย จึงเป็นผลให้เกิดความทุกข์ทางร่างกายหรือเกิดการเจ็บป่วยทางร่างกายได้ เพราะธรรมชาติของชีวิตมนุษย์เป็นเช่นนั้นเอง.
    <O:p</O:p
    คนที่มีความทุกข์ทางจิตใจจากการคิดอกุศลในขณะที่มีโรคทางร่างกายและจิตใจอยู่แล้ว จะทำให้หายได้ยาก และอาจซ้ำเติมโรคที่เป็นอยู่แล้วให้มีอาการรุนแรงมากขึ้น รวมทั้งทำให้เกิดโรคใหม่มาแทรกซ้อนเพิ่มขึ้นได้อีกด้วย.
    <O:p</O:p
    ความทุกข์ทางร่างกายที่แสดงออกมานั้น เกิดในขณะที่กำลังมีความทุกข์ทางจิตใจ เมื่อความทุกข์ทางจิตใจหมดไป ความทุกข์ทางร่างกายก็จะหมดไปด้วย หรือค่อย ๆ หายไป.
    <O:p</O:p
    สำหรับการเจ็บป่วยทางร่างกายที่มีการเปลี่ยนแปลงไปมากแล้ว เช่น เป็นแผลในกระเพาะ ข้ออักเสบ ภูมิแพ้ ก็จำเป็นจะต้องใช้เวลาในการรักษาทั้งทางร่างกายและทางจิตใจ(ทางคุณธรรม)ควบคู่กันไป.
    <O:p</O:p
    ความหมายของความทุกข์ทั่วไป คือ ความไม่สบายใจและความไม่สบายกาย.
    <O:p</O:p
    ความทุกข์จากการไม่มีความฉลาดทางอารมณ์มี ๓ แบบ ซึ่งเกิดขึ้นจากการ>คิดอกุศล.

    ยิ่งคิดอกุศลมากเท่าไร การทำอกุศลก็จะมากขึ้นเป็นเงาตามตัว และความทุกข์ในแบบต่าง ๆ ก็จะมากขึ้นด้วย

    (f) คนที่มีความฉลาดทางอารมณ์ย่อมพ้นจากความทุกข์ที่เกิดขึ้นจากการคิดอกุศลตามกำลังสติปัญญาทางคุณธรรมของตนเอง.:cool:


    http://www.se-ed.net/satipanya
     
    แก้ไขครั้งล่าสุดโดยผู้ดูแล: 30 มีนาคม 2010
  2. คีตเสวี

    คีตเสวี เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    20 มกราคม 2007
    โพสต์:
    980
    กระทู้เรื่องเด่น:
    1
    ค่าพลัง:
    +750
    เมื่อทุกข์เกิดให้ตามดูเวทนาให้ชัดจนเห็นชัดเลยไปจนถึงตัญหาอยากหรือไม่อยากที่จะทุกข์ต่อเนื่องไปเป็นความเห็นผิดเข้าไปยึดถือ จึงมีภาวะ สภาวะ ความตกลงปลงใจ นั่นแหละภพ ชาติจึงมี พิจารณาให้ชัดด้วยปัญญาอันยิ่งเองจึงจะเห็น
     
  3. เอกณัฐยศ

    เอกณัฐยศ เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    12 ธันวาคม 2006
    โพสต์:
    3,628
    ค่าพลัง:
    +9,666
    ขอบคุณที่ได้นำความรู้มาแบ่งปัน และขออนุโมทนาุญด้วย*****

    ที่กล่าวมาทั้งหมด คล้ายๆ กฏของธรรมชาต

    ที่ว่า สิ่งที่เหมือนกัน ย่อมดึงดูดมาอยู่ด้วยกัน

    เมื่อจิตคิดแต่เรื่องทุกข
    เท่ากับเราไปเปิด ประตูส่งสัญญาณให้กระแสคลื่้น หรืออะไรก็ตาม ที่เป็นคลื่นจำพวกเดียวกันดึงดูดมาหากัน

    เพราะ สิ่งที่เหมือนกัน ย่อมดึงดูดกัน
    หรือจะเรียกว่า พวกใครพวกมัน ก็ต้องอยู่ด้วยกัน
     
  4. granun

    granun เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มีนาคม 2007
    โพสต์:
    23
    ค่าพลัง:
    +148
    เห็นด้วยครับ
    เป็นกฏตามธรรมชาติ สิ่งที่รองรับความคิดก็คือจิต เพราะฉะนั้นเมื่อจิตรับสิ่งปฏิกูลเข้าไปยังไงก็ต้องมีกลิ่นเช่นนั้น
    ยิ่งรับมากก็ไม่ต่างกับถังขยะ

    สิ่งใดที่สัมผัสสิ่งชั่วเป็นนิจ ก็เหมือนกับผ้าต้องสิ่งสกปรกเป็นประจำ
    ต่อให้ซักอย่างไรก็ยังมีรอยเปรอะเปื้อนติดอยู่
     
  5. putipongb

    putipongb เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    25 มกราคม 2007
    โพสต์:
    587
    ค่าพลัง:
    +3,843
    อนุโมทนาด้วยครับ พระอาจารย์เปลี่ยน ปัญญาปทีโป ท่านสอนว่ายิ่งกระทำต่อผู้บริสุทธิ์ผลอกุศลกรรมยิ่งตอบสนองแรงและเร็วมาก
     
  6. kylethai

    kylethai เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    31 พฤษภาคม 2007
    โพสต์:
    88
    ค่าพลัง:
    +168
    เหมือนที่พระท่านบอกตลอดว่า นึกถึงอกุศล อกุศลก็ส่งผล นึกถึงกุศล กุศลก็ส่งผล อนุโมทนาสาธุ
     
  7. jee4

    jee4 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    9 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    139
    ค่าพลัง:
    +848
    อนุโมทนา สาธุ....ครับ
    คิดดี ทำดี พูดดี จิตเป็นกุศล
    ส่งผลให้สุขภาพดี ปราศจากโรคภัย:VO
     
  8. HONGTAY

    HONGTAY ผู้ดูแลเว็บบอร์ด ทีมงาน ผู้ดูแลเว็บบอร์ด

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 กุมภาพันธ์ 2007
    โพสต์:
    36,548
    กระทู้เรื่องเด่น:
    151
    ค่าพลัง:
    +147,893
    อนุโมทนาบุญด้วยอย่างยิ่งครับ

    ขอบพระคุณพี่ผ่อนมากเลยนะครับ

    เตือนสติได้ดีจริง ๆ
     
  9. budsayamasp

    budsayamasp เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 พฤศจิกายน 2007
    โพสต์:
    127
    ค่าพลัง:
    +278
    อนุโมทนาสาธูค่ะ เป็นประโยชน์อย่างยิ่ง:cool:

    ใจคนคิดไปได้ต่างๆ นานา เมื่อไรหยุดคิด เมื่อนั้นคงสงบ
     
  10. ติงติง

    ติงติง เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    1 มีนาคม 2009
    โพสต์:
    38,272
    ค่าพลัง:
    +82,731
    ขอบพระคุณมากค่ะ อ่านแล้วได้ประโยชน์จริงๆ
     
  11. LungKO

    LungKO เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    28 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    590
    ค่าพลัง:
    +925
    ใช่ครับใช่
     
  12. lagunaram

    lagunaram เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    2 ธันวาคม 2008
    โพสต์:
    368
    ค่าพลัง:
    +697
    แล้วถ้าบุคคลใดไม่ระวัง รักษากิริยา วาจา
    อันชวนให้เป็นเหตุให้คนอื่นจิตใจขุ่นมัวเศร้าหมองเป็นทุกข์เป็นประจำ
    บุคคลนั้นจะได้รับผลอะไรหรือไม่คะ

    ***แก้คำถามค่ะ
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 31 มีนาคม 2010
  13. su37berkut

    su37berkut เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    27 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    422
    ค่าพลัง:
    +1,121
    ขอขอบพระคุณครับ...
    ความคิดอกุศลมันแว็บ ขึ้นมาตลอด
    ทั้งที่ไม่ต้องการคิดเลยครับ... เฮ้อ...
     
  14. tobetruly

    tobetruly เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    26 มกราคม 2009
    โพสต์:
    210
    ค่าพลัง:
    +427
    ได้อ่านบทความนี้ ในตอนที่จิตใจคิดอกุศลอยู่พอดี

    ขอบคุณครับ ช่วยเตือนสติและเตือนให้คอยการพิจารณาใจตัวเอง ทันพอดี
     
  15. wansiefah

    wansiefah Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    13 กุมภาพันธ์ 2010
    โพสต์:
    17
    ค่าพลัง:
    +40
    :'(โปรดอย่าหาว่ามีจิตที่เป็นอกุศลเลยนะคะ อยากให้บรรดาเสื้อสีต่างๆได้เข้ามาอ่านกระทู้นี้จัง....ขออนุโมทนากับสารธรรมนี้:cool:
     
  16. ถิ่นธรรม

    ถิ่นธรรม เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    15 มิถุนายน 2006
    โพสต์:
    1,824
    ค่าพลัง:
    +5,398
    ดวงจิตของเราไม่เป้นกุศล ก็เป็นอกุศล หรือเป็นอัพยากฤตคือไม่บุญไม่บาป ถ้าไม่เอาใจจดจ่อกับบุญ บาปก็จะแทรกเข้าแทนที่ทันที
     
  17. palpats

    palpats Active Member

    วันที่สมัครสมาชิก:
    14 มกราคม 2010
    โพสต์:
    47
    ค่าพลัง:
    +97
    ทำจิตใจให้สบาย ร่างกายจะเป็นปกติเองนะครับ
     
  18. arrin123

    arrin123 เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    24 มีนาคม 2010
    โพสต์:
    325
    ค่าพลัง:
    +1,759
    อนุโมทนาค่ะ

    แต่ถ้าจิตใจของเราไม่สามมารถควบคุมได้ก็พยายามไม่แสดงไงคะ

    อย่างน้อยทุกแค่เราดีกว่าทำให้ผู้อืนทุกข์ตามค่ะ

    _________________________

    สุขใดเหมือนแม้นการไม่เกิดไม่มี
     
    แก้ไขครั้งล่าสุด: 1 เมษายน 2010
  19. ahantharik

    ahantharik เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    23 ธันวาคม 2005
    โพสต์:
    1,594
    ค่าพลัง:
    +6,347
    ความคิดที่แวบขึ้นมาเป็นครั้งคราวนั้น อาจเป็นเรื่องกุศล หรืออกุศลก็ได้ และในวินาทีที่แวบเรื่องอกุศลขึ้นมา ความทุกข์ก็จะเกิดขึ้นมาแวบหนึ่ง เพราะธรรมชาติของสมองเป็นเช่นนั้นเอง ให้ถือว่าเป็นเรื่องปรกติที่คนทั่วไปพึงมีพึงเป็นด้วยกันทั้งนั้น.

    ความทุกข์ที่เกิดจากการคิดปรุงแต่งอย่างเป็นเรื่องเป็นราวขึ้นมา จะด้วยความตั้งใจคิด หรือคิดแบบฟุ้งซ่านก็ตาม ถ้าเป็นการคิดอกุศล ก็ถือว่าเป็นความทุกข์จากการไม่มีความฉลาดทางอารมณ์ ซึ่งเป็นความทุกข์ที่ต้องรีบกำจัดให้หมดไปในวินาทีนั้น.<?xml:namespace prefix = o ns = "urn:schemas-microsoft-com:eek:ffice:eek:ffice" /><o:p></o:p>
     
  20. mib8gdviNz

    mib8gdviNz เป็นที่รู้จักกันดี

    วันที่สมัครสมาชิก:
    8 ธันวาคม 2009
    โพสต์:
    1,009
    ค่าพลัง:
    +1,524
    เตือนสติให้ผมได้ดีมากครับ ^^
     

แชร์หน้านี้

Loading...